หน้าหลัก / LGBTQ+ / คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง / บทที่ 7 ถ้าไม่ได้คิดถึง

แชร์

บทที่ 7 ถ้าไม่ได้คิดถึง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-25 20:18:54

มื้อค่ำวันนี้วารีอาสาเป็นเจ้ามือ ด้วยเหตุผลที่ว่าอีกฝ่ายอยู่ทำงานให้เธอจนดึก ซึ่งเป็นเหตุผลที่มุกดาค่อนข้างแปลกใจ เพราะเธอหลับไปต่างหาก ถึงได้กลับบ้านซะค่ำขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรกลับไป คิดว่าดีซะอีกที่มื้อนี้อิ่มจังตังอยู่ครบ

         บ้านของมุกดาอยู่ห่างจากฟาร์มประมาณสามกิโลเมตร อันที่จริงการที่เธอจะกลับบ้านดึกขนาดไหนก็ดูจะไม่เป็นปัญหา แม้ระหว่างทางจะค่อนข้างเปลี่ยวเพราะไม่มีบ้านคน แต่ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมาก ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง

         แต่ก็นั่นแหละ วารีก็ยังอาสามาส่งถึงบ้านจนได้

         บ้านของมุกดาเป็นบ้านไม้สองชั้นอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้หลากชนิดไม่ว่าจะเป็นเงาะ มังคุด ทุเรียน ซึ่งเป็นผลผลิตจากพ่อของเธอที่ปลูกไว้

         และถึงแม้พ่อของมุกดาจะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ต้นไม้พวกนี้ก็ยังผลิดอก ออกผลอยู่ตลอด มีคนงานช่วยดูแลหนึ่งคนชื่อลุงชื่น ทำหน้าที่ใส่ปุ๋ยรดน้ำและเก็บเกี่ยวผลผลิต ขายบ้างแจกบ้างกินเองบ้าง พอเป็นรายได้ส่วนหนึ่งให้ครอบครัว

         ทันทีที่แสงไฟสว่างวาบจากหน้ารถของวารีส่องกระทบไปยังบ้านไม้ที่อยู่ในสวน คนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านก็รีบวิ่งออกมาหน้าบ้านทันที

         ลูกจันทร์รีบวิ่งไปเปิดประตูและจำได้แม่นว่ารถกระบะสีดำคันนั้นเป็นของใคร

         วารีขับรถเข้ามาจอดในบ้านและเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับมุกดา ทำเอาลูกจันทร์แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร รีบเดินไปหาคนที่ตัวเองรักและเคารพเหมือนพี่สาวแท้ ๆ

         “พี่มุก ทำไมวันนี้กลับซะค่ำเลยเนี่ย หนูโทรหาพี่ตั้งหลายสายเลย” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมกับใบหน้าแต้มรอยยิ้มคือเอกลักษณ์ประจำตัวของลูกจันทร์ที่ใครเห็นก็พากันเอ็นดู

         มุกดายื่นมือไปลูบศีรษะผู้หญิงตรงหน้าซึ่งเธอเองก็รักอีกฝ่ายเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ส่งรอยยิ้มอบอุ่นกลับไป

         “วันนี้พี่วาใช้งานพี่หนักมาก เหนื่อยมากเลยจันทร์ ก็เลยกลับค่ำเลยเนี่ย”

         มุกดาพูดพลางหันหน้าไปทางวารี และคำตอบของเธอก็ทำให้ลูกจันทร์รีบก้าวยาว ๆ มาหยุดตรงหน้าวารีแล้วคลี่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย

         “พี่วา หนูว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ”

         วารีมีท่าทีเลิ่กลั่ก กลอกตาไปมา มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินเลี่ยงไปทางอื่น

         “อยากคุยก็ตามมา ส่วนคนที่บ่นเหนื่อยก็ไปอาบน้ำนอนเถอะ พี่ไม่รบกวนเวลาอันมีค่าแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าพี่ใช้แรงงานเกินเวลางานอีก น่าจะให้รางวัลพนักงานที่ทั้งบ่นเก่งแล้วก็ฟ้องเก่งที่สุดในฟาร์มเลย”

         มุกดาหันมามองค้อนทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอเดินมาใกล้วารีก่อนจะตอบกลับแบบชัดถ้อยชัดคำ

         “รู้ตัวก็ดีค่ะ พี่น่ะใช้แรงงานมุกเกินไปมาก แต่ก็ขอบคุณที่รู้ตัวแล้วไถ่โทษด้วยมื้ออาหารร้านลุงเจตนะคะ ขอบคุณที่มาส่งด้วย บายค่ะ”

         มุกดายกมือโบกเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินเข้าไปในบ้านทันที ส่วนลูกจันทร์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางบทสนทนาของทั้งสองคนก็ยิ่งแสดงออกถึงความแปลกใจในหลาย ๆ อย่าง

         หลังจากที่มุกดาเดินคล้อยหลังเข้าไปในบ้านแล้ว วารีก็รีบพาอีกฝ่ายเดินไปนั่งคุยกันตรงสวนผลไม้ข้างบ้านที่มีเพียงแสงไฟสีส้มดวงเล็กส่องสว่าง

         “พี่รู้นะว่าจันทร์จะถามอะไร เราน่ะเก็บอาการไม่มิดเลยนะ”

         วารีเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นก่อน ทั้งคู่นั่งอยู่ข้างกันบนเก้าอี้แคมป์ปิ้งคนละตัวที่วางอยู่ด้านข้างบ้าน

         “แน่นอนเลยพี่วา หนูมีเรื่องถามเยอะแน่ ๆ แต่เอาเรื่องนี้ก่อน เรื่องที่พี่มาส่งพี่มุกเนี่ย ก็ไหนบอกไม่อยากเจอ ไม่อยากอยู่ใกล้แล้ว แค่รับรู้ความเป็นไปก็พอ แล้วทำไมถึงมาส่ง ทำไมถึงพาไปกินข้าวร้านลุงเจต หื้ม?”

         หญิงสาววัยสิบเก้าปีส่งคำถามไปรัว ๆ วารีถึงกับยกมือขึ้นนวดขมับเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นจากอะไรก่อนดี

         อันที่จริง ตัวเธอเองก็มีความสงสัยในบางอย่างที่หาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน นับตั้งแต่ที่มุกดากลับมาที่นี่

         “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะจันทร์ ตอนแรกพี่ก็คิดแบบนั้น เราก็รู้ดีหนิว่าระหว่างพี่กับมุกมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วพี่เองก็ไม่คิดว่าจู่ ๆ มุกจะลาออกกลับมาอยู่บ้าน ส่วนเรื่องที่แม่ลีป่วยพี่ก็ไม่รู้ จันทร์นั่นแหละไม่บอกพี่ พี่ไม่รู้อะไรสักอย่าง”

         วารีส่งสายตาดุ ๆ ไปคาดโทษคนข้าง ๆ คนที่เธอรักและเอ็นดูเหมือนน้องสาวเช่นกัน

         หรือถ้าจะพูดให้ถูก วารีก็รักทุกคนในครอบครัวของมุกดานั่นแหละ ไม่เว้นแม้แต่ลุงชื่น คนที่ช่วยทำสวน วารีก็คอยช่วยเหลือในเรื่องของความเป็นอยู่และค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ ด้าน โดยที่มุกดาไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลย

         “โถ่พี่วา หนูก็น้ำท่วมปากเหมือนกันนั่นแหละ แล้วหนูก็อึดอัดมากเลยเนี่ย ต้องมาปิดเรื่องพี่ไม่ให้พี่มุกรู้ แล้วต้องมาปิดเรื่องพี่มุกไม่ให้พี่รู้อีก ทั้ง ๆ ที่พวกพี่สองคนยังคิดถึงกัน ทำไมไม่กลับมาคุยกันดี ๆ ปรับความเข้าใจกัน”

         วารีนิ่งงันไปทันทีเมื่อรู้แบบนั้น เธอหันไปมองหน้าลูกจันทร์ จับต้นแขนอีกฝ่ายแล้วเขย่าอย่างแรง

         “เมื่อกี้ว่าไงนะ จันทร์บอกว่ามุกยังคิดถึงพี่เหรอ หื้ม?”

         “เอ่อ ก็..ไม่รู้อะ ไม่แน่ใจหรอก”

         “อ้าว แล้วที่พูดเมื่อกี้หมายความว่าไง” วารีหุบยิ้ม ถอนหายใจทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น

        

“เอาจริงนะ จันทร์ก็ไม่รู้เรื่องของพี่กับพี่มุกดีนักหรอก แต่ที่ผ่านมาพี่มุกก็ถามเรื่องพี่อยู่บ่อย ๆ เหมือนกันนะ น่าจะตั้งแต่ช่วงเรียนจบแล้วก็เริ่มทำงานนั่นแหละ ถามถึงพี่ตลอดว่าพี่เป็นยังไงบ้าง ธุรกิจไปได้สวยรึเปล่า มาหาแม่กับจันทร์บ่อยมั้ย แล้วก็เคยบอกว่า อยากกลับมาช่วยงานพี่ที่ฟาร์มด้วย ส่วนพี่เองก็เปิดฟาร์มนี้เพราะพี่มุกไม่ใช่รึไง”

         วารีเงียบไปชั่วขณะ พร้อมกับที่ภาพเหตุการณ์มากมายไหลเข้ามาในหัว และถึงแม้เรื่องราวระหว่างเธอและมุกดานั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเจ้าตัวก็จริง

         แต่หลังจากที่แยกย้ายกันไป ต่างฝ่ายต่างไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายรู้สึกนึกคิดยังไง ทั้งที่ภาวนาอยู่ตลอดว่าไม่อยากเจอกันแล้ว ไม่อยากเห็นหน้ากันอีก แต่ทำไมในจิตใต้สำนึกมันยังเรียกร้องและโหยหากันตลอดเวลา

         อยากที่จะรับรู้ความเป็นไป อยากที่จะรับรู้การเติบโต แต่พอวันนึงได้วนกลับมาเจอกัน บาดแผลของการลาจากครั้งวัยเยาว์ก็ยังส่งผลให้ความรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ เกิดขึ้นมาอีกครั้ง

         แต่เรื่องน่าแปลกก็คือ หลังจากแยกย้ายกันครั้งนั้น ทั้งวารีและมุกดาก็ไม่ได้มีใคร ไม่คิดเอาใครเข้ามาในชีวิต ทั้งที่มีคนมากมายเข้ามาให้เลือก แต่ทั้งคู่ก็สนใจแค่ชีวิตของการทำงานเท่านั้น

         ถ้าไม่ได้เรียกว่า รอ แล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะอะไรกันนะ

         “ถ้าพี่กับพี่มุกไม่ได้คิดถึงกัน จะอยากรู้เรื่องของกันและกันไปทำไม ใช่มั้ยล่ะ”

         วารีหันไปมองหน้าคนถาม ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

         “ไม่ได้คิดถึงสักนิด แค่อยากรู้เฉย ๆ จบมั้ย”

        

        

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 8 แม่ฝากน้องด้วยนะ

    ก่อนกลับไปฟาร์ม วารีไม่ลืมเข้าบ้านไปทักทายผู้หญิงอีกคนที่รักและเคารพไม่แพ้แม่ตัวเอง เมื่อเดินเข้าไปในบ้านก็เจอกับผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเธอกำลังนั่งดูละครหลังข่าวอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี แม่มาลี หรือแม่ลีที่เธอรู้จัก วันนี้ดูอิดโรยกว่าทุกวัน ทว่าสายตาที่มองวารียังคงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นเสมอ “วา แม่นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก มุกบอกแค่ว่าหนูมาส่งแล้วก็รีบขึ้นไปอาบน้ำ แม่เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ” วารียกมือไหว้คนอาวุโสแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ ความรู้สึกหลังจากได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังเผชิญโรคร้ายทำให้วารียิ่งรู้สึกสงสารคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งที่เธออยู่ใกล้แค่นี้ แต่กลับไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติอะไรเลย “วานั่งคุยกับจันทร์อยู่ตรงข้างบ้านค่ะแม่ ก็เลยไม่ได้เดินเข้าบ้านมากับน้อง แล้วนี่แม่ดูอะไรอยู่คะ กินข้าวรึยัง นมบำรุงกระดูกที่วาซื้อมาให้ครั้งก่อนหมดรึยังเนี่ย แม่อยากได้อะไรอีกมั้ย พรุ่งนี้วาจะซื้อมาให้” วารีเอื้อมมือไปจับมือของแม่ลีแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือลูบเบา ๆ บนหลังมืออีกฝ่าย เธอตั้งใจส่งผ่านกำลังใจดี ๆ ไปพร้อมกับสายตาที่แส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 9 ทำไรก็ทำ

    ในเวลาช่วงเช้าของวารีฟาร์ม ก่อนแปดโมงครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเข้างาน มักจะมีภาพของชาวบ้านในท้องถิ่นซึ่งทำงานที่นี่ ล้อมวงกันนั่งกินกาแฟและพูดคุยข่าวสารบ้านเมืองกันด้วยเสียงเฮฮา วันนี้มุกดามาถึงฟาร์มเร็วกว่าทุกวันจึงได้เห็นภาพดังกล่าว บรรยากาศแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ เสียงหัวเราะ ความเป็นกันเองของคนพื้นถิ่น กลิ่นกาแฟโบราณและขนมที่กินกับกาแฟตอนเช้าคือเอกลักษณ์ของที่นี่ “เอ้า มุก หลบบ้านมาเมื่อใด ลุงไม่เห็นนาน สวยน่าหวางนี้” (อ้าวมุก กลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ ลุงไม่เจอนาน เดี๋ยวนี้สวยนะ) น้ำเสียงที่เอ่ยทักทายเป็นภาษาใต้ทำให้มุกดารีบหันไปมองต้นเสียงก็เจอเข้ากับลุงมุ้ย ที่ตอนนี้น่าจะเป็นตามุ้ยไปแล้ว ยังคงมองเธอด้วยสายตาอบอุ่น “หวัดดีค่ะลุง นุ้ยเพิ่งหลบมาไม่นานค่ะ ลาออกจากงานแล้ว หลบมาแลแม่ แกไม่ค่อยบาย” (สวัสดีค่ะลุง หนูเพิ่งกลับมาไม่นานค่ะ ลาออกจากงานแล้ว กลับมาดูแลแม่ ท่านไม่ค่อยสบาย) มุกดาตอบกลับไปด้วยสำเนียงท้องถิ่นเช่นกัน ทำเอาคนที่เพิ่งเดินเข้ามายังวงสนทนายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะไม่คิดว่ามุกดาจะยังพูดใต้ได้ วารีเดินมาหยุดอยู่ข้างกายมุกดาใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 10 จำอะไรได้อีกบ้าง

    “ซื้อของเสร็จรึยังมุก” วารีเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยสีหน้าบึ้งตึง“อ้าวพี่วา มาเร็วจัง” มุกดายกข้อมือดูนาฬิกาก็เห็นว่าเวลาเพิ่งผ่านไปไม่นาน“อืม พี่ซื้อของเสร็จแล้ว” วารีขยับมายืนข้าง ๆ ในแบบที่ใกล้กว่าเดิม แล้วเอามือแตะ ๆ ข้างเอวของมุกดาอย่างเบามือ เลยทำให้อีกฝ่ายแทบไม่รู้สึกว่ากำลังถูกแสดงความเป็นเจ้าของทว่าพนักงานขายผู้ชายที่เห็นการกระทำของวารีบวกกับสีหน้าบึ้งตึงของเธอก็พอจะเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้นเขารีบปรับสีหน้ามาเป็นปกติ สายตาที่มองมุกดาหวานฉ่ำหายไปในทันที“แล้วนี่มาซื้ออะไร แท็บเล็ตเครื่องใหม่เหรอ เครื่องเก่าไปไหนแล้วล่ะ” วารียังคงมีสีหน้าหงุดหงิดที่แสดงออกชัดเจน“พี่ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี่ย หน้าบึ้งเป็นบ้าเลย”“ช่างเหอะ จะซื้ออะไรก็รีบซื้อ จะได้รีบกลับ งานที่ฟาร์มมีอีกเยอะ”“โอเค ๆ รู้แล้วค่า” มุกดาลากเสียงยาวแล้วหันไปคุยกับพนักงานขาย“งั้นเอาเครื่องนี้ค่ะพี่ เดี๋ยวรูดบัตรได้เลยนะคะ” มุกดาเตรียมจะหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมา แต่วารีเร็วกว่าเพราะเธอเตรียมบัตรเครดิตไว้ในมือตั้งแต่ที่เดินเข้ามาแล้ว“รูดกับบัตรใบนี้ค่ะ” เธอยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานและส่งส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 11 กลิ่นเหล้า

    เมื่อนาฬิกาบอกเวลาตีสอง เสียงเครื่องยนต์จากรถกระบะสีดำที่ขับเข้ามาในฟาร์มปลุกมุกดาที่หลับฟุบกับโต๊ะกินข้าวในห้องครัวให้ตื่นขึ้น วารีขับรถเข้ามาจอดในโรงรถด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่ารถเก๋งของมุกดายังจอดอยู่ที่เดิม แต่เพราะอาการมึนเมาเล็กน้อยเธอเลยไม่ได้สนใจนักอีกใจก็แอบคิดว่าตัวเองตาฝาด ไม่อยากเข้าข้างตัวเองให้มากว่าอีกฝ่ายจะอยู่รอเป่าเค้กเป็นไปไม่ได้หรอก เธอไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น วารีเดินเข้ามาในบ้าน รู้สึกคอแห้งจึงก้าวยาว ๆ ตรงไปยังห้องครัว ไม่ได้นึกแปลกใจที่ไฟในห้องครัวยังเปิดอยู่ และเมื่อเดินเข้าไป เสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ก็ดังขึ้น มุกดาถือเค้กก้อนเล็กไว้ในมือ มูลค่าของเค้กไม่กี่สิบบาท พร้อมกับเทียนเล็ก ๆ หนึ่งเล่ม แต่ภาพตรงหน้ากลับทำให้วารีสร่างเมาในทันที เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเพลงวันเกิดร้องจบไปตั้งแต่ตอนไหน เพราะสายตาเอาแต่มองภาพตรงหน้า แล้วก็รู้สึกเหมือนหูดับไปซะอย่างนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกชื่อจากมุกดาซ้ำ ๆ นั่นแหละถึงได้มีสติหลุดจากภวังค์ “เป่าเทียนได้แล้วค่ะพี่วา อย่าลืมอธิษฐานก่อนนะ” วารีพยักหน้า หลับตาล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 12 แค่กอด

    “ขี้โกง นี่พี่ไม่ได้หลับเหรอ” คนในอ้อมกอดยังคงพยายามดิ้นไปดิ้นมา แต่เรี่ยวแรงของเธอก็ดูจะสู้อ้อมแขนแข็งแกร่งของวารีไม่ได้เลย ต่อให้พยายามจะเอาตัวเองออกมาจากพันธนาการนั้นแต่ก็แสนจะยากเย็น “ถ้าหลับแล้วจะเห็นเหรอว่ามีคนแอบมองพี่น่ะ หื้ม” วารีก้มลงมองใบหน้าคนในอ้อมกอด พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นดังมากขึ้นเรื่อย ๆนี่เป็นอ้อมกอดแรกในรอบกี่สิบปีไม่รู้นับตั้งแต่ทั้งคู่แยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเอง และการวนกลับมาเจอกันครั้งนี้ก็เหมือนพัดพาเอาความรู้สึกเก่า ๆ กลับมาด้วยเช่นกันจากที่เคยคิดว่า ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่ความรู้สึกวูบไหวตรงหน้าอกข้างซ้ายกำลังบอกความจริงบางอย่างกับเธอ“ใครแอบมอง มุกไม่ได้แอบสักหน่อย”“ยังจะปากแข็งอีกนะ พี่ไม่ได้ตาบอดสักหน่อย”“ก็พี่วาเมา แล้วก็เป็นฝ่ายขอร้องให้มุกอยู่ด้วย มุกก็ต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าพี่โอเคขึ้นแล้วจริง ๆ”“เป็นห่วงพูดแบบนี้ค่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อม ไหนลองพูด”“ไม่พูด! เพราะไม่ได้เป็นห่วง ไม่เลยสักนิด”“อ้อเหรอ แต่ก็ยอมอยู่กับพี่หนิ”“งั้นกลับก็ได้!”มุกดาพยายามเอาตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของวารีอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล ดูเหมือนว่าอีกฝ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 13 3วันดี4วันไข้

    “มุก มาแนะนำตัวกับชาวบ้านหน่อยสิ”วารีเอ่ยเรียกคนที่เธอรู้จักดี มุกดาเมื่อได้ยินชื่อตัวเองก็ลุกจากเก้าอี้มายืนต่อหน้าชาวบ้านเคียงข้างวารีมุกดาเริ่มแนะนำตัวท่ามกลางเสียงปรบมือ แม้ว่าเธอจะเป็นคนในท้องถิ่นเช่นกัน แต่เพราะไม่ค่อยได้กลับบ้าน ชาวบ้านบางคนก็ไม่ได้รู้จักเธอว่าเป็นใครมาจากไหน บางคนก็หลงลืมไปแล้วว่าเธอเป็นลูกสาวของแม่ลี เมื่อมีการแนะนำตัว จึงได้ทำให้หลายคนรู้จักเธอเพิ่มขึ้นมุกดาพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง และบอกว่าตัวเองเคยทำงานเป็นนักอนุรักษ์ เธอเข้าใจชาวบ้าน เข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชน หลายคนก็ดีใจที่มุกดากลับมาและจะมาช่วยพัฒนาชุมชนให้ดียิ่งขึ้นไปจนกระทั่งมุกดาพูดจบ กำนันโต้งก็เอ่ยขึ้นทันที“ทั้งเก่งทั้งสวยขนาดนี้ ไม่น่าจะมาทำงานที่ฟาร์มวารีนะครับ ไปทำงานเป็นผู้ช่วยกำนันดีกว่า งานสบาย เงินเดือนดี สนใจมั้ยครับคุณมุกดา”กำนันโต้งแสดงออกชัดเจนถึงจุดประสงค์ของเขา อีกทั้งสายตาที่มองมุกดาตลอดเวลาก็เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ วารีเห็นแบบนั้นจึงขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วเอื้อมมือไปกอบกุมเอวบางคนข้างกายเอาไว้มุกดาหันไปมองค้อนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนข้าง ๆ กอดเอวเธอท่ามกลางสายตาหลายคู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 14 เรื่องราวในอดีต

    “พี่วา! ปล่อยมุกนะ พี่จะทำอะไรเนี่ย” มุกดาหันไปมองค้อนคนที่ลากเธอออกมาด้วยสายตาขุ่นเคือง วารีไม่ตอบแต่ถอดเสื้อยีนสีเข้มของเธอสวมใส่ให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเองก็ใส่เพียงเสื้อยืดสีดำขนาดพอดีตัว “พี่ไม่ได้จะห้าม แต่ถ้าจะเล่น ต้องมีพี่อยู่ด้วย แล้วชุดที่ใส่น่ะ โป๊มาก ก่อนจะใส่ได้ดูกระจกรึเปล่า แล้วทำผมทรงอะไร ถักเปียสองข้างเหมือนเด็กอนุบาล แต่งตัวไม่ได้เรื่องเลย” วารีบ่นยืดยาว สายตามองมุกดาตั้งแต่หัวจรดเท้า และที่บ่นไปยังไม่นับกางเกงยีนขาสั้นสีซีดที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่อีก “พี่เป็นบ้าปะ ถ้าจะบ่นขนาดนี้ก็กลับไปเลย ไม่ต้องมาอยู่ใกล้ มุกไม่ชอบคนขี้บ่น แล้วก็เอาเสื้อพี่กลับไปด้วย” มุกดาเตรียมจะถอดเสื้อยีนของอีกฝ่ายออกจากตัว แต่วารีรีบเอ่ยห้าม “ห้ามถอดเด็ดขาด ใส่ไว้แบบนั้นแหละ” พูดจบวารีก็จับมืออีกฝ่ายพาเดินกลับเข้าไปยังพื้นที่ปาร์ตี้โฟมอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้ข้างกายของมุกดามีวารีคอยเดินประกบไม่ห่าง เลยกลายเป็นว่า นอกจากลูกจันทร์แล้ว แทบไม่มีใครกล้าเข้ามาประแป้งมุกดา โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ทั้งหลายที่เห็นสายตาของวารีก็ถอยห่างกันไปหมด ท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25
  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 15 ขอเวลา

    “น้องไม่ดีเอง คำพูดตอนนั้นคงทำให้พี่เจ็บปวดมากเลยใช่มั้ย” มุกดาหันไปมองคนข้าง ๆตอนนี้ทั้งคู่พากันมานั่งเล่นตรงสะพานไม้ที่ยื่นออกไปในทะเล ซึ่งบริเวณนี้แทบไม่มีใคร โดยเฉพาะวันนี้ที่พนักงานทุกคนต่างไปสนุกสนานกันที่งานสงกรานต์“เจ็บสิ ตอนนั้นโลกของพี่มันพังไปเลย มันไม่ใช่แค่แตกสลาย แต่มันเหมือนคนที่ไม่เอาอะไรแล้วชีวิตนี้”“ขนาดนั้นเลยเหรอ” มุกดาหันกลับมามอง สายตาของเธอดูเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่วารีเอ่ยมาเท่าไหร่นัก“ขนาดนั้นเลย เพราะตอนนั้นพี่รักน้องมากเลยนะ”“แล้วตอนนี้ล่ะ”คำถามง่าย ๆ กลับได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมา สายตาของวารีมองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้า คำถามของมุกดาให้เธอต้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะเพราะไม่แน่ใจในคำตอบ“ตอนนี้เหรอ ไม่รู้สิ พี่ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่า ดีใจที่เห็นน้องกลับมาอยู่ตรงนี้ คิดว่าเราจะไม่มีโอกาสได้เจอกันแล้วซะอีก”“อืม เข้าใจแล้ว”มุกดาละสายตาจากใบหน้าวารี หันกลับไปมองวิวทะเลเบื้องหน้าเช่นกัน ทั้งคู่นั่งอยู่ข้างกัน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งให้ได้ยินอยู่เสมอ กับเสียงหัวใจที่เต้นระส่ำระสาย“โกรธพี่เหรอ” วารีหันมองคนข้างกาย“เปล่าค่ะ ไม่ได้โกรธ น้องเข้าใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-25

บทล่าสุด

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   ตอนพิเศษ (2) อยู่ดี ๆ ก็มีลูก

    หลังจากแต่งงานกันมาได้สองปี ตอนนี้ทั้งวารีและมุกดาก็มีความสุขดีตามประสาคู่ชีวิตทั่วไปที่ช่วยกันทำงานและดูแลกิจการ ส่วนเรื่องของการมีลูกนั้น ทั้งคู่ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะวารีเองก็อายุ39ปีแล้ว ส่วนมุกดาปีนี้ก็33 หากจะใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อให้ได้มาซึ่งการมีลูกก็อาจจะเสี่ยงในหลาย ๆ อย่าง ทั้งคู่เลยไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ ฟ้าจะส่งเด็กน้อยสองคนมาให้ วันนี้วารีและมุกดาพากันมาบริจาคของเล่นและสิ่งของต่าง ๆ ให้กับสถานสงเคราะห์บ้านเด็กกำพร้า ซึ่งทั้งคู่แวะมาที่นี่กันบ่อย บางครั้งก็แวะมาเล่านิทาน ร้องเพลง ทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ และทุกครั้งที่จะกลับ มักจะมีสายตาละห้อยของเด็ก ๆ มองพวกเธอเสมอทำให้มุกดาอดคิดถึงลูกจันทร์น้องสาวของเธอไม่ได้ หากวันนั้นแม่ของเธอไม่รับลูกจันทร์มาเลี้ยง ไม่รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของน้องสาวตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง หากมีโอกาส มุกดาก็อยากจะช่วยเหลือเด็กที่นี่ได้มากกว่านี้“ทำหน้าเศร้าอีกแล้วนะคะ”วารีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เดินอยู่ข้างกันหม่นหมองลงทันทีในตอนที่กำลังจะกลับ“น้องสงสารเด็ก ๆ ที่นี่ค่ะ ใจนึงก็อยากช่วย อีกใจก็รู้ว่าเราคงไม่มีกำล

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   ตอนพิเศษ (1) ดูงานต่างประเทศ

    สนามบินต่างประเทศในเช้าตรู่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจากนักท่องเที่ยว แต่วารีกลับรู้สึกสงบอย่างประหลาด มือที่กุมมือมุกดาไว้แน่น ๆ คือคำยืนยันว่าการเดินทางไปดูงานต่างประเทศครั้งนี้ เธอไม่ได้เดินทางเพียงคนเดียวอีกต่อไป การเดินทางมาโตเกียวครั้งนี้ คนที่ดูจะตื่นเต้นกว่าคือมุกดา และเป็นฝ่ายจัดกระเป๋าเตรียมทุกอย่างให้วารีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้จะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่เรื่องของความรักและการเอาใจใส่กันยังคงเป็นสิ่งที่ทั้งคู่เติมเต็มให้กันเสมอ“พี่วาคะ น้องได้ยินมาว่า ร้านเครื่องประดับในโตเกียวนี่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์ที่เอามุกมาประยุกต์แบบโมเดิร์นเลยนะคะ” มุกดาหันมาพูดอย่างตื่นเต้น ขณะที่ทั้งคู่รอแท็กซี่ที่หน้าโรงแรมวารีพยักหน้า ดวงตาหวานฉ่ำมองคนข้างกาย “เดี๋ยวก็ได้เห็นค่ะ พี่เองก็อยากดูว่าเขาเอาแนวคิดธรรมชาติมาใส่ในเครื่องประดับยังไงบ้าง จะได้กลับไปพัฒนาไลน์ของเราเพิ่ม”ทริปนี้วารีตั้งใจพามุกดามาด้วย เพราะอยากให้เห็นกระบวนการด้านศิลป์และการตลาดจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่เรื่องอนุรักษ์หรือการผลิตเพียงอย่างเดียว มุกดาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอได้มาดูนิทรรศการเครื่องประดับหอ

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 30 เจอเจ้าสาวได้ยังไง

    เสียงคลื่นซัดเบา ๆ อยู่ไม่ห่างจากเวทีไม้ไผ่ที่จัดวางกลางลานหญ้าของฟาร์มวารี เส้นไฟดวงเล็กวิบวับถูกขึงข้ามเหนือหัวผู้คน บรรยากาศค่ำคืนโรแมนติกอบอวลด้วยกลิ่นอาหารทะเลสด ๆ และเสียงหัวเราะของผู้ที่มาร่วมงานโต๊ะยาวที่จัดเรียงหน้าฟาร์มเต็มไปด้วยอาหารพื้นบ้านอย่างหอยทอด ข้าวเหนียวปิ้ง ปลาย่าง และของหวานแบบไทย ๆ ที่แม่ ๆ ป้า ๆ แถวนั้นตั้งใจทำมาจากบ้านตัวเอง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘วันสำคัญของสองสาวเจ้าของฟาร์ม’“บรรยากาศดีจนฉันอยากแต่งงานอีกรอบเลย” คิรินเอ่ยพลางยกแก้วน้ำมะพร้าวขึ้นจิบ หันไปมองวิวาห์ที่นั่งอยู่ข้างกันแล้วส่งยิ้มหวานวิวาห์หันไปทางเวทีกลาง พูดเสียงเบาเหมือนกำลังคิดตาม “วารีดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยเนอะตอนอยู่กับมุก ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งคู่จะวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง”“นั่นสิ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่ชื่อมุกดา คนที่เคยทำให้เพื่อนเราร้องไห้จนแทบจะขาดใจตาย ทำให้คนที่เคยเหมือนหินก้อนเบ้อเริ่ม กลายเป็นขนมโมจิได้ เห็นหน้าวารีเมื่อกี้มั้ย เหมือนลูกแมวเลย” คิรินหัวเราะเบา ๆบนเวทีไม้ไผ่ มุกดาในชุดไทยผสมลูกไม้ประยุกต์สีครีมอ่อน ยืนจับมือกับวารีที่อยู่ข้างกัน ทั้งสองคนยิ้มเขินนิด ๆ ขณะท

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 29 แขกพิเศษ

    งานแต่งงานของวารีกับมุกดาในวันนี้ จะเรียกงานแต่งก็อาจจะไม่ถูกซะทีเดียว เพราะบรรยากาศมันเหมือนการรวมพลเลี้ยงคนในหมู่บ้านมากกว่า วารีไม่คิดเลยว่าแม่ของเธอจะเชิญคนทั้งหมู่บ้านขนาดนี้ บรรยากาศในวันนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงเฮฮาและรอยยิ้ม ทำเอาเจ้าสาวทั้งสองคนมีรอยยิ้มสดใส หน้าตาเปล่งปลั่ง มีออร่าตลอดเวลาที่คอยต้อนรับแขกในงาน และความตั้งใจของทั้งวารีและมุกดา ที่อยากให้งานเป็นไปด้วยความเรียบง่าย พิธีวันนี้จึงไม่ได้เคร่งครัดมากนัก มีเพียงการผูกข้อไม้ข้อมือ สวมแหวน และงานเลี้ยงขอบคุณแขกที่มาร่วมงานก็เท่านั้น และสิ่งที่เซอร์ไพรซ์ในงานแต่งวันนี้คือการที่ลูกจันทร์พาใครบางคนมาร่วมงานแต่งของพี่สาวเธอด้วย นั่นก็คือคุณพาขวัญ บุคคลที่ย่างกรายเข้ามาในงานแล้วโดนจับจ้องด้วยสายตาทุกคู่ พาขวัญ อัครเมธากุล เจ้าของมูลนิธิพาขวัญ ผู้ทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย อีกทั้งยังก่อตั้งมูลนิธิเพื่อให้เงินทุนการศึกษาแก่เด็กยากไร้และเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ ลูกสาวนักการเมืองตำแหน่งใหญ่ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอ ว่ากันว่า เธอไม่ชอบงานสังคม เธอหาตัวจับยาก ไม่ค่อยมีใครได้เห็นเธอไปไหนมา

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 28 สร้อยมุกที่เสกได้

    วารีฟาร์มแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นเสมอมา นับตั้งแต่มุกดาเข้ามาที่นี่เจ้าของฟาร์มที่เคยเอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยทักทายลูกน้อง ใบหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาก็ดูจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันแต่งงานเข้ามาใกล้มากขึ้น ใกล้จนมันกำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว เสียงคลื่นซัดเบา ๆ เข้าฝั่งในยามค่ำคืน ท้องฟ้าริมทะเลมีเพียงแสงดาวกระพริบระยิบ ระเบียงบ้านไม้ที่ยื่นไปในทะเลของวารีเงียบสงบ ลมโชยอ่อน ๆ พัดผ่านม่านบางในห้องนอน ราวกับจะกระซิบเตือนให้หัวใจของคนทั้งสองจดจำช่วงเวลานี้ไว้ให้แม่นมุกดานั่งอยู่บนเตียงไม้สีอ่อน ห่มผ้าบาง ๆ รอบตัว ขาเปลือยเปล่าห้อยแกว่งเบา ๆ กับอากาศ ขณะที่แสงไฟจากโคมข้างเตียงให้แสงอบอุ่นพอดีเสียงประตูไม้เปิดออก วารีในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามาช้า ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาฉายแววอ่อนโยนกว่าทุกคืน“ยังไม่นอนเหรอคะ” คนที่เดินเข้ามาเอ่ยถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างกัน“พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแล้ว ใครจะหลับลงกันล่ะ” มุกดาหันมายิ้มตาหยีวารีคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เตรียมเอาของที่สองมือซ่อนไว้ด้านหลังออกมา“พี่มีอะไรจะให้ค่ะ”“หืม?” ม

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 27 ไม่หึงเมียจะหึงใคร

    นับตั้งแต่คุยเรื่องแต่งงาน และได้ข้อสรุปว่า ฤกษ์แต่งงานจะมีขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า ทางด้านมุกดาก็หันมาดูแลตัวเองมากกว่าเดิม เพราะอยากให้ภาพวันนั้นออกมาสวยงามที่สุด จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อให้ออร่าเจ้าสาวเปล่งประกาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนไม่ชอบเอาซะเลยที่แฟนตัวเองหันมาดูแลตัวเองจนสวยวันสวยคืนมากขึ้น พักหลังมานี้วารีจึงตามติดมุกดามากกว่าเดิม ถ้าเมื่อก่อนแทบจะสิง ตอนนี้คงต้องเรียกว่า แทบจะกลืนกิน ถึงขนาดที่ว่า คนงานในฟาร์มยังไม่กล้ามองมุกดาตรง ๆ เพราะมักจะเจอกับสายตาดุ ๆ ของวารีอยู่เสมอ ส่วนมุกดานั้นไม่ได้ถือสาอะไรกับท่าทีของแฟนตัวเอง เธอมองว่าวารีเหมือนโกลเด้นตัวโตที่อยากให้เจ้าของสนใจก็เท่านั้นวันนี้แดดในช่วงบ่ายคล้อยกำลังอ่อนแรง เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังแผ่วเบาเหมือนเพลงกล่อม วารีเดินออกจากห้องประชุมในศูนย์การเรียนรู้ของฟาร์ม ด้วยสีหน้าตึงเครียดหลังการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรฯ เสร็จ เธอถอดเสื้อคลุมพาดไหล่ออก เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวเรียบที่เปียกชื้นจากเหงื่อเล็กน้อย ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเริ่มแผ่ซึมผ่านท่าทางทุกอณูแต่ทันทีที่

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 26 เรียกค่าสินสอด

    บรรยากาศรอบ ๆ บ้านไม้สองชั้นของมุกดาในเย็นวันนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น แม่ลี แม่แวว วารี มุกดา และลูกจันทร์ ทั้งห้าคนกำลังนั่งล้อมวงอยู่ตรงเก้าอี้ม้าหินอ่อนใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่หน้าบ้าน นับตั้งแต่มุกดากลับมาอยู่บ้าน อาการป่วยของแม่ลีก็ดูจะดีขึ้นมาก ยิ่งในวันนี้ใบหน้าของคนที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากเป็นคนที่ไม่รู้จักกันคงแทบไม่รู้เลยว่าแม่ลีกำลังป่วย เพราะใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา เรื่องของการหมั้นหมายและการแต่งงานคือหัวข้อสำคัญในการคุยกันในเย็นนี้ ทว่าคนที่ดูจะตื่นเต้นกว่าใครคือลูกจันทร์ เพราะเธอคือคนที่รับรู้เรื่องราวของทั้งคู่มาโดยตลอด ยิ่งได้รู้ว่าพี่สาวที่ตัวเองรักทั้งสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ความอิ่มอกอิ่มใจมันเอ่อล้นภายในใจจนแสดงออกมาผ่านสายตาเปล่งประกาย “ค่าสินสอด ค่าเลี้ยงดูน่ะ เรียกมาเถอะลี ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันกับลูกตั้งใจเต็มที่กับงานนี้ ยังไงก็ไม่ให้น้อยหน้าหรอก” แม่แววหันไปคุยกับแม่ลี เพื่อนรักที่รู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิต แน่นอนว่าทั้งคู่ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ลูกสาวของตนปรองดองกัน “โอ้ย ฉ

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 25

    “มันจะเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ ทุกอย่างที่เป็นเรื่องของน้อง เป็นความสบายใจของน้อง เป็นความสุข และเป็นสิ่งที่จะทำให้น้องยิ้มได้ พี่จะทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้เลยนะ หลังจากนี้ไป ให้พี่ดูแลนะ ให้พี่ได้มีโอกาสแก้ไขเรื่องที่ผ่านมา ความเข้าใจผิดในทุกอย่าง เราสองคนมาปลูกต้นรักกันใหม่ มาสร้างครอบครัวของเราด้วยกันนะ” ทุกคำพูดของวารีเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย เธอมองหน้ามุกดาตลอดเวลาที่พูด สายตาที่มองคนอายุน้อยกว่าเต็มไปด้วยความรักใคร่ “ขอบคุณนะคะพี่วา สำหรับทุกอย่างที่คิดจะทำ จริง ๆ น้องเองก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกันที่ไม่เคยรับฟังพี่เลย เอาแต่ความรู้สึกของตัวเองจนลืมไปว่าพี่ก็มีความรู้สึก พี่ก็คงเจ็บปวดไม่น้อย งั้นหลังจากนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะคะ น้องสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเหมือนกัน” “ได้สิคะ เราสองคนเริ่มต้นกันใหม่ได้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้พี่ง่วงแล้วอะ ไม่รู้แหละคืนนี้น้องต้องให้พี่นอนด้วย” “อะไรกัน จู่ ๆ วนมาเรื่องนี้ได้ยังไง อีกอย่าง ระยะทางแค่สามกิโลมันคงไม่ทำให้พี่ขับรถกลับโดยใช้เวลานานเกินไปหรอกนะคะ กลับไปนอนที่บ้านเลยค่ะ อีกอย่างกลุ่มนักศึกษาก็ยังอยู่ เจ้า

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 24 วางแผนไว้แล้ว

    วารีใจแป้วไม่น้อยเมื่อได้ยินคำพูดของมุกดาที่ส่งกลับมาแบบนั้น แต่เธอก็ยังทำใจดีสู้เสือ เพราะเริ่มมั่นใจแล้วว่า การที่อีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาแบบนี้ แปลว่ากำลังมีเรื่องขุ่นเคืองบางอย่าง “คืนนี้ขอนอนด้วยนะคะ” วารีถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “ไม่ค่ะ บ้านตัวเองก็มี โฮมสเตย์ก็มีตั้งหลายห้อง เลือกเอาสักห้องสิคะอยากนอนห้องไหน” “คืนนี้โฮมสเตย์เต็มทุกห้องค่ะ ให้พี่นอนด้วยนะคะ” “ไม่ค่ะ พี่วากลับไปเลย ไม่แน่ตอนนี้อาจจะมีคนรอพี่อยู่ก็ได้นะคะ” “น้องหมายถึงใคร พี่ไม่เข้าใจ” วารีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ก็ใครกันล่ะที่เข้ามาใกล้ชิดพี่จนวันนี้เราแทบไม่ได้คุยกันเลย ใครล่ะที่พี่คุยด้วยกระหนุงกระหนิง หน้าชื่นตาบานขนาดนั้น ใครกันที่มองพี่ซะสายตาหวานหยดย้อยอย่างกับอยากจะกลืนกินซะเหลือเกิน เห็นแล้วมันน่าโมโหชะมัด” วารีเข้าใจได้มากขึ้นเมื่อมุกดาบอกถึงการกระทำของบุคคลที่ว่าอย่างละเอียดยิบ และวันนี้ทั้งวันก็มีเพียงคนเดียวที่เข้ามาใกล้ชิดเธอ “พี่เข้าใจแล้วค่ะ แต่มันไม่มีอะไรเลย น้องก็รู้ว่าเวลามีคนมาดูงานที่ฟาร์ม พี่ทั้งตื่นเต้นแล้วก็ดีใจ อย

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status