กลับไปที่เมือง ตงไห่ บางอย่างกำลังเกิดขึ้นในคาเฟ่อาดิโอส มันคือคาเฟ่ยอดนิยมในเมือง เป็นที่รักกันในด้านการตกแต่งที่สง่างามและหรูหรา ถึงแม้ราคาอาหารที่นี่จะแพงกว่าคาเฟ่อื่น ๆ ในเมือง แต่มันก็ยังเป็นจุดยอดนิยมสำหรับการเดทของพวกเด็กฐานะร่ำรวยทั้งหลาย แม้ว่านั่นจะหมายความว่ากาแฟหนึ่งถ้วยราคาเป็นพันก็ตามตามปกติแล้ว คาเฟ่นี้จะเต็มไปด้วยลูกค้า แต่วันนี้นั้นเงียบผิดปกติ มีเพียงหญิงสาวหลายคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ พวกเธอทุกคนดูงดงามมาก พวกเธอจะทำให้ชายใดก็ตามที่ก้าวเข้ามาในคาเฟ่ต้องเหลียวมองเซอร์ซี นิวแมน และเพื่อนของเธอเช่าทั้งพื้นที่เพื่อดื่มกาแฟในวันนี้ ท่ามกลางเหล่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ เซอร์ซีนั่นโดดเด่นในฐานะคนที่สวยที่สุด วันนี้ เธอสวมกางเกงยีนรัดรูป และเสื้อจัมเปอร์สีน้ำตาล ผมอันเปล่งประกายของเธอพาดบ่า ซึ่งนั่ยิ่งทำให้เธอดูเซ็กซี่และมีเสน่ห์ ข้าง ๆ เธอคือหญิงสาวในผมสีเบอร์กันดี และเธอก็ดูดีเช่นเดียวกับเซอร์ซี เธอคือเอเวอลิน เฟเธอร์สโตนไม่ใช่เพียงแต่หญิงสาวที่พูดคุยกันอย่างมีความสุขเท่านั้น เจ้าของร้านเองก็พอใจมากเช่นกัน เพราะยังไงซะ เขาก็ทำเงินได้มากกว่าวันปกติจากการให้สุภาพสตรีเหล่านี้จอง
เซอร์ซีกัดริมฝีปากของเธอในขณะที่คิดเรื่องแดร์ริล มันทำให้เธอหงุดหงิด เธอเชิญเขาไปดินเนอร์ถึงสองครั้ง แต่เขากลับหาข้ออ้างไม่ไปตลอด สองวันก่อน เธอเชิญเขาไปที่วิลล่าเพื่อกลั่นยา แต่เขากลับหนีไปกลางคัน เขามันเป็นคนไม่รักษาคำพูด!เซอร์ซีกล่าวกับเอเวอลินนิ่ง ๆ "เอเวอลิน วางสาย"เธอไม่อยากพูดกับแดร์ริลยังไงก็ตาม เอเวอลินส่ายหัวแล้วแสยะยิ้ม "ทำไมล่ะ? เขาหนีไปวันก่อน! ฉันอดลุ้นไม่ได้เลยว่าเขาจะพูดอะไร" เธอรับสายแล้วเปิดลำโพงหลังจากรับสาย เอเวอลินก็ตะโกน "โทรมาทำไม ไอ้เวร?"แดร์ริลตื่นตระหนก เหงื่อพลันไหลลงมาจากหัวของเขา เขาถามอย่างสุภาพ "ผมขอถามได้ไหมว่าคุณนิวแมนอยู่กับคุณรึเปล่า?"มีเพียงหัวใจแห่งท้องสมุทรที่จะช่วยแด๊กซ์ได้ เขาต้องได้มันมาไม่ว่ายังไงก็ตาม"เธอไม่อยู่ที่นี่" เอเวอลินตอบอย่างเย็นชา เขาไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงหนีไปแถมยังถามหาเซอร์ซีทันที หมอนี่มันหยาบคายชะมัด นี่เขาคิดว่าจะหนีรอดไปได้รึไง?'เวรเอ๊ย! ยัยเอเวอลินนี่เป็นอะไรนักหนา!' แดร์ริลคิดแดร์ริลถอนหายใจแล้วกล่าวต่ออย่างกระวนกระวาน "ได้โปรด เอเวอลิน ผมต้องคุยกับเซอร์ซีอย่างด่วนที่สุด ช่วยส่งมือถือให้เธอได้ไหม?"'ด่
'แ-่ง เอ๊ย! ฉันถูกจับมาโดยนิกายจ้าวสวรรค์จากตำหนักของเธอในวันก่อน ดูเหมือนเธอจะยังโกรธฉันอยู่' แดร์ริลคิด"คุณนิวแมน ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณ มันคือเรื่องของความเป็นความตาย" เขาวิงวอนอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้จักสนิทสนมกับเซอร์ซี เขาก็รู้ว่าเธอนั้นมีจิตใจดีภายใต้ใบหน้าอันเย็นชาของเธอ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น เธอคงไม่มาขอขอภัยเขาจากเหตุการณ์ขโมยโทรศัพท์มือถือ "เรื่องของความเป็นความตาย?" เซอร์ซีตอบในระหว่างนั้น เอเวอลินยิ้มเยาะคิดว่าแดร์ริลนั้นน่าสงสัย "โอ้ เลิกเสแสร้งสักที! ฉันรู้นะว่าแกกำลังตีซี้กับเซอร์ซี ใช่ไหมล่ะ? แกอย่ากล้าที่จะฝันถึงเรื่องนั้น ไอ้ขยะ! ไสหัวไปอย่ามาทำให้พวกเราเสียอารมณ์!"เอเวลินรู้สึกดีขึ้นหลังจากได้ตบหน้าเขา แต่เธอก็ยังเหม็นขี้หน้าเขาแดร์ริลไม่ได้ตอบโต้อะไร และเอาแต่มองไปที่เซอร์ซีด้วยความจริงใจกำลังเห็นว่าแดร์ริลเอาแต่ยืนมองอยู่อย่างงั้น เอเวอลินเลยกล่าว "ทำไมแกยังอยู่ที่นี่? แกไม่ละอายใจบ้างรึยังไง? รอยตบนั่นยังไม่พอสำหรับแกใช่ไหม?" เธอเดินมุ่งหน้ามาหาเขาและเตรียมตัวจะตบเขาอีกครั้งคุณผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็มองไปที่หน้าโง่ ๆ ของแดร์ริลและขำขับกันอยู่ในใจ แ
แดร์ริลนั้นไม่ถูกรบกวนจากการโดนหัวเราะเยาะเย้ย"คุณนิวแมน ผมจริงจัง ได้โปรดบอกผมคุณจะขายมันในราคาเท่าไหร่? ผมต้องการมันเพื่อช่วยชีวิตคน!" เขากล่าวอย่างสัตย์จริงนี่มันผ่านไปเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว แดร์ริล ไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่าแดกซ์เป็นอย่างไรบ้าง บาดแผลของเขาจะสาหัสหนักหนากว่าเดิมไปแค่ไหน"เพื่อช่วยชีวิต? ชีวิตใคร?" เซอร์ซีหน้านิ่ว แดร์ริลมาที่นี่เหงื่อท่วมตัว และเขาไม่สนใจเอเวลินที่ตบหน้าเขาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนเขาจะตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก"แดกซ์" แดร์ริลตอบ'แดกซ์ แซนเดอร์?' เซอร์ซีคิดแดร์ริลดูเหมือนไม่ได้อำเล่น เซอร์ซีวางแก้วไวน์ลง และมอบสร้อยคอให้เขาทันที "ถ้าเป็นอย่างงั้น ไปช่วยเขาก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องเงินทีหลัง" ชีวิตคนกำลังจะดับสิ้น! แน่นอนเธอจะต้องช่วยเขาแดร์ริลเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาเร่งรีบไปรับสร้อยคออย่างไรก็ตาม เอเวอลินโน้มนัวเข้ามาคว้าดวงใจแห่งมหาสมุทรออกไปจากเซอร์ซี"แก!" แดร์ริลมองแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง "เอามาให้ฉัน ฉันต้องการจะช่วยชีวิตเขา!"เอเวอลินกำสร้อยคอในมือแน่หนาอย่างภาคภูมิใจ "ทำอย่างกับว่าฉันจะสนใจ แกอยู่ตรงนั้นแหล่ะ ถ้า
'ทำไมเธอถึงดื้อด้าน' แดร์ริลครุ่นคิดเดือดดาลเขาจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตของแด๊กซ์ อย่างไม่ลังเล เขาก้มโค้งคำนับเอเวลินและกล่าวด้วยความจริงใจ "คุณเอเวอลิน ผมขอร้องคุณ ได้โปรดมอบดวงใจแห่งมหาสมุทรให้ผม"เอเวอลินส่ายหัวพร้อมด้วยรอยยิ้ม "ไม่ นั่นมันยังจริงใจไม่พอ"แดร์ริลถึงกับพูดไม่ออก 'แ-่งเอ้ย ทำไมฉันไม่ควักหัวใจออกมาให้เธอดูไปเลยเพื่อแสดงความจริงใจ?'ในระหว่างที่เขาคิด เขาได้ยินเอเวลินสั่ง "คุกเข่า และข้อร้องฉัน"สีหน้าของแดร์ริลเคร่งเครียด ขณะที่คุณผู้หญิงทั้งหลายหัวเราะดั่งสนั่น พวกเธอทั้งหมดนั่งอยู่บนเก้าและถือแก้วกาแฟกันอยู่ในมือ คาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เซอร์ซีต้องการจะกล่าวบางอย่างแต่เธอก็ไม่สามารถ เพราะแรงกดดันจากเพื่อนแดร์ริลสูดลมหายใจเข้า เขารู้สึกถึงเพลิงไฟถูกจุดขึ้นในหัวใจของเขาด้วยความโกรธ ชายชาตรีจะคุกเข่าให้แค่กับ เทพเจ้า หรือบุพการีเท่านั้น เขากำหมัดแน่นและอยากจะหวดมันออกไปแต่เขาก็ทำไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือก หากไม่มีดวงใจแห่งมหาสมุทร แด๊กซ์ก็คงไม่มีลมหายใจ "ทำเป็นเท่ เอ๋?" เอเวลินเย้ยหยัน "ฉันเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว ถ้าแกไม่คุกเข่าฉันจะทำลายมัน" เธอบีบสร้อยค
"เร็วเข้า" เอเวอลินหน้าบึ้ง กำมือของเธอพร้อมจะทำลายสร้อยคอในระหว่างนั้นเซอร์ซีก็ทนต่อไปไม่ไหว "เอเวอลิน พอได้แล้ว" เซอร์ซีกล่าวเบา ๆ ถึงแม้ว่าแดร์ริลจะทำให้เธอผิดหวังถึงสองครั้งและหนีหายไปจากตำหนัก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีเหตุผลสำคัญจริง ๆ เอเวอลินนั้นใจหนักแน่น เธอส่ายหัว "เซอร์ซี อย่าไปรู้สึกแย่ให้กับคนอย่างเขา"เอเวอลินยิ้มเมื่อมองแดร์ริลกำลังอดกลั้นกับความโกรธของเขา "ยังไงต่อ? แกต้องการจะสู้กับฉันงั้นหรอ? ฉันให้แกอีกสามวินาทีเพื่อมาล้างเท้าฉัน ไม่อย่างงั้นแกก็จะไม่ได้เห็นดวงใจแห่งมหาสมุทรอีก""สาม!" เธอเริ่มนับ น้ำเสียงเย็นชา"สอง!"แดร์ริลยังคงนิ่งเงียบอยู่ ร่างกายเขาสั่นระรัวสู้กับความโกรธของตัวเองหากเขาไม่ยอมทำตาม ชีวิตของแด๊กซ์คงดับสลาย ถ้าแด๊กซ์จะต้องมาตายเพราะเหตุนี้ เขาคงได้ใช้ชีวิตที่เหลือไปกับความรู้สึกผิดแดร์ริลกัดฟันและก้าวเดินไปหาเอเวแลิน ภายใต้สายตาของเหล่าคุณผู้หญิง เขาคุกเข่าต่อหน้าเอเวลินและค่อย ๆ ถอดรองเท้าเธอออกอย่างนุ่มนวลเท้าของเธอนั้นขาวและสะอาด ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาด เธอเพียงแค่ต้องการทำให้เขาขายขี้หน้า ขณะที่เขากัดฟัน เขาวางเท้าของเธอลงในถ้วยน้ำอ
เป็นเวลาตีสี่ในยามเช้าเมื่อเขาเริ่มวิงเวียน และแดร์ริลกึ่งหลับกึ่งตื่น เขาฝันสลับไปมาตลอดสักพัก เขารู้สึกกำกวมถึงใครสักคนมาเตะขาเขาเขาก็ตื่นขึ้นทันทีและมองขึ้นเขาเห็น แด๊กซ์ ยืนอยู่ข้าง ๆ กับประตูมองลงมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา“แดร์ริล? นายจะอำฉันให้หัวเราะรึยังไงที่มายืนเฝ้าเป็นยามอยู่หน้าห้องฉัน? ฮ่าฮ่า!” แด๊กซ์หัวเราะโยกตัวไปมาทันใดนั้น แดร์ริลก็น้ำตาคลอเบ้า เขาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา‘เขารอดชีวิต แด๊กซ์รอดชีวิต!’ แดร์ริลคิดเขากระโดดโลดเต้นและโผตัวเข้าไปโอบกอดแด๊กซ์แน่นด้วยแขนของเขา“แ-่งเอ๊ย นายจะมากอดฉันทำไมเนี่ย!” แด๊กซ์กล่าวอย่างรังเกียจแต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานกับรอยยิ้มกว้าง ๆ ของแดร์ริล เขาต่อยแดร์ริลไปที่อกและหัวเราะ “ใช่ ฉันยังไม่ตาย! ฮ่าฮ่า ฉันรอดชีวิต! ฮ่าฮ่าฮ่า!”แดร์ริลก็เริ่มหัวเราะตามเช่นกัน ชายสองคนมองหน้าไม่พูดอะไรกันพวกเขาต่างหัวเราะด้วยกันต่อไปไม่มีใครจะเข้าใจถึงความผูกพันระหว่างเขาสองคน มันงดงามและอยู่เหนือคำบรรยาย เสียงหัวเราะของพวกเขาดังจนปลุกแนนซี่และนายท่านชราตื่นกันขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นว่าแด๊กยังไม่ตายทุก ๆ คนก็กระโดดโลดเต้น
ใช่ แม่ชีแห่งโชคชะตาคืออาจารย์ของเมแกน อันที่จริง คืออาจารย์คนที่สองของเธอห้าปีที่แล้ว เมแกนเข้าร่วมสำนักง้อไบ๊ ในฐานะศิษย์รุ่นพี่หน้าใหม่ของสำนักง้อไบ๊ เมแกนแรกเริ่มเธอมีอาจารย์เป็นประมุขนิกายอย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีก่อน ประมุขนิกายปลีกวิเวกเพื่อฝึกฝนวิชาบ่มเพาะและไม่มีเวลาฝึกฝนให้กับลูกศิษย์แม่ชีแห่งโชคชะตาเลยกลายเป็นอาจารย์คนเดียวของเธอ สอนเธอเกี่ยวกับการบ่มเพาะ ดั่งนั้นเมแกนจึงมีความเคารพอย่างสูงให้กับแม่ชีแห่งโชคชะตาและปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นอาจารย์แท้ ๆ ของเธอเมื่อแดร์ริลได้ยินไม่ค่อยชัดจากคลื่นแทรก เขาคิดว่าได้ยินผิดไป “เธอบอกว่าอาจารย์ของเธอเป็นใคร?” เขาหน้านิ่วเมแกนสัมผัสไม่ได้ถึงความเกลียดชังในน้ำเสียงของเขา “อาจารย์ของฉันคือ แม่ชีแห่งโชคชะตา หนึ่งในผู้อาวุโสแห่งสำนักง้อไบ๊” เธอกระซิบ “เธอเพิ่งจะได้มาประจำที่เมืองต่งไห่ได้ไม่นาน...”เ-ี้ย !ด้วยเหตุนี้ แดร์ริลมีสีหน้าเคร่งเครียดทันที เขาฟูมฟายด้วยความโกรธแค้นแม่ชีแห่งโชคชะตา คำนี้ได้กระตุกความเกรี้ยวกราดโมโหให้กับแดร์ริล เขาไม่ได้มีปัญหากับเธอ แต่เธอก็ยังเกือบจะสังหารแด๊กซ์ในสิ่งที่เธอเรียกหนักหนาว่าความยุติธ