เชลลีขมวดคิ้วในขณะที่พยายามเพ่งมองแดร์ริล "คุณคือ..."ก่อนที่แดร์ริลจะได้ตอบ เสียงก็ดังออกมาจากฝูงชน "หมอนั่นเป็นลูกเขยของตระกูลลินดัน เขาก็แค่ของเล่นของผู้หญิง ไม่ต้องสนใจเขาหรอก ผู้อำนวยการซัลลิแวน""ฮ่าฮ่าฮ่า!"เมื่อสิ้นเสียงนั้น ฝูงชนพลันระเบิดเสียงหัสเราะสนั่นแดร์ริลเมินการเยาะเย้ยของกลุ่มคน แล้วกล่าว "ถูกต้อง ผมคือแดร์ริล และแจ็คสัน เจ้าของงานแต่งวันนี้ คือน้องชายผม"เชลลีกะพริบตาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย "คุณเคยเรียนแพทย์มาก่อนเหรอ?"แดร์ริลส่ายหัว"แดร์ริล แกทำอะไรของแก? ผู้อำนวยการซัลลิแวนก็บอกแล้วว่าให้ส่งเธอไปโรงพยาบาล แกจะทำให้เรื่องวุ่นวายทำไม? แกรู้เหรอว่าต้องรักษาเธออย่างไร? ถ้าแกหาที่ตาย ก็อย่าลากพวกเราดาร์บี้ลงไปด้วย" ยูมิยืนขึ้นแล้วชี้ไปที่แดร์ริลคำพูดของยูมิแสดงอย่างชัดเจนว่าเธอแยกแดร์ริลออกจากตระกูลดาร์บี้แอ๊บบี้คือนายหญิง มีคนนับพันทำงานอยู่ภายใต้เธอในบริษัทรักษาความปลอดภัยของเธอ และน้องชายของเธอ แบรนดอน นั้นยิ่งกว่าเจ้าพ่อที่ไม่ควรยุ่งด้วยถ้าเกิดอะไรขึ้น เดรกไม่ใช่แค่คนเดียวที่ซวย คนทั้งตระกูลดาร์บี้จะมีปัญหาด้วยเช่นกันเดรกขมวดคิ้ว "แดร์ริล อย่าท
แจ็คสันเห็นความมั่นใจในดวงตาของแดร์ริล เขาจึงพยักหน้าทันที ภายตาการจดจ้องจากฝูงชน แจ็คสันขึ้นไปบนเก้าอี้แล้วปลดกระจกแปดด้านออกจากกำแพง"แจ็คสัน นี่แกเป็นบ้ารึไงวะ? แกไปฟังคำของไอ้ลูกเขยบ้านอื่นนั่นได้อย่างไร?" ยูมิตำหนิจากด้านหลังแจ็คสันไม่สนใจเธอ สัมพันธ์พี่น้องของพวกเขามีให้กันมาตั้งแต่สมัยเด็ก แจ็คสันเชื่อแดร์ริลหมดใจ"เร็วเข้า รีบอุ้มประธานกายไปที่บ่อน้ำ" แจ็คสันรีบสั่งเหล่าบริกรในงานแต่งหลังจากที่นำกระจกแปดด้านลงมาเหล่าบริกรชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรีบอุ้มแอ๊บบี้ออกไปเมื่อเห็นเหตุการร์ดังกล่าว คนมากมายในฝูงชนก็ส่ายหัวอย่างเคร่งขรึมแค่แดร์ริลบ้าคนเดียวก็พอแล้ว นี่ยังไม่พอ แม้แต่แจ็คสันก็เสียสติไปอีกคนเหรอ?"เกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวของฉัน? หลบไป!"ทันใดนั้น เสียงอันทุ้มลึกและเย็นชาก็ดังมาจากทางเข้าของคฤหาสน์ ชายในสูทดำเข้ากับเสื้อเชิ้ตลายดอกรีบพุ่งเข้ามา รอบตัวเขาเต็มไปด้วยชายร่างกำยำ 10 คน ที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำภายใต้เสื้อดำของชายหนุ่มนั้นมีรอยสักรูปมังกรดำ ซึ่งมันเตะตาทีเดียวเขาคือแบรนดอน น้องชายของแอ๊บบี้ นักเลงอันดับหนึ่งรูปลักษณ์ของเขาทำให้แขกที่มาถึงกับหุบปากลง
'นี่มันเรื่องบังเอิญ หรือว่าเจ้าลูกเขยนี่รู้เรื่องพวกนี้จริง ๆ?' แขกคิดแดร์ริลยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าให้แอ๊บบี้ "ใช่แล้ว แม้ว่ากระจกแปดด้านจะเป็นวัตถุโบราณที่สวยงาม แต่มันต่อต้านกับฮวงจุ้ยของคฤหาสน์ นั่นจึงทำให้ประธานกายสลบไป ต่อให้คุณซัลลิแวนมีทักษะแพทย์ที่เก่งกาจขนาดไหน เธอก็ไม่สามารถรักษาคุณได้"คำเหล่านั้นทำให้เชลลีก้มหน้าลง ในตอนแรก เธอดูหมิ่นแดร์ริล ตอนนี้กลายเป็นว่า จริง ๆ แล้วเขาเป็นชายที่ยอดเยี่ยม มากไปกว่านั้น เธอเองก็รักษาแอ๊บบี้ไม่ได้ คำพูดของแดร์ริลนั้นปลอบเธอขณะที่แดร์ริลกำลังพูด เขาก็แอบตรวจอาการของแอ๊บบี้เงียบ ๆ ด้วยแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะอายุเกิน 30 ปี แต่เธอยังคงดูแลรูปลักษณ์เป็นอย่างดี จากการมองครั้งแรก เธอดูเหมือนอายุ 20 ด้วยซ้ำ เธอมีร่างกายที่น่าทึ่งเธอน่าเย้ายวนและดึงดูดอย่างไม่มีใครเทียบได้'แอ๊บบี้กับแบรนดอน พี่น้องคู่นี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนปกติ พวกเขามีรังสีที่ทรงพลังมาก! หรือว่าพี่น้องคู่นี้เป็นผู้บ่มเพาะ? ศิษย์ในสำนักไหนรึเปล่า?' แดร์ริลคิดแอ๊บบี้ขมวดคิ้ว "คุณแดร์ริล ถ้าสิ่งที่คุณบอกถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นทำไมฉันถึงเป็นคนเดียวที่สลบ ฉันมั่นใจว่ามีหลายคนในที
อย่างไรก็ตาม แดร์ริลไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขายิ้มจาง ๆ ก่อนจะตามชายเหล่านั้นไปที่รถไม่กี่นาที พวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์ส่วนตัวแม้ว่ามันจะอยู่ไกลจากทะเล แต่การตกแต่งนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าคฤหาสน์ริมทะเลเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม รูปแบบของมันดูพิถีพิถันและน่าเกรงขาม ขับเน้นบรรยากาศทรงพลังให้มากขึ้นทั้งคฤหาสน์ถูกสร้างมาแบบวินเทจ ทั้งหลังให้ความรู้สึกโบราณชายสองคนในชุดดำจากไปเมื่อส่งแดร์ริลถึงโถงหน้าแบรนดอนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่สง่างาม เมื่อเห็นแดร์ริลมาถึง เขาก็ยืนขึ้น แล้วชี้ไปที่กล่องของขวัญข้างเขา "นี่เป็นของขวัญจากพี่สาวฉันเพื่อแสดงความขอบคุณ รับมันไป"แบรนดอนกล่าวขอบคุณ แต่ท่าทางของเขาไม่ได้มีความสุภาพแม้แต่น้อย ตรงข้าม มันคือความยะโสด้วยฐานะของแบรนดอนในเมืองตงไห่ ตระกูลดาร์บี้ไม่ได้สำคัญในสายตาเขาเลย ไม่ต้องพูดถึงแดร์ริล ในความเป็นจริง แบรนนั้นไม่ได้ร่ำรวยไปกว่าดาร์บี้ แต่พวกดาร์บี้นั้นกลัวเขาแน่นอน นั่นเป็นเพราะดาร์บี้นั้นทำธุรกิจ แต่แบรนดอนล่ะ? เขาไม่ได้แค่ทำธุรกิจ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านมืดของสังคมด้วยมากไปกว่านั้น แดร์ริลนั้นเป็นแค่ลูกเขยของตระกูลลินดัน ยิ่งทำให้แยรนด
"ก็ถ้านายไม่เชื่อในเจ้าเม็ดยาเทวะนี่ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวล่ะ" แดร์ริลดูเหมือนจะไม่แคร์และกำลังจะจากไป"เดี๋ยวก่อน!" แบรนดอนเรียกแดร์ริลพร้อมกับก้าวออกไปสองสามก้าว"นายแน่ใจไหมว่าเจ้าสิ่งนั้นจะช่วยให้ฉันทะลวงระดับไปถึงปรมาจารย์อาวุโสได้?" แบรนดอนถามแดร์ริลไม่ลำบากพูดอะไรให้มากความอีก เขาตอบด้วยคำสั้น ๆ สองคำ "แน่นอน"แบรนดอนสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วกล่าว "ก็ได้ ฉันจะซื้อมัน เท่าไหร่?"แดร์ริลมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า แบรนดอนคนนี้คิดว่าเขาจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยเงิน 'ก็ดี ในเมื่อเขารวยนัก ฉันจะปล้นเงินในบัญชีเขาวันนี้ซะเลย' เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็ชูสองนิ้วให่แบรนดอนในใจเขา เขาคิดไว้ว่าสองพันล้าน ยังไงก็ตาม แบรนดอนเข้าใจเขาผิด"สองพันล้าน? ฉันจะจ่ายมัน" แบรนดอนถามด้วยความตื่นเต้นในดวงตา เขาพยักหน้าพร้อมยิ้มแสยะกว้าง'หา?' สองพันล้าน เขาจ่ายเงินสองพันล้านในพริบตาจากการซื้อเม็ดยาเทวะ! เด็กนี่มันบ้าไปแล้ว!' เขาคิดแดร์ริลตกใจแดร์ริลนั้นยังไม่ได้เป็นผู้บ่มเพาะ เพราะฉะนั้นเขาจึงยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากความตกต่ำ เขาไม่เข้าใจว่าแบรนดอนต้องผ่านอะไรมาบ้างในขณะที่กำลังตกใจ ความตื
หลังจากผ่านวันอันยาวนาน แขกเกือบทั้งหมดก็ออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว ผู้อาวุโสของดาร์บี้บางคนก็กลับไปเช่นกัน ปล่อยให้สมาชิกตระกูลรุ่นใหม่ทั้งหลายดื่มกินในโถงจัดเลี้ยง แล้วพยายามคะยั้นคะยอให้เจ้าบ่าวพาเจ้าสาวเข้าเรือนหอได้แล้วเจ้าบ่าว แจ็คสันดื่มมากไปเล็กน้อยเมื่อช่วงกลางวัน ตอนนี้เขาจึงหลับสนิทอยู่ ในขณะที่เจ้าสาวอย่างรีเบคก้า ซง กำลังยุ่งอยู่กับการอำนวยความสะดวกให้กับแขกแทนสามีแน่นอน พี่ชายคนโต ฟลอเรียน และภรรยาของเขา ยูมิ เองก็อยู่ด้วยเช่นกัน"เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ได้เวลากลับบ้านกัน!" ยูมิดูเวลาแล้วกล่าวเตือนฟลอเรียนดูจะไม่ค่อยพร้อมกลับเท่าไหร่นัก เขาโบกมือ "อา วันนี้เป็นโอกาสแสนพิเศษสำหรับพวกเราทุกคน ทำไมคุณไม่กลับไปก่อนล่ะ? ผมจะอยู่ที่นี่ ผ่อนคลายอีกสักหน่อย""คุณเมามากแล้วนะ ยังจะมีเรื่องคุยอะไรอีก?" ยูมิไม่พอใจนัก แต่เธอก็ไม่ต้องการที่จะทำให้ฟลอเรียนขายหน้าต่อหน้าคนในตระกูลนัก เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกลับไปเมื่อยูมิกลับ สายตาของฟลอเรียนก็จ้องไปที่เจ้าสาว รีเบคก้า เหล่าชายหนุ่มนั่งดื่มขณะที่รีเบคก้ารินเหล้าให้พวกเขา ราวกับภรรยาที่ยอดเยี่ยม'ผู้หญิงคนนี้ที่น้องชายเราแต่งด้วย
ฟลอเรียนเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาเขาตั้งใจจะทำทันที เขารีบนำกระจกแปดด้านมาอย่างรวดเร็ว"ที่รัก คุณฉลาดมาก!" เขาชมยูมิในขณะที่ส่งกนะจกให้ยูมิไม่สนใจจะตอบเขา เธอวางกระจกไว้ข้างเตียง แล้วเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้ดูเหมือนว่ามีใครเข้ามาทางนั้นเธอกำลังใส่ร้ายแดร์ริลในวันนั้น แดร์ริลนั้นได้พูดเรื่องทฤษฎีฮวงจุ้ยและบอกว่าแอ๊บบี้นั้นสลบเพราะกระจกนี้ แม้ว่ายูมิจะไม่เชื่อ แต่เธอรู้ว่าหลายคนนั้นเชื่อ เช่น รีเบคก้าในเมื่อแดร์ริลรู้เรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ยมากนัก เขาก็ต้องรู้วิธีในการทำให้รีเบคก้าสลบเพราะกระจกนี้เช่นกัน เมื่อรีเบคก้าตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมา และเห็นว่าเธอถูกละเมิดพร้อมกับกระจกข้างเตียง เธอต้องเข้าใจโดยธรรมชาติว่าแดร์ริลเป็นคนทำแน่เมื่อการจัดฉากเสร็จสิ้น เธอก็เห็นฟลอเรียนมองไปที่รีเบคก้า"ยังดูไม่พอใจอีกรึไง? ไปสิ!" ยูมิเย้ย จากนั้นเธอก็จากไปฟลอเรียนวิ่งตามเธอไป พร้อมกับหายใจอย่างหนักหน่วง "นี่มันไม่ได้ผลหรอก ถ้าเกิดรีเบคก้าไปโรงพยาบาลแล้วตรวจพบเรื่อง-""คุณคิดว่าคนอื่นจะหน้าด้านเหมือนคุณรึไง? คิดว่าพวกเขาไม่มีชื่อเสียงต้องรักษาเหมือนคุณเหรอ?" เธอขัดมันฟังดูมีเหตุผลสำหรับฟลอเรีย
รอยยิ้มแข็ง ๆ ของซาแมนธาพลันดูอึดอัดและบูดบึ้งอย่างไรก็ตาม ลิลี่ยังคงสงบและมั่นใจ เธอยืนขึ้นแล้วแนะนำแดร์ริล "นี่คือแดร์ริล พวกเราแต่งงานกัน""โอ้… ลูกเขยของซาแมนธานี่เอง เขาดูเป็นคนที่เหมาะสมนะ เขาทำงานที่ไหนเหรอ?" เมลานีกล่าว"ในบริษัท" แดร์ริลตอบอย่างสุขุม เขารู้ว่าเมลานีคิดจะทำอะไร แต่เขาไม่สน"บริษัทอะไร? ตำแหน่งไหนล่ะ?" เมลานีถามด้วยรอยยิ้ม ทำทีเหมือนถามด้วยความเป็นห่วงจริงใจโดยไม่กะพริบตา แดร์ริลตอบ "ก็แค่หนุ่มออฟฟิศทั่วไป"'อ้า! ก็แค่หนุ่มออฟฟิศ!' เมลานีคิดด้วยคำกล่าวนั้น รอยยิ้มเดียดฉันท์ก็ปรากฏบนใบหน้ารอบ ๆ เขา เมื่อเห็นการตอบสนอง เมลานีรู้สึกพอใจ"เป็นหนุ่มออฟฟิศก็ดีแล้ว มันไม่เป็นไรที่เธอทำงานไม่ค่อยดี ลิลี่เองก็น่าทึ่งมากแล้ว มันไม่มีปัญหาอะไรที่เธอจะอาศัยอยู่ที่บ้านเฉย ๆ" เธอกล่าวเสริมการประชดประชันนี้ชัดเจนมาก ใบหน้าของซาแมนธาดำมืดลง'มันเป็นความผิดของแดร์ริล เขาไม่รู้จักตำแหน่งของตัวเองรึไง? เขาคิดว่ามันดีรึไงที่พูดเรื่องนี้ออกมาแล้วทำให้ครอบครัวต้องอับอาย?' ซาแมนธาคิดลิลี่เองก็มีรอยยิ้มที่ไม่เป็นธรรมชาติบนใบหน้า เธอเสียใจที่พาแดร์ริลมาด้วยในทันใดนั้น