หลังจากแม่ๆ ทั้งสองกลับไป ผาตะวันก็เอ่ยถามขึ้น
“แม่คุณจ้างเท่าไหร่?”
“อะไรของนาย?” เธอเลิกคิ้ว แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ
“แม่จ้างคุณเท่าไหร่ ถึงยอมไปฮันนีมูนกับผม?”
“จ้างบ้าจ้างบออะไร นายเห็นฉันเป็นคนหน้าเงินขนาดนั้นเลยเหรอ?!”
“ใช่”
“นี่นาย!!”
“อะไร? หรือไม่จริง?”
“จะคิดอะไรก็เรื่องของนายเถอะ!” เธอตวัดสายตาใส่ ก่อนจะประกาศกร้าว “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป... ฉันจะย้ายไปนอนห้องเดียวกับนาย!”
“อะไรนะ?!” เขาอุทานอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ก่อนแต่งงาน เธอเป็นคนยืนยันหนักแน่นเองว่า ห้ามนอนห้องเดียวกันเด็ดขาด เพราะกลัว ว่าเขาจะปล้ำ... แล้วนี่อะไร?
“คืนนี้... ฉัน... จะ... ไป... นอน... กับ... นาย... ที่... ห้อง!” เธอเน้นทุกคำ ชัดถ้อยชัดคำ พร้อมสะบัดหน้าหนีแล้วเดินขึ้นบ้านอย่างไม่ใยดี
“นี่คุณ! ก็ไหนเราตกลงกันไว้ไง ว่าจะแยกห้องกันนอน!” ผาตะวันตะโกนตามหลัง พลางก้าวขึ้นบันไดอย่างรีบร้อน
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว!”
เสียงของเธอลอยมา พร้อมฝีเท้าที่ไม่หยุดแม้แต่นิด จุดหมายของเธอชัดเจน …ห้องของเขา เพื่อย้ายข้าวของทุกอย่างไปอยู่ที่นั่น
“นี่คุณจะไม่ถามความเห็นผมสักคำเหรอ ว่าผมโอเคมั้ย ที่ต้องนอนร่วมห้องกับคุณ?” เขาถามเสียงดัง ขณะเดินตามขึ้นไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
ทันทีที่เห็นว่าเธอกำลังจะยกเสื้อผ้าเข้าไปในห้องของตัวเอง ผาตะวันก็รีบพุ่งเข้าไปขวาง
“เดี๋ยวก่อนคุณ! ผมไม่โอเคนะ ที่คุณจะมานอนห้องเดียวกับผมแบบนี้!”
“แต่ฉันเป็นเมียนายนะ” เธอเถียงกลับหน้าตาเฉย
“อย่าเอาคำว่าเมียมาอ้าง ผมพอจะรู้แล้วว่าคุณเป็นคนยังไง บอกผมมาเดี๋ยวนี้ ทำไมอยู่ดีๆ ถึงต้องย้ายมานอนห้องผม?”
“ฉันอยากมีลูก! ได้ยินชัดยัง? เข้าใจแล้วใช่ไหม? ถ้าเข้าใจแล้วก็ช่วยถอยไป” พูดจบ เธอก็เดินชนไหล่เขาอย่างไม่ไว้หน้า ก่อนจะก้าวฉับๆ ไปยังเตียงของเขา
แขนของผาตะวันไหวไปตามแรงกระแทกเล็กน้อย ขณะที่เขายืนนิ่งอึ้ง คำพูดของเธอเมื่อครู่ยังดังก้องอยู่ในหัว...
อยากมีลูก...? คนอย่างเธอเนี่ยนะ?
คนหน้าเลือด เห็นแก่ตัว รักใครไม่เป็นอย่างราตรี อยู่ดีๆ จะอยากมีลูกขึ้นมา แล้วพ่อของลูกยังจะเป็นเขาอีกเนี่ยนะ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผล มันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผาตะวันก็เดินกลับมาที่เตียง แต่ทันทีที่สายตาเขาปะทะเข้ากับร่างบางบนเตียง เขาก็ถึงกับเบิกตากว้าง
“มองอะไร?” ราตรีถาม สายตาเป็นเชิงท้าทาย เมื่อเห็นเขาจ้องเธอเขม็ง เธอเข้าใจไปเองทันที ว่าเขาคงจะตะลึงในความงามของเธอ...
“ปกติคุณดูละครหลังข่าวไหม?” เขาถามขึ้นมาเฉยๆ
“ดูสิ! ยิ่งแนวดราม่านะ ฉันยิ่งชอบ ดูแล้วมันได้อารมณ์ดี… ว่าแต่นายอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง บอกมาดีๆ ว่ามองฉันทำไม เพราะฉันสวยใช่ไหมล่ะ? สวยประหนึ่งนางเอกเลยล่ะสิ?” เธอพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อย่างมั่นใจในตัวเองเต็มร้อย
เขาหัวเราะหึในลำคอ ก่อนตอบกลับอย่างไม่ไว้หน้า
“สวย… สวยมาก…ว่าแต่คืนนี้คุณจะไปเล่นลิเกที่ไหนเหรอ? แต่งหน้าซะแน่นจัดขนาดนี้”
หมอนที่วางอยู่หัวเตียง ลอยขึ้นมาทันที แล้วปะทะเข้ากับเขาเต็มแรง!
“โว้ย! ไอ้บ้า! นี่หน้าสดมาก! บอกเลย!” เธอตะโกนลั่น สีหน้าเอาเรื่องสุดๆ
“ใครว่านางเอก… นางร้ายชัดๆ” เขาพึมพำเบาๆ แต่ไม่เบาพอให้เธอไม่ได้ยิน
“ว่าไงนะ? แน่จริงก็บ่นดังๆ สิ!”
“ผมไม่ได้บ่น… แค่บอกว่าเจ็บ… เจ็บมากกกกกก…” เขาทำเสียงลากยาวแบบประชด
“โดนหมอนแค่นั้นไม่เจ็บหรอก อย่าเว่อร์!”
“ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคุณละ ไปล้างหน้าล้างตา ใส่ชุดนอนซะ หน้าวอกแบบนี้มันดู... ทรมาน” พูดจบก็หมุนตัวจะเดินไปแต่งตัว
“เดี๋ยว!” เธอเรียกไว้เสียงเข้ม
“อะไรอีกครับ?” เขาหันกลับมาอย่างเหนื่อยใจ
“ยังไม่ต้องแต่งตัว! มานี่ก่อน!” เธอกวักมือเรียก น้ำเสียงจริงจังจนน่าขนลุก
เขาชักเริ่มไม่ไว้ใจ แต่ก็ยอมเดินไปหา
“มานั่งนี่เลย” ราตรีตบที่เตียงข้างๆ ตัวเอง
เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ แต่ก็ยอมนั่งลง
“อื้ม... ฉันพร้อมละ” เธอพูดเบาๆ แล้วหลับตา... ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาหาเขาช้าๆ
ผาตะวันมองเธออย่างงงเป็นไก่ตาแตก
“จะให้ผมบีบสิวให้เหรอ?” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ
ราตรีลืมตาขึ้นมาทันที แล้วทำหน้าเซ็งจัด
“บีบสิวบ้านนายสิ! จูบฉันสิ! แล้วเรามาทำลูกกัน!!!” พูดจบก็หลับตาปี๋อีกครั้ง แล้วยื่นหน้าให้เขาอย่างมั่นใจ…
ผาตะวันใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากของคนตรงหน้า ก่อนจะใช้นิ้วชี้นิ้วนั้นผลักใบหน้าของเธอให้ออกห่าง
“ผมเคยบอกคุณแล้ว ว่าผมอยากมีลูกกับคนที่ผมรัก วันนี้ผมรักคุณ แล้วคุณก็รักผม เรารักกัน จากที่วันๆ คุณเอาแต่เที่ยว ก็เปลี่ยนมาเป็นรู้จักอยู่บ้าน รู้จักคิดที่จะหางานทำ มันก็ไม่เหลือเหตุผลอะไรแล้ว ที่ผมจะไม่อยากมีลูกกับคุณ”“สรุปนายไม่โกรธเรื่องสัญญานั่นใช่ไหม?”“งั้นผมขอถามคุณกลับว่า ตอนนี้คุณยังอยากมีลูกกับผมไหม แล้วยังอยากมีเพราะเงินอยู่หรือเปล่า?”เธอส่ายหน้าระรัว “ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากมีลูกกับนายเพราะเงินแล้วล่ะ แต่ถ้านายอยากมี ฉันก็อยากมี อีกอย่าง ก็อย่างที่แม่นายบอก ฉันอายุสามสิบเอ็ดแล้ว ถ้าไม่รีบมีตอนนี้ อีกหน่อยจะมียาก”“งั้นผมก็ไม่โกรธเรื่องสัญญาที่คุณทำไว้กับแม่ของคุณหรอกนะ”“แล้ว… ถ้าเรามีลูกกัน ฉันยังจะรับเงินจากแม่ได้ไหมอ่ะ?” เธอถามเสียงอ่อย ใบหน้าแสดงความลังเล เจื่อนลงเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าแอบซน“ไหนบอกว่าไม่คิดจะมีลูกเพราะเงินแล้วไง?” เขาถามกลับ สีหน้าเจือรอยขำแต่แฝงความจริงจัง“ก็ไม่ได้อยากมีเพราะเงินนะ… แค่ถามเฉยๆ เผื่อนายโอเคที่จะให้รับ ลูกจะได้มีทุนการศึกษาไว้บ้าง” เธอรีบอธิบาย เสียงเบาลงอย่างรู้สึกผิดแต่ยังไม่วายมีเหตุผลแนบเนียนอยู่ในคำตอบเขายิ้มบางๆ พอใจที่เธอยังคิดถึง
...และทันทีที่ประตูถูกเปิดออก“แฮปปี้เบิร์ดเดย์!!!!”“แม่!” ราตรีร้องเสียงหลงอย่างตกใจสุดขีด เมื่อเห็นคนที่ยืนถือเค้กอยู่ตรงหน้าไม่ใช่แค่แม่เธอ ยังมีแม่สามี และเพื่อนรักอย่างนันทนาด้วยอีกคนใช่สิ! วันนี้วันเกิดของฉันนี่นา... ลืมไปเสียสนิทเลย!แต่เดี๋ยวก่อน... แม่บอกว่าไปอินเดีย ส่วนยัยนันก็บอกว่าจะไปต่างจังหวัด ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มันอะไรกัน?“เซอร์ไพร้ส์~” ทั้งสามคนพูดพร้อมกันอย่างร่าเริงราตรีหันไปมองผาตะวัน ที่ตอนนี้ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แบบที่เธอไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก“อย่าบอกนะว่าทุกคนร่วมมือกัน...” เธอเอียงคอถามเขาเขาพยักหน้ารับเบา ๆรอยยิ้มของราตรีค่อย ๆ กว้างขึ้น ดวงตาเริ่มคลอด้วยน้ำใส ๆโคตรเซอร์ไพรส์... ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้เลย เค้กสักก้อนก็ยังไม่เคยได้เป่า ไม่คิดเลยว่าชีวิตในวัยสามสิบ ไม่สิ! ต้องสามสิบเอ็ดปีบริบูรณ์ จะมีวันดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้“ไหนแม่บอกว่าไปอินเดียไงคะ” ราตรีเอ่ยถาม ทั้งแปลกใจ ระคนดีใจ“ก็ผาเขาอยากเซอร์ไพร้ส์วันเกิดลูก เลยให้แม่บอกไปแบบนั้น” ตอบพร้อมกับทำปากบุ้ยใบ้ไปทางลูกเขย“แล้วเธอล่ะยัยนัน ไหนบอกว่าจะไปต่างจัง
“มารอผมนานหรือยัง?” เสียงอบอุ่นของผาตะวันดังขึ้น เมื่อเห็นว่าภรรยาสาวมารอเขาอยู่ที่ห้องพัก“สักพักใหญ่ๆ แล้วล่ะ” ราตรีตอบยิ้มจางๆ“ผมชวนน้องดาไปกินข้าวด้วยกันแล้วนะ แต่เธอบอกไม่ค่อยสบาย ผมเลยให้เธอกลับไปพักผ่อน” เขาพูด“กล้ามาก็แปลก… ลองมาสิ แม่จะเอามีดหั่นสเต๊กปักอกให้เลยคอยดู” เธอบ่นพึมพำเบาๆ แต่มากพอให้ผาตะวันได้ยินเขาหัวเราะกับคำขู่ที่แฝงด้วยความหวงอย่างน่าเอ็นดู ก่อนจะบอกว่า “ขอเอาเอกสารไปให้พยาบาลแป๊บนึง เดี๋ยวกลับมานะครับ”เธอพยักหน้ารับ เขาจึงเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวจมอยู่กับความคิดเดิมอีกครั้ง...‘จะยกเลิกสัญญากับแม่ดีไหมนะ… ห้าสิบล้านเชียวนะ’“เป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมดูเหม่อๆ คิดอะไรอยู่หรือเปล่า?” เสียงของผาตะวันเรียกเธอกลับจากภวังค์“อ้าว! มาแล้วเหรอ ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอก” เธอฝืนยิ้ม ก่อนเอ่ยชวนต่อ “ก่อนกลับบ้าน แวะหาอะไรกินกันก่อนนะ”เขามองเธออย่างอ่อนโยน แล้วพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบางๆ ... แต่ลึกๆ เขารู้ดี ว่าเธอกำลัง ‘คิดอะไรบางอย่าง’“ฝึกทำขนมไปถึงไหนแล้ว” ผาตะวันเอ่ยถามขึ้น ขณะเดินเรื่อย ๆ ไปยังที่จอดรถจักรยานยนต์“วันนี้ไม่ได้ฝึกเลย ไปหาเพื่อนมาน่ะ” เธอตอบเสียงใสพลางเด
เมื่อเข้ามาในห้องพัก ผาตะวันค่อยๆ ปิดประตูลงอย่างระวัง ก่อนจะหมุนตัวกลับ หวังจะเดินไปที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันก้าวเท้า ก็ถูกจู่โจม!ริมฝีปากของเธอประทับลงอย่างเร็ว“จุ๊บนี้ไม่มีใครเห็น ถือว่าไม่ผิด~” เธอบอกพร้อมยิ้มตาหวานอย่างภูมิใจเขารีบเดินหนีไปที่โต๊ะ แสร้งทำหน้าดุ แต่ใบหน้าแดงแจ๋ “ทำไมชอบเล่นอะไรแบบนี้เนี่ย”“ฉันรู้ว่านายไม่ชอบไง ฉันเลยอยากทำ~”“ถ้าผมชอบ คุณก็จะไม่ทำใช่มั้ย?”“ก็อาจจะนะ~”“งั้นผม... ก็ไม่ชอบ”จุ๊บ!เธอกระโดดกอดคอเขาแล้วแนบริมฝีปากอีกครั้ง “จุ๊บ จุ๊บๆ ๆ ๆ”เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นอย่างสุขใจ “ใครสอนให้คุณทำตัวน่ารักขนาดนี้เนี่ย?”“นายไง!” เธอยิ้มก่อนจะซบหน้าลงบนอกเขาแน่น“ตั้งใจทำงานนะคะ คุณสามีขา~”“ได้ครับ คุณภรรยา~”เธอปล่อยแขนจากคอเขา แล้วเปลี่ยนเป็นดึงแก้มแรงๆ “คุณสามีน่ารักที่สุดในโลกเลย~”“เจ็บครับ คุณภรรยา...” เขาแกล้งกัดฟันตอบเธอรีบปล่อยมือแล้วลูบแก้มเขาเบาๆ อย่างรู้สึกผิด “ขอโทษ นายเจ็บมากไหม?”“ไม่เจ็บแล้วครับ... คุณกลับบ้านเถอะ ผมจะไปดูคนไข้ต่อ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”“อืม ต่อไปนี้ฉันจะมาส่งนายทุกวันเลย ไม่ต้องห่วง… แล้วก็จะมารับด้วยนะ~ ดีใจไหม?”เขาถอนใจในใ
“ฉันจะจูบนายต่อหน้ายัยนั่น! ให้นางสำลักความรักของเราตายไปเลย!”“หือ? จูบต่อหน้าน้องดา... นี่คือวิธีแก้แค้นของคุณ?”“อื้ม!” เธอพยักหน้าหนักแน่น“ผมไม่เข้าใจจริงๆ ...”“ก็ยัยนั่นชอบนายไง! การจูบนายต่อหน้าคนที่แอบชอบนาย มันก็เท่ากับตบหน้าแบบนิ่มๆ!”“คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ น้องดาเขาไม่ได้ชอบผม”“แหนะ อย่ามาโกหกนะ! ถ้ายัยนั่นไม่ชอบนาย จะมายืนจ้องหน้าฉัน พูดจาดูถูกฉอดๆ ใส่ฉันแบบนั้นเหรอ? แถมยังมาสั่งให้ฉันรีบหย่าอีก บอกว่าเรียนจบแล้วจะได้แต่งงานกับนายทันที!”ผาตะวันคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่รดาเคยทำให้เขา ก่อนจะเอ่ยเบาๆ“ผมคิดกับเธอแค่น้องสาว ไม่คิดว่าเธอจะคิดกับผมมากกว่าพี่ชาย”“นั่นไงล่ะ! ฉันถึงว่า คำที่เขาว่ากันว่า ‘ผู้ชายมักจะโง่เรื่องผู้หญิง แพ้มารยาหญิง’ มันคงจริง เพราะผู้ชายแบบนี้มีอยู่จริง!” เธอสวนกลับอย่างขำปนหมั่นไส้“หายเศร้าแล้วก็พูดเจื้อยแจ้วเลยนะครับ นี่สามีของคุณเองนะคุณราตรี โปรดให้เกียรติกันหน่อย” ผาตะวันยืดตัวตรง ทำเสียงขรึม แกล้งดุอย่างเอ็นดู“ฉันชอบนาย” เสียงของเธอดังขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง มั่นคง เธอเพิ่งจะมั่นใจวันนี้เองผาตะวันอึ้งไปชั่วครู่ ไม่คิดว่าเธอจะพูดออกมาโต้งๆ
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ผาตะวันก็มองหาภรรยาของเขาทันที สายตากวาดไปทั่วชั้นล่างอย่างร้อนใจ แต่กลับไม่พบเธออยู่ตรงไหนเลย ชายหนุ่มจึงรีบขึ้นบันไดไปยังชั้นบน และแล้วก็พบว่า... เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนแต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวขาเข้าไป เสียงแข็งของเธอก็ดังขึ้นมาขวางไว้“ห้ามเข้ามา!”คำสั่งนั้นหยุดเขาไว้กลางอากาศ เท้าที่กำลังก้าวถึงกับค้าง ไม่กล้าขยับต่อ“ทำไมไม่ให้ผมเข้าไป?” เขาถามด้วยน้ำเสียงสับสน“ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย!”ผาตะวันขมวดคิ้วทันที “ผมรีบกลับมา... ก็เพราะอยากอธิบายทุกอย่างให้คุณฟัง”“ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น!”“แต่เราต้องคุยกันนะ” เขายืนยัน พยายามชะเง้อแอบมองใบหน้าของเธอที่หันหลังให้ ยิ่งเขาอยากเห็น ใบหน้าของเธอก็ยิ่งเร้นลับ ยิ่งทำให้ใจเขาเต้นรัวด้วยความเป็นห่วง“ถ้านายเข้ามา ฉันจะปาของทุกอย่างในห้องใส่แน่!” เสียงสั่นเครือแฝงความดื้อดึง ฟังดูคล้ายข่มขู่ แต่จริงๆ แล้วคือความกลัว... กลัวว่าเขาจะเห็นน้ำตา ที่เธอกำลังพยายามกลั้นไว้“มันก็แค่เรื่องเล็กๆ ทำไมคุณต้องโกรธจนถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ มีอะไรก็คุยกันดีๆ สิ เราแต่งงานกันแล้วนะ เป็นสามีภรรยากันแล้ว...” น้ำเสียงของเขาอ่อนลง ก่อนจะค่อยๆ ยกเ