Share

บทที่ 5 พันธผูกจิต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-12 12:00:55

"เป็นเช่นไรเล่าเถียนชี นางอยู่ที่นี่นานกว่าสองชั่วยาม เจ้าแพ้แล้ว" เถียนหยาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเดิมพันกับเถียนชีแล้วเป็นฝ่ายชนะ คาดไม่ถึงว่าสตรีนางนี้สามารถอยู่กับจอมมารฮวาเทียนจิ้งนานกว่าสตรีนางอื่น เดิมทีหากเจ้าสาวบรรณาการใดถูกส่งเข้ามา แทบไม่ถึงหนึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ พวกนางก็ถูกส่งตัวกลับ เถียนหยาเกรงว่าคุณหนูลี่เหยาเหยาผู้นี้คงมีสิ่งน่าสนใจไม่มากก็น้อยเป็นแน่

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นว่าผู้เป็นนายเก็บสตรีนางใดไว้ข้างกายสักราย 

"แพ้ก็แพ้สิ เอาไปผลึกแก้วห้วงเวลาสามชิ้น" 

เถียนหยาเอื้อมมือเข้ารับของวิเศษจากสหายด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง "ขอบใจ" 

เถียนชี "นายท่านให้เจ้าเป็นฝ่ายส่งนาง อีกเดี๋ยวข้าจะตามนายท่านไปยังหอฝึกปราณ นางฟื้นแล้วก็เร่งพานางออกไปเล่า" 

เถียนหยา "ข้ารู้แล้วนา เดี๋ยวนี้เจ้าช่างขี้บ่นอย่างกับมารดาของข้า" 

"ชิ เจ้ามารปากดี" เถียนชีจึงหมุนกายพลันหายวับออกจากหอนอนชั่วพริบตา 

"อื้อ...ปวดหัวจัง" เสียงเล็กเอ่ยกระท่อนกระแท่นดังเบาหวิว 

เถียนหยาที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้ามานานจึงสาวเท้าเข้ามาด้านใน "คุณหนูฟื้นแล้วหรือขอรับ" 

ลี่เหยาเหยาพยายามปรับรูม่านตาของตนให้เป็นปกติ พลางกะพริบถี่ ๆ เพื่อขับไล่ม่านหมอกให้สามารถมองชัดยิ่งขึ้น "เจ้าเป็นใครอีกเล่า" 

"ข้าคือองครักษ์มือซ้ายของท่านจอมมาร หากท่านฟื้นแล้วนายท่านให้ส่งคุณหนูกลับโดยเร็ว" 

"เขาล่ะ" 

"หมายถึงนายท่านหรือขอรับ" 

"อืม..." ลี่เหยาเหยาพยักหน้าหงึกหงัก นางพยายามพยุงร่างของตนขึ้นอย่างทุลักทุเล

"นายท่านมีราชกิจล้นพ้น ไม่สะดวกส่งคุณหนูขอรับ" 

"แล้วใครอยากให้เขาไปส่งกันเล่า คนเผด็จการ โอ๊ะ!" ลี่เหยาเหยาก่นด่าสาปแช่งด้วยสีหน้าหม่นทะมึน ทว่าบริเวณลำคอของนางกลับเกิดอาการเจ็บหน่วงขึ้นมาเสียอย่างนั้น ฝ่ามือนุ่มจึงเอื้อมสัมผัสช่วงลำคอที่ยังทิ้งร่องรอยเขี้ยวแหลมคมเอาไว้

เถียนหยามองการกระทำของลี่เหยาเหยาตาปริบ ๆ เขาสังเกตเห็นรอยแดงบนต้นคอเด่นชัด และพบว่าร่างของสตรีสวมเพียงอาภรณ์ผืนบางปกปิดเอาไว้เท่านั้น ใบหน้าชายหนุ่มจึงรู้สึกร้อนซ่านขึ้นทันควัน เมื่อฉุกนึกได้เช่นนั้นเถียนหยาจึงเร่งหันหลังให้กับหญิงสาวเป็นพัลวัน 

"อะ...แฮ่ม คุณหนูหากท่านแต่งกายเรียบร้อยแล้วก็ตามข้าออกมานะขอรับ ข้าจะไปส่ง" 

ลี่เหยาเหยามองท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของบุรุษเบื้องหน้าด้วยความฉงน ใบหน้างามเหยเกจากอาการเจ็บแปลบ 

"เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ" 

เถียนหยาจึงสาวเท้าเดินออกไปเบื้องหน้า คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยอย่างงุนงง ร่องรอยบนลำคอเช่นนั้น ไม่คิดว่านายของเขาจะกล้าลงมือด้วยตนเองจริง ๆ เดิมทีจอมมารแทบไม่แตะต้องเรือนร่างของสตรีนางใดด้วยซ้ำ  

"เรียบร้อยแล้ว" 

ลี่เหยาเหยามาหยุดยืนเบื้องหลังของเถียนหยาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ พลางค้อมศีรษะให้อีกฝ่ายเล็กน้อย แม้จะเรียกว่าสตรีที่เข้ามาคือเจ้าสาวบรรณาการ หากแต่การเป็นเจ้าสาวจึงต้องนับว่าไม่ต่างจากการแต่งงานและร่วมเป็นภรรยาของท่านจอมมาร เพียงแต่สตรีทุกนางยังไม่เคยถูกแตะต้อง เว้นเพียงการกรีดโลหิตของตนเพื่อส่งมอบให้แก่ฮวาเทียนจิ้งก็เพียงเท่านั้น หลังจากเรียบร้อยแล้ว จอมมารจะให้เถียนหยา หรือไม่ก็เถียนชี เป็นฝ่ายส่งพวกนางเหล่านั้นกลับไปยังถิ่นที่ตนจากมา

ทว่าหลายปีมานี้เถียนหยาได้ยินเรื่องราวหนาหู แต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ใส่ใจความเป็นมาของสตรีเหล่านั้น นัก จึงไม่รู้ความกระจ่างชัดว่าแท้จริงแล้วพวกนางไปถึงบ้านของตนหรือไม่ ทุกคนล้วนร่ำลือว่านายของเขาช่างมีจิตอำมหิต หญิงสาวทุกรายที่ถูกส่งเข้ามายังหุบเขาลึกลับของจอมมารวิหคทองล้วนถูกฆ่าตายทั้งหมด ทั้งที่ตนและเถียนชีมาส่งหญิงสาวออกไปทุกครา ที่น่าแปลกกว่านั้น ฮวาเทียนจิ้งกลับไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจต่อคำครหา เพียงปล่อยให้ข่าวโคมลอยดังกระฉ่อนไปทั่วโดยไม่คิดแยแสหรือแก้ต่างแต่อย่างใด 

เถียนหยาส่งลี่เหยาเหยาไว้บริเวณท้ายหุบเขาเช่นที่เคยทำ แล้วจึงกล่าวลา หนทางข้างนอกล้วนต้องเป็นนางที่บากบั่นไปด้วยตนเองแล้ว เขาไม่สะดวกย่างกรายออกจากหุบเขาลึกลับ เพราะอาจเผลอข้ามแดนไปรบกวนจอมมารวิหคเงินเอาได้ พวกเขาทั้งสองเผ่าล้วนไม่มีความบาดหมางให้ต้องรบรากันมาเนิ่นนานแล้วหากไม่มีฝ่ายใดล้ำเส้น ซ้ำยังร่วมทำพันธสัญญาสงบสงครามนับหลายพันปี

"เดี๋ยว!" ลี่เหยาเหยาร้องทัดทานขึ้น เมื่อเห็นว่าเถียนหยาตั้งท่าจากตนไป 

"คุณหนูมีสิ่งใดหรือขอรับ" เถียนหยาหมุนกายกลับ พลันเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง 

ปกติแล้วหากเขามาส่งสตรีเหล่านั้น ล้วนวิ่งหนีตนให้จ้าละหวั่น รีบถอยห่างจากเขาเสียจนหัวซุกหัวซุน สตรีนางนี้แปลกโดยแท้ นอกจากจะไม่หวั่นเกรง ยังกล้าเอ่ยรั้งตนเอาไว้เสียด้วย 

"คือว่า...ฉัน เอ่อ...ข้าไม่มีบ้านให้กลับ" 

"ไม่มีบ้านให้กลับหรือ" เถียนหยาเลิกคิ้ว

"อือ อือ" ลี่เหยาเหยาพยักหน้าหงึกหงัก 

หลังจากนางได้ออกมาจากคฤหาสน์จอมมาร นั่นจึงทำให้ลี่เหยาเหยานั้นเข้าใจถึงสถานการณ์อย่างแจ่มชัด เธอได้หลุดเข้ามายังโลกอีกใบโดยไม่ทันรู้ตัว ร่างที่เธอเข้ามาอยู่ก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หรืออาจเป็นสตรีนางใดที่ตายไปแล้วยังโลกใบนี้หรือไม่ ลี่เหยาเหยาทราบเพียงยามนี้ความกลัวเริ่มกัดกร่อนจิตใจของนางแล้ว มองไปทางใดก็พบแต่ผืนป่า อย่างน้อย ๆ ชายผู้นี้ควรไปส่งตนให้ถึงหมู่บ้าน หรือพื้นที่ที่มีผู้คนสักแห่งหรือไม่ 

"คุณหนูข้าต้องขออภัย ข้าส่งท่านได้เพียงเท่านี้ เส้นทางข้างหน้าต้องลำบากท่านแล้ว เช่นนั้นเห็นแก่ท่านช่างดูแตกต่างและน่าเวทนายิ่ง ท่านรับสิ่งนี้ไปเถิด" 

เถียนหยายื่นของประหลาดบางสิ่งให้แก่นาง ลี่เหยาเหยาเพ่งมองของสิ่งนั้นด้วยความฉงน "นี่คืออะไรหรือ" 

"นี่คือปีกวิหคทอง หากท่านพบเจอกับอันตรายก็ใช้สิ่งนี้ขับไล่เสีย ข้าคงช่วยท่านได้เพียงเท่านี้จริง ๆ" 

กล่าวจบเถียนหยาจึงหายวับจากไปโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายเอ่ยถามสิ่งใดอีก 

"อะ...อ้าว ไปแล้วเหรอ" ลี่เหยาเหยาเศร้าสลดลง พลางเหลียวมองซ้ายขวา 

"ที่นี่มีแต่ป่า แล้วจะออกไปยังไง น่ากลัวชะมัด ฮวาเทียนจิ้งคนใจแคบ" ลี่เหยาเหยาต่อว่าอีกฝ่ายกระปอดกระแปด แล้วจึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินไปทางทิศตะวันออก ถึงอย่างไรการเดินป่าที่ดีที่สุดก็ควรเดินไปในทางทิศนี้ เพื่อป้องกันการหลงทาง 

เดินมาได้สักระยะลี่เหยาเหยารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง ในป่าช่างเงียบสงัดและน่าหวาดหวั่น

"ฮือ จะใช่ผีป่าหรือเปล่าเนี่ย" 

ลี่เหยาเหยาพยายามรวบรวมสติ ภายในมือกำปีกวิหคทองของเถียนหยาเอาไว้แน่น เมื่อนางรู้สึกคล้ายมีสายตาจับจ้องมาที่ตน แม้ไม่ทราบวิธีใช้งานที่แท้จริงก็ตาม 

อยู่ ๆ กลับมีชายฉกรรจ์ราวห้าคนวิ่งกรูเข้ามาปิดล้อมลี่เหยาเหยาเอาไว้ เท้าเรียวชะงักงัน ร่างกายของนางเริ่มสั่นเทา "พวกคุณเป็นใคร" 

"นายหญิงบอกว่าให้ฆ่านางซะ" เสียงทุ้มดังขึ้น 

ลี่เหยาเหยาเบิกดวงตากว้าง โพล่งออกมาอย่างนึกขลาดกลัว "จะบ้าหรือยังไง ข้ายังไม่เคยมีความบาดหมางใจกับใครที่นี่เลย" 

ชายเหล่านั้นไม่ได้สนใจต่อคำพูดของลี่เหยาเหยาแม้

แต่น้อย กลับยังคงเอ่ยปรึกษากันอย่างออกรสออกชาติ

"เจ้าดูร่างนุ่มนิ่มนี่สิ หากฆ่านางเลยไม่น่าเสียดายหรอกหรือ เล่นสนุกกับนางก่อนสักสองสามชั่วยามนายหญิงไม่มีทางจับได้อย่างแน่นอน" 

"ห้ะ...คิดทำอะไร หยาบช้าที่สุด ถอยออกไปนะ!" 

ลี่เหยาเหยาเอ่ยด้วยความตื่นตระหนก เท้าเรียวพยายามถอยหลัง ทว่าด้านหลังก็ถูกล้อมเอาไว้ ด้านหน้าล้วนไม่ต่าง ชายร่างกำยำย่างกรายเข้ามาหานางเชื่องช้า วงล้อมเริ่มแคบลงเรื่อย ๆ 

ทำไงดีเหยาเหยา ปีกนกไร้สาระนี่ช่วยอะไรได้บ้างนะ

ลี่เหยาเหยากำสิ่งที่เถียนหยาให้มาอย่างเหนียวแน่น ความหวาดกลัวทำให้แรงในการบีบมากขึ้นเสียจนเลือดซิบ 

"คุณหนูคนสวย อย่าได้คิดหนีหรือต่อต้านให้เปลืองแรงเลย หากท่านไม่อยากเจ็บตัวก็อยู่นิ่ง ๆ ให้พวกข้าจับเสียดี ๆ" 

"ไร้สาระ!" 

"ตัวแค่นี้เก่งเสียจริง" 

จู่ ๆ บุรุษสองด้านซ้ายขวาพลันวิ่งกรูเข้ามาจับแขนของลี่เหยาเหยาเอาไว้ 

"ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ" 

เพียะ!

"หุบปาก" 

ลี่เหยาเหยาถูกฝ่ามือกว้างฟาดลงมายังใบหน้าขาวผ่องเสียจนโลหิตไหลซึมลงขอบปาก ซ้ำยังถูกชายผู้นั้นบีบบี้ปลายคางด้วยฝ่ามือหยาบกร้าน บังคับให้นางต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงประดุจผู้วิกลจริต 

"เก่งนักหรือ" 

ลี่เหยาเหยาถ่มถุยน้ำลายเข้าหน้าอีกฝ่าย 

"หน้าตัวเมีย" 

หมัดของบุรุษจึงชกเข้ายังบริเวณท้องของเธอด้วยความรุนแรง ลี่เหยาเหยารู้สึกทั้งเจ็บและจุก ไม่มีแล้วหนทางรอดชีวิต หากต้องแบกรับความอัปยศ ลี่เหยาเหยาขอตายอีกครั้งแล้วอย่าได้ล่องลอยไปที่แห่งใดอีกเลย 

อึ้ก!

ฮวาเทียนจิ้งกระอักโลหิตออกมา พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าและบริเวณท้องของตน 

"นายท่านเกิดสิ่งใดขึ้น!" 

เถียนชีตื่นตกใจ วิ่งรี่เข้ามาประคองผู้เป็นนาย ฝ่ามือกว้างยกขึ้นเพื่อปราม ทว่าลำแสงสีแดงสายหนึ่งกลับสาดสะท้อนเข้าดวงตาของเขา 

"นะ...นี่มัน พันธผูกจิต" 

"หืม..." ฮวาเทียนจิ้ง มองตามสีหน้าตื่นตระหนกของเถียนชี ข้อมือแกร่งมีรอยบากเส้นหนึ่งปรากฏขึ้น

นัยน์ตาสีแดงฉานเบิกกว้าง "สตรีจอมเจ้าเล่ห์ ไปนำตัวนางกลับมา!" 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   ข้าอยากกินหม้อไฟเจ้าค่ะ (ตอนพิเศษ)

    นับจากวันที่พันธผูกจิตสลายไป โลหิตในกายของลี่เหยาเหยาก็แปรผัน จากเดิมที่นางเป็นมนุษย์ยามนี้ได้เปลี่ยนเป็นเผ่ามารเต็มตัว ซ้ำตอนนี้ลี่เหยาเหยายังตั้งครรภ์จอมมารน้อยอยู่ในท้อง ทว่าการตั้งครรภ์ช่างยืดเยื้อยาวนาน เพราะทารกในกายของนางไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไปในแต่ละวันเถียนชีและเถียนหยาต้องวิ่งวุ่นปวดหัวกับนายหญิงอยู่ไม่น้อย เดี๋ยวอยากกินโน้นกินนี่ไปเรื่อย และสิ่งที่ลี่เหยาเหยาต้องการแต่ละอย่างล้วนเป็นอาหารหน้าตาประหลาดทั้งสิ้น"ท่านพี่ ข้าอยากกินหม้อไฟเจ้าค่ะ""เจ้าว่าอย่างไรนะ ชะ...ชาอย่างนั้นหรือ แล้วเจ้าบูที่ว่าหน้าตาเฉกเช่นชาที่ดื่มหรือไม่" จอมมารขมวดคิ้ว พลางครุ่นคิด"หม้อไฟ ไม่เหมือนกันกับน้ำชาเจ้าค่ะ" ลี่เหยาเหยาส่ายศีรษะไปมา"แล้วมันเป็นอย่างไรเล่า"ลี่เหยาเหยาคลี่ยิ้ม พลันเหลียวหน้ามองไปยังเถียนชีและเถียนหยา ทั้งสองสะดุ้งโหยงพลางระบายรอยยิ้มแหย ดูเหมือนนายหญิงของพวกเขากำลังจะทำเรื่องให้มังกรทั้งสองปวดหัวอีกเสียแล้ว"เถียนหยาท่านมานี่" ลี่เหยาเหยากวักมือเรียก"ขะ…ขอรับ" เถียนหยาเ

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 19 การรอคอยที่สิ้นสุดลง

    ทั้งเมืองมารล้วนถูกควบรวมเป็นดินแดนเดียวกัน เมื่อหลายพันปีก่อนสองเผ่าได้ร่วมผูกพันธสัญญาสงบศึก ทว่าจอมมารวิหคเงินเยี่ยนหมิงกลับคิดคดต้องการก่อกบฏยึดครองสองเผ่า เมื่อผู้เป็นนายพ่ายศึก เผ่าวิหคเงินจึงล่มสลาย และแปรพักตร์มาเป็นเผ่ามารวิหคทองลี่เหยาเหยานอนหมดสติมาหลายเดือน ในดินแดนวิหคทองจึงมีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปมาก สวนบุปผาที่นางชอบเที่ยวเล่น ฮวาเทียนจิ้งได้ทำการขุดลอกให้มีธารน้ำตกและสระน้ำเพื่อบ่มเพาะเหลียนฮวา[1]วิเศษ เขาแทบลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง บางคราจอมมารผู้ดูดุดันแทบไม่เหมาะกับสิ่งสวยงามเหล่านี้กลับยืนทอดมองสวนบุปผาทุกเช้าค่ำ"นายท่าน นายท่านขอรับ"ฮวาเทียนจิ้งเหลียวกายกลับ "ว่าอย่างไรเถียนหยา วิ่งหน้าตื่นมาเชียว""นายหญิงฟื้นแล้วขอรับ แต่ว่ายามนี้นายหญิงนาง...""จริงรึ!" ฮวาเทียนจิ้งดีใจแทบไม่อาจเก็บอาการ เนิ่นนานเหลือเกินที่เขาไม่ได้ยิ้มมันออกมา จอมมารหายวับออกจากสวนบุปผาด้วยความรวดเร็ว"อะ...อ้าว นายท่านไยเร่งร้อนนักเล่า" เถียนหยางุนงง เขากล่าวยังไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 18 สองดินแดนรวมเป็นหนึ่ง

    "ฮวาเทียนจิ้ง ดูเหมือนนางจะมีความสำคัญกับท่านจริง ๆ สินะ ไม่พบกันหลายพันปีท่านตัดใจจากซินอี๋ได้แล้วหรือ" บุรุษร่างสูงสวมหน้ากากปีกนกสีเงินลอยเคว้งกลางอากาศระหว่างเส้นแบ่งเขตแดนของเมืองมารทั้งสองฝั่ง ขนาบกายของเขายังมีร่างหญิงสาวไร้สติลอยตัวอยู่ภายในม่านอาคม"เหยาเหยา" นัยน์ตาคมเพ่งมองสตรีในม่านโปร่งแสงด้วยสีหน้าเป็นกังวล พลางเหลียวมองผู้ควบคุมร่างเล็กไว้ ประกายดวงตาสะท้อนเปลวเพลิงแฝงความโหดเหี้ยม แผ่กำจายความกดดันเสียจนบรรยากาศรอบด้านดูอึมครึม"เยี่ยนหมิง ท่านกำลังทำสิ่งใด ตัดใจได้หรือไม่ ย่อมไม่เกี่ยวกับท่าน ปล่อยนาง!มิใช่ว่าทั้งสองเผ่าได้ทำพันธะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน เหตุใดวันนี้จึงตระบัดสัตย์!""อ่า...นั่นสินะ แต่ทว่า ผู้ผูกพันธะได้จากไปนานแล้วไม่ใช่หรือ""ซินอี๋คือน้องสาวของท่าน หรือว่าที่นางจากไปล้วนเป็นฝีมือท่าน!""นางร่างกายอ่อนแอเอง พี่ชายเช่นข้าจะทำร้ายน้องของตนได้อย่างไร อีกอย่างท่านไม่คิดบ้างหรือ สองฝั่งไม่ก้าวก่ายกันมาช้านาน น่าเบื่อยิ่งนัก ไม่สู้มารวมดินแดนให้เป็นหนึ่งน่าสนุกกว่าเป็นไหน ๆ" ภายใต้น้

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 17 ลวงหลอก

    "คุณหนูเจ้าคะ เมื่อคืนนายท่าน นอนร่วมห้องกับคุณหนูเหยาเหยาเจ้าค่ะ ซ้ำยังให้บ่าวทุกคนเรียกนางว่านายหญิง""ห้ะ!! เจ้าว่าอย่างไรนะ" อวี่หนานตะเบ็งเสียงดังลั่น เมื่อได้ยินเรื่องบอกเล่าจากบ่าวคนสนิท"คือว่า...""ไม่ต้องพูดแล้ว!" อวี่หนานกัดฟันกรอดพลันกระทืบเท้าเร้า ๆ นางกรีดร้องอาละวาดเสียจนข้าวของล้มระเนระนาด"คุณหนูใจเย็น ๆ เจ้าค่ะ""ใจเย็นหรือ เจ้าเห็นหรือไม่ มันแย่งท่านพี่ไปจากข้าแล้ว เจี้ยนกั๋ว!""เจ้าคะ""ไป!""ไปไหนเจ้าคะ" เจี้ยนกั๋วกล่าวด้วยสีหน้างุนงง"พานางไปที่ที่ควรไปอย่างไรเล่า" ริมฝีปากสีชาดแสยะยิ้ม"ปวดหัวจัง"ลี่เหยาเหยาพยุงกายขึ้น ร่างกายตอนนี้รู้สึกร้าวระบมเสียเหลือเกิน ทว่าเมื่อฉุกนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาพลอยทำให้ใบหน้างามขึ้นสีชมพูระเรื่อลี่เหยาเหยายกฝ่ามือขึ้นปิดใบหน้า พลางกรีดร้องอยู่ในใจลี่เหยาเหยา นี่แกทำอะไรลงไป ใจง่ายเหลือเกิน เพียงประโยคหว่านล้อมไม่กี่คำก็โอนอ่อนผ่อนตามตาทึ่มนั่นเฉยเลย

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 16 ดับไฟในอก

    เสียงฝีเท้าดังเชื่องช้าเป็นจังหวะ ลี่เหยาเหยานอนขดกายอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยจิตใจไหวระริก คืนนี้จอมมารบอกนางว่าจะเข้ามาพักผ่อน ดังนั้นห้องนี้สมควรคืนเจ้าของแล้วสินะ ภายในห้องมืดสลัวมีเพียงแสงจากเชิงเทียนที่ยังส่องสว่าง ลี่เหยาเหยาแสร้งหลับตา ทว่าลมหายใจของนางกลับไม่เป็นจังหวะเช่นคนนอนหลับเอาเสียเลยดูเหมือนผู้มาเยือนจะรู้ทันกลหมากกระดานนี้ของนาง เจ้าของร่างสูงยอบกายลง พลางเอ่ยขึ้น "เหตุใดลงไปนอนตรงนั้น ไม่เย็นหรือ""...""หึ!""..."เสียงหัวใจของนางดังตึกตักตามช่วงจังหวะการก้าวย่างของบุรุษ ลี่เหยาเหยายังแสร้งว่าตนหลับต่อไป จู่ ๆ ร่างของนางก็ลอยหวือขึ้น ดวงตากลมโตพลอยเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก"ทะ...ทำอะไรคะ""ชู่ว...พื้นมันเย็น อีกอย่างข้าบอกจะมาพักผ่อน หาได้ต้องให้เจ้าไปนอนที่อื่น""แต่ว่าชายหญิงไม่ควรนอนเตียงเดียวกัน"ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มขบขัน เสียงหัวเราะในลำคอดังลอดออกมาเสียจนคนตัวเล็กบนอ้อมแขนงุนงง"ท่านหัวเราะหมายความว่าเช่นไร" ลี่เหยาเหยาหน้างอ

  • คุณหนูข้ามเวลามาพลิกชะตาชายาจอมมาร   บทที่ 15 ทำนองของหัวใจ

    "นายท่านคุณหนูเหยาเหยาขอเข้าพบขอรับ" เถียนชีเอ่ยฮวาเทียนจิ้งกำลังง่วนอยู่กับกองตำราล้นมือพลอยชะงักท่าทีลง ตั้งแต่ลี่เหยาเหยาฟื้นจากอาการป่วย เขาไม่ได้ออกไปพบหน้านางอีกเลย เพียงรอฟังการรายงานความเคลื่อนไหวจากเถียนหยาเท่านั้น"ให้นางเข้ามา"สตรีร่างบางสาวเท้าเข้ามาในหอตำราพร้อมถาดอาหารหอมกรุ่น ฮวาเทียนจิ้งแสร้งลดดวงตามองไปยังตำราดังเดิม ทว่าภายในใจของเขากลับเต้นดังโครมครามอย่างไม่รักดีเถียนหยาที่เดินขนาบข้างลี่เหยาเหยาพลันขยิบดวงตาให้เถียนชีหนึ่งหน พวกเขาจึงค้อมศีรษะและลอบเดินออกจากห้องอย่างแนบเนียน"เป็นอย่างไรแผนการของข้า ใช้ได้ผลหรือไม่เล่า" เถียนหยากล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิ"ดีมาก ว่าแต่เจ้าโน้มน้าวคุณหนูเช่นไรเล่า" เถียนชีเอ่ยถามเมื่อนึกถึงวิธีการแล้ว เถียนหยาพลอยกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอด้วยความยากลำบาก แต่ก็เอาเถิด ถึงแม้เขาจะโดนแซ่โบยจนหลังขาดก็นับว่าทำเพื่อความสุขเจ้านายของตน"ข้าเล่าเรื่องนั้นให้นางฟัง" เถียนหยากล่าวด้วยสีหน้าเจื่อนลง"หา...ปั๊ดโธ่ เจ้าบื

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status