“เรื่องที่พ่อแม่รักหรือไม่รักฉันรู้ดีที่สุด เธอพึ่งกลับเข้ามาที่บ้าน เรื่องบางอย่างอาจจะไม่รู้เท่าคนที่อยู่มาเป็นสิบ ๆ ปี เอาแค่เรื่องของตัวเองก่อนเถอะ เธอก็รู้ไม่ใช่หรอว่าเยาวชนเป็นตัวตนที่รัฐควบคุมอยู่ เธอจะให้ฉันไปดูแลเธอยังไงล่ะ ไหนเธอลองบอกฉันหน่อยแล้วกัน ถ้าช่วยได้ฉันก็จะช่วย”ไอ้เรื่องบุญคุณพ
“ไสหัวไปให้พัน พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ ฉันเป็นน้องของพี่นะ ถึงจะไม่ใช่พี่น้องกันจริง ๆ แต่พี่ก็กินอยู่บ้านฉันมาตั้งกี่ปี ทำไมถึงมาบอกว่าเราไม่ใช่พี่น้องกันล่ะคะพี่ ฮึก”ซ่งหนิงหนิงร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้น เธอตัดพ้อเสียงดังจนชาวบ้านที่กำลังจะเดินไปทำงานในไร่หันมาสนใจ อันที่จริงบ้านของเซียนอวี่ก
ทางฝั่งของหมิงหานเองก็ไม่ได้ต่างกันมา เขานอนเม้มปากคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำไปเมื่อครู่อยู่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำลงไปจริง ๆ ในตอนที่กำลังจะเข้านอน อยู่ ๆ เขาก็คิดว่าอยากไปบอกฝันดีเซียนอวี่สักหน่อย ทั้งที่ตั้งใจจะไปบอกฝันดีเท่านั้น แต่กลับเผลอดึงอีกคนเข้ามากอดด้วย กว่าจะรู้สึกตัวก็เอาเขามากอดแล้ว สุดท้
เซียนอวี่รับจดหมายมาแล้วก็ไม่ได้เปิดอ่านในทันที เธอเอามันไปวางไว้บนโต๊ะในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะออกไปหาทำอย่างอื่น เช่นนั่งดูหมิงหานทำงานอยู่นอกบ้านตกเย็นเธอก็ไปทำอาหาร วันนี้ได้พักมาทั้งวัน แถมยังรู้สึกดีแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เซียนอวี่ก็เลยลงมือทำอาหารหลายอย่าง มีทั้งหมูสามชั้นตุ๋นพะโล้ มีทั้งไก่
หมิงหานอดยิ้มด้วยความเขินอายไม่ได้ การมีคนมาคอยมองตอนทำงานแบบนี้ทำให้เขาไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่ เพราะต้องทำงานคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะทำไร่ไถนา หรือแม้แต่เข้าป่าเขาก็ต้องทำคนเดียว พอมีเซียนอวี่มานั่งดูก็อดตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆ“นี่ ลูกไก่ตัวนั้นจะถูกนายบีบตายแล้วนะหมิงหาน เดี๋ยวไก่ตัวนั้นก็ตายหรอก
หลังจากตกลงว่าจะลองศึกษากันอย่างจริง ๆ จัง ๆ เสร็จ ทั้งสองคนก็แยกกันนอนห้องใครห้องมัน แม้ว่าคืนนั้นจะไม่มีใครนอนหลับเลยสักคนก็ตาม หัวใจของแต่ละคนต่างเต้นกับตุบตับ กว่าจะหลับก็ฟ้าเกือบสว่างเพราะอย่างนั้นทั้งหมิงหานและเซียนอวี่เลยพร้อมใจกันตื่นสายทั้งคู่ เซียนอวี่ที่ตื่นขึ้นมาในยามสายตกใจจนรีบเด้งตัว