LOGINหลังจากที่ฉันได้บอกกับพ่อแม่ไปแล้วก็เหมือนจะไม่มีใครเชื่อว่าฉันจะอยากเรียนพยาบาลจริงๆ แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่องที่ว่า แค่ฉันชอบหมอก็จะเรียนพยาบาลเลยหรอ มันก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งคือคุณย่าขอเพราะฉันดูแลเวลาทุกคนในบ้านไม่สบาย ฉันคือคนที่คอยช่วยคุณแม่ทำหน้าที่ต่างๆ พวกเฮีย น้องสาว ตัวร้อนก็ฉันคอยเช็ดตัว หายาให้หรือฉันจะชอบงานพยาบาลจริงๆ ก็ยังไม่รู้แต่ยิ่งรู้ว่าคุณหมอเป็นคนใจดี ช่วยเหลือคนอื่น ดูแลรักษาคนไข้เป็นสิ่งที่เขาเลือกอันดับแรก
ในระหว่างที่ฉันกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ภายในห้องนอนของตัวเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงพูดของคุณแม่ "แม่เข้าไปนะลูก" แม่เอ่ยพร้อมกับเปิดประตูเข้ามาในมือถือแก้วนมเดินตรงมาหาฉันก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ลงมานะข้างๆ "ดื่มนมก่อนสิลูก"แก้วนมอุ่นๆ ถูกยื่นส่งมาให้ฉัน "ขอบคุณค่ะ" ฉันเอ่ยขอบคุณก่อนจะรับมาดื่ม "แม่ถามจริงๆ นะลูก หนูอยากเรียนเป็นพยาบาลจริงๆ หรอคะ" "จริงค่ะ หนูคิดดีแล้ว" "ลูกเนี่ยนะจะเป็นพยาบาล แค่เห็นเข็มก็ร้องลั่นแล้ว!" "แม่คะ!!! นั่นแต่ตอนเด็กๆของหนู ตอนนี้หนูโตแล้วนะคะ แค่เข็มถึงจะแหลมจิ้มแขนเจ็บแต่หนูทนได้ค่ะ!" ฉันเอ่ยตอบแม่กลับไปก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน แม่ยิ้มก่อนจะยื่นมือมาลูบผมฉันเบาๆด้วยท่าทางอ่อนโยน "ถ้าลูกคิดว่ามันคือสิ่งที่ลูกเลือกแล้วลูกสามารถทำมันได้ ลูกทำได้เลยนะแม่กับพ่อจะคอยช่วยลูกอยู่ข้างหลังเสมอ ความสุขของลูกแม่ไม่ขัด" "ขอบคุณนะคะ หนูรักแม่ที่สุดเลย" จบประโยคฉันก็โผลเข้าไปกอดแม่แน่น อ้อมกอดของแม่อบอุ่นจัง "รักแม่หรือรักหมอกันแน่" เอ๊ะ! แม่ว่าอะไรนะ ฉันผละกอดออกแล้วมองหน้าแม่ก่อนจะเม้มปากแน่น "ไม่ต้องมาหน้าแดง ทำเป็นเขินใส่แม่นะ ชอบเขาเพราะอะไรล่ะ?" "ชอบเพราะเขาเป็นคนดี ใส่ใจคนอื่น รอยยิ้ม คำพูดการกระทำที่แสนอบอุ่นที่เขามอบให้มันดีมากๆเลยนะคะแม่ อีกอย่าง...เขา...หล่อค่ะ ฮ่าๆๆ" แป๊ะ! ปลายนิ้วทั้งห้าของแม่ตีลงมายังหน้าผากของฉัน "เอ๊อะ! แม่คะก็มันจริงนี่ ไม่เชื่อแม่ลองถามคุณพ่อดูสิคะ คุณย่า คุณปู่ก็เห็น ว่าที่ลูกเขยแม่ในอนาคตเลยนะคะ" "เดี๋ยวเถอะเรา แก่แดดนะเดี๋ยวนี้ คุณหมอเขามีแฟนรึยังก็ไม่รู้ กว่าลูกจะเรียนจบเขาไม่แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วหรอ หื้ม!" ประโยคของคุณแม่แอบทำฉันรู้สึกว่ามันก็จริง ถ้าวันนั้นที่ฉันเรียนจบ คุณหมอแต่งงานมีแฟน มีครอบครัวล่ะ ไม่ได้ๆ ฉันรีบลุกเดินไปที่หน้าต่างยกมือสองข้างคือมากุมเข้าหากัน "ดวงจันทร์เจ้าขา ได้โปรดอย่าพึ่งให้คุณหมอสุดหล่อของหนูมีแฟน มีครอบครัว หรือแต่งงานก่อนเลยนะเจ้าคะ ขอให้เขาโสดไปนานๆ นานเท่านานจนกว่าหนูจะจีบติด เพี้ยง!" มินตราที่ยืนมองลูกสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาเธอยิ้มอย่างเอ็นดูในสิ่งที่ลูกสาวทำ เด็กคนนี้จริงจังกับทุกเรื่องจริงๆ หลังจากนั้นเธอก็ตั้งใจอ่านหนังสือ เรียนพิเศษและหาแนวทางต่างๆ ในการส่งเสริมการเป็นพยาบาลในทุกๆ วันไม่ว่าจะเวลาไหนในมือเธอจะมือหนังสืออยู่ด้วยตลอด เธอแทบจะไม่ละสายตาไปจากตัวหนังสือเลยแม้แต่น้อย ปึก! เสียงกระทบกับผนังห้องอาหารดังขึ้นจนเรียกสายตาทุกคนที่นั่งรอทานอาหารอย่างพร้อมหน้า ร่างเล็กของควีนล้มไปนั่งลงกับพื้นพร้อมกับมือที่กุมเข้าที่หน้าผาก "เจ็บมั้ยละ" เสียงเข้มของคนที่เดินเข้ามาตามหลังเอ่ยถามก่อนจะช่วยพยุง "เจ็บสิคะเฮีย หัวโขกกับผนังนะ เนี้ยมันแข็งไม่ใช่ปุยนุ่นที่จะได้ไม่เจ็บอ่ะค่ะ!" "ลูกวางหนังสือลงก่อนก็ได้นะคะ ถึงเวลาทานข้าวแล้ว เสร็จค่อยกลับไปอ่านต่อก็ได้เชื่อป๊าสิ แด๊ดโรม ป๋าแทน กับพ่อคิมเรียนหมอยังไม่ติดหนังสือเลยลูก ป๊าเชื่อว่าหนูทำได้ยังไงลูกสาวป๊าต้องเป็นพยาบาลได้แน่นอนค่ะ" รามเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม "หนูวางมันลงสักหน่อยนะคะ แด๊ดว่าหนูควรพักสายตาบ้างนะ จ้องมากๆเดี๋ยวจะปวดตาเอา มองสิ่งรอบๆ ไปเที่ยวสมองกับเพื่อนสักหน่อยช่วยผ่อนคลายได้นะคะ"โรมเอ่ยบอกเขาก็เป็นห่วงที่เห็นเธอเอาแต่จ้องหน้งสือตลอด ไหนจะต้องเรียนอีก "พ่อว่าควีนควรฟังหน่อยนะลูก การที่หนูอยากทำมันให้สำเร็จไม่มีใครห้ามแต่หนูควรดูแลตัวเองด้วยนะลูก"คิมบอกลูกสาวตนเองอย่างอดห่วงไม่ได้ "ป๋ารู้นะว่าควีนอยากทำให้ได้การเรียนพยาบาลมันเหนื่อยนะ หนูลองเปลี่ยนการใช้เวลาดูนะลูกเดี๋ยวช่วงสอบหนูจะได้ไม่เครียด นี่เดือนหน้าก็จะถึงแล้วหนูต้องเตรียมตัวอย่าให้ตัวเองเครียดจนเกินไปนะลูก วางหนังสือแล้วมาทานข้าวครับ" แทนเอ่ยจบพร้อมออกคำสั่ง เมื่อพ่อๆ ออกปากใครจะกล้าขัดหนังสือถูกวางลงบนโต๊ะก่อนที่ร่างเล็กจะเดินลงไปนั่งข้างๆ พีชายฝาแฝดของตัวเอง "ความพยายามในการเรียนก็ดีอยู่นะ แต่พยายามเพื่อการเป็นพยาบาลอย่างเดียวจริงหรอ หื้ม!" ไอเฮียคิงปากนี้จะหาเรื่องกันใช่มั้ย "แน่นอน! คนอย่างควีนตั้งใจทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ ไม่เหมือนใครบางคน หึ!" เธอย่นจมูกใส่ก่อนจะแลบลิ้นออกมาให้คนตรงหน้า "พ่อครับ ที่ควีนมันอยากเป็นพยาบาลเพราะคุณหมอที่รักษาคุณย่าต่างหาก คุณหมอสุดหล่อของไอควีนมัน" "ปากนี้มีหมากี่ตัว หุบปากไปเลยนะ" "หมอคนนั้นหรอ? ลูกชอบหรอคะ?"คิมเอ่ยถามลูกสาว "แผนกหัวใจหรอ?" แทนถามคิมด้วยความสงสัย "ครับเฮีย แผนกหัวใจหมอมือดี หน้าตาหล่อแต่น้อยกว่าผมตอนหนุ่มๆ" คิมเอ่ยก่อนที่ประโยคสุดท้ายของเขากลับทำให้ทุกคนหลุดหัวเราะออกมา "แก่แล้วนะคิม ปล่อยให้เด็กได้เกิดหน่อยเถอะ แล้วมึงรู้จักหรอ?" รามเอ่ย "พอจะรู้อยู่บ้าง หมอหนุ่มหน้าตาดี การทำงานดี มีความสามารถในการรักษาเด็กคนนี้อนาคตไกลอยู่ แต่ลูกยังเด็กนะควีนเขาอายุเท่าไหร่กว่าหนูจะเรียนจบ" แทนตอบกลับอย่างรู้จักดีก่อนจะหันไปคุยกับควีนต่อ "อายุไม่ใช่ปัญหาสักหน่อยค่ะ ที่ตอนนั้นหนูอายุแค่สิบเก้าพวกป๋าอายุตั้งเท่าไหร่คะแก่กว่าหนูตั้งหลายปี ยังมาอยู่ด้วยกันได้เลยแถมลูกเป็นคอกอีกต่างหาก เดินหน้าไปเลยลูกลุยค่ะ!"มินเอ่ยด้วยท่าทางที่ไม่ยอมสามี ที่ตัวเองอายุตั้งเท่าไหร่ กว่าลูกจะจบหมอก็อายุไล่เลี่ยกับพวกเขาสมัยหนุ่มๆ นั่นแหละ ทำพูดเข้า "หนูนั่นลูกคนใช่มั้ยมาเป็นคอกเลย"โรมเอ่ยถามภรรยาก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังขึ้น "ลูกยังเด็กนะมีโอกาสจะเจอคนอีกเยอะลูก ป๋าได้แค่บอกแต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวหนู" "ค่ะ ขอบคุณป๋านะคะแต่หนูเชื่อค่ะ เชื่อในพลังแห่งรักของหนู" เธอเอ่ยขึ้นก่อนจะยิ้มตาหยี่ "เชื่อลูกเถอะ กินข้าว!" รามเอ่ยขึ้นก่อนที่ทุกคนจะเริ่มทานอาหารพร้อมกัน เดือนต่อมาในการสอบเข้าเรียนในรั่วมหาลัยเป็นกันสอบที่ต้องแข่งขันกัน แต่เธอเชื่อว่าตัวเองทำได้ หลังจากนั้นมาเธอรอฟังผลการสอบอยู่ที่บ้าน ปิดเทอมเธอก็คอยอ่านหนังสือ และค้นหาวิดีโอการศึกษาดู แทบจะไม่เคยออกไปเที่ยวไหนเลยจนวันประกาศผลสอบออก รายชื่อบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คโชว์ขึ้นเธอลุ้นผลจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะและแล้วในที่สุดเธอก็ทำได้ ร่างเล็กกระโดดวิ่งไปมาพร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นบ้าน "อร๊ายยยยยย! กรี๊ดดด! ผ่านแล้ว หนูสอบผ่านแล้ว ผ่านแล้ว กรี๊ดดดด!" เมื่อทุกคนในบ้านรู้ก็พากันดีใจและจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นให้กับนิสิตคนต่อไปของบ้าน คนที่ดีใจที่สุดคงจะเป็นย่าของเธอที่นั่งมองหลานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร คุณเชื่อมั้ยยัยควีนจะต้องเป็นพยาบาลที่ดีคนหนึ่งได้แน่นอน" "ผมเชื่อหลานคนนี้มีจิตใจที่บริสุทธิ์เด็กแบบนี้ทำงานที่ไหนก็มีแต่คนรัก คนเอ็นดู ไม่น่าเชื่อยิ่งเราแก่หลานๆ ก็กำลังโตขึ้น" 'ขอบคุณนะตัวเราที่พยายามจนสำเร็จมาอีกขั้น รอหน่อยนะคะคุณหมอหนูกำลังตามไปให้ถึงจุดเดียวกับคุณหมอนะคะ'หลังจากคืนนั้นที่ฉันทำแบบนั้นไปกับคุณหมอก็รีบเดินหนีฉันทันที ไม่ใช่ว่าเขาเกลียดฉันไปแล้วนะ ม้ายยย!!! ฮือออ!! แต่ฉันไม่ล้มเลิกความพยายามหรอกนะ ก็เขาพูดเอาว่ายังไม่มีใครแสดงว่ายังโสดงั้นก็คงต้องเดินหน้าต่อสินะ"นั่งยิ้มทั้งวันไปเป็นอะไรไปเนี้ยควีน?"หญิงเอ่ยถาม"เป็นคนสวย!"จบฉันก็เดินนำทั้งคู่ออกมาทันที โลกของฉันมันสดใสจริงๆ "ตั้งแต่คืนนั้นมันก็ยิ้มไม่หยุดเลย เหงือกแห้งแล้วมั้ง!"เอมเอ่ยคุยกับหญิงก่อนทั้งคู่จะหลุดขำออกมามันก็จริงอย่างที่พูดเพื่อนของพวกเธอดูแปลกไปจริงๆชีวิตฉันวนเวียนเรียนสอบ จบปุ๊บได้ทำงานปั๊บแต่......มันไม่เหมือนที่ฉันคิดเลยสักนิด!แผนกโรคหัวใจCCU"น้องควีนอย่าลืมฉีดยาให้คนไข้ด้วยล่ะ" หัวหน้าพยาบาลเอ่ยบอกด้วยใบหน้าที่วาดยิ้ม"ค่ะ พี่นุช" จบฉันก็รีบเดินไปเตรียมของก่อนจะเข็นอุปกรณ์ที่เตรียมตรงไปยังห้องพักฟื้นผู้ป่วย"เป็นยังไงบ้างคะคุณลุง เดี๋ยววันนี้ฉีดยาสักหน่อยนะคะ" ฉันเอ่ยบอกกับคุณลุงที่นอนยิ้มอยู่บนเตียง ลุงป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วพึ่งแอดมิทเมื่อสามวันก่อนอาการไม่ค่อยสู้ดีนักแต่ใบหน้าคุณลุงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม"ครับผม แต่ลุงขอเข็มเล็กๆนะหนู หมอมาทีไรเข็มใหญ่ทุกที ลุงเจ็
ตอนนี้ฉันเข้าเรียนได้สองเดือนแล้วในแต่ละวันมันก็ไม่ได้ง่ายเลยสำหรับฉัน แต่ถ้าทำไม่เป็นก็แค่ฝึกฝนกับมันการเรียนตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ของฉันทั้งเรียน ทั้งลงปฏิบัติงานขึ้นวอร์ดเปลี่ยนวอร์ดไปเรื่อยแทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือแต่ก็ได้ป๋าแทนช่วยสรุปทุกอย่างให้อ่านได้เข้าใจง่าย พ่อคิม แด๊ดโรมก็ช่วยหาสรุปการสอบมาให้ทั้งที่ตัวเองเรียนหมอมาน่ารักที่สุดปีสุดท้ายที่เรียนของฉันกว่าจะผ่านมาได้มันก็ไม่ง่ายเลย เครียดด้วยกลัวเวลาเข้าทำงานจริงๆจะรับมือได้ดีเหมือนตอนฝึกปฏิบัติมั้ย ที่ทำงานจะโอเคมั้ย มันจะเหนื่อยกว่าตอนฝึกมั้ย แต่ในเมื่อเลือกแล้วไม่มีถอยค่ะวันนี้เลยเลือกมาดื่มแก้เครียดสักหน่อย"ควีนนีคือแกจริงดิ ตอนเรียนกับตอนเที่ยวต่างกันมาก" หญิงเพื่อนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นชุดที่ฉันใส่"มันก็ต้องมีบ้างแหละคุณหนูแบบมันจะแต่งตัวซอมซ่อมาเที่ยวหรอ" เอมเอ่ยก่อนที่จะพากันหัวเราะ"มันเหนื่อยนะนี่แค่เรียนเองยังมีเวลาเที่ยวอยู่บ้างถ้าทำงานจริงๆ คงมีเวลาน้อยงั้นวันนี้เต็มที่ไปเลย วู้ว!" ฉันเอ่ยพร้อมกับพากันเดินเข้าไปในผับแห่งหนึ่งพอเข้ามาถึงเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแถมคนยังเยอะมากด้วยแต่ฉันจองไว้ก่อนแล้วสบายหน่อยโซนวีไอพ
หลังจากที่ฉันได้บอกกับพ่อแม่ไปแล้วก็เหมือนจะไม่มีใครเชื่อว่าฉันจะอยากเรียนพยาบาลจริงๆ แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่องที่ว่า แค่ฉันชอบหมอก็จะเรียนพยาบาลเลยหรอ มันก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งคือคุณย่าขอเพราะฉันดูแลเวลาทุกคนในบ้านไม่สบาย ฉันคือคนที่คอยช่วยคุณแม่ทำหน้าที่ต่างๆ พวกเฮีย น้องสาว ตัวร้อนก็ฉันคอยเช็ดตัว หายาให้หรือฉันจะชอบงานพยาบาลจริงๆ ก็ยังไม่รู้แต่ยิ่งรู้ว่าคุณหมอเป็นคนใจดี ช่วยเหลือคนอื่น ดูแลรักษาคนไข้เป็นสิ่งที่เขาเลือกอันดับแรกในระหว่างที่ฉันกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ภายในห้องนอนของตัวเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงพูดของคุณแม่"แม่เข้าไปนะลูก" แม่เอ่ยพร้อมกับเปิดประตูเข้ามาในมือถือแก้วนมเดินตรงมาหาฉันก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ลงมานะข้างๆ"ดื่มนมก่อนสิลูก"แก้วนมอุ่นๆ ถูกยื่นส่งมาให้ฉัน"ขอบคุณค่ะ" ฉันเอ่ยขอบคุณก่อนจะรับมาดื่ม"แม่ถามจริงๆ นะลูก หนูอยากเรียนเป็นพยาบาลจริงๆ หรอคะ""จริงค่ะ หนูคิดดีแล้ว""ลูกเนี่ยนะจะเป็นพยาบาล แค่เห็นเข็มก็ร้องลั่นแล้ว!""แม่คะ!!! นั่นแต่ตอนเด็กๆของหนู ตอนนี้หนูโตแล้วนะคะ แค่เข็มถึงจะแหลมจิ้มแขนเจ็บแต่หนูทนได้ค่ะ!"ฉันเอ่ยตอบแม่กลับไปก่อนจะส่งยิ้มให้
แคร๊ก! แคร๊ก! คลืด~"ผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก แต่ยังมีสติค่ะเราได้ทำการให้ออกซิเจนและปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาก่อนแล้วค่ะ"เสียงของพยาบาลสาวผู้ชำนาญเอ่ยร่ายประโยคยาวให้กับแพทย์เฉพาะทาง เขาพยักหน้ารับและรีบเดินตามทันที สายตาคู่คมเหลือลงไปเห็นเด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายใบหน้าเปื้อนน้ำตาเธอเกาะเตียงเข็นผู้ป่วย"คุณย่าขา อย่าเป็นอะไรนะคะคุณพ่อกำลังมาค่ะ ฮึก! คุณย่าต้องอดทนนะคะ ฮึกๆ" เธอร้องสะอื้นพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือเล็กกอบกุมมือเหี่ยวย่นด้วยแรงที่บีบแน่น คุณย่าเป็นคนที่ใจดีกับเธอมาก ตั้งแต่เล็กจนโตคุณย่าจะตามใจเธอมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ หลานสาวคนเดียวจะไม่ให้รักได้ยังไงเขามองเธอสลับกับคนป่วยก่อนที่เตียงจะถูกเข็นเข้าไปยังห้องผ่าให้รออยู่ด้านนอก ร่างเล็กสั่นเทาเธอกลัว กลัวว่าจะเสียย่าอันเป็นที่รักไป เธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งมือหนาของใครคนหนึ่งมาแต่ลงที่ไหล่ของเธอ ใบหน้าหวานที่เปื้อนเต็มไปด้วยคราบน้ำตาค่อยๆ เงยขึ้นมามองร่างสูงตรงหน้า"อย่ากลัวไปเลยนะ ย่าของหนูต้องปลอดภัย ฉันจะช่วยย่าของหนูเองรอนะ รอตรงนี้รอฉันออกมาบอกหนู" จบประโยครอยยิ้มแสนอบอุ่นก็เผยขึ้นบนใบหน้า มือหนายื่น






![นางบำเรอ [5P]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
