Share

บทที่ 5

Author: อวินจงมี่
หลายปีมานี้ อวี้มั่วซวินและหรงฉือแทบไม่ได้เจอกันเลยจริงๆ

แต่หลังจากเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง อวี้มั่วซวินก็มองออกว่าเธอในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่กระตือรือร้นเหมือนแต่ก่อน

เมื่อนึกถึงหรงฉือในตอนนั้น เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งคำว่ามีปมด้อยจะถูกใช้กับหรงฉือ

อวี้มั่วซวินไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของหรงฉือและเฟิงถิงเซิน

แต่ก็พอรู้มาบ้าง

เขาเพียงคาดเดาอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน เพียงพูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ไม่สำคัญว่าคุณจะตามหลังไปสักระยะหนึ่ง ความสามารถและพรสวรรค์ของคุณ ไม่ใช่อัจฉริยะทั่วไปจะเทียบได้ เสี่ยวฉือ ตราบใดที่คุณยังมีใจที่จะเดินตามเส้นทางนี้ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่”

“อย่าลืมว่าคุณเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ภูมิใจที่สุดในชีวิตการเป็นอาจารย์”

หรงฉือได้ฟังแล้วก็ยิ้ม “ถ้าอาจารย์ได้ยินเข้า ฉันเกรงว่าเขาคงจะเยาะเย้ย และบอกว่าเขาถูกบังคับให้เลือกคนที่ดีที่สุดจากหมู่คนที่แย่ที่สุด”

เมื่อนึกถึงอาจารย์ผู้สง่างามและปากร้ายในอดีต รอยยิ้มของหรงฉือก็จางลง “เมื่อกี้ฉันเห็นในข่าวว่าอาจารย์ท่านก็กลับมาร่วมงานฉลองครบรอบด้วย ท่านยังสบายดีไหม”

“สบายดี เพียงแต่ลูกศิษย์ที่มักทำให้ท่านขายหน้าอยู่เรื่อยๆ อย่างพวกเราจะไปปรากฏตัวให้ท่านเห็นบ่อยๆ ซึ่งมันทำให้ท่านรำคาญมาก”

หรงฉือจึงหัวเราะออกมา และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันเวลาที่เคยถูกอาจารย์ผู้มีพระคุณกดดันให้เขียนวิทยานิพนธ์ทุกวันในสมัยนั้น

อวี้มั่วซวินเอ่ยว่า “กลับมาเถอะ เสี่ยวฉือ”

หรงฉือจับแก้วชาแน่นขึ้น หายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้า “ตกลง”

เธอเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เธอรักในสาขานี้มาก

เธอละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองเป็นเวลาหกเจ็ดปีเพราะรักเฟิงถิงเซิน

เธอจากไปหกเจ็ดปีแล้ว อาจต้องใช้เวลาอย่างมากในการตามให้ทัน

แต่เธอเชื่อว่าตราบใดที่เธอพยายาม ทุกสิ่งอย่างก็ย่อมเป็นไปได้

อวี้มั่วซวินถามอีกว่า “คุณจะกลับมาได้เมื่อไหร่”

“ตอนนี้ยังต้องรอให้มีคนมารับงานปัจจุบันต่อจากฉัน เกรงว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง”

“ไม่เป็นไร ยังไม่รีบร้อนตอนนี้”

ในเมื่อเธอกลับมาได้ รอต่อไปอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป

ทั้งสองพูดคุยกันต่อสักพักหนึ่ง อวี้มั่วซวินมองดูเวลาแล้วพูดว่า “ลูกน้องแนะนำอัจฉริยะด้านอัลกอริธึมคนหนึ่งให้ผม ได้ยินมาว่าเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเรานัดกันไว้ว่าจะเจอกันในอีกสักพัก และในเมื่อเราบังเอิญเจอกันพอดี ไปเจอเขาด้วยกันกับผมไหม”

หรงฉือส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้จักลูกน้องของคุณด้วย ไว้ครั้งหน้าเถอะ”

“ก็ได้”

อวี้มั่วซวินเพิ่งออกไป หรงฉือก็เห็นเฟิงถิงหลิน ซึ่งเป็นพี่สาวของเฟิงถิงเซินเดินมาหาเธอ

หรงฉือก็เห็นเธอในข่าวด้วย

แต่ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเธอที่นี่

หรงฉือทักทายว่า “พี่ถิงหลิน”

เฟิงถิงหลินไม่ตอบ แต่มองเธอและถามด้วยความสงสัยว่า “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“วันนี้เป็นวันฉลองครบรอบของมหาลัยตงฟาง ฉันก็เลยกลับมาดูสักหน่อย”

ถ้าหรงฉือไม่พูด เฟิงถิงหลินก็ลืมไปเลยว่าเธอก็สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตงฟาง

แต่นอกจากอาจารย์และนักศึกษาในมหาลัยแล้ว คนที่กลับมาร่วมงานในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญจากมหาลัย

ส่วนคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงอย่างหรงฉือมาร่วมสนุกอะไรด้วย?

แต่ก็ช่างมันเถอะ

ตราบใดที่เธอไม่ไปพูดจาไร้สาระข้างนอก และทําให้ตระกูลเฟิงต้องอับอาย เธอก็ไม่อยากยุ่งด้วย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฟิงถิงหลินก็พูดตรงๆ ว่า “เสี่ยวหมิงบอกว่าอยากทานอาหารที่เธอทำ เดี๋ยวฉันจะให้คนพาเขาไปส่งหาเธอกับถิงเซิน”

เสี่ยวหมิงเป็นลูกชายของเฟิงถิงหลิน ซึ่งโตกว่าเฟิงจิ่งซินหนึ่งหรือสองปี

ระหว่างเฟิงถิงหลินและสามีไม่ค่อยลงรอยกัน หลายปีก่อนเฟิงถิงหลินยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาดูแลลูก ลูกของพวกเขาจึงเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตอนนี้เธออยากจะดูแลลูก แต่ก็ยากเกินกว่าที่จะจัดการได้

เมื่อรู้ว่าลูกชายชอบอาหารที่เธอทํา พอมีเวลาว่างเฟิงถิงหลินก็ส่งลูกชายไปหาเธอและเฟิงถิงเซินตลอดช่วงสองปีนี้

คนในตระกูลเฟิงไม่มีใครให้ความสำคัญกับเธอเลย ยกเว้นคุณหญิง

เด็กโตมักจะชอบเลียนแบบคนอื่นมากที่สุด

แม้ว่าลูกชายของเฟิงถิงหลินจะชอบอาหารที่เธอทำ แต่กลับรู้สึกดูถูกน้าสะใภ้อย่างเธอในใจลึกๆ และทุกครั้งที่มาหาเธอก็แทบจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นแม่บ้านอย่างไงอย่างงั้น

ก่อนหน้านี้หรงฉือปฏิบัติกับลูกชายของเฟิงถิงหลินอย่างเต็มที่เพราะเฟิงถิงเซิน และไม่ถือสากับความก้าวร้าวของเด็กน้อยเลย

แต่ตอนนี้เธอเตรียมจะหย่ากับเฟิงถิงเซินแล้ว เธอไม่อยากลำบากตัวเองเพื่อเฟิงถิงเซินอีกต่อไป

ดังนั้นหรงฉือจึงปฏิเสธตรงๆ ว่า “ขอโทษนะคะพี่ถิงหลิน พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง”

ในเมื่อเธอตัดสินใจจะกลับสู่สาขาวิชาชีพเดิม ต่อไปในอนาคตเธอจะให้ความสำคัญกับงานของเธอเป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นเฟิงถิงเซินหรือเฟิงถิงหลิน หลังจากหย่าร้างเธอก็ไม่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาอีกต่อไป

เธอจะไม่เสียเวลาให้กับพวกเขาอีกต่อไป

เฟิงถิงหลินไม่คิดว่าหรงฉือจะกล้าปฏิเสธเธอตรงๆ

อย่างไรเสีย เมื่อก่อนหรงฉือก็ยอมลดตัวเอาใจคนในตระกูลเฟิงอย่างพวกเขาบ่อยครั้งเพราะเฟิงถิงเซิน

เพียงแต่เฟิงถิงหลินไม่ได้คิดมาก

ก่อนหน้านี้หรงฉือไม่เคยปฏิเสธเธอเลย ตอนนี้หรงฉือบอกว่ามีธุระ เธอจึงคิดว่าหรงฉือต้องมีธุระจริงๆ ไม่เช่นนั้น หรงฉือจะยอมทิ้งโอกาสที่จะเอาใจเธอได้ยังไง

แต่เธอก็ยังพูดอย่างไม่พอใจว่า “ตอนนี้ถิงเซินและซินซินไม่ได้อยู่กับเธอ เธอจะมีเรื่องสำคัญอะไรได้อีก?”

หรงฉือฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ

หลายปีมานี้ เธอทิ้งความเป็นตัวเอง โดยที่จุดศูนย์กลางของชีวิตเธออยู่ที่เฟิงถิงเซินและลูกสาว และหมุนรอบพวกเขามาตลอด

ตอนนี้ได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้จากเฟิงถิงหลินก็สมควรแล้วจริงๆ

แต่ต่อไปนี้เธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในขณะที่หรงฉือกำลังพูดก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางพวกเธออย่างพอดี

“คุณเฟิง”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาตามหาเฟิงถิงหลิน

เมื่อพวกเขาเห็นหรงฉือก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนถามว่า “คุณเฟิง คนนี้คือ...”

เฟิงถิงหลินไม่ได้บอกว่าหรงฉือเป็นน้องสะใภ้ของเธอ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพื่อนน่ะ”

“อ๋อ เพื่อนนี่เอง...”

พวกเขาและเฟิงถิงหลินต่างก็กลับมาที่มหาลัยตงฟางเพื่อร่วมงานฉลอง และต่างก็มีสถานะสูง

เมื่อเห็นเฟิงถิงหลินบังเอิญเจอคนรู้จัก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นบุคคลที่สำคัญอะไร

แต่พอเห็นท่าทีของเฟิงถิงหลินที่มีต่อหรงฉือ นอกจากบางคนที่มองว่าหรงฉือสวย ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมองขาเรียวยาวขาวผ่องของเธอหลายแวบ ส่วนคนอื่นๆ ไม่มีใครสนใจเธอเลย

พวกเขาล้อมรอบเฟิงถิงหลินก่อนจะเดินจากไปในทันที

ถ้าเป็นเมื่อก่อนหรงฉืออาจจะรู้สึกเสียใจและเศร้าใจที่เฟิงถิงหลินไม่ยอมรับสถานะน้องสะใภ้ของเธอ

แต่ตอนนี้หรงฉือไม่สนใจแล้ว

หลังจากที่เฟิงถิงหลินจากไปแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าของเธอแล้วหันหลังจากไป

เฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินนั่งเครื่องบินมาถึงสนามบินตรงเวลาตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าของคืนวันนั้น

ตอนพวกเขากลับถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว

เฟิงจิ่งซินผล็อยหลับไปก่อนที่จะกลับถึงบ้าน

เฟิงถิงเซินอุ้มเฟิงจิ่งซินขึ้นไปที่ชั้นบน ขณะเดินผ่านห้องนอนใหญ่ เขาพบว่าประตูเปิดอยู่ แต่ข้างในมืดสนิท

หลังอุ้มเฟิงจิ่งซินไปส่งห้องของเธอ เขาก็กลับมาที่ห้องนอนใหญ่ เฟิงถิงเซินเปิดไฟสลัวในห้องก่อนที่สายตาจะเหลือบมองไปที่เตียง ซึ่งว่างเปล่า

หรงฉือไม่อยู่

ในเวลานี้ พ่อบ้านช่วยเขายกกระเป๋าขึ้นมาชั้นบนพอดี เฟิงถิงเซินคลายเนคไทที่คอออกเล็กน้อยแล้วถามว่า “แล้วเธอล่ะ”

พ่อบ้านรีบพูดว่า “คุณผู้หญิงไปทำธุระต่างเมืองแล้วครับ”

เมื่อครึ่งเดือนก่อน บังเอิญว่าเขาไม่อยู่พอดีตอนที่หรงฉือมาเก็บข้าวของ

เพียงแต่ได้ยินจากคนรับใช้คนอื่นในวิลล่าว่าหรงฉือออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง จึงคิดว่าไปทำธุระต่างเมือง

จะว่าไปก็แปลก เมื่อก่อนหรงฉือไม่ค่อยเดินทางไปทําธุระต่างเมืองเลย แต่ถึงแม้จะไป ก็ไปแค่สองสามวันเท่านั้น

ครั้งนี้ผ่านมาจวนครึ่งเดือนแล้วยังไม่กลับมาเลย

เฟิงถิงเซินเพียงตอบ “อืม” คำหนึ่ง แล้วไม่ถามอะไรอีกต่อไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (7)
goodnovel comment avatar
Pojana Po
เมียทิ้งทั้งลูกเละผัว
goodnovel comment avatar
Aojida Pradab
ชวนติดตามมากค่ะ
goodnovel comment avatar
ใบเตย บีอาร์
ชวนให้ติดตามว่าจะเป็นยังไงต่อไป
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 557

    ใกล้ช่วงเวลาอาหารเย็น ขณะเห็นหลินอู๋เตรียมเก็บของออกไป คนตระกูลหลินกับตระกูลซุนจึงรู้ว่าที่แท้เฟิงถิงเซินกลับมาจากต่างประเทศแล้วพอรู้ว่าเฟิงถิงเซินกลับมาเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เซี่ยงหรูฟางรู้สึกเสียดายจนกระทืบเท้าแล้วพูดว่า “คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลับมาเมื่อช่วงบ่ายวันนี้? นี่ถ้ากลับมาเร็วกว่านี้สักครึ่งวันจะดีแค่ไหนกันเชียว ช่วงตัดสินใจนี้มันผ่านไปแล้ว..”ซุนลี่เหยาก็อดไม่ได้พูดเห็นด้วยว่า “นั่นสิคะ”จริง ๆ ไม่ใช่แค่พวกเขา ซุนเยว่ชิงและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกเสียดายมากเช่นกันเมื่อสองวันก่อน แม้พวกเขาจะเคยได้ยินหลินอู๋บอกว่า เฟิงถิงเซินน่าจะไม่สามารถกลับมาให้ทันก่อนช่วงตัดสินใจสิ้นสุดเพื่อหย่ากับหรงฉือ แต่ในใจลึก ๆ ของพวกเขายังคงมีความหวังอยู่ คิดว่าเฟิงถิงเซินมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะกลับมาก่อนล่วงหน้าและหย่ากับหรงฉือเพื่อหลินอู๋และเหตุผลที่เฟิงถิงเซินบอกหลินอู๋ว่าไม่สามารถกลับมาก่อนช่วงตัดสินใจ เป็นเพียงแค่อยากเซอร์ไพรส์ให้กับหลินอู๋เท่านั้นความจริงกลับกลายเป็นว่า เฟิงถิงเซินไม่สามารถกลับมาได้ทันเวลาก่อนช่วงตัดสินใจหย่าระหว่างเขากับหรงฉือจะสิ้นสุดลงเนื่องด้วยเหตุผลนี้ ตอนที่รู้ว่าเฟิง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 556

    วันสุดท้ายของช่วงตัดสินใจ สุดท้ายเฟิงถิงเซินก็ยังไม่สามารถกลับมาทันเวลาได้ช่วงตัดสินใจในครั้งนี้ ก็ผ่านไปแบบนั้นแล้วหรงฉือคิดว่าเฟิงถิงเซินคงจะกลับมาอีกไม่กี่วัน แต่วันรุ่งขึ้น ตอนที่เธอกับอวี้มั่วซวินกำลังคุยงานกันอยู่ เฟิงจิ่งซินจู่ ๆ ก็โทรศัพท์มาบอกกับเธอว่าเฟิงถิงเซินกลับมาแล้วอวี้มั่วซวินโมโหจนหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ไม่สิ เขาไม่กลับมาเร็วและไม่กลับมาช้า แต่ดันกลับมาทันทีหลังจากช่วงตัดสินใจสิ้นสุดพอดี เขาจงใจใช่ไหมเนี่ย?”หรงฉือวางโทรศัพท์ลง ไม่ได้พูดอะไรจงใจอะไรกัน แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าอวี้มั่วซวินก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ แต่เขาก็แค่ถูกทำให้โมโหก็เท่านั้นเขาอดไม่ได้พูดขึ้นว่า “ไม่อย่างนั้นก็ฟ้องหย่าไปเลยเถอะ...แต่ว่า ตั้งแต่ยื่นฟ้องจนถึงเริ่มการพิจารณาคดีในศาล ก็ต้องใช้เวลาอีกประมาณหนึ่งเดือน...” พวกเขาไม่ทันได้พูดอะไรมาก ก็มีคนเคาะประตูเข้ามา บทสนทนาจึงหยุดชะงักไปชั่วขณะในเวลาเดียวกันกลุ่มแชทของพวกเฟิงถิงเซินกับฉีอวี้หมิงสี่คน จู่ ๆ เฟิงถิงเซินก็แท็กเฮ่อฉางปั่ว ฉีอวี้หมิงและหลินอู๋ [เย็นนี้กินข้าวด้วยกันไหม?]ฉีอวี้หมิ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 555

    โปรเจกต์ดี ๆ ที่สร้างรายได้มหาศาลแบบนี้ พวกเขากลับไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยและได้แต่มอง ซุนซู่ซานก็แค่อิจฉาเท่านั้น ไม่ได้จะบ่นอะไรจริงจังอย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงถิงเซินกับหลินอู๋ยังเหมือนเดิม โอกาสสร้างรายได้ของพวกเขาก็มีอีกมาก ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในตอนนี้เหตุผลนี้พวกเขาที่อยู่ตรงนั้นทุกคนล้วนเข้าใจดีอีกอย่าง เทียบกับเรื่องนี้ ตอนนี้พวกเขากังวลอีกเรื่องหนึ่งมากกว่าดูจากข่าวที่เปิดเผยออกมา เฟิงถิงเซินดูเหมือนยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากมาย และไม่สามารถกลับประเทศภายในเวลาสั้น ๆ ได้คุณยายซุนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ถิงเซินคงไม่ใช่จะกลับมาไม่ทันช่วงตัดสินใจสิ้นสุดลงหรอกใช่ไหม?”ซุนเยว่ชิงก็ถึงกับขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาอย่างหาได้ยากถึงเธอจะไม่ได้รีบร้อนเท่าไรนัก แต่การยืดเวลาออกไป มันไม่ใช่เรื่องดีอะไรสำหรับพวกเขาเลยคุณย่าหลินก็อดถามหลินอู๋ไม่ได้ว่า “เสี่ยวอู๋ ถิงเซินว่าอย่างไร?”หลินอู๋ได้สติกลับมา ก่อนจะพูดตามจริงว่า “เขาบอกว่าไม่แน่ใจค่ะ”คนตระกูลหลินและตระกูลซุนพลันเริ่มกังวลมากขึ้นแล้วสุดท้าย คุณยายซุนทำได้แค่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถ้าเสร็จงานแล้

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 554

    บ่ายวันนั้น ตอนที่หรงฉือเพิ่งถึงบ้าน เฟิงจิ่งซินก็เพิ่งจะเลิกโรงเรียนกลับมาถึงบ้านตระกูลหรงได้ไม่นานหรงฉือเพิ่งเหยียบเท้าเข้าประตูใหญ่บ้านตระกูลหรง ก็ได้ยินเฟิงจิ่งซินกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เห็นเธอกลับมาแล้ว เฟิงจิ่งซินก็ตะโกนเรียกอย่างดีใจว่า “คุณแม่”พูดจบ ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ปลายสายพูดอะไร เฟิงจิ่งซินก็หยิบโทรศัพท์วิ่งเข้ามาหาเธอพูดว่า “คุณแม่ คุณพ่ออยากคุยด้วยค่ะ”หรงฉือ “...”เธอรับโทรศัพท์มาแนบหู ก่อนจะเอ่ยปากว่า “ฮัลโหล”“สุขสันต์วันเกิด”หรงฉือ “...”หลังนิ่งเงียบไปไม่กี่วินาที เธอจึงจะเอ่ยปากพูดว่า “ขอบคุณ”ตามหลักเหตุผลแล้ว ในเวลานี้เธอควรจะพูดถึงของขวัญที่เขาส่งให้เธอเมื่อตอนเช้า แล้วกล่าวขอบคุณเขาสักหน่อยแต่เธอถือโทรศัพท์ไว้ กลับไม่พูดถึงแม้แต่คำเดียวเฟิงถิงเซินก็ดูเหมือนไม่คิดจะพูดถึง ราวกับของขวัญราคาแพงแบบนั้นเขาไม่ได้เป็นคนส่งให้เสียอย่างนั้นเขาพูดว่า “ทางผมมีงานค่อนข้างเยอะ อีกสักพักถึงจะสามารถกลับไปได้”หรงฉือเข้าใจความหมายของเขาแล้วเธอเม้มริมฝีปากไว้ ไม่ได้พูดอะไรเห็นเธอไม่พูด เฟิงถิงเซินก็เอ่ยปากว่า “โกรธเหรอ?”หรงฉือไม่ตอบ แค่ถามเสียงเรียบว่า “ยังม

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 553

    ที่ส่งมาพร้อมกับดอกไม้ของเฮ่อฉางปั่ว ยังมีการ์ดอวยพรกับดอกไม้ทำมือเล็ก ๆ จากตานตานด้วยของขวัญของตานตานเฮ่อฉางปั่วเป็นคนช่วยส่งมาให้เธอ ในความคิดของหรงฉือ เหตุผลที่เฮ่อฉางปั่วส่งดอกไม้ให้เธอ เป็นแค่มารยาทเท่านั้นแม้จะเป็นมารยาท ในเมื่อเธอรับของขวัญแล้ว ย่อมต้องเป็นคนกล่าวขอบคุณเขาด้วยตัวเองเธอจึงโทรศัพท์ไปหาเฮ่อฉางปั่วเฮ่อฉางปั่วรู้ว่าหลังจากที่เธอรับดอกไม้แล้วจะต้องโทรศัพท์มาหาเขาอย่างแน่นอนเขารอโทรศัพท์ของเธอมาสักพักหนึ่งแล้ว ด้วยเหตุนี้ หรงฉือเพิ่งโทรศัพท์เข้ามา เฮ่อฉางปั่วก็รับแล้ว เขาเป็นฝ่ายพูดก่อนว่า “ได้รับของขวัญแล้วใช่ไหม? สุขสันต์วันเกิด”“ค่ะ ได้รับแล้ว ขอบคุณสำหรับดอกไม้ของคุณ แล้วก็รบกวนคุณบอกตานตานด้วยว่าฉันชอบของขวัญของเธอมาก”เฮ่อฉางปั่วยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ผมจะบอกแน่นอน ตานตานเตรียมของขวัญเสร็จตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนและส่งมา ถ้าตานตานรู้ว่าคุณชอบของขวัญของเธอ คงจะดีใจมากแน่ ๆ”พอรู้ว่าตานตานมีตั้งใจแบบนี้ หรงฉือรู้สึกอบอุ่นหัวใจพูดว่า “รบกวนคุณบอกตานตานว่า พอเธอมีเวลากลับมาเมืองตูเฉิง ฉันอยากเลี้ยงอาหารเธอ” “ได้ ผมจะบอกเธอ”“งั้นก็รบกวนคุณแล้ว” หรงฉื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 552

    หรงอวิ๋นเฮ่อตกใจทันที “นี่มัน แพงขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”อย่าว่าแต่หรงอวิ๋นเฮ่อเลย แม้แต่คุณยายหรงกับเหอหมิงเสว่ต่างก็ตกใจเช่นกันคุณยายหรงมองไปทางหรงฉือแล้วพูดว่า “เสี่ยวฉือ เข้ามาดูนี่หน่อย”คำที่พวกเขาพูดเมื่อสักครู่ หรงฉือได้ยินทั้งหมดแล้วแม้ตอนที่เธอเพิ่งรับของขวัญมา อาศัยแค่สัมผัสกล่องของขวัญด้วยมือก็รู้แล้ว ว่าของขวัญที่เฟิงถิงเซินให้เธอเป็นไปไม่ได้ที่จะราคาถูกแต่เธอไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเป็นเพชรที่ล้ำค่าขนาดนี้หากตามที่เหอหมิงเส่ว ป้าสะใภ้ของเธอพูดไว้ ว่าเพชรเม็ดนี้ที่เฟิงถิงเซินให้เธอนั้นเจิดจ้าและบริสุทธิ์กว่าเพชรที่เธอนำไปประมูลก่อนหน้านี้จริง ๆ หนึ่งหมื่นล้านที่ป้าสะใภ้เธอพูด สามารถบอกได้ว่าเป็นการประเมินแบบระมัดระวังที่สุดแล้วเมื่อมองดูสีหน้าของหรงฉือ หรงอวิ๋นเฮ่อกับคุณยายหรงและคนอื่น ๆ ต่างก็ดูออกว่าเธอก็คิดไม่ถึงว่าเฟิงถิงเซินจะให้ของขวัญราคาแพงแบบนี้กับเธอหรงอวิ๋นเฮ่อถาม “แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี? ส่งกลับไปเลยไหมครับ?”ถึงอย่างไรหรงฉือกับเฟิงถิงเซินใกล้จะหย่ากันแล้ว ของขวัญราคาแพงแบบนี้...“เก็บไว้เถอะ”คุณยายหรงปิดกล่องกำมะหยี่ พูดกับหรงฉือว่า “ก็ถือเสียว่าร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status