Share

บทที่ 5

Author: อวินจงมี่
หลายปีมานี้ อวี้มั่วซวินและหรงฉือแทบไม่ได้เจอกันเลยจริงๆ

แต่หลังจากเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง อวี้มั่วซวินก็มองออกว่าเธอในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่กระตือรือร้นเหมือนแต่ก่อน

เมื่อนึกถึงหรงฉือในตอนนั้น เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งคำว่ามีปมด้อยจะถูกใช้กับหรงฉือ

อวี้มั่วซวินไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของหรงฉือและเฟิงถิงเซิน

แต่ก็พอรู้มาบ้าง

เขาเพียงคาดเดาอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน เพียงพูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ไม่สำคัญว่าคุณจะตามหลังไปสักระยะหนึ่ง ความสามารถและพรสวรรค์ของคุณ ไม่ใช่อัจฉริยะทั่วไปจะเทียบได้ เสี่ยวฉือ ตราบใดที่คุณยังมีใจที่จะเดินตามเส้นทางนี้ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่”

“อย่าลืมว่าคุณเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ภูมิใจที่สุดในชีวิตการเป็นอาจารย์”

หรงฉือได้ฟังแล้วก็ยิ้ม “ถ้าอาจารย์ได้ยินเข้า ฉันเกรงว่าเขาคงจะเยาะเย้ย และบอกว่าเขาถูกบังคับให้เลือกคนที่ดีที่สุดจากหมู่คนที่แย่ที่สุด”

เมื่อนึกถึงอาจารย์ผู้สง่างามและปากร้ายในอดีต รอยยิ้มของหรงฉือก็จางลง “เมื่อกี้ฉันเห็นในข่าวว่าอาจารย์ท่านก็กลับมาร่วมงานฉลองครบรอบด้วย ท่านยังสบายดีไหม”

“สบายดี เพียงแต่ลูกศิษย์ที่มักทำให้ท่านขายหน้าอยู่เรื่อยๆ อย่างพวกเราจะไปปรากฏตัวให้ท่านเห็นบ่อยๆ ซึ่งมันทำให้ท่านรำคาญมาก”

หรงฉือจึงหัวเราะออกมา และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันเวลาที่เคยถูกอาจารย์ผู้มีพระคุณกดดันให้เขียนวิทยานิพนธ์ทุกวันในสมัยนั้น

อวี้มั่วซวินเอ่ยว่า “กลับมาเถอะ เสี่ยวฉือ”

หรงฉือจับแก้วชาแน่นขึ้น หายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้า “ตกลง”

เธอเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เธอรักในสาขานี้มาก

เธอละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองเป็นเวลาหกเจ็ดปีเพราะรักเฟิงถิงเซิน

เธอจากไปหกเจ็ดปีแล้ว อาจต้องใช้เวลาอย่างมากในการตามให้ทัน

แต่เธอเชื่อว่าตราบใดที่เธอพยายาม ทุกสิ่งอย่างก็ย่อมเป็นไปได้

อวี้มั่วซวินถามอีกว่า “คุณจะกลับมาได้เมื่อไหร่”

“ตอนนี้ยังต้องรอให้มีคนมารับงานปัจจุบันต่อจากฉัน เกรงว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง”

“ไม่เป็นไร ยังไม่รีบร้อนตอนนี้”

ในเมื่อเธอกลับมาได้ รอต่อไปอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป

ทั้งสองพูดคุยกันต่อสักพักหนึ่ง อวี้มั่วซวินมองดูเวลาแล้วพูดว่า “ลูกน้องแนะนำอัจฉริยะด้านอัลกอริธึมคนหนึ่งให้ผม ได้ยินมาว่าเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเรานัดกันไว้ว่าจะเจอกันในอีกสักพัก และในเมื่อเราบังเอิญเจอกันพอดี ไปเจอเขาด้วยกันกับผมไหม”

หรงฉือส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้จักลูกน้องของคุณด้วย ไว้ครั้งหน้าเถอะ”

“ก็ได้”

อวี้มั่วซวินเพิ่งออกไป หรงฉือก็เห็นเฟิงถิงหลิน ซึ่งเป็นพี่สาวของเฟิงถิงเซินเดินมาหาเธอ

หรงฉือก็เห็นเธอในข่าวด้วย

แต่ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเธอที่นี่

หรงฉือทักทายว่า “พี่ถิงหลิน”

เฟิงถิงหลินไม่ตอบ แต่มองเธอและถามด้วยความสงสัยว่า “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“วันนี้เป็นวันฉลองครบรอบของมหาลัยตงฟาง ฉันก็เลยกลับมาดูสักหน่อย”

ถ้าหรงฉือไม่พูด เฟิงถิงหลินก็ลืมไปเลยว่าเธอก็สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตงฟาง

แต่นอกจากอาจารย์และนักศึกษาในมหาลัยแล้ว คนที่กลับมาร่วมงานในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญจากมหาลัย

ส่วนคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงอย่างหรงฉือมาร่วมสนุกอะไรด้วย?

แต่ก็ช่างมันเถอะ

ตราบใดที่เธอไม่ไปพูดจาไร้สาระข้างนอก และทําให้ตระกูลเฟิงต้องอับอาย เธอก็ไม่อยากยุ่งด้วย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฟิงถิงหลินก็พูดตรงๆ ว่า “เสี่ยวหมิงบอกว่าอยากทานอาหารที่เธอทำ เดี๋ยวฉันจะให้คนพาเขาไปส่งหาเธอกับถิงเซิน”

เสี่ยวหมิงเป็นลูกชายของเฟิงถิงหลิน ซึ่งโตกว่าเฟิงจิ่งซินหนึ่งหรือสองปี

ระหว่างเฟิงถิงหลินและสามีไม่ค่อยลงรอยกัน หลายปีก่อนเฟิงถิงหลินยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาดูแลลูก ลูกของพวกเขาจึงเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตอนนี้เธออยากจะดูแลลูก แต่ก็ยากเกินกว่าที่จะจัดการได้

เมื่อรู้ว่าลูกชายชอบอาหารที่เธอทํา พอมีเวลาว่างเฟิงถิงหลินก็ส่งลูกชายไปหาเธอและเฟิงถิงเซินตลอดช่วงสองปีนี้

คนในตระกูลเฟิงไม่มีใครให้ความสำคัญกับเธอเลย ยกเว้นคุณหญิง

เด็กโตมักจะชอบเลียนแบบคนอื่นมากที่สุด

แม้ว่าลูกชายของเฟิงถิงหลินจะชอบอาหารที่เธอทำ แต่กลับรู้สึกดูถูกน้าสะใภ้อย่างเธอในใจลึกๆ และทุกครั้งที่มาหาเธอก็แทบจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นแม่บ้านอย่างไงอย่างงั้น

ก่อนหน้านี้หรงฉือปฏิบัติกับลูกชายของเฟิงถิงหลินอย่างเต็มที่เพราะเฟิงถิงเซิน และไม่ถือสากับความก้าวร้าวของเด็กน้อยเลย

แต่ตอนนี้เธอเตรียมจะหย่ากับเฟิงถิงเซินแล้ว เธอไม่อยากลำบากตัวเองเพื่อเฟิงถิงเซินอีกต่อไป

ดังนั้นหรงฉือจึงปฏิเสธตรงๆ ว่า “ขอโทษนะคะพี่ถิงหลิน พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง”

ในเมื่อเธอตัดสินใจจะกลับสู่สาขาวิชาชีพเดิม ต่อไปในอนาคตเธอจะให้ความสำคัญกับงานของเธอเป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นเฟิงถิงเซินหรือเฟิงถิงหลิน หลังจากหย่าร้างเธอก็ไม่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาอีกต่อไป

เธอจะไม่เสียเวลาให้กับพวกเขาอีกต่อไป

เฟิงถิงหลินไม่คิดว่าหรงฉือจะกล้าปฏิเสธเธอตรงๆ

อย่างไรเสีย เมื่อก่อนหรงฉือก็ยอมลดตัวเอาใจคนในตระกูลเฟิงอย่างพวกเขาบ่อยครั้งเพราะเฟิงถิงเซิน

เพียงแต่เฟิงถิงหลินไม่ได้คิดมาก

ก่อนหน้านี้หรงฉือไม่เคยปฏิเสธเธอเลย ตอนนี้หรงฉือบอกว่ามีธุระ เธอจึงคิดว่าหรงฉือต้องมีธุระจริงๆ ไม่เช่นนั้น หรงฉือจะยอมทิ้งโอกาสที่จะเอาใจเธอได้ยังไง

แต่เธอก็ยังพูดอย่างไม่พอใจว่า “ตอนนี้ถิงเซินและซินซินไม่ได้อยู่กับเธอ เธอจะมีเรื่องสำคัญอะไรได้อีก?”

หรงฉือฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ

หลายปีมานี้ เธอทิ้งความเป็นตัวเอง โดยที่จุดศูนย์กลางของชีวิตเธออยู่ที่เฟิงถิงเซินและลูกสาว และหมุนรอบพวกเขามาตลอด

ตอนนี้ได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้จากเฟิงถิงหลินก็สมควรแล้วจริงๆ

แต่ต่อไปนี้เธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในขณะที่หรงฉือกำลังพูดก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางพวกเธออย่างพอดี

“คุณเฟิง”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาตามหาเฟิงถิงหลิน

เมื่อพวกเขาเห็นหรงฉือก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนถามว่า “คุณเฟิง คนนี้คือ...”

เฟิงถิงหลินไม่ได้บอกว่าหรงฉือเป็นน้องสะใภ้ของเธอ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพื่อนน่ะ”

“อ๋อ เพื่อนนี่เอง...”

พวกเขาและเฟิงถิงหลินต่างก็กลับมาที่มหาลัยตงฟางเพื่อร่วมงานฉลอง และต่างก็มีสถานะสูง

เมื่อเห็นเฟิงถิงหลินบังเอิญเจอคนรู้จัก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นบุคคลที่สำคัญอะไร

แต่พอเห็นท่าทีของเฟิงถิงหลินที่มีต่อหรงฉือ นอกจากบางคนที่มองว่าหรงฉือสวย ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมองขาเรียวยาวขาวผ่องของเธอหลายแวบ ส่วนคนอื่นๆ ไม่มีใครสนใจเธอเลย

พวกเขาล้อมรอบเฟิงถิงหลินก่อนจะเดินจากไปในทันที

ถ้าเป็นเมื่อก่อนหรงฉืออาจจะรู้สึกเสียใจและเศร้าใจที่เฟิงถิงหลินไม่ยอมรับสถานะน้องสะใภ้ของเธอ

แต่ตอนนี้หรงฉือไม่สนใจแล้ว

หลังจากที่เฟิงถิงหลินจากไปแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าของเธอแล้วหันหลังจากไป

เฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินนั่งเครื่องบินมาถึงสนามบินตรงเวลาตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าของคืนวันนั้น

ตอนพวกเขากลับถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว

เฟิงจิ่งซินผล็อยหลับไปก่อนที่จะกลับถึงบ้าน

เฟิงถิงเซินอุ้มเฟิงจิ่งซินขึ้นไปที่ชั้นบน ขณะเดินผ่านห้องนอนใหญ่ เขาพบว่าประตูเปิดอยู่ แต่ข้างในมืดสนิท

หลังอุ้มเฟิงจิ่งซินไปส่งห้องของเธอ เขาก็กลับมาที่ห้องนอนใหญ่ เฟิงถิงเซินเปิดไฟสลัวในห้องก่อนที่สายตาจะเหลือบมองไปที่เตียง ซึ่งว่างเปล่า

หรงฉือไม่อยู่

ในเวลานี้ พ่อบ้านช่วยเขายกกระเป๋าขึ้นมาชั้นบนพอดี เฟิงถิงเซินคลายเนคไทที่คอออกเล็กน้อยแล้วถามว่า “แล้วเธอล่ะ”

พ่อบ้านรีบพูดว่า “คุณผู้หญิงไปทำธุระต่างเมืองแล้วครับ”

เมื่อครึ่งเดือนก่อน บังเอิญว่าเขาไม่อยู่พอดีตอนที่หรงฉือมาเก็บข้าวของ

เพียงแต่ได้ยินจากคนรับใช้คนอื่นในวิลล่าว่าหรงฉือออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง จึงคิดว่าไปทำธุระต่างเมือง

จะว่าไปก็แปลก เมื่อก่อนหรงฉือไม่ค่อยเดินทางไปทําธุระต่างเมืองเลย แต่ถึงแม้จะไป ก็ไปแค่สองสามวันเท่านั้น

ครั้งนี้ผ่านมาจวนครึ่งเดือนแล้วยังไม่กลับมาเลย

เฟิงถิงเซินเพียงตอบ “อืม” คำหนึ่ง แล้วไม่ถามอะไรอีกต่อไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (7)
goodnovel comment avatar
Pojana Po
เมียทิ้งทั้งลูกเละผัว
goodnovel comment avatar
Aojida Pradab
ชวนติดตามมากค่ะ
goodnovel comment avatar
ใบเตย บีอาร์
ชวนให้ติดตามว่าจะเป็นยังไงต่อไป
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 513

    ช่วงนี้เฟิงถิงเซินยุ่งมาก ข้าวยังทานไม่เสร็จ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกแล้วตอนที่เฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์อีกครั้ง หลินอู๋เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดกับเฟิงจิ่งซินว่า “จริงสิ ซินซิน วันจันทร์หนูเปิดเทอม น้าไปส่งหนูที่โรงเรียนแล้วกัน”เฟิงจิ่งซินได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าก็ดูลำบากใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะน้าอู๋อู๋ หนูบอกกับคุณแม่แล้วว่าจะให้คุณแม่ไปส่งหนูที่โรงเรียน คุณแม่ก็รับปากหนูแล้วค่ะ”“อย่างนั้นเหรอ”หลินอู๋ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ฝืนอะไรอีก……คืนวันอาทิตย์ หลังหรงฉือทานอาหารเสร็จ และกำลังจะพักผ่อน โทรศัพท์ของเฟิงจิ่งซินก็โทรเข้ามาแล้วหรงฉือเพิ่งจะรับสาย เฟิงจิ่งซินก็พูดขึ้นก่อนว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เช้าหนูกับคุณพ่อจะเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่น ถึงตอนนั้นคุณแม่กับคุณพ่อก็ไปส่งหนูที่โรงเรียนด้วยกันนะคะ”“โอเค แม่เข้าใจแล้ว”เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือเพิ่งจะทานอาหารเช้าได้ไม่นาน เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินก็มาถึงแล้วหรงฉือเพิ่งจะหยิบกุญแจรถออกจากบ้าน ก็ถูกเฟิงจิ่งซินที่ลงมาจากรถดึงให้เดินไปทางรถของเฟิงถิงเซิน แล้วพูดว่า “คุณแม่ไม่ทันแล้ว รีบขึ้นรถเถอะค่ะ”หรงฉือพูดว่า “เดี๋ย

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 512

    หลังผ่านไปนานมาก เธอจึงจะถามอีกครั้งว่า “ยังมีอีกไหม?”เฟิงจิ่งซินกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่ ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจความหมายของเธอ เลยถามว่า “หืม? ยังมีอะไรเหรอคะ?”“เรื่องที่คุณพ่อหนูเป็นฝ่ายเข้าหาคุณแม่หนูน่ะ”เฟิงจิ่งซินวางแก้วลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “ไม่มีแล้วค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ป่วยไม่สบาย คุณพ่อดูแลคุณแม่อยู่ตลอดเวลา คุณพ่อบอกว่าเด็กติดเชื้อได้ง่าย เลยไม่ยอมให้หนูเข้าใกล้ จนกระทั่งคุณแม่หายดี หนูถึงได้เจอคุณแม่”เมื่อฟังถึงตรงนี้ หลินอู๋ก็ชะงักไปอีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า “หลังจากคุณแม่หนูป่วย คุณพ่อหนูก็เป็นคนดูแลเธออย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”หลินอู๋หลุบตาลงต่ำ มองไปที่เฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “คุณย่าทวดหนูสั่งให้คุณพ่อหนูทำแบบนี้ใช่ไหม?”เฟิงจิ่งซินส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ เมื่อวานคุณแม่ไม่สบายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากรู้ว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็ดูแลคุณแม่ไปด้วย ขณะเดียวกันก็โทรให้คนใช้เฮลิคอปเตอร์ไปรับคุณปู่จางเข้ามาดูอาการให้คุณแม่ แล้วหลังจากที่คุณปู่จางมาถึง คุณย่าทวดจึงจะรู้ว่าคุณแม่ป่วยแล้วค่ะ”คุณปู่จางที่เฟิงจิ่งซินพูดถึง หลินอู๋ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็น

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 511

    ทางด้านหรงฉือกับเหยียนอวิ้นจือพวกเขากำลังนั่งคุยระลึกความหลังกันอย่างสนุกสนานในห้องส่วนตัว อีกด้านหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเพิ่งจะถึงห้องส่วนตัวและนั่งลงได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแล้วเฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกส่วนหลินอู๋หยิบวารสารที่พกติดตัวออกมา พูดขึ้นว่า “ซินซิน น้าอ่านหนังสือแปบหนึ่งก่อนนะ หนูเล่นเองคนเดียวไปก่อนได้ไหม?”“ได้ค่ะ” ถึงเฟิงจิ่งซินจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเอนาวาสองปี ภาษาอังกฤษของเธอค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเห็นหน้าปกกับชื่อของวารสารที่อยู่ในมือหลินอู๋ ก็พูดขึ้นว่า “คุณน้า วารสารเล่มนี้คุณพ่อก็มีค่ะ”หลินอู๋รู้ว่าเฟิงถิงเซินติดตามข่าวสารล่าสุดของแวดวงเอไออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอถามเมื่อสองวันก่อน ตอนนั้นเฟิงถิงเซินก็บอกว่าเขาอ่านแล้วด้วยเหตุนี้ พอได้ยินเฟิงจิ่งซินพูดแบบนั้น เธอก็พูดว่า “อื้ม น้ารู้”พูดถึงเรื่องนี้ เฟิงจิ่งซินก็นึกถึงหรงฉือขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วันนั้นคุณแม่กลับมา คุณพ่อกลัวว่าคุณแม่จะเบื่อเลยขึ้นไปหยิบหนังสือจากชั้นบนลงมาให้คุณแม่อ่าน คืนวันนั้น หลังจากที่เห็นคุณแม่อ่านจบแล้ว คุณพ่อยังพูดคุยถึงเนื้อหาในวารส

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 510

    ตอนบ่าย หรงฉือเพิ่งกลับมาจากเฟิงซื่อได้ไม่นาน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ประจำแผนกจิตเวชของหรงอิ้งเซิ่งโทรมา บอกว่าตอนบ่ายหรงอิ้งเซิ่งเหมือนจะได้สติขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่นาน สภาพจิตใจก็เข้าสู่สภาวะล่มสลาย ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้หรงฉือสีหน้าเปลี่ยนไป รีบมุ่งไปที่โรงพยาบาล แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไง? ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”“พวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ ครับ”หากไม่มีการกระตุ้นจากภายนอก หรงอิ้งเซิ่งจะแสดงอาการแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?หรงฉือดูในกล้องวงจรปิด เห็นหรงอิ้งเซิ่งที่กำลังนอนหลับหลังจากทานยา จากนั้นเธอก็คุยกับหมออีกสักพัก ถึงจะเดินลงบันไดด้วยจิตใจที่หนักอึ้งตอนที่ลิฟต์มาถึงชั้นล่าง พอประตูลิฟต์เปิดออก หรงฉือเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับสายตาของซุนลี่เหยาและคุณยายซุนพอดีเมื่อซุนลี่เหยาเห็นหรงฉือ รีบจ้องมองเธอเขม็งทันที หลังจากนั้นก็ส่งเสียงฮึเสียงหนึ่ง เชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งผยอง แล้วพยุงคุณยายซุนเข้าไปในลิฟต์ภายในลิฟต์ยังมีคนอื่น ๆ อีก หลังเข้าไปในลิฟต์ ซุนลี่เหยามองใบหน้าด้านข้างของหรงฉื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 509

    “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณย่า” หรงฉือพูดว่า “หนูยังมีงานที่ต้องจัดการนิดหน่อย อาหารเย็นก็ไม่กินแล้ว”หรงฉือมีงานต้องไปจัดการเสียที่ไหน? เห็นได้ชัดว่าไม่อยาก และคิดว่าอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็ไม่ดีตามหลักแล้ว เธอกับเฟิงถิงเซินยังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการ หรงฉือยังคงเป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่ถึงกับต้องเป็นแบบนี้ แต่หรงฉือคิดดูแล้ว บางทีตั้งแต่เธอกับเฟิงถิงเซินเริ่มเตรียมจะหย่ากัน เธอก็ได้ขีดเส้นแบ่งเขตภายในใจระหว่างตัวเองกับเฟิงถิงเซินไปแล้วเรื่องพวกนี้ จริง ๆ แล้ว คุณย่าเฟิงล้วนเข้าใจดีในเมื่อหรงฉือยืนกราน เธอก็ไม่ควรโน้มน้าวไปมากกว่านี้อีกเธอจ้องเฟิงถิงเซินอย่างดุร้ายเฟิงถิงเซินทำเป็นมองไม่เห็น มองหรงฉือแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปส่งคุณ”“ไม่ต้องหรอก” หรงฉือปฏิเสธ พูดว่า “คุณทำงานไปเถอะ ให้คนขับรถไปส่งฉันก็ได้” เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้ยืนกรานอีกต่อไป ก่อนจะตอบกลับว่า “โอเค”หรงฉือกลับห้องไปหยิบกระเป๋า ก็เตรียมจะออกไปแล้วคุณย่าเฟิงและเฟิงถิงเซินต่างก็ลงมาชั้นล่างเพื่อไปส่งเธอเฟิงจิ่งซินเพิ่งรู้ว่าเธอจะไปแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์มาก พูดว่า “คุณแม่ ทำไมคุณแม่กลับเร็วจังเลยละคะ?”“อืม” หรงฉือลูบศีรษะข

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 508

    หลังหรงฉือวัดอุณหภูมิเสร็จ ฝืนรออยู่นานมาก ยังไม่เห็นเฟิงถิงเซินกลับมา ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรงพอเธอตื่นขึ้นมาอีกที ตอนลืมตาขึ้น เฟิงถิงเซินกลับยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นหลังเห็นเธอตื่น แล้วมองมาทางตัวเองอย่างเหม่อลอย แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้จ้องมองมาที่ตัวเอง เฟิงถิงเซินจึงลุกขึ้น เดินเข้ามาแตะหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเธอเล็กน้อย แล้วถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า?”พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึงเนื้อถึงตัวกันมานานมากแล้วจริง ๆ หรงฉือไม่คุ้นชินกับการสัมผัสของเขาสักเท่าไรแม้จะรู้ว่าเขากำลังช่วยวัดอุณหภูมิให้เธอ แต่หรงฉือยังคงปัดมือของเขาออก แล้วส่ายหน้าโดยไร้เสียงเบา ๆ เธอแค่แปลกใจที่เขายังอยู่ก็เท่านั้นเธอยังคิดว่า ก่อนหน้านี้พอเขารับโทรศัพท์ก็ออกจากบ้านเดิมไปแล้วเสียอีก เธอเริ่มเหงื่อออกไปทั้งตัวอีกครั้ง ตอนนี้จึงมีเค้าลางว่าไข้ลดลงอย่างเป็นทางการแล้วร่างกายเหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัวมาก เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดอีกหนึ่งรอบ หลังทานข้าว และนั่งพักครู่หนึ่งก็หลับไปอีกครั้งตอนที่เธอตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นตอนบ่ายแล้วจนถึงตอนนี้ ไข้ของเธอก็ลดลงอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status