Share

บทที่ 5

Author: อวินจงมี่
หลายปีมานี้ อวี้มั่วซวินและหรงฉือแทบไม่ได้เจอกันเลยจริงๆ

แต่หลังจากเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง อวี้มั่วซวินก็มองออกว่าเธอในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่กระตือรือร้นเหมือนแต่ก่อน

เมื่อนึกถึงหรงฉือในตอนนั้น เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งคำว่ามีปมด้อยจะถูกใช้กับหรงฉือ

อวี้มั่วซวินไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของหรงฉือและเฟิงถิงเซิน

แต่ก็พอรู้มาบ้าง

เขาเพียงคาดเดาอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน เพียงพูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ไม่สำคัญว่าคุณจะตามหลังไปสักระยะหนึ่ง ความสามารถและพรสวรรค์ของคุณ ไม่ใช่อัจฉริยะทั่วไปจะเทียบได้ เสี่ยวฉือ ตราบใดที่คุณยังมีใจที่จะเดินตามเส้นทางนี้ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่”

“อย่าลืมว่าคุณเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ภูมิใจที่สุดในชีวิตการเป็นอาจารย์”

หรงฉือได้ฟังแล้วก็ยิ้ม “ถ้าอาจารย์ได้ยินเข้า ฉันเกรงว่าเขาคงจะเยาะเย้ย และบอกว่าเขาถูกบังคับให้เลือกคนที่ดีที่สุดจากหมู่คนที่แย่ที่สุด”

เมื่อนึกถึงอาจารย์ผู้สง่างามและปากร้ายในอดีต รอยยิ้มของหรงฉือก็จางลง “เมื่อกี้ฉันเห็นในข่าวว่าอาจารย์ท่านก็กลับมาร่วมงานฉลองครบรอบด้วย ท่านยังสบายดีไหม”

“สบายดี เพียงแต่ลูกศิษย์ที่มักทำให้ท่านขายหน้าอยู่เรื่อยๆ อย่างพวกเราจะไปปรากฏตัวให้ท่านเห็นบ่อยๆ ซึ่งมันทำให้ท่านรำคาญมาก”

หรงฉือจึงหัวเราะออกมา และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันเวลาที่เคยถูกอาจารย์ผู้มีพระคุณกดดันให้เขียนวิทยานิพนธ์ทุกวันในสมัยนั้น

อวี้มั่วซวินเอ่ยว่า “กลับมาเถอะ เสี่ยวฉือ”

หรงฉือจับแก้วชาแน่นขึ้น หายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้า “ตกลง”

เธอเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เธอรักในสาขานี้มาก

เธอละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองเป็นเวลาหกเจ็ดปีเพราะรักเฟิงถิงเซิน

เธอจากไปหกเจ็ดปีแล้ว อาจต้องใช้เวลาอย่างมากในการตามให้ทัน

แต่เธอเชื่อว่าตราบใดที่เธอพยายาม ทุกสิ่งอย่างก็ย่อมเป็นไปได้

อวี้มั่วซวินถามอีกว่า “คุณจะกลับมาได้เมื่อไหร่”

“ตอนนี้ยังต้องรอให้มีคนมารับงานปัจจุบันต่อจากฉัน เกรงว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง”

“ไม่เป็นไร ยังไม่รีบร้อนตอนนี้”

ในเมื่อเธอกลับมาได้ รอต่อไปอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป

ทั้งสองพูดคุยกันต่อสักพักหนึ่ง อวี้มั่วซวินมองดูเวลาแล้วพูดว่า “ลูกน้องแนะนำอัจฉริยะด้านอัลกอริธึมคนหนึ่งให้ผม ได้ยินมาว่าเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเรานัดกันไว้ว่าจะเจอกันในอีกสักพัก และในเมื่อเราบังเอิญเจอกันพอดี ไปเจอเขาด้วยกันกับผมไหม”

หรงฉือส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้จักลูกน้องของคุณด้วย ไว้ครั้งหน้าเถอะ”

“ก็ได้”

อวี้มั่วซวินเพิ่งออกไป หรงฉือก็เห็นเฟิงถิงหลิน ซึ่งเป็นพี่สาวของเฟิงถิงเซินเดินมาหาเธอ

หรงฉือก็เห็นเธอในข่าวด้วย

แต่ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเธอที่นี่

หรงฉือทักทายว่า “พี่ถิงหลิน”

เฟิงถิงหลินไม่ตอบ แต่มองเธอและถามด้วยความสงสัยว่า “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“วันนี้เป็นวันฉลองครบรอบของมหาลัยตงฟาง ฉันก็เลยกลับมาดูสักหน่อย”

ถ้าหรงฉือไม่พูด เฟิงถิงหลินก็ลืมไปเลยว่าเธอก็สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตงฟาง

แต่นอกจากอาจารย์และนักศึกษาในมหาลัยแล้ว คนที่กลับมาร่วมงานในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญจากมหาลัย

ส่วนคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงอย่างหรงฉือมาร่วมสนุกอะไรด้วย?

แต่ก็ช่างมันเถอะ

ตราบใดที่เธอไม่ไปพูดจาไร้สาระข้างนอก และทําให้ตระกูลเฟิงต้องอับอาย เธอก็ไม่อยากยุ่งด้วย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฟิงถิงหลินก็พูดตรงๆ ว่า “เสี่ยวหมิงบอกว่าอยากทานอาหารที่เธอทำ เดี๋ยวฉันจะให้คนพาเขาไปส่งหาเธอกับถิงเซิน”

เสี่ยวหมิงเป็นลูกชายของเฟิงถิงหลิน ซึ่งโตกว่าเฟิงจิ่งซินหนึ่งหรือสองปี

ระหว่างเฟิงถิงหลินและสามีไม่ค่อยลงรอยกัน หลายปีก่อนเฟิงถิงหลินยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาดูแลลูก ลูกของพวกเขาจึงเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตอนนี้เธออยากจะดูแลลูก แต่ก็ยากเกินกว่าที่จะจัดการได้

เมื่อรู้ว่าลูกชายชอบอาหารที่เธอทํา พอมีเวลาว่างเฟิงถิงหลินก็ส่งลูกชายไปหาเธอและเฟิงถิงเซินตลอดช่วงสองปีนี้

คนในตระกูลเฟิงไม่มีใครให้ความสำคัญกับเธอเลย ยกเว้นคุณหญิง

เด็กโตมักจะชอบเลียนแบบคนอื่นมากที่สุด

แม้ว่าลูกชายของเฟิงถิงหลินจะชอบอาหารที่เธอทำ แต่กลับรู้สึกดูถูกน้าสะใภ้อย่างเธอในใจลึกๆ และทุกครั้งที่มาหาเธอก็แทบจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นแม่บ้านอย่างไงอย่างงั้น

ก่อนหน้านี้หรงฉือปฏิบัติกับลูกชายของเฟิงถิงหลินอย่างเต็มที่เพราะเฟิงถิงเซิน และไม่ถือสากับความก้าวร้าวของเด็กน้อยเลย

แต่ตอนนี้เธอเตรียมจะหย่ากับเฟิงถิงเซินแล้ว เธอไม่อยากลำบากตัวเองเพื่อเฟิงถิงเซินอีกต่อไป

ดังนั้นหรงฉือจึงปฏิเสธตรงๆ ว่า “ขอโทษนะคะพี่ถิงหลิน พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง”

ในเมื่อเธอตัดสินใจจะกลับสู่สาขาวิชาชีพเดิม ต่อไปในอนาคตเธอจะให้ความสำคัญกับงานของเธอเป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นเฟิงถิงเซินหรือเฟิงถิงหลิน หลังจากหย่าร้างเธอก็ไม่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาอีกต่อไป

เธอจะไม่เสียเวลาให้กับพวกเขาอีกต่อไป

เฟิงถิงหลินไม่คิดว่าหรงฉือจะกล้าปฏิเสธเธอตรงๆ

อย่างไรเสีย เมื่อก่อนหรงฉือก็ยอมลดตัวเอาใจคนในตระกูลเฟิงอย่างพวกเขาบ่อยครั้งเพราะเฟิงถิงเซิน

เพียงแต่เฟิงถิงหลินไม่ได้คิดมาก

ก่อนหน้านี้หรงฉือไม่เคยปฏิเสธเธอเลย ตอนนี้หรงฉือบอกว่ามีธุระ เธอจึงคิดว่าหรงฉือต้องมีธุระจริงๆ ไม่เช่นนั้น หรงฉือจะยอมทิ้งโอกาสที่จะเอาใจเธอได้ยังไง

แต่เธอก็ยังพูดอย่างไม่พอใจว่า “ตอนนี้ถิงเซินและซินซินไม่ได้อยู่กับเธอ เธอจะมีเรื่องสำคัญอะไรได้อีก?”

หรงฉือฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ

หลายปีมานี้ เธอทิ้งความเป็นตัวเอง โดยที่จุดศูนย์กลางของชีวิตเธออยู่ที่เฟิงถิงเซินและลูกสาว และหมุนรอบพวกเขามาตลอด

ตอนนี้ได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้จากเฟิงถิงหลินก็สมควรแล้วจริงๆ

แต่ต่อไปนี้เธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในขณะที่หรงฉือกำลังพูดก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางพวกเธออย่างพอดี

“คุณเฟิง”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาตามหาเฟิงถิงหลิน

เมื่อพวกเขาเห็นหรงฉือก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนถามว่า “คุณเฟิง คนนี้คือ...”

เฟิงถิงหลินไม่ได้บอกว่าหรงฉือเป็นน้องสะใภ้ของเธอ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพื่อนน่ะ”

“อ๋อ เพื่อนนี่เอง...”

พวกเขาและเฟิงถิงหลินต่างก็กลับมาที่มหาลัยตงฟางเพื่อร่วมงานฉลอง และต่างก็มีสถานะสูง

เมื่อเห็นเฟิงถิงหลินบังเอิญเจอคนรู้จัก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นบุคคลที่สำคัญอะไร

แต่พอเห็นท่าทีของเฟิงถิงหลินที่มีต่อหรงฉือ นอกจากบางคนที่มองว่าหรงฉือสวย ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมองขาเรียวยาวขาวผ่องของเธอหลายแวบ ส่วนคนอื่นๆ ไม่มีใครสนใจเธอเลย

พวกเขาล้อมรอบเฟิงถิงหลินก่อนจะเดินจากไปในทันที

ถ้าเป็นเมื่อก่อนหรงฉืออาจจะรู้สึกเสียใจและเศร้าใจที่เฟิงถิงหลินไม่ยอมรับสถานะน้องสะใภ้ของเธอ

แต่ตอนนี้หรงฉือไม่สนใจแล้ว

หลังจากที่เฟิงถิงหลินจากไปแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าของเธอแล้วหันหลังจากไป

เฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินนั่งเครื่องบินมาถึงสนามบินตรงเวลาตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าของคืนวันนั้น

ตอนพวกเขากลับถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว

เฟิงจิ่งซินผล็อยหลับไปก่อนที่จะกลับถึงบ้าน

เฟิงถิงเซินอุ้มเฟิงจิ่งซินขึ้นไปที่ชั้นบน ขณะเดินผ่านห้องนอนใหญ่ เขาพบว่าประตูเปิดอยู่ แต่ข้างในมืดสนิท

หลังอุ้มเฟิงจิ่งซินไปส่งห้องของเธอ เขาก็กลับมาที่ห้องนอนใหญ่ เฟิงถิงเซินเปิดไฟสลัวในห้องก่อนที่สายตาจะเหลือบมองไปที่เตียง ซึ่งว่างเปล่า

หรงฉือไม่อยู่

ในเวลานี้ พ่อบ้านช่วยเขายกกระเป๋าขึ้นมาชั้นบนพอดี เฟิงถิงเซินคลายเนคไทที่คอออกเล็กน้อยแล้วถามว่า “แล้วเธอล่ะ”

พ่อบ้านรีบพูดว่า “คุณผู้หญิงไปทำธุระต่างเมืองแล้วครับ”

เมื่อครึ่งเดือนก่อน บังเอิญว่าเขาไม่อยู่พอดีตอนที่หรงฉือมาเก็บข้าวของ

เพียงแต่ได้ยินจากคนรับใช้คนอื่นในวิลล่าว่าหรงฉือออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง จึงคิดว่าไปทำธุระต่างเมือง

จะว่าไปก็แปลก เมื่อก่อนหรงฉือไม่ค่อยเดินทางไปทําธุระต่างเมืองเลย แต่ถึงแม้จะไป ก็ไปแค่สองสามวันเท่านั้น

ครั้งนี้ผ่านมาจวนครึ่งเดือนแล้วยังไม่กลับมาเลย

เฟิงถิงเซินเพียงตอบ “อืม” คำหนึ่ง แล้วไม่ถามอะไรอีกต่อไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (7)
goodnovel comment avatar
Pojana Po
เมียทิ้งทั้งลูกเละผัว
goodnovel comment avatar
Aojida Pradab
ชวนติดตามมากค่ะ
goodnovel comment avatar
ใบเตย บีอาร์
ชวนให้ติดตามว่าจะเป็นยังไงต่อไป
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 597

    หลังจากที่นัดเวลากันเรียบร้อย เช้าของวันรุ่งขึ้นหรงฉือก็ไปยังที่ทำการกิจการพลเรือนแล้วเฟิงถิงเซินก็ตรงเวลาดีมาก ถึงขนาดมาถึงเร็วยิ่งกว่าเธอเสียอีก ขั้นตอนต่าง ๆ ผ่านไปอย่างราบรื่นหลังจากทำเรื่องเสร็จแล้ว เฟิงถิงเซินก็มองเธอแล้วพูดว่า “อีกสองวันซินซินอยากจะไปเที่ยวทะเล คุณว่างไหม?”หรงฉือหยุดฝีเท้าลงเล็กน้อย ก่อนจะตอบไปว่า “ยังไม่แน่ใจ ไว้ค่อยว่ากันอีกที”เฟิงถิงเซินไม่ถามต่ออีกแล้วพูดว่า “โอเค”หรงฉือก็หมุนตัวจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาเรื่องที่พวกเขาไปทำเรื่องหย่ากันที่ทำการกิจการพลเรือนอีกครั้ง ไม่นานฉีอวี้หมิงก็รู้แล้วบ่ายวันนั้นเขาแท็กถึงเฟิงถิงเซินในกลุ่มแชท [ได้ยินว่าในที่สุดวันนี้ตอนเช้านายก็สละเวลาออกไปทำเรื่องหย่าที่ที่ทำการกิจการพลเรือนแล้ว? เอาจริง ๆ นะ นี่ก็หลายครั้งแล้ว เมื่อไรพวกนายถึงจะหย่ากันได้สักที?]ในกลุ่มแชท เฟิงถิงเซินไม่ได้ตอบกลับแต่หลินอู๋กลับเห็นข้อความที่ฉีอวี้หมิงส่งมาในทันทีเวลานี้ เธอถึงจะรู้ว่าเฟิงถิงเซินกับหรงฉือไปทำเรื่องหย่ากันที่ทำการกิจการพลเรือนแล้วตอนที่เธอดูข้อความ ซุนลี่เหยาก็อยู่ด้วยเธอรู้ว่าหลินอู๋ เฟิงถิงเซิน ฉีอวี้หมิง แ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 596

    ไม่นานเฟิงถิงเซินก็ตอบกลับเธอมาว่า [โอเค ผมรู้แล้ว]เขาตอบข้อความกลับมาแบบนี้ แต่วันที่สามและสี่ได้ผ่านไปอีกแล้ว หรงฉือก็ยังคงไม่ได้รับข้อความนัดเธอให้ไปทำเรื่องหย่าที่ที่ทำการกิจการพลเรือนจากเฟิงถิงเซินเลยเฟิงถิงเซินกลับประเทศมาเกินหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นฝ่ายนัดหรงฉือเรื่องหย่า คนตระกูลหลินและตระกูลซุนย่อมทราบเรื่องนี้แล้วเช่นกันไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังรู้อีกว่า ในสัปดาห์นี้เฟิงถิงเซินเจอหน้ากับหลินอู๋น้อยมากหากเฟิงถิงเซินงานยุ่ง พวกเขาก็พอจะเข้าใจได้แต่เท่าที่พวกเขารู้มา ทั้งสัปดาห์นี้เฟิงถิงเซินไม่ได้ยุ่งอะไรมากนักก่อนหน้านี้หลินอู๋บอกพวกเขาว่า ตั้งแต่ที่เฟิงถิงเซินรู้ว่าหรงฉือมีความสามารถทางด้านวิชาชีพ ท่าทีที่เขามีต่อหรงฉือก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยถึงตอนนี้ เฟิงถิงเซินคงมีความรู้สึกให้หรงฉือบ้างแล้ว จนถึงขั้นเขาเริ่มไม่อยากจะหย่ากับหรงฉือแล้วแม้จะเป็นแบบนี้ คนตระกูลหลินและตระกูลซุนก็ยังคิดว่าความรู้สึกที่เฟิงถิงเซินมีต่อหลินอู๋ยังคงลึกซึ้งอยู่มากแต่ตอนนี้เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้ยุ่งอะไรแต่กลับไม่ยอมเป็นฝ่ายหย่ากับหรงฉือ ทางฝั่งหลิน

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 595

    จริง ๆ แล้ว เงินก้อนนั้น เธอไม่ได้ต้องการเพื่อตัวเองเธอต้องการเพื่อเฟิงจิ่งซินต่างหากในอนาคต เมื่อเฟิงจิ่งซินโตขึ้นมาบ้างแล้ว เธอจะมอบเงินและสิ่งของทั้งหมดที่เฟิงถิงเซินให้เธอแก่เฟิงจิ่งซินมีของพวกนี้แล้ว ไม่ว่าเฟิงจิ่งซินจะเผชิญกับอะไรในอนาคต เธอก็จะได้มีความมั่นใจและทางเลือกที่มากขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่วัน ไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินกลับประเทศมาแล้วหรือเปล่า เพราะจู่ ๆ หรงฉือก็ได้รับโทรศัพท์จากทนายของเฟิงถิงเซิน บอกว่าสัญญาเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาททางฝั่งเขาร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาอยากจะส่งให้เธอดูก่อน หากมีปัญหาอะไร จะได้รีบปรึกษาและจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดพอได้ยินทนายของเฟิงถิงเซินพูดแบบนี้ หรงฉือยังนึกว่าในข้อตกลงจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอีกเยอะเพราะถึงอย่างไร เงินที่เฟิงถิงเซินต้องจ่ายตั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาทเชียวเงินจำนวนมากแบบนี้ เขาจะยื่นข้อเสนออีกสักหน่อย เธอก็พอจะเข้าใจได้แต่เนื้อหาที่ทนายของเฟิงถิงเซินส่งมาให้กลับสั้นมาก ข้อเรียกร้องของเฟิงถิงเซินมีเพียงข้อเดียว นั้นก็คือขอให้ในครึ่งปีนี้เธอห้ามฟ้องหย่าเขานี่ยังคงเป็นข้อเรียกร้องที่เฟิงถิงเซินเสนอขึ้นม

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 594

    เมื่อรู้ว่าหรงฉืออยากจะฟ้องหย่า คุณยายหรงก็เห็นด้วยหลังจากที่คุยกับคุณยายเสร็จ หรงฉือก็หมุนตัวขึ้นไปชั้นบน ขณะที่เธอกำลังจะโทรศัพท์ไปหาเผยซวี่เฉิน เพื่อคุยเรื่องฟ้องหย่า ก็ได้รับข้อความที่เฟิงถิงเซินส่งมา[ผมไม่สามารถรีบกลับไปได้ทันเวลา เป็นความผิดของผมเอง ขอโทษนะ]หรงฉืออ่าน แต่ไม่ได้ตอบกลับหลังจากนั้นไม่นาน เฟิงถิงเซินก็ส่งข้อความที่สองเข้ามา [ไม่ฟ้องหย่าได้ไหม? ถ้าคุณตอบรับข้อเสนอนี้ของผม ผมจะให้เงินค่าชดเชยคุณหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท]หรงฉืออ่านแล้ว ก็ยังไม่ตอบกลับความจริงแล้วเธอรู้ว่าทำไมเฟิงถิงเซินถึงไม่อยากให้เธอฟ้องหย่าหากเธอฟ้องหย่าแล้วข่าวหลุดออกไป สถานะที่หลินอู๋เป็นมือที่สามก็จะถูกเปิดโปง หากมีคนที่มีเจตนายุยงปลุกปั่น อย่าว่าแต่หน้าที่การงานของเฟิงถิงเซินเองเลย แม้แต่เส้นทางอาชีพทางการเมืองของพ่อเขา ก็ล้วนได้รับผลกระทบไปด้วยหากเรื่องมาถึงจุดนี้จริง เพื่ออนาคตของตระกูลเฟิง คาดว่าคุณย่าเฟิงและซางเซี่ยนคงมาหาเธอเพราะเรื่องนี้แน่...และตระกูลเฟิงก็เป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลหรงของพวกเขาอยู่ไม่น้อยหรงฉือนั่งอยู่ที่เดิม คิดเรื่องพวกนี้อยู่นานไม่ขยับไปไหนเลยเวลานี้ เ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 593

    เรื่องของทางฝั่งหลินอู๋ หรงฉือไม่รู้อะไรเลยช่วงนี้เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะอาการของคุณยายหรงดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยรวมเกือบจะหายดีแล้วเพียงแต่ ช่วงตัดสินใจก่อนการหย่าระหว่างเธอกับเฟิงถิงเซินในครั้งนี้ก็ผ่านมาเกินครึ่งหนึ่งแล้วแต่เฟิงถิงเซินยังไม่กลับมาจากการทำงานต่างเมืองเลยเมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ยินเฟิงจิ่งซินบอกว่าตอนนี้เฟิงถิงเซินยุ่งมาก และยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถกลับประเทศมาได้เมื่อไรเมื่อเห็นเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ช่วงตัดสินใจก่อนการหย่าของพวกเขาก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว หรงฉือลังเลอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาเฟิงถิงเซิน[คุณจะกลับมาเมื่อไร?]หลังจากที่ส่งข้อความออกไป จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น เธอจึงจะได้รับการตอบกลับ[ไม่เร็วขนาดนั้น]หรงฉือขมวดคิ้ว แล้วส่งข้อความไปทันทีว่า [รีบกลับมาก่อนช่วงตัดสินใจจะสิ้นสุดลงได้ไหม?]เฟิงถิงเซิน [ขอโทษนะ ไม่แน่ใจ]หรงฉือเห็น ก็คลึงหว่างคิ้ว ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกผ่านไปสักพักหนึ่ง คาดว่าเฟิงถิงเซินคงจะรู้สึกได้ว่าเธอโกรธแล้ว จึงส่งข้อความมาอีกว่า [โกรธเหรอ?]หรงฉือไม่ตอบกลับเขาเธอมองหน้าจอโทรศัพท์ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มพ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 592

    คาดไม่ถึงเลยว่าหลินอู๋จะรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้วแต่เธอไม่เคยพูดถึงมันกับพวกเขามาก่อนที่เธอไม่พูด เพราะไม่สนใจเรื่องนี้เหมือนอย่างที่พูดกับซุนลี่เหยาแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?หากหลังจากที่เธอรู้เรื่องนี้ แล้วถามเฟิงถิงเซินให้ชัดเจน จนมั่นใจว่าเฟิงถิงเซินมีเหตุผลที่ให้เพชรกับหรงฉือ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับเรื่องนี้มากเกินไปแล้วจริง ๆ แบบนี้แล้ว ในกรณีที่พวกเขาไม่เป็นฝ่ายพูดถึง หลินอู๋ก็ไม่เป็นฝ่ายพูดกับพวกเขา ก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่บ้างแต่เพชรเม็ดนั้นถึงอย่างไรก็มีมูลค่ากว่าสองหมื่นล้านบาท ซึ่งมากกว่าของทั้งหมดที่ซวิ่นตู้และเฟิงถิงเซินเคยให้หลินอู๋รวมกันเสียอีก...เมื่อรู้ว่าทุกคนให้ความสนใจกับเพชรเม็ดนี้ที่หายไปอย่างมาก พอรู้ว่าเฟิงถิงเซินให้เพชรนี้แก่คนอื่นไปแล้ว หลินอู๋กลับยังเอาแต่เงียบไว้ แบบนี้ก็ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไรหากหลินอู๋คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟิงถิงเซินนั้นดีมากพอ จนทำให้เธอมีความมั่นใจและคิดว่าหลังจากที่เธอแต่งงานกับเฟิงถิงเซิน สิ่งที่เธอได้รับย่อมมีมากกว่านี้อย่างแน่นอน มากถึงขนาดสามารถไม่สนใจเพชรเม็ดนี้ได้เลย งั้นการที่หลินอู๋ไม่พูดถึงเรื่อง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status