แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: อวินจงมี่
หลายปีมานี้ อวี้มั่วซวินและหรงฉือแทบไม่ได้เจอกันเลยจริงๆ

แต่หลังจากเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง อวี้มั่วซวินก็มองออกว่าเธอในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่กระตือรือร้นเหมือนแต่ก่อน

เมื่อนึกถึงหรงฉือในตอนนั้น เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งคำว่ามีปมด้อยจะถูกใช้กับหรงฉือ

อวี้มั่วซวินไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของหรงฉือและเฟิงถิงเซิน

แต่ก็พอรู้มาบ้าง

เขาเพียงคาดเดาอยู่ในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน เพียงพูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ไม่สำคัญว่าคุณจะตามหลังไปสักระยะหนึ่ง ความสามารถและพรสวรรค์ของคุณ ไม่ใช่อัจฉริยะทั่วไปจะเทียบได้ เสี่ยวฉือ ตราบใดที่คุณยังมีใจที่จะเดินตามเส้นทางนี้ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่”

“อย่าลืมว่าคุณเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ภูมิใจที่สุดในชีวิตการเป็นอาจารย์”

หรงฉือได้ฟังแล้วก็ยิ้ม “ถ้าอาจารย์ได้ยินเข้า ฉันเกรงว่าเขาคงจะเยาะเย้ย และบอกว่าเขาถูกบังคับให้เลือกคนที่ดีที่สุดจากหมู่คนที่แย่ที่สุด”

เมื่อนึกถึงอาจารย์ผู้สง่างามและปากร้ายในอดีต รอยยิ้มของหรงฉือก็จางลง “เมื่อกี้ฉันเห็นในข่าวว่าอาจารย์ท่านก็กลับมาร่วมงานฉลองครบรอบด้วย ท่านยังสบายดีไหม”

“สบายดี เพียงแต่ลูกศิษย์ที่มักทำให้ท่านขายหน้าอยู่เรื่อยๆ อย่างพวกเราจะไปปรากฏตัวให้ท่านเห็นบ่อยๆ ซึ่งมันทำให้ท่านรำคาญมาก”

หรงฉือจึงหัวเราะออกมา และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันเวลาที่เคยถูกอาจารย์ผู้มีพระคุณกดดันให้เขียนวิทยานิพนธ์ทุกวันในสมัยนั้น

อวี้มั่วซวินเอ่ยว่า “กลับมาเถอะ เสี่ยวฉือ”

หรงฉือจับแก้วชาแน่นขึ้น หายใจเข้าลึกๆ แล้วพยักหน้า “ตกลง”

เธอเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เธอรักในสาขานี้มาก

เธอละทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองเป็นเวลาหกเจ็ดปีเพราะรักเฟิงถิงเซิน

เธอจากไปหกเจ็ดปีแล้ว อาจต้องใช้เวลาอย่างมากในการตามให้ทัน

แต่เธอเชื่อว่าตราบใดที่เธอพยายาม ทุกสิ่งอย่างก็ย่อมเป็นไปได้

อวี้มั่วซวินถามอีกว่า “คุณจะกลับมาได้เมื่อไหร่”

“ตอนนี้ยังต้องรอให้มีคนมารับงานปัจจุบันต่อจากฉัน เกรงว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง”

“ไม่เป็นไร ยังไม่รีบร้อนตอนนี้”

ในเมื่อเธอกลับมาได้ รอต่อไปอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป

ทั้งสองพูดคุยกันต่อสักพักหนึ่ง อวี้มั่วซวินมองดูเวลาแล้วพูดว่า “ลูกน้องแนะนำอัจฉริยะด้านอัลกอริธึมคนหนึ่งให้ผม ได้ยินมาว่าเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเรานัดกันไว้ว่าจะเจอกันในอีกสักพัก และในเมื่อเราบังเอิญเจอกันพอดี ไปเจอเขาด้วยกันกับผมไหม”

หรงฉือส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้จักลูกน้องของคุณด้วย ไว้ครั้งหน้าเถอะ”

“ก็ได้”

อวี้มั่วซวินเพิ่งออกไป หรงฉือก็เห็นเฟิงถิงหลิน ซึ่งเป็นพี่สาวของเฟิงถิงเซินเดินมาหาเธอ

หรงฉือก็เห็นเธอในข่าวด้วย

แต่ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเธอที่นี่

หรงฉือทักทายว่า “พี่ถิงหลิน”

เฟิงถิงหลินไม่ตอบ แต่มองเธอและถามด้วยความสงสัยว่า “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“วันนี้เป็นวันฉลองครบรอบของมหาลัยตงฟาง ฉันก็เลยกลับมาดูสักหน่อย”

ถ้าหรงฉือไม่พูด เฟิงถิงหลินก็ลืมไปเลยว่าเธอก็สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตงฟาง

แต่นอกจากอาจารย์และนักศึกษาในมหาลัยแล้ว คนที่กลับมาร่วมงานในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญจากมหาลัย

ส่วนคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงอย่างหรงฉือมาร่วมสนุกอะไรด้วย?

แต่ก็ช่างมันเถอะ

ตราบใดที่เธอไม่ไปพูดจาไร้สาระข้างนอก และทําให้ตระกูลเฟิงต้องอับอาย เธอก็ไม่อยากยุ่งด้วย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฟิงถิงหลินก็พูดตรงๆ ว่า “เสี่ยวหมิงบอกว่าอยากทานอาหารที่เธอทำ เดี๋ยวฉันจะให้คนพาเขาไปส่งหาเธอกับถิงเซิน”

เสี่ยวหมิงเป็นลูกชายของเฟิงถิงหลิน ซึ่งโตกว่าเฟิงจิ่งซินหนึ่งหรือสองปี

ระหว่างเฟิงถิงหลินและสามีไม่ค่อยลงรอยกัน หลายปีก่อนเฟิงถิงหลินยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาดูแลลูก ลูกของพวกเขาจึงเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตอนนี้เธออยากจะดูแลลูก แต่ก็ยากเกินกว่าที่จะจัดการได้

เมื่อรู้ว่าลูกชายชอบอาหารที่เธอทํา พอมีเวลาว่างเฟิงถิงหลินก็ส่งลูกชายไปหาเธอและเฟิงถิงเซินตลอดช่วงสองปีนี้

คนในตระกูลเฟิงไม่มีใครให้ความสำคัญกับเธอเลย ยกเว้นคุณหญิง

เด็กโตมักจะชอบเลียนแบบคนอื่นมากที่สุด

แม้ว่าลูกชายของเฟิงถิงหลินจะชอบอาหารที่เธอทำ แต่กลับรู้สึกดูถูกน้าสะใภ้อย่างเธอในใจลึกๆ และทุกครั้งที่มาหาเธอก็แทบจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นแม่บ้านอย่างไงอย่างงั้น

ก่อนหน้านี้หรงฉือปฏิบัติกับลูกชายของเฟิงถิงหลินอย่างเต็มที่เพราะเฟิงถิงเซิน และไม่ถือสากับความก้าวร้าวของเด็กน้อยเลย

แต่ตอนนี้เธอเตรียมจะหย่ากับเฟิงถิงเซินแล้ว เธอไม่อยากลำบากตัวเองเพื่อเฟิงถิงเซินอีกต่อไป

ดังนั้นหรงฉือจึงปฏิเสธตรงๆ ว่า “ขอโทษนะคะพี่ถิงหลิน พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง”

ในเมื่อเธอตัดสินใจจะกลับสู่สาขาวิชาชีพเดิม ต่อไปในอนาคตเธอจะให้ความสำคัญกับงานของเธอเป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นเฟิงถิงเซินหรือเฟิงถิงหลิน หลังจากหย่าร้างเธอก็ไม่มีความสัมพันธ์กับพวกเขาอีกต่อไป

เธอจะไม่เสียเวลาให้กับพวกเขาอีกต่อไป

เฟิงถิงหลินไม่คิดว่าหรงฉือจะกล้าปฏิเสธเธอตรงๆ

อย่างไรเสีย เมื่อก่อนหรงฉือก็ยอมลดตัวเอาใจคนในตระกูลเฟิงอย่างพวกเขาบ่อยครั้งเพราะเฟิงถิงเซิน

เพียงแต่เฟิงถิงหลินไม่ได้คิดมาก

ก่อนหน้านี้หรงฉือไม่เคยปฏิเสธเธอเลย ตอนนี้หรงฉือบอกว่ามีธุระ เธอจึงคิดว่าหรงฉือต้องมีธุระจริงๆ ไม่เช่นนั้น หรงฉือจะยอมทิ้งโอกาสที่จะเอาใจเธอได้ยังไง

แต่เธอก็ยังพูดอย่างไม่พอใจว่า “ตอนนี้ถิงเซินและซินซินไม่ได้อยู่กับเธอ เธอจะมีเรื่องสำคัญอะไรได้อีก?”

หรงฉือฟังแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ

หลายปีมานี้ เธอทิ้งความเป็นตัวเอง โดยที่จุดศูนย์กลางของชีวิตเธออยู่ที่เฟิงถิงเซินและลูกสาว และหมุนรอบพวกเขามาตลอด

ตอนนี้ได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้จากเฟิงถิงหลินก็สมควรแล้วจริงๆ

แต่ต่อไปนี้เธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในขณะที่หรงฉือกำลังพูดก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางพวกเธออย่างพอดี

“คุณเฟิง”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาตามหาเฟิงถิงหลิน

เมื่อพวกเขาเห็นหรงฉือก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนถามว่า “คุณเฟิง คนนี้คือ...”

เฟิงถิงหลินไม่ได้บอกว่าหรงฉือเป็นน้องสะใภ้ของเธอ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เพื่อนน่ะ”

“อ๋อ เพื่อนนี่เอง...”

พวกเขาและเฟิงถิงหลินต่างก็กลับมาที่มหาลัยตงฟางเพื่อร่วมงานฉลอง และต่างก็มีสถานะสูง

เมื่อเห็นเฟิงถิงหลินบังเอิญเจอคนรู้จัก ตอนแรกก็คิดว่าเป็นบุคคลที่สำคัญอะไร

แต่พอเห็นท่าทีของเฟิงถิงหลินที่มีต่อหรงฉือ นอกจากบางคนที่มองว่าหรงฉือสวย ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมองขาเรียวยาวขาวผ่องของเธอหลายแวบ ส่วนคนอื่นๆ ไม่มีใครสนใจเธอเลย

พวกเขาล้อมรอบเฟิงถิงหลินก่อนจะเดินจากไปในทันที

ถ้าเป็นเมื่อก่อนหรงฉืออาจจะรู้สึกเสียใจและเศร้าใจที่เฟิงถิงหลินไม่ยอมรับสถานะน้องสะใภ้ของเธอ

แต่ตอนนี้หรงฉือไม่สนใจแล้ว

หลังจากที่เฟิงถิงหลินจากไปแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าของเธอแล้วหันหลังจากไป

เฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินนั่งเครื่องบินมาถึงสนามบินตรงเวลาตอนประมาณสี่ทุ่มกว่าของคืนวันนั้น

ตอนพวกเขากลับถึงบ้านก็เกือบตีหนึ่งแล้ว

เฟิงจิ่งซินผล็อยหลับไปก่อนที่จะกลับถึงบ้าน

เฟิงถิงเซินอุ้มเฟิงจิ่งซินขึ้นไปที่ชั้นบน ขณะเดินผ่านห้องนอนใหญ่ เขาพบว่าประตูเปิดอยู่ แต่ข้างในมืดสนิท

หลังอุ้มเฟิงจิ่งซินไปส่งห้องของเธอ เขาก็กลับมาที่ห้องนอนใหญ่ เฟิงถิงเซินเปิดไฟสลัวในห้องก่อนที่สายตาจะเหลือบมองไปที่เตียง ซึ่งว่างเปล่า

หรงฉือไม่อยู่

ในเวลานี้ พ่อบ้านช่วยเขายกกระเป๋าขึ้นมาชั้นบนพอดี เฟิงถิงเซินคลายเนคไทที่คอออกเล็กน้อยแล้วถามว่า “แล้วเธอล่ะ”

พ่อบ้านรีบพูดว่า “คุณผู้หญิงไปทำธุระต่างเมืองแล้วครับ”

เมื่อครึ่งเดือนก่อน บังเอิญว่าเขาไม่อยู่พอดีตอนที่หรงฉือมาเก็บข้าวของ

เพียงแต่ได้ยินจากคนรับใช้คนอื่นในวิลล่าว่าหรงฉือออกไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง จึงคิดว่าไปทำธุระต่างเมือง

จะว่าไปก็แปลก เมื่อก่อนหรงฉือไม่ค่อยเดินทางไปทําธุระต่างเมืองเลย แต่ถึงแม้จะไป ก็ไปแค่สองสามวันเท่านั้น

ครั้งนี้ผ่านมาจวนครึ่งเดือนแล้วยังไม่กลับมาเลย

เฟิงถิงเซินเพียงตอบ “อืม” คำหนึ่ง แล้วไม่ถามอะไรอีกต่อไป
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 200

    “ความเห็นเหรอ จะมากหรือน้อยก็มีอยู่บ้างแหละ แต่ไม่เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร” ประธานหยางว่า “บริษัทมีโครงการดี ๆ ผู้ถือหุ้นคนอื่นย่อมอยากส่งคนของตัวเองไปทำ แต่ปกติแล้วประธานเฟิงจะจัดแจงด้วยตัวเองน้อยครั้งมาก คนอื่น ๆ คงไม่มีความเห็นอะไรทั้ง ๆ ที่ประธานเฟิงเพิ่งจัดให้คนของตัวเองเข้ามารับหน้าที่ในบางส่วนหรอก? ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งตระกูลหลินกับตระกูลซุนเองก็มีศักยภาพไม่เลว และเคารพกฎกติกามาก รวม ๆ แล้วไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่โต”อวี้มั่วซวิน “...”เขาทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยกล่าวออกไปว่า “โอเค งั้นไม่รบกวนคุณกับครอบครัวแล้ว คราวหน้าถ้ามีเวลาค่อยกินข้าวด้วยกันนะครับ”ประธานหยาง “ครับ ๆ ๆ ”หลังประธานหยางปลีกตัวออกไป อวี้มั่วซวินก็บอกหรงฉือว่า “พวกเราก็เข้าไปกันเถอะ”หรงฉือ “อืม”เมื่อทานข้าวเสร็จ และกลับถึงบริษัทได้ไม่นาน ก็ได้รับรายงานว่าเหรินจี่เฟิงมาแล้วหรงฉือกับอวี้มั่วซวินยังคงไม่คิดจะพบหน้าเขาอีกเช่นเคยเหรินจี่เฟิงไม่ได้กลับไป กระทั่งถึงตอนเย็นที่หรงฉือเลิกงาน ขณะที่เดินไปลานจอดรถ เขาก็เรียกหรงฉือเอาไว้เสียก่อน “คุณหรง”หรงฉือหมุนตัวกลับไป กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ประธานเหริน มีอะไรเหรอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 199

    หรงฉือว่า “พวกคุณไปกินเถอะ ฉันไปด้วยไม่ได้”เฟิงจิ่งซิน “อ้าว? แม่ไม่ไปเหรอคะ?”“อื้ม” เธอลูบหัวของเฟิงจิ่งซินเบา ๆ “แม่ต้องไปก่อนแล้ว หนูกับพ่อก็กินข้าวให้สนุกนะ”“อ๋อ...”หรงฉือยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก เธอหมุนตัวจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเฟิงถิงเซินมองแผ่นหลังของเธอ ทว่าไม่ได้พูดรั้งให้อยู่ต่อ เขากล่าวกับเฟิงจิ่งซินว่า “พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”“ค่ะ”เพิ่งก้าวขึ้นรถ โทรศัพท์ของเฟิงถิงเซินก็ดังขึ้นมาคุณย่าเฟิงเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาเขาเพิ่งรับสาย คุณย่าเฟิงก็กัดฟันพูดขึ้นมาแล้ว “นี่แกใช้บริษัทของครอบครัวเปิดโครงการใหม่ให้ตระกูลหลินกับตระกูลซุนเหรอ?!”เฟิงถิงเซินร้อง “อืม” ทั้งยังหัวเราะเล็กน้อย “คุณย่าเพิ่งรู้เหรอครับ?”“แก!” คุณย่าเฟิงยิ่งทวีความโกรธเกรี้ยว “แกหมายความว่ายังไง? นี่แก...จะหย่ากับเสี่ยวฉือใช่ไหม?”ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งและใจกล้าแบบนี้ในเมื่อเขากล้ารับตระกูลหลินกับตระกูลซุนเข้ามาในขอบเขตของเฟิงซื่อกรุ๊ป ก็เท่ากับว่าไม่กลัวเธอรู้เท่ากับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วไม่รอให้เขาอ้าปากพูด คุณย่าเฟิงก็พูดขึ้นมาทันที “ฉันไม่ยอม! แล้วก็ถ้าแกอยา

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 198

    ลูกสนิทสนมกับเขา ก็นับว่าเป็นเรื่องปกตินอกจากนี้แล้ว เธอเองก็เห็นว่ายามที่พ่อแม่ผู้ปกครองบ้านอื่นคอยดูสามีหรือภรรยาของตัวเองเล่นเกมกับลูกนั้น พอสนุกมักจะหัวเราะไม่ก็ปรบมือร้องบอกว่าดีไปด้วย ยามที่เล่นได้ไม่ค่อยดีก็จะคอยร้อนรนอยู่ข้าง ๆ คนอื่นจึงรู้สึกได้ว่าพวกเขากลมเกลียวกันพอมาถึงหรงฉือแม้ว่าหรงฉือจะมีรอยยิ้มประดับบนหน้ายามที่ได้เล่นเกมกับลูก ทว่าคนอื่นกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมือนกันเหมือนว่าเธอจะแปลกแยกจากสามีและลูกของเธออย่างไรอย่างนั้นแต่เมื่อนึกถึงคราวที่ประชุมผู้ปกครองครั้งก่อน เห็นได้ชัดว่าลูกสาวของหรงฉือก็สนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นดี อันที่จริงที่ตอนนี้หรงฉือแทรกความรู้สึกเข้าไประหว่างสามีของเธอกับลูกสาวไม่ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติลูกของตัวเองสนิทกับมือที่สามในความสัมพันธ์ของตัวเองแบบนั้น หากเป็นคนอื่นจะมีใครบ้างที่ไม่รู้สึกแย่?พอนึกถึงตรงนี้ เธอคิดว่าในใจของหรงฉือเองคงจะขมขื่นไม่น้อยเธอมองหรงฉือ ทว่ากลัวไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจออกไปอย่างไรดีหรงฉือเห็นความสงสารและความลังเลในแววตาของเธอแล้วหรงฉือรู้ว่าคุณแม่เถียนเถียนน่าจะเดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรบางอย่างกับเ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 197

    เฟิงถิงเซินเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณจะเล่นหรือให้ผมเล่น?”หรงฉือมองเฟิงจิ่งซิน “ให้ซินซินตัดสินใจดีกว่า”“พ่อแล้วกัน” เฟิงจิ่งซินว่า “แม่เล่นบาสไม่เป็น พ่อเล่นบาสเก่งมาก ๆ ”หรงฉือเล่นบาสเป็นทว่าเธอก็ไม่ได้พูดออกไปในเมื่อเฟิงจิ่งซินตัดสินใจด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอเลยพูดออกไป “คุณเล่น”เฟิงถิงเซิน “ได้”ตอนนี้แดดแรงขึ้นทุกที ความร้อนด้านนอกห้องก็พุ่งสูงขึ้นไม่น้อย เฟิงถิงเซินถอดเสื้อโค้ตตัวยาวสีดำที่คลุมตัวออก แล้วยื่นให้เธอ “ช่วยถือไว้ให้ผมหน่อย”หรงฉือ “...”เธอรับมา จากนั้นก็วางลงบนพื้นหญ้าข้าง ๆเฟิงถิงเซิน “...”เขาเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ตอนที่เกมใกล้จะเริ่มขึ้น เขากลับพูดกับเธออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว “เดี๋ยวตอนถ่ายวิดีโอ ก็คอยตามจังหวะของพวกเรามาด้วยนะ อย่าเอาแต่ยืนถ่ายอยู่กับที่”หรงฉือ “...รู้แล้วน่า”กฎกติกาของเกมมดน้อยส่งบอลคือ ‘เริ่มด้วยการที่ผู้ปกครองต้องใช้เชือกลากห่วงเดินไปข้างหน้า ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยเลี้ยงเดาะลูกบาสให้อยู่ในห่วงไปด้วย เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ก็ให้ลูกเป็นคนคอยดึงห่วง ส่วนผู้ปกครองคอยเลี้ยงบอล ระหว่างทางไปและกลับนั้น ลูกห้ามออกจากห่วง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 196

    เฟิงจิ่งซินวิ่งเข้ามาแปะมือกับหรงฉือด้วยท่าทางดีใจ “แม่คะ พวกเราชนะแล้ว!”หรงฉือแปะมือกับเธอ “อื้ม”เฟิงถิงเซินเองก็เดินมาหาเธอด้วย “ถ่ายไว้แล้วเหรอ?”“อืม” หรงฉือตอบ พลางส่งวิดีโอไปให้เขาหลังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรีจบ ต่อไปก็คือเกมวงล้อเพลิงไร้เทียมทานกฎกติกาของเกม ‘ครอบครัวสี่ครอบครัวจะต้องจบกลุ่มกันเป็นหนึ่งทีม สมาชิกในทีมทุกคนทางหนึ่งจะต้องคอยหมุนแถบวงกลม อีกทางหนึ่งจะต้องคอยเหยียบแถบวงกลมให้เคลื่อนตัวไปด้านหน้า ทีมที่ถึงเส้นชัยก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ’เฟิงถิงเซินมองหรงฉือ “รอบนี้คุณเล่น?”เฟิงจิ่งซินเองก็พยักหน้าเช่นกัน “รอบนี้แม่มาเล่นกับหนูนะคะ”หรงฉือไม่มีความเห็นอื่น “ได้จ้ะ”เมื่อเกมกำลังจะเริ่ม หรงฉือก็มองกระเป๋าของตัวเองแล้วชะงักไป ตอนนี้เอง เฟิงถิงเซินได้ยื่นมือมาหาเธอ “เอามาให้ผมเถอะ”“...ขอบคุณ”หรงฉือยื่นกระเป๋าของตัวเองให้เขาสามีภรรยาคู่อื่น ถ้าสามีช่วยภรรยาถือกระเป๋านั้นบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องธรรมดาทว่าระหว่างพวกเขาแล้ว นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เฟิงถิงเซินช่วยเธอถือกระเป๋าหรงฉือไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินเคยถือกระเป๋าให้หลินอู๋มาก่อนไหมวันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทางการอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 195

    เฟิงจิ่งซินไม่อยู่ หรงฉือยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว “พวกเราใกล้จะหย่ากันแล้วค่ะ”ที่จริงคุณแม่เถียนเถียนเองก็พอจะเดาได้ เพราะอย่างไรแล้วหรงฉือมีลูกสาว ทว่ากลับพักอยู่ตรงข้ามบ้านเธอเพียงคนเดียว...ยิ่งไปว่านั้น ครั้งก่อนหรงฉือไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมผู้ปกครอง คนที่มากลับเป็นผู้หญิงเซ็กซี่หน้าตาสะสวยคนหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเป็นฝ่ายกล่าวทักทายก่อน “สวัสดีครับ”คุณแม่เถียนเถียน “สวัสดีค่ะ...”เฟิงถิงเซิน “พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ?”ปากเอ่ยถามคุณแม่เถียนเถียน ทว่าพอถามจบสายตาของเขากลับมองมาที่หรงฉือหรงฉือไม่อยากสนใจเขา เลยไม่ได้ตอบอะไร คุณแม่เถียนเถียนเป็นฝ่ายพูดขึ้น “ฉันกับเสี่ยวฉือเป็นเพื่อนบ้านกันน่ะค่ะ”เห็นบรรยากาศระหว่างหรงฉือกับเฟิงถิงเซินดูท่าไม่ค่อยจะดี อีกทั้งหรงฉือก็มีท่าทางเหมือนไม่อยากสนใจเฟิงถิงเซิน เธอเลยรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกไปเฟิงถิงเซิน “ดูเหมือนว่าจะเข้ากับเพื่อนบ้านใหม่ได้ไม่เลวเลยนะ”หรงฉือก้มหน้าดูโทรศัพท์เฟิงถิงเซินเองก็ไม่ได้โกรธเคือง ทว่ากลับไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกตอนนี้เฟิงจิ่งซินกลับมาแล้ว กิจกรรมพ่อแม่ลูกของทางโรงเรียนใกล้จะเริ่มเต็มทีกิจกรรมพ่อแม่ลูกพวกน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status