Share

บทที่ 6

Author: อวินจงมี่
วันรุ่งขึ้น

เมื่อเฟิงถิงเซินมาถึงบริษัทก็บังเอิญเจอกับหรงฉือพอดี

หรงฉือไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินได้กลับประเทศแล้ว

จู่ๆ ก็เจอกับเฟิงถิงเซินที่บริษัทโดยไม่ทันตั้งตัว หรงฉือถึงกับหยุดชะงักในทันที

เมื่อเฟิงถิงเซินเห็นหรงฉือ นัยน์ตาก็ฉายแววตาประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็คิดเพียงว่าหรงฉือคงเพิ่งกลับมาจากไปทำธุระ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก

เขามีสีหน้านิ่งเฉย เดินผ่านเธอไปอย่างเย็นชาเหมือนเธอเป็นคนแปลกหน้าแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในบริษัท

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เมื่อรู้ว่าเขากลับประเทศอย่างกะทันหัน หรงฉือจะรู้สึกประหลาดใจมาก

ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถวิ่งเข้าไปกอดเข้าได้ แต่เธอก็จะมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและมีความสุข เริ่มกล่าวทักทายเขาว่าสวัสดีตอนเช้าด้วยรอยยิ้มก่อนแม้ว่าเขาจะเย็นชาก็ตาม

ทว่าตอนนี้ หรงฉือกลับหลบตาลงทันทีที่มองเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา และบนใบหน้าก็ไม่แสดงความตื่นเต้นและความสุขเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไป

แต่เฟิงถิงเซินไม่ทันได้สังเกตก็เดินจากไปก่อนแล้ว

หรงฉือมองตามแผ่นหลังที่มั่นคงและสง่างามของชายหนุ่ม และไม่รู้ว่าเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในเมื่อเข้ากลับมาแล้ว งั้นเรื่องหย่าร้างก็คงจะถูกนำมาคุยกันในเร็วๆ นี้ไหมนะ?

ในเมื่อตัดสินใจแน่วแน่ที่จะหย่าร้าง หรงฉือจึงไม่ได้ซีเรียสเรื่องของเฟิงถิงเซินอีกต่อไป เธอกลับเข้าสู่โหมดทำงานทันทีที่เมื่อกลับมาถึงโต๊ะทำงาน

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เจียงเจ๋อได้โทรศัพท์สั่งเธอว่า “ชงกาแฟสองแก้วแล้วเอาไปเสิร์ฟที่ห้องทำงานของท่านประธานเฟิง”

แรกเริ่มตอนที่เธอได้รู้ว่าเฟิงถิงเซินชอบดื่มกาแฟ เธอจึงใช้ความพยายามอย่างมากในการศึกษาการชงกาแฟเพื่อทำให้เฟิงถิงเซินชอบเธอ

และแล้วความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

หลังจากดื่มกาแฟที่เธอชงแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่บริษัท เฟิงถิงเซินก็ระบุว่าต้องดื่มกาแฟที่เธอชงเท่านั้น

ตอนนั้นเมื่อรู้ว่าเฟิงถิงเซินชอบกาแฟที่เธอชงจริงๆ เธอก็ตื่นเต้นอยู่นานมาก และคิดว่านี่คือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ

แต่ในความเป็นจริง เธอประเมินความเกลียดและความระแวงของเฟิงถิงเซินที่มีต่อเธอต่ำเกินไป

จริงอยู่ที่เขาชอบกาแฟที่เธอชง

แต่แค่ชอบกาแฟที่เธอชงเท่านั้น

และยังคงมีท่าทีห่างเหินและเย็นชากับเธอเหมือนเช่นเดิม

ดังนั้นเขามักจะสั่งให้เจียงเจ๋อติดต่อเธอทุกครั้งที่เขาต้องการดื่มกาแฟที่เธอชง หลังจากที่เธอชงกาแฟเสร็จแล้ว พวกเจียงเจ๋อก็จะมารับกาแฟ

เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอเข้าใกล้เลยสักนิด

มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่เจียงเจ๋อและคนอื่นๆ ไม่ว่าง เธอถึงมีโอกาสเอากาแฟไปเสิร์ฟถึงห้องทำงานของเขาด้วยตัวเอง

และครั้งนี้ จากที่ฟังความหมายของเจียงเจ๋อในโทรศัพท์ น่าจะต้องการให้เธอชงเสร็จ แล้วเอาไปเสิร์ฟให้เฟิงถิงเซินเลย

หลังจากที่หรงฉือชงกาแฟเสร็จ จากนั้นก็วางลงบนถาดแล้วเอาไปเสิร์ฟให้เฟิงถิงเซิน

ประตูใหญ่ของห้องทำงานของเฟิงถิงเซินเปิดอยู่

เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูห้องทำงานของเฟิงถิงเซิน ขณะที่เธอกำลังจะเคาะด้วยความสุภาพก็เห็นหลินอู๋นั่งอยู่บนตักของเฟิงถิงเซิน และดูเหมือนว่าทั้งสองคนกําลังจูบกัน

หรงฉือหยุดชะงัก และหน้าซีดขาวในทันที

เมื่อหลินอู๋เห็นเธอก็รีบลงจากตักของเฟิงถิงเซิน

เฟิงถิงเซินมีสีหน้าไม่ดีมากๆ พูดเสียงเย็นชาว่า “ใครอนุญาตให้คุณเข้ามา?!”

หรงฉือกําถาดในมือแน่น “ฉันมาเพราะเอากาแฟมาให้คุณ——”

“พอได้แล้วเลขาหรง” เฉิงหยวน เลขาคนสนิทอีกคนของเฟิงถิงเซินมาถึงพอดี

เขาเป็นคนรู้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างหรงฉือและเฟิงถิงเซิน

เขาพูดว่า “มันค่อนข้างน่าเบื่อจริงๆ ที่คุณเป็นแบบนี้”

เฉิงหยวนไม่ได้พูดตรงๆ แต่ทันใดนั้นหรงฉือพลันเข้าใจความหมายแฝงของเขา

เขาคิดว่าเธอรู้ว่าหลินอู๋มาที่บริษัท จึงปรากฏตัวที่นี่โดยใช้ข้ออ้างว่ามาเสิร์ฟกาแฟเพื่อที่จะขัดจังหวะการอยู่ด้วยกันระหว่างเฟิงถิงเซินและหลินอู๋...

และดูจากสีหน้าของเฟิงถิงเซิน ดูเหมือนเขาจะคิดแบบเดียวกัน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธออาจจะทำแบบนี้จริงๆ

แต่ตอนนี้เธอกำลังจะหย่ากับเขาแล้ว เธอยังจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง

แต่พวกเขาไม่ให้โอกาสเธอได้อธิบายเลย

เฉิงหยวนพูดอย่างเย็นชา “กรุณาออกไปเดี๋ยวนี้”

หรงฉือตาแดงก่ำ มือที่ถือถาดสั่นเล็กน้อยจนกาแฟในแก้วหกออกมาลวกนิ้วมือของเธอ หรงฉือรู้สึกเจ็บปวด แต่กลับหันหลังแล้วเดินจากไป โดยไม่ส่งเสียงใดๆ

แต่เพิ่งเดินไปได้สองก้าว เสียงของเฟิงถิงเซินก็ดังออกมาจากห้องทำงานอีกครั้งว่า “ถ้ามีครั้งหน้า คุณก็ไม่ต้องมาที่บริษัทอีก”

เธอลาออกแล้ว

ถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อหาคนมาทำงานแทนเธอได้แล้ว เธอก็จะไปจากบริษัททันที

แต่เธอรู้ว่าที่นี่ไม่มีใครสนใจเรื่องของเธอ

พูดออกมาก็ไม่มีความหมายอะไร

หรงฉือเงียบงัน ถือถาดแล้วหันหลังเดินจากไป

ก่อนที่จะจากไป เธอยังได้ยินหลินอู๋พูดปลอบเฟิงถิงเซินอย่างอ่อนโยนว่า “พอแล้วน่าถิงเซิน ฉันคิดว่าเธอคงไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นคุณอย่าโกรธอีกเลยนะ…”

หรงฉือเทกาแฟทิ้ง แล้วเอานิ้วที่แดงเพราะโดนลวกไปล้างน้ำที่ก๊อก จากนั้นเปิดกระเป๋าหยิบยามาทาให้ตัวเองอย่างชำนาญ

อย่ามองเพียงว่าตอนนี้เธอทำอาหารเก่ง เธอยังชงกาแฟได้ดีมากอีกด้วย

ในความเป็นจริง ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเฟิงถิงเซิน เธอทั้งทำงานบ้านไม่เป็นและทำอาหารไม่เป็น ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังไม่เคยดื่มกาแฟมาก่อนเลย

แต่หลังจากแต่งงาน เธอทำเป็นหมดทุกอย่างเพื่อเฟิงถิงเซินและเพื่อลูก

เธอใช้เวลาอย่างมากเพื่อเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ จากตอนแรกที่น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้จนตอนนี้สมบูรณ์แบบมาก

ความระทมขมขื่นจากการนี้ มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจ

ส่วนยารักษาบาดแผลในกระเป๋า จะมีแม่คนไหนที่เลี้ยงลูกเองไม่ติดนิสัยพกยารักษาบาดแผลติดตัวไปด้วยบ้าง

เพียงแต่หลังจากที่เฟิงจิ่งซินตามเฟิงถิงเซินไปอยู่ที่ประเทศเอนาวา ยารักษาบาดแผลที่เธอเตรียมไว้ก็แทบจะไม่ได้ใช้เลย

โชคดีที่มันยังไม่หมดอายุ

หลังจากทำแผลเสร็จ หรงฉือก็พยายามข่มความเจ็บปวดที่ราวกับถูกเข็มทิ่มแทงบริเวณหัวใจ แล้วกลับไปทำงานที่โต๊ะต่อ

เธอเพิ่งจัดการเอกสารที่อยู่ในมือเสร็จ จู่ๆ ได้ยินเสียงคนพูดว่า

“ฉันได้ยินมาว่าแฟนของประธานเฟิงมาที่บริษัท”

“แฟนเหรอ? ท่านประธานเฟิงมีแฟนแล้วเหรอ ใครอ่ะ เป็นใครมาจากไหน สวยหรือเปล่า”

“ฉันไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด แต่ได้ยินจากพนักงานต้อนรับข้างล่างพูดว่าครอบครัวของเธอก็มีฐานะร่ำรวยเหมือนกัน หน้าตาก็สวย บุคลิกก็ดีมากสุดๆ”

ขณะเพื่อนร่วมงานสองคนนั้นกำลังคุยกันอยู่ พอเห็นหรงฉือยืนขึ้นก็นึกขึ้นได้ว่ายังต้องลงไปประชุมกับหรงฉือ จึงรีบหุบปากแล้วเดินมาพร้อมยิ้มหน้าบานและพูดว่า “ไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวค่อยกลับมาเม้าท์ใหม่”

หรงฉือรู้ว่า “แฟนท่านประธานเฟิง” ที่พวกเขาพูดถึง จริงๆ แล้วหมายถึงหลินอู๋

แต่พอเธอได้ยินแล้วกลับไม่มีสีหน้าใดๆ เลย หันหลังกลับแล้วออกจากห้องทำงานทันทีก่อนจะเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับเพื่อนร่วมงานสองคน

เมื่อออกจากลิฟต์ ขณะที่พวกเธอกำลังจะเดินไปยังห้องประชุมก็เห็นหลินอู๋และผู้บริหารระดับสูงสี่คนของบริษัทเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเธอพร้อมกัน

ผู้บริหารระดับสูงทั้งสี่คนล้อมรอบหลินอู๋ด้วยท่าทางระมัดระวัง และประจบประแจงเอาใจ

แต่ได้ยินเพียงหลินอู๋เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ให้ผู้จัดการทุกท่านมาเยี่ยมชมบริษัทเป็นเพื่อนฉัน ลำบากทุกท่านจริงๆ”

หลินอู๋สวมใส่แบรนด์เนมทั้งตัว ทุกการเคลื่อนไหวของเธอแสดงให้เห็นถึงความสง่างามของคุณหนูจากตระกูลผู้ดีอย่างชัดเจน

แม้เธอจะพูดจาสุภาพ แต่กลับดูเหมือนว่าเธอคิดว่าตัวเองเป็นภรรยาเจ้าของบริษัทไปแล้ว ในความสุภาพแฝงด้วยความแปลกแยกเล็กน้อย ทำอย่างกับว่าผู้จัดการทุกคนเป็นลูกน้องของเธอ

พวกผู้จัดการหัวเราะแห้งๆ “ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับท่านประธานเฟิง สิ่งที่พวกเราทำก็เป็นเพียงหน้าที่ของเราเท่านั้น คุณหลินเกรงใจเกินไปแล้ว”

“ใช่ ใช่”

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันก็เห็นพวกหรงฉือเดินออกมาจากลิฟต์ แม้ว่าพวกเธอจะยืนแยกกันเป็นสองข้าง ไม่ได้ขวางทางพวกเขาเลย แต่เมื่อพวกผู้จัดการเห็นพวกเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“เดินยังไง? ถ้าชนคุณหลินจะทำยังไง ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ !”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Pojana Po
หรงฉือ สู้ๆ
goodnovel comment avatar
Perpeach Panida
น่าสนใจอ่านต่อ
goodnovel comment avatar
Perpeach Panida
น่าติดตามตอนใหม่
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 513

    ช่วงนี้เฟิงถิงเซินยุ่งมาก ข้าวยังทานไม่เสร็จ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกแล้วตอนที่เฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์อีกครั้ง หลินอู๋เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดกับเฟิงจิ่งซินว่า “จริงสิ ซินซิน วันจันทร์หนูเปิดเทอม น้าไปส่งหนูที่โรงเรียนแล้วกัน”เฟิงจิ่งซินได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าก็ดูลำบากใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะน้าอู๋อู๋ หนูบอกกับคุณแม่แล้วว่าจะให้คุณแม่ไปส่งหนูที่โรงเรียน คุณแม่ก็รับปากหนูแล้วค่ะ”“อย่างนั้นเหรอ”หลินอู๋ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ฝืนอะไรอีก……คืนวันอาทิตย์ หลังหรงฉือทานอาหารเสร็จ และกำลังจะพักผ่อน โทรศัพท์ของเฟิงจิ่งซินก็โทรเข้ามาแล้วหรงฉือเพิ่งจะรับสาย เฟิงจิ่งซินก็พูดขึ้นก่อนว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เช้าหนูกับคุณพ่อจะเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่น ถึงตอนนั้นคุณแม่กับคุณพ่อก็ไปส่งหนูที่โรงเรียนด้วยกันนะคะ”“โอเค แม่เข้าใจแล้ว”เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือเพิ่งจะทานอาหารเช้าได้ไม่นาน เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินก็มาถึงแล้วหรงฉือเพิ่งจะหยิบกุญแจรถออกจากบ้าน ก็ถูกเฟิงจิ่งซินที่ลงมาจากรถดึงให้เดินไปทางรถของเฟิงถิงเซิน แล้วพูดว่า “คุณแม่ไม่ทันแล้ว รีบขึ้นรถเถอะค่ะ”หรงฉือพูดว่า “เดี๋ย

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 512

    หลังผ่านไปนานมาก เธอจึงจะถามอีกครั้งว่า “ยังมีอีกไหม?”เฟิงจิ่งซินกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่ ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจความหมายของเธอ เลยถามว่า “หืม? ยังมีอะไรเหรอคะ?”“เรื่องที่คุณพ่อหนูเป็นฝ่ายเข้าหาคุณแม่หนูน่ะ”เฟิงจิ่งซินวางแก้วลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “ไม่มีแล้วค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ป่วยไม่สบาย คุณพ่อดูแลคุณแม่อยู่ตลอดเวลา คุณพ่อบอกว่าเด็กติดเชื้อได้ง่าย เลยไม่ยอมให้หนูเข้าใกล้ จนกระทั่งคุณแม่หายดี หนูถึงได้เจอคุณแม่”เมื่อฟังถึงตรงนี้ หลินอู๋ก็ชะงักไปอีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า “หลังจากคุณแม่หนูป่วย คุณพ่อหนูก็เป็นคนดูแลเธออย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”หลินอู๋หลุบตาลงต่ำ มองไปที่เฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “คุณย่าทวดหนูสั่งให้คุณพ่อหนูทำแบบนี้ใช่ไหม?”เฟิงจิ่งซินส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ เมื่อวานคุณแม่ไม่สบายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากรู้ว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็ดูแลคุณแม่ไปด้วย ขณะเดียวกันก็โทรให้คนใช้เฮลิคอปเตอร์ไปรับคุณปู่จางเข้ามาดูอาการให้คุณแม่ แล้วหลังจากที่คุณปู่จางมาถึง คุณย่าทวดจึงจะรู้ว่าคุณแม่ป่วยแล้วค่ะ”คุณปู่จางที่เฟิงจิ่งซินพูดถึง หลินอู๋ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็น

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 511

    ทางด้านหรงฉือกับเหยียนอวิ้นจือพวกเขากำลังนั่งคุยระลึกความหลังกันอย่างสนุกสนานในห้องส่วนตัว อีกด้านหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเพิ่งจะถึงห้องส่วนตัวและนั่งลงได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแล้วเฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกส่วนหลินอู๋หยิบวารสารที่พกติดตัวออกมา พูดขึ้นว่า “ซินซิน น้าอ่านหนังสือแปบหนึ่งก่อนนะ หนูเล่นเองคนเดียวไปก่อนได้ไหม?”“ได้ค่ะ” ถึงเฟิงจิ่งซินจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเอนาวาสองปี ภาษาอังกฤษของเธอค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเห็นหน้าปกกับชื่อของวารสารที่อยู่ในมือหลินอู๋ ก็พูดขึ้นว่า “คุณน้า วารสารเล่มนี้คุณพ่อก็มีค่ะ”หลินอู๋รู้ว่าเฟิงถิงเซินติดตามข่าวสารล่าสุดของแวดวงเอไออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอถามเมื่อสองวันก่อน ตอนนั้นเฟิงถิงเซินก็บอกว่าเขาอ่านแล้วด้วยเหตุนี้ พอได้ยินเฟิงจิ่งซินพูดแบบนั้น เธอก็พูดว่า “อื้ม น้ารู้”พูดถึงเรื่องนี้ เฟิงจิ่งซินก็นึกถึงหรงฉือขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วันนั้นคุณแม่กลับมา คุณพ่อกลัวว่าคุณแม่จะเบื่อเลยขึ้นไปหยิบหนังสือจากชั้นบนลงมาให้คุณแม่อ่าน คืนวันนั้น หลังจากที่เห็นคุณแม่อ่านจบแล้ว คุณพ่อยังพูดคุยถึงเนื้อหาในวารส

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 510

    ตอนบ่าย หรงฉือเพิ่งกลับมาจากเฟิงซื่อได้ไม่นาน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ประจำแผนกจิตเวชของหรงอิ้งเซิ่งโทรมา บอกว่าตอนบ่ายหรงอิ้งเซิ่งเหมือนจะได้สติขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่นาน สภาพจิตใจก็เข้าสู่สภาวะล่มสลาย ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้หรงฉือสีหน้าเปลี่ยนไป รีบมุ่งไปที่โรงพยาบาล แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไง? ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”“พวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ ครับ”หากไม่มีการกระตุ้นจากภายนอก หรงอิ้งเซิ่งจะแสดงอาการแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?หรงฉือดูในกล้องวงจรปิด เห็นหรงอิ้งเซิ่งที่กำลังนอนหลับหลังจากทานยา จากนั้นเธอก็คุยกับหมออีกสักพัก ถึงจะเดินลงบันไดด้วยจิตใจที่หนักอึ้งตอนที่ลิฟต์มาถึงชั้นล่าง พอประตูลิฟต์เปิดออก หรงฉือเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับสายตาของซุนลี่เหยาและคุณยายซุนพอดีเมื่อซุนลี่เหยาเห็นหรงฉือ รีบจ้องมองเธอเขม็งทันที หลังจากนั้นก็ส่งเสียงฮึเสียงหนึ่ง เชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งผยอง แล้วพยุงคุณยายซุนเข้าไปในลิฟต์ภายในลิฟต์ยังมีคนอื่น ๆ อีก หลังเข้าไปในลิฟต์ ซุนลี่เหยามองใบหน้าด้านข้างของหรงฉื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 509

    “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณย่า” หรงฉือพูดว่า “หนูยังมีงานที่ต้องจัดการนิดหน่อย อาหารเย็นก็ไม่กินแล้ว”หรงฉือมีงานต้องไปจัดการเสียที่ไหน? เห็นได้ชัดว่าไม่อยาก และคิดว่าอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็ไม่ดีตามหลักแล้ว เธอกับเฟิงถิงเซินยังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการ หรงฉือยังคงเป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่ถึงกับต้องเป็นแบบนี้ แต่หรงฉือคิดดูแล้ว บางทีตั้งแต่เธอกับเฟิงถิงเซินเริ่มเตรียมจะหย่ากัน เธอก็ได้ขีดเส้นแบ่งเขตภายในใจระหว่างตัวเองกับเฟิงถิงเซินไปแล้วเรื่องพวกนี้ จริง ๆ แล้ว คุณย่าเฟิงล้วนเข้าใจดีในเมื่อหรงฉือยืนกราน เธอก็ไม่ควรโน้มน้าวไปมากกว่านี้อีกเธอจ้องเฟิงถิงเซินอย่างดุร้ายเฟิงถิงเซินทำเป็นมองไม่เห็น มองหรงฉือแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปส่งคุณ”“ไม่ต้องหรอก” หรงฉือปฏิเสธ พูดว่า “คุณทำงานไปเถอะ ให้คนขับรถไปส่งฉันก็ได้” เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้ยืนกรานอีกต่อไป ก่อนจะตอบกลับว่า “โอเค”หรงฉือกลับห้องไปหยิบกระเป๋า ก็เตรียมจะออกไปแล้วคุณย่าเฟิงและเฟิงถิงเซินต่างก็ลงมาชั้นล่างเพื่อไปส่งเธอเฟิงจิ่งซินเพิ่งรู้ว่าเธอจะไปแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์มาก พูดว่า “คุณแม่ ทำไมคุณแม่กลับเร็วจังเลยละคะ?”“อืม” หรงฉือลูบศีรษะข

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 508

    หลังหรงฉือวัดอุณหภูมิเสร็จ ฝืนรออยู่นานมาก ยังไม่เห็นเฟิงถิงเซินกลับมา ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรงพอเธอตื่นขึ้นมาอีกที ตอนลืมตาขึ้น เฟิงถิงเซินกลับยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นหลังเห็นเธอตื่น แล้วมองมาทางตัวเองอย่างเหม่อลอย แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้จ้องมองมาที่ตัวเอง เฟิงถิงเซินจึงลุกขึ้น เดินเข้ามาแตะหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเธอเล็กน้อย แล้วถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า?”พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึงเนื้อถึงตัวกันมานานมากแล้วจริง ๆ หรงฉือไม่คุ้นชินกับการสัมผัสของเขาสักเท่าไรแม้จะรู้ว่าเขากำลังช่วยวัดอุณหภูมิให้เธอ แต่หรงฉือยังคงปัดมือของเขาออก แล้วส่ายหน้าโดยไร้เสียงเบา ๆ เธอแค่แปลกใจที่เขายังอยู่ก็เท่านั้นเธอยังคิดว่า ก่อนหน้านี้พอเขารับโทรศัพท์ก็ออกจากบ้านเดิมไปแล้วเสียอีก เธอเริ่มเหงื่อออกไปทั้งตัวอีกครั้ง ตอนนี้จึงมีเค้าลางว่าไข้ลดลงอย่างเป็นทางการแล้วร่างกายเหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัวมาก เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดอีกหนึ่งรอบ หลังทานข้าว และนั่งพักครู่หนึ่งก็หลับไปอีกครั้งตอนที่เธอตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นตอนบ่ายแล้วจนถึงตอนนี้ ไข้ของเธอก็ลดลงอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status