공유

3.สะดุดรัก

last update 최신 업데이트: 2025-06-14 00:10:18

“น้องศรีจะไปไหน” จืดเงยหน้าขึ้นมองสาวรุ่นน้อง เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย

            “ฉันจะลงไปซื้อขนมมาตุนไว้กินเสียหน่อย เมื่อตะกี้ตอนอยู่ผักไห่มัวแต่กังวลเรื่องไอ้พี่แอ๊ะจนลืมซื้อเลย” มารศรีเอี้ยวหน้าหันไปตอบ

            “เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้เองก็ได้ น้องศรีอยากกินอะไรล่ะ” จืดกุลีกุจอจะลุกขึ้นหวังจะบริการลูกสาวนายจ้าง

            “ไม่ต้อง พี่นั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันลงไปเลือกซื้อเอง”

มารศรีปฏิเสธแล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างช้า ๆ กวาดตามองบนท่าน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดบ้านแพนผู้คนจำนวนมากกำลังซื้อหาจับจ่ายสินค้ากันอย่างคึกคักสมกับเป็นท่าเรือใหญ่ เรือแจวพายเอื่อยผ่านหางตาหล่อนแล่นเข้าไปตามตรอกซอกซอยในขณะที่เรือหางติดเครื่องแล่นปรู๊ดปร๊าดรับส่งผู้โดยสารกันขวักไขว่

            ลูกสาวอดีตผู้ใหญ่บ้านก้าวขึ้นไปบนท่าและเดินตรงดิ่งเข้าหาขนมแผ่นบางบนเตาที่แม่ค้าสาวกำลังละเลงแป้งเป็นวงดูน่ากิน

“พี่สาวจ๊ะ เอาขนมเบื้องให้ฉันสามแผ่นสิจ๊ะ”

มารศรีสั่งพลางล้วงเหรียญบาทออกจากกระเป๋ากางเกงยืนรอแม่ค้าใส่เครื่องและน้ำตาลลงในแป้งที่ละเลงอยู่บนกระทะ เมื่อขนมสุกแม่ค้าพับแผ่นแป้งทบเป็นครึ่งวงกลมหยิบขึ้นจากกระทะวางบนตระแกรงผึ่งให้แป้งเย็นพอสมควรจึงหยิบใส่กระทงใบตองยื่นส่งให้

“เท่าไหร่จ๊ะ” คนซื้อเอ่ยถามเมื่อแม่ค้ายื่นของส่งให้

“บาทนึงจ้ะ” แม่ค้าตอบแล้วยื่นมือออกไปรับเหรียญบาทจากมือของหญิงสาวใส่ตะกร้าที่วางอยู่ตรงหน้า

หลังได้ขนมเบื้องที่สั่งเรียบร้อย มารศรีตั้งใจจะแวะหาซื้อขนมไทยของโปรดอีกสองสามอย่างหล่อนหมายตาว่าจะซื้อไปกินกับจืดบนเรือแต่จังหวะที่หล่อนกำลังเบี่ยงตัวจะเดินออกจากร้านขายขนมเบื้องในจังหวะนั้นเด็กชายวัยรุ่นรูปร่างผอมแกร็นคนหนึ่งวิ่งเฉี่ยวหล่อนไปเฉียดฉิว แต่คนตัวใหญ่ที่วิ่งไล่ตามเด็กมาติด ๆ ยั้งฝีเท้าไม่ทัน เป็นเหตุให้ร่างกำยำปะทะร่างเพรียวเต็มแรง

“เฮ้ย!” อานนท์อุทานเสียงหลง ยั้งฝีเท้าไม่ทันเป็นเหตุให้ชนร่างระหงของหญิงสาวตรงหน้าเต็มแรง

            ไหล่ของมารศรีถูกกระแทกแรงทำให้ตัวหล่อนไถลหน้าเกือบทิ่มถ้าคนที่ชนหล่อนไม่คว้าตัวหล่อนดึงไว้เสียก่อน ทว่าข้าวของในมือของหล่อนหล่นล่วงเกลื่อนพื้นขณะที่ตัวของหล่อนถูกคว้าและดึงเข้าหาอกกว้าง ตัวหล่อนจึงไม่ล้มคะมำไปกองรวมกับข้าวของที่ตกเรี่ยราดอยู่บนพื้น

            อานนท์ตลึงมองหญิงสาวในอ้อมแขนราวถูกมนต์สะกด ใบหน้าของหล่อนสวยหวานดวงตากลมวาวสุกใสล้อมกรอบขนตาเป็นแพดำขลับ จมูกเรียวรั้นรับกับริมฝีปากโค้งเป็นรูปกระจับน่าก้มลงไปทาบริมฝีปากคลึงเคล้า ความงามของหล่อนเย้ายวนจนเขารู้สึกถึงแรงบีบรัดใต้หน้าอก หัวใจเต้นสะดุดจังหวะเมื่อสบสายตาหลากอารมณ์ของหล่อนในระยะห่างกันแค่ลมหายใจกั้นกลาง

            ผลของการถูกกระชากตัวอย่างแรงทำให้ร่างเพรียวหมุนกลับมาปะทะแผ่นอกกว้าง หล่อนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้ารกเรื้อยไปด้วยหนวดเคราที่อยู่ห่างใบหน้าของหล่อนแค่คืบอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาวาววับช้อนมองสบตากับเขาอย่างเอาเรื่อง ฝ่ามือทั้งคู่ยกขึ้นผลักอกคู่กรณี ดันตัวออกจากอ้อมแขนที่ช่วยประคองไม่ให้ล้มและร้องตวาดอย่างมีโทสะ

“โอ๊ย! มีแต่ตีนไม่มีตาหรือยังไงโว้ย คนทั้งคนตัวก็ไม่ใช่เล็กดันวิ่งชนเข้ามาได้” มารศรีตวาดเสียงแหลม ต่อว่าอีกฝ่ายด้วยความโมโห หล่อนปรายตามองค้อนใส่ใบหน้ารกครึ้มหนวดเคราของคนตรงหน้าอย่างเกรี้ยวกราด

เสียงแหลมสูงของหล่อนดึงสติอานนท์ขึ้นจากภวังค์หวานทันที เขาถอนหายใจแรงพลางตวัดตามองข้ามศีรษะหล่อนมองแผ่นหลังไว ๆ ของเด็กชายหัวขโมยที่วิ่งไกลออกไปเรื่อย ๆ อย่างเสียดายแล้วก้มมองใบหน้าง้ำของหล่อนก่อนจะเอ่ยแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

“ขอโทษเถอะน้องสาว พี่มัวแต่ไล่ตามไอ้เด็กหัวขโมยนั่นเลยไม่ทันระวัง เดี๋ยวพี่จะชดใช้ข้าวของที่เสียหายคืนให้นะ”

“มันก็แหงอยู่แล้วหละ ในเมื่อนายทำข้าวของฉันเสียหายก็ต้องเป็นคนซื้อคืนให้ฉันอยู่แล้ว ลองไม่ใช้สิ แม่ด่าระเบิดแน่”มารศรีเอ่ยเสียงขุ่น

เขาถอนหายใจหนักพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนหันไปเอ่ยกับแม่ค้า “พี่สาวจ๊ะ ช่วยทำขนมให้น้องสาวคนนี้ใหม่ทีเถอะ เดี๋ยวฉันจ่ายเงินเอง”เขาหยิบธนบัตรใบละสิบบาทออกมายื่นส่งให้กับแม่ค้า

แม่ค้ามองธนบัตรที่ถูกยื่นมาตรงหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นเอ่ยเสียงอ่อน“ฉันไม่มีเงินทอนหรอก น้องชายมีเหรียญบาทไหมล่ะ”

“เดี๋ยวนะพี่สาว” ชายหนุ่มเอ่ยพลางยื่นมือออกไปรับกระทงใบตองบรรจุขนมเบื้องหน้าตาน่ากินยื่นส่งให้กับหญิงสาวแล้วถามหล่อนว่า “น้องสาวมีเงินให้พี่แลกไหมแม่ค้าเขาไม่มีเงินทอน”

“โอ๊ย...แลกเลิกอะไร เอามาทั้งหมดนี่แหละ” มารศรีรีบฉวยธนบัตรใบละสิบบาทกับขนมจากมืออีกฝ่ายและเอ่ยง่าย ๆ “เดี๋ยวฉันจ่ายค่าของเองส่วนเงินทอนที่เหลือฉันจะถือว่าเป็นค่าเสียหายที่แกทำฉันตกใจก็แล้วกัน”

“โอ้โห...นี่ตั้งใจจะปล้นกันซึ่ง ๆ หน้าเลยหรือไง พี่ไม่ได้ตั้งใจจะชนเธอแล้วเธอก็ไม่ได้บาดเจ็บสักกระผีกทำไมถึงเรียกค่าทำขวัญแพงนักละฮะ!” เขาส่งสายตาดุมองใบหน้าเชิดสูงของหล่อนนิ่งอย่างไม่ชอบใจนัก

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คุ้งเสน่หา   5.กำนันกับผู้ใหญ่

    กำนันเปลวระบายลมหายใจแรงเมื่อนึกถึงบุตรชายคนโตที่เพิ่งเดินทางกลับเข้าบางกอกเช่นเดียวกัน“นี่ข้าไม่ได้เจอลูกชายเอ็งมากี่สิบปีแล้ววะไอ้เปลว ไปเรียนในบางกอกเสียงนานนมจนข้าแทบจะจำหน้าหลานชายไม่ได้อยู่แล้ว”“เกือบยี่สิบปีละมัง ตั้งแต่เจ้าอุ่นมันจบป.๔ แล้วไปเรียนต่อกระทั่งจบมาเป็นตำรวจก็ไม่ยอมกลับบ้าน รับใช้ทางการอยู่ที่บางกอกนั่นแหละ” กำนันเปลวเอ่ย“จริงสิ เจ้าอุ่นมันเรียนจบตำรวจนี่นะ” กุศลเอ่ยถึงหลานชายด้วยความเอ็นดู“เออ...เป็นตำรวจ ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่ช่องหรอก บางทีหายไปเป็นเดือน ๆ ไม่ติดต่อกลับบ้าน เพราะมัวแต่ไปสืบความลับให้ทางการเขา ทำเอาแม่เย็นจิตแม่เขากลุ้มใจ เป็นห่วงลูกแทบไม่ได้กินไม่ได้นอนนอนเลยทีเดียว” พ่อกำนันเอ่ยระบายความหนักใจให้เพื่อนฟัง“มีเมียหรือยังละลูกชายเอ็งนะ” กุศลซักด้วยความสนใจ“ยังนะสิ แม่เย็นจิตก็พยายามมองหาสาว ๆ ให้ลูกอยู่เหมือนกันแต่ไอ้คนของเรามันไม่เล่นด้วย ชอบทำหน้าตาขึงขังข่มขู่เขาร่ำไปเลยยังไม่มีเมียเสียที ไม่ได้เลือดพ่อมันเอาเสียเลย” กำนันเปลวส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อเอ่ยถึงลูกชายเสียงเอือม“เจ้าอุ่นมันคงเบื่อผู้หญิงละมั้ง”กุศลเอ่ยยิ้ม ๆ นึกถึงหลานชายที่โตมากับครอ

  • คุ้งเสน่หา   4.สาวปากไว

    “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ซุ่มซ่าม มาทำให้ฉันต้องอายและเจ็บตัวทำไมล่ะ”มารศรีไหวไหล่เอ่ยตอบอย่างไม่สนใจแววตาแสดงอารมณ์ของคู่กรณี หล่อนเก็บธนบัตรในมือยัดใส่กระเป๋าก่อนจะหยิบเหรียญบาทออกมาแทนแล้วยื่นส่งให้กับแม่ค้าขนม“ผู้หญิงอะไร...หน้าเลือดชะมัด” เขาบ่นอุบแต่ไม่คิดเรียกร้องเอาเงินทอนคืนได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเดินตรงไปที่ท่าเรือ เลิกใส่ใจคู่กรณีซึ่งเดินตามหลังเขามาห่าง ๆมารศรีแบะริมฝีปากใส่แผ่นหลังของชายตัวโตที่ก้าวนำหน้า หล่อนเดินตามไปห่าง ๆ เห็นอีกฝ่ายลงไปในเรือและเดินลึกเข้าไปมองหาที่นั่งชั้นล่างตรงบริเวณหัวเรือ“ดีนะที่นั่งคนละชั้น...จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าให้เสียอารมณ์ไปตลอดทาง” หล่อนบ่นพึมพำขณะก้าวลงเรือและปีนขึ้นไปยังชั้นสองสลัดภาพใบหน้าชายหนวดครึ้มคนนั้นออกจากหัวพื้นที่บนเรือที่ค่อนข้างว่างเมื่อตอนออกจากท่าเรือผักไห่หลังสิ้นเสียงระฆังที่แขวนอยู่ตรงหัวเรือเป็นสัญญาณเตือนว่าเรือกำลังจะแล่นออกจากท่า ทุกพื้นที่เคยว่างกลับเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ขึ้นมาจากท่าเรือบ้านแพนและเรือค่อย ๆ แล่นฝ่ากระแสน้ำออกจากท่า มุ่งหน้าสู่บางกอกอย่างเชื่องช้า เสียงเครื่องยนต์ดังแข่งกับเสียงพูดคุยในหมู่คนโดยสารท

  • คุ้งเสน่หา   3.สะดุดรัก

    “น้องศรีจะไปไหน” จืดเงยหน้าขึ้นมองสาวรุ่นน้อง เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย “ฉันจะลงไปซื้อขนมมาตุนไว้กินเสียหน่อย เมื่อตะกี้ตอนอยู่ผักไห่มัวแต่กังวลเรื่องไอ้พี่แอ๊ะจนลืมซื้อเลย” มารศรีเอี้ยวหน้าหันไปตอบ “เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้เองก็ได้ น้องศรีอยากกินอะไรล่ะ” จืดกุลีกุจอจะลุกขึ้นหวังจะบริการลูกสาวนายจ้าง “ไม่ต้อง พี่นั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันลงไปเลือกซื้อเอง”มารศรีปฏิเสธแล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างช้า ๆ กวาดตามองบนท่าน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดบ้านแพนผู้คนจำนวนมากกำลังซื้อหาจับจ่ายสินค้ากันอย่างคึกคักสมกับเป็นท่าเรือใหญ่ เรือแจวพายเอื่อยผ่านหางตาหล่อนแล่นเข้าไปตามตรอกซอกซอยในขณะที่เรือหางติดเครื่องแล่นปรู๊ดปร๊าดรับส่งผู้โดยสารกันขวักไขว่ ลูกสาวอดีตผู้ใหญ่บ้านก้าวขึ้นไปบนท่าและเดินตรงดิ่งเข้าหาขนมแผ่นบางบนเตาที่แม่ค้าสาวกำลังละเลงแป้งเป็นวงดูน่ากิน“พี่สาวจ๊ะ เอาขนมเบื้องให้ฉันสามแผ่นสิจ๊ะ”มารศรีสั่งพลางล้วงเหรียญบาทออกจากกระเป๋ากางเกงยืนรอแม่ค้าใส่เครื่องและน้ำตาลลงในแป้งที่ละเลงอยู่บนกระทะ เมื่อขนมสุกแม่ค้าพับแผ่นแป้งทบเป็นครึ่งวงกลมหยิบขึ้นจากกระทะว

  • คุ้งเสน่หา   2.โอ้บ้านแพน

    จืดชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หูมารศรีพลางจีบปากจีบคอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระฟัดกระเฟียด “อีนังดอกเอื้องต้องเป็นตัวการแน่เชียวน้องศรี มันคงเป็นคนห้ามไม่ให้นังชมมาบอกเราแน่ ๆ” “หึ...อีนังนี่มันร้ายนัก มันคิดจะกันท่าไม่ให้ฉันตามไปดูพี่วิชาญละสิ” มารศรีเอ่ยเสียงสะบัดอย่างเกรี้ยวกราดแล้วเม้มปากเป็นเส้นด้วยความขัดใจ “แต่เขาไปแสดงไกลถึงบางกอกนู่น พ่อเอ็งจะให้ไปหรือวะ” สาวใหญ่เอื้อนเอ่ยอย่างคนที่รู้จักนิสัยของผู้ใหญ่กุศลเป็นอย่างดี “ก็จริงจ้ะ...พ่อคงไม่ให้ฉันไปหรอก” มารศรีเอ่ยกระฟัดกระเฟียด “ก็นั่นนะสิ อย่างนั้นเอ็งก็อย่าไปโกรธนังชมกับเพื่อนของมันเลยวะยังไงเอ็งก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว เอาไว้รอดูที่บ้านเราก็ได้ ปิดวิกที่บางกอกเสร็จ เขาก็มาเล่นที่บ้านเราอยู่แล้ว” สาวใหญ่เอ่ยปลอบ “ป้าไม่ต้องห่วง ฉันไม่โกรธนังชมมันหรอกจ้ะ” มารศรีตอบอย่างใจคิดเพราะคนที่หล่อนโกรธไม่ใช่ชวนชมแต่เป็นนางเอกลิเกนามว่าดอกเอื้องต่างหาก ไอร้อนจากแสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วคุ้งน้ำซึ่งเนืองแน่นไปด้วยลำเรือของเหล่าพ่อค้าแม่ขายลอยเรียงบนผิวน้ำใกล้ท่าเรือเพื่อค้าขายกับผู้โดยสารจ

  • คุ้งเสน่หา   1แม่ค้าขนมหวาน

    หญิงสาวรูปร่างผอมแกร็นผิวกายคล้ำหยาบนั่งอยู่ท้ายเรือกำลังพายเรือหัวแหลมขนาดเล็กซึ่งชาวท้องถิ่นเรียกว่า “เรือเข็ม” ออกจากบันไดท่าน้ำหน้าตลาดลาดชะโดมีชื่อว่านังจืด หล่อนเป็นคนสนิทของมารศรีสาวสวยวัย ๒๐ ที่นั่งเสงี่ยมอยู่ตรงหัวเรือ นังจืดกำลังพายเรือล่องไปตามลำคลองขุดที่แยกมาจากแม่น้ำน้อยไหลผ่านหน้าบ้านเรือนสองฝากฝั่งเกิดเป็นชุมชนริมน้ำขนาบข้างด้วยชุมชนเรือนแพที่ปลูกลอยเหนือผิวน้ำไปตลอดแนวลาดชะโดคือชุมชนที่เงียบสงบในเขตอำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีพื้นราบต่ำ น้ำท่วมถึงจึงทำให้มีปลาชะโดชุกชุมไปทั้งคุ้งน้ำ คลองลาดชะโดแยกย่อยมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดเป็นชุมชนขนาบคลองซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ตำบล ๑๗ หมู่บ้าน ฝั่งหนึ่งเรียกบ้านหนองน้ำใหญ่ประกอบด้วย ๑๑ หมู่บ้านกับอีกฝั่งเรียกว่าบ้านจักราชแยกเป็นอีก ๖ หมู่บ้านมารศรีเป็นบุตรสาวคนเดียวของนางผ่องแผ้ว ผลบุญกับนายกุศล ผลบุญ อดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งของตำบลจักราชหล่อนได้รับฉายาว่าดอกบัวแย้มกลีบแห่งคุ้งลาดชะโดด้วยวัยเพียง ๒๐ ปีทำให้หล่อนเสมือนบัวเพิ่งบานชูเกสรล้อแมลงเพศผู้อาจเพราะธรรมชาติลำเอียงจึงได้เสกสรรความงามให้กับหญิงสาวเสียจนล้นเหลือ รูปร่างระหง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status