Share

ผู้ชายใจดี

last update Last Updated: 2025-10-21 14:38:55

หลายวันต่อมา

     “กลับได้แล้วริศา เดี๋ยวมันจะดึกเอา” เสียงเจ้าของร้านคาเฟ่ที่ริศาทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียนเอ่ยบอกกับร่างเล็กที่กำลังช่วยกวาดพื้นอยู่ เธอเพิ่งจะเข้าทำงานที่นี่ได้เพียงสามวันเพราะว่าเพิ่งเปิดใหม่และใกล้มหาลัยดีแถมเจ้าของร้านก็เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน คนขยันอย่างริศาจึงไม่รอช้าที่จะขอเข้ามาทำงานด้วยเพื่อหารายได้พิเศษ

     “อีกนิดก็เสร็จแล้วค่ะพี่แก้ว”

     “กลับเถอะพี่ทำต่อเอง”

     “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หอพักริศาใกล้แค่นี้เองเดินนิดเดียวก็ถึง”

     “รู้แล้วว่ามันใกล้แต่นี่มันจะสองทุ่มแล้วเนี่ย ไปได้แล้ว ไปๆ” 

     “ค่ะๆ ไปก็ได้” คนตัวเล็กจำใจต้องส่งไม้กวาดต่อให้กับรุ่นพี่เจ้าของร้านใจดีแต่ก็ยังไม่วายเดินไปจับนั่นจับนี่ให้เข้าที่จนรุ่นพี่ต้องส่งสายตาดุๆเป็นเชิงว่าให้หยุดแหละกลับห้องของเธอไปได้แล้ว

     “โอเคค่ะ กลับแล้วก็ได้” 

   กระทั่งเมื่อเธอเดินออกมานอกร้านริศาก็เดินไปตามทางเดิมที่จะกลับหอพักของเธอ ข้างทางมีไฟส่องสว่างไม่ได้หน้ากลัวอะไร แต่ที่เธอรู้สึกแปลกๆก็คือเหมือนมีรถคันหนึ่งขับชะลอๆตามหลังเธอมาตั้งแต่เธอเดินออกจากร้านมาได้สักพักแล้ว ซึ่งริศาก็ไม่ได้เดินเร็วอะไรแต่รถคันนั้นก็ไม่ได้ขับผ่านเธอไปสักที

     “ไปไหม” 

   และในขณะที่เธอพยายามไม่สนใจและก็เดินไปตามทางเดินบนฟุตพาทของเธอ อยู่ๆรถคันนั้นก็ขับเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับมีผู้ชายที่ลดกระจกลงมาและเอ่ยถามเธอขึ้น

     “คะ?” ริศาที่ได้ยินไม่ค่อยถนัดและคิดว่าคนในรถน่าจะถามทางหรือเปล่าจึงหยุดเดินและหันไปถามกลับเผื่อจะช่วยอะไรได้ 

     “ไปกลับพี่ไหม เท่าไหร่น่ะเราอ่ะ” ทว่าพอได้ยินคำถามชัดๆริศาก็ถึงกับงงเข้าไปอีก

     “คืออะไรคะ?”

     “หึ! ไม่รู้จริงเหรอ ไม่เอาน่าอย่ามาทำเป็นใสๆราคาเท่าไหร่ก็ว่ามา สวยๆอย่างน้องพี่สู้นะ” 

     “เอ่อ…ไม่ๆค่ะ” กระทั่งได้ยินประโยคต่อมาจึงรู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแล้ว ผู้ชายคนนี้เขาคิดว่าเธอมาเดินขายตัวหรืออย่างไรกัน

     “ขอโทษนะคะ เข้าใจผิดแล้วค่ะ” เธอบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงสุภาพและถอยออกมาเดินไปตามทางของเธอต่อ ทว่าผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอมหยุด คราวนี้เขาลงจากรถและเดินดุ่มๆเข้ามาหาเธอเลย

     “คิดจะอัพค่าตัวเหรอ ก็บอกแล้วไงว่าเท่าไหร่ก็สู้” ชายหน้าตาดีอายุราวๆยี่สิบปลายๆมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ดูพอใจในรูปร่างและหน้าตาของเธอเป็นอย่างมาก

     “ก็บอกแล้วไงคะว่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นค่ะ”

     “หือ? งั้นเหรอ”

     “ค่ะ คุณเข้าใจผิดจริงๆ คือฉันเพิ่งเลิกงานพาร์ทไทม์ที่ร้านคาเฟ่แล้วกำลังจะเดินกลับหอพักค่ะ” เธออธิบายให้อีกคนเข้าใจเพื่อที่จะได้เลิกยุ่งกับเธอสักที ทว่าชายคนนั้นกลับยิ้มชอบใจ

     “อ๋อ! ไม่ได้ขาย ไม่เป็นไรงั้นให้พี่ไปส่งนะ”

     “ไม่เป็นไรค่ะ อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว”

     “ไปเถอะน่า อย่ามาทำเล่นตัวหน่อยเลยพี่ไม่ได้สนใจใครง่ายๆหรอกนะ” ชายหนุ่มยังคงตื้อต่อเพราะรู้สึกสนใจคนตัวเล็กตรงหน้าจริงๆ 

     “ขอตัวนะคะ” แต่ริศาที่รู้สึกกลัวเขาไปแล้วก็ได้พยายามหลบหลีกด้วยการเดินหนี

หมับ!

   ชายคนนั้นจึงได้ถือวิสาสะคว้าข้อมือเธอไว้

     “ก็บอกว่าจะไปส่ง เล่นตัวอะไรนักหนา”

     “ปล่อยนะคะ คุณไม่ควรมาทำกับคนที่ไม่รู้จักกันแบบนี้”

     “ก็อยากรู้จักไง”

     “แต่ฉันไม่อยากรู้จักคุณ ปล่อยค่ะ” ริศาพยายามบิดข้อมือเล็กของตัวเองออกจากมือใหญ่ของอีกคน แต่ยิ่งบิดเท่าไรเขาก็ยิ่งกำแน่นขึ้นกว่าเก่า แถมยังพยายามกระชากเธอให้เดินตามเขาไปที่รถให้ได้

     “ปล่อยนะคะ ฉันไม่ไป”

     “มีอะไรกันน่ะ!

   ในขณะที่ทั้งสองกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้นเสียงของใครบางคนก็ตะโกนออกมาจากในรถอีกคันที่มาจอดเทียบฟุตพาทตรงนั้น ก่อนที่คนในรถจะรีบเปิดประตูและเดินตรงเข้ามา

     “มาฉุดผู้หญิงแบบนี้ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลยนะ” ชายผู้มาใหม่เอ่ยเสียงเข้มใส่ชายอีกคนที่ยังกำข้อมือของริศาอยู่

     “อย่ามายุ่งเรื่องผัวเมีย”

     “มะ…ไม่ใช่นะคะ เขาไม่ใช่” ริศาส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับส่งสายตาขอความช่วยเหลือ

     “ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากเดือดร้อน”

     “ถ้าไม่ปล่อยแล้วจะทำไม?” 

     “ก็ไม่ทำไม สถานีตำรวจอยู่ใกล้ๆโทรแค่แป๊บเดียวก็คงมาถึง” จบประโยคของชายที่เข้ามาใหม่ ผู้ชายคนที่กำมือริศาอยู่ก็ถึงกับหน้าเจื่อนลง

     “ชิ!” แล้วสุดท้ายก็ยอมปล่อยมือริศาให้เป็นอิสระแต่โดยดี ไม่รอให้อีกคนได้โทรหาตำรวจจริงๆสองเท้ายาวก็รีบก้าวฉับๆไปขึ้นรถของตัวเองและขับออกไปทันที

บรื๊นนน~~

     “เป็นไงบ้าง ตกใจเหรอ” ชายหนุ่มหันถามกับคนตัวเล็กเมื่อเห็นใบหน้าที่ยังคงตื่นกลัวของเธอ แต่เมื่อได้มองใบหน้าเรียวเล็กสวยชัดๆใกล้ๆอยู่ๆเขาก็นิ่งไปและเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้อยากจะฉุดเธอขึ้นรถไปนัก สวยขนาดนี้เป็นเขาเองก็นึกอยากฉุดแต่ก็ได้แค่คิดเล่นๆในใจ

     “ทีหลังอย่ามาเดินมืดๆคนเดียวแบบนี้นะ ถึงจะมีไฟส่องสว่างแต่ก็ยังเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆอยู่ดี” เขาบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูห่วงใยทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน ริศาจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆให้เขาไป เธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เดินมาตั้งสองปีแล้วเพิ่งจะเคยเจอ

     “ขอบคุณนะคะที่ช่วยไว้”

     “ไม่เป็นไร ว่าแต่บ้านอยู่ไหนเหรอให้ฉันไปส่งไหม”

     “เอ่อ…” คนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์แย่ๆไปคิดไม่ตก จะเดินกลับไปคนเดียวก็ยังกลัวๆ จะให้เขาไปส่งก็ยังไม่รู้จักกัน

     “บ้านเธออยู่แถวนี้หรือเปล่า ถ้ากลัวก็ให้ฉันขับรถตามไปส่งแล้วกัน เธอจะเดินก็เดินฉันขับรถตามหลังไปเป็นเพื่อน” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ

     “…” ทว่าริศาก็รู้สึกเกรงใจอยู่ลึกๆ

     “ตามนี้แล้วกัน ไหนๆฉันก็ช่วยเธอแล้วก็ช่วยมันให้สุดไปเลย”

     “ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” สุดท้ายริศาจึงตกลงกับเขาไปตามนั้น เพราะอย่างน้อยๆเธอก็ไม่ต้องเดินอย่างกลัวๆคนเดียว…

หอพักของริศา…

     “ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยไว้แล้วยังอุตส่าห์ขับตามมาส่งอีก” พอมาถึงหน้าหอพักริศาจึงรีบหันไปขอบคุณชายหนุ่มที่ตามมาส่งด้วยความจริงใจ เธอยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรแต่หารู้ไม่ว่ารอยยิ้มของเธอนั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ยิ่งพอมาถึงหน้าหอพักที่มีไฟค่อนข้างสว่างมากเขาก็ยิ่งเห็นหน้าเธอได้ชัดเจนขึ้น แล้วก็ต้องถูกความสวยน่ารักของเธอเตะตาเข้าอย่างจัง 

     “หึ! น่ารัก” คนในรถเผลอพึมพำออกมา

     “คะ? ว่าไงนะคะ”

     “เปล่าๆ เธอเข้าไปเถอะแล้วก็อย่าลืมนะ อย่าไปเดินข้างทางเวลากลางคืนแบบนั้นอีก”

     “ค่ะๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ริศาก้มศีรษะให้คนในรถเล็กน้อยและหมุนตัวกลับเดินเข้าไปในหอพักของตัวเอง ส่วนชายที่ตามมาส่งก็ยังคงจอดอยู่ที่เดิมจนกระทั่งคนตัวเล็กเดินเข้าข้างในหอพักไป เขาถึงได้เคลื่อนรถขับออกไปจากตรงนั้นด้วยความรู้สึกชอบใจและยังอยากจะเจอกับเธออีก…

วันต่อมา…

     “ห๊ะ! จริงเหรอริศา” 

     “แล้วมันได้ทำอะไรเธอไหม” เสียงเพื่อนสนิททั้งสองแย่งกันถามริศาขึ้นด้วยความเป็นห่วงกับเหตุการณ์เมื่อคืน ตอนแรกเธอกะว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังแต่พอคิดไปคิดมาก็เล่าให้ฟังดีกว่าเผื่อเพื่อนจะให้คำปรึกษาเธอได้ แล้วอีกอย่างเธอก็ต้องเดินกลับทางนั้นเป็นประจำด้วยเผื่อเกิดอะไรขึ้นอีกแล้วไม่ได้บังเอิญโชคดีมีใครมาช่วย เพื่อนเธอจะได้รู้ไว้ว่าสาเหตุที่เธอเป็นอะไรไปมันเพราะอะไร

     “ต่อไปเธออย่าเดินกลับคนเดียวตอนดึกๆอีกนะริศา” แป้งร่ำบอกอย่างเป็นห่วง

     “ใช่ ถ้าจำเป็นจริงๆโทรบอกฉันก็ได้เดี๋ยวฉันให้คนมารับ” มะนาวก็เช่นกัน

     “ขอบใจพวกเธอมากนะที่เป็นห่วง ฉันไม่คิดเหมือนกันว่าการเดินกลับบ้านระยะทางแค่นิดเดียวจะต้องมาเจออะไรแบบนี้อะ”

    “ถึงจะไม่ไกลมากแต่มันก็เป็นตอนกลางคืนนะ เธอก็ตัวเล็กตัวน้อยแค่นี้ ดีนะยังไม่โดนอุ้มขึ้นรถไปได้” แป้งร่ำที่เป็นห่วงเพื่อนตัวเล็กมากเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบที่ศีรษะเล็กเบาๆ

     “นั่นสิ ดีนะที่มีผู้ชายใจดีคนนั้นเข้ามาช่วยไม่งั้นฉันต้องแย่แน่เลย” เธอที่ยังรู้สึกกลัวๆกับเรื่องเมื่อคืนไม่หายนึกขอบคุณผู้ชายคนที่เข้ามาช่วยด้วยใจจริง ถ้าหากเขาปล่อยผ่านแล้วไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว ป่านนี้เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะเป็นยังไง

     “ฉันอยากตอบแทนเขาจัง” ริศาว่าพลางใช้ความคิดของตัวเอง จะทำยังไงให้เธอได้เจอเขาอีกและได้ตอบแทนคนที่เข้ามาช่วยเธอไว้

     “วันนี้เธอก็ต้องทำงานใช่ไหมริศา” แป้งร่ำถาม

     “วันนี้ฉันลาน่ะ ยังนึกกลัวๆอยู่คงเริ่มไปทำอีกทีวันจันทร์”

     “ถ้างั้นเย็นนี้เราก็ว่างตรงกันแล้วสิ ไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านเดิมกันไหม ฉันอยากกินมาหลายวันแล้วอ่า”

     “ไปสิๆ ฉันก็อยากกิน” มะนาวกับแป้งร่ำเห็นพ้องต้องกันกับการที่จะได้พากันไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านโปรดที่ไปกินกันประจำแต่ช่วงหลังไม่ค่อยได้ไปเพราะมีเรียนหนักและริศาก็มีงานที่ต้องทำหลังเลิกเรียน

     “อืม งั้นก็ไปกัน” ทำให้คนตัวเล็กของกลุ่มก็อดไม่ได้ที่จะเออออห่อหมกกับเพื่อนไปด้วยเพราะถึงเธอจะปฏิเสธเพื่อนๆก็ไม่ยอมอยู่ดี

@ร้านอาหาร…

   ทั้งสามพากันตรงเข้ามายังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งอยู่บนตึกสูงใจกลางกรุง ทั้งแป้งร่ำและมะนาวที่โปรดปรานอาหารประเภทนี้มากก็ดูจะหน้าตาชื่นบานเป็นพิเศษ ผิดกับริศาที่ถึงจะชอบเหมือนกันแต่ทว่าราคาของอาหารที่นี่ก็แพงมากเกินกว่าเธอจะกล้าเข้ามากินบ่อยๆ 

     “มาที่นี่ทีไรทำหน้าแบบนี้ทุกทีเลยนะริศา คิดมากอีกแล้วใช่ไหม” คนรู้ทันเพื่อนอย่างมะนาวเอ่ยถามในขณะที่ทั้งสามเข้ามานั่งภายในร้านซึ่งบริเวณที่พวกเธอนั่งก็เป็นที่ประจำติดกระจกมองเห็นวิวสวย

     “ก็…มันแพง ฉันเกรงใจพวกเธอมาทีไรก็ออกให้ก่อนทุกที บางทีก็ไม่ให้ฉันออก”

     “เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้จะขึ้นปีสามแล้วนะริศา เรื่องแค่นี้เอง คิดมากไปได้เธอช่วยอะไรพวกฉันไว้ตั้งเยอะแยะ ใช่ไหมแป้ง”

     “จริง อยากกินอะไรสั่งเลย ถ้าหากว่าเกรงใจพวกฉันงั้นก็ทำแบบเดิมแหละ ค่อยจ่ายคืนให้กันทีหลัง” 

     “เฮ้อ~ก็ได้ๆ” สุดท้ายคนขี้เกรงใจเพื่อนก็ต้องยอมตามใจเพื่อนอยู่ดี เธอรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนทั้งสองไม่ได้สนใจเรื่องเงินทองอะไรเพียงแค่อยากให้เธอได้มากินของอร่อยด้วยกันและนั่งเม้าท์มอยกันตามประสาเพื่อน แต่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอจะเอาเปรียบเพื่อนๆเกินไปหรือเปล่า

     “สั่งอาหารกันดีกว่าเรา” 

   หลังจากตกลงกันได้ทั้งสามก็พากันสั่งอาหารมานั่งทานกันและพูดคุยกันไปตามประสา…ทว่าริศาที่นั่งกินไปได้สักพักก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกใครจ้องมองอยู่จากทางไหนสักทาง

     “เป็นอะไร” แป้งร่ำที่นั่งอยู่ตรงข้ามเอ่ยถาม

     “ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกเหมือนมีคนมองพวกเราอยู่อ่ะ”

     “หือ? ไหน” พอเพื่อนบอกแบบนั้นแป้งร่ำจึงกวาดตามองไปรอบบริเวณร้านดูจนสุดท้ายสายตาของเธอก็ไปเจอเข้ากับกลุ่มผู้ชายที่ใส่ชุดนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ และหนึ่งในนั้นก็กำลังมองมาทางพวกเธอเหมือนกับที่ริศารู้สึกแบบนั้นจริงๆ

     “โอ๊ะ! จริงด้วยแหะนั่นไง” ริศากับมะนาวจึงมองไปตามที่แป้งร่ำบอก

     “เอ๊ะ! นั่นมัน” และทันทีที่ริศาหันไปสบตาเข้ากับผู้ชายที่มองมายังเธอก็ต้องถึงกับขมวดคิ้ว เธอค่อนข้างมั่นใจว่าจำไม่ผิดคนแต่ก็ยังช่างใจอยู่ว่าจะใช่เขาหรือเปล่า

     “รู้จักเขาด้วยเหรอริศา” แป้งร่ำถาม

     “เขาเหมือนผู้ชายคนที่ช่วยฉันไว้เมื่อคืนเลย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   สวยมาก...แต่จืดไปหน่อย

    และอีกหลายวันผ่านไป… ภายในห้องใหม่ที่ใหญ่และหรูกว่าเดิมแต่มันกลับทำให้ริศาเหงาอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งในช่วงเวลาวันหยุดแบบนี้ที่เธอมักจะออกไปเดินหาอะไรอร่อยๆในแบบของเธอกินแต่ที่นี่กลับหาได้ยาก “เฮ้อ~ทำอะไรกินดี” เสียงหวานบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างคิดไม่ตก ในตู้เย็นก็มีแต่ของสดเดิมๆที่เธอทำกินมาแล้วสามสี่วัน อยากกินก๋วยเตี๋ยวหรือส้มตำเผ็ดๆที่ชอบก็ต้องขับรถออกไปซื้อซึ่งรถก็ติด ครั้นจะสั่งแบบเดริเวอรี่ก็ไม่ได้รสชาติตามที่ต้องการ มันน่าเบื่อไปหมด แต่…เธอทนได้เพราะอยากให้อีกคนนั้นพอใจครืด~~ครืด~~ เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำให้ริศาต้องละจากการนึกเมนูและหันไปมองยังหน้าจอ แล้วก็พบว่ามันสายจากเพื่อนชายที่เธอห่างหายจากการพูดคุยไปนานอยู่พอสมควร “ฮัลโหลเต” ริศากดรับสายและกรอกเสียงสดใสใส่ลงไป (ไง ยัยบ้องวันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ) “ใช่ นายมีอะไรหรือเปล่าคิดถึงฉันเหรอ” (อืม คิดถึงเพื่อนคนสวย) “แหวะ ไม่ต้องมาปากหวาน ฉันไม่ใช่สาวๆของนายที่จะหลงคารมง่ายๆนะ” (หึ! ถ้าเป็นไอ้พี่ชายฉันไม่ต้องพูดก็หลงใช่ไหม) “อะ…อะไรเล่าพูดบ้าอะไรของนายเนี่ย” เสียงใสพูดติดๆขัดๆไปด้วยค

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   ลองเตียงใหม่

    คนตัวสูงที่ยังคงนอนเหยียดขายาวอยู่บนเตียงแต่ไม่ได้ใส่ชุดเดิมบ่งบอกให้รู้ว่าเขาเองก็ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ทั้งวัน รามมองมายังริศาที่เปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าที่ราบเรียบเช่นเคยทว่าข้างๆเขามีโน๊ตบุ๊ควางอยู่ ไม่บอกก็รู้ว่าเขาคงจะทำงานไปด้วยรอเธอไปด้วย “ทำไม?” “ทำไมอะไร” อาการตกใจแปลกๆของริศาทำให้เขาต้องหรี่ตามองแล้วเอ่ยถาม “…” ซึ่งริศาก็ไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงแค่เดินเข้ามาเอาของวางไว้แล้วจะเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด “เดี๋ยว” “คะ?” “ทำไมกลับเย็นขนาดนี้” “ริศาเพิ่งเลิกงานค่ะ” “แล้วทำไมต้องทำท่าทางแปลกๆอย่างนั้น” “ไม่มีอะไรค่ะ ริศาไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ว่าจบร่างบางก็เดินเข้าห้องน้ำไป รามที่จับสังเกตได้ก็นึกในใจว่าเธอต้องมีอะไรแน่ๆ ริศาใช้เวลาอาบน้ำอยู่สักพักใหญ่ๆก็เดินออกมาพร้อมกับชุดนอนลายการ์ตูนน่ารักแบบที่เธอชอบใส่ แต่พอมองไปที่เตียงก็ยังเจอกับสายตาจับผิดของรามที่มองมาอยู่ “พี่รามมีอะไรหรือเปล่าคะ” “เธอนั่นแหละมีอะไร ทำไมต้องทำหน้าแปลกๆ” “แปลก?...แปลกยังไงค่ะริศาก็ปกติดี” คน(ไม่)ปกติดีทำทีไม่ใส่ใจแล้วเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งข

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   หายเจ็บหรือยัง

    หลายวันต่อมา… หลายวันผ่านมาแล้วแต่คนตัวเล็กที่เพิ่งจะเสียครั้งแรกไปยังคงมีความระบมกับช่วงล่างอยู่ไม่หาย ริศาพยายามถ่างขามองตรงนั้นของตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำอย่างทุลักทุเล “ไม่ค่อยแดงแล้วแต่ทำไมยังเจ็บอยู่” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะขนาดที่ไม่ธรรมดาของเขาหรือเป็นเพราะเธอเพิ่งจะเคยโดนกันแน่ ทำไมเธอยังคงรู้สึกเจ็บ แต่ที่แน่ๆคนที่เป็นผู้ชายของเธอคนที่ฝากรอยแดงไว้ตามตัวไม่ติดต่อมาหาเธออีกเลยหลังจากวันนั้น ทว่าริศาก็ไม่คิดอะไรมากเธอยังคงคิดว่าเขามีงานยุ่ง ด้วยความไม่อยากให้เขามองว่าเธอเป็นผู้หญิงน่ารำคาญตัวริศาเองก็ไม่ได้ติดต่อไปหาเขาเช่นกัน แต่เธอก็ยังซื้อยาทุกอย่างมากินตามเขาบอกครืด~~~ ในขณะที่เธอกำลังสาละวนอยู่กับการทายาตรงจุดบอบบางอยู่นั้น โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งด้านนอกห้องน้ำก็ดังขึ้น เธอจึงรีบจัดแจงเก็บของและตรงดิ่งไปรับสายเผื่อว่าจะเป็นผู้ชายที่เธอรอให้เขาโทรมาอยู่…แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ “ว่าไงมะนาว” (ริศาเธอเป็นไงบ้าง ไม่สบายหายหรือยัง) มันเป็นสายของเพื่อนที่เธอโกหกว่าตัวเองไม่สบายจึงไปเรียนไม่ได้หลายวัน “ฉันดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ก็ไปเรียนได้แล้วแหละ” (โ

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   ของขวัญวันเกิด

    “อ๊ะ!” ริศาร้องเสียงหลงเพราะถูกคนเอาแต่ใจใช้มือบีบไปที่หน้าอกของเธออย่างแรง แม้ว่าเธอพยายามจะพูดปรามเขายังไงก็ไม่เป็นผล “พอก่อนค่ะพี่ราม” “อยู่เฉยๆน่า” เขาใช้มือของตัวเองเพียงข้างเดียวรวบทั้งสองแขนของเธอให้ขึ้นไปอยู่เหนือศีรษะอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นจึงกดจูบไปที่ริมฝีปากบางของเธออีกครั้ง “อื๊อ~~” มันเป็นจูบที่เร่าร้อนและรุนแรงกว่าครั้งก่อนทำให้คนใต้ร่างเกือบจะหายใจไม่ทัน ดีที่เขายังปราณีให้เธอได้พักบ้าง ทว่าแค่เพียงไม่นานเขาก็บดขยี้ริมฝีปากบางของเธอใหม่ ทำอยู่อย่างนั้นวนไปกระทั่งริมฝีปากสวยของเธอเริ่มชาจากการถูกกดจูบเป็นเวลานานๆ และแม้ว่าคนตัวโตจะนึกสงสาร แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะปากเธอมันดันหวานถูกใจเขาเองพรึบ! คนตัวเล็กถูกเขาฉุดให้ลุกตามขึ้นมานั่งก่อนที่เขาจะตวัดแขนไปทางด้านหลังเพื่อรูดซิปชุดเดรสลงมา ทุกอย่างมันเร็วไปหมดจนเธอเองก็ไม่ทันตั้งตัว มารู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่เขาดึงชุดสีหวานของเธอมากองลงตรงเอวบางเสียแล้ว ซึ่งการกระทำนั้นก็เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่ตั้งชูชันสู้ตาคนตรงหน้า… “อย่ามองนะคะ” ด้วยความเขินอายเธอพยายามใช้มือขึ้นมาปกปิดแต่ก็ถูกเขาดึงออกและ

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   ไหนล่ะของขวัญฉัน?

    ไอริสเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้กับทุกคนก่อนที่จะมาหย่อนตัวนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามริศาและยื่นกล่องของขวัญให้เจ้าของวันเกิด ซึ่งรามก็รับมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเหมือนเช่นเคย “สวัสดีค่ะพี่ไอริส” ริศารีบยกมือขึ้นไหว้ทักทายคนมาใหม่อย่างดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง “สวัสดีจ้ะริศา วันนี้สวยจังนะ” ไอริสเอ่ยชมพลางขยิบตาให้สาวรุ่นน้องอย่างเหมือนจะมีอะไรที่รู้กัน “ยังสวยไม่ได้ครึ่งหนึ่งของพี่ไอริสเลยค่ะ” “ว่าไปนั่น ปากหวานตลอดเลยนะเด็กคนนี้” ไอริสยิ้มหวานชอบใจ โอ๊ะ! แล้วนั่นดื่มอะไรน่ะ น้ำเปล่าเหรอ” “ค่ะ เพิ่งทานอาหารอิ่มได้สักพักเลยดื่มน้ำเปล่าเดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็นน้ำอัดลมแล้วค่ะ” “โอ๊ย เด็กอนามัยก็มา ไม่ได้สิวันเกิดเพื่อนพี่ทั้งทีต้องดื่มกันหน่อย” ว่าแล้วไอริสก็ลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปหยิบแก้วค็อกเทลมาสองแก้วยื่นให้ริศาแก้วนึง “เอ่อ…” ริศารับมาแต่ก็ทำท่าเหมือนไม่กล้าดื่ม จนไอริสต้องกระดกแก้วในมือนำก่อนจนหมดและชูให้เธอดู “อร่อยนะ” “…” “ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าเมาเดี๋ยวรามก็ดูแลเองแหละ ใช่ไหมราม” ไอริสหันไปถามกับรามเหมือนเป็นเชิงขออนุญาตให้ริศาดื่

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   วันเกิด

    วันต่อมา… หลังจากกลับมาจากมหาลัยในช่วงบ่ายริศาที่ลาหยุดงานพาร์ทไทม์ของตัวเองแล้วก็รีบตรงดิ่งมายังห้องพัก เพื่อจัดแจงเตรียมตัวที่จะไปงานวันเกิดของราม คนตัวเล็กมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมากกับการที่จะได้เจอกับคู่หมั้นหนุ่มในครั้งนี้ เธอทั้งรีบกลับมาเพื่อจะใช้เวลาในการขัดและบำรุงผิวในห้องน้ำ ไหนจะมาร์กหน้านวดหน้าของตัวเองให้ดูใสขึ้น อีกทั้งยังลงทุนซื้อชุดใหม่ในแบบที่เพื่อนแนะนำ ถึงแม้มันจะแพงไปสักหน่อยแต่เพื่อคนที่เธอคิดว่าเขาพิเศษ ครั้งนี้เธอจะกัดฟันยอมจ่ายแม้ว่าในใจจะเสียดายเงินแค่ไหนก็ตาม “สวยสมราคาจริงๆแหะ” เดรสชมพูสีโปรดถูกยกขึ้นมาทาบกับตัวที่หน้ากระจกพร้อมร้อยยิ้มที่ดูสดใสกว่าทุกๆวัน ถึงแม้สีมันจะหวานแหววไปหน่อยทว่าช่วงไหล่กลับปาดลงโชว์ไหปลาร้าสวยและผิวขาวผ่องให้ลุคหวานซ่อนเปรี้ยว เหตุผลที่เธอรีบกลับมาบ่มผิวบำรุงตัวก็เพราะแบบนี้นี่แหละ วันพิเศษของเขาทั้งที งานนี้เธอต้องโชว์ผิวออร่าของตัวเองให้สุด “สั้นไปหรือเปล่านะ” ถึงแม้จะพยายามมั่นใจในตัวเองเข้าไว้อย่างที่เพื่อนๆและไอริสแนะนำแต่เธอก็ยังกังวลในส่วนของกระโปรงที่มันเลยขึ้นมาเหนือเข่าอยู่ดี ริศายืนมองตัวเองคู่กับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status