Share

บทที่ 2 แตกสลาย

last update Last Updated: 2025-06-12 02:26:39

บทที่ 2 แตกสลาย

ลี่ถังเดินออกมาจากจวนของมู่เฉิน หญิงสาวมองแทบไม่เห็นหนทางข้างหน้าเพราะม่านน้ำตาบดบังทุกสิ่ง ยิ่งก้าวเท้าเดินออกมาไกลเท่าไรดวงใจก็ยิ่งหนักอึ้ง ริมฝีปากก็ไม่อาจเอ่ยอะไรออกมาได้อีก

เท้าเรียวกำลังก้าวเดินไปยังรถม้ารับจ้างตรงหน้า ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของลี่ถังในตอนนี้คือกลับบ้านให้เร็วที่สุด หนีให้ไกลจากที่แห่งนี้และชายคนนั้น คนที่ทำให้หัวใจของนางต้องแตกสลาย

ลมฤดูหนาวพัดโชยผ่านตรอกแคบของเมืองฉงชิ่ง เสียงฝีเท้าของหญิงสาวที่เร่งเดินฝ่าลมหนาวไปข้างหน้าแผ่วเบาแต่หนักแน่น นางมิได้หันกลับไปมองเบื้องหลังแม้แต่น้อย ราวกับกลัวว่าหากเผลอเหลียวหลัง น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้อาจไหลรินออกมา

มือของนางกำแน่นจนเล็บจิกลงไปในฝ่ามือ หากเป็นเมื่อก่อนเพียงแค่ได้รับจดหมายของเขา หัวใจของนางก็พองโตไปด้วยความหวัง แต่บัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลงต่อหน้าต่อตา นางเพิ่งเข้าใจว่า… ความรักที่นางเฝ้าทะนุถนอมนั้น เป็นเพียงภาพลวงตาที่อีกฝ่ายวาดขึ้นเพื่อให้นางหลงเชื่อ

นางจะไม่อ่อนแอให้ใครเห็น โดยเฉพาะบุรุษคนนั้น ที่แม้แต่ความเสียใจหรือสำนึกเพียงเสี้ยวเดียวก็ไม่มอบให้นาง

แต่จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงแรงฉุดกระชากที่ข้อมือ ลี่ถังสะบัดมือออกทันที แต่เมื่อเห็นว่าใครกันที่เป็นคนดึงแขนของนางเอาไว้หญิงสาวก็ถึงกับชะงัก

"ปล่อย"

น้ำเสียงห้วน ๆ ต่างจากที่เคยใช้พูดคุยกับบุรุษตรงหน้า ทำให้คิ้วของชายหนุ่มที่รั้งนางเอาไว้ต้องขมวดแน่น

“เจ้าจะไปที่ใดกัน” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความร้อนรน

นางกวาดตามองเขาอย่างเย็นชา ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่บาดลึกถึงหัวใจอีกฝ่าย

“ไปจากที่นี่ ไปจากชีวิตของท่าน ไปที่ใดก็ได้ที่ไม่มีท่าน” ลี่ถังเอ่ยออกไป นางไม่รู้ว่าอีกฝ่ายผละออกจากสตรีท้องโตข้างกายตั้งแต่เมื่อใด หญิงสาวไม่ได้หลบสายตาคู่หมั้น หรือหากจะพูดให้ถูกตอนนี้นางคงต้องเรียกเขาว่าอดีตคู่หมั้นกระมัง สายตาของมู่เฉินตอนนี้ไม่เหมือนกับคนเดิมที่นางเคยรู้จักแม้เพียงนิด แต่ก็ไม่แปลกเพราะเมื่อครู่อีกฝ่ายก็เพิ่งยืนอยู่ข้างกายสตรีอื่นโดยไม่ไยดีนางสักนิด หากเป็นมู่เฉินเมื่อก่อนคงไม่มีทางทำเช่นนี้แน่ ๆ

เขากัดฟันแน่น สองมือกำหมัดราวกับพยายามระงับอารมณ์

“เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าจากไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือ”

“แล้วท่านต้องการอะไรจากข้า” นางถามเสียงเรียบ แต่ภายในใจปวดร้าวจนแทบทนไม่ไหว

เขามองนางนิ่งนานก่อนจะเอ่ยออกมาช้า ๆ “ข้าไม่เคยคิดจะปล่อยมือจากเจ้า หากเจ้ากลับไปเช่นนี้คนที่เมืองหลวงจะมองสกุลมู่เช่นไร”

เขาห่วงหน้าตาของสกุล แล้วหัวใจนางล่ะ หัวใจของนางสั่นสะท้านชั่วขณะ แต่เพียงครู่เดียวก็กลับมาเข้มแข็งดังเดิม

“แต่ข้า… ปล่อยมือจากท่านไปแล้ว”

ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน นางจะไม่หันกลับไปหาเขาอีกเด็ดขาด

อีกด้าน มู่เฉินที่ได้ยินคำตอบของหญิงสาวก็รู้สึกไม่พอใจอย่างแรง เขาควรจะต้องเป็นฝ่ายโกรธ

“เจ้าทำเป็นโมโหข้า ตัวเจ้าดีนักหรืออย่างไร อย่าคิดว่าเจ้าทำอะไรแล้วข้าจะไม่รู้ ยามนี้มืดค่ำแล้ว พักที่จวนก่อน วันพรุ่งจะว่าอย่างไรก็ค่อยพูดค่อยคุยกัน ส่วนเรื่องถอนหมั้น หากเจ้าต้องการจริง ๆ ก็เอาหนังสือวันเดือนปีเกิดข้ามาคืนสิ รวมถึงของหมั้นหมายด้วย”

ลี่ถังกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้นางไม่มีทั้งหนังสือวันเดือนปีเกิดของอีกฝ่ายและก็ยังคืนของหมั้นให้ไม่ได้ด้วย ที่จริงนางอยากจะเถียงอีกฝ่ายกลับไปว่า ทำผิดต่อนางแล้วยังขอของคืนอีก แต่นางมิใช่สตรีประเภทนั้น

มู่เฉินออกแรงกระชากอีกฝ่ายที่พยายามขืนตัวกลับไปยังจวนของตน เขาไม่รู้ว่าทำไมตนต้องยกเรื่องหนังสือวันเดือนปีเกิดและของหมั้นมาพูด เขาแค่คิดว่ามันอาจจะทำให้เรื่องการยกเลิกการหมั้นทำได้ยากขึ้น

“โรงเตี๊ยมที่เมืองนี้มากมาย ข้าจะไปพักที่นั่น”

“ข้ายังไม่ได้อนุญาต”

นางหัวเราะออกมาเบา ๆ ราวกับได้ฟังเรื่องตลกที่สุดในชีวิต ดวงตาเรียบนิ่งจ้องมองเขา

“ตั้งแต่เมื่อใดกัน… ที่ชีวิตของข้าต้องขึ้นอยู่กับคำอนุญาตของท่าน”

สายตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นมาในทันที “ตั้งแต่วันที่เจ้าตอบรับการหมั้นหมายกับข้า เจ้าก็เป็นของข้าแล้ว”

นางหัวเราะอีกครั้ง คราวนี้ดวงตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เป็นของท่าน เช่นนั้นสตรีที่อุ้มท้องบุตรของท่านเล่า นางเป็นอะไรของท่าน”

เขาเม้มริมฝีปากแน่น ความลังเลปรากฏขึ้นวูบหนึ่งในแววตา แต่มันก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว “นางเป็นเพียงสตรีที่ข้าต้องรับผิดชอบ”

“แต่ข้าเป็นเพียงสตรีที่ถูกหลอกให้รอคอย” นางตัดบทเสียงเย็นชา

เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนจะก้าวขึ้นมาประชิด “เรื่องระหว่างเรา… ยังไม่จบ”

นางปรายตามองเขาโดยไม่สะทกสะท้าน “แม้ข้าไม่ได้เกิดมาจากตระกูลชั้นสูง แต่ข้ามีศักดิ์ศรีมากพอ เช่นนั้นข้าก็จะเป็นฝ่ายปล่อยท่าน แล้วศักดิ์ศรีของท่านล่ะอยู่ที่ใด เหตุใดจึงยื้อข้าไว้เช่นนี้”

เขาขบกรามแน่นจนได้ยินเสียง

“เจ้าไม่มีสิทธิ์ทิ้งข้า” เขากล่าวช้า ๆ น้ำเสียงหนักแน่น “นอกจากข้าจะเป็นฝ่ายทิ้งเจ้าเอง”

แต่เพราะอะไรกันล่ะ ทำไมเขาถึงต้องการเช่นนั้น ทั้ง ๆ ที่นางก็มีใจเป็นอื่น ไม่ต่างจากเขาที่มีใครอีกคนแล้ว ที่จริงหากแยกกันคงเป็นผลดีต่อทั้งเขาและนาง

แต่...ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่ายกเลิกการหมั้นหมาย หรือเพียงนึกถึงเขาก็รู้สึกจุกอยู่ลึก ๆ ในใจ

ลี่ถังพยายามขัดขืนอย่างสุดกำลัง แต่นางเป็นเพียงสตรีตัวบาง ๆ ย่อมมิอาจสู้แรงบุรุษที่สูงใหญ่กว่าได้ เพียงไม่กี่อึดใจหญิงสาวก็ถูกดึงกลับเข้ามาในจวนหลังที่นางตั้งใจว่าจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก

มู่เฉินลากลี่ถังตรงไปยังห้องโถงกลาง พ่อบ้านมองการกระทำนั้นอย่างหัวเสียน้อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่อีกฝ่ายถอนหมั้นไปก็ดีแล้ว เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายท่านของเขาจึงไปพานางกลับมาอีก แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากกว่านั้นเสียงของมู่เฉินก็ดังขึ้น

"พ่อบ้าน จัดเตรียมห้องพักให้นางด้วย"

พ่อบ้านอึกอัก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความลำบากใจ

"นายท่าน...มันจะเหมาะหรือขอรับ" พ่อบ้านถามออกไปอย่างระวัง

"ข้าสั่งอย่างไรก็ไปทำอย่างนั้น” มู่เฉินหันไปบอกชัดเจนพ่อบ้านต้องตัดใจสั่งคนให้ไปทำตามที่ว่า

ลี่ถังที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็นั่งเชิดหน้าไม่พูดคุยกับชายหนุ่มหรือแม้แต่จะตกลงอะไรทั้งสิ้น นางไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องรั้งนางเอาไว้ ทั้งที่เขาเป็นคนทำลายคำสัญญาระหว่างกันแท้ ๆ นางไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ ก็กำลังคิดถามตนเองด้วยคำถามเดียวกับนางอย่างไม่ผิดเพี้ยน

ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน

“นายท่าน ฟื้นแล้วหรือขอรับ ดีขึ้นไหมขอรับ” เสียงของใครสักคนที่เรียกอยู่ทำให้มู่เฉินหันไปมอง เขาไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใครแต่ก็เลือกที่จะพยักหน้าตอบไปก่อน

สิ่งแรกที่ชายหนุ่มสัมผัสได้คือกลิ่นสมุนไพรคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง และร่างกายของเขาที่แทบจะขยับไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้คิ้วของชายหนุ่มขมวดอยู่ตลอดเวลาคือในหัวของเขาตอนนี้ช่างว่างเปล่า

ราวกับทุกสิ่งอย่างในนั้นถูกกลืนหายไปจนหมด เขานึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าที่นี่ที่ไหน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร

พ่อบ้านพยุงนายของตัวเองขึ้นนั่ง ก่อนจะรินน้ำชาให้ดื่ม

“นายท่านป่วยหนักอยู่หลายวันเพราะโรคระบาดที่ยังหลงเหลืออยู่ ข้าเองก็ยังไม่ได้แจ้งจวนหลักเลยกลัวทางนั้นจะตื่นตระหนกเพราะนายท่านเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด กะว่าหากสองสามวันนี้นายท่านยังไม่ดีขึ้น ก็จะส่งข่าวไปให้ทางนั้นทำใจ แต่โชคยังดีที่สุดท้ายท่านหมอที่ค้าขายกับพวกเรายังสามารถรักษาท่านไว้ได้”

“ค้าขายอย่างนั้นหรือ” มู่เฉินเอ่ยถามอย่างสงสัย คำถามนั้นทำให้พ่อบ้านชะงักแต่ก็ไม่ถึงกับแสดงท่าทีตกใจ

“ท่านคือคุณชายมู่เฉินแห่งตระกูลมู่ขอรับ ตอนนี้มาดูแลกิจการที่แคว้นฉงชิ่งเพื่อสร้างฐานการค้าใหม่”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 10 คนหาย

    บทที่ 10 คนหาย “ใครเฝ้าอยู่ข้างนอก เข้ามาเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มตะโกนลั่น คนงานที่เฝ้าอยู่เร่งเดินมาหา และสาวใช้ก็รีบวิ่งมา“นางไปไหน” คนทั้งสี่ส่ายหน้า สาวใช้บอกเช้านี้เอาอาหารมาให้ยังเห็นนางอยู่ ส่วนคนงานก็บอกว่าไม่เห็นนางเดินออกไป“บอกข้าแล้วอย่างไร ไปหาสิ” มู่เฉินอารมณ์เสีย เขาไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงหายไปได้ ด้านหลังจวนไม่มีอะไรนอกจากบ่อ วูบหนึ่งเขาหลงคิดว่านางอาจจะฆ่าตัวตาย แต่นางไม่ได้รักเขาขนาดนั้น นางคงไม่มีทางทำ หญิงใจง่ายที่มีคนอื่นทั้ง ๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่ควรเสียใจที่คู่หมั้นมีอนุก่อนแต่งหรอก“เจอหรือยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามพ่อบ้าน แต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้า “ให้คนตามอยู่ขอรับ นายท่านพักก่อนเถอะ” “ข้าไม่พัก แล้วทุกคนก็ห้ามพัก หาให้เจอ” เสียงของมู่เฉินดังจนเหล่าสาวใช้สะดุ้ง ดวงตาคมกริบตวัดมองบ่าวไพร่ของตนที่ยืนเรียงราย ทุกคนต่างหลบตาไม่มีผู้ใดกล้าสบตาเขา “นายท่าน... เราค้นทั่วเรือนแล้วขอรับ แต่...” “แต่อะไร”“ไม่มีขอรับ ไม่มีแม่นางลี่ถัง”“ไร้ประโยชน์” ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อด้วยความหงุดหงิด ความรู้สึกในอกตีกันยุ่งเหยิงไปหมด แค่คิดว่าลี่ถังกลับไปแล้ว หัวใจเขาก็บีบแน่น “ทุกคนฟัง

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 9 บ่อน้ำร้าง

    บทที่ 9 บ่อน้ำร้าง ตูม!!ลี่ถังกรีดร้องออกมา แต่เสียงขาดหายไปกลางอากาศ ร่างของนางเสียหลักและร่วงลงสู่ความมืดมิดน้ำเย็นเฉียบทะลักเข้าปากและจมูก นางพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเหนือน้ำ แต่ความลื่นของตะไคร่ทำให้นางจับขอบบ่อไม่ได้เลย“ช่วยด้วย!” นางพยายามร้อง แต่เสียงสะท้อนอยู่เพียงในความเงียบงันเหนือปากบ่อ เงาหนึ่งปรากฏขึ้น เสียงฝีเท้าเบา ๆ ค่อย ๆ ถอยออกไป ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ความสงัดไม่มีใครอยู่ที่นั่น ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางถูกผลักลงมาน้ำเย็นเยียบราวกับจะดูดกลืนสติของนางไปทุกขณะไม่!นางกัดฟัน พยายามยันตัวเองขึ้น ทว่าพลังของนางค่อย ๆ ลดลงทุกขณะขณะที่สติเริ่มเลือนราง มีเพียงความคิดเดียวที่หลงเหลืออยู่ในใจของนางข้ายังไม่อยากตาย… ท่านพ่อ…พี่ใหญ่ความหนาวเย็นกัดกินไปถึงกระดูก นางพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ แต่กำแพงหินของบ่อร้างทั้งสูงและลื่น ตะไคร่น้ำจับแน่นทำให้ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้มือของนางสั่นระริก ร่างกายเปียกโชกและชาดิกไปหมด เสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อครู่กลืนหายไปในความมืดมิด ไม่มีแม้เสียงฝีเท้าของผู้ใดเดินผ่านลมหายใจของนางเริ่มติดขัด เสื้อผ้าเปียกชุ่มทำให้ร่างกายหนักขึ้นเรื

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 8 หาทางหนี

    บทที่ 8 หาทางหนี ลี่ถังเองก็คิดไม่ต่างกัน นางเองก็คิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายไร้เยื่อขาดไยเช่นนี้นางควรรีบทำทุกอย่างให้จบ แม้จะถูกขังแต่หากอีกฝ่ายไม่เอาเชือกมามัดมือนางไว้ ลี่ถังก็ยังพยายามหาทางออกจากจวนนี้ทุกวันนางเคยคิดจะว่ายน้ำออกไป แต่น่าเสียดาย นางว่ายน้ำไม่แข็งขนาดนั้น จึงไม่สามารถว่ายผ่านบึงบัวขนาดใหญ่ด้านหลังจวนไปได้ อีกอย่างยามนี้ก็หนาว หากลงน้ำคงได้ไข้แม้จะลองใช้สารพัดวิธี แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็ถูกเฝ้าจับตาไว้หมด และสุดท้ายก็ถูกลากกลับมาที่เรือนรับรองที่แปรเปลี่ยนเป็นห้องขัง แต่วันนี้ขณะหญิงสาวมาตักน้ำที่บ่อน้ำเก่าหลังเรือน สายตาก็เหลือบไปเห็นกิ่งต้นไม้ใหญ่ด้านบน คงเพราะก่อนหน้านางเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจึงไม่ทันสังเกตเห็น แม้โคนต้นไม้นี้น่าจะอยู่ด้านนอกกำแพง แต่หากนางขึ้นไปบนกิ่งใหญ่นี่ได้ นางอาจจะใช้มันผ่านไปทางหลังคาและออกหลังกำแพงจวนไปได้ “แล้วจะขึ้นไปอย่างไรเล่า” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางไม่อาจปีนขึ้นจากพื้นได้ แต่หากปีนขึ้นจากหลังคาบ่อน้ำก็อาจจะพอเป็นไปได้ หัวใจของลี่ถังเต้นแรง นี่อาจเป็นโอกาสเดียวของนาง หญิงสาวไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางรีบสำรวจหาหนทางที่จะข

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 7 หูเบา

    บทที่ 7 หูเบา “วันนี้เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”“ปกติดีเจ้าค่ะ” “ลมหนาวเช่นนี้ เจ้าต้องระวังสุขภาพให้มาก”“เจ้าค่ะ”“อยากกินอะไรพิเศษก็บอกกับสาวใช้ให้ไปซื้อ” ยิ่งฟังน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมา ตั้งแต่วันแรกที่นางได้ยินคำเหล่านี้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ต่างกับการกระทำของมู่เฉินที่มีต่อนาง มันเปลี่ยนไปหมด หญิงสาวได้แต่ยืนฟังอยู่หลังหน้าต่างที่ถูกไม้ตีปิดเอาไว้ มีเพียงช่องลอดมองได้นิดหน่อย แต่ตัวผ่านไม่ได้ แต่ละวันผ่านไปด้วยความเจ็บปวดและชินชาที่ค่อย ๆ เกาะกินหัวใจจนมันเริ่มไร้ความรู้สึก ลี่ถังพยายามปลอบใจตัวเองแต่ก็ไม่มีถ้อยคำดี ๆ ที่จะทำให้รู้สึกสบายใจได้ แม้แต่เรื่องออกจากที่นี่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ออกไป เพราะทุกครั้งที่คิดจะหนี นางก็จบลงด้วยการกลับมาอยู่ในเรือนนี้พร้อมกับการป้องกันที่มากขึ้น ในเมื่อไม่มีใจแล้วจะรั้งเอาไว้ทำไม หญิงสาวคิดแล้วก็เผลอลืมไปว่าเขาขังนางเอาไว้ไม่ใช่เพราะรั้งนาง แต่กังวลว่านางจะทำเรื่องให้เขาเดือดร้อน น้ำตาใสไหลออกมาอีกหยดก่อนที่ร่างสวยจะทรุดลงไปนั่งร้องไห้กับพื้น นางจะร้องเป็นครั้งสุดท้าย ลี่ถังคิด ครั้งสุดท้าย...ลี่ถังยืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่างบานเดิม เสียงคนทั

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 6 แสร้งป่วย

    บทที่ 6 แสร้งป่วย สาวใช้อีกคนวางถาดอาหารแล้วรีบตรงเข้ามาเขย่าร่างของลี่ถังแต่ผลที่ได้ก็คือนิ่งเฉยเช่นกัน "เจ้าเป็นอะไรไป แม่นางลี่ถัง ไม่ได้การแล้ว ข้าจะไปบอกท่านพ่อบ้าน" สาวใช้คนแรกลนลานวิ่งออกไป ส่วนอีกคนก็ยื่นมือไปแตะหน้าผากของหญิงสาวที่นอนอยู่ มันไม่ได้ร้อนแต่มันกลับเย็นผิดปกติและยังมีเหงื่อซึมนางเร่งไปตักน้ำร้อนมาเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย หากนายท่านรู้ว่านางละเลยไม่ได้ดูแลอะไรเลยแขกของนายท่าน นางอาจจะโดนลงโทษเอาได้ อีกด้านสาวใช้คนแรกก็เร่งไปบอกพ่อบ้านที่กำลังคุยกับมู่เฉิน"ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ แม่นาง แม่นางลี่ถังที่อยู่ในเรือนรับรองไม่สบายเจ้าค่ะ" นางพูดพร้อมกับหอบหายใจเมื่อมาถึงพ่อบ้านที่กำลังพูดคุยเรื่องงานกับเจ้านายของจวนชะงักและเหลือบมองไปที่มู่เฉิน เขากัดริมฝีปากตนเองน้อย ๆ อย่างไม่พอใจ ที่มู่เฉินวางทุกอย่างในมือแล้วลุกเดินออกไปทันทีพ่อบ้านหันไปมองหน้าสาวใช้อย่างคาดโทษก่อนจะเดินตามเจ้านายออกไป มู่เฉินเร่งเดินไปยังเรือนรับรองทันทีที่ได้ยินว่าลี่ถังไม่สบาย เขาไม่รู้ตัว ร่างกายของเขาเป็นไปเช่นนี้เอง ทั้ง ๆ ที่ใจเขาบอกให้ไม่สนใจนาง วันก่อนก็เช่นกัน แม้จะมีคนมากมายแต่สายตาของเขาก็ดัน

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 5 เกลียดกันเท่าไร ก็ยิ่งหนีไปไม่ได้

    บทที่ 5 เกลียดกันเท่าไร ก็ยิ่งหนีไปไม่ได้"ช่วงนี้นายท่านช่างอ่อนโยนกับซูปี้เหลือเกิน" เสียงสาวใช้ดังแว่วเข้าหูลี่ถังแต่หญิงสาวก็มิได้เอ่ยอะไร "พวกเราต้องทำดี ๆ กับนางเอาไว้นะ นายท่านรักใคร่เอ็นดูนางเช่นนี้ อีกไม่นานต้องแต่งนางแล้วยกให้เป็นฮูหยินแน่ ๆ วาสนานี่นะแข่งกันไม่ได้จริง ๆ" มิใช่ว่าไม่เห็นลี่ถังอยู่ตรงนั้น แต่สาวใช้ทั้งสองเลือกจะคุยและเหลือบมองมาที่นางอย่างตั้งใจเดิมทีตอนซูปี้ท้องโตขึ้นมา พวกนางก็ไม่รู้ว่าผู้ใดคือบิดาของเด็กในท้องเพราะซูปี้ไม่มีคนรัก อีกทั้งนายท่านและพ่อบ้านก็มิได้ตำหนิใด ๆ ที่ซูปี้ทำเรื่องน่าอับอายภายในจวน แต่ทุกสิ่งไขกระจ่างหลังจากที่นายท่านฟื้นจากโรดระบาด แท้จริงแล้วเด็กในท้องของซูปี้เป็นสายเลือดคนสกุลมู่นั่นเองทั้งสองสาวได้รับหน้าที่ยกอาหารมาที่เรือนรับรองนี้ หากไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้แขกอย่างนางฟัง จะพูดให้ใครได้ยินได้อีก ลี่ถังเม้มปากแน่น พลางก้มหน้ากินอาหารตรงหน้า หัวใจของนางราวกับถูกบีบจนแตกสลาย นางไม่เข้าใจว่ามู่เฉินโกรธเกลียดนางเพราะเหตุใด ถึงต้องขังนางเอาไว้ให้เจอกับเรื่องเช่นนี้ตอนแรกนางคิดว่าอีกฝ่ายขังนางเอาไว้เพราะกลัวว่านางจะกลับไปพูดเรื่องถอน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status