แชร์

บทที่ 3 ความทรงจำที่หายไป

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-12 02:26:54

บทที่ 3 ความทรงจำที่หายไป

แม้จะได้ฟังคำของพ่อบ้านแล้วแต่มู่เฉินก็ยังนึกอะไรไม่ออกอยู่ดี เขาขมวดคิ้วแน่นและเมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว พ่อบ้านจึงรีบเอ่ยขัด

“นายท่านอย่าได้กังวล และอย่าเพิ่งคิดมาก ข้าจะเร่งตามท่านหมอมาดูอาการ แต่เรื่องนี้ไม่ควรแพร่งพรายออกไปเพราะอาจส่งผลต่อกิจการการค้าที่เพิ่งเริ่มต้น ขอให้นายท่านทำตัวนิ่ง ๆ เข้าไว้ ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เอง”

มู่เฉินพยักหน้า ตอนนี้เขารู้ว่าตนคือใครและทำอะไร แต่เขากลับนึกหรือจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิด ถึงกระนั้นคำของพ่อบ้านเขาก็เข้าใจ บางทีความทรงจำของเขาอาจจะไม่ได้หายไปเสียหมด

“หากมีเรื่องใดที่ข้าควรรู้ เจ้าก็ช่วยบอกข้าทีแล้วกัน” เพราะอีกฝ่ายดูเอาใจใส่ เขาเลยคิดว่าคงเชื่อใจได้ หารู้ไม่ นั่นคือความผิดมหันต์

ปัจจุบันในเรือนพักรับรอง

ลี่ถังนั่งกระวนกระวายใจอยู่ในห้องพักของตน ไม่นานนักประตูก็เปิดออกพร้อมพ่อบ้านและสตรีคนนั้นที่ตั้งครรภ์กับคู่หมายของนาง

“นายท่านให้แม่นางพักที่นี่ นายหญิงเลยตามมาดูแลแม่นางด้วยตัวเองกลัวว่าจะมีอะไรไม่เรียบร้อย”

ลี่ถังกัดปาก นายหญิงเช่นนั้นหรือ ดวงตาสวยสั่นระริกเมื่อได้ยินคำนั้น

“หากแม่นางต้องการอะไรก็บอกได้” แม้คำพูดจะฟังดูดีแต่กลับเป็นเพียงคำว่างเปล่า สาวใช้ หรือถังน้ำร้อน หรือชุดใหม่ก็ไม่ได้เอามาให้นางสักนิด

และหญิงสาวที่เดินตามมานั่นก็คล้ายจะมาเพียงแค่อวดตนให้นางดูเท่านั้น

“ข้าจะตักน้ำได้ทางไหน” ลี่ถังถาม

“ออกไปจากห้องนี้ด้านหลังจวนมีบ่อน้ำอยู่ แม่นางใช้ได้ตามสบาย” แม้จะอยากถามว่าไม่มีคนตักให้หรือ แต่อีกฝ่ายก็ตัดบทและเดินออกไปเสียแล้ว

ลี่ถังมองไปรอบ ๆ ห้องพัก นางไม่ได้อยากอยู่ที่นี่เลยแม้แต่นิด หญิงสาวคิดว่าวันพรุ่งเมื่อไร ก็จะเร่งออกเดินทางกลับเมืองหลวง ไม่ว่าจะหนังสือวันเดือนปีเกิดหรือสินสอดนางจะให้บิดานำมาคืนมู่เฉินทั้งหมด จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน

พอนึกถึงตรงนี้น้ำใส ๆ ก็ไหลออกมาจากดวงตาสวย

นางอุตส่าห์ขอบิดามาหาชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมาย ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าจะต้องมารับรู้เรื่องน่าละอายเช่นนี้

“หากข้ารู้ ข้าคงจะไม่มาให้เสียใจหรอก”

อุตส่าห์เป็นห่วงเขาแต่นึกไม่ถึง... ลี่ถังได้แต่บอกกับตัวเองว่าอย่าร้องไห้มากไปกว่านี้ หากวันพรุ่งดวงตาของนางบวมช้ำคนจะหัวเราะเยาะเอาได้

หญิงสาวนอนหลับไปอย่างยากลำบากโดยไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นนายท่านของจวนแห่งนี้ก็กำลังกระวนกระวายใจเช่นเดียวกัน

“นายท่านเป็นอะไรหรือเจ้าคะ”

ซูปี้ สตรีที่อุ้มท้องโตเอ่ยถามมู่เฉิน มือก็บีบนวดไปตามตัวตามแขนของชายหนุ่ม โดยมีพ่อบ้านคอยนำเอกสารค้าขายต่าง ๆ มาให้ชายหนุ่มตรวจสอบ ทั้งยังอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้กับชายหนุ่มได้รู้

“ไม่มีอะไรหรอก เจ้าเองดึกแล้วก็ไปพักผ่อนเถอะ พ่อบ้านหมดชุดนี้ก็ไม่มีแล้วใช่หรือไม่”

มู่เฉินเอ่ยถาม แม้ความทรงจำของเขาจะขาดหายแต่ทักษะอย่างอื่นกลับอยู่ครบจนดูผิดปกติ

วันนั้นหลังจากท่านหมอมาตรวจก็บอกว่าอาการแบบนี้จะหายไปได้เองในสักวัน อาจจะเป็นเพราะยาแรงเกินไป แต่หากไม่ได้ยาแรงขนาดนี้ก็คงจะยื้อชีวิตเอาไว้ไม่ได้

มู่เฉินเข้าใจ เขาไม่อยากโทษหมอที่รักษาหรอก เขาต้องขอบคุณอีกฝ่ายด้วยซ้ำที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ได้

เพียงแต่ตอนนี้เขารู้สึกกังวลและสงสัย ความรู้สึกของเขากับลี่ถัง กับความรู้สึกของเขากับซูปี้ช่างต่างกันยิ่งนัก

แม้ซูปี้จะตั้งครรภ์บุตรของเขาอยู่ตามคำบอกเล่าของพ่อบ้าน แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกใจสั่นหรือหวั่นไหวกับนางเลยแม้เพียงนิด

กลับกัน เพียงแค่เห็นแววตาของลี่ถังที่มองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ ใจของเขาก็รู้สึกระตุก มู่เฉินถอนหายใจหนัก คงเป็นอย่างที่พ่อบ้านบอก

เขาไม่ได้รักซูปี้ แต่ที่นางตั้งครรภ์บุตรของเขาก็เพราะเขาเสียใจเรื่องคู่หมายที่แอบปันใจให้ชายอื่น จึงเรียกให้สาวใช้ในจวนมาอุ่นเตียง สิ่งที่ทำไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ และคู่หมายคนนั้นก็คือลี่ถัง เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่ยอมถอนหมั้นกับนางทั้ง ๆ ที่รู้ว่านางสวมหมวกเขียวให้เขา

“คงเพราะรักมาก ตาถึงได้พร่ามัว”

เขามั่นใจว่าเรื่องราวที่พ่อบ้านบอกเป็นจริงเพราะทุกอย่างดูจะเข้าเค้า

เช้าวันถัดมาลี่ถังต้องการที่จะเจอกับมู่เฉินเพื่อบอกลาและกลับ แต่เขาก็หลบหน้านาง มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังไม่ยอมให้นางออกไปไหนอีก

อยู่ ๆ ที่หน้าเรือนของนางก็มีคนงานมาเฝ้าตลอดราวกับต้องการขังนางเอาไว้ที่นี่ แม้จะรู้ตัวแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายไปแล้ว

เรือนรับรองของนางสามารถมองเห็นสวนและประตูจวนได้ แต่กลับออกไปไม่ได้ ที่เดียวที่หญิงสาวสามารถจะเดินไปได้อย่างง่ายดายคือหลังจวน แต่ก็เท่านั้น เพราะหลังจวนแห่งนี้ติดกับสระบัวใหญ่ หากนางจะหนีไปก็ต้องมีเรือแต่ที่นี่ก็ไม่มี

“ท่านพ่อบ้าน เขายังไม่ว่างจะเจอข้าอีกหรือ หรือถ้าไม่ ท่านก็ให้ข้ากลับไปเลยก็ได้ เรื่องอื่น ๆ ข้าจะให้บิดาของข้าติดต่อกับบิดาของเขาเอง” แม้พ่อบ้านจะอยากปล่อยหญิงสาวไป แต่คำสั่งของนายท่านคือห้ามมิให้นางไปไหนเด็ดขาด

“แม่นางอย่าทำให้ข้าลำบากเลย หากนายท่านว่างจากการดูแลนายหญิงก็คงจะมาหาท่านเองนั่นแหละ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 10 คนหาย

    บทที่ 10 คนหาย “ใครเฝ้าอยู่ข้างนอก เข้ามาเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มตะโกนลั่น คนงานที่เฝ้าอยู่เร่งเดินมาหา และสาวใช้ก็รีบวิ่งมา“นางไปไหน” คนทั้งสี่ส่ายหน้า สาวใช้บอกเช้านี้เอาอาหารมาให้ยังเห็นนางอยู่ ส่วนคนงานก็บอกว่าไม่เห็นนางเดินออกไป“บอกข้าแล้วอย่างไร ไปหาสิ” มู่เฉินอารมณ์เสีย เขาไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงหายไปได้ ด้านหลังจวนไม่มีอะไรนอกจากบ่อ วูบหนึ่งเขาหลงคิดว่านางอาจจะฆ่าตัวตาย แต่นางไม่ได้รักเขาขนาดนั้น นางคงไม่มีทางทำ หญิงใจง่ายที่มีคนอื่นทั้ง ๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่ควรเสียใจที่คู่หมั้นมีอนุก่อนแต่งหรอก“เจอหรือยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามพ่อบ้าน แต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้า “ให้คนตามอยู่ขอรับ นายท่านพักก่อนเถอะ” “ข้าไม่พัก แล้วทุกคนก็ห้ามพัก หาให้เจอ” เสียงของมู่เฉินดังจนเหล่าสาวใช้สะดุ้ง ดวงตาคมกริบตวัดมองบ่าวไพร่ของตนที่ยืนเรียงราย ทุกคนต่างหลบตาไม่มีผู้ใดกล้าสบตาเขา “นายท่าน... เราค้นทั่วเรือนแล้วขอรับ แต่...” “แต่อะไร”“ไม่มีขอรับ ไม่มีแม่นางลี่ถัง”“ไร้ประโยชน์” ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อด้วยความหงุดหงิด ความรู้สึกในอกตีกันยุ่งเหยิงไปหมด แค่คิดว่าลี่ถังกลับไปแล้ว หัวใจเขาก็บีบแน่น “ทุกคนฟัง

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 9 บ่อน้ำร้าง

    บทที่ 9 บ่อน้ำร้าง ตูม!!ลี่ถังกรีดร้องออกมา แต่เสียงขาดหายไปกลางอากาศ ร่างของนางเสียหลักและร่วงลงสู่ความมืดมิดน้ำเย็นเฉียบทะลักเข้าปากและจมูก นางพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเหนือน้ำ แต่ความลื่นของตะไคร่ทำให้นางจับขอบบ่อไม่ได้เลย“ช่วยด้วย!” นางพยายามร้อง แต่เสียงสะท้อนอยู่เพียงในความเงียบงันเหนือปากบ่อ เงาหนึ่งปรากฏขึ้น เสียงฝีเท้าเบา ๆ ค่อย ๆ ถอยออกไป ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ความสงัดไม่มีใครอยู่ที่นั่น ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางถูกผลักลงมาน้ำเย็นเยียบราวกับจะดูดกลืนสติของนางไปทุกขณะไม่!นางกัดฟัน พยายามยันตัวเองขึ้น ทว่าพลังของนางค่อย ๆ ลดลงทุกขณะขณะที่สติเริ่มเลือนราง มีเพียงความคิดเดียวที่หลงเหลืออยู่ในใจของนางข้ายังไม่อยากตาย… ท่านพ่อ…พี่ใหญ่ความหนาวเย็นกัดกินไปถึงกระดูก นางพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ แต่กำแพงหินของบ่อร้างทั้งสูงและลื่น ตะไคร่น้ำจับแน่นทำให้ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้มือของนางสั่นระริก ร่างกายเปียกโชกและชาดิกไปหมด เสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อครู่กลืนหายไปในความมืดมิด ไม่มีแม้เสียงฝีเท้าของผู้ใดเดินผ่านลมหายใจของนางเริ่มติดขัด เสื้อผ้าเปียกชุ่มทำให้ร่างกายหนักขึ้นเรื

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 8 หาทางหนี

    บทที่ 8 หาทางหนี ลี่ถังเองก็คิดไม่ต่างกัน นางเองก็คิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายไร้เยื่อขาดไยเช่นนี้นางควรรีบทำทุกอย่างให้จบ แม้จะถูกขังแต่หากอีกฝ่ายไม่เอาเชือกมามัดมือนางไว้ ลี่ถังก็ยังพยายามหาทางออกจากจวนนี้ทุกวันนางเคยคิดจะว่ายน้ำออกไป แต่น่าเสียดาย นางว่ายน้ำไม่แข็งขนาดนั้น จึงไม่สามารถว่ายผ่านบึงบัวขนาดใหญ่ด้านหลังจวนไปได้ อีกอย่างยามนี้ก็หนาว หากลงน้ำคงได้ไข้แม้จะลองใช้สารพัดวิธี แต่ไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็ถูกเฝ้าจับตาไว้หมด และสุดท้ายก็ถูกลากกลับมาที่เรือนรับรองที่แปรเปลี่ยนเป็นห้องขัง แต่วันนี้ขณะหญิงสาวมาตักน้ำที่บ่อน้ำเก่าหลังเรือน สายตาก็เหลือบไปเห็นกิ่งต้นไม้ใหญ่ด้านบน คงเพราะก่อนหน้านางเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจึงไม่ทันสังเกตเห็น แม้โคนต้นไม้นี้น่าจะอยู่ด้านนอกกำแพง แต่หากนางขึ้นไปบนกิ่งใหญ่นี่ได้ นางอาจจะใช้มันผ่านไปทางหลังคาและออกหลังกำแพงจวนไปได้ “แล้วจะขึ้นไปอย่างไรเล่า” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางไม่อาจปีนขึ้นจากพื้นได้ แต่หากปีนขึ้นจากหลังคาบ่อน้ำก็อาจจะพอเป็นไปได้ หัวใจของลี่ถังเต้นแรง นี่อาจเป็นโอกาสเดียวของนาง หญิงสาวไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางรีบสำรวจหาหนทางที่จะข

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 7 หูเบา

    บทที่ 7 หูเบา “วันนี้เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”“ปกติดีเจ้าค่ะ” “ลมหนาวเช่นนี้ เจ้าต้องระวังสุขภาพให้มาก”“เจ้าค่ะ”“อยากกินอะไรพิเศษก็บอกกับสาวใช้ให้ไปซื้อ” ยิ่งฟังน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมา ตั้งแต่วันแรกที่นางได้ยินคำเหล่านี้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ต่างกับการกระทำของมู่เฉินที่มีต่อนาง มันเปลี่ยนไปหมด หญิงสาวได้แต่ยืนฟังอยู่หลังหน้าต่างที่ถูกไม้ตีปิดเอาไว้ มีเพียงช่องลอดมองได้นิดหน่อย แต่ตัวผ่านไม่ได้ แต่ละวันผ่านไปด้วยความเจ็บปวดและชินชาที่ค่อย ๆ เกาะกินหัวใจจนมันเริ่มไร้ความรู้สึก ลี่ถังพยายามปลอบใจตัวเองแต่ก็ไม่มีถ้อยคำดี ๆ ที่จะทำให้รู้สึกสบายใจได้ แม้แต่เรื่องออกจากที่นี่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ออกไป เพราะทุกครั้งที่คิดจะหนี นางก็จบลงด้วยการกลับมาอยู่ในเรือนนี้พร้อมกับการป้องกันที่มากขึ้น ในเมื่อไม่มีใจแล้วจะรั้งเอาไว้ทำไม หญิงสาวคิดแล้วก็เผลอลืมไปว่าเขาขังนางเอาไว้ไม่ใช่เพราะรั้งนาง แต่กังวลว่านางจะทำเรื่องให้เขาเดือดร้อน น้ำตาใสไหลออกมาอีกหยดก่อนที่ร่างสวยจะทรุดลงไปนั่งร้องไห้กับพื้น นางจะร้องเป็นครั้งสุดท้าย ลี่ถังคิด ครั้งสุดท้าย...ลี่ถังยืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่างบานเดิม เสียงคนทั

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 6 แสร้งป่วย

    บทที่ 6 แสร้งป่วย สาวใช้อีกคนวางถาดอาหารแล้วรีบตรงเข้ามาเขย่าร่างของลี่ถังแต่ผลที่ได้ก็คือนิ่งเฉยเช่นกัน "เจ้าเป็นอะไรไป แม่นางลี่ถัง ไม่ได้การแล้ว ข้าจะไปบอกท่านพ่อบ้าน" สาวใช้คนแรกลนลานวิ่งออกไป ส่วนอีกคนก็ยื่นมือไปแตะหน้าผากของหญิงสาวที่นอนอยู่ มันไม่ได้ร้อนแต่มันกลับเย็นผิดปกติและยังมีเหงื่อซึมนางเร่งไปตักน้ำร้อนมาเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย หากนายท่านรู้ว่านางละเลยไม่ได้ดูแลอะไรเลยแขกของนายท่าน นางอาจจะโดนลงโทษเอาได้ อีกด้านสาวใช้คนแรกก็เร่งไปบอกพ่อบ้านที่กำลังคุยกับมู่เฉิน"ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ แม่นาง แม่นางลี่ถังที่อยู่ในเรือนรับรองไม่สบายเจ้าค่ะ" นางพูดพร้อมกับหอบหายใจเมื่อมาถึงพ่อบ้านที่กำลังพูดคุยเรื่องงานกับเจ้านายของจวนชะงักและเหลือบมองไปที่มู่เฉิน เขากัดริมฝีปากตนเองน้อย ๆ อย่างไม่พอใจ ที่มู่เฉินวางทุกอย่างในมือแล้วลุกเดินออกไปทันทีพ่อบ้านหันไปมองหน้าสาวใช้อย่างคาดโทษก่อนจะเดินตามเจ้านายออกไป มู่เฉินเร่งเดินไปยังเรือนรับรองทันทีที่ได้ยินว่าลี่ถังไม่สบาย เขาไม่รู้ตัว ร่างกายของเขาเป็นไปเช่นนี้เอง ทั้ง ๆ ที่ใจเขาบอกให้ไม่สนใจนาง วันก่อนก็เช่นกัน แม้จะมีคนมากมายแต่สายตาของเขาก็ดัน

  • คู่หมั้นอย่าหมายหวนคืน   บทที่ 5 เกลียดกันเท่าไร ก็ยิ่งหนีไปไม่ได้

    บทที่ 5 เกลียดกันเท่าไร ก็ยิ่งหนีไปไม่ได้"ช่วงนี้นายท่านช่างอ่อนโยนกับซูปี้เหลือเกิน" เสียงสาวใช้ดังแว่วเข้าหูลี่ถังแต่หญิงสาวก็มิได้เอ่ยอะไร "พวกเราต้องทำดี ๆ กับนางเอาไว้นะ นายท่านรักใคร่เอ็นดูนางเช่นนี้ อีกไม่นานต้องแต่งนางแล้วยกให้เป็นฮูหยินแน่ ๆ วาสนานี่นะแข่งกันไม่ได้จริง ๆ" มิใช่ว่าไม่เห็นลี่ถังอยู่ตรงนั้น แต่สาวใช้ทั้งสองเลือกจะคุยและเหลือบมองมาที่นางอย่างตั้งใจเดิมทีตอนซูปี้ท้องโตขึ้นมา พวกนางก็ไม่รู้ว่าผู้ใดคือบิดาของเด็กในท้องเพราะซูปี้ไม่มีคนรัก อีกทั้งนายท่านและพ่อบ้านก็มิได้ตำหนิใด ๆ ที่ซูปี้ทำเรื่องน่าอับอายภายในจวน แต่ทุกสิ่งไขกระจ่างหลังจากที่นายท่านฟื้นจากโรดระบาด แท้จริงแล้วเด็กในท้องของซูปี้เป็นสายเลือดคนสกุลมู่นั่นเองทั้งสองสาวได้รับหน้าที่ยกอาหารมาที่เรือนรับรองนี้ หากไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้แขกอย่างนางฟัง จะพูดให้ใครได้ยินได้อีก ลี่ถังเม้มปากแน่น พลางก้มหน้ากินอาหารตรงหน้า หัวใจของนางราวกับถูกบีบจนแตกสลาย นางไม่เข้าใจว่ามู่เฉินโกรธเกลียดนางเพราะเหตุใด ถึงต้องขังนางเอาไว้ให้เจอกับเรื่องเช่นนี้ตอนแรกนางคิดว่าอีกฝ่ายขังนางเอาไว้เพราะกลัวว่านางจะกลับไปพูดเรื่องถอน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status