พวกออร์คที่บุกมาล้วนสวมเกราะที่หนาและหนัก มีอาวุธครบมือซึ่งอาวุธทุกชิ้นนั้นล้วนมีขนาดใหญ่ แต่ชูเท็นโดจิกับอิบารากิโดจิเมื่อเห็นเหล่าออร์คก็พร้อมใจกันหัวเราะเสียงดัง จนทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว อรุณนภาทำหน้าไม่ถูก ปกติใครที่เจอพวกออร์คที่มีอาวุธครบมือแบบนี้ต้องกลัวจนตัวสั่น แต่เจ้าสองตัวนี้กลับหัวเราะราวกับมีเรื่องสนุกสนานตรงหน้า
ออร์คตนหนึ่งตะโกนถาม “หัวเราะอะไรวะไอ้ตัวมีเขา”
แต่สองอสูรยังไม่เลิกหัวเราะ จนเหล่าออร์ค เริ่มหงุดหงิด ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วพูดว่า “เกิดมาไม่เคยเห็นตัวอะไร ที่อุบาทว์ขนาดนี้มาก่อนเลยว่ะ แบบเหมือนไม่เต็มใจเกิด”
“ใช่สหายข้า” อิบารากิโดจิพูดและยังหัวเราะต่อไป ออร์คตนหนึ่งได้ยินก็ไม่พอใจวิ่งเข้าใส่และ ฟาดค้อนศึกใส่ชูเท็นโดจิ เขาไม่คิดจะหลบเพราะประเมินกำลังของอีกฝ่ายไว้ต่ำมาก จึงรับการโจมตีเข้าไป เต็ม ๆ เขากระเด็นและกระอักเลือดออกมา คราวนี้เป็นพวกออร์คเองที่พร้อมใจกันหัวเราะ
“แกทำอะไรสหายข้า !” อิบารากิโดจิข่วนเจ้าออร์คเข้าที่หน้าเลือดไหลอาบ และรีบไปดูชูเท็นโดจิ นั่นคือสัญญาณแห่งสงคราม พวกออร์คทั้งหลายเข้าโจมตี อรุณนภาใช้ดาบคู่เข้าต่อสู้ ส่วนศุภมิตรนั้นร่ายมนตร์ยิงพลังแสงออกมาสกัดพวกมันเอาไว้
“เป็นอะไรหรือเปล่าสหายข้า” อิบารากิโดจิถามด้วยความเป็นห่วง ชูเท็นโดจิมองดูเลือดของตัวเอง ความเจ็บปวดที่เขาลืมไปแล้วกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
“ไม่ได้รู้สึกแบบ มาตั้งนานแล้ว” ชูเท็นโดจิลุกขึ้นมา เขารู้สึกว่าร่างกายร้อนรุ่ม ยกเหล้าขึ้นดื่มและพ่นไฟออกมา พวกออร์คโดนไฟครอกแต่กลับไม่มีตัวไหนร้องออกมาเลย
“ไม่ได้เจอ พวกแข็งแกร่งขนาดนี้มานานแล้ว อิบารากิ ไปสนุกด้วยกัน” ชูเท็นโดจิวิ่งเข้าไปต่อสู้กับพวกออร์คทันที โดยมีอิบารากิโดจิเข้าร่วมต่อสู้ด้วย พวกออร์คนั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา ชูเท็นโดจิชกเข้าไปที่ออร์คตัวหนึ่งแม้มันจะกระเด็น แต่มันสวมเกราะอยู่ทำให้เขารู้สึกเจ็บมือแต่กระนั้น หมัดก็ได้ผลทำให้มันล้มลงไปได้
ส่วนอิบารากิโดจิมีความเร็วจนพวกออร์คโจมตีไม่ได้ อิบารากิโดจิก็โจมตีเข้าที่ช่องว่างของเกราะทำให้พวกออร์คได้รับบาดเจ็บ มีออร์คตัวหนึ่งกำลังจะโจมตีเขา แต่อิบารากิโดจิกระโดดไปขี่คออีกฝ่ายและกระหน่ำเล็บใส่ไม่หยุดเจ้าออร์คร้องโหยหวนพยายามสลัดเขาให้หลุด ในที่สุดอิบารากิโดจิก็แทงอีกฝ่ายเข้าที่คอมันล้มลงไปขาดใจตาย
ชูเท็นโดจิเห็นสหายของตนสังหารออร์คได้ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้น เขารวมพลังไปที่หมัดและชกออกไปเต็มแรงโดนออร์คเข้าตัวหนึ่ง เกราะของมันบุบ มันเข่าอ่อนกระอักเลือดออกมา และล้มลงไป “ถึงทำลายเกราะไม่ได้ แต่แรงกระแทกก็ทำร้ายพวกแกได้”
เมื่อเห็นเพื่อนถูกทำร้ายไป พวกออร์คก็เริ่มหวั่น ๆ แต่ก็ยังเข้ามาโจมตีไม่หยุด
อรุณนภาแม้ว่าจะเป็นหญิงแต่ก็ต่อสู้อย่างกล้าหาญ เพลงดาบคู่ของเธอนั้นมีความเร็วและแม่นยำช่วยให้เธอรับมือกับออร์คได้แม้ว่ากำลังจะด้อยกว่า ผิดกับน้องชายของเธอที่หวาดกลัวจนแทบไม่กล้าขยับตัว ศุภมิตรต้องคอยคุ้มกัน
“อิบารากิ แส้อสูร” เมื่อยินเช่นนั้นอิบารากิโดจิก็กระโดดมาหา ชูเท็นโดจิจับขาของเขาเอาไว้กลางอากาศ อิบารากิโดจิยืดแขนออกมา ชูเท็นโดจิเหวี่ยงของร่างอิบารากิโดจิ แขนที่ยืดยาวเหวี่ยงตามแรงหมุนกลายเป็นอาวุธสังหาร ทำให้พวกออร์คบาดเจ็บไปหลายตัว จนพวกออร์คเริ่มถอยไปคุมเชิง ชูเท็นโดจิวาง อิบารากิโดจิลง เกิดแรงสะเทือนขึ้นมา ชูเท็นโดจิยิ้มออกมา เขากำลังจะได้เจอความสนุกอีกครั้ง แต่อิบารากิ โดจิดูจะเป็นกังวลเลยรีบเตือนชูเท็นโดจิ “ระวังนะสหายข้า คราวนี้คงไม่ง่ายเหมือนกับเจ้าซูโคกิหรอก”
แรงสะเทือนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ออร์ครูปร่างสูงใหญ่กว่าตัวอื่น สวมเกราะ ถือค้อนคู่ปรากฏตัวขึ้น มีหัวโต ปากกว้าง มีเขี้ยวยาวเลยปาก มีจมูกเหมือนหมู ส่งเสียงคำรามเสียงดังก้อง แต่ชูเท็นโดจิไม่มีท่าทางที่จะหวาดกลัวเลย มิหน่ำซ้ำยังยกเหล้าขึ้นดื่มอีก
“คิดว่าเก่งแล้วเหรอ ไอ้ตัวประหลาด” มันพูดเสียงคล้าย ๆ หมูร้อง ชูเท็นโดจิกับอิบารากิโดจิมองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“หัวเราะหาอะไรวะ !” เจ้าออร์คตะโกนถาม ชูเท็นโดจิหยุดหัวเราะแล้วพูดว่า “ก็ขำแกน่ะสิ หน้าแบบนี้ยังจะกล้าเรียกคนอื่นว่าตัวประหลาดอีกเหรอ”
“จริง ! สหายข้า เป็นข้าเกิดมาหน้าแบบนี้คง ไม่อยากเกิดแล้วล่ะ” เจ้าออร์คได้ยินก็โกรธมากส่งเสียงคำรามและพูดว่า
“ปากดีจริงนะพวกแก ราฟผู้นี้จะทุบพวกแกให้เป็นเนื้อบดเลย” ค้อนถูกเหวี่ยงมา ชูเท็นโดจิหลบไม่ทันเลยโดนฟาดไปเต็ม ๆ เขากระเด็นและกระอักเลือดออกมา เสียงกระดูกหักดังสนั่น ความเจ็บแผ่เข้ามา พละกำลังของราฟมากกว่าซูโคกิ ไม่รู้กี่เท่า ทำให้เขาขยับตัวแทบไม่ได้
“แกบังอาจทำร้ายสหายข้า” อิบารากิโดจิพูดด้วยความโกรธและวิ่งเข้าไปหมายจะเอาชีวิตของอีกฝ่าย แต่ราฟกลับหลบได้ด้วยความเร็ว ทำให้อิบารากิโดจิโจมตีพลาด เขาตกใจมาก ราฟตัวใหญ่ก็จริงแต่มีความเร็วนั้นพอ ๆ กับตัวเขาเอง ราฟกำลังจะฟาดอาวุธมาอีก แต่อิบารากิโดจิตีลังกาหลบทัน ราฟโจมตีต่อเนื่อง อิบารากิโดจิได้แต่หลบไม่มีช่องให้โจมตีกลับเลย
อรุณนภาเห็นว่าราฟกำลังสนใจอิบารากิโดจิเป็นโอกาสของเธอแล้ว เธอร่ายมนตร์ร่างกายท่อนล่างของเธอกลายเป็นเท้าสิงห์และกระโดดไปหมายจะสังหารราฟด้วยดาบ แต่มันรู้ตัวก่อนหลบไปด้วยความรวดเร็ว กลายเป็นดาบของเธอเกือบฟันโดนอิบารากิโดจิ ปลายดาบเฉียดปลายเขาไปนิดเดียว
“เฮ้ย ! ทำบ้าอะไรเนี่ย !” นางยังไม่ทันตอบ ราฟก็โจมตีมาอีก ทั้งสองต้องรีบหลบ อิบารากิโดจิกระโดดหมายจะใช้ท่าขี่คอแ ต่ว่าราฟหลบได้ กลายเป็นเขาชนร่างของอรุณนภาเข้าไปเต็ม ๆ เขาที่กลางหน้าผากเฉียดหูเธอไปนิดเดียว
ชูเท็นโดจิจับทางได้จึงคว้าข้อมือ ยุรนันท์เอาไว้ทัน และกระหน่ำหมัดใส่เขาไม่หยุด ยุรนันท์เจ็บหนัก เขาสลัดมือให้หลุด แล้วถอยมายังไม่ทันได้ตั้งตัวชูเท็นโดจิก็เขามาจับร่างของเขาทุ่มข้ามหัวลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น ชูเท็นโดจิ ชูมือเป็นสัญญาณว่าตัวเองชนะแล้ว แต่เขารับรู้สึกจิตสังหารเลยหันไปดูยุรนันท์ลุกขึ้นมาเขากลายเป็นนรสิงฆ์เต็มขั้น รูปร่างเขาตอนนี้ดูสูงใหญ่ หัวกลายเป็นสิง มีเขี้ยวเล็บที่ ดูน่ากลัว เขาคำรามเสียงดังก้อง และเขาประชิดตัวตบกรงเล็บมา ชูเท็นโดจิตั้งรับแต่เขาถูกตบกระเด็น“ยุรนันท์แปลงร่างแล้ว เจ้าชูเท็นโดจิไม่รอดแน่” ราชินีย์ตะวันเอ่ยขึ้น อรุณนภาหน้าเสียอยากจะบอกให้ชูเท็นโดจิยอมแพ้ไปซะเพื่อรักษาชีวิต แต่ราชาสุริยะที่นิ่งมานานกลับบอกนางว่า“ดูสายตาเขาสิ”อรุณนภามองไปสายตาของชูเท็นโดจิ นางเห็นความมุ่งมั่ง ที่จะเอาชนะให้ นางจึงตัดสินใจตะโกนเสียงดังไปว่า “สู้เขานะชูเท็นโดจิ !”ชูเท็นโดจิได้ยินเขาก็มีกำลังใจมาขึ้นมาและเข้าไปต่อสู่กับยุรนันท์ทันที เขารวมพลังไปที่หมัดและชกเข้าไปเต็ม ๆ ที่หน้าของยุรนันท์แต่อีกฝ่ายไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังตบกรงเล็บใส่ ชูเท็นโดจิหล
อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็รู้สึกโล่งอกแต่ก็แอบโกรธเขาอยู่เหมือนกันที่เขามาสาย อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราชินีตะวันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จริง ๆ นางอยากจะตัดสินสิทธิ์ชูเท็นโดจิให้แพ้ไปเลย แต่หากทำแบบนั้น คงจะโดนทั้งอาณาจักรครหาได้ เลยไม่พูดอะไรปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไป ชูเท็นโดจิหันมายิ้มให้กับอรุณนภา และไม่ได้สนใจยุรนันท์เท่าไหร่ แถมยังยกเหล้าขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตา ยุรนันท์กัดฟัน กรอด ๆ ด้วยความโกรธ“ไอ้คนไร้มารยาท ทำไมถึงได้มาช้า !” แต่ชูเท็นโดจิทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์“จะช้า จะเร็วมันสำคัญตรงไหน ยังไงซะแกก็ต้อง แพ้ !” ชูเท็นโดจิพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มอีก ยุรนันท์ยิ่งโมโหจัดเขาจึงท้าว่า“ถ้าเจ้าแพ้ข้า เจ้าต้องไสหัวออกไปจากนรสิงฆ์นครตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าก็จะยอมออกจากนรสิงฆ์นครเช่นกัน” มีเสียงฮื่อฮาดังขึ้น ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดเสียงดังว่า“ก็ได้ข้ารับคำท้า”สัญญาณเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น ชูเท็นโดจิออกหมัดก่อน แต่อีกฝ่ายหลบได้ และออกหมัดสวนไป ชูเท็นโดจิหลบได้ แต่เขารู้สึกถึงแรงลมจากหมัด รู้เลยว่าถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ เขาได้เจ็บหนักแน่ ยั
“ข้ายังจำท่าของเจ้าได้ คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะแพ้ !” ชูเท็นโดจิออกหมัดไป อีกฝ่ายใช้มือปัดการโจมตีและสวนกลับด้วยการกระแทกศอก แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิหลบได้และเหวี่ยงหมัดสวนไป อมเรศวรหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หน้า ชูเท็นโดจิยังคงออกหมัดมา หมายจะโจมตีอีกครั้งแต่คราวนี้อมเรศวรก้มตัวหลบและชกหมัดขวาไปเป้าหมายคือปลายคางแต่ชูเท็นโดจิเอามือไปรับหมัดเอาได้และชกเข้าที่แขนทำให้อมเรศวรต้องรีบถอยออกมา เขาต้องการหยุดการต่อสู้โดยเร็วจึงตัดสินใช้เพลงแตะแต่ว่าชูเท็นโดจิจับขาเขาเอาไว้ เหวี่ยงร่างของอมเรศวรลอยไปเขาล้มลงไปกระแทกพื้น อมเรศวรลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว เท่ากับว่าชูเท็นโดจิชนะ เขาเดินไปหาอมเรศวรประคองให้ลุกขึ้นและถามว่า“เจ้าไม่ได้ออมมือใช่มั้ย”“เปล่า เลยเจ้าอ่านทางมวยข้าได้แล้ว ข้าถึงได้แพ้” หลังจากที่อมเรศวรแพ้ไปแล้ว เจ้าชายเมืองอื่นก็รีบถอนตัวไปเกือบหมด เพราะเห็นฝีมือของชูเท็นโดจิแล้วไม่อยากเสี่ยงต่อสู้ด้วย เหลือแต่มารุตกับยุรนันท์เท่านั้น ซึ่งยุรนันท์ได้เข้าไปรอรอบชิงเลยด้วยความช่วยเหลือของราชินีตะวัน แถมในตอนแรกนางจะให้ชูเท็นโดจิต่อสู้เลยด้วยซ้ำแต่มารุตบอกว่า“ให้เขาไปพักก่อน ไม่งั้นมันไม่
“สหายข้า” เสียงของอิบารากิโดจิเรียกชูเท็นโดจิจากภวังค์ เพื่อนรักของเขาอยู่ตรงหน้า ในยามนี้เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้น “มีอะไรอิบารากิ” ชูเท็นโดจิกำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิห้ามเอาไว้ “หยุดกินได้แล้ว สหายข้า”ชูเท็นโดจิแปลกใจมาก อิบารากิโดจิ ไม่เคยห้ามเขาเลย เวลาจะทำอะไร แต่วันนี้กลับห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า “ห้ามข้าทำไม” “เจ้าดูสภาพตัวเองหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ตัวเจ้าที่ข้ารู้จัก” อิบารากิโดจิพูด“ช่างข้าสิ” ชูเท็นโดจิสะบัดมือออก และยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิปัดมือเขา“หยุดซะที แต่ก่อนเจ้าเป็นนักสู้ แต่ตอนนี้เมาเหมือนหมาไม่มีผิด”“หุปปากไปเลย แกจะเข้าใจอะไร” ชูเท็นโดจิ จะยกเหล้าขึ้นดื่ม อิบารากิโดจิใช้มือปัด ทำให้ชูเท็นโดจิเริ่มโมโห“อย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวก็ได้เสียแขนอีกข้างหรอก”“อย่างเจ้าตอนนี้ ตบแมลงยังไม่ตายเลยมั้ง” อิบารากิโดจิพูดเย้ย ชูเท็นโดจิได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เขาออกหมัดไป อิบารากิโดจิแม้จะมีแขนเดียว แต่ความเร็วของเขายังเท่าเดิม ทำให้ชูเท็นโดจิชกพลาด แขนเสื้อของอิบารากิโดจิฟาดหน้าเขา ทำให้เขาได้สติถ้าอิบารากิโดจิมีแขนข้างนี้ ตาเข
“ขอร้อง ล่ะ!” มัน เน้นเสียงตรงคำว่า ล่ะ ทำให้เกิดคลื่นเสียงมาทำให้ชูเท็นโดจิเสียหลัก การอนรีบลุกขึ้นมาและกำลังจะหนีแต่ ชูเท็นโดจิตั้งตัวได้กระโดดไปดักหน้าการอนเอาไว้ และทุบหัวของการอสด้วยสองมือร่างของการอนค่อย ๆ จมลงไปในดินจนเหลือแต่หัว กระดูกทั้งตัวแหลก ชูเท็นโดจิทุบซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้หัวของมันแหลกไปแล้ว“การอนตาย แล้ว !” ชูเท็นโดจิประกาศเสียงดังลั่นหลังจากที่การอนตายพวกออร์คก็ถูกสังหารไปจนหมด อรุณนภา กับ อาทิตย์รีบไปตามหาพ่อกับแม่ ซึ่งก็พบว่า ยุรนันท์พาทั้งสองออกมาแล้ว ราชาสุริยะนั้นได้บาดเจ็บหนัก ส่วนราชินีตะวันปลอดภัยดี ทุกคนเข้าไปกอดกันด้วยความรัก และร้องไห้ออกมาด้วยซาบซึ้งในใจ ชูเท็นโดจิเดินมาเห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมา อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็วิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ากลับมา เจ้ากลับมา” อรุณนภาพูดทั้งน้ำตา ชูเท็นโดจิกอดนาง“ข้ากลับมาแล้วว่าแต่มีเหล้ากินมั้ยเนี่ย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นางจึงตะโกนชื่อของเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ตะโกนตาม“ชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิ” เสียงเรียกชื่อเขาดังไปหมด แต่มันไม่ได้ดังด้วยความหวดกลัวเหมือนกับทุกครั้ง หากแต่เต็มไปด้วยความช
การอนแม้จะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชูเท็นโดจิ ก็หาได้กลัวไม่ มันเข้าโจมตีชูเท็นโดจิด้วยการกระหน่ำหมัด แต่กลายเป็นว่า ชูเท็นโดจิหลบหมัดทั้งหมดได้ และคว้าข้อมือของการอนเอาไว้ออกแรงบีบอย่างแรง จนการอนร้องลั่งด้วยความเจ็บปวด เมื่อสลัดออกมาได้ ก็พบข้อมือมีรอยไหม้เป็นรูปมืออยู่ นั่นทำให้มันตกตะลึง จึงตัดสินรวมพลังไปที่ฝ่ามือและกระแทกใส่ชูเท็นโดจิ แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เขาไม่สะเทือนเลย แถมยังชกการอนกระเด็น“บังอาจมาทำร้ายอรุณนภา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ !” ชูเท็นโดจิหยิบหินที่พื้นมาซัดออกไป การอนเอามือปัดแต่ครั้งนี้หินทะลุมือของมันเป็นรู ชูเท็นโดจิเขามาประชิดตัวพ่นไฟใส่ร่างของการอนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด อย่างที่มันไม่เคยเจอมาก่อน“เคยใช้แต่ตัวปลอมสินะ งั้นก็มาเจอกับความเจ็บปวดของจริง เป็นยังไงล่ะ” ชูเท็นโดจิชกซ้ำร่าง การอนกระเด็น ล้มลงไปฝ่ายของการอนเมื่อเห็นนายล้มลงไปแล้วกำลังใจก็เริ่มเสีย ทำให้ฝ่ายต่อต้าน เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่มันเร็วไปที่จะดีใจ การอนลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างของมันกลับเป็นร่างแรก แถมอาการบาดเจ็บลดลงไปมาก“ไม่คิดเลยนะว่าจะเจอคนที่ทำให้ข้าเจ็บได้ งั้นก็หายไปซะ !” ร