ชูเท็นโดจิเห็นเพื่อนรักต้องมาสู้กับราฟก็กัดฟันด้วยความโกรธ แต่ว่าตอนนี้เขายกแขนยังแทบไม่ได้ แต่ก็แข็งใจพยายามลุกขึ้นมา
“อย่าเพิ่งขยับ” เสียงของอาทิตย์ดังขึ้นมา ชูเท็นโดจิหันมามองตาขวาง อาทิตย์ชักหวั่น ๆ แต่ก็แข็งใจเดินเข้าไปหา
“จะทำอะไร !”
“ข้ารักษาท่านได้” ชูเท็นโดจิมองอาทิตย์ ศุภมิตรได้ยินแบบนั้นก็รีบท้วงทันที
“เฮ้ย! คิดอะไรอยู่เนี่ย ไปรักษามันเกิดมันแว้งกัดเราขึ้นมาเล่า”
“แล้วเรามีทางอื่นหรือไงกัน ท่านศุภมิตร”อาทิตย์พูดทำให้ศุภมิตรพูดไม่ออก แม้ชูเท็นโดจิจะไม่ค่อยเชื่อใจอาทิตย์เท่าไหร่ แต่เห็นว่า อิบารากิโดจิต่อสู้แล้วตนเองมานอนเหมือนศพแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ เขาเลยต้องตัดสินใจ
“รีบทำเลย” เมื่อได้ยินเช่นนั้น อาทิตย์ก็รีบลงมือทันที เขามือไม้สั่นร่ายมนตร์ ตะกุกตะกัก เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมา ชูเท็นโดจิลุกขึ้นมาได้อีกครั้งความเจ็บปวดและบาดแผลหายไปหมด
“อิบารากิ ถอย !” ชูเท็นโดจิตะโกน อิบารากิโดจิรีบถอยออกมา อรุณนภาเห็นอิบารากิโดจิถอยก็ทำตาม ชูเท็นโดจิวิ่งเข้าใส่ราฟ อีกฝ่ายเหวี่ยงค้อนมาแต่ชูเท็นโดจิหลบได้และพ่นไฟ ราฟหลบได้และเคลื่อนไหวมาอยู่ด้านหลังของชูเท็นโดจิ เงื้อค้อนคู่ขึ้นหมายจะฟาดปลิดชีพ แต่ชูเท็นโดจิหันขวับมาคว้าข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ได้ ราฟพยายามกระชากมือออกมา แต่ไม่หลุดมันจึงออกแรงกดลงไป แขนของชูเท็นโดจิเริ่มสั่นขืนปล่อยไว้นานกว่านี้เขาอาจจะต้องแพ้ จึงเริ่มออกแรงบีบข้อมือของอีกฝ่าย จนราฟเริ่มรู้สึกเจ็บ ถือค้อนไม่ไหวจนต้องปล่อย ราฟเห็นท่าไม่ดีเลยแตะชูเท็นโดจิเข้าที่ชายโครง ความเจ็บทำให้เขาต้องปล่อยมือและถูกชกกระเด็น
ชูเท็นโดจิบาดเจ็บไม่น้อยซี่โครงแทบหัก แต่ก็ต้องรีบตั้งตัว ราฟกำลังจะไปหยิบค้อน ชูเท็นโดจิพ่นไฟใส่ค้อนจนแดง ราฟจับค้อนก็ต้องร้องโหยหวนมือทั้งสองไหม้ เป็นจังหวะให้เขาเข้าประชิดตัวและชกเข้าที่หน้าของอีกฝ่ายเต็ม ๆ แรงหมัดทำให้เลือดไหลกบปาก ฟันร่วงออกมาหลายซี่ ยังไม่ทันที่มันจะตั้งตัวได้ ชูเท็นโดจิกระหน่ำหมัดใส่ราฟไม่หยุด ราฟใช้มือไม่ได้เสียเปรียบเห็น ๆ หมัดสุดท้ายชกเข้าที่หัวเสียงกะโหลกแตกดังลั่น ราฟตายแล้ว ชูเท็นโดจิหันไปทางพวกออร์คชี้นิ้วและพูดว่า “มีใครอยากตายอีกมั้ย !”
พวกออร์ดมองหน้ากันและเตรียมเข้ามารุมแต่จู่ ๆ พวกมันบางตัวก็รู้สึกเจ็บที่หูขวา อิบารากิโดจิปรากฏตัวตรงหน้าของชูเท็นโดจิและทิ้งของบางอย่างลงพื้น คือหูของพวกออร์คนั่นเอง พวกมันเห็นเช่นนั้นความกลัวก็บังเกิดในจิตใจ จึงรีบถอยทัพทันที เมื่อพวกมันไปกันหมดชูเท็นโดจิก็เข่าอ่อน
“สหายข้า” อิบารากิโดจิตกใจมาก เขาประคองชูเท็นโดจิเอาไว้
“เฮ้ย ! ไอ้หนู” ชูเท็นโดจิตะโกนขึ้นมา ทำให้ศุภมิตรกับอาทิตย์สะดุ้งโหย่ง
“ไอ้หนูที่รักษาข้าเมื่อกี้ มาช่วยข้าเร็ว” อาทิตย์วิ่งหน้าตื่นไปหาชูเท็นโดจิ อรุณนภารีบร้องห้าม
“อย่า ! เรายังไม่รู้ว่ามันไว้ใจได้แค่ไหน” อิบารากิโดจิได้ยินเช่นนั้นก็เลยพูดสวนไปว่า
“พวกข้าอุตส่าห์ช่วย ยังจะสงสัยอะไรอีกเล่า” อาทิตย์ได้ยินเช่นนั้นก็เลยรีบเข้าไปรักษาชูเท็นโดจิทันที เมื่อหายแล้ว ชูเท็นโดจิก็รีบยกเหล้าขึ้นดื่ม
“เอ่อ เพิ่งหายอย่าเพิ่งดื่มเหล้าเลยนะขอรับ” อาทิตย์พูด ชูเท็นโดจิหันมามองตาขวาง ทำให้อาทิตย์กลัว อรุณนภารีบมาขวางเอาไว้ อิบารากิโดจิมองทุกคนแล้วถามว่า “พวกเจ้าเป็นใคร แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน”
“แล้วเจ้าสองคนล่ะเป็นใครกันแน่” อรุณนภาถามเธอกำดาบแน่น เพราะยังไม่ไว้ใจทั้งสองคน ชูเท็นโดจิยังคงนั่งดื่มเหล้าต่อไป อิบารากิโดจิเลยต้องเป็นคนพูดแทน
“ข้าชื่อ อิบารากิโดจิ นั่นชูเท็นโดจิสหายข้า พวกเราเป็นอสูรแล้วเจ้าบอกได้หรือยังว่าพวกเจ้าเป็นใครกันแน่” เมื่อได้ยินเช่นนั้นอรุณนภาก็เริ่มแนะนำตัวเองบ้าง
“ข้าคือ อรุณนภา เจ้าหญิงแห่งเผ่านรสิงห์ นี่คือ อาทิตย์น้องชายข้า ส่วนท่านนั้นคือ ท่านศุภมิตร เป็นนักสิทธิ์” ทั้งสองพยักหน้ารับรู้ ไม่มีท่าทีที่จะทำความเคารพใครเลย นั่นทำให้อรุณนภาไม่ค่อยจะพอใจนักแต่เธอก็พูดต่อ
“ที่นี่คือ มหาสุวรรณทวีป ที่เจ้าเห็นเมื่อกี้เป็นออร์คสมุนของราชาปีศาจการอน พวกมันบุกมาโจมตีเพื่อจะยึดครองทั้งทวีปนี้ ตอนนี้เมืองถูกยึดไปหลายเมืองแล้ว”
ชูเท็นโดจิมองร่างที่ไร้วิญญาณของราฟ เขาคิด เจ้าออร์คตัวนี้ มันมีฝีมือที่ร้ายกาจ เขาสู้แทบจะไม่ได้ กลับเป็นแค่ลูกสมุน นั่นก็หมายความ เจ้าคนที่ชื่อ การอน ต้องมีฝีมือมากแน่ ๆ ทำให้เขาตัวสั่น รู้สึกว่าร่างกายร้อนรุ่ม “จะบอกว่าไอ้คนที่ชื่อ การอน เป็นหัวหน้าไอ้ตัวนี้เหรอ” อรุณนภาได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกลัว
“ใช่ ! พวกนี้เป็นสมุนของการอน” ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่มอั้ก ๆ และหัวเราะเสียงดังลั่น ทำให้พวกอรุณนภาต้องปิดหู อิบารากิโดจิก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย อรุณนภาทนเสียงหัวเราะของทั้งสองไม่ไหวแล้วเลยตะโกนขึ้นมา “หยุดหัวเราะ สักทีเป็นบ้าหรือไง”
สิ้นเสียงของอรุณนภา ทั้งสองอสูรก็หยุดหัวเราะแล้วมองหน้ากัน ชูเท็นโดจิเอ่ยขึ้นมาว่า “อิบารากิ เจ้าได้ยินมั้ย” อิบารากิโดจิพยักหน้า ชูเท็นโดจิหันไปมองอรุณนภา แล้วถามว่า
“ไอ้คนที่ชื่อการอนอยู่ไหน” อรุณนภาถึงกับสะดุ้งสุดตัวเธอพยายามตั้งสติก่อนที่จะตอบว่า
“น่าจะอยู่ที่เมืองนครสิงห์ พวกเรากำลังจะหาทางกลับไปที่เมืองเพื่อหาทางจัดการกับมัน จริง ๆ พวกเราให้ท่านศุภมิตรเสกอาวุธให้แต่...” นางเงียบไป ศุภมิตรนั่งหน้าจ๋อย ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่มแล้วพูดว่า
“อาวุธเหรอ มีข้าสองคนดีกว่าอาวุธใด ๆ ในโลกซะอีกนะ จริงมั้ย ! อิบารากิ” อิบารากิโดจิ พยักหน้า ชูเท็นโดจิหันมาพูดต่อ “เอาล่ะ พวกเจ้าต้องพาพวกเราไปหาไอ้คนชื่อการอนนั่น”
อรุณนภาตะลึงเธอจึงเรียกศุกมิตรกับอาทิตย์มาคุยกันให้ห่าง ๆ จากทั้งสองคน เธอรีบถามศุภมิตร
“นี่เราจะต้องพึ่งอสูรเลยเหรอ ท่านศุกมิตรส่งมันกลับไม่ได้เหรอ” ศุภมิตรถอนใจเฮือกใหญ่ เขาส่ายหน้าแล้วตอบว่า
“อย่าให้ข้าต้องร่ายมนตร์บทนี้ อีกเลยเพราะไม่รู้ว่าจะได้อะไรมาอีก แค่ไอ้สองตัวนี่ก็น่ากลัวพอแล้ว”
อรุณนภากับอาทิตย์เริ่มคิดหนัก การจะให้ศุภมิตรเสกอาวุธอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่า จะได้อะไรมา ยิ่งเท่าที่เห็นทั้งสองก็มีฝีมือที่ร้ายกาจพอตัว อย่างน้อยก็สามารถสังหารพวกออร์คได้หลายตน และตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว สองพี่น้องมองหน้ากัน อรุณนภาหันไปทางทั้งสองอสูรแล้วพูดว่า “ข้าจะพาพวกเจ้าไปหาการอนก็ได้แต่พวกเจ้าต้องกำจัดมันให้ข้าด้วย”
ชูเท็นโดจิจับทางได้จึงคว้าข้อมือ ยุรนันท์เอาไว้ทัน และกระหน่ำหมัดใส่เขาไม่หยุด ยุรนันท์เจ็บหนัก เขาสลัดมือให้หลุด แล้วถอยมายังไม่ทันได้ตั้งตัวชูเท็นโดจิก็เขามาจับร่างของเขาทุ่มข้ามหัวลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น ชูเท็นโดจิ ชูมือเป็นสัญญาณว่าตัวเองชนะแล้ว แต่เขารับรู้สึกจิตสังหารเลยหันไปดูยุรนันท์ลุกขึ้นมาเขากลายเป็นนรสิงฆ์เต็มขั้น รูปร่างเขาตอนนี้ดูสูงใหญ่ หัวกลายเป็นสิง มีเขี้ยวเล็บที่ ดูน่ากลัว เขาคำรามเสียงดังก้อง และเขาประชิดตัวตบกรงเล็บมา ชูเท็นโดจิตั้งรับแต่เขาถูกตบกระเด็น“ยุรนันท์แปลงร่างแล้ว เจ้าชูเท็นโดจิไม่รอดแน่” ราชินีย์ตะวันเอ่ยขึ้น อรุณนภาหน้าเสียอยากจะบอกให้ชูเท็นโดจิยอมแพ้ไปซะเพื่อรักษาชีวิต แต่ราชาสุริยะที่นิ่งมานานกลับบอกนางว่า“ดูสายตาเขาสิ”อรุณนภามองไปสายตาของชูเท็นโดจิ นางเห็นความมุ่งมั่ง ที่จะเอาชนะให้ นางจึงตัดสินใจตะโกนเสียงดังไปว่า “สู้เขานะชูเท็นโดจิ !”ชูเท็นโดจิได้ยินเขาก็มีกำลังใจมาขึ้นมาและเข้าไปต่อสู่กับยุรนันท์ทันที เขารวมพลังไปที่หมัดและชกเข้าไปเต็ม ๆ ที่หน้าของยุรนันท์แต่อีกฝ่ายไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังตบกรงเล็บใส่ ชูเท็นโดจิหล
อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็รู้สึกโล่งอกแต่ก็แอบโกรธเขาอยู่เหมือนกันที่เขามาสาย อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราชินีตะวันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จริง ๆ นางอยากจะตัดสินสิทธิ์ชูเท็นโดจิให้แพ้ไปเลย แต่หากทำแบบนั้น คงจะโดนทั้งอาณาจักรครหาได้ เลยไม่พูดอะไรปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไป ชูเท็นโดจิหันมายิ้มให้กับอรุณนภา และไม่ได้สนใจยุรนันท์เท่าไหร่ แถมยังยกเหล้าขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตา ยุรนันท์กัดฟัน กรอด ๆ ด้วยความโกรธ“ไอ้คนไร้มารยาท ทำไมถึงได้มาช้า !” แต่ชูเท็นโดจิทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์“จะช้า จะเร็วมันสำคัญตรงไหน ยังไงซะแกก็ต้อง แพ้ !” ชูเท็นโดจิพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มอีก ยุรนันท์ยิ่งโมโหจัดเขาจึงท้าว่า“ถ้าเจ้าแพ้ข้า เจ้าต้องไสหัวออกไปจากนรสิงฆ์นครตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าก็จะยอมออกจากนรสิงฆ์นครเช่นกัน” มีเสียงฮื่อฮาดังขึ้น ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดเสียงดังว่า“ก็ได้ข้ารับคำท้า”สัญญาณเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น ชูเท็นโดจิออกหมัดก่อน แต่อีกฝ่ายหลบได้ และออกหมัดสวนไป ชูเท็นโดจิหลบได้ แต่เขารู้สึกถึงแรงลมจากหมัด รู้เลยว่าถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ เขาได้เจ็บหนักแน่ ยั
“ข้ายังจำท่าของเจ้าได้ คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะแพ้ !” ชูเท็นโดจิออกหมัดไป อีกฝ่ายใช้มือปัดการโจมตีและสวนกลับด้วยการกระแทกศอก แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิหลบได้และเหวี่ยงหมัดสวนไป อมเรศวรหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หน้า ชูเท็นโดจิยังคงออกหมัดมา หมายจะโจมตีอีกครั้งแต่คราวนี้อมเรศวรก้มตัวหลบและชกหมัดขวาไปเป้าหมายคือปลายคางแต่ชูเท็นโดจิเอามือไปรับหมัดเอาได้และชกเข้าที่แขนทำให้อมเรศวรต้องรีบถอยออกมา เขาต้องการหยุดการต่อสู้โดยเร็วจึงตัดสินใช้เพลงแตะแต่ว่าชูเท็นโดจิจับขาเขาเอาไว้ เหวี่ยงร่างของอมเรศวรลอยไปเขาล้มลงไปกระแทกพื้น อมเรศวรลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว เท่ากับว่าชูเท็นโดจิชนะ เขาเดินไปหาอมเรศวรประคองให้ลุกขึ้นและถามว่า“เจ้าไม่ได้ออมมือใช่มั้ย”“เปล่า เลยเจ้าอ่านทางมวยข้าได้แล้ว ข้าถึงได้แพ้” หลังจากที่อมเรศวรแพ้ไปแล้ว เจ้าชายเมืองอื่นก็รีบถอนตัวไปเกือบหมด เพราะเห็นฝีมือของชูเท็นโดจิแล้วไม่อยากเสี่ยงต่อสู้ด้วย เหลือแต่มารุตกับยุรนันท์เท่านั้น ซึ่งยุรนันท์ได้เข้าไปรอรอบชิงเลยด้วยความช่วยเหลือของราชินีตะวัน แถมในตอนแรกนางจะให้ชูเท็นโดจิต่อสู้เลยด้วยซ้ำแต่มารุตบอกว่า“ให้เขาไปพักก่อน ไม่งั้นมันไม่
“สหายข้า” เสียงของอิบารากิโดจิเรียกชูเท็นโดจิจากภวังค์ เพื่อนรักของเขาอยู่ตรงหน้า ในยามนี้เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้น “มีอะไรอิบารากิ” ชูเท็นโดจิกำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิห้ามเอาไว้ “หยุดกินได้แล้ว สหายข้า”ชูเท็นโดจิแปลกใจมาก อิบารากิโดจิ ไม่เคยห้ามเขาเลย เวลาจะทำอะไร แต่วันนี้กลับห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า “ห้ามข้าทำไม” “เจ้าดูสภาพตัวเองหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ตัวเจ้าที่ข้ารู้จัก” อิบารากิโดจิพูด“ช่างข้าสิ” ชูเท็นโดจิสะบัดมือออก และยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิปัดมือเขา“หยุดซะที แต่ก่อนเจ้าเป็นนักสู้ แต่ตอนนี้เมาเหมือนหมาไม่มีผิด”“หุปปากไปเลย แกจะเข้าใจอะไร” ชูเท็นโดจิ จะยกเหล้าขึ้นดื่ม อิบารากิโดจิใช้มือปัด ทำให้ชูเท็นโดจิเริ่มโมโห“อย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวก็ได้เสียแขนอีกข้างหรอก”“อย่างเจ้าตอนนี้ ตบแมลงยังไม่ตายเลยมั้ง” อิบารากิโดจิพูดเย้ย ชูเท็นโดจิได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เขาออกหมัดไป อิบารากิโดจิแม้จะมีแขนเดียว แต่ความเร็วของเขายังเท่าเดิม ทำให้ชูเท็นโดจิชกพลาด แขนเสื้อของอิบารากิโดจิฟาดหน้าเขา ทำให้เขาได้สติถ้าอิบารากิโดจิมีแขนข้างนี้ ตาเข
“ขอร้อง ล่ะ!” มัน เน้นเสียงตรงคำว่า ล่ะ ทำให้เกิดคลื่นเสียงมาทำให้ชูเท็นโดจิเสียหลัก การอนรีบลุกขึ้นมาและกำลังจะหนีแต่ ชูเท็นโดจิตั้งตัวได้กระโดดไปดักหน้าการอนเอาไว้ และทุบหัวของการอสด้วยสองมือร่างของการอนค่อย ๆ จมลงไปในดินจนเหลือแต่หัว กระดูกทั้งตัวแหลก ชูเท็นโดจิทุบซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้หัวของมันแหลกไปแล้ว“การอนตาย แล้ว !” ชูเท็นโดจิประกาศเสียงดังลั่นหลังจากที่การอนตายพวกออร์คก็ถูกสังหารไปจนหมด อรุณนภา กับ อาทิตย์รีบไปตามหาพ่อกับแม่ ซึ่งก็พบว่า ยุรนันท์พาทั้งสองออกมาแล้ว ราชาสุริยะนั้นได้บาดเจ็บหนัก ส่วนราชินีตะวันปลอดภัยดี ทุกคนเข้าไปกอดกันด้วยความรัก และร้องไห้ออกมาด้วยซาบซึ้งในใจ ชูเท็นโดจิเดินมาเห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมา อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็วิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ากลับมา เจ้ากลับมา” อรุณนภาพูดทั้งน้ำตา ชูเท็นโดจิกอดนาง“ข้ากลับมาแล้วว่าแต่มีเหล้ากินมั้ยเนี่ย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นางจึงตะโกนชื่อของเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ตะโกนตาม“ชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิ” เสียงเรียกชื่อเขาดังไปหมด แต่มันไม่ได้ดังด้วยความหวดกลัวเหมือนกับทุกครั้ง หากแต่เต็มไปด้วยความช
การอนแม้จะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชูเท็นโดจิ ก็หาได้กลัวไม่ มันเข้าโจมตีชูเท็นโดจิด้วยการกระหน่ำหมัด แต่กลายเป็นว่า ชูเท็นโดจิหลบหมัดทั้งหมดได้ และคว้าข้อมือของการอนเอาไว้ออกแรงบีบอย่างแรง จนการอนร้องลั่งด้วยความเจ็บปวด เมื่อสลัดออกมาได้ ก็พบข้อมือมีรอยไหม้เป็นรูปมืออยู่ นั่นทำให้มันตกตะลึง จึงตัดสินรวมพลังไปที่ฝ่ามือและกระแทกใส่ชูเท็นโดจิ แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เขาไม่สะเทือนเลย แถมยังชกการอนกระเด็น“บังอาจมาทำร้ายอรุณนภา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ !” ชูเท็นโดจิหยิบหินที่พื้นมาซัดออกไป การอนเอามือปัดแต่ครั้งนี้หินทะลุมือของมันเป็นรู ชูเท็นโดจิเขามาประชิดตัวพ่นไฟใส่ร่างของการอนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด อย่างที่มันไม่เคยเจอมาก่อน“เคยใช้แต่ตัวปลอมสินะ งั้นก็มาเจอกับความเจ็บปวดของจริง เป็นยังไงล่ะ” ชูเท็นโดจิชกซ้ำร่าง การอนกระเด็น ล้มลงไปฝ่ายของการอนเมื่อเห็นนายล้มลงไปแล้วกำลังใจก็เริ่มเสีย ทำให้ฝ่ายต่อต้าน เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่มันเร็วไปที่จะดีใจ การอนลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างของมันกลับเป็นร่างแรก แถมอาการบาดเจ็บลดลงไปมาก“ไม่คิดเลยนะว่าจะเจอคนที่ทำให้ข้าเจ็บได้ งั้นก็หายไปซะ !” ร