LOGINธีรนุชดันตัวเองออกจากอ้อมกอดเค้าทันที แต่คนที่กอดกลับรั้งตัวเธอไว้แล้วยกตัวขึ้นมาก่อนจะวางลงตรงพื้นชั้นสามอย่างนุ่มนวล แล้วปล่อยแขนออกทันที
"ระวังสิตกลงไปแย่เลย" เสียงเค้าบ่นเธอเบาๆก่อนที่คุณหมอจะพยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวขอบคุณเสียงเบา คนฟังยิ้มกว้างออกมาแล้วเดินนำไปที่ห้องทำงานตัวเอง หยิบอุปกรณ์ทำงานหลายอย่างเอาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง แล้วเดินออกมา ไม่ยอมให้เธอช่วยถือแม้แต่ชิ้นเดียว
"ลงลิฟต์เถอะขี้เกียจเดิน" เสียงเจ้าของบ้านบอกทำให้เธอรีบกดลิฟต์ให้ทันที ในใจอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า คุณเธียรคงไม่อยากให้เธอลงบันไดมากกว่า คุณหมอให้เจ้านายเดินออกจากลิฟต์ไปก่อนแต่ชายหนุ่มกลับดันเธอให้ออกจากลิฟต์ก่อนเค้า แล้วบอกเสียงเบาระหว่างที่เดินออกมาหน้าบ้านด้วยกัน
"เรียกพี่เธียรดีกว่านะนุช"
เสียงเค้ายังอยู่ในหัวสมองของเธอตั้งแต่เธอเดินกลับมาออกมา กลิ่นน้ำหอมที่เค้ายังยังติดชุดเธอมาถึงบ้านในตอนนี้ ธีรนุชยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกแล้วยิ้มกว้างออกมาอย่างเขินอาย เธอมีความสุขมาก มากกว่าอะไรทั้งนั้น แค่ได้เรียกชื่อเค้าได้เห็นหน้าเค้าก็พอแล้ว แต่วันนี้หูของเธอยังได้ยินเสียงหัวใจของเค้าเต้น พี่เธียรนุชจะทนไหวหรอคะแบบนี้ หญิงสาวคิดในใจอย่างมีความสุข
ชายหนุ่มเดินลงมาจากบนห้องนอนเช้ากว่าปกติมาก จนคนพบเห็นแปลกใจ
"วันนี้ไม่มีอะไรไม่ใช่หรอลูก ทำไมตื่นเช้า" ท่านประธานถามลูกชายที่แต่งตัวเตรียมออกไปทำงานตั้งแต่เจ็ดโมง ชายหนุ่มยิ้มออกมาแต่สายตามองหาคนตัวเล็กที่ทำให้เค้าว้าวุ่นใจเมื่อคืน
"คุณย่าทานข้าวแล้วหรอครับ" หลานชายถามคุณย่าหวังผลที่จะเอ่ยถึงคนเมื่อคืน คุณหญิงพยักหน้าตอบแล้วสนใจนาฬิกาผู้หญิงบนโต๊ะแทนคำตอบ หลานชายอดหงุดหงิดใจนิดหน่อยที่ไม่ได้รับคำตอบแต่มองบนโต้ะแทน
"คุณแม่จะซื้อหรอครับ" ลูกชายเปลี่ยนเรื่องไปทันที ก่อนจะตั้งใจมองนาฬิกานับสิบเรือนที่วางเรียงราย ผู้เป็นแม่ส่ายหน้าแล้วตอบออกมา
"คุณย่าจะซื้อให้หมอนุชวันเกิด" เธียรวิทย์พยักหน้าเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารเช้าอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในสมองคิดอยู่ว่าจะรู้ได้ยังไงว่านุชเกิดวันไหน เท่านั้นเอง
วันนี้เป็นอีกวันที่ดูดพลังเธอจนหมดสิ้น หมดเวลางานแล้ว เวรบ่ายมารออยู่แล้ว เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ายี่ห้อดังเรียกความสนใจของเธอ น้อยกว่าน้อยที่จะมีคนโทรมาหาเธอเพื่อนของเธอมีแต่หมอที่งานหนักเหมือนๆกันเวลาคุยเล่นแทบจะไม่มี แล้วใครโทรมา
คุณนรี คุณผู้หญิงโทรมาหาเธอ หญิงสาวรีบกดรับทันที ก่อนจะเอ่ยเสียงสุภาพออกไป คำสั่งบอกมาตามสายทำให้เธอพยักหน้ารับคำไปพร้อมกับรับคำสั่ง เสียงของคนมีอำนาจแม้จะไม่ดุดันแต่ก็ไม่ได้อ่อนหวานนัก
"ค่ะ หนูจะรีบจัดการให้คุณค่ะ" คุณหมอรับคำก่อนจะลุกขึ้นไปด้านในเพื่อส่องกระจกอีกครั้ง สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง แล้วเตรียมตัวเดินทางไปทำธุระให้คุณนรี
กระเป๋าราคากว่าสองล้านบาทวางอยู่ในกล่องสวยหรูพร้อมกับใส่ลงในถุงสีส้มสดอีกครั้งอย่างเบามือ คุณนรีสั่งกระเป๋าใบนี้มาหลายเดือนแล้ว และรอไม่ได้อีกแล้ว เมื่อทางร้านโทรแจ้งว่ามาถึงแล้ว นางจึงให้หมอแวะเอามาให้เสียเลย ดีกว่าที่จะให้คนขับรถออกมา เสียเวลาขึ้นไปอีก ร่างบอบบางถือกระเป๋าใบหรูพร้อมกับหิ้วถุงยี่ห้อดังสร้างความสนใจให้หลายๆคน
เธียรวิทย์มองดูคนตรงหน้าที่กำลังเดินมา ก่อนจะมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง แล้วบอกลาเพื่อนร่วมโต๊ะทันที
"ไปก่อนมีงานด่วน คราวหน้าจะเลี้ยงคืน " ชายหนุ่มบอกลาเพื่อนแล้วรีบเดินตามหญิงสาวไปทันที
"นุช" เสียงเรียกเบาๆพร้อมกับจับแขนเอาไว้ทำให้เธอสะดุดทันที ก่อนจะหันมามองมือที่คว้าแขนเธอไว้
"คุณเธียร" เสียงหวานเอ่ยชื่อเค้าออกมา ชายหนุ่มส่ายหน้า
"บอกว่าให้เรียกยังไง"คุณหมอสาววัย22รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กทันทีที่อยู่ต่อหน้าเค้า
"มาเอากระเป๋าหรอ" เค้าถามออกไป ก่อนจะคว้าถุงใบใหญ่มาถือเอาไว้ด้วยตัวเอง แล้วบอกเสียงนุ่มอีกครั้ง
"กลับบ้านกัน"
ซุปเปอร์คาร์สีดำสนิทจอดอยู่ที่จอดรถพิเศษ ก่อนที่จะปลดล็อกอย่างรวดเร็ว ธีรนุชยืนนิ่งอยู่ตรงทางออกก่อนจะนึกถึงที่จอดรถของเธอ
"นุชเอารถมาค่ะ นุชจะขับกลับเอง" เสียงหวานบอกออกไป ก่อนจะหันหลังกลับ
"ไปรถพี่เดี๋ยวมีคนมาขับรถนุชกลับ"
เสียงคนข้างตัวบอกก่อนจะดึงมือเธอเอาไว้ มือบางขาวผ่องสั่นน้อยๆอยู่ในอุ้งมือของเค้า ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ แล้วดึงกระเป๋าจากมือเธอมา
"เอากุญแจมา" คนโดนสั่งค้อนน้อยๆแล้วดึงมือตัวเองออกจากมือใหญ่ ก่อนจะหากุญแจรถของตัวเองส่งให้เค้า อย่างไร้ความสามารถที่จะดื้อดึง
"ทำงานที่ไหน" เธียรวิทย์ถามออกไปอย่างอยากรู้ "
ที่โรงพยาบาลAค่ะ" คนฟังพยักหน้ารับรู้ แล้วนึกขึ้นได้ที่นั่นบ้านเค้าเป็นวีวีไอพีอยู่นี่เอง เธอถึงได้ฝึกงานอยู่ที่นั่นได้ไง แค่ค่าบริจาครายปีนับล้านบาทยังไม่รวมกับเงินบริจาคปลีกย่อยแต่ละโครงการที่นั่นเสนอมาทางบ้านเค้าไม่เคยเกี่ยงงอนสักครั้งแถมยังไม่มีการบริจาคในนามบริษัทอีกด้วย ที่ทำคือใจล้วนๆทีเดียว
"เหนื่อยมั้ยวันนี้" เสียงเค้าถามอย่างอยากรู้โรงพยาบาลใหญ่มากขนาดนั้น วันหนึ่งเธอคงทำงานหนักทีเดียว คุณหมอพยักหน้า
"แค่ตรวจโรคทั่วไปวันละร้อยคนเองค่ะ" เสียงเธอขยายความ เธียรวิทย์มองคนข้างๆแล้วอดชื่นชมไม่ได้ ตัวแค่นี้ทำงานเก่งด้วย
"ถ้าวันไหนพี่ไม่ยุ่งมากจะไปรับดีไหม" คนฟังหันมามองอย่างตกใจ แล้วมองหน้าเค้าทันที
"อะไรนะคะ"
รถสปอร์ตคันหรูวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถขนาดใหญ่ที่มีรถหรูหลายยี่ห้อจอดเรียงรายนับสิบคัน
"ขอตัวนะคะ" ธีรนุชเดินเลี่ยงออกไปทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้าวเท้ายาวๆเดินตาม
"เอาของไปให้แม่ด้วยสิ แม่พี่เค้าวานนุชนะ" ธีรนุชชะงักทันที เธอลืมไปสนิทเลย
กระเป๋าหนังสีสวยกลิ่นหอมกรุ่นโชยเข้าจมูกคนที่แกะกล่องอย่างมีความสุข ชายสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา
"คืนนี้จะนอนหลับไหมแม่" เสียงลูกชายแซวออกมา คุณนรีค้อนลูกชายก่อนจะหยิบกระเป๋ามาจับดูอย่างชื่นชม
"หมอชอบไหมแบบนี้" คุณผู้ชายของบ้านเอ่ยถามหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ที่พื้นอย่างสงบเสงี่ยม
"สวยมากค่ะ แต่หนูกลัวทำเปื้อน" คำตอบง่ายๆทำเอาคนถามยิ้มออกมา
"ใบนี้คุณแม่เลือกให้หรอ" ท่านถามถึงกระเป๋าสีหวานที่วางอยู่ข้างตัว ธีรนุชยิ้มอายๆ
"ค่ะใบนี้หนูก็กลัวเปื้อนเหมือนกัน"
เลขาคนสนิทถือถุงกระดาษสีขาวใบใหญ่เดินตรงเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายตัวเอง ก่อนจะเคาะเสียงเบาแล้วเปิดประตูเข้าไป
"คุณน้ำหวานให้คนมาส่งแล้วครับ" เธียรวิทย์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเปิดถุงด้านในออกอย่างรวดเร็ว กระเป๋าแบรนด์ดังสีดำสนิทรุ่นหายาก ถูกห่อใส่ในถุงผ้าก่อนจะห่อกระดาษอีกชั้น แล้วบรรจุใส่กล่องอีกชั้นหนึ่ง
"คุณน้ำหวานบอกว่า ถ้าคุณเธียรอยากได้รุ่นไหนอีก สั่งมาได้เลย คุณน้ำหวานยินดีบริการ"
เธียรวิทย์นึกถึงแม่ค้าไฮโซที่สามีเจ้าของโชว์รูมรถห่วงยังกับไข่ในหิน แต่พอคุณภรรยาอ้อนนิดหน่อยก็ตามใจเหลือเกิน แล้วถอนหายใจออกมา อย่างเค้าจะมีวันได้เจอคนที่จะทำให้รักสุดหัวใจหรือเปล่า
การ์ดใบเล็กเขียนด้วยตัวอักษรไม่กี่คำแต่หวังว่าคนรับจะยิ้มออกมาเท่านั้นเอง เธียรวิทย์พับการ์ดใบเล็กลงในถุงแล้วคว้าถุงกระดาษใบใหญ่เดินออกมานอกห้องทันที
"เตรียมรถแล้วตามไปที่รพ.ด้วยจะไปรับนุช" ลูกน้องคนสนิทพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเตรียมตัวทำหน้าที่ของตัวเอง
รถสปอร์ตคันหรูจอดรออยู่แล้ว หญิงสาวรีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งทันที ก่อนที่รถจะแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว พยาบาลหลายคนมองกันอย่างสงสัยใคร่รู้ว่าใครมารับหมอนุชไป รถหรูราคาแพงที่ไม่ได้มีขับกันทั่วไปทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า คนที่มารับหมอนุชในวันนี้รวยขนาดไหนกัน ตัวหมอนุชเองก็มีของดีใช้ ยี่ห้อดังไปหมดทั้งตัว สงสัยว่าคนที่มารับต้องเป็นไฮโซคนดังแน่ๆแต่จะเป็นใครนั้น คงได้รู้คำตอบไม่ช้าไม่นาน เกินไป
"พี่เธียรว่างหรอคะ" คุณหมอถามออกมาทั้งที่ตกใจไม่หายหลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์จากเค้าเมื่อสักครู่นี้
"บอกแล้วไงว่าจะมา"เสียงนุ่มบอกออกมาก่อนจะมองคนข้างตัวอย่างมีความหมาย
พี่เธียรเป็นความหวัง เป็นเป้าหมายในชีวิตสำหรับเธอ แม้จะลงเดิมพันไปแล้ว แต่หากโชควาสนาไม่เอื้อต่อกัน การที่เค้าจะมองเธอก็คงยาก เพราะชายหนุ่มคนนี้ มีผู้หญิงมาให้เลือกมากมายนัก“พี่เธียรรู้ไหมว่า นุชตั้งใจจะต้องเป็นแฟนพี่เธียรให้ได้ “ เธอถามเค้าออกมา เธียรวิทย์พยักหน้า แล้วดึงมือเธอมาจูบแหวนเพชร แหวนหมั้นที่สวมด้วยกัน เป็นแหวนที่ใช้ในงานวันขอพายในครอบครัว และงานใหญ่ในพิธีสู่ขอ“นุชน่ารัก เป็นเด็กดีมาตลอด พี่ต่างหากที่เป็นคนไม่ดี สำมะเลเทเมา ทำให้นุชเสียใจ ถ้าใครจะบอกว่านุชจับพี่ พี่อยากจะบอกให้เค้าคิดใหม่ พี่ต่างหากที่จับนุชเอาไว้ พี่โปรยเสน่ห์ใส่เด็กหญิงตัวผอมเก้งก้าง พี่ทำของใส่ด้วยตำราวิชาการ และของใช้หลายอย่างผ่านคุณย่า พี่เฝ้ารอ แม้จะทำตัวไม่ดี แต่พี่ก็ไม่ให้ใครมาจับพี่ง่ายๆไม่เหมือนกับนุช ที่พี่เอาตัวเอง ไปให้นุชจับ “คนหลงเมียบอกตามตรง แล้วมองคนที่นั่งน้ำตาคลออยู่“ไม่ร้องนะคะ นุชมีค่ามาก สำหรับพี่ สำหรับครอบครัวของเรา ไม่ว่าใครจะว่ายังไง นุชก็เป็นนุช ผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของพี่ “ธีรนุชก้มลงจูบที่ปากของเค้า จูบอ่อนโยนที่ภรรยาเริ่มต้น ทำให้ความต้องการของสามีพุ่งทะยาน ตั้งแต่แ
อัลบั้มรูปเล่มหนาในมือที่เธอถืออยู่ มีภาพงานวันรับปริญญาที่เต็มไปด้วยความสุข แม้จะเหนื่อยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง แต่ความอบอุ่นหัวใจ มีมากกว่าที่เคยคิดไว้ รถตู้คันใหญ่ เต็มไปด้วยข้าวของส่วนตัว ที่จำเป็นต่อการยังชีพภายใน1วัน จอดประจำการ ใกล้ที่สุด สำหรับการอำนวยความสะดวกให้สะใภ้คนเดียวของบ้าน อาหาร น้ำดื่ม ที่แม่เตรียมให้ลูกสาว ในวันสำคัญ และยังเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนลูกอีกด้วยนักธุรกิจหนุ่ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายริ้ว เดินวนเวียนอยู่ไม่ห่างแฟนสาว แม้จะมีสาวๆเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก แต่ระยะห่าง ที่เจ้าตัวทิ้งห่าง ทำให้กลายเป็น ครูกับนักเรียน ยังไงยังงั้นเลย“ทำอะไรอยู่คะ “ เธียรวิทย์นั่งลงบนเตียงแล้วมองดูคนขี้แยกำลังน้ำตาคลอ ภาพกลุ่มเพื่อนที่จัดแจง เซอร์ไพรส์ กันอย่างพร้อมหน้า พร้อมตา เป็นภาพที่ยังอยู่ในความทรงจำ“พี่เธียร ทำยังไงคะ ถึงได้รวมเพื่อนมาได้ “ เธียรวิทย์เสียมารยาท ขอแต่งงานแฟนสาวที่งานรับปริญญาเสียเลย เค้าตั้งใจแค่ว่า จะทำให้เพื่อนและคนรู้จักของเธอ รับรู้ว่า ธีรนุช ไม่ใช่ของเล่นของเค้า แต่เป็นของมีค่าที่เค้ารักและหวงแหนงานวันรับปริญญา ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว เพื่อนสนิทในรุ่นนั
"แต่งงานหรอคะ " ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน แล้วมองฝ่ายชายที่ชูแหวนของตัวเองขึ้นมา"เป็นการภายใน จดทะเบียนสมรสแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ ผมอยู่ในกำมือเมียเรียบร้อยแล้วครับ " คนพุดเปลี่ยนอารมณ์แล้วจับแก้มคนข้างๆอย่างง้องอน เพราะคิดว่าเมียคงเสียใจมาก"ไม่มีอะไรแล้วก็เชิญนะครับ อาหารมาแล้ว ผมขอเวลาส่วนตัว " เค้าไล่แขกทันทีธีรนุชยิ้มหน้าเจื่อน เธอพยายามจะเข้าใจว่าเค้าไม่ใช่คนแรกของเธอ เค้ามีประสบการณ์มามากมาย แต่เธอก็หวงเค้าเหลือเกิน"พี่ขอโทษนะคะ ที่ทำให้นุชตกอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดใจ "เค้าลูบแก้มของเธอแล้วประคองแก้มทั้งสองข้างไม่สนสายตาใคร"นุชหวง นุชหวงพี่เธียร " คำพูดของเธอทำเอาเค้ายิ้มกว้าง เค้าชอบที่เธอหวงเค้า ชอบมาก"ยังจะมายิ้มอีกค่ะ นุชบอกว่านุชหวงพี่เธียรค่ะ ""พี่ชอบมากที่นุชหวงพี่ พี่ขอโทษที่ทำให้นุชเสียใจ พี่ย้อนอดีตไปไม่ได้ แต่รับรองว่า พี่มีนุชแล้ว ก็จะมีแค่นุชคนเดียว แค่นุชคนเดียวนะคะ " ธีรนุชพยักหน้าน้ำตาคลอ เธอรักเค้าเหลือเกิน เธอรู้มาตลอดตั้งแต่เริ่มชอบเค้าว่าเค้ามีผู้หญิงมากมาย เธอไม่สนใจอดีตของเค้า ขอแค่ตอนนี้ที่เค้ามีเธอและอนาคตต่อจากนี้ ไม่มีใครเพิ่มเติมก็พออาหารหลายชนิดนำมาเ
ภาพที่คนทั้งคู่เดินเข้ามาในร้านอาหาร ทำเอากลุ่มสาวๆต้องมองกันด้วยความตกใจ ที่คนที่เพิ่งตกเป็นหัวข้อสนทนา ปรากฎตัวตรงหน้าพร้อมกับคนข้างกาย ที่ไม่ใช่คนในแวดวงเดียวกัน นางแบบสาวมองทั้งสองคนแล้วหันมามองเพื่อนที่ไม่พอใจกับภาพที่เห็น อุ้งอิ้ง ตามเธียรมาสักพักใหญ่แล้ว แม้จะรู้ว่าเค้ามีคนมาวอแวอยู่ไม่น้อย และช่วงหลัง เธอก็ได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศหลายเดือน จึงทำให้ห่างหายกันไปบ้างแต่ความเป็นอุ้งอิ้งที่มั่นใจในตัวเองมาตลอดว่า เธอเอาเค้าอยู่แน่นอน กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเค้า มีคนข้างกายอยู่ในตอนนี้ กระเป๋าสะพายใบเล็กที่ฝ่ายหญิงถือ เป็นของดีมีราคา การแต่งกายอาจจะไม่ใช่แบรนด์เนม แต่ก็ไม่ใช่ราคาตลาดนัดแน่ ชายหนุ่มในชุดทำงาน ที่ถอดสูทออก ไม่มีไทด์ เป็นภาพสบายๆแบบที่น้อยคนจะได้เห็นมุมที่ไม่หล่อเนี๊ยบของเค้า" แก ใจเย็น จะบุกตอนนี้เลยหรอ " เพื่อนสาวดึงสติคนที่กำลังโกรธสุดขีด เธอรู้ว่าเค้าขึ้นคอนโดคนอื่น รู้ว่าเค้ามีคนอื่น แต่การพามาร้านที่คุ้นเคยกัน ร้านประจำที่เธอเคยมากับเค้า ทำให้เธอเข้าใจได้ว่า เธียรวิทย์ไม่แคร์เธอเลย" ควรบุกไหมละ ควรไหม มันหยามเกินไป " ดาราสาวบอกเ
รถไฟฟ้าทำให้เธอมายืนที่หน้าตึกใหญ่ คนข้างตัวอ้อนนักอ้อนหนาว่าอยากพาเธอมาที่ทำงาน แต่คุณหมอสาวไม่มีเวลาจริงๆ บ่ายๆแบบนี้ การที่เธอมาหาเค้า อาจจะทำให้เค้า หายเหนื่อยได้บ้างประชาสัมพันธ์สาว มองคนตรงหน้าแล้วยิ้มอย่างสุภาพ“ชั้นบนสุด เป็นชั้นท่านประธานค่ะ ลิฟต์จะถูกล็อกเอาไว้ค่ะ คุณสุภาพสตรี ต้องให้ทางนั้น ลงมารับค่ะ “คุณหมอสาวยิ้ม แล้วเดินไปนั่งที่โซฟารับแขก พร้อมกับกดโทรศัพท์โทรออกในทันทีเลขาของท่านประธานเดินลงมาที่ชั้น1อย่างรวดเร็ว พร้อมกับบอกที่โต๊ะพนักงานต้อนรับว่า“ถ้าเป็นคนนี้ อำนวยความสะดวก ได้เลยนะ “ คำบอกกล่าวสั้นๆทำเอาคนที่ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน งงเป็นไก่ตาแตก เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าที่ยังรอการพิจารณาอยู่หลายอย่าง งานบริหารที่รอการอนุมัติและต้องประชุมเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย เป็นงานของผู้บริหารเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ทำให้คนในห้อง เงยหน้าขึ้นมา แล้วบอกอนุญาตให้เข้ามาได้รองเท้าสีครีม กับกระโปรงสีอ่อน ทำให้เค้ายิ้มออกมา เธอเดินเข้ามาช้าๆ ภายในห้องทำงานของเค้าเธียรวิทย์ตาเป็นประกาย หมอนุชน่ารักในแบบของเธอ ไม่หวือหวา ไม่ฉูดฉาด แต่สงบร่มเย็นเหล
ดาราสาวมองคนทั้งสองคนที่เดินเคียงคู่กันเข้ามาภายในคอนโดที่เธออาศัยอยู่ ฝ่ายชายเป็นคนที่เธอเคยคาดหวังว่าจะได้เค้ามาเป็นคู่ควง ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์ ปาร์ตี้ที่บ้านของเค้า เธอก็ไปตั้งหลายครั้ง แม้จะมีคนในวงการอีกหลายคน ที่มองเค้าอยู่ แต่เธอคิดว่า ภาพของเธอ ดีกว่าใครอีกหลายคนฝ่ายหญิงสวมชุดสูทสีครีมเดินเคียงข้างกัน เธอไม่ทราบมาก่อนเลยว่า คนอย่างเธียรวิทย์จะขึ้นคอนโดใคร ใบหน้าสวยเดินตรงเข้าไปหานิติบุคคลที่ห้อง พร้อมกับขนมถุงใหญ่ ที่แฟนคลับนำมาให้ในวันนี้“สวัสดีค่ะ อุ้งอิ้งมาดูพัสดุค่ะ “ ดาราสาวทักทายพร้อมรอยยิ้ม แล้วมองกล่องพัสดุจำนวนมาก ที่ตัวเองสั่งออนไลน์มานิติบุคคล เข็นรถเข็นที่อยู่ด้านข้าง แล้วลำเลียงของที่วางเอาไว้นับสิบกล่องใส่รถเข็นให้ทันที“ขนมค่ะ อุ้งอิ้งเอามาฝาก “ เธอยิ้มหวานแล้ววางถุงขนมลงบนโต๊ะ“เมื่อกี้เห็นแวบๆว่าคุณเธียรใช่ไหมคะ เห็นไม่ชัด “เธอถามออกมาระหว่างที่พนักงาน ช่วยเข็นรถมาส่งที่ห้อง“ใช่ค่ะ คุณเธียรวิทย์กับคุณธีรนุชค่ะ “ พนักงานสาวตอบตามตรง“มาอยู่นานแล้วหรอคะ อุ้งอิ้งไม่เคยเจอ “ เธอถามออกไปพร้อมรอยยิ้ม ทั้งที่ในใจเดือดปุดๆเพราะไม่ชอบภาพที่เห็นเลย“ความจริงแล้ว







