LOGINเธียรวิทย์ เปิดประตูห้องประชุมเข้าไปแล้วกล่าวเปิดประชุมทันที วันนี้เค้ามีประชุมงานเกี่ยวกับแพคเก็จจิ้งขนมยี่ห้อใหม่ที่เพิ่งจะนำมาวางขายในเร็วๆนี้ เสียงเข้มท้าวความถึงการประชุมครั้งที่แล้วก่อนจะบอกความต้องการของตัวเองออกไป แต่ทีมงานนับสิบคนที่จ้างมาด้วยเงินเดือนสูงลิ่วกลับทำงานไม่คุ้มค่าจ้าง
"เหมือนเดิมไม่แก้ไขไม่ปรับปรุง"
เธียรวิทย์กัดฟันข่มความโกรธ วัตถุดิบส่งมาพร้อมเตรียมการผลิต แต่แพคเก็จจิ้งห่วย ทีมงานหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
"ผมให้เวลาอีกสองวัน ถ้าผมออกแบบมาแล้วท่านประธานเลือกของผม พวกคุณควรพิจารณาตัวเอง"
เธียรวิทย์ยื่นคำขาดก่อนจะลุกออกจากห้องประชุมไป
เค้าตัดสินใจงานเป็นคนสุดท้าย แต่ถ้างานแบบนี้มีปัญหา ท่านประธานจะเป็นคนตัดสินใจเอง
"อ้าวไอ้เสือว่าไง" ท่านประธานทักลูกชายที่เดินหน้าตูมเข้ามา เธียรวิทย์นั่งลงแล้วถอนหายใจออกมา
"แพคเก็จไม่สวยเลย" ลูกชายบอกเบาๆ ผู้เป็นพ่อยิ้มกว้าง
"ถ้าไม่ถูกใจอยากได้แบบไหนทำเองสิ" คนเป็นลูกค้อนน้อยๆอย่างงอนๆเมื่อฟังท่านประธานพูดจบ
"ดี ทำเองอย่างงี้อีกหน่อยก็ไม่ต้องจ้างใคร" คนเป็นพ่อขำออกมาอย่างพอใจ ที่ลูกชายบ่นออกมาเสียงดัง แล้วลุกออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
"ประชุมคราวหน้าท่านประธานมาตัดสินแล้วกันว่าของใครสวย" ก่อนจะปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา เรียกรอยยิ้มจากคนในห้องอีกครั้ง
"ไอ้เพอร์เฟคเอ๋ย อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง" เสียงท่านประธานบ่นลูกชายด้วยความภูมิใจเหลือเกิน
"อ้าปากค่ะ หมอขอดูคอนิดนึงนะคะ" เสียงหวานบอกคนไข้วัยเจ็ดขวบตรงหน้า ก่อนจะใช้ไฟฉายส่องเข้าไปที่ช่องปากแล้วดูอย่างรวดเร็ว
"โอเคค่ะเก่งมาก" คุณหมอสาวชมก่อนจะเขียนใบสั่งยาลงไป
"ห้ามทานน้ำเย็น ขนมห่อกรุบกรอบ ของทอดของมันนะคะ ทานอาหารที่มีประโยชน์ทานยาตามเวลา เดี๋ยวก็หายค่ะ" เสียงหวานใสอธิบายกับคนไข้และผู้ปกครองก่อนจะบอกลา
"คุณหมอครับ ถ้าผมหายป่วยแล้ว จะได้เจอคุณหมออีกไหมครับ" คนฟังยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะมองคนไข้ด้วยความเอ็นดู
"ไม่เจอที่นี่ดีแล้ว แต่เจอข้างนอกก็ทักหมอได้ค่ะ พี่ชื่อหมอนุช" คนไข้ยิ้มกว้างออกมาก่อนที่แม่จะดึงมือออกไปด้วยความอาย ตัวเท่านี้อยากจีบหมอ พยาบาลในห้องหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะถามออกมา
"หมอนุชเสน่ห์แรง ขนาดเด็กน้อยยังติดใจ " ธีรนุชส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะขยับแหวนนพเก้าที่ใส่ติดนิ้วมาหลายปี
"พี่เธียรเค้าอยู่ไกล ห่างจากนุชมากในตอนนี้ แต่นุชก็ยังมีโอกาสที่จะตามพี่เค้าทัน ถ้านุชคิดว่านุชจะไม่เสียใจถ้าวันหนึ่งต้องผิดหวัง"
เสียงคุณท่านบอกด้วยความเมตตาหลังจากที่บังเอิญเห็นรูปหลานชายของตัวเอง เสียบคั่นเอาไว้ในหนังสือของเด็กสาววัยสิบหกปี
ผู้เป็นย่า เรียกธีรนุชมาถามก่อนจะมอบแหวนวงนี้ให้หลังจากที่ธีรนุชสอบติดแพทย์และย้ายออกมาอยู่หอพักใก้ลมหาวิทยาลัย
"ย่าให้นุชสวมเอาไว้ เผื่อมีใครเข้ามาทำให้นุชหวั่นไหวหรือไขว้เขว นุชจะได้รู้ว่า นุชยังมีย่าเป็นกำลังใจให้นุชเพื่อหนุนให้นุชเข้าใก้ลพี่เธียรมากที่สุด แต่ถ้านุชคิดว่าจะเปลี่ยนใจจากเธียร ย่าก็จะไม่ว่านุชเลย"
แม้ว่าจะได้นอนบ้านรั้วเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกันมานับสิบปี แต่ธีรนุชกลับเลี่ยงจะพบเจอเธียรวิทย์ทุกครั้งที่มีโอกาส จากเด็กเล็กจนโตเป็นสาวรุ่นแขนขายาวเก้งก้าง กลายมาเป็นนักศึกษาแพทย์ ธีรนุชจึงย้ายออกมาอยู่หอพักเกือบสี่ปี แม้จะกลับไปกราบคุณท่านทุกเดือน แต่เธอกลับไม่กล้าเจอเค้าเหมือนเดิม ความรักในวัยเด็กหล่อหลอมให้เธอมีพลังใจในการเรียนแม้จะยากลำบาก แต่ความรักที่ไม่คาดหวังนี้ ทำให้เธออบอุ่นใจเหลือเกิน ขอแค่เธอได้มีโอกาสตอบแทนคุณท่าน ได้ดูแลเค้าบ้างในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ได้แอบมองเค้าในช่วงระยะไกลๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เธอไม่ได้หวังอะไรอีกแล้ว
คุณหมอสาวยิ้มจางๆออกมา ก่อนจะกล่าวทักทายคนไข้รายสุดท้ายของวันอย่างอ่อนล้า งานวันนี้ปิดจ้อบที่คิว83คน คนสวยจะเป็นลม ตารางตรวจคนไข้นอกแน่นขนัดอย่างเลี่ยงไม่ได้ทีเดียว
บ้านหลังใหญ่รั้วสูงลิบเนื้อที่นับสิบไร่ใจกลางเมือง ประเมินมูลค่าไม่ได้เป็นบ้านพักของเจ้าของกิจการหลายอย่างของตระกูลนี้มาหลายสิบปี เดิมที่เจ้าของที่เป็นพ่อสามีของคุณหญิงทิพย์ เป็นข้าราชการฝ่ายใน แต่ลาออกมาทำการค้าขาย และเจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ แม้จะร่ำรวยรุ่งเรืองเพียงใด แต่ตระกูลนี้มีลูกน้อยเหลือเกิน คุณหญิงมีเพียงลูกชายคนเดียว และลูกชายของนางก็มีเพียงเธียรวิทย์เท่านั้น ทรัพย์สินที่ตระกูลนี้หามาได้ จึงทำบุญทำกุศลเสียมากกว่าใช้จ่าย ยิ่งหลานชายที่ขยันหาเงินเปิดช่องทางธุรกิจใหม่ๆอยู่เสมอ ยิ่งทำกำไรเพิ่มมากขึ้นทุกปี จนพูดได้ว่ากินใช้ทั้งชีวิตไปอีกหลายรุ่นก็ไม่หมด
เสียงรถตู้แล่นเข้ามาจอดในช่วงค่ำ แม่บ้านรีบโผล่หน้าออกมาดูก่อนจะสั่งการให้เด็กๆเตรียมหาของว่างหรืออาหารค่ำเอาไว้รอ คุณหมอสาวนั่งไม่เป็นสุขเลย เธอยังไม่อยากเจอหน้าเค้าตอนนี้ มือบางที่กำลังถือหนังสืออยู่สั่นระริกจนคนนั่งฟังนิทานชาดก อดยิ้มขำออกมา
"อยากจะหนีหรอหมอนุช" เสียงคุณย่าพูดออกมา ธีรนุชลดหนังสือลงก่อนจะหาที่คั่นมาคั่นหน้าหนังสือเอาไว้
"อย่าหนีเลย เราควรจะพร้อมได้แล้ว สิบกว่าปีมานี้ยังหนีไม่พออีกหรอไง "
สิ้นเสียงคุณหญิง ชายหนุ่มรูปร่างสูงกว่า185เซนติเมตร ก็เดินตรงเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
"สวัสดีครับคุณย่า ยังไม่ขึ้นนอนหรอครับ" หลานชายยิ้มกว้างออกมา ปากเอ่ยทักทาย แต่สายตากับมองไปที่สาวน้อยชุดสีหวานที่นั่งอยู่ข้างๆแทน
ธีรนุชวางหนังสือลงข้างตัวก่อนจะยกมือไห้วคนตัวโตอย่างเขินอาย
"สวัสดีค่ะคุณเธียรวิทย์" น้ำเสียงหวานใส เอ่ยทักทาย เธียรวิทย์ หรี่ตามองแล้วยิ้มน้อยๆออกมา
"โตแล้วไม่ใส่แว่นหรอ" เสียงทุ้มเรียกชื่อเธอออกมา
เค้าจำเธอได้ หญิงสาวใจเต้นตุบตับทันทีที่ได้ฟังคำถามแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตรงหน้าแทนคำตอบ
"ยังใส่เวลาอ่านหนังสือค่ะ" ชายหนุ่มนั่งนิ่งทันทีที่ได้มองคนตรงหน้าชัดเจน จากเด็กตัวเล็กที่เค้าเคยเห็นแวบๆตอนลงไปเล่นที่สนาม กลายเป็นเด็กสาวตัวผอมใส่แว่นเดินมาพร้อมกองหนังสือในวันหยุด ข่าวล่าสุดที่ได้ฟังคือ เป็นนักศึกษาแพทย์ไปแล้ว
ดวงตาดำสนิทกลมโต จมูกโด่งเป็นสัน กับแก้มใสที่มีเครื่องสำอางค์บางๆติดอยู่ ริมฝีปากบางเฉียบทาลิปสีชมพูอ่อน ลำคอขาวผ่อง เผยให้เห็นชุดเดรสสั้นสีสวย น่ามองเหลือเกิน เธียรวิทย์มองคนตรงหน้าแล้วยิ้มออกมา เค้าพอใจเธอเหลือเกิน ไม่ใช่สวยติดตา แต่น่ามองมากกว่า
"ทำไมมาเร็ว ทานข้าวหรือยังลูก" คุณหญิงแสดงตัวตนหลังจากปล่อยให้หลานชายตัวดีมองดูเด็กของนางอยู่นาน เธียรวิทย์ส่ายหน้า
"ยังครับ หิวแล้วด้วยแต่งานยังไม่เสร็จ" คนโดนถามอ้อนจนหญิงต่างวัยแอบอมยิ้ม ไปคนละทาง เสียงคุณหญิงเรียกหาแม่บ้านให้เตรียมตั้งโต้ะเอาใจหลานชายทันที แต่เจ้าตัวส่ายหน้า
"ผมขอทานที่ห้องรับรองดีกว่าจะได้ทำงานด้วย" คนงานรีบกระวีกระวาดทันทีหลังจากได้รับคำสั่ง
"ย่าไปนอนดีกว่า หมอนุชจะได้พักผ่อน" คุณหญิงบอกคนทั้งคู่ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น หลานชายรีบพยุงแขนย่าตัวเองก่อนจะส่งสายตาให้หญิงสาวตามมา ธีรนุชเดินตามคนที่คู่มาอย่างเงียบก่อนจะเปิดลิฟต์ออกอย่างรู้หน้าที่
"ไปเถอะทั้งคู่เลย ย่าจะนอนแล้ว" เสียงคุณหญิงสั่งก่อนจะหลับตาลงบนเตียงนอนหนานุ่ม เด็กรับใช้เข้ามาประจำการดูแลท่านต่อ ธีรนุชอยากจะออกจากห้องไปเสียก่อนเค้า แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธียรวิทย์ปิดประตูห้องนอน ก่อนจะเรียกชื่อเธอ
"นุชช่วยถือของหน่อย"
ห้องทำงานขนาดใหญ่ที่อยู่อีกชั้นของตัวบ้าน ทำให้คนทั้งคู่ต้องเดินตามกันขึ้นบันไดขึ้นมา คุณหมอมองด้านหลังของคนที่แอบชอบมานานในระยะประชิดแบบนี้ก็อดยิ้มออกว่าไม่ได้ ขนาดค่ำแล้วเค้ายังดูดี แม้เสื้อทำงานจะยับแถมชายเสื้อยังหลุดออกมาแต่ก็ยังเท่ สาวน้อยไม่ได้มีโอกาสใก้ลชิดเค้าขนาดนี้มาก่อนได้แต่มองตามแผ่นหลังของเค้าไปจนสุดทางเดิน ก่อนที่คนเดินนำหน้าจะหันกลับมา แล้วมองดูคนตามหลังในระยะประชิด
ขาที่ก้าวขึ้นไปสะดุดกึกก่อนที่เหมือนจะเซน้อยๆเธียรวิทย์คว้าไหล่บอบบางเอาไว้ก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวอย่างรวดเร็ว เสียงใจเต้นตุบตับตรงหูของเธอที่แนบกับอกของเค้าอย่างตกใจ ชายหนุ่มบ่นเบาๆออกมา
"เดินดีๆสิกี่ขวบแล้วใจลอยไปไหน"
พี่เธียรเป็นความหวัง เป็นเป้าหมายในชีวิตสำหรับเธอ แม้จะลงเดิมพันไปแล้ว แต่หากโชควาสนาไม่เอื้อต่อกัน การที่เค้าจะมองเธอก็คงยาก เพราะชายหนุ่มคนนี้ มีผู้หญิงมาให้เลือกมากมายนัก“พี่เธียรรู้ไหมว่า นุชตั้งใจจะต้องเป็นแฟนพี่เธียรให้ได้ “ เธอถามเค้าออกมา เธียรวิทย์พยักหน้า แล้วดึงมือเธอมาจูบแหวนเพชร แหวนหมั้นที่สวมด้วยกัน เป็นแหวนที่ใช้ในงานวันขอพายในครอบครัว และงานใหญ่ในพิธีสู่ขอ“นุชน่ารัก เป็นเด็กดีมาตลอด พี่ต่างหากที่เป็นคนไม่ดี สำมะเลเทเมา ทำให้นุชเสียใจ ถ้าใครจะบอกว่านุชจับพี่ พี่อยากจะบอกให้เค้าคิดใหม่ พี่ต่างหากที่จับนุชเอาไว้ พี่โปรยเสน่ห์ใส่เด็กหญิงตัวผอมเก้งก้าง พี่ทำของใส่ด้วยตำราวิชาการ และของใช้หลายอย่างผ่านคุณย่า พี่เฝ้ารอ แม้จะทำตัวไม่ดี แต่พี่ก็ไม่ให้ใครมาจับพี่ง่ายๆไม่เหมือนกับนุช ที่พี่เอาตัวเอง ไปให้นุชจับ “คนหลงเมียบอกตามตรง แล้วมองคนที่นั่งน้ำตาคลออยู่“ไม่ร้องนะคะ นุชมีค่ามาก สำหรับพี่ สำหรับครอบครัวของเรา ไม่ว่าใครจะว่ายังไง นุชก็เป็นนุช ผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของพี่ “ธีรนุชก้มลงจูบที่ปากของเค้า จูบอ่อนโยนที่ภรรยาเริ่มต้น ทำให้ความต้องการของสามีพุ่งทะยาน ตั้งแต่แ
อัลบั้มรูปเล่มหนาในมือที่เธอถืออยู่ มีภาพงานวันรับปริญญาที่เต็มไปด้วยความสุข แม้จะเหนื่อยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง แต่ความอบอุ่นหัวใจ มีมากกว่าที่เคยคิดไว้ รถตู้คันใหญ่ เต็มไปด้วยข้าวของส่วนตัว ที่จำเป็นต่อการยังชีพภายใน1วัน จอดประจำการ ใกล้ที่สุด สำหรับการอำนวยความสะดวกให้สะใภ้คนเดียวของบ้าน อาหาร น้ำดื่ม ที่แม่เตรียมให้ลูกสาว ในวันสำคัญ และยังเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนลูกอีกด้วยนักธุรกิจหนุ่ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายริ้ว เดินวนเวียนอยู่ไม่ห่างแฟนสาว แม้จะมีสาวๆเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก แต่ระยะห่าง ที่เจ้าตัวทิ้งห่าง ทำให้กลายเป็น ครูกับนักเรียน ยังไงยังงั้นเลย“ทำอะไรอยู่คะ “ เธียรวิทย์นั่งลงบนเตียงแล้วมองดูคนขี้แยกำลังน้ำตาคลอ ภาพกลุ่มเพื่อนที่จัดแจง เซอร์ไพรส์ กันอย่างพร้อมหน้า พร้อมตา เป็นภาพที่ยังอยู่ในความทรงจำ“พี่เธียร ทำยังไงคะ ถึงได้รวมเพื่อนมาได้ “ เธียรวิทย์เสียมารยาท ขอแต่งงานแฟนสาวที่งานรับปริญญาเสียเลย เค้าตั้งใจแค่ว่า จะทำให้เพื่อนและคนรู้จักของเธอ รับรู้ว่า ธีรนุช ไม่ใช่ของเล่นของเค้า แต่เป็นของมีค่าที่เค้ารักและหวงแหนงานวันรับปริญญา ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว เพื่อนสนิทในรุ่นนั
"แต่งงานหรอคะ " ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน แล้วมองฝ่ายชายที่ชูแหวนของตัวเองขึ้นมา"เป็นการภายใน จดทะเบียนสมรสแล้วเรียบร้อย ตอนนี้ ผมอยู่ในกำมือเมียเรียบร้อยแล้วครับ " คนพุดเปลี่ยนอารมณ์แล้วจับแก้มคนข้างๆอย่างง้องอน เพราะคิดว่าเมียคงเสียใจมาก"ไม่มีอะไรแล้วก็เชิญนะครับ อาหารมาแล้ว ผมขอเวลาส่วนตัว " เค้าไล่แขกทันทีธีรนุชยิ้มหน้าเจื่อน เธอพยายามจะเข้าใจว่าเค้าไม่ใช่คนแรกของเธอ เค้ามีประสบการณ์มามากมาย แต่เธอก็หวงเค้าเหลือเกิน"พี่ขอโทษนะคะ ที่ทำให้นุชตกอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดใจ "เค้าลูบแก้มของเธอแล้วประคองแก้มทั้งสองข้างไม่สนสายตาใคร"นุชหวง นุชหวงพี่เธียร " คำพูดของเธอทำเอาเค้ายิ้มกว้าง เค้าชอบที่เธอหวงเค้า ชอบมาก"ยังจะมายิ้มอีกค่ะ นุชบอกว่านุชหวงพี่เธียรค่ะ ""พี่ชอบมากที่นุชหวงพี่ พี่ขอโทษที่ทำให้นุชเสียใจ พี่ย้อนอดีตไปไม่ได้ แต่รับรองว่า พี่มีนุชแล้ว ก็จะมีแค่นุชคนเดียว แค่นุชคนเดียวนะคะ " ธีรนุชพยักหน้าน้ำตาคลอ เธอรักเค้าเหลือเกิน เธอรู้มาตลอดตั้งแต่เริ่มชอบเค้าว่าเค้ามีผู้หญิงมากมาย เธอไม่สนใจอดีตของเค้า ขอแค่ตอนนี้ที่เค้ามีเธอและอนาคตต่อจากนี้ ไม่มีใครเพิ่มเติมก็พออาหารหลายชนิดนำมาเ
ภาพที่คนทั้งคู่เดินเข้ามาในร้านอาหาร ทำเอากลุ่มสาวๆต้องมองกันด้วยความตกใจ ที่คนที่เพิ่งตกเป็นหัวข้อสนทนา ปรากฎตัวตรงหน้าพร้อมกับคนข้างกาย ที่ไม่ใช่คนในแวดวงเดียวกัน นางแบบสาวมองทั้งสองคนแล้วหันมามองเพื่อนที่ไม่พอใจกับภาพที่เห็น อุ้งอิ้ง ตามเธียรมาสักพักใหญ่แล้ว แม้จะรู้ว่าเค้ามีคนมาวอแวอยู่ไม่น้อย และช่วงหลัง เธอก็ได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศหลายเดือน จึงทำให้ห่างหายกันไปบ้างแต่ความเป็นอุ้งอิ้งที่มั่นใจในตัวเองมาตลอดว่า เธอเอาเค้าอยู่แน่นอน กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเค้า มีคนข้างกายอยู่ในตอนนี้ กระเป๋าสะพายใบเล็กที่ฝ่ายหญิงถือ เป็นของดีมีราคา การแต่งกายอาจจะไม่ใช่แบรนด์เนม แต่ก็ไม่ใช่ราคาตลาดนัดแน่ ชายหนุ่มในชุดทำงาน ที่ถอดสูทออก ไม่มีไทด์ เป็นภาพสบายๆแบบที่น้อยคนจะได้เห็นมุมที่ไม่หล่อเนี๊ยบของเค้า" แก ใจเย็น จะบุกตอนนี้เลยหรอ " เพื่อนสาวดึงสติคนที่กำลังโกรธสุดขีด เธอรู้ว่าเค้าขึ้นคอนโดคนอื่น รู้ว่าเค้ามีคนอื่น แต่การพามาร้านที่คุ้นเคยกัน ร้านประจำที่เธอเคยมากับเค้า ทำให้เธอเข้าใจได้ว่า เธียรวิทย์ไม่แคร์เธอเลย" ควรบุกไหมละ ควรไหม มันหยามเกินไป " ดาราสาวบอกเ
รถไฟฟ้าทำให้เธอมายืนที่หน้าตึกใหญ่ คนข้างตัวอ้อนนักอ้อนหนาว่าอยากพาเธอมาที่ทำงาน แต่คุณหมอสาวไม่มีเวลาจริงๆ บ่ายๆแบบนี้ การที่เธอมาหาเค้า อาจจะทำให้เค้า หายเหนื่อยได้บ้างประชาสัมพันธ์สาว มองคนตรงหน้าแล้วยิ้มอย่างสุภาพ“ชั้นบนสุด เป็นชั้นท่านประธานค่ะ ลิฟต์จะถูกล็อกเอาไว้ค่ะ คุณสุภาพสตรี ต้องให้ทางนั้น ลงมารับค่ะ “คุณหมอสาวยิ้ม แล้วเดินไปนั่งที่โซฟารับแขก พร้อมกับกดโทรศัพท์โทรออกในทันทีเลขาของท่านประธานเดินลงมาที่ชั้น1อย่างรวดเร็ว พร้อมกับบอกที่โต๊ะพนักงานต้อนรับว่า“ถ้าเป็นคนนี้ อำนวยความสะดวก ได้เลยนะ “ คำบอกกล่าวสั้นๆทำเอาคนที่ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน งงเป็นไก่ตาแตก เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกชายหนุ่มก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าที่ยังรอการพิจารณาอยู่หลายอย่าง งานบริหารที่รอการอนุมัติและต้องประชุมเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย เป็นงานของผู้บริหารเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ทำให้คนในห้อง เงยหน้าขึ้นมา แล้วบอกอนุญาตให้เข้ามาได้รองเท้าสีครีม กับกระโปรงสีอ่อน ทำให้เค้ายิ้มออกมา เธอเดินเข้ามาช้าๆ ภายในห้องทำงานของเค้าเธียรวิทย์ตาเป็นประกาย หมอนุชน่ารักในแบบของเธอ ไม่หวือหวา ไม่ฉูดฉาด แต่สงบร่มเย็นเหล
ดาราสาวมองคนทั้งสองคนที่เดินเคียงคู่กันเข้ามาภายในคอนโดที่เธออาศัยอยู่ ฝ่ายชายเป็นคนที่เธอเคยคาดหวังว่าจะได้เค้ามาเป็นคู่ควง ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์ ปาร์ตี้ที่บ้านของเค้า เธอก็ไปตั้งหลายครั้ง แม้จะมีคนในวงการอีกหลายคน ที่มองเค้าอยู่ แต่เธอคิดว่า ภาพของเธอ ดีกว่าใครอีกหลายคนฝ่ายหญิงสวมชุดสูทสีครีมเดินเคียงข้างกัน เธอไม่ทราบมาก่อนเลยว่า คนอย่างเธียรวิทย์จะขึ้นคอนโดใคร ใบหน้าสวยเดินตรงเข้าไปหานิติบุคคลที่ห้อง พร้อมกับขนมถุงใหญ่ ที่แฟนคลับนำมาให้ในวันนี้“สวัสดีค่ะ อุ้งอิ้งมาดูพัสดุค่ะ “ ดาราสาวทักทายพร้อมรอยยิ้ม แล้วมองกล่องพัสดุจำนวนมาก ที่ตัวเองสั่งออนไลน์มานิติบุคคล เข็นรถเข็นที่อยู่ด้านข้าง แล้วลำเลียงของที่วางเอาไว้นับสิบกล่องใส่รถเข็นให้ทันที“ขนมค่ะ อุ้งอิ้งเอามาฝาก “ เธอยิ้มหวานแล้ววางถุงขนมลงบนโต๊ะ“เมื่อกี้เห็นแวบๆว่าคุณเธียรใช่ไหมคะ เห็นไม่ชัด “เธอถามออกมาระหว่างที่พนักงาน ช่วยเข็นรถมาส่งที่ห้อง“ใช่ค่ะ คุณเธียรวิทย์กับคุณธีรนุชค่ะ “ พนักงานสาวตอบตามตรง“มาอยู่นานแล้วหรอคะ อุ้งอิ้งไม่เคยเจอ “ เธอถามออกไปพร้อมรอยยิ้ม ทั้งที่ในใจเดือดปุดๆเพราะไม่ชอบภาพที่เห็นเลย“ความจริงแล้ว







