มันใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว หากเขาไม่วิ่งหนีไปในวินาทีนี้ เขาคงไม่รอดจากงูตัวนี้เป็นแน่ เขารนรานหวาดกลัวจนสติกระเจิง ก้มมองหญิงสาวที่นอนสลบอยู่ตรงหน้าอย่างเวทนาใจ
“ฉันคงพาเธอไปด้วยไม่ได้ ขอโทษจริงๆ ฉันไปละโว้ย”
ว่าแล้ว เจ้าอัคนีตัวร้ายก็วิ่งสุดชีวิต โดยออกไปทางด้านข้างของรีสอร์ท ซึ่งเป็นแนวป่าขนาดย่อมที่มีเส้นทางทะลุออกไปยังถนนใหญ่ด้านหน้า
เขาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งแบบคนหนีตาย!!!
โดยปล่อยให้ร่างไร้สติของหญิงสาวโชคร้ายนอนเป็นเหยื่ออันโอชะของงูจงอางยักษ์ขนาดห้าเมตร...หากงูตัวนั้นไม่ใช่มนุษย์ครึ่งงูที่มีหัวใจให้เธอแล้วล่ะก็ คืนนี้เธอคงไม่รอดคมเขี้ยวนั้นไปได้
จงอางจ้องมองเรือนกายขาวโพลนของหญิงสาว ภายใต้แสงจันทร์ที่อาบไล้ไปทั่วทุกซอกทุกมุม กลิ่นกายของเธอทำให้หัวใจของจงอางสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง เขาอยากเข้าไปรึงรัดเธอไว้ทั้งตัวแล้วสอดใส่เข้าสู่กายเธอจนหนำใจ พ่นพิษรักให้ทั่วสรรค์พางกายหอมหวานนี้เต็มไปด้วยพิษรักจากกายเขา
แต่เขาก็ทำไม่ได้อย่างใจสิเน่หา เธอไร้สติและคงสติแตกหากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ากำลังร่วมรักกับงูตัวเป็นๆ ซึ่งเป็นเพียงสัตว์เลื้อยคลานเลือดเย็นที่มนุษย์เรียกว่าอสรพิษ
ถึงแม้ว่ามันเป็นโอกาสที่จะทำให้เขาเป็นมนุษย์ แต่เขาก็ไม่อยากเห็นเธอช็อคจนเสียสติหรือตายไปต่อหน้าต่อตา มันยังไม่ถึงเวลา เธอไม่ได้รักเขา เหมือนที่เขารักเธอ เขาจึงควรห้ามใจ ห้ามกาย ห้ามตัณหาราคะอันร้อนแรง และทำได้ดีที่สุดในยามนี้
นั่นคือเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆจนกว่าเธอจะตื่นขึ้นมา
ทว่า ไม่ทันที่เขาจะเลื้อยไปแอบหลังโขดหิน หญิงสาวกลับลืมตาตื่นขึ้นมาจากความมึนงงในวินาทีนั้นเอง และเมื่อเปลือกตาของเธอเปิดขึ้นจนหมดสิ้น สิ่งแรกที่เธอได้เห็นก็คือ...
“งู!!!” เธอช็อคจนอ้าปากค้าง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ความหวาดกลัวและความสยดสยองระเบิดขึ้นในหัวของเธอราวกับพลุไฟ เธอเกือบจะกรี๊ดออกมาแล้ว แต่เสียงไม่ทันหลุดจากลำคอ เจ้างูยักษ์เคลื่อนตัวเร็ว กระโจนเข้าหาเธอแบบไม่ทันตั้งตัว
“ว๊าย....” ความแรงของมันผลักเธอให้นอนแผ่ลงไปกับพื้นหญ้าที่เย็นเฉียบ แล้วสติของเธอก็หลุดหาย
เธอเป็นลมหมดสติไปพร้อมกับความรู้สึกว่าเธอคงตายไปแล้วแน่ๆ
ตายเพราะโดนงูกัด!
“อือ....”
เธอครางออกมาแผ่วเบา ขณะงูจงอางยักษ์เลื้อยรัดไปตามลำตัวที่เปลือยล่อนจ้อนของเธอ
“ที่รัก...” เธอเรียกงูตัวนั้นด้วยเสียงอันหวานหวิว ก่อนใช้มือลูบไล้ลำตัวยาวเฟื้อยของอสรพิษที่พันร่างของเธอไว้อย่างโหยหา พึงพอใจอย่างที่สุด “ทำให้ฉันมีความสุขสิคะ”
เธอหลับตาพริ้มอย่างคนฝันหวาน ก่อนรู้สึกได้ถึงการล่วงล้ำเข้าไปภายในของบางสิ่ง ที่ชวนให้เธอเสียวสะท้านไปทั้งตัว
“โอ้ววววว....” หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนกรีดร้องแผ่วเบายามน้ำรักล้นทะลักออกมาจากปากถ้ำ เธอกระตุกซ้ำๆก่อนบิดบ่ายเนื้อตัวไปมาด้วยความสั่นสะท้าน “อ๊า....”
“ยัยผึ้ง!!!” เสียงเรียกที่ดังลั่นดังมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ แต่มันทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากฝันบ้าบอคอแตกของเธอ “แกอยู่ไหน!!!”
แพรทองลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ
“เช้าแล้วเหรอ???”
แสงแรกจากดวงตะวันสาดส่องลงมาจนทั่วบริเวณ เป็นแสงสีทองสุดแสนจะอบอุ่นและหนาวยะเยือก เธอลุกขึ้นนั่ง แล้วหันมองโดยรอบ เธอนอนอยู่ริมลำธารทั้งคืนโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆเลยอย่างนั้นหรือ?
“ฉันไม่ได้...ถูก..งู...” เธอไม่ได้ถูกงูกัด ทว่า ในฝัน เธอกับงูตัวนั้นกลับทำอย่างอื่นด้วยกัน “ใช่จริงๆด้วย งูตัวนั้น เหมือนงูที่อยู่ในฝันเราเลย”
“ยัยผึ้ง” วิมาลาวิ่งมาถึงตัวเธอแล้วหยุดหอบหายใจ จนหน้าอกอวบกระเพื่อมไม่หยุด “แกอยู่นี่เอง หายไปนอนที่ไหนมาทั้งคืนห๊า หรือว่า...นี่อย่าบอกนะว่าแกมานอนชมวิวเล่นที่นี่ทั้งคืน”
แพรทองยิ้มอ่อนๆให้เพื่อน ก่อนลุกขึ้นยืน ปัดเนื้อปัดตัว ปัดเศษใบไม้ให้หลุดออกจากเสื้อผ้า
“อืม สงสัยฉันจะนอนอยู่ที่นี่ทั้งคืน”
“ต๊าย! นี่แกบ้ารึเปล่า อากาศหนาวจะตาย มานอนได้ไง อีกอย่าง แกไม่กลัวงูกลัวตะขาบจะฉกบ้างรึไงห๊า”
“เออสิ ก็ยัยสาวิตรีน่ะมันชอบคินมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอโตขึ้นมันก็ร้องจะฆ่าตัวตายถ้าไม่ให้มันแต่งงานกับคิน”“ว๊ายตาย อยากมีผัวจนตัวสั่นเลยเหรอ”“แล้วทำไมเขาตกลงล่ะ” แพรทองเองที่อยากรู้ “หรือว่าตอนนั้นก็แอบมีใจให้ยัยนั่นอยู่เหมือนกัน”“ฉันว่าไม่ใช่ เดาว่าคินทำตามที่พ่อต้องการ และตอนนั้นเขาก็ไม่ได้มีใครด้วย ไม่เหมือนตอนนี้...”วินาทีนั้นเองที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น...ก่อนชายหนุ่มจะก้าวเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทีตื่นเต้นดีใจ“วุฒิ กลับมาแล้วหรือคะ”“ใช่ ผมได้หลักฐานมาแล้วนะ แล้วก็จัดการส่งให้ตำรวจแล้ว ตอนนี้นายอัคนีถูกเรียกไปสอบสวนแล้ว”ทั้งสามสาวพากันดีใจเฮละโล “แล้วภาพจากกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทเราล่ะ?”“แน่นอน” ชาญวุฒิหมายมั่นปั้นมือ “ภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวนายอัคนีแบบดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ”“อะไรนะ นี่มีภาพจากกล้องวงจรปิดด้วยเหรอ” แพรทองถามอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอยัยสา?”“ใช่ ไม่ต้องห่วงนะ ถึงพ่อมันจะใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าหลักฐานมันชัดขนาดนี้ มันก็หนีคุกหนีตะรางไม่พ้นหรอก” วันวิสาพูดด้วยความสะใจ “โทษฐานที่มันล้วงคองูเห่า”ใครบอกว่าล้วงคองูเห่า...มันล้วงคองูจงอางต่างหาก!!!“อ้อ สาจ๊ะ ได้ข่าวเรื่องบ
เธอลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างโหยหา “อะไรคะ”“ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันในคืนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จะล้างคำสาปในตัวผมจนหมดสิ้น แล้วผมจะกลายเป็นมนุษย์เต็มตัว ไม่ต้องเป็นงูอีกแล้ว”“หืม...” หญิงสาวรู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “จริงหรือคะ?”“จริง คุณจะช่วยล้างคำสาปให้ผมรึเปล่า”“ช่วยสิคะ แล้วฉันต้องทำยังไง”“คุณก็แค่รักผมให้มากๆ และยอมให้ผมทำอะไรกับคุณก็ได้ในคืนนั้น”“ทำอะไรก็ได้ หมายถึงกัดรึคะ” เจ้าหล่อนยิ้มยั่ว“มั้ง” เขายิ้มพรายก่อนก้มลงจุมพิตที่ปลายจมูกสวยของหญิงสาว “แต่อีกตั้งเดือนกว่าจะถึงวันเพ็ญ คุณก็ต้องยอมเป็นเมียงูไปก่อนนะ”“ใครบอกคะ ฉันลาพักร้อนได้แค่สิบห้าวันเท่านั้น แล้วตอนนี้ก็ใช้ไปตั้งสามวันแล้วนะคะ ฉันคงต้องกลับกรุงเทพฯก่อนถึงวันเพ็ญ”“ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนหรอก”“ก็คอยดูว่าฉันจะไปได้รึเปล่า ฉันไม่ได้มีคู่หมั้นอย่างใครบางคนนี่คะ” เจ้าหล่อนแสร้งพูดเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อเตือนความจำของเขา“พรุ่งนี้ผมกูกถอนหมั้นแล้วคุณ”หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น “เหรอ?”เขายิ้มร่า ดูกะล่อนไม่เบา “ไม่เชื่อคุณก็คอยดูแล้วกัน”“อืม....อ้า!!!...” เขาใช้จังหวะที่หญิงสาวเผลอ ก้าวล้ำเข้าไปภายในของเจ้า
วันวิสาและวิมาลามองหน้ากัน รู้สึกทะแม่งๆกับท่าทางของเพื่อนสาวที่ไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนมาก่อน“อ๊ะๆ ทำไมห่วงนายคินขนาดนั้นยะ มีอะไรในกอไผ่รึเปล่าเนี่ยคู่นี้” วันวิสาแซว แพรทองทำหน้าแทบไม่ถูก เธอหันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง อย่างรู้สึกสำนึกผิด“วิ แกอย่าโกรธฉันนะ”วิมาลาจ้องแพรทองนิ่ง ก่อนเอ่ยเสียงขรึม “ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ”แพรทองก้มหน้านิดๆ เธอจะพูดอย่างไรดี ให้เพื่อนเสียใจน้อยที่สุด และไม่เกลียดโกรธเธอที่แย่งผู้ชายที่เธอหมายปองไปแต่เจ้าหล่อนไม่ทันจะตอบเพื่อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน วันวิสาเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้แขกที่ทุกคนกำลังรอคอย“นาคินทร์!!!” เขากลับมาแล้ว ในสภาพที่ปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด “ทุกอย่างเรียบร้อย คลิปของคุณถูกทำลายแล้ว ตอนนี้สองคนนั้นอยู่ที่โรงพักแล้ว ยอมออกไปมอบตัวด้วยตัวเอง”“จริงหรือคะ!!!” วิมาลาดีใจจนเกือบจะกรี๊ดออกมา “ขอบคุณนะคะคุณคิน คุณนี่ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยค่ะ แล้ววิจะเลี้ยงข้าวนะคะ”“แล้วคินทำยังไงให้พวกนั้นมันยอมมอบตัวได้” วันวิสาถามอย่างใคร่รู้นาคินทร์หันมองหญิงสาวที่กุมความลับเขาไว้ เธอยิ้มนิดๆให้เขา“ก็ไม่ได้ทำอะไร พวกมันคงสำนึกผิดเองมั้ง”“
“คุณอย่าชะล่าใจนะ หมองูคนนั้นท่าทางน่ากลัวจะตายไป บางทีเขาอาจจะมีคาถาอาคมแก่กล้าจนคุณนึกไม่ถึงก็ได้”เขาหัวเราะ “เอาเป็นว่า เรามาคอยดูกันคืนนี้ดีมั้ย ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเก่งสักแค่ไหน”“คุณนี่นะ ยังจะปากดีอีก ฉันว่าคืนนี้คุณอย่าอยู่ที่เมืองนี้เลย ไปไหนก็ได้ ให้มันไกลๆ เชียงใหม่เชียงราย หรือ...”“ไม่ ผมจะอยู่ที่นี่” เขาจับมือเธอแล้วบีบแน่น “ผมวางแผนจะออกไปเล่นงานลูกน้องไอ้อัคนีคืนนี้ ผมนัดแนะกับงูตัวอื่นๆไว้แล้ว พวกเขาเตรียมตัวกันหมดแล้ว ผมไปไหนไม่ได้หรอก”“คุณนี่ดื้อจริงๆเลย” เธอเริ่มจะหัวเสียแล้ว “เออ อยากทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ ฉันไม่ยุ่งด้วยแล้ว ขอตัวก่อน เดี๋ยวยัยสาจะมารับไปเยี่ยมยัยวิที่โรงพยาบาล”เจ้าหล่อนหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม เขาคว้าข้อมือเธอไว้“ผมไม่ยอมตายง่ายๆหรอกนะคุณ มีเมียสวยขนาดนี้จะทิ้งให้เป็นหม้ายได้ยังไง คืนนี้รอฟังข่าวดีนะ”ในที่สุดเธอก็แพ้เขา ยอมปล่อยเขาไป ตามที่เขาต้องการ เธอกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านพักเรียบร้อย ไม่นานนัก วันวิสาก็โทรศัพท์ให้เธอออกไปรอที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ทขณะเดินออกจากเรือนพัก เธอเห็นหมองู เสี่ยอาทรและลูกน้องสามสี่คน กำลังจัดเตรี
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี”ชายหนุ่มคว้ามือเธอมาจูบแน่น ก่อนเงยหน้ามองด้วยสายตาออดอ้อน “ผมรักคุณนะ รักคุณมากจริงๆ อดทนอีกนิด แล้วผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย รับรองว่าสาวิตรีจะทิ้งผมทันทีเลย”เธอหน้าตื่น “คุณจะทำยังไงคะ หรือว่าคุณจะเผยตัวตน”เขาส่ายหน้า “มันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น”ขณะนั้นเอง บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารกลางของรีสอร์ท ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา หนึ่งในนั้น มีบิดามารดาของวันวิสา และเสี่ยอาทร บิดาของอัคนีและสาวิตรีเดินมาด้วยกัน ดูจากสีหน้าท่าทางของทุกคน เหมือนมีเรื่องกังวลใจหนักหนา“มีเรื่องอะไรรึเปล่า เสี่ยอาทรถึงมาที่นี่”“ใครคะ”“โน่น พ่อของนายอัคนีตัวแสบ”“อ่อ ว่าที่พ่อตาคุณ”“เอ๊ะนั่น!” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเสี่ยอาทรเท่ากับชายชราอีกคน ที่สวมชุดขาวทั้งตัวและมีหนาวเคราขาวรกรุงรัง “หมองู”“ว่าไงนะคะ” เจ้าหล่อนหันไปมองตามสายตาของชายหนุ่มทันที “หมายความว่าไงคะ เสี่ยอาทรพาหมองูมาที่นี่ทำไมคะ”“คุณจะกลับห้องพักไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวผมจะไปคุยกับพวกเขาหน่อย เผื่อมีอะไรจะช่วยได้”หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงเขา แต่ก็ยอมทำตามที่เขาสั่ง เธอลงจากรถไปด้
“แต่พี่ชายตรียังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลยนะครับ”“พี่หินฟื้นแล้วค่ะ พ้นขีดอันตรายแล้วด้วย ตรีบอกป๊ากับม๊าแล้ว ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรนะคะ”แต่คนที่ขัดข้องคือว่าที่เจ้าบ่าวนี่แหละ เขายิ้มแทบไม่ออก ที่ยอมหมั้นในเวลานั้นก็เพราะบิดาใกล้เสียชีวิต อยากให้ท่านมีความสุขและสบายใจที่ลูกชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้“ไหนๆก็หมั้นกันมาตั้งหลายปีแล้ว แต่งกันสักที จะได้ไม่เป็นขี้ปากชาวบ้านเขา แม่ว่าจะไปสู่ขอน้องตรีอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ลูกคิดว่าไงจ๊ะ”“ผมยังไม่พร้อมครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมดุหันมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า เจ้าหล่อนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทันที“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมล่ะลูก นี่ลูกพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะ น้องตรีเสียหายมากนะลูก ถูกคนเขาเม้าท์ไปทั่วว่าลูกไม่เอา...”“คุณน้าคะ...” เจ้าหล่อนสะอื้นฮึกฮักขึ้นมาจนทำให้มารดาของชายหนุ่มสงสาร คว้ามากอดแนบอก “ไม่เป็นไรค่ะ ตรีรอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ”“ไม่เอานะลูก ไม่ร้องนะหนูตรี ยังไงพี่คินก็ต้องแต่งกับหนูตรีนะ”นาคินทร์ลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาควรต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะคนที่เ