บรรยากาศแสงส้มสลัวในขณะเดียวกับที่จอกำลังนวดลูกค้า เสียงเพลงที่ผ่อนคลาย เสียงเจ๊เฟียสกำลังบ่นตุลย์เหมือนกับทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่าหกถึงเจ็ดครั้ง
“เจ๊บอกกี่รอบแล้วว่าค่านวดอะลดราคาลงบ้าง แกไม่ได้อยู่ค้ำฟ้านะตุลย์ ถ้าวันนึงมีหมอนวดตัวท็อปเกิดใหม่ขึ้นมา ระวังแกจะขายไม่ออกเอานะ” เจ๊เฟียสพูดบอกตุลย์ให้ลดค่านวดลงบ้าง เพราะพักหลัง ๆ มานี้เกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยขึ้น เขากลัวลูกค้าจะเกิดการรีวิวจนร้านเกิดความเสียหาย “ใครล่ะเจ๊ ใคร ใครจะมาแทนผม” ตุลย์ถามกลับด้วยสีหน้าที่สงสัยและเบื่อหน่าย “เด็กปั้นแกนะสิ วันนี้ลูกค้าเอ่ยปากชมจนฉันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ไปติดใจจริตไอรามอีท่าไหน พอออกมาหน้าร้านหยอดทิปร้านไปตั้งห้าพันน่ะ ชั้นละปลื๊ม ปลื้ม” พูดจบเจ๊ก็หันหน้ามาที่ทิปบ๊อก ตุลย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็หันตามและนั่นทำให้เขารู้เลยว่าที่เจ๊พูดขึ้นมาคือความจริง เพราะเห็นแบงก์พันห้าใบพับม้วนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้าเงาวับสะท้อนออกมา ตุลย์จึงทำใบหน้าเฉยชาอย่างมีความคิดแฝงก่อนจะถามออกไปด้วยความสงสัย “ลูกค้าที่ไหนละครับเจ๊” “ไม่รู้เหมือนกันไม่เคยเห็นหน้า ฉันก็พึ่งเคยเจอวันนี้วันแรกก็ตอนที่ฉันกลับมานั่งอยู่หน้าร้านนี่ล่ะ แต่บอกเลยนะว่าหล่อฟีลไฮโซมาก ๆ คือดีมากเว่อร์แก๊” เจ๊เฟียสพูดออกไปด้วยท่าทางดี้ด๋า ตุลย์ที่ได้ยินก็ทำหน้าฉีกยิ้มกรุ่น แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ก่อนจะเดินออกไปจากหน้าร้านและเดินเข้าไปหารามที่โซนห้องนวดวีไอพี ซึ่งในระหว่างที่ตนเดินไปเขาก็เห็นรามกำลังยืนหยิบผ้าขนหนู และเตรียมของเพื่อนำไปไว้ห้องนวดสำหรับการรับลูกค้าคนต่อไป รามที่ระหว่างเตรียมได้เห็นตุลย์เดินเข้ามาพอดี ด้วยความที่เฟรนลี่ของรามจึงได้กล่าวทักทายไป “อ้าวไงพี่ เป็นไงบ้างวันนี้” รามพูดไปพลางเดินหยิบของนู่นนี่นั่นอย่างไม่หยุดนิ่ง ตุลย์ที่เห็นแบบนั้นจึงละสายตาแล้วมองไปรอบ ๆ ห้องก่อนจะหันหน้ามามองและพูดกับราม “เออไง ก็ดี ๆ” ก่อนตุลย์จะทำทั้งห้องเดตแอร์ไปชั่วครู่ก่อนรามจะพยักหน้าให้ตุลย์รับรู้ ตุลย์ที่อยากจะคุยแต่ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรเลยเอาเรื่องเมื่อครู่มาถาม “เอ่อ เมื่อกี้เจ๊บอกได้ลูกค้าไฮโซมาหรอ เป็นไงบ้างหละ เห็นเจ๊บอกว่าบริการดีจนลูกค้าทิปหนัก ๆ เลย ใช่ป่ะ” ตุลย์พูดถามออกไปพลางใจเต้นไม่เป็นจังหวะมันเหมือนกับใจตุ่ม ๆ ต่อม ๆ ที่เหมือนจะรู้สึกดีแต่ก็ไม่ดี มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเหมือนมีผีเสื้อมาบินในท้องและลามไปบินในหัวใจแทน “ก็เอาเทคนิคที่พี่สอนมาใช้นิดหน่อย ที่เหลือน่าจะเป็นเทคนิคส่วนตัวน่ะครับพี่ ฮ่า ๆ” รามตอบกลับไปพร้อมกับวาจาที่เอาใจ พร้อมใส่จริตอารมณ์ดีเข้าไปในใบหน้าอันคมเข้มจนตุลย์มองด้วยความเอ็นดูแบบหลากหลายความรู้สึกในความคิดและจิตใจ “อ๋อดีแล้วละ นี่ขนาดยังเข้ามาไม่ถึงเดือนทำได้ขนาดนี้ ก็ยินดีด้วยนะเว่ย” พูดจบตุลย์ก็เอามือไปจับไหล่รามอย่างประหม่า มันเหมือนจะกล้าแต่ก็กลัว กลัวว่ารามจะไม่ให้ตนแตะต้องอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น มันทำให้ทั้งคู่มองหน้ากันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป “ครับพี่ พี่มีอะไรอีกป่าว ผมจะไปจองห้องลูกค้าให้เจ๊ต่อละ” รามกล่าวถาม มันเหมือนกับการรีบตัดบทแต่ก็ไม่เพราะรามมองหน้าตุลย์อย่างรอคำตอบ “อ๋อ ไม่มี ๆ ตั้งใจทำงานนะ” ตุลย์รีบตอบพร้อมหลบสายตา “ครับ” พูดจบรามก็เดินออกจากห้องไป ก่อนจะปิดประตูที่เปิดอยู่ให้สนิท ปล่อยให้ตุลย์หันหลังไปมองอย่างย้อนรำลึกถึงความหลังเกี่ยวกับเรื่องราวของอดีตภายในร้านที่มันเคยได้เกิดขึ้นหนึ่งเดือนก่อนหน้า...ณ โรงยิมแห่งหนึ่งย่านกลางกรุงผู้คนกำลังฝักใฝ่ในการออกกำลังกายดูแลสุขภาพของตนเอง บ้างก็คาดิโอ บ้างก็เวทเทรนนิ่ง บ้างก็ยกโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปหน้ากระจกอย่างแอคอาร์ตโชว์บอดี้อันสวยสดงดงามให้กับเหล่าผู้คนในบัญชีโซเชียลมีเดียของตนเอง รามที่กำลังยกบอดี้เวทกล้ามแขนอย่างใจจดใจจ่อกับเซตสุดท้ายของการออกกำลังกาย ใบหน้าเคร่งขรึม คิ้วขมวดมุ่น หยดเหงื่อไหลลงบนใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยความมันวาว“สี่สิบเจ็ด สี่สิบแปด ฮึบ! สี่สิบบบบบบบบบ เก้า เฮอะ ๆ ห้า ห้าาาาาาาาาา สิบ”เสียงนับจำนวนครั้งของรามในการทำตามเซตด้วยท่าทีที่เริ่มเหนื่อยหอบนี้เป็นเซตสุดท้ายที่รามต้องทำเพื่อกล้ามแขนที่เป็นมัดแน่นทรงสวยให้ต้องตาต้องใจผู้คนและเพื่อสุขภาพที่ดีของตน ก่อนจะลุกขึ้นและนำบอดี้เวทไปเก็บและเตรียมตัวไปอาบน้ำเพื่อไปทำงานร้านหมอนวดวันแรก แต่ระหว่างเดินไปด้วยกลิ่นเหงื่อที่ปะปนไปกับโรลออนที่หอมเย็นร่วมไปกับมัดกล้ามที่มันวาวด้วยหยาดเหงื่อพร้อมกระดกน้ำไป ทำให้สายตาคู่คมไม่ได้จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาดันไปชนเข้ากับหนุ่มที่มาเข้ายิมรุ่นราวคราวเดียวกันจนดังปั้ก บอ
กลิ่นหอมโคโลญจน์อันหอมเย็นที่คละคลุ้งบนร่างอันกำยำของรามกำลังจอดรถมอเตอร์ไซซ์สีดำรุ่นซีบีอาร์คู่ใจที่ซื้อด้วยเงินประกันงานศพก้อนสุดท้ายของพ่อ ได้ขี่มาจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านนวดชื่อดังแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Georking Massage ร้านนวดที่มีนิยามในการรับสมัครพนักงานที่จำเป็นต้องมีความหน้าตาดีหรือมีรูปร่างที่น่าดึงดูดเพื่อเป็นจุดขายเรียกลูกค้าให้เข้าร้านเป็นประจำ ซึ่งวันนี้เป็นวันทำงานวันแรกเขาจึงรีบมาก่อนเวลาประมาณเกือบยี่สิบนาที เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าของร้านที่ใจดีรับตนเข้าทำงาน เพียงเพราะวันแรกที่เจ๊เฟียสเจอกับรามที่ร้านหมูกระทะ รามที่เป็นพนักงานยกเตาได้โชว์ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดแขนผิวแทนที่เปอะเปื้อนเขม่าถ่านมันสร้างความจับจ้องของสายตาให้กับเจ้าของร้านนวดที่ไปกินหมูกระทะได้เป็นอย่างดี ไหนจะหน้าตาทรงไทยคมเข้ม หน้าตาหล่อขนาดนี้มันดีเกินกว่าจะเป็นเพียงพนักงานยกเตาที่ร้านหมูกระทะเจ๊เฟียสจึงได้หาโอกาสเพื่อพูดคุยพร้อมทั้งเสนอรายได้ที่มันได้มากกว่างานประจำที่เขาทำที่ใช้วุฒิมอสาม ที่หาเงินได้แค่จำนวนหมื่นสองต้น ๆ ต่อเดือน แต่งานนวดนี้หากบริการดีจนลูกค้าติดใจมันจะทำให้เขาได้รับแน่ ๆ เด
บรรยากาศหน้าร้านเริ่มครึกครื้นเพราะกำลังใกล้ถึงเวลาเปิดร้านนวดพร้อมพนักงานใหม่รูปหล่ออย่างรามที่กำลังได้ฤกษ์เริ่มทำงานประจำใหม่ที่มันกำลังจะกลายเป็นงานที่จะทำให้ชีวิตของเขาเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเรื่องของการเงินบ้าง“โอเค เรียบร้อย ครบ มา เดี๋ยวเจ๊พาไปรู้จักกับเหล่าพี่ ๆ หมอนวดของร้านเรา”เจ๊เฟียสพูดด้วยเสียงหวาน และพารามลุกขึ้นเดินไปที่ห้องแต่งตัวของพนักงาน แต่ยังเดินไปไหนได้ไม่ไกลเสียงเปิดประตูร้านก็ดังขึ้น หนุ่มหน้าจีนผิวขาวที่มาสายรีบเร่งเดินเข้ามาเพื่อเตรียมไปเข้างานก่อนจะมาเจอกับเจ๊เฟียสและรามที่หน้าเคาน์เตอร์พอดิบพอดี“สวัสดีครับเจ๊” เขารีบสวัสดีเจ๊ในทันทีที่เห็น ก่อนรามจะหันหน้ากลับมาจนทั้งคู่สบตากัน“อ้าวมึง!!!” หนุ่มหน้าจีนทำท่าตกใจที่เห็นราม เหตุผลที่เขาตกใจนั้นเป็นเพราะเขาเคยเจอกันมาก่อนที่ยิมเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมา“อ้าวไอเฟย มึงทำงานร้านนี้หรอ” รามถามกลับไปด้วยใบหน้าที่มีความงงงวย“รู้จักกันด้วยหรอจ๊ะ” เจ๊เฟียสถาม“นิดหน่อยครับ พอดีเจอกันที่ยิมเมื่อเช้า” รามอธิบายให้เจ๊ฟัง“มันทำนิ้วผมเกือบแตกเจ๊” เฟยรีบอธิบายต่อให้ทันทีแต่ในความคิดของรามนี้มันคือการฟ้องชัด ๆ“
บรรยากาศด้านนอกที่เต็มไปด้วยแสงขาวอึมครึมจากโคมไฟหรูหราจากด้านบนของร้าน ตุลย์พารามเดินมาที่ห้องนวดคิงวัน ห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันหอมระเหยชวนให้ผ่อนคลายไปกับการนวดที่ผ่านมาของเหล่าลูกค้าพิเศษมากมายที่ได้เข้ามาใช้บริการ ด้วยความเชี่ยวชาญและคุ้นชินกับพื้นที่ห้องนวดอโรม่าของตุลย์ ทำให้เขาเลือกที่จะหยิบน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะพร้าวมาเพื่อเลือกใช้กับรามที่กำลังจะถูกการฝึกเสริมความสามารถด้านการนวดด้วยทักษะฝีมือการสอนของตน“ห้องนวดนี้เป็นห้องนวดที่เน้นการผ่อนคลาย เวลาลูกค้ามา ส่วนใหญ่พวกหมอนวดจะพามานวดที่ห้องนี้กัน โดยห้องนี้จะเหมาะสำหรับคนที่พึ่งเริ่มนวดและยังไม่เข้าใจเบื้องลึกของการนวดสักเท่าไร ซึ่งจะมีทั้งลูกค้าชายและหญิงเข้ามาใช้บริการแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่า แต่เราพึ่งมาควรเริ่มจากการนวดในส่วนนี้ก่อนแล้วค่อยรู้เบื้องลึกของศาสตร์การนวดต่อไป”ตุลย์บอกรามเกี่ยวกับความรู้และทักษะการนวดที่จำเป็นต้องเรียนรู้ต่าง ๆ ใบหน้าที่เขามองรามและสบตากันมันช่างเป็นช่วงเวลาที่เสริมสร้างความต้องการเรียนรู้ของรามในขั้นต่อ ๆ ไปให้เร็วมากยิ่งขึ้น“ได้ครับแล้วการนวดครั้งนี้พี่จะให้ผมนวดใครหรอครับ”รามพย
แอ๊ด! ครืด!เสียงประตูเลื่อนเปิดออก เฟยเดินตามตุลย์เข้ามาในห้องก่อนจะส่งยิ้มให้รามอย่างเจ้าเล่ห์มีแผนร้าย รามที่เห็นเฟยทำทีท่าอย่างนั้นก็ไม่วายที่จะถามออกไปในทันที“ว่างหรอครับมึง”“ก็นิดนึง ลูกค้ายังไม่เยอะ” เฟยกล่าวตอบรามออกไปพร้อมเดินไปที่ตะกร้าเก็บเสื้อผ้าของตน ก่อนตุลย์จะสั่งให้เขาถอดเสื้อผ้าออกในทันที“ถอดชุดออก และลงนอนครับคุณเฟยครับ”“ครับพี่” เฟยนำมือเรียวยาวถกกางเกงคู่ไปกับกางเกงในสีดำคาดเทาลงพร้อมกัน เผยให้เห็นก้นขาวกลมนูนอูมงอนจนสร้างความตื่นตัวให้กับรามได้เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันเฟยกลับแก้ผ้าอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าตุลย์และรามอย่างไม่เขินอายอะไร ตุลย์ที่เห็นแบบนั้นก็ทำท่าทีเฉย ๆ ได้ เหมือนเคยเห็นก้นขาว ๆ ของเฟยบ่อยจนมันชินไปซะแล้ว“เห้ยถอดเลยหรอ” รามถามด้วยความแปลกใจและเคอะเขิน“เออดิ เขานวดกันใครเขาใส่เสื้อผ้ากัน มึงเคยนวดปะเนี่ย”เฟยรีบตอบรับประโยคชวนเขินของรามในทันทีแถมยังจี้จุดถามรามถึงประสบการณ์การเป็นลูกค้านวดของรามเองในอดีตอีกด้วย นั่นทำให้รามสัมผัสได้ว่าไอนี่มีบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่นแน่ ๆ“ไม่เคยหวะ รอพี่ตุลย์เปิดประสบการณ์ให้อยู่เนี่ย ฮ่า ฮ่า”รามไม่วายที่จะยอมร
อื้อ อื้อ อื้อ อื้อ!!เสียงลูกค้าหนุ่ม รุ่นราวคราวเดียวกับมอริสกำลังส่งเสียงร้องโอดโอยเจ็บปวดอย่างเสียวซ่านไปทั่วร่างกายจนสร้างบรรยากาศความตื่นเต้นให้กับมอริสหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศสคนนี้ไม่น้อย เขาค่อย ๆ บรรจงดันแท่งเอ็นอุ่น อันใหญ่ยาวหัวขลิบ ดันเข้าดันออกอย่างเป็นจังหวะช้า ๆ ให้กับลูกค้าหนุ่มคนนี้จนใบหน้าของเขาที่มีทรงคิ้วบาง ตาหวาน ต้องนำฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาบรรจงจับบนก้านคอของมอริสอย่างช้า ๆ ก่อนเขาจะลูบขึ้นไปที่เส้นผมสี บลอนด์ทองของมอริส ก่อนจะใช้แรงแขนทั้งหมดที่มีในตอนนี้ดึงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงไปที่ใบหน้าอันหวานซาบซ่าของตน เพื่อที่จะบรรจงละเลงจูบ แลกลิ้น แลกหยดน้ำใสในปากสีชมพูอันผุดผ่องเงาวับ แต่เขากลับต้องผิดหวังเพราะชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าที่เป็นคนดันแท่งเอ็นอุ่นเข้าออก เข้าออก ดันหลบสายตาและนำใบหน้าเข้าไปคลอเคลียซุกไซร้ที่ซอกคออันหอมหวานของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนวดพิเศษของหมอนวดมอริสแทน เขาใช้จริตการสร้างรอยจูบผสมปนเปไปกับการลากลิ้นไปยังบริเวณจุดกึ่งกลางคอที่เป็นตะปุ่มตะป่ำและใช้ปากของเขาดูดตรงนั้นแทนก่อนจะลากลิ้นอันแดงหวานค่อย ๆ ไต่ระดับไหลลงมาที่พานนมสีชมพูของลูกค้าและ
ณ ออฟฟิศอันหรูหราย่านใจกลางเมือง เหล่าพนักงานเดินผ่านไปผ่านมาอย่างฝักใฝ่เพื่อเตรียมเดินออกไปหาอะไรกินในระหว่างพักกลางวัน ผิดกับเหล่าผู้บริหารที่ตั้งหน้าตั้งตาประชุมกันอย่างจริงจังต่อเนื่องอย่างไม่มีใครยอมใคร“ฉันไม่รู้ละ ถ้าซื้อวัคซีนตัวนั้นมาใช้ ฉันบอกเลยว่าฉันไม่รับผิดชอบหากเกิดผลข้างเคียงที่ผิดพลาด”หญิงสาวร่างสูง ขาเรียวยาว ตาคมสวย ผมเป็นลอน ปากสีแดงสด ทรงผู้ดีที่ดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าทางการแพทย์กำลังทำหน้าตาไม่พึงพอใจในการตัดสินใจของสามีที่เข้ามาบริหารบริษัทร่วมผ่านการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของพรรคพวกของตนเพื่อผลประโยชน์ทางด้านการเงินของตนเองที่หากดีลได้จะได้เงินเข้ากระเป๋าแบบเต็ม ๆ“เอาน่าคุณ แค่วัคซีนเอง โรคโควิดมันก็ยังไม่ร้ายแรง ถ้าเรานำเข้ามาเราจะเป็นเจ้าแรกที่ประชาชนจะเข้ามาใช้เลยนะ”เสียงหนุ่มผู้เป็นสามี ร่างล่ำ ผิวแทน หน้าตาสะอาดสะอ้าน สายตาไม่น่าไว้วางใจ พูดปลอบประโลมภรรยาสุดที่รักของตนด้วยน้ำเสียงออดอ้อนตามนิสัยใจคอของตนอย่างไม่สนใจในผลใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คน“ดิฉันก็เห็นด้วยนะคะ ถ้าเรานำเข้าได้เราจะเป็นเจ้าแรกที่ได้จัดจำหน่ายให้โรงพยาบาล อีกอย่างวัค
แสงตะวันเริ่มละขอบฟ้าเหล่าหมอนวดในร้านเริ่มเดินเก็บอุปกรณ์นวดประจำตัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนแม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาดสำหรับวันนี้ที่เป็นวันเริ่มงานวันแรกของรามเขาก็ต้องทำความเข้าใจกับการจัดเก็บอุปกรณ์การนวดหลังจากที่ใช้เพื่อบริการลูกค้าอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยการสอนและปลูกฝั่งจากตุลย์ผู้เป็นพี่เลี้ยงด้วยวาจาที่น่าฟังและดูใส่ใจกับเขาเป็นอย่างมาก ก่อนเฟยจะเดินออกมาจากห้องนวดและกำลังจะเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวไปกินข้าวเย็นที่ร้านส้มตำอย่างตั้งหน้าตั้งตารอ“พี่ตุลย์ครับผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับและเดี๋ยวเจอกันที่ร้านเลยนะพี่”เฟยกล่าวพูดด้วยทีท่าที่แลดูสบายใจ ก่อนเขาจะเอะใจไปสักพักว่า แล้วมันร้านไหนวะ เขาดูงงกับคำถามในหัวก่อนเขาจะถามตุลย์ออกไปอีกครั้งว่า“เออพี่แล้วเราจะไปร้านไหนกันนะครับ”“ไปร้านอีสานพาแซ่บอะ ชื่อนี้เลยลองค้นหาในแผนที่เลย เจอกันที่นั่นเดี๋ยวพี่ก็จะไปละ”ตุลย์กล่าวตอบพร้อมบอกร้านประจำที่ตนชอบไปนั่งกินเวลามีความอยากอาหารอีสานแซ่บ ๆ“โอเคพี่ เจอกันครับ” พูดจบเฟยก็เดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะเดียวกันรามและตุลย์ก็เริ่มที่จะจัดและเครียของทุกอย่างเป็นระเบียบมากย
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปสัญญาณในประเทศเริ่มไม่สู้ดีรัฐบาลกำลังเริ่มที่จะประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลายามวิกาลตั้งแต่เวลาสี่ทุ่มเป็นต้นไป ห้ามมีรถสัญจรภายในประเทศเนื่องจากต้องการให้ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของตน นั่นเป็นเพราะโรคระบาด โควิดสิบเก้าที่เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ แต่ยังไม่มีการสั่งปิดกิจการแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่บริษัทของวิสุทธิ์ได้รับแผนกำหนดการจัดส่งวัคซีนให้กับ โรงพยาบาลมากมายทั่วประเทศเพื่อให้คนมีเงินได้ฉีดวัคซีนก่อน ซึ่งมีราคาที่สูงและแพง แต่ด้วยการนำเข้าวัคซีนในล๊อตดังกล่าวทำให้วิสุทธิ์และครอบครัวรวมถึงคนในบริษัทเลือกที่จะไม่ฉีดวัคซีนที่ตนเป็นคนนำเข้ามา เพราะเหล่าคนรวยชั้นสูงเขาเลือกที่จะฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งมีราคาแพงกว่าด้วยการนำเข้าพร้อมเส้นสายทางธุรกิจจากประเทศนอกเข้ามายังบริษัทส่วนตัวของตน ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการของพี่เขยของเขาที่ต้องการให้คนในตระกูลและครอบครัวเขาปลอดภัย วิสุทธิ์จึงได้ฉีดมันเข้าไปเพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่ในระหว่างกระบวนการในการทำงานด้านต่าง ๆ ในบริษัทเขาก็ได้มีปากเสียงกับพี่เขยของเขาเหมือนเช่นเคยและไ
ช่วงเวลาบ่ายโมงตรงเป็นช่วงเวลาพักของรามที่กำลังจะออกไปกินอาหารกลางวันที่ร้านประจำของเขาที่จริงเขาสามารถกินที่นี่ได้ เพราะสวัสดิการของร้านมีข้าวกลางวันฟรีซึ่งเป็นสิ่งที่เจ๊เฟียสสั่งมาเพื่อให้หมอนวดของตนมีเงินเหลือกินเหลือใช้จากการทำงานบริการ แต่ว่าในวันนี้มันไม่สามารถดึงดูดใจของรามได้ เขาอยากที่จะออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะว่าเขาเบื่อกับรสชาติอาหารตามสั่งที่วนเวียนไปมาวันนี้เขาอยากจะกินส้มตำรสแซ่บเมนูโปรดของเขาเป็นมื้ออาหารกลางวัน แต่เขายังไม่ทันได้เดินไปตุลย์ก็เดินออกจากห้องนวดของตนหลังจากเก็บห้องเสร็จแล้วมาทักทายรามว่า“ไงราม วันนี้กลางวันกินไร”“อ๋อผมว่าจะไปร้านเจ๊ปุ้มครับ จะไปกินส้มตำกับก้อยเนื้อแล้วก็ซอยจุ๊ซะหน่อยอยากกินมาหลายวันแล้ว”“เฮ้ยอยากกินเหมือนกันงั้นพี่ไปด้วยได้ไหมอ่ะ”“ได้ครับพี่”“แล้วเราจะไปยังไงไปด้วยกันเปล่า”“ตอนแรกว่าจะขี่รถไปแต่ว่าถ้าพี่ไปด้วยก็ไปกับพี่ก็ได้ครับ”“ได้เลยงั้น รอพี่แป๊บนึงนะเข้าห้องน้ำก่อน”“ได้ครับพี่” รามรู้สึกแปลกใจที่ตุลย์อยากที่จะไปกินข้าวกลางวันกับตนเพราะว่าก่อนหน้านั้นหลังจากที่ทั้งคู่ได้เสียกัน รามก็แทบไม่ได้ไปไหนกับตุลย์เลยแต่ด้วยหน้าที่การง
เช้าวันรุ่งขึ้นรามกลับเข้ามาทำงานที่ร้านตามปกติ เมื่อเขาเดินเข้ามาในร้านเขาเห็นเฟยกำลังทำอะไรบางอย่างเขาจึงถามมาว่า“ดีมึงทำอะไรวะ”“อ๋อกูเก็บของพี่นะอ่ะเจ๊บอกให้กูเก็บทิ้งให้หมด”“อ้าวทำไมอ่ะเกิดอะไรขึ้นวะ”“ก็เมื่อวานน่ะดิพวกพี่เขาทะเลาะกันแล้วก็โดนเจ๊ทำโทษแต่ว่าพี่นะแม่งโดนแรงสุดคือโดนไล่ออกเลยมึง”“ฮะโดนไล่ออกเลยหรอ ทำไมวะเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร”“ก็เรื่องมึงกับพี่ตุลย์นั่นแหละ เขาแอบนินทามึงกับพี่ตุลย์กันแล้วทีนี้พี่ตั้มแกได้ยินแกก็เลยเถียงแทนให้ แต่เหมือนยิ่งเถียงแม่งก็ยิ่งเกิดการต่อปากต่อคำสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการทะเลาะรุนแรงนั่นแหละ”“เดี๋ยวนะทะเลาะกันเรื่องกูกับพี่ตุลย์ คือเรื่องไรวะ”รามถามกลับไประหว่างที่ตนกำลังวางกระเป๋าและมองสายตาคู่สนทนาแต่ในระหว่างที่ตัวเองกำลังถามกลับไปนั้นตุลย์ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพูดตอบแทนเฟยไปว่า“อย่าไปสนใจเลยรามเรื่องไร้สาระ”“อ้าวพี่แต่ว่าผมก็อยากรู้นิดหน่อยว่าเขาว่าอะไรเรา” รามตอบ“เอาไงดีพี่บอกดีไหม”เฟยถามตุลย์เกี่ยวกับคำตอบที่รามอย่างรู้ว่าจะบอกดีหรือไม่แต่ไม่ทันไรตุลย์ที่ได้ยินเองและรู้ว่ารามเป็นคนที่ต้องการอยากรู้เองก็เลยพูดออกมาว่า“ก็ไม่
ณ คอนโดหรูหราของวิสุทธิ์หลังจากที่ทั้งสองคนนวดกันรอบที่หกเสร็จ รามกำลังจะขอตัวกลับห้องเพื่อพักผ่อนแต่กลับถูกวิสุทธิ์ห้ามปรามไว้ขอให้อยู่ต่อ ก่อนวิสุทธิ์จะหยิบเงินค่าจ้างที่รามนวดให้เมื่อคืนและวันนี้ทั้งวันรวมทิปพิเศษให้รามไปจำนวนสามหมื่นแปดพันบาท เขาหยิบออกมาจากเซฟส่วนตัวในห้องโดยที่ไม่นับ ซึ่งมันถือเป็นค่าตอบแทนที่เยอะมากสำหรับชายคนหนึ่งที่เป็นแค่พนักงานนวดสุดพิเศษของเขาโดยที่วิสุทธิ์ไม่เสียดายเงินแม้แต่น้อยเขากลับถามต่อด้วยซ้ำว่าทำไมถึงอยากกลับไปเร็วจัง“อยู่ต่อกับผมอีกได้ไหมครับอย่าพึ่งรีบกลับเลย”“ไม่ได้ครับคุณวิสุทธิ์พรุ่งนี้ผมมีทำงานครับ” รามตอบ“งั้นพรุ่งนี้ก็ลางานต่อได้ไหมครับเดี๋ยวผมให้ค่าเสียเวลาเพิ่ม หรือให้ผมจ่ายค่าลางานพรุ่งนี้ให้ก็ได้นะครับ หรือจะให้ผมซื้อคุณออกมาจากร้านนวดร้านนั้นเลยดีมั้ยครับ ผมต้องการอยู่กับคุณครับราม”วิสุทธิ์พูดออกไปด้วยสีหน้าท่าทางที่แลดูเหมือนคนอยากอ้อนแฟนแต่สถานะของเขาทั้งคู่มันยังไม่ใช่ มันเป็นงานบริการที่มีเส้นบาง ๆ ของห้วงราคะซ่อนอยู่ ก่อนเขาเลือกที่จะใช้สายตาหวานพราวเสน่ห์จับจ้องไปที่รามเพื่อหวังว่าจะได้จับจ้องยิ้มหวานเข้มของรามในคืนนี้ต่ออี
ณ คอนโดย่านทองหล่อโครงการไม่หรูมากนักเหมาะสำหรับบุคคลที่มีฐานะปานกลางทั่วไป ตุลย์กำลังนั่งเหม่อมองหน้าต่างที่ห้องของเขาจากวิวสูงชั้น 23 วันนี้เป็นวันหยุดของเขาที่ตรงกับวันหยุดของราม ใจจริงสิ่งที่เขาเดินเข้าไปคุยกับรามเมื่อวานในห้องนวดคิงโฟร์นั้นเป็นเพราะเขาอยากลองชวนรามไปเที่ยวกับเขาบ้างสักครั้งเพื่อเคลียร์ความในใจบางอย่างที่ตนยังไม่เข้าใจว่าเขาทำผิดอะไร ทำไมน้องรามถึงไม่คุยกับเขาเหมือนเดิม พลันความรู้สึกเสียดายและมึนงงก็กลับเข้ามาในหัวของเขามากมายทั้งที่รามก็ดูมีใจให้กับตนไม่ใช่น้อยแต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นเขาก็แลดูมีใจที่แปรเปลี่ยนไปยังกับคนละคนจนสายตาคู่เข้มสุขุมมองเหม่อลอยจากวิวทิวทัศน์ในเมืองไปมากกว่าเดิม ก่อนเขาจะถูกเตือนสติด้วยเสียงแจ้งข่าวจากโทรทัศน์ที่เขาเปิดทิ้งไว้ว่า“ข่าวด่วนค่ะคุณผู้ชมตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการรับเชื้อโรคจากเที่ยวบินที่เดินทางเขามาในประเทศแล้วกว่า 35 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ปัจจุบันยังตามตัวกันไม่ได้ค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขจะพยายามติดต่อเพื่อทำการสอบถามไทม์ไลน์การเดินทาง เพื่อเตรียมแผ่นป้องก
วิสุทธิ์เริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดจากการฝันร้าย เขาพร่ำเพ้อส่ายหน้าไปมาพร้อมมีเหงื่อแตกอยู่บนหน้าผากของตนเองทั้ง ๆ ที่ห้องอุณหภูมิเย็นไม่ร้อน แต่อย่างใด ก่อนเขาจะส่งเสียงร้องแลดูเสียใจขวัญเสียออกมาว่า“ไม่นะ คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ อย่าพึ่งจากผมไปผมยังไม่พร้อมเลย คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ อย่าไป ฮือ”วิสุทธิ์พร่ำเพ้อถึงเสียงสนทนาที่ภายในฝันเขาฝันเห็นพ่อแม่ของเขา กำลังเดินจากไปเพื่อเข้าสู่เส้นทางที่สว่างก่อนจะหายวายวาบไปกับตา รามที่ได้ยินเสียงสั่นกระสับกระส่ายของวิสุทธิ์เขาได้ลืมตาตื่นขึ้นและผงกตัวขึ้นมองดูคู่นอนของตนในยามราตรี ก่อนจะใช้ฝ่ามือที่เรียวยาวมาจับไว้ที่ลำตัวของวิสุทธิ์และพูดปลอบโยนให้วิสุทธิ์ตื่นจากฝันร้ายในเร็วไว“คุณวิสุทธิ์ครับไม่เป็นไรนะผมอยู่ตรงนี้แล้ว”“ฮือ ฮื่อ” เสียงวิสุทธิ์แลดูตื่นกลัวก่อนเขาจะสงบลงอย่างช้า ๆ จนใบหน้าเครียดเริ่มคลายลงอย่างผ่อนเบาและนอนหลับใหลไปอีกครั้ง รามที่เห็นวิสุทธิ์เริ่มมีทีท่าที่คลายจากฝันร้ายเขาจึงได้นำฝ่ามือนั้นลูบไล้ที่กระหม่อมของวิสุทธิ์อย่างแผ่วเบาและจุมพิตไปที่หน้าผากของเขาและนอนเอาหัวซบอกของวิสุทธิ์หลังจากนั้นเขาจึงหลับไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันแส
บรรยากาศในห้องหรูเตียงคิงไซซ์ของวิสุทธิ์ หลังจากทั้งคู่ดินเนอร์อาหารเย็นกันเสร็จและหลังจากนั้นทั้งคู่จึงได้นั่งพูดคุย ศึกษา ทำความรู้จักกันอยู่สักพัก วิสุทธิ์ที่กำลังก้าวขาขึ้นไปบนเตียงของตนและนอนเงยหน้าพิงหมอนมองรามที่กำลังหยิบของที่อยู่ในกระเป๋าออกมามันเป็นผ้าขนหนูสีน้ำตาลปุกปุยและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นคุ้นตามาจากกระเป๋าและนำมาวางลงที่หัวเตียงของคุณวิสุทธิ์พร้อมสายตาที่จับจ้องมองตรงไปที่วิสุทธิ์อย่างน่าหลงใหล“เดี๋ยวคุณวิสุทธิ์เปลี่ยนชุดได้เลยครับ” รามออกคำสั่งให้วิสุทธิ์เปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมนวดน้ำมันตามที่เขาปรารถนา“ทำไมอยู่ดี ๆ ผมก็รู้สึกว่าแขนขาผมมันไม่มีเรี่ยวแรงยังไงก็ไม่รู้อ่ะครับ คุณช่วยมาถอดออกให้หน่อยได้ไหมครับ” วิสุทธิ์พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มอ่อย“ได้สิครับหรือคุณวิสุทธิ์อยากจะนวดคาชุดแบบนี้เลยละครับ”“น่าสนใจนะครับ ถ้าคุณรามต้องการแบบนั้นก็เริ่มเลยสิครับผมอดใจรอไม่ไหวแล้วนะ”วิสุทธิ์พูดจาหว่านล้อมรามด้วยสีหน้าที่รุ่มร้อนมันเป็นอารมณ์ที่สื่อถึงความต้องการที่เขาพยายามจ้องตาคู่สนทนาให้รีบทำตามคำสั่งของตนในเร็วไว ขณะเดียวกันรามที่ได้ยินคำตอบอย่างนั้นเขาก็ไม่รีรอที่จะเดินเข้าไปพร้อ
“เอาล่ะถอดเสื้อผ้าได้เลยครับคุณลูกค้า”ตุลย์บอกรามให้เตรียมถอดเสื้อผ้าเพราะถึงเวลาที่รามจะต้องเป็นคนโดนนวดเองบ้างแล้วเขาจะได้รู้สึกถึงความสบายกายสบายใจที่พี่ตุลย์กำลังจะมอบให้ในอีกไม่ช้า รามที่ได้ยินคำสั่งเขาก็มองไปที่หน้าของตุลย์ที่แลดูกำลังมองตนด้วยแววตาที่มีเลศนัย ก่อนเขาจะถอดเสื้อคลุมสีน้ำเงินของร้านออกแล้ววางไว้ตรงเคาน์เตอร์วางของพร้อมกับถอดกางเกงลงและเผยให้เห็นกางเกงในของเขาที่เป็นสีดำสนิทลวดลายสะท้อนเงาชวนดึงดูดสายตาเป็นเป็นอย่างมากหลังจากนั้นเขาจึงเริ่มถอดกางเกงในตัวนั้นออกแล้วเผยให้เห็นบั้นท้ายสีแทนที่เนียนละเอียดและกรมมนทรงสวยจนตุลย์ไม่สามารถละสายตานั้นออกไปได้ เขาเลือกที่จะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์และมาปิดที่เจ้านั่นของตนเองอย่างเขินอายและเดินมาที่เตียงนอนที่มีตุลย์ยืนมองทีท่าของตนอย่างไม่ละสายตา“ผมว่าผมคงมีบุญนะเนี่ยได้โดนพี่นวดด้วยอยากรู้จริง ๆ ว่าความรู้สึกที่ไอเฟยเคยเป็นมันเป็นยังไง”รามพูดประโยคเชยชมออกมาช่วยแก้เขินอายพร้อมกับโยงเฟยเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้บรรยากาศดูไม่เงียบสงบมากเท่าไหร่ แต่ทันใดที่ตุลย์ได้ยินเขาก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่มและขำแบบเบา ๆ พร
กลับมาเหตุการณ์ปัจจุบันท่ามกลางบรรยากาศที่วุ่นวายใจกลางเมืองกลุ่มนักธุรกิจกำลังว้าวุ่นกับข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดที่กำลังรั่วไหลเข้ามาในประเทศซึ่งมันทำให้เศรษฐกิจเริ่มที่จะถดถอยระยะแรก ซึ่งโรคนั้นก็คือโรค โควิด-19“คุณคะฉันกังวลจังเลย โรคระบาดที่ตอนแรกเราคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยมันกำลังจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วนะคะ ฉันเป็นห่วงผู้คนจัง”พี่สาวของวิสุทธิ์กล่าวถามผู้เป็นสามีของตนด้วยใบหน้าที่มีความกังวลเป็นอย่างมาก“เอาน่าคุณมันก็แค่โรคระบาดเอง เรากันมันได้อยู่แล้วเดี๋ยวรัฐบาลเขาก็สั่งปิดการเข้าออกของคนต่างประเทศเองแหละ แค่นี้ผมคิดว่าก็น่าจะไม่มีอะไรต้องห่วงละมั้ง ส่วนวัคซีนของพวกเราน่ะที่เราสั่งซื้อไว้อาทิตย์หน้าของจะมาส่งแล้วนะคุณ คุณมาดีใจกับผมดีกว่าที่มีคนสั่งจองวัคซีนเราล่วงหน้าต้อง ห้าสิบเจ้าแล้วนะคุณ”“ค่ะ คุณเก่งมากเลยค่ะที่รัก ฉันฝากคุณจัดการด้วยนะคะ”“ครับที่รัก เดี๋ยวผมจะดูแลทุกอย่างให้คุณเอง”แดนพูดด้วยถ้อยคำที่แลดูจริงใจแต่แฝงไปด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจ พร้อมทั้งเดินเข้าไปกอดภรรยาสุดที่รักของตนและหอมไปที่กระหม่อมด้านบนของกานต์อย่างมีเลศนัยณ ห้องเช่าที่สะอาดเรียบร้อยเป็น