Share

บทที่ 5

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-04 07:53:35

บิดาถอนหายใจก่อนจะเล่าเรื่องระหว่างสองตระกูลที่เกิดขึ้นมาเกือบสิบปีแล้วให้ฟัง บิดาของจ้าวตงหยางเป็นอดีตท่านแม่ทัพใหญ่ที่ดูแลชายแดนเหนือ สิบปีที่แล้วเกิดสงครามระหว่างแคว้นขึ้น เสวี่ยป๋อเหวินตอนนั้นเพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งเสนาบดีกรมคลังก็ถูกราชโองการให้จัดงบประมาณลงมาช่วยเหลือเรื่องเสบียงอาหารของกองทัพ

เรื่องเหมือนจะไม่มีอันใด แต่เสนาบดีคนเก่ายักยอกเงินในคลังไปเสียเกือบครึ่งถึงจะยึดทรัพย์ของเขามาเติมแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเงินที่จะจัดซื้อเสบียง ทำให้เสบียงที่ถูกส่งไปเลี้ยงกองทัพไม่เพียงพอ อดีตท่านแม่ทัพใหญ่จ้าวจึงต้องเร่งเข้าโจมตีแคว้นเซี่ยก่อนที่เสบียงจะหมด ถึงแคว้นฉีจะได้รับชัยชนะในสงครามครั้งนั้นแต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของอดีตท่านแม่ทัพใหญ่จ้าว

ถึงแม้จะไม่ใช่ความผิดของเสวี่ยป๋อเหวิน แต่มิใช่สำหรับจ้าวตงหยาง เขาคิดว่าเสวี่ยตงหยางจงใจตัดงบเสบียงกองทัพจึงเป็นเหตุให้บิดาเขาต้องเสียชีวิตลง หลังจากนั้นตัวเขาก็เข้าสู่สนามรบในวัยเพียงสิบสี่ปี ความโกรธแค้นในครั้งนั้นเขานำไปลงกับทหารของแคว้นเซี่ยจนสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ 

ไม่ใช่คนตระกูลจ้าวทุกคนที่คิดเช่นจ้าวตงหยาง แม้แต่มารดาของเขาจะบอกความจริงให้ฟังแล้วว่าเสวี่ยป๋อเหวินเพิ่งจะเข้ารับตำแหน่งเงินในคลังที่แทบจะไม่มีเหลือแล้ว เขาก็ส่งมาให้กองทัพเสียทั้งหมด แต่เป็นจ้าวตงหยางที่ปิดหูปิดตาเชื่อเช่นที่ตนคิดไปแล้วจึงมิได้ฟังคำของมารดา

จินเยว่พอจะเข้าใจได้ เป็นเพราะเขาเสียใจจากการสูญเสียบิดามากเกินไปจึงมีความคิดเช่นนี้ขึ้น แต่แล้วยังไงบิดาของนางก็มิได้ผิดเสียหน่อย 

จินเยว่เตรียมน้ำให้บิดามารดาล้างหน้าล้างปากเรียบร้อยตัวนางก็เดินไปอาบน้ำที่ต้มไว้แล้ว ถึงอากาศทางเหนือจะเลวร้ายเพียงใด แต่จะไม่ให้นางอาบน้ำเลยก็เห็นจะไม่ได้ คงเป็นเพราะความเคยชินที่ต้องอาบน้ำอย่างน้อยวันละสองครั้ง แล้ววันนี้นางก็ทำงานบ้านเหงื่อเต็มตัวไปหมด จึงต้องกลั้นใจรีบอาบน้ำ

เครื่องใช้ภายในบ้านเป็นลู่ซานที่จัดหามาให้อย่างครบครัน อย่างน้อยที่นอนผ้าห่มก็อุ่นมากพอที่จะช่วยให้นางนอนหลับอย่างสบาย นางคิดถึงเตียงเตาที่เคยไปพักตอนไปเที่ยวทางตอนเหนือของจีน แต่จะทำขึ้นมาอย่างไรนางคงต้องนั่งนึกเสียก่อน ถึงจะเคยสอบถามวิธีทำมาแล้ว แต่หากให้ลงมือจริงก็คงจะยาก

จ้างตงหยางที่อยู่ในค่ายก็ได้รับรายงานจากทหารที่ส่งมาเฝ้าเรือนตระกูลเสวี่ย ถึงแม้ไม่มีเรื่องอันใด แต่ทุกวันทหารจะต้องกลับมารายงานเขาให้รู้ วันนี้เป็นกงจืออีกรอบที่ต้องกลับไปยังค่ายทหารเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของตระกูลเสวี่ย

"หลังจากที่ได้ของไปแ้ว แม่นางเสวี่ยก็นำชาใส่น้ำเชื่อมดอกกุ้ยเหมยมาให้ข้าน้อย..." เรื่องที่เขาพูดหาสาระอะไรมิได้เลย นอกจากจะเป็นการอวดว่าตนได้รับอาหารอะไรจากแม่นางเสวี่ย น้ำชาใส่น้ำเชื่อมดอกหอมหมื่นลี้ของนางหอมหวานมากเพียงใด 

จ้าวตงหยางคิ้วกระตุก เขาจำเป็นต้องมาฟังเรื่องอาหารในตระกูลเสวี่ย อร่อยมากเพียงใดหรือ แต่เป็น

จ้าวตงหยางสั่งให้คนของตนไปแจ้งกับจินเยว่ ว่าที่จวนของตนจะมีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของมารดาของเขา แต่ยังขาดคนทำงานให้นางเตรียมตัวให้พร้อมไปช่วยงานที่จวนท่านแม่ทัพในอีกสองวันข้างหน้า

"เจ้าทำเกินไปหรือไม่ นางมิได้เป็นบ่าวของเจ้า ถึงนางจะเป็นบุตรีของนักโทษ แต่คดีของบิดานางก็ยังมิได้ตัดสิน เจ้าทำเช่นนี้ข้าคิดว่ามิเหมาะสมนัก" หลิวเหล่ยเอ่ยเตือนจ้าวตงหยางที่รังแกจินเยว่เกินไป

"อันใดคือเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม ข้าเป็นคนตัดสินใจเอง" จ้าวตงหยางปรายตามองหลิวเหล่ยอย่างไม่พอใจ 

จินเยว่ที่ได้ฟังคำของสั่งของจ้าวตงหยางจากกงจือ ก็ขมวดคิ้วแน่น เขาให้นางไปเป็นคนรับใช้ในจวนท่านแม่ทัพเช่นนี้ มิใช่อยากดูหมิ่นนางอย่างนั้นหรือ

"เพียงวันเดียวแม่นางเสวี่ย คนในจวนท่านแม่ทัพขาดไปหลายคนขอรับ" กงจือรีบเอ่ยสมทับขึ้นเมื่อเห็นนางมิยอมรับปาก

จินเยว่ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้ารับ จากนั้นนางจึงไปแจ้งบิดามารดา เรื่องที่ต้องไปช่วยงานฉลองวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าในจวนท่านแม่ทัพ

เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อเกิดความกังวลใจขึ้นมา เพราะสิ่งที่จ้างตงหยางทำมิใช่หน้าที่ของบุตรสาวของตน แต่เขาต้องการจะรังแกคนตระกูลเสวี่ยที่กำลังตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด

"ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านมิต้องกังวล เพียงวันเดียวเท่านั้น หากข้าไม่ยินยอมท่านแม่ทัพจ้าวจะได้คิดว่าข้ายังนึกว่าตนเป็นบุตรีของท่านเสนาบดีอยู่" จินเยว่เอ่ยปลอบบิดามารดา พร้อมทั้งยกเหตุผลขึ้นมาพูดให้ทุกคู่คลายความกังวล

เพียงแค่วันเดียวคงไม่ใช้งานนางหนักจนตายหรอกกระมัง นางมิใช่ทาสของเขาเสียหน่อย คงอยากจะทำให้นางอับอายเสียมากกว่า

สองวันผ่านไปอย่างปกติ กงจือมารอรับจินเยว่ที่หน้าเรือนเพื่อพาไปส่งที่จวนท่านแม่ทัพ หลังจากที่ส่งนางเสร็จแล้วเขาก็ยังบอกว่าจะรอรับนางไปส่งที่เรือนหลังจากงานเลี้ยงเลิกแล้ว 

จินเยว่ส่งยิ้มขอบคุณให้กงจือ แล้วเดินตามบ่าวที่มารับเข้าไปในจวน บ่าวที่มารอรับนางชื่อว่า เสี่ยวหง 

เสี่ยวหงพาจินเจว่ไปเปลี่ยนเป็นชุดบ่าวก่อน จากนั้นก็พาไปพบจ้าวตงหยาง เพื่อฟังคำสั่งว่าจะให้นางทำงานอันใด

จินเยว่ไม่เข้าใจ บ่าวในเรือนเดินกันอย่างพลุกพล่านเหตุใดต้องให้นางมาด้วย หากไม่ผิดจากที่นางคิด งานนี้คงอยากให้คนอื่นได้เห็นบุตรสาวอดีตเสนาบดีมาเป็นบ่าวในจวนของเขาแน่

ถึงจะไม่พอใจเพียงใดแต่ในเมื่อมาแล้วก็จำต้องกลืนความโกรธลงคอไปก่อน และได้แต่ย้ำกับตัวเองตลอดเวลาว่า อย่าหาเรื่องใส่ตัว มิเช่นนั้น จ้าวตงหยางคงได้หาเรื่องรังแกนางอีกแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status