แชร์

ตอนที่1 แรกพบ

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 14:46:04

นานมาแล้วมีชายหญิงคู่หนึ่งที่เกิดรักกันเหนือสามัญผิดธรรมชาติ

ฝ่ายหญิงเป็นเทพเป็นเซียน หรือเป็นมารเป็นปีศาจก็ไม่อาจทราบ และบางทีอาจจะเป็นมากกว่านั้น หากแต่ฝ่ายชายกลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีดีหน้าตางดงามนับเป็นเอกบุรุษ

ทั้งสองรักกันได้อย่างไรก็ไม่แน่ชัด รู้เพียงว่ารักกันมาก และหลบเร้นซ่อนกายคล้ายสายลมไร้ร่องรอยมิอาจค้นพบ

เรื่องราวจบเพียงเท่านั้น ไม่มีจุดเริ่มต้นและไร้จุดสิ้นสุดให้ผู้เล่าและผู้ฟังได้เกิดอารมณ์ใคร่รู้อยากฟังหรืออยากเล่าต่อ

เนิ่นนานผ่านไปก็สลายคล้ายม่านหมอกกลางสายลมหนาวที่พัดมาเพียงวูบเดียวเท่านั้น

เพราะคู่รักคู่นี้ ที่เป็นเพียงความฝันอันเลือนราง หนึ่งในเรื่องเล่าขานนับหมื่นพัน กลับไม่อาจครองคู่กันดังใจหมาย

เหตุจากฝ่ายหญิงถูกจับตัวกลับไปยังดินแดนลี้ลับตามกฎสวรรค์บัญญัตินรก ทิ้งไว้เพียงฝ่ายชายให้เลี้ยงดูบุตรสาวจนรู้ความได้เจ็ดปี ก็ต้านพิษแห่งคำนึงคิดถึงภรรยารักจนทนไม่ไหว ตรอมใจตายไปในที่สุด ทิ้งทายาทสาวเหนือสามัญหนึ่งนางเอาไว้กลางป่าใหญ่ให้ใช้ชีวิตเพียงเดียวดาย

ใดๆ ล้วนเหนือคาดฝัน บุตรสาวตัวน้อยผู้นั้นแท้จริงแล้วเป็นถึงโม๋กุ่ยเสิน ในคราบมนุษย์ นามว่า โม๋เอ๋อร์ หรือเฉินโม๋

แซ่เฉินคือแซ่ของบิดา หากแต่เด็กสาวจำต้องปิดบังแซ่ ตามความต้องการของบิดา และนามเรียกขานสั้นๆ ว่าโม๋[1]นี้ แท้จริงเพียงตอกย้ำถึงความรักเหนือธรรมชาติก็เท่านั้น

หลังจากสิ้นบิดา เด็กสาวก็มีชีวิตท่ามกลางสรรพสัตว์ในป่าพนาไพร ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้อยน่ารักหรือสัตว์ใหญ่น่ากลัวนางล้วนชาชิน

ด้วยความเป็นมนุษย์เลือดผสมมีพลังปราณไม่ธรรมดา ความสามารถมิได้ด้อย นางจึงอยู่อย่างไม่ลำบากเลยสักนิด

เพราะเหล่าสัตว์ป่าล้วนเชื่อฟัง สรรพสิ่งเร้นลับล้วนไม่กล้าเหิมเกริมต่อนาง

แต่กระนั้นคำสั่งเสียสำคัญก่อนลาจากของบิดายังติดตรึง

‘พลังวิเศษใดๆ ล้วนนำภัย จงเก็บงำเอาไว้มิอาจเผย’

โม๋เอ๋อร์พึงระลึกเสมอเหมือนยันต์คุ้มภัยมิให้ตนผยอง

ทว่านางกลับไม่เข้าใจเลยสักนิด

แน่นอนว่านางไม่เคยผยองในพลังเร้นลับเหนือสามัญของตนเอง แต่การมิให้นำมาใช้เพื่อความอยู่รอดจะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า!

หากเป็นเช่นนี้มิเท่ากับว่า มีปากไม่ให้พูด มีลิ้นมิให้ชิมรส มีตากลับมิให้จ้องมอง มิใช่หรือไร? ทรมานยิ่ง!

เด็กน้อยได้แต่ทำหน้ายู่ยับย่นบ่นงึมงำกับตนเองในใจ ยามลอยตัวพลิ้วไหวท่องเที่ยวอย่างซุกซนไปทั่วผืนป่า กระโดดข้ามเขาลูกหนึ่งโผล่อีกลูกหนึ่ง บางทีก็ดำน้ำหยอกล้อหมู่มัจฉา เหินเวหากลั่นแกล้งมวลวิหคนกเหยี่ยวพญาอินทรีย์

กระทั่งอายุได้เจ็ดหนาว โม๋เอ๋อร์กำลังเดินเล่นกลางป่ารกชัฏที่เต็มไปด้วยภยันตรายรอบด้าน ที่มีเพียงนางเท่านั้นเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน

อันตรายใดๆ เด็กน้อยล้วนพึงใจ เพราะทำให้นางได้ซุกซนอย่างเต็มที่

ชั่วจังหวะที่เดินบ้างกระโดดบ้างอย่างรื่นเริงมาตามทาง สายตากลมโตเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง นอนจมกองเลือดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เรือนร่างเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะน่าเกลียดน่ากลัว เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเผยเนื้อหนังที่มีกระดูกสีขาวโผล่ออกมา 

ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหล่ แผงอก และเรียวขา ล้วนมีเนื้อขาดวิ่นกระดูกโผล่พ้นน่าสะพรึง โดยเฉพาะใต้ราวนมมีซี่โครงหักออกมาให้เห็นชัดเจน

ทั่วตัวเขามีรอยแผลจากของมีคมและเขี้ยวของสัตว์ร้ายผสมปนเป แลดูอนาถยิ่งนัก

โม๋เอ๋อร์กวาดสายตาไปทั่วบริเวณ พบว่ารอบกายเขาเต็มไปด้วยฝูงหมาป่ากำลังจ้องเขม็งด้วยสายตาแววแดงนับสิบตัว กำลังแยกเขี้ยวคำรามน้ำลายไหลยืด ปลายเท้าของพวกมันค่อยๆ ย่างกรายเข้าหาชายผู้นั้นช้าๆ

บ่งบอกได้ดีว่า ชายผู้นั้นกำลังจะตกเป็นเหยื่อให้เจ้าพวกหมาป่าได้เขมือบเคี้ยวเล่นในอีกไม่กี่ชั่วอึดใจ

โม๋เอ๋อร์ยืนมองด้วยสายตาเฉียบคม เห็นชายผู้นั้นจ้องมองฝูงหมาป่าด้วยดวงตาอาบโลหิต ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงต่อกรใดๆ

แน่นอนว่าเขายังไม่ตาย แต่ลมหายใจรวยรินเยี่ยงคนใกล้ประตูปรโลกพร้อมเหยียบเข้าปากผีย่อมไม่อาจช่วยเหลือตนเองได้ในยามนี้ ทำให้โม๋เอ๋อร์ไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้

แม้จะมีคำสั่งเสียของบิดารัดรึง แต่เด็กน้อยไม่ชอบการฆ่าฟันหรือสังหารใคร และความตายเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุด นางไม่อาจปล่อยให้ชายผู้นี้ตายต่อหน้า ถึงจะมิรู้ได้ว่าเขาเป็นบุตรใคร แต่หากเขาตายไปบิดามารดาคงเสียใจแย่

โม๋เอ๋อร์จึงปล่อยพลังปราณกระแสเย็นสายหนึ่งออกมา พลางสืบเท้าเข้าหาฝูงหมาป่าตัวใหญ่ช้าๆ ใช้สายตาคู่งามปรามสัตว์ร้ายตามวิสัย

กลิ่นอายแห่งมัจจุราชของผืนป่าแผ่กำจายจากร่างเล็กไปทั่วบริเวณ ทั้งกดดันทั้งน่ากลัว ไม่มีสัตว์ป่าใดสักตัวกล้าต่อกร

ร่างระหงบอบบางในชุดคลุมขนจิ้งจอกเงินแบบทั้งตัว ค่อยๆ เดินเข้ามาทางหนุ่มน้อยโชกเลือด เหล่าหมาป่าทมิฬล้วนหลบทาง เหลือตรงกลางให้แน่งน้อยได้สืบเท้า

พวกมันพากันเก็บเขี้ยวแหลมคมเอาไว้ในปากยาวยื่น เหลือเพียงลิ้นเปียกชุ่มน้ำลายที่ไหลเป็นทาง แล้วพากันแหงนหน้าเห่าหอนโหยหวนชวนผวา

แม้มิใช่ยามราตรีอันมืดมิดแต่ทุกชีวิตท่ามกลางป่ารกทึบกลับตกอยู่ในความมืดสลัวหนาวเหน็บ โม๋เอ๋อร์ในอาภรณ์ล้ำค่าที่มิได้ใช้เงินซื้อหากำลังเยื้องกรายเข้าใกล้ชายปริศนา ด้วยกิริยาเย็นเยียบสยบสัตว์ร้ายอยู่หมัด เมื่อเดินมาถึงร่างโชกเลือดใต้ต้นไม้ เด็กน้อยก็ยอบกายลงแล้วก้มมองเด็กหนุ่มด้วยท่าทางซุกซนน่ารัก

แววตาคมที่แสนจะอ่อนแรงของเขาพลันสะท้อนเงาใบหน้าเรียวเล็กใสซื่อดวงตากลมโตอยู่ในนั้น

โม๋เอ๋อร์ยกยิ้มพริ้มเพรา นัยน์ตาสีดำขลับพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกตเจิดจรัสงดงาม เส้นผมเรียบลื่นสีดำสนิทที่ปล่อยสยายเคลียไหล่มน ค่อยๆ เปล่งประกายเจิดจ้าคล้ายมีแสงทองเรืองรองโอบล้อม

เด็กสาวเอื้อมมือขึ้นมาแตะเบาๆ ที่ไหล่เขา ส่งผลให้ชายผู้นั้นหอบหายใจแรงเฮือกหนึ่ง หนังตาพลันหนักอึ้งแล้วค่อยๆ ปิดลงก่อนจะหลับไปอย่างช้าๆ

เมื่ออีกฝ่ายสิ้นสติ เด็กน้อยจึงปล่อยพลังปรานสายหนึ่งห่อหุ้มร่างบอบช้ำชุ่มเลือด หมายบรรเทาอาการบาดเจ็บเจียนตายของเขา

เพียงชั่วก้านธูป อวัยวะภายในที่บอบช้ำจนมีลิ่มเลือดเกาะแน่นปิดกั้นเลือดลมจนติดขัด ก็ค่อยๆ คลายตัวสลายออกไป ยังผลลมหายใจเจ้าของร่างกลับมาเป็นปกติ กระดูกที่หักงอผิดรูปทรงก็ค่อยๆ คืนรูปหดกลับเข้าไปยังตำแหน่งเดิม เนื้อเว้าแหว่งไปก็ค่อยถือกำเนิดใหม่ กลายเป็นแผลเป็นขรุขระเท่านั้น

แม้ผิวพรรณอาจจะไม่ราบเรียบงดงามดังเดิม แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยทิ้งเอาไว้แล้วกลายเป็นอักเสบติดเชื้อเกิดเน่าเฟะมีหนอนชอนไช

โม๋เอ๋อร์ใช้พลังที่มีช่วยเขาได้เพียงเท่านี้ ด้วยเพราะยังเป็นเพียงเด็กน้อยไม่ประสา พลังอันใดยังไม่มากพอทั้งสิ้น

แต่แค่นี้ชายตรงหน้าก็ไม่ต้องตายแล้ว

เขาเหลือเพียงคราบเลือดและความอ่อนเพลียก็เท่านั้น

เด็กน้อยถอดเอาสร้อยเถาวัลย์เหนียวที่ผูกเขี้ยวราชสีห์จากคอตนมาแขวนให้เขา แล้วจากไปไม่หวนคืน

นางไม่จำเป็นต้องรอให้เขาตื่น แล้วนำส่งออกนอกป่า เพราะเขี้ยวราชสีห์ที่ห้อยคอเขาก็เพียงพอแล้วสำหรับการคุ้มภัย ส่วนเขี้ยวใหม่นางหาเอาเมื่อใดก็ย่อมได้

นางเดินทางต่อด้วยความอิ่มเอมใจที่ได้ทำดี แต่ทว่ากลับเศร้าใจเมื่อนึกถึงบิดา ถ้าตอนนั้นนางใช้พลังรักษาบิดาของนางได้คงดี แต่บิดานางกล่าวว่า โรคทางใจต้องรักษาด้วยใจ ส่วนพลังของนางรักษาได้เพียงทางกายภายนอกก็เท่านั้น

เด็กน้อยได้ฟังก็ไม่เข้าใจอันใดทั้งสิ้น

โรคทางใจอันใดกันหนอที่ทำให้บิดาร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดอยู่ทุกค่ำเช้า...

----

[1] 魔 Mó มายากลหรือเวทมนตร์

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่88 ตัดสินใจเลือกไม่ถูก

    ตำหนักบูรพา...คู่ยวนยางยังคงไม่สนใจฟ้าดิน พวกเขานอนคุยกันบนเตียงอุ่นด้วยเนื้อตัวเรียบลื่นเปล่าเปลือย คลอเคลียกันไปมา เรียกเสียงครางแผ่วเป็นระยะ บอกรักกันด้วยลีลาร้อนแรงไม่มีเบื่อเมื่อเส้นเสียงครวญครางกระชั้นถี่ ถูกแทนที่ด้วยลมหายใจหนักหน่วงอันเกิดจากการปลดปล่อยขั้นสุด แล้วค่อยๆ ผ่อนลงคงเหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นในจังหวะปกติ การพูดคุยหยอกล้อระหว่างคู่ชีวิตจึงบังเกิด“ภรรยาอยากบอกสามีว่า ชอบท่านั้นที่สุดเลย”โม๋เอ๋อร์กล่าวเสียงใส นัยน์ตาวาบหวาม นึกถึงฉากรักร้อนแรงที่หมิงเฉิงมอบให้ แล้วเลือกฉากหนึ่ง ที่สุขสมสุดยอดนางกล่าวอีกประโยคด้วยความลังเลไม่แน่ใจ“อืม...อันที่จริง ท่านั้นก็ชอบ ท่านั้นก็ชอบ อ๊า...เลือกไม่ถูกเลย สับสนที่สุด”หญิงสาวกระสับกระส่ายเหลือเกิน ทั้งยังคิดมากอีกด้วย“หากเจ้าชอบ ไม่ว่าท่าใด ข้าย่อมทำบ่อยๆ” เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มกล่าวออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ “อันที่จริง สามีเจ้ายังมีอีกหลายกระบวนท่า ทั้งยังสุขสมถึงใจที่สุดของที่สุด เพื่อภรรยา...”โม๋เอ๋อร์หัวเราะคิก แนบเนื้อกายนุ่มบดเบียนกายแข็งขึง แล้วเอ่ยว่า “ภรรยาชอบสามีที่สุดเลย”เรียวคิ้วคมเริ่มขมวด เอ่ยเสียงแตกพร่าอย่างขัด

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่87 ปิดฉากสงคราม

    สงครามกบฏกลางเมืองยังคงดำเนินไป ไฟสงครามยังคงแผดเผา ร้อนฉานไปทั่วพระราชวังต้าหมิงจากราตรีจวบจนทิวากระทั่งราตรีมาเยือนอีกคราแล้วต่อด้วยทิวาอีกครั้ง การปะทะสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นยังคงดังกึกก้องสะท้านฟ้าหมิงจินนำทัพขึ้นหน้าอย่างอาจหาญ สู้ศึกกับหมิงเยวี๋ยนไม่มีถอย สร้างความสงสัยแก่ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางไม่น้อย ทุกคนจับกลุ่มอยู่ในวิหารหลวง ยืนมองหมิงจินเป็นตาเดียวกันด้วยเห็นได้ชัดแล้วว่าบุตรชายปรากฏกายประกาศกร้าวอย่างห้าวหาญ แสดงอานุภาพเผยศักดาต่อธารกำนัล เจียงฮองเฮาจึงตัดสินใจบอกความจริงในที่สุดเนิ่นนานผ่านไป ...หลังจากอธิบายทุกสิ่งทุกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ นับแต่ตั้งครรภ์กระทั่งคลอดจนถูกปองร้าย แล้วลอบเลี้ยงดูโอบอุ้มมาเช่นไร ความเคลือบแคลงสงสัย จึงถูกแทนที่ด้วยความตกใจกันยกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ และจบด้วยเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีจากบรรดาขุนนางโดยเฉพาะหมิงฮ่องเต้ทุกคนให้รู้สึกปรีดากันถ้วนหน้า ที่พระมารดาแห่งต้าหมิง มีบุตรชายเก่งกล้าถึงสองคน หนึ่งคือพยัคฆ์ร้ายราชันทมิฬหมิงเฉิง ที่อาจหาญตั้งแต่เด็ก กระทั่งเติบใหญ่ยังสู้ศึกชนะสิบทิศ ต่างแคว้นไม่กล้ารุกราน มีแต

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่88 ตัดสินใจเลือกไม่ถูก

    ตำหนักบูรพา...คู่ยวนยางยังคงไม่สนใจฟ้าดิน พวกเขานอนคุยกันบนเตียงอุ่นด้วยเนื้อตัวเรียบลื่นเปล่าเปลือย คลอเคลียกันไปมา เรียกเสียงครางแผ่วเป็นระยะ บอกรักกันด้วยลีลาร้อนแรงไม่มีเบื่อเมื่อเส้นเสียงครวญครางกระชั้นถี่ ถูกแทนที่ด้วยลมหายใจหนักหน่วงอันเกิดจากการปลดปล่อยขั้นสุด แล้วค่อยๆ ผ่อนลงคงเหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นในจังหวะปกติ การพูดคุยหยอกล้อระหว่างคู่ชีวิตจึงบังเกิด“ภรรยาอยากบอกสามีว่า ชอบท่านั้นที่สุดเลย”โม๋เอ๋อร์กล่าวเสียงใส นัยน์ตาวาบหวาม นึกถึงฉากรักร้อนแรงที่หมิงเฉิงมอบให้ แล้วเลือกฉากหนึ่ง ที่สุขสมสุดยอดนางกล่าวอีกประโยคด้วยความลังเลไม่แน่ใจ“อืม...อันที่จริง ท่านั้นก็ชอบ ท่านั้นก็ชอบ อ๊า...เลือกไม่ถูกเลย สับสนที่สุด”หญิงสาวกระสับกระส่ายเหลือเกิน ทั้งยังคิดมากอีกด้วย“หากเจ้าชอบ ไม่ว่าท่าใด ข้าย่อมทำบ่อยๆ” เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มกล่าวออกมาอย่างเต็มภาคภูมิ “อันที่จริง สามีเจ้ายังมีอีกหลายกระบวนท่า ทั้งยังสุขสมถึงใจที่สุดของที่สุด เพื่อภรรยา...”โม๋เอ๋อร์หัวเราะคิก แนบเนื้อกายนุ่มบดเบียนกายแข็งขึง แล้วเอ่ยว่า “ภรรยาชอบสามีที่สุดเลย”เรียวคิ้วคมเริ่มขมวด เอ่ยเสียงแตกพร่าอย่างขัด

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่86 สำรวจอาวุธร้าย

    ราตรีเหมันต์หิมะโปรยละอองคลุ้ง ทว่าเมืองหลวงต้าหมิงยามนี้ กลับไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็น เพราะกำลังมีเปลวเพลิงแห่งสงครามลุกกระพือโหมไหม้กองทัพกบฏยังคงเหิมเกริม ยิ่งมายิ่งมาก โดยมีทรราชนำทัพหน้าอย่างอหังการ คนผู้นั้นคือองค์ชายใหญ่หมิงเยวี๋ยน ขนาบข้างด้วยแม่ทัพหนุ่มเว่ยหลุนการก่อกบฏครั้งนี้เป็นฝีมือขององค์ชายใหญ่แห่งราชอาณาจักรต้าหมิง เขาเป็นผู้นำการก่อกบฏอย่างอาจหาญ ประกาศกร้าวยึดครองทุกสิ่ง ทั้งยังร่วมมือกับนักพรตเซียนขู่สิงอีกชั้นหนึ่ง รวมถึงเว่ยหลุนที่ทำทีเข้าหาหมิงเหอเพื่อหลอกใช้อีกฝ่าย ทั้งยังมีนักพรตเซียนขู่สิงส่งปีศาจจิ้งจอกเยาเยามาเป็นบ่าวรับใช้คอยเสริมความชั่วให้ชิงเฟยหากแผนการกบฏสำเร็จ หมิงเหอกับชิงเฟยย่อมไม่รอดอยู่แล้ว ตัวหมิงเยวี๋ยนแค่ยืมมือชายชั่วหญิงโฉดทั้งสองก็เท่านั้นข้อตกลงระหว่างหมิงเยวี๋ยนกับเซียนขู่สิง คืออำนาจในราชสำนักส่วนหนึ่ง แผ่นดินทั้งภูเขา สำนักอารามทั้งหลายในใต้หล้า เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่คับฟ้าไปด้วยกันทว่าใครไหนเลยจักคาดคิด ว่านักพรตผู้สูงส่งตบะกล้าแกร่งจะเจอก้างชิ้นใหญ่ที่เป็นถึงโม๋กุ่ยเสิน เขาถูกทำลายพลังวัตรไปหลายส่วน ลูกศิษย์ยังตายเกลื่อน แม้ว่ากายเนื้อ

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่85 หากรู้เช่นนี้

    ทางเดินภายในเรือนหมิงเสียงกง เกิดเสียงฝีเท้าวิ่งว่องไวหากรู้เช่นนี้ เขาย่อมเข้าหอกับนาง หากรู้เช่นนี้ เขาย่อมกอดนางเอาไว้ตั้งแต่คืนแรกที่แต่งงาน หากรู้เช่นนี้ เขาจักถนอมนางมากกว่าที่เคย จะไม่เอ่ยคำเย็นชาเช่นวันนั้นแม้ครึ่งคำหากรู้อย่างนั้น บางที ในท้องนางอาจมีลูกของเขาแล้วหมิงเฉิงกล่าวซ้ำๆ เพียงประโยคเดิมๆ ย้ำเตือนอยู่ในใจ ความรู้สึกหนึ่งไหลวนท่วมท้นในโพรงอกเจ้าเป็นของข้า ไม่มีสิทธิ์หายไปที่ใดทั้งนั้นเราแต่งงานกันแล้ว เป็นสามีภรรยากัน ตลอดไป...ชายหนุ่มพุ่งร่างหนาใหญ่เข้ามาในห้องส่วนตัว วิ่งวุ่นวายไปทั่ว พลันนึกขึ้นได้ว่านางเคยขอร้องแช่น้ำพุร้อนของเขา ท่าทางของนางต้องการเป็นอย่างมาก ดื้อรั้นหนักหนา ยามนี้นางอาจอยู่ที่บ่อน้ำนั่นเพียงไม่กี่ก้าว หมิงเฉิงก็มายังบ่อน้ำพุร้อนชายหนุ่มเห็นเสื้อผ้าสีเหลืองสดของคนที่กำลังตามหาถูกถอดทิ้งเอาไว้ที่ขอบบ่อในสภาพเปื้อนเลือดสีแดงฉาน เขาจึงไม่เสียเวลาตรึกตรอง รีบกระโจนตัวลงบ่อน้ำทันที บ่อนี้กว้างและลึกพอประมาณ สามารถแช่น้ำดำดิ่งได้ทั้งตัว ความอุ่นร้อนแล่นพล่านแทรกซึมไปทั่วร่างหนาในม่านน้ำพรางตา เห็นเพียงดวงหน้างามพิลาศเลือนรางหมิงเฉิงลงน้ำมา

  • จอมนางพญามาร   ตอนที่84 ลอยไปทางใด?

    ชั่วยามนี้ เหล่าภูตผีปีศาจทุกตัวล้วนเป็นอิสระ อำพรางตัววูบวาบหายไปจนสิ้น ไม่คิดทำร้ายมนุษย์ให้เสื่อมกายทิพย์แต่อย่างใด สงครามจึงเปลี่ยนไปในทิศทางอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทหารของวังหลวงไม่ต้องถอยร่นอีกแล้ว กำลังวังชาและพลังมากมายล้วนกลับเข้าร่าง พวกเขาเริ่มเห็นเค้ารางถึงกำชัยมุมหนึ่งห่างจากกลุ่มคนที่กำลังก่อสงครามเข่นฆ่าเผ่าพันธุ์ตนเอง เยาเยายืนเกาะต้นเสาแน่น ต่อสู้กับบทสวดมนต์อยู่เนิ่นนาน จนสุดท้ายก็ได้รับอิสระนางจึงเรียกรวมเผ่าปีศาจจิ้งจอกทั้งหลายให้เข้าจัดการกับพวกของนักพรตนอกรีตอย่างบ้าคลั่งสงครามจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างทหารกับกบฏ และนักพรตกับปีศาจจิ้งจอก…ตะวันลาลับขอบฟ้า ม่านราตรีเริ่มโรยตัว พาความมืดสลัวเข้าครอบคลุมไปทั่วทุกมุมเมือง ทว่าไม่นาน จันทร์งามเด่นกลับค่อยๆ โผล่พ้นขอบนภา แขวนค้างกลางเวหา นำพาความหวังแผ่วจางบางประการรำไรท่ามกลางปุยหิมะขาวจัด ที่ยังคงลอยว่อนไปทั่วเพราะศึกกบฏกะทันหันอันเกิดขึ้นกลางวังหลวง โอบล้อมเชื้อพระวงศ์เอาไว้ในพระวิหารจนสิ้นและโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ กลับมีเชื้อพระวงศ์คนสำคัญกำลังยืนตระหง่านอยู่ที่ตำหนักบูรพา เพื่อรอเวลาเข้าประหัตประหารกล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status