Share

บทที่ 13

Author: อู๋ซิน
ในขณะนั้นเอง ณ คฤหาสน์ชิงสุ่ย

คฤหาสน์ชิงสุ่ยปลูกสร้างอยู่บนหุบเขา มันเป็นบ้านพักตากอากาศที่สวีอู่เปิดสู่โลกภายนอกเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนสัปดาห์ละครั้ง แต่ยามที่จำเป็นก็จะเป็นพระราชวังฤดูร้อนของสวีอู่ด้วย

ฝนฟ้าชักจะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ และเมฆดำทะมึนในเมืองก็คล้อยต่ำลงมาทุกที ๆ ตอนนี้คฤหาสน์ชิงสุ่ยได้ถูกปิดตายและหยุดการติดต่อกับโลกภายนอก

สวีอู่ที่มาถึงที่นี่พร้อมเหล่าพี่น้องทั้งหลายที่กำลังรอคอยให้หลี่ชิงเฟิงมาถึง

ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่อยู่ข้างนอกก็วิ่งเข้ามาในห้องแล้วบอกว่า "นายท่านอู่! มีข่าวจากข้างนอกว่าไอ้เด็กหลี่ชิงเฟิงเองก็ระดมกำลังพลด้วยครับ"

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่หัวเราะออกมา!

เฮยหลางยิ้มเย็นชา "ให้ตายสิวะ! ไอ้เด็กนี่มันไม่กลัวตายจริง ๆ! มันคิดจะหาคนมาช่วยงั้นรึ? ฉันก็อยากจะรู้นักว่าเมื่อกวาดสายตามองไปทั่วมณฑลทั้งสาม จะมีใครกล้าช่วยมันบ้าง!"

"ใครมันจะไปมีคนเยอะกว่านายท่านอู่ของพวกเราอีกเล่า? ฉันคิดว่าไอ้เด็กนี่มันโง่เง่าสิ้นดี!"

"ในมณฑลทั้งสามแห่งนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่านายท่านอู่คือจอมราชันย์!"

เมื่อสวีอู่ได้ยินเช่นนี้ แววตาก็ฉายประกายดูแคลนพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "พี่น้องทั้งหลาย ถ้ามีคนอยากจะต่อสู้กับพวกเราซึ่ง ๆ หน้า พวกเราก็ควรจะสงเคราะห์ให้สักหน่อยไม่ใช่หรือไง?"

หลังจากทุกคนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็รีบควักโทรศัพท์มือถือออกมากดเลขหมายต่าง ๆ ทันที

ภายในไม่กี่นาที ทั้งคนและอาชาที่อยู่ภายใต้คำสั่งของนายใหญ่จากมณฑลทั้งสามก็รีบรุดเดินทางมา ราวกับว่าเหตุการณ์เริ่มถึงจุดเดือดแล้ว!

ทางหลวงทั่วทุกสารทิศที่นำทางไปสู่เมืองเซี่ยชวนล้วนติดไฟสว่างไสว! ยวดยานพาหนะนับไม่ถ้วนต่างหลั่งไหลเข้าสู่เมืองเซี่ยชวน!

จุดหมายปลายทางมีเพียงหนึ่งเดียว!

คฤหาสน์ชิงสุ่ย!

พวกเขาต่างมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือ!

สังหารหลี่ชิงเฟิง!

...

ในตอนนี้เอง ทุกองค์กรที่ทรงอิทธิพลลำดับต้น ๆ ในสนามรบแถบโพ้นทะเลต่างก็ได้ข่าว จากนั้นพวกเขาก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอสูรรัตติกาลกันแน่?

ถึงได้ออก "บัญชาดับสูญวจนะ" ขึ้นมาจริง ๆ!

และสิ่งที่สร้างความหวาดกลัวให้แก่พวกเขามากที่สุดก็เห็นจะเป็น การที่ยอดฝีมือผู้พิทักษ์สนามรบแถบโพ้นทะเลตลอดทั้งปีหายตัวไปในเวลาเดียวกัน! มิหนำซ้ำยังไม่รู้ว่าหายไปที่ไหนอีกด้วย!

ดูเหมือนพายุลูกใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นแล้ว

ในยามนี้เอง ณ เกาะร้างในสนามรบแถบโพ้นทะเล! คลื่นคำรามสาดซัดโขดหิน!

บนโขดหินแห่งนี้ มีคนร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง! จนราวกับจะผสมกลมกลืนไปกับเส้นขอบฟ้าอย่างไรอย่างนั้น!

คนผู้นั้นมีแววตาเยียบเย็น! ยามที่มองดูจากที่ไกล ๆ จะมีท่าทีมืดมน ราวกับเมฆฝนที่ค่อย ๆ รวมตัวกันในท้องฟ้าอันห่างไกล!

นั่นคือทิศทางของอาณาจักรต้าเซี่ย...

"จอมอสูร เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่?" คนผู้นั้นพึมพำเสียงเบา

"รายงานครับ!"

"เคารพท่านปรมาจารย์วิญญาณ!"

เงาดำผุดขึ้นข้างหลังตัวเขาประดุจภูตผีปีศาจพลางคุกเข่าข้างหนึ่งด้วยความเคารพยิ่ง!

"ว่ามา"

"ท่านจอมอสูรออกบัญชาดับสูญวจนะถึงสิบแปดครั้ง! มิหนำซ้ำยังมีบัญชาเรียกระดมพลเหล่านักรบอสูรรัตติกาลผู้แกร่งกล้ากลับไปที่อาณาจักรต้าเซี่ยทันที! ห้ามบิดพลิ้วเป็นอันขาด!"

"อะไรนะ!"

คนผู้นั้นหันหลังกลับมาทันที! คลื่นยักษ์ความสูงกว่าสิบเมตรคำรามอยู่เบื้องหลังตัวเขา! คนผู้นั้นกลับไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับไปมองแล้วซัดฝ่ามือใส่กลางอากาศ! ทว่ากลับทลายคลื่นยักษ์ระลอกนี้ได้จริง ๆ!

คนผู้นี้เป็นหนึ่งในปรมาจารย์วิญญาณทั้งสามสิบหกคนภายใต้บัญชาการของอสูรรัตติกาล นามว่ากูหวน!

"นายว่ายังไงนะ? จอมราชันย์ออกบัญชาดับสูญวจนะถึงสิบแปดครั้งเชียวรึ!"

กูหวนมองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความไม่อยากเชื่อ พลางนึกสงสัยว่าเขาได้ฟังผิดจริงๆ ใช่หรือไม่

ผู้ใต้บังคับบัญชาผงกศีรษะ "ครับ เพิ่งจะออกประกาศครั้งที่สิบแปดเมื่อสองนาทีที่แล้วนี้เอง! ปรมาจารย์วิญญาณอีกสามสิบห้าคนได้ออกเดินทางไปแล้วครับ"

กูหวนสีหน้าซีดเผือด! เขาย่อมรู้ดีแก่ใจบัญชาดับสูญวจนะทั้งสิบแปดครั้งหมายความว่าอย่างไร!

ตอนนั้นจอมอสูรเพียงออกบัญชาดับสูญวจนะ ผ่านไปแค่เพียงคืนเดียว อสูรรัตติกาลก็เข่นฆ่าสังหารหน่วยรบแถบโพ้นทะเลไปถึงเจ็ดสิบสี่หน่วย! มีผู้คนล้มตายไปทั้งสิ้นกว่าสองแสนคน!

แล้วถ้าออกบัญชาดับสูญวจนะถึงสิบแปดครั้งเล่า! หรือว่า...เขาอยากจะทำลายล้างโลก?

"เร็วเข้า! รีบบอกพี่น้องทั้งหลายให้กลับประเทศจีนเดี๋ยวนี้เลย! เร็วเข้าสิ!!"

เขตแดนสงครามเย็นทางตอนเหนือ!

บนพืดน้ำแข็งทั้งลมแรงและมีหิมะปกคลุม! เมื่อก้มมองลงไปจากที่สูง มีคนหลายสิบคนกำลังวิ่งเร็วรี่อยู่บนทุ่งน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้!

ความเร็วดังกล่าวเกินกว่าความเร็วของรถยนต์ไปแล้ว!

ไม่ว่าจะผ่านไปที่ไหนก็จะมีเสียงลมคำราม! แม้แต่พายุหิมะก็ยังถูกพวกเขาหอบไปด้วย! ทั้งยังก่อให้เกิดรอยแตกลึกบนพื้นน้ำแข็งเช่นกัน!

"พี่น้องทั้งหลาย! จอมอสูรออกบัญชาดับสูญวจนะถึงสิบแปดครั้ง! รีบเดินทางกลับเร็ว ๆ เข้า! พวกเรามีเวลาไม่มาก ต้องเร่งฝีเท้ากันหน่อยนะ!"

"รับทราบ!!"

"รับทราบ!"

หลายสิบคนเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอีกครั้ง! จากนั้นวิ่งไปยังชายแดนข้างหน้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล!

ตอนนี้หลังแนวชายแดน ทหารรักษาการณ์ที่ใช้เรดาร์ก็ตรวจพบพวกเขาแล้ว จุดสว่างหลายตำแหน่งบนเรดาร์กำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว!

ทหารคนนั้นหวาดกลัวจนหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นเขาก็รีบตืดต่อผู้บังคับบัญชา "รายงาน! พบวัตถุไม่ทราบที่มากำลังเข้ามาใกล้แนวชายแดนของพวกเราด้วยความเร็วสูง! ได้โปรดสกัดเอาไว้ด้วย!"

เสียงตะโกนลั่นดังขึ้นมาจากปลายสาย "ปล่อยผ่านไปเถอะ! ไม่ต้องสกัดพวกเขาหรอก!"

"ทำไมล่ะครับ?"

ทหารถามด้วยความสับสน ในตอนนี้จุดสว่างเหล่านั้นบนเรดาร์กำลังเข้ามาใกล้แนวชายแดนทุกที ๆ!

"ก็แค่ปฏิบัติตามคำสั่ง! อย่าถามให้มากความเลยน่า! บอกทหารรักษาการณ์ที่อยู่ข้างหลังแก ให้ปล่อยคนพวกนี้ให้ผ่านไปด้วยล่ะ!"

"คนงั้นเหรอครับ?"

เมื่อทหารทั้งหลายได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็เหงื่อแตกพลั่ก...

ใครกันที่น่าสะพรึงกลัวได้ขนาดนั้น...

ในขณะเดียวกัน

ผู้คนจากมณฑลทั้งเองก็เริ่มที่จะมารวมตัวกันอยู่ใกล้ ๆ คฤหาสน์ชิงสุ่ย! ถึงแม้ว่าจะมีลมแรงและฝนตกหนัก แต่ก็ไม่กดข่มพลังอันท่วมท้นของผู้คน!

ฟ้าผ่าแหวกนภายามราตรีในเมืองเซี่ยชวน! พายุฝนยิ่งมาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ!

สวีอู่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าหม่นคล้ำ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมารับสาย ปลายสายคือหัวหน้าทีมหลิวประจำหน่วยลาดตระเวนเมืองเซี่ยชวน

"นายท่านอู่ ขุมกำลังทั้งหมดจากมณฑลทั้งสามมาถึงเมืองเซี่ยชวน คุณจะทำอะไรกันแน่?" หัวหน้าทีมหลิวยิ้มให้

แม้แต่เขาก็ยังต้องเรียกสวีอู่ว่า "นายท่านอู่"

สวีอู่ก็ยิ้มเยาะ "คุณไม่รู้เรื่องนั้นหรอกเหรอ? คุณคิดว่าผมสวีอู่จะทนไหวงั้นรึ?"

หัวหน้าทีมหลิวถอนหายใจ "มณฑลทั้งสามสงบสุขมาโดยตลอด ตอนนี้คุณกลับก่อเรื่องวุ่นวายแบบนี้! ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราไม่ดีกว่าเหรอ?"

"ฮ่า ฮ่า!"

สวีอู่หัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งแล้วแผดเสียงขึ้นมาทันทีว่า "ไม่ต้องหรอกครับ! ผมก็แค่อยากจะแสดงให้ไอ้พวกเศษสวะกลุ่มนี้ได้เห็นเท่านั้น! ดูเหมือนว่าพวกมันจะลืมผลที่ตามมาจากการทำให้ผมสวีอู่โกรธเคือง! คุณปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมคนเดียวจะดีกว่านะ!"

ทันทีที่สวีอู่พูดจบ เขาก็วางสายไป

ในยามนี้เอง ขวางเสอก็เอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า "เหล่าพี่น้องจากมณฑลทั้งสามกว่าสี่พันคนต่างมารวมตัวกันที่นี่แล้ว! นายท่านอู่ ตอนนี้ผมกำลังรอคำสั่งของคุณอยู่!"

สวีอู่มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นฝนกำลังตกหนัก! เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า! เฉกเช่นเดียวกับเพลิงโทสะในจิตใจของเขาในยามนี้!

"บอกพี่น้องทั้งหลายให้ดักซุ่มรอบคฤหาสน์ชิงสุ่ยแล้วรอคำสั่งของฉัน!"

"รับทราบ!"

ตอนนี้หัวหน้าทีมหลิวมองดูโทรศัพท์ในมือพร้อมถอนหายใจด้วยความอับจนหนทาง จากนั้นก็กัดฟันพูดว่า "จบกัน! คราวนี้จบเห่กันแล้ว!"

ทันใดนั้นก็มีเจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าซีดเผือด "ระ... รายงานครับ! คนจากมณฑลทั้งสามเริ่มจะเคลื่อนขบวนไปที่คฤหาสน์ชิงสุ่ย! มีคนเยอะกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้เสียอีก!"

"มีคนมากันเยอะแค่ไหนงั้นรึ?" หัวหน้าทีมหลิวถามพร้อมดวงตาเบิกกว้าง

"ยะ... อย่างน้อย ๆ ก็สี่พันคนครับ!"

"อะไรนะ! สี่พันคนงั้นเหรอ!"

หัวหน้าทีมหลิวกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจขึ้นมาทันที "ให้ตายสิ! พอแกพูดถึงไอ้คนโง่นั่น! สวีอู่เป็นบ้าอะไรของมัน!"

"มีสี่พันคน พวกเรามีกำลังคนไม่มากพอ ถ้าเกิดการต่อสู้ขึ้นมาจริง ๆ พวกเราก็จะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เลย! แกคอยไปจับตาดูเอาไว้ก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันจะรีบโทรไปขอความช่วยเหลือจากกองบัญชาการ!"

ไม่นานหัวหน้าทีมหลิวก็ต่อสายไปหากองบัญชาการ

"สวัสดีครับ? ผู้บัญชาการชุยเหรอครับ? เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ! สวีอู่มันบ้าไปแล้ว! คนใหญ่คนโตจากโลกใต้ดินแห่งมณฑลทั้งสามมาที่นี่กันเกือบหมดเลยครับ!"

"ประมาณการณ์คร่าว ๆ แล้ว พวกมันมารวมตัวกันอย่างน้อย ๆ ก็สี่พันคน!"

ที่น่าประหลาดก็คือเมื่อผู้บัญชาการชุยคนนั้นได้ยินเข้ากลับไม่รู้สึกแปลกใจนัก แต่เขากลับค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "ผมรู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ"

"คุณรู้งั้นเหรอ? งั้น... ตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงดีกันครับ! พวกเราต้องการความช่วยเหลือนะครับ!"

"คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก ผมาคนไปที่นั่นแล้ว จำเอาไว้ด้วยล่ะว่าไม่ว่าเรื่องวันนี้จะมีผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบไหน คุณห้ามสอดมือเข้าไปยุ่งเป็นอันขาดแล้วก็ปิดข่าวให้สนิทด้วย! อย่าให้แพร่งพรายออกไปได้เป็นอันขาด!"

หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้บัญชาการชุยกล่าวขึ้นมา หัวหน้าทีมหลิวก็รู้สึกตื่นตะลึง...

"ผู้บัญชาการชุย เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ? คุณช่วยบอกอะไรผมสักอย่างได้ไหม?"

ผู้บัญชาการชุยเงียบไปสักครู่ จากนั้นก็ถอนหายใจพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอึมครึม "คราวนี้สวีอู่ตอกตะปูปิดฝาโลงตัวเองเข้าให้แล้ว..."

"อย่าถามอะไรมากนักเลย รู้มากเกินไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีกับตัวคุณหรอกนะ จดจำคำพูดของผมเอาไว้ให้ดีล่ะ ปิดข่าวซะ! อย่าทำให้ผู้คนตื่นตระหนกเป็นอันขาด! นี่คือสิ่งที่คุณควรจะต้องเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้ต่างหากล่ะ!"

"รับทราบครับ! ไม่ต้องห่วง! ผมสัญญาว่าจะปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง!"

เมื่อหัวหน้าทีมหลิววางสายลง เขาก็ทรุดตัวลงกับเก้าอี้ด้วยสีหน้าเหยเก...

คนที่อยู่ข้าง ๆ ค่อย ๆ เดินเข้ามาหา "หัวหน้าครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ? ผู้บัญชาการชุยก็ทำอะไรไม่ได้เหรอครับ?"

หัวหน้าทีมหลิวแค่นเสียงเย็นชา "ผู้บัญชาการชุยบอกว่าวันนี้สวีอู่คนนี้อาจจะต้องตายน่ะสิ"

ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกตื่นตกใจแล้วหัวเราะแห้ง ๆ ออกมา "หัวหน้า คุณล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? สวีอู่เป็นใครกัน! เขาปกครองมณฑลทั้งสามมาตั้งกี่ปีแล้ว? ใครมันจะกล้าไปยุ่งกับเขากัน! ดูสิ... แม้แต่ผู้บัญชาการชุย เขาก็ยังไม่ไว้หน้าเลยไม่ใช่หรือไงครับ?”

หัวหน้าทีมหลิวลูบคางแล้วขมวดคิ้ว "ใช่! ฉันก็สงสัยเหมือนกัน ใครกันที่สามารถถอนรากถอนโคนต้นไม้พันปีอย่างสวีอู่ได้?"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 286

    "พ่อไม่ไปนะ!" จู่ ๆ เซี่ยเทาก็แผดเสียงร้องพลางกระโดดข้ามโซฟาแล้ววิ่งไปที่ประตูหลัง! เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายตอบสนองว่องไว! เพียงก้าวเดียวก็ประชิดตัวพลางจับเขากดลงกับพื้นแล้วบังคับสวมกุญแจมือ สิบนาทีต่อมา ภายในห้องสอบสวน เสี่ยวอิ๋งนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงนั้นพร้อมด้วยความคิดมากมาย ตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดูวิดีโอแล้วถามว่า "เท่าที่พวกเราทราบมา คนที่อยู่ในวิดีโอคือเซี่ยเทาพ่อของคุณ ตอนนี้เขาอยู่ห้องข้าง ๆ คุณจะอธิบายสิ่งที่เขาพูดว่ายังไงล่ะ?" เสี่ยวอิ๋งสูดลมหายใจลึก ๆ พลางผุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทำไมคุณถึงไม่ถามเขาเองล่ะคะ?" "แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องถามเขาอยู่แล้ว แต่คุณเป็นลูกสาวของเขา คุณจะไม่รู้เรื่องนี้เลยเชียวเหรอ?" เซี่ยอิ่งลูบคางพลางครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "จริงด้วยสิ! ดูเหมือนเขาจะเคยบอกว่าทำความผิดร้ายแรงบางอย่างแล้วอยากจะหนีไป! ฉันถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยแถมยังบอกว่ายิ่งฉันรู้ให้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี! วันหน้าให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี ๆ..." "พูดต่อไปสิ" "จากนั้น

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 285

    "จะวิธีอะไร ฉันก็อยากลองดูทั้งนั้น!" เสี่ยวอิ๋งเอ่ยโดยไม่ลังเล "ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก! วิธีไหนฉันก็อยากจะลองดู!" เย่เจี้ยนเหอเงยหน้ามองเธอแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า "โยนความผิดเรื่องทั้งหมดนี้ให้พ่อของเธอแบกรับไว้!" เมื่อเสี่ยวอิ๋งได้ยินเช่นนี้ ศีรษะของเธอก็ส่งเสียงอื้ออึง! ตอนแรกสังเวยคุณย่าไปแล้ว ตอนนี้ถึงทีพ่อของเธอแล้วงั้นเหรอ? เย่เจี้ยนเหอจ้องมองเธอ "ไม่มีเวลาคิดแล้ว จะตกลงหรือจะติดคุก!" "ฉันตกลง! ฉันตกลงค่ะ! ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก คุณอยากให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!" เสี่ยว อิ๋งผงกศีรษะซ้ำไปซ้ำมา เย่เจี้ยนเหอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะเรียกทนายเข้ามา พวกเขาจะบอกเธอว่าต้องพูดหรือทำอะไร จากนั้นเธอก็แค่รอให้ตำรวจเรียกตัว" เสี่ยวอิ๋งผงกศีรษะ "ฉะ...ฉันเข้าใจแล้วค่ะ" พอกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวอิ๋งก็เจอพ่อของเธอ เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ดวงตาของเสี่ยวอิ๋งก็ฉายแววน่าหวาดกลัว เซี่ยเทาก็รู้ได้โดยไม่ต้องคิดเลย ลูกสาวของเขารู้เรื่องแล้ว "เสี่ยวอิ๋ง พ่อทำอาหารให้ลูกกินด้วยนะ ดูสิ..." "กินบ้าอะไรเล่า!" เสี่ยวอิ๋งพลันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ขึ้นมาทันที! เธอร

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 284

    ในสถานการณ์เช่นนี้ ขืนเสี่ยวอิ๋งมัวแต่เข้าไปพัวพันคงได้จบเห่กันพอดี การเก็บเธอไว้น่าจะยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง เสี่ยวอิ๋งเองก็เป็นคนฉลาดจึงผงกศีรษะแล้ววิ่งออกทางประตูหลัง... เย่เซียวคิดจะเข้าไปขวาง แต่กลับถูกหลี่ชิงเฟิงห้ามเอาไว้ "ไม่ต้องไล่ตามหรอก วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของหวังเจิ้น อย่าทำอะไรน่าเกลียดเกินไปเท่านี้ก็พอแล้ว" เย่เซียวพยักหน้าแล้วยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำ ในตอนนี้เอง ปี้ไห่เทาก็เดินยิ้มเข้ามา "เหล่าหวัง วันนี้ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะ! ทั้ง ๆ ที่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดดี ๆ ที่นายควรจะมีความสุขแท้ ๆ แต่กลับลงเอยแบบนี้เสียได้..." หวังเจิ้นถอนหายใจ "ช่างเถอะ" "เหล่าหวัง ตระกูลเย่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกหอการค้าเทียนเหมินของพวกเรา เย่เจี้ยนเหอดันพานังคนชั้นต่ำแบบนั้นมาเสียได้ กลับไปเมื่อไหร่ฉันย่อมต้องตำหนิเขาแน่! ฉันจะทำให้เขาจำให้ขึ้นใจเชียวล่ะ! เมื่อพวกเรากลับถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ไห่เทาย่อมต้องมาขอขมาของแน่นอน" หวังเจิ้นโบกมือ "คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ช่างมันเถอะ ผมไม่ถือสาหรอก" ปี้ไห่เทาพยักหน้าพลางขยิบตาให้เย่เจี้ยนเหอ จากนั้นพวกเขาสองคนก็ก้าวเดินจากไป ขณ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 283

    เสี่ยวอิ๋งโมโหจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว เธอชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิงแล้วด่ากราดว่า "แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! คู่ควรที่จะมอบของขวัญให้ฉันแล้วงั้นเหรอ?" "หุบปากไปซะ พ่อตาของแกโดนซ้อมขนาดนั้น เขยอย่างแกไม่กล้าแม้แต่จะผายลมเสียด้วยซ้ำไป! แกยังกล้ามาก่อเรื่องที่นี่อีกงั้นรึ?" "ถ้าฉันเป็นแกล่ะก็ คงได้โหม่งเสาโทรศัพท์ตายไปแล้ว!" "ไร้ยางอายสิ้นดี!" เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งหน้าแดงก่ำและลำคอแข็ง หลี่ชิงเฟิงกลับยิ่งขบขันพลางกล่าวว่า "ฉันคิดว่าเธอต่างหาก มั้งที่น่าจะเป็นฝ่ายโหม่งเสาโทรศัพท์?" ทันทีที่เขาพูดจบ หน้าจอขนาดยักษ์ข้างหลังล็อบบี้ก็พลันสว่างขึ้น! หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงก็สลัวลงแล้ววิดีโอก็เริ่มฉายบนหน้าจอขนาดยักษ์ เมื่อเสี่ยวอิ๋งหันหน้าไป สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือเซี่ยเทาที่กำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง โดยมีสาวสวยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธออยู่ข้างกาย! หึ่ง! เสี่ยวอิ๋งศีรษะจวนจะระเบิดอยู่แล้ว! เธอได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น! มันเป็นวิดีโอที่ก่อนหน้านี้หลี่ชิงเฟิงถ่ายเอาไว้นั่นเอง! เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งนิ่งงันไป หลี่ชิงเฟิงก็นิ้มแล้วพูดเสียงดังขึ้นมาว่า "ทุกท่าน ผู้ชายที่อยู่ในวิดี

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 282

    เงินหลายล้านบาทไม่ได้จ่ายไปโดยไร้ประโยชน์แล้ว! ศาสตราจารย์เฒ่าโดนเขาหลอกเข้าแล้วจริง ๆ! เสี่ยวอิ๋งเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นก็ยิ้มพลางชี้นิ้วมาที่หลี่ชิงเฟิง "ตอนนี้แกจะว่ายังไงเล่า? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแจกันของแกมันเป็นของปลอม!" "น่าตลกชะมัดเลย! ฉันเสนอทางออกให้ แต่แกกลับยืนกรานที่จะขุดหลุมฝังตัวเองให้ได้! ไม่มีใครห้ามแกได้เลย!" เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มจาง ๆ แล้วหันมามองศาสตราจารย์หลี่พลางพูดว่า "ศาสตราจารย์หลี่ ช่วยดูขอองผมอีกสักครั้งเถอะครับ" คาดไม่ถึงว่าศาสตราจารย์หลี่จะส่ายหน้าแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า "ไม่ต้องดูหรอก" เซี่ยอิ่งหัวเราะพลางกล่าวว่า "แจกันใบนั้นของแกมันปลอมชัดเจนเกินไป! ศาสตราจารย์หลี่ไม่มองให้เสียสายตาหรอก!" ในยามนี้เอง ศาสตราจารย์หลี่ก็เหลือบมองเธอแล้วสายหน้า "สาวน้อย ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย ฉันยังพูดไม่ทันจบเลย ถึงแม้ว่าแจกันใบนี้จะฝีมือยอดเยี่ยมจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นของปลอมจริง ๆ" "ส่วนแจกันของคุณหลี่ ทันทีที่เข้ามาผมก็เห็นแล้วล่ะ มันเป็นของจริง ดังนั้นผมจึงไม่ต้องตรวจดูเลย" หลังจากศาสตราจารย์หลี่พูดจบ ทั้งห้องก็เ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 281

    ไม่มีใครคาดคิดว่าหลี่ชิงเฟิงจะมีท่าทีแข็งกร้าวเช่นนั้น! ปี้ไห่เทาที่คอยสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ แอบรู้สึกว่าชักไม่ได้การเสียแล้ว หลี่ชิงเฟิงคนนี้ดูไม่เหมือนเขยไร้ประโยชน์อย่างที่ข่าวร่ำลือกันเอาไว้เลยสักนิด การที่ยังสามารถสงบนิ่งได้ในภาวะคับขันเช่นนั้น มิหนำซ้ำยังพูดจาเสียคล่องปากและท่าทีเจ้าแผนการของอีกฝ่าย เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบนี้จะเป็นเขยไร้ประโยชน์ไปได้ สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ ต่อให้อีกฝ่ายจะก่อเรื่องเช่นนั้น แต่หวังเจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ กลับไม่มีวี่แววที่จะโมโหเลยสักนิด พวกเขาต่างอาศัยอยู่ในเมืองหลวง เขาเองก็รู้นิสัยของหวังเจิ้น อีกฝ่ายไม่ใช่ตาเฒ่าที่นิสัยดิบดีอะไรเลย พอปี้ไห่เทานึกได้เช่นนี้ เขาก็ทอดสายตามองเย่เจี้ยนเหออีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสายตาหลุกหลิกอยู่บ้าง เขาก็พอจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนใบนี้จะมีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ เสียด้วย ตอนนี้เย่เซียวยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมเจตนาสังหารอันแรงกล้า! เย่เจี้ยนเหอกับเสี่ยวอิ๋งหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัวไปชั่วขณะ ไม่นานปี้ไห่เทาก็ลุกขึ้นแล้วมองหลี่ชิงเฟิงด้วยสายตาเย็นชา "ทำแบบนี้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status