จังหวัดเชียงใหม่
บรรยากาศในคืนเดือนมืดในช่วงกลางดึกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัดและอากาศที่เย็นยะเยือกในฤดูหนาว ท่ามกลางความมืดมิดคงมีแต่เสียงจิ้งหรีดและแมลงตัวน้อยที่คอยแทรกแซงแข่งกันโก่งเสียงสั่น
บุคคลชุดดำปิดบังใบหน้าเหลือแต่ลูกตากำลังหันซ้ายหันขวา เป้าหมายคือบ้านหลังใหญ่กินเนื้อที่หลายไร่ที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน รองเท้าผ้าใบสีซีดกำลังถูกยกขึ้นมาปีนต้นไม้ใหญ่ริมรั้วที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วบริเวณ มือเรียวที่สวมถุงมือสีเข้มจับแล้วห้อยโหนตามแนวกิ่ง กระโดดลงสู่ภายในรั้วอย่างเชี่ยวชาญตามสเต็ปนักกีฬายิมนาสติกเก่า และด้วยความสูงของร่างกายจึงไม่ใช่ปัญหามากนัก
' บ้านเงียบจัง ดูท่าจะยังไม่มีใครกลับมาสิท่า ดี! '
บันไดในห้องเก็บของหลังบ้านถูกยกมาวางทาบกับขอบหน้าต่างชั้นสอง ก่อนจะค่อยๆปีนขึ้นไปทีละก้าว ทีละก้าวจนถึงขอบหน้าต่างบานใหญ่
แกร๊ก! แกร๊ก!
' เชี่ย เสือกล็อคอีก '
บุคคลดังกล่าวหันรีหันขวางก่อนจะตัดสินใจหยิบกระถางดินเผาพอดีมือที่วางประดับหน้าต่างมาทุบกับกระจกตรงหน้าจนแตกกระจาย
รีบล้วงมือเข้าไปปลดกุญแจแล้วอ้ากว้าง นำตัวเองเข้าไปในห้องใหญ่ แสงจากไฟฉายกระบอกเล็กสาดส่องไปทั่วท้องก่อนจะหยุดตรงตู้เซฟขนาดใหญ่สีดำมุมห้อง
ในเวลาไม่นานตู้เซฟก็ถูกปลด นี่เธอฉลาดเกินไปหรือคนตั้งรหัสโง่กันแน่!
มือบางรีบหาของสำคัญแล้วหยิบลงในกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ติดหลังมา ก่อนจะปิดเซฟสายตาดันไปปะทะกับบรรดากล่องเครื่องเพชรทั้งหลาย มุมปากกระตุกเหยียด ก่อนจะเปิดกล่องกำมะหยี่แล้วกวาดเอาเครื่องประดับราคาแพงเข้ากระเป๋าอีกรอบ
' หวงนักใช่ไหม! กระอักตายไปเลยสิพวกมึง! '
ร่างบางปาดเปรียวลุกขึ้นสำรวจบริเวณซ้ำอีกรอบ ก่อนจะรีบปีนออกจากหน้าต่างบานเดิม ค่อยๆไต่ลงมาตามราวบันได พอถึงพื้นก็วิ่งไปเก็บเครื่องมือไว้ที่เดิม แล้วรีบเผ่นออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่ในเวลาต่อมา
สนามบินดอนเมือง
เวลา 7:05 นาฬิกา
ร่างบางระหงเดินออกมาจากประตูทางออกของสนามบิน มือบางรีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทที่นัดแนะกันตั้งแต่เริ่มวางแผน
" กูรออยู่หน้าประตูตรงทางออก 1 แล้วนะ โอเคๆ "
ยืนรอไม่ถึงสิบนาทีรถยุโรปคันมินิก็เข้ามาจอดเทียบ กระจกฝั่งข้างคนขับเลื่อนลงพร้อมคนขับสาวที่สวมชุดนอนผมเพ้ายุ่งเหยิ่ง " ลูกจันทร์! ขึ้นรถ "
ปึง!
" มึงได้ของมาปะ " คนขับยิงคำถามทันทีที่เพื่อนสนิทปิดประตู
" ได้ดิ ระดับนี้แล้ว แถมยังได้ของแถมมาด้วยนะ " นิ้วมือเรียวรูดซิปกระเป๋าเป้อ้ากว้าง แสงระยิบระยับภายในทำคนข้างๆเบิกตาโต
" เชี่ยยยย มึงกวาดมาหมดตู้เลยปะเนี่ย! "
" ไม่หมด เหลือเส้นเล็กๆไว้ดูต่างหน้าสักสองสามเส้น " แค่คิดภาพตอนเจ้าของบ้านมาเห็นสภาพกรุสมบัติโดนขโมย ก็แทบจะอดสะใจไม่ไหว ความจริงอยากจะเห็นภาพกรีดร้องชักดิ้นชักงอของเจ้าของบ้านด้วยตาตัวเองมากกว่า
" มึงเช็คดีแน่นะ ว่าไม่เหลือร่องรอยสาวถึงมึงได้อะ "
" แน่นอน กูวางแผนคอยดูการเคลื่อนไหวของคนในบ้านมาสักพักละ "
" โอเค มึงว่าไง กูก็ตามนั้นแหละ แล้วมึงจะเอายังไงกับบรรดาเครื่องเพชรพวกนี้ " ที่เพื่อนถามเพราะรู้ดี ว่ามันไม่ใช่สไตล์ของเธอเลยสักนิด
" เดี๋ยวเลือกไว้แค่เส้นสำคัญๆ ที่เหลือกูจะให้เพื่อนชำแหละแล้วแบ่งขายในตลาดมืด " คนขับพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าคอนโดสูงตระหง่านใจกลางเมือง
" กูขอไปงีบต่อนะ มีอะไรให้ช่วยก็โทรมา " หล่อนพยักหน้าตอบก่อนจะไขกุญแจห้องข้างๆแล้วเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อพักผ่อนเช่นกัน
ผับ xx
เวลา 22.00 นาฬิกา
ไฟจากหน้ารถดับสนิทหลังจากถอยจอดเข้าช่องที่จอดรถ สองสาวจัดแจงทรงผมและเปิดประตูลงจากรถแล้วตามกันเข้าไปข้างใน พอได้โต๊ะก็สั่งเครื่องดื่มก่อนจะวางกระเป๋าแล้วเริ่มจับขาเมาท์มอย
" ทำไมมึงพามาร้านนี้ " ลูกจันทร์กวาดสายตามองรอบๆ แล้วเริ่มโยกหัวเบาๆตามจังหวะเพลง
" เขาบอกว่าเหล้าที่นี่อร่อย บาร์เทนเดอร์ก็แซ่บ! " เพื่อนสาวกรีดกรายจีบปากจีบคอเวลาเมาท์เรื่องผู้ชาย " แถมยังเป็นเจ้าของผับด้วยนะมึง " รู้ดี
" แล้ววันนี้บาร์เทนเดอร์สุดหล่อมึงมาป่ะ กูอยากเห็น "
" มาดิ แต่มาดึกหน่อย " มิน่า วันนี้ลูกค้าสาวๆดูครึกครื้นแถมเยอะเป็นพิเศษ
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกยกจิบเรื่อยๆ แถมจังหวะดนตรีก็แปรเปลี่นเป็นชวนโยก เสียงแหลมกรี๊ดกร๊าดทำเธอหันไปตามกลุ่มสาวๆที่กรู่กันไปที่บาร์
" กรี๊ดๆๆๆ เขามาแล้วมึงงงง " เพื่อนเธอก็เป็นไปกับเขาด้วย " มึงไปไหม กูอยากดื่มฝีมือผู้ชาย "
" มึงไปเถอะ นั่งโต๊ะนี้ก็เห็น " ฉันมองเข้าไปในส่วนของบาร์ที่มีสาวๆรายล้อม มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อสองสามคน แต่คนที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นคนสูงๆนั่นสินะ
ชายหนุ่มร่างสูงสวมเชิ้ตปลดกระดุม พับแขนเสื้อขึ้นโชว์มัดกล้ามที่แขน ไหนจะกล้ามหน้าอกนั่นอีก ทำสาวๆแทบอ่อนระทวยกันเป็นแถบ
ไม่แปลกใจทำไมสาวๆถึงกรี๊ดนัก
เธอยอมรับว่าเขา...ดูดีและน่าดึงดูดใช่ย่อย
ไหนจะสายตาแพรวพราว ริมฝีปากกระจับที่เปื้อนรอยยิ้ม โปรยอ่อยเหยื่อไปทั่วนั้นอีก
ชายหนุ่มยิ้มหวาน ก่อนจะยกเชคเกอร์ขึ้นมาเขย่าแกมเล่นหูเล่นตากับบรรดาสาวๆ สายตาคมคอยไล่เรียงหาสาวในสเปคเฉพาะคืนนี้ ก่อนจะสบตากับสาวผมยาวที่นั่งอยู่ท้าวคางอยู่ขวามือ มือใหญ่รินคอกเทลสีหวานลงในแก้วทรงสวย ประดับตกแต่งด้วยเชอรี่สีสดแล้วดันให้ลูกค้าสาวตรงหน้า
พอเริ่มดึกขึ้นเรื่อยๆ แอลกอฮอล์เริ่มรบกวนสติสัมปชัญญะ จากที่นั่งบนเก้าอี้ก็เปลี่ยนเป็นยืนแล้วเริ่มขยับตามเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม สองสาวต่างยกดื่มแล้วชูแขนอวดทรวดทรงวาดลวดลายกันอย่างเต็มที่
" ขมิ้น!! กูไปเข้าห้องแป๊บนะ " ฉันกอดคอมันมากระซิบ แล้วเดินเบียดกับนักท่องราตรีพลางมองหาป้ายห้องน้ำไปด้วย พอไปถึงคนก็เยอะ! ฉันเลยเลี่ยงไปหาห้องน้ำมุมอื่นซึ่งพอดีกับพนักงานที่กำลังเดินมา
" ถ้าคนไม่เยอะ ต้องเป็นห้องน้ำด้านหลังครับ " โอเคไม่เป็นไร ขี้เกียจยืนรอด้วย
ห้องน้ำด้านหลังแทบจะไม่มีคนแถมไฟก็ไม่สว่าง ฉันรีบเดินเข้าไปกำลังจะจัดการธุระตัวเอง แต่อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆ
อย่านะ! อย่าเป็นแบบที่กูคิดนะ!
เลือดลมที่เคยตีมึนบัดนี้สว่างเปล่งปลั่งเหมือนไม่เคยดื่ม ขนอ่อนลุกชันใจสาวเต้นโครมคราม
' อื้อออออ อ่าาาา ' หื้อ!?
' เบาหน่อย เดี๋ยวคนได้ยิน ' เดี๋ยวนะ! กูว่าไม่ใช่ล่ะ!
แล้วก็ตามาด้วยเสียงกระทบกันของหน้าขาดัง ปึกๆและสียงลมหายใจที่เหนื่อยหอบ โอเค! ชัดเลย!
ไม่ชงไม่ฉี่มันแล้ว! ฉันค่อยๆย่องออกมาจากห้องน้ำ มายื่นอยู่หน้ากระจก หยิบลิปสติกขึ้นมาทาระหว่างรอเสียงห้องน้ำด้านในสุดสงบ และตามมาด้วยเสียงเปิดประตู
ฉันทำเป็นไม่สนใจแต่สายตาก็แอบมองผู้หญิงที่เดินผ่านกระจกออกไป อื้อหื้อ! เหงื่อโชกเชียว สักพักก็มีผู้ชายเดินตามออกมา แต่สายดันไปสบตากับร่างสูงผ่านกระจกใสตรงหน้า
ผู้ชายคนนั้น!
คนที่เป็นบาร์เทนเดอร์!
••••••••••••••••••••
พาคุณดินมาแล้วนะคะทุกท่าน อิอิ
เราสามคนนั่งคุยกันชิวๆ ฟังเพลงเพราะๆ ที่มีนักร้องดีดกีตาร์ร้องเพลงสดๆ ให้ฟัง หลักๆ ก็มีแค่ฉันกับเอิร์ธที่ถามไถ่กันเรื่องสารทุกข์สุขดิบ การเรียน บลาๆๆ ส่วนคนข้างๆ เอาแต่นั่งเงียบ ถามคำก็ตอบคำ เขาเน้นฟังแล้วเก็บข้อมูลมากกว่า จนเวลาลากยาวมาถึงเที่ยงคืน" คุณขับรถไหวรึเปล่า " ฉันถามคนข้างๆ ที่นั่งท่าเดิมนิ่งๆ แขนพาดอยู่ยังไงก็ยังพาดอยู่แบบนั้น ถ้ามือใหญ่กางแผ่แม่เบี้ยได้คงกางปรกเธอทั้งตัวไปแล้ว" ไหว แค่นี้สบายมาก " แต่นั่นออนเดอะร็อคเลยนะ แถมหลายแก้วซะด้วย คอทองแดงขนานแท้" ลูกจันทร์ง่วงรึยัง เธอดื่มไปเยอะเลยนะ เราว่าเรากลับกันเลยดีกว่า " ก็ดีเหมือนกัน เอิร์ธเลยเรียกเช็กบิลแถมบอกว่าขอเลี้ยงต้อนรับเพื่อนเก่าฉันกับเขาเดินมาขึ้นรถหลังแยกจากกับเพื่อนสนิท " ให้ฉันขับดีกว่า เผื่อเจอด่านแล้วโดนเป่า " เขายืนใช้ความคิดสักแป๊บก็ตอบตกลงพร้อมยื่นกุญแจรถให้ พอนั่งปุ๊บก็กางโทรศัพท์เปิดจีพีเอสนำทางฉันค่อยๆ ขับไปตามเส้นทางตามจอ ไม่นานก็ถึงโรงแรมหรูห้าดาวกลางเมืองเชียงใหม่ แล้วฉันก็พึ่งนึกได้ว่ามาส่งเขาแล้ว ฉันจะกลับบ้านยังไง!? แต่เอาเถอะ! ค่อยว่ากัน...ตอนนี้ปลุกคนที่บอกว่าไม่เมาแต่หลับมาตลอดทางก่อน"
ผมนั่งดูเธอคุยกับไอ่เด็กหล่อหน้าใสนั้น เด็กอนุบาลยังดูออกว่ามันน่ะชอบเด็กผม แม่ง! คนนี้กูจองก่อนแล้วไอ่สัด!ปึง!เสียงพูดคุยหยุดกึกแล้วหันมองตามเสียงปิดประตูที่ดังตามแรงอารมณ์ ร่างสูงเดินอาดๆ เข้าไปยืนซ้อนหลังหญิงสาวทำตัวเหมือนสนิทสนม" นี่ใครครับลูกจันทร์ " แถมยังถามเสียงขุ่นเด็กหนุ่มยืนจ้องประเมินการกระทำของฝ่ายตรงข้าม สายตาคมขวางแผ่ปีกกกไข่นามลูกจันทร์อย่างหวงแหน" นี่เอิร์ธ เราเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ เลยเป็นเพื่อนสนิทกัน พึ่งแยกจากกันก็ตอนฉันไปเรียนกรุงเทพแหละ " อ้อ...ก็แค่เพื่อนสนิท!" ส่วนนี่คุณดิน เป็นเพื่อนลูกจันทร์เอง แต่เขาอายุเยอะกว่าเรานะ เอิร์ธต้องเรียกเขาว่าพี่นะ " เพื่อน!? เกือบจะเสียบกันอยู่แล้วเรียกเพื่อน! ให้ตาย!เพื่อนชายคนสนิทยกยิ้มมุมปาก สถานะก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นี่...เห็นเดินปึงปังออกมาจากรถนึกว่าเป็นแฟน ที่ไหนได้ก็แค่เพื่อน" ลูกจันทร์ไม่มีเรียนเหรอ ทำไมมาเชียงใหม่ได้ล่ะ " เพื่อนสนิทหันมาถามหญิงสาว ไม่ได้สนใจคนมาใหม่เลยสักนิด" ใช่ มหา'ลัยเราปิดทั้งอาทิตย์เลย เลยว่าจะกลับมาเที่ยวที่บ้าน " คนฟังยิ้มตาหยีโชว์ฟันขาว" งั้นไปเที่ยวกันไหม เราเรียนเสร็จพอดี "" จริงด
แรงอารมณ์ยังไม่ทันได้ดับมอด แถมตอนนี้กำลังพัดกระพือโหมหนักขึ้นเรื่อยๆ จนยากจะดับ อยากอัดอีกสักรอบเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ไม่เคยอยากลิ้มลองรสชาติของผู้หญิงคนไหนซ้ำๆ ขนาดนี้มาก่อนจดจ้องมองแต่ดวงตากลมโตที่น่าดึงดูดนั่นนี่กูเป็นเอามาก...อยากจัดแต่เธอซ้ำๆสงสัยคงเห่อของใหม่แหละน่า...มือที่ประคองใบหน้าเริ่มลูบไล้ฉันด้วยไอร้อน ลากต่ำลงไปเรื่อยๆ ผ่านลำคอระหง เกลี่ยหลังมือตามแนวคาดไหล่แล้วดันฉันให้นอนหงาย จากนั้นก็จับฉันพลิกคว่ำทาบทับตัวตนลงมาไอความร้อนที่เขาแผ่ออกมาจากกายหนาที่แนบชิดทำฉันร้อนรุ่ม ก้มใบหน้ามาสูดดมความหอมแล้วกระซิบด้วยเสียงกระเส่าที่เขาเป่ารดหลังใบหูด้วยความซ่านกระสัน" ด้วยความสัตย์จริง! ผมโคตรอยากเอาคุณตอนนี้เลย! " เขาแลบลิ้นร้อนเลียกระตุ้นแล้วงับเบาๆ ที่ติ่งหูน้อยๆ เขยื้อนเอวสอบหยอกล้อลำกายแข็งขัดกับสะโพกผายให้ตายเถอะ! อารมณ์ฉันมันเหวี่ยงกลับมาอีกแล้ว! วูบวาบหวั่นไหวแถมตรงนั้นเริ่มมีน้ำซึมขมิบถี่กับการรุกรานอันน่าหวาดเสียว" ลูกจันทร์ล่ะครับ...อยากหรือเปล่า? "ฉันไม่ตอบเขาก็เบียดเอวหนาแรงขึ้น บดหัวเห็ดถูไถขึ้นลงกับร่องเล็กที่เปียกแฉะ " อ่าาา คุณอยากอีกแล้ว " ช่วงล่างที่ร้อ
ฉันจ้องหน้าคนข้างบนด้วยใจที่เต้นระรัว ชุดนอนหลุดลุ่ย เสื้อไปทางกางเกงไปทาง สมองยังไม่ทันคิดคำตอบ ปากร้อนๆ ก็กดทับลงมา" อืมมมม " ฉันหลับตารับสัมผัสอุ่นที่บดจูบฉันด้วยอารมณ์ที่คั่งค้าง เขากวาดเลียตามริมฝีปากล่างช้าๆ ก่อนจะกัดเบาๆ แล้วดูดดึงราวกับมันเขี้ยว แทรกเรียวลิ้นเกี่ยวต้อนฉันในอุ้งปากชื้นแฉะ" อื้มมม...ดูดลิ้นผม " สมองรับคำสั่งทำตามอย่างว่าง่าย ยกมือคล้องคอหนาแล้วเอียงหน้าปรับองศาจูบตอบคนข้างบนอย่างโหยหา เขาจูบเก่ง เร่าร้อน มือใหญ่ที่สะเปะสะปะเริ่มลูบลามลงข้างล่างตามส่วนโค้งเว้าเต็มมือ ปลดกระดุมแหวกสาบเสื้อ กุมเต้าอวบได้ก็เฟ้นฟ้อน ก่อนจะละจากปากหวานแล้วเริ่มจูบซับลงมาตามคอระหงฉันปล่อยอารมณ์ไปตามสัญชาตญาณที่ถูกปลุก แอ่นหน้าอกให้เขาเลีย เผลอกางขากว้างตอบรับลำเอ็นแข็งตอนเขาถูไถขึ้นลงลิ้นสากปาดเลียเม็ดชมพูเล็กกลางยอด บีบแล้วงับเต็มปากรัวปลายลิ้นจนเธอแอ่นโค้ง" อ๊า! " ฉันสอดง่ามนิ้วตามไรผมดกดำแล้วกำแน่น เขาทำฉันเสียวมาก ท่าจะยั่วเยขนาดนี้ก็จัดมาเถอะ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะเหมือนตามหนังเอวีที่เคยดูหรือเปล่า!?เต้าซ้ายยังโดนรุกด้วยลิ้นอุ่นๆ ส่วนอีกข้างก็โดนขย้ำบีบบี้ยอดถันจนแข็
ปฐพียืนกอดอกจ้องประตูห้องน้ำ ครุ่นคิดว่าจะลองชวนเธออาบน้ำด้วยกันเลยดีไหมนะ จะได้สนิทกันมากขึ้น? แต่คิดไปคิดมาหรือจะพอแค่นี้ก่อนดี กลัวเธอจะสำลักความรู้ไปมากกว่านี้ คิดได้ดังนั้นจึงถอยหลังกลับไปนั่งปลายเตียงรอพรึบ!ทว่าจู่ๆ ไฟก็ดับ แถมข้างนอกยังมีลมแรงและพายุฝนที่กระหน่ำเหมือนพายุคลั่ง ลำพังแค่ฝนตกมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขา แต่ประเด็นคือไฟมันดับด้วยไง!มันไม่ได้ปะคนตัวโตหันซ้ายขวากำมือแน่น บังคับให้สมองคิดบวกหลอกตัวเองว่าเดี๋ยวสักพักไฟคงมา แต่ไม่เลย! ยิ่งลมกระโชกแรงยิ่งได้ยินเสียงเหมือนกำลังฟังซาวด์หนังผี!ให้ตายเถอะ!ปึง! ปึง! ปึง!" คุณ!!! เปิดประตูห้องน้ำให้หน่อย!! " มือหนาแทบพังประตูห้องน้ำ ทุบไปก็เสียวสันหลังไป" ลูกจันทร์!!! ผมเข้าไปอยู่ด้วยยยยย!!! "ประตูห้องน้ำถูกกระชากเปิดจากคนข้างในมองตาขวางผ่านความมืด" เฮ้ย!!! "" ฉันเอง!!! " จะตกใจอะไรหนักหนา!! กะอีแค่ไฟดับเนี่ย!" เป็นอะไร " ฉันยืนเท้าสะเอวจ้องร่างตะคุ่มในความมืด เสียงโวยวายทุบประตูห้องน้ำนึกว่ามีใครตายร่างหนาพุ่งประชิดหลานเจ้าของบ้าน สายตาล่อกแล่กกำชุดคลุมของเธอแน่น " คุณ...ไฟดับอะ " รู้แล้วว่าไฟดับ! ก็เห็นอยู่ไหม!ค
มือบางขย้ำกำปกชุดคลุมหนา ภายในอกสั่นระรัวยิ่งตอนลิ้นหนากวาดต้อนให้เธอจนมุมเผลอตอบรับเรียวลิ้นร้ายแบบเงอะๆ งะๆ คนตัวโตรู้ได้ทันทีว่าเธอแทบจะไม่ประสีประสากับเรื่องพันธุ์นี้ ไม่เป็นไร...เขาจะสอนเธอเองเขาจะเอาประสบการณ์ทั้งหมดที่สั่งสมมาอัดสอนให้เธอคนเดียววงแขนแกร่งรวบรัดร่างนุ่มนิ่มแน่นขึ้น สอนประสบการณ์แลกลิ้นจนแข้งขาเรียวอ่อนแรง เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ จากขย้ำชุดหนาแปรเปลี่ยนเป็นกำมือน้อยๆ แล้วทุบไหล่กว้าง ปึกๆ" อื้มมมม จุ๊บ " เขาจำใจปล่อยริมฝีปากบางหวานล้ำ แต่ยังคงดูดคงกัดหยอกล้อกับกลีบปากล่างอมชมพูเข้มอย่างสิเหน่หาหัวเธอหมุนติ้ว มึนเบลอกับคนมากประสบการณ์จนทำตัวไม่ถูก ได้แต่กอบโกยสูดอากาศเข้าปากจนหน้าอกกระเพื่อมดันเสียดสีกับมัดกล้ามตึงขนัดเขาก้มมองใบหน้าหวานที่เริ่มแดงระเรื่อ จดจ้องแต่กับโพรงปากนุ่มนั่นที่ทำเขาเสียความเป็นตัวเอง เขายกมือร้อนโอบแก้มเนียนแล้วเชยคงมนขึ้น อ่อยด้วยสายตาหวานซึ้งแล้วโน้มใบหน้าลงมาอีกรอบหญิงสาวหันหน้าหลบหลีกแรงรับดูดดื่มแต่ติดว่ายังอยู่ในอ้อมกอดเขา ปล่อยปลายจมูกโด่งคลอเคลียไปตามกรอบหน้าและแก้มนุ่ม หลับตาสูดกลิ่นหอมแล้วกดจมูกฝังไปกับก้อนแก้มขาวผ่อง" พอแ
ระหว่างรอทุกคนละเมียดละไมกับอาหารตรงหน้า ไม่รู้จะแอ๊บผู้ดีอะไรหนักหนา หญิงสาวยกแก้วไวน์ทรงสวยขึ้น หมุนข้อมือเบาๆ แล้วดมกลิ่นอายก่อนจะค่อยๆ จิบแล้วเบ้หน้า" รสนิยมห่วยแตก "" ....... "" แกว่าอะไร! " ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว! แม่เลี้ยงหน้าเขียววางช้อนส้อมดังเคร้ง! หยามกันขนาดนี้ต้องสั่งสอนให้รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่กันบ้าง!" แก่แล้วนอกจากหนังหน้าจะเหี่ยวหูยังตึงอีกเหรอคะ ก็พึ่งพูดไปหยกๆ ว่ารสนิยมห่วยแตก "" อย่างแกมันจะไปรู้อะไร! ขวดนี้น่ะ! ไวน์จากสวนคุณทรงพลเลยนะยะ น้ำหน้าอย่างหล่อนไม่มีปัญญารู้จักคนใหญ่คนโตระดับพื้นที่หรอก " นี่ใหญ่แล้วเหรอ!? ถามจริง!? ทำไมจะไม่รู้จัก ข่าวคาวเหม็นคลุ้งซะขนาดนั้น เด็กรุ่นลูกมันยังฟาดทำเมีย" แล้วนี่คุณช่อเอื้องไปรู้จักคนใหญ่คนโตขนาดนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ ตัวเองก็เป็นแค่รากหญ้าไม่ใช่เหรอ "ปึง!ฝ่ามือหยาบห้านิ้วสวมแหวนโชว์ไปแล้วสามนิ้วตบโต๊ะด้วยโมโห! หายใจเหมือนคนขาดอากาศ ตอนนี้หน้าซีดยิ่งกว่าลูกสาวอีเด็กนรก! อีเด็กฟันไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!" ฉันจะรู้จักได้ยังไงมันก็เรื่องของฉัน! อย่ามาลามปาม แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน " เสียงขุ่นเล็ดลอดจากไรฟัน ถ้ามีแค่มันตอนนี้ห
ร่างสูงยังคงจ้องสายที่โทรเข้ามาไม่หยุด จะเอาอะไรกับเขาอีกวะ!? ผู้หญิงสวยๆ น่ะเขาชอบ แต่มันน่ารำคาญเมื่อรู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นเริ่มทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ คนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เขาถอนหายใจก่อนจะกดรับสายเพียงเพราะว่ายังต้องติดต่อกันเรื่องงาน" ครับคุณลูกบัว "" พี่ดินใกล้ถึงรึยังคะ " อีกตั้งสองชั่วโมงจะให้ไปหุงข้าวช่วยรึไงครับ" ยังครับ ผมกำลังเตรียมตัว " ที่จริงไม่ต้องเตรียมอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่รอเวลาพร้อมออก" คือจะโทรมาบอกว่า วันนี้พี่สาวที่เคยเล่าให้ฟังอ่ะค่ะ มันกลับมาที่บ้าน ถ้ามันพูดอะไรอย่าไปเชื่อมันนะคะ มันเป็นคนชอบโกหกปลิ้นปล้อน เป็นพวกรู้หน้าไม่รู้ใจ พี่ดินอย่าไปฟังมันเยอะนะคะ " คนฟังส่ายหน้า หากเขาไม่เจอลูกจันทร์ก่อนหน้านี้คงปักใจเชื่อไปบ้าง สุดท้ายก็แต่ตอบรับไปแบบส่งๆ แล้วขออนุญาตวางสายเหลือเวลาอีกพอสมควร พอคิดอะไรได้มือใหญ่ก็กดโทรศัพท์โทรออกอีกครั้ง รอไม่นานปลายสายก็รับ(ว่าไงคุณ)" ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน ผมอยากคุยเรื่องโฉนดที่ดิน " คุยเรื่องที่โฉนดตอนนี้เนี่ยนะ!? แต่ก็ดี อะไรๆ จะได้เสร็จไวๆ ฉันบอกว่าอยู่บ้าน ไม่นานรถคันเดิมก็มาจอดรอที่หน้าประตูรั้ว ม
" ขอบคุณที่มาส่งนะคะ " เขามองเธอเปิดประตูลงจากรถไป ไม่ลืมหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วกดกริ่งอยู่หน้าประตูรั้วเป็นไปได้ยังไง!?อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้วะ!?ตอนนี้ในหัวสับสนวุ่นวายกันไปหมด ไม่รู้เลยว่าจะช่วยใครยังไงก่อนดี คงต้องนั่งคุยกับเธอเป็นเรื่องเป็นราวให้กระจ่าง ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหกหมกเม็ดแน่ๆเขาถอยรถกลับไปเช็กอินที่โรงแรมเพื่อตั้งหลัก เย็นนี้เขามีนัดทานข้าวกับคุณช่อเอื้อง แน่นอนว่าต้องเจอคนตัวเล็กแน่นอนร่างบางระหงยืนกอดอกรอคนมาเปิดสักพัก ปากเล็กก็ยกยิ้มเพราะมีแม้บ้านกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาทางนี้" สวัสดีค่ะ มาหาใครคะ " แม่บ้านวัยกลางคนยืนจ้องหญิงสาวคุ้นตาที่หน้าประตูก่อนจะค่อยๆ เบิกตากว้าง" คะ...คุณหนู... คุณหนูใช่ไหมคะ " มือสากที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นรีบลนลานเปิดรั้วให้คนมาใหม่ ก่อนจะน้ำตาคลอด้วยว่าคนตรงหน้าคือคนที่หล่อนคิดถึงมาตลอด" สวัสดีค่ะป้าเพ็ญ สบายดีนะคะ " เธอยิ้มหวาน ยกมือพนมก้มไหว้แม่บ้านที่เธอเคารพ แล้วสวมกอดร่างท้วมอย่างคิดถึง" ฮืออออ คุณหนูจริงๆ ด้วย ป้าคิดถึงคุณหนูมากเลยค่ะ มาๆ ค่ะ รีบเข้าบ้านก่อน ข้างนอกอากาศเย็น " เธอมองตามมือหล่อนที่จูงเข้าไปในบ้านอย่างซาบซึ้ง นอกจ