“จำได้หรือยัง”
เสียงของฟรินช่วยปลุกให้ดาวเหนือตื่นจากภวังค์ ขณะที่กำลังนั่งตบตีกับความคิดของตัวเองอย่างหนัก
“เหนือจำไม่ได้ แล้วก็ไม่เชื่อด้วยว่าฟรินจะทำแบบนั้น” หลังจากคืนนั้นถึงแม้จะสงสัยตัวเองอยู่บ้างแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เพราะฟรินคือเพื่อนที่เธอรักและไว้ใจมากที่สุด
แต่…เรื่องราวมันบานปลายจนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่มีมายาวนานเกือบหกปี
“แต่ทำไปแล้ว” ฟรินจ้องมองใบหน้าแสนหวานที่กำลังแสดงความเสียใจออกมาอย่างชัดเจน
“บนรถคันนี้แล้วไปต่ออีกรอบที่บ้านเธอ”
“ทำไมฟรินถึงกล้าทำกับเหนือแบบนั้น”
“แค่เอาเธอต้องใช้ความกล้าด้วยเหรอ ฉันว่าใช้แค่แรงกระแทกอย่างเดียวก็น่าจะพอ”
“ถ้าทำแบบนั้นจริง เท่ากับว่าฟรินฉวยโอกาสตอนเหนือเมา เหนือไม่ได้เต็มใจ”
“เรื่องนั้นฉันไม่สน เพราะถ้าชอบก็จะเอา”
“…..” ดาวเหนือยกมือขึ้นลูบหน้าเพื่อตั้งสติ ฟรินพูดออกมาเหมือนไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ
“โดนเอาขนาดนั้น ยอมรับความจริงได้แล้วเหนือ อย่าทำเป็นไม่รู้”
“…..”
“เธอเป็นเมียฉัน”
“เหนือจำไม่ได้จริงๆ”
“ถ้าจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าแสนหวาน แววตาของเธอมันเต็มไปด้วยความลังเลสับสนไม่มั่นใจ
“เดี๋ยวคืนนี้ซ้ำให้อีกรอบ จะได้ไม่ลืม”
“…..”
ดาวเหนือมองไปรอบๆ บริเวณด้วยท่าทางหวาดหวั่น เมื่อรถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดในโกดังขนาดใหญ่ ฟรินไม่ได้ไปส่งเธอเหมือนที่คิดไว้
“ไหนบอกจะพากลับบ้านไง แล้วมาที่นี่ทำไม”
“หมายถึงบ้านฉันไม่ใช่บ้านเธอ”
ถึงแม้จะคบกันมาหลายปีแต่ฟรินกับแฟรงก์ยังไม่เคยพาเธอมาที่บ้านเลยสักครั้ง
“แต่เหนือจะกลับบ้าน!”
“ถ้าจะกลับก็กลับเอง ส่วนฉันไม่ไปส่ง มันเสียเวลา” ชายหนุ่มบอกผ่านน้ำเสียงรำคาญ ปรายหางตามองไปยังดาวเหนือที่กำลังหันซ้ายมองขวาอยู่ไม่นิ่งเหมือนคิดหาทางหนี
“เดี๋ยวเหนือกลับเองก็ได้”
“ถ้ากล้าก็ไปสิ อวดเก่งดีนักก็เดินกลับไปเอง”
คนตัวเล็กหยุดชะงักไปชั่วครู่ ไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา ข้างทางทั้งมืดแล้วก็เปลี่ยวจนน่ากลัว แต่ฟรินกลับไล่ให้ไปโดยไม่เป็นห่วงเธอเลยสักนิด
“หรือที่นั่งนิ่งเพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดแทงใจเล่านั้น ดาวเหนือจึงเปิดประตูลงจากรถโดยไม่ลังเล รีบเดินหนีออกมา
“อ๊ะ!” แต่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกฉุดกระชากให้กลับมาที่เดิม
“ไม่ให้ไป!”
“ปล่อยนะฟริน” ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความน้อยใจ ฟรินเป็นคนออกปากไล่ แต่ตอนนี้กลับวิ่งตามเธอมา
“ตามมาทำไม ไม่ต้องมายุ่งกับเหนือหรอก”
อยากรู้ว่าคนเย็นชาอย่างเขากำลังคิดอะไรอยู่ หรือแค่คิดอยากจะปั่นหัวเธอเล่นๆ เหมือนที่ชอบทำมาโดยตลอด
“นอนด้วยกันที่นี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปส่ง”
“เหนือจะกลับบ้าน”
“ทำไมชอบทำให้หงุดหงิดอยู่เรื่อย”
“ปล่อยเหนือ” ดาวเหนือพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแต่กลับถูกเขาบีบแน่นกว่าเดิมจนใบหน้าแสนหวานเบ้เบี้ยวด้วยความเจ็บ
“เจ็บนะฟริน ปล่อย!”
“ถ้าถึงห้องแล้วจะปล่อย”
แกร๊ก! บานประตูถูกเปิดออก พร้อมกับหญิงสาวที่ถูกฉุดลากเข้ามาภายในห้องนอน
“ฟะ…แฟรงก์”
ดาวเหนือร้องเรียกขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นแฟรงก์ยืนสูบบุหรี่ที่ริมระเบียง แต่แฟรงก์กลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่ได้เจอเธอตอนนี้ เพราะรู้ว่าคนอย่างฟรินคงไม่ยอมปล่อยดาวเหนือไปง่ายๆ
“เอาจนได้นะมึง ไปเจอเหนือที่ไหน” แฟรงก์ถอนหายใจลากยาวให้กับความบ้าดีเดือดของน้องชาย นอกจากเรื่องของดาวเหนือก็ไม่เห็นว่ามันจะสนใจเรื่องไหนมากขนาดนี้
“ที่คลับของพ่อไอ้ไค”
“แล้วไม่พาเหนือไปส่งบ้านอ่ะ”
“พรุ่งนี้กูต้องตื่นไปสอบแต่เช้า ขี้เกียจขับรถไปกลับ”
“ไม่มีปัญหาตามมาแน่นะ ไหนบอกพ่อหวงนักหนา” แฟรงก์ยืนกอดอกมองไปทางคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้า ดูก็รู้ได้ทันทีว่าดาวเหนือไม่ได้เต็มใจจะมาที่นี่แต่โดนบังคับ
“กูมีปัญญารับผิดชอบเหนือแล้วกัน”
“แฟรงก์ช่วยไปส่งเหนือหน่อยได้มั้ย”
แฟรงก์มองร่างบางอย่างนึกเห็นใจแต่ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าเสนอตัวเข้าไปยุ่งกับดาวเหนือคงได้มีปัญหากับไอ้ฟรินวุ่นวายมากกว่านี้
“ไอ้แฟรงก์มันไม่ยุ่งเรื่องของฉัน ไม่ต้องไปขอร้องมันให้เสียเวลา”
“…..” ดาวเหนือขยับถอยห่าง เมื่อฟรินเดินเข้าใกล้ด้วยท่าทางคุกคามจนรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
“เหนือเข้าใจแล้ว ถ้าฟรินอยากให้อยู่ก็จะอยู่ แต่ห้ามทำอะไรเหนือนะ ตกลงมั้ย”
เป็นเพราะไม่อยากให้มีปากเสียงหรือเรื่องราวบานปลายไปมากกว่านี้ จึงจำใจยอมรับอย่างไม่มีทางเลือก
“กลับไปนอนห้องมึงได้แล้ว”
“ไอ้น้องทรยศ เดี๋ยวนี้มึงเห็นผู้หญิงดีกว่าพี่แท้ๆ อย่างกูเหรอ”
“เออ!” ฟรินตอบอย่างนึกรำคาญ ห้องของมันก็มีแต่ชอบมาวุ่นวายขอนอนห้องเดียวกับเขาเกือบทุกคืน
“ไม่ไปเว้ย!”
“อย่ากวนตีนไอ้แฟรงก์”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ไป”
“แล้วแต่”
“ถ้ามึงกล้าเอากันต่อหน้ากูก็เอาสิ กูจะยืนดูอยู่ตรงนี้แหละ จะอยู่เป็นก้างขวางคอมึง” แฟรงก์ยืนกอดอกอย่างท้าทาย คนดีๆ ที่ไหนจะกล้าทำแบบนั้น
พรึ่บ! ฟรินถอดแว่นสายตาออกจากใบหน้าพร้อมเสื้อยืดที่สวมใส่โยนให้พี่ชายที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง
ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าโชว์รอยสัก เหลือเพียงกางเกงยีนเอวต่ำสีดำขาดรุ่ยปกปิดท่อนล่างกำยำ
เขาเดินเข้าไปแทรกตัวอยู่กลางหว่างขาของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนขอบเตียง ทุกการกระทำล้วนมีสายตาของแฝดพี่คอยยืนมองอยู่ห่างๆ
“เงยหน้าขึ้นมาจะจูบ”
ดาวเหนือทำตามคำสั่ง เงยหน้าขึ้นมองด้วยอาการประหม่า เม้มริมฝีปากแน่นเมื่อปลายจมูกโด่มคมคลอเคลียไปตามพวกแก้มจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นเจือกลิ่นบุหรี่จางๆ
“อืม…” เสียงหวานร้องครางแผ่วเบา เมื่อชายหนุ่มประกบจูบแนบชิด สอดเรียวลิ้นเข้ามาช่วงชิมความหวานในโพรงปาก
เล็บสวยจิกลงบนต้นขาของตัวเองไว้แน่น หลับตานั่งนิ่งยอมให้เขาจูบเนิ่นนาน ก่อนจะถูกผลักราบให้ลงไปนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง
ดวงใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก ไล่สายตามองคนตรงหน้าที่กำลังแกะกระดุมรูดซิปกางเกงออกอย่างไม่อายสายตาของแฟรงก์ที่นั่งกอดอกมองอยู่ด้านหลัง
“ถุงยางที่ฝากไว้อยู่ไหน เอามาสิ”
“…..” แฟรงก์เริ่มหันซ้ายมองขวาอย่างเลิ่กลั่ก อยากจะลุกวิ่งออกไป แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ามันจะกล้าทำต่อหน้าเขาหรือเปล่า
อาจจะเป็นเพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิดเลยไม่ได้แปลกใจอะไรถ้าสองพี่น้องจะเห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของกันและกันมานับไม่ถ้วน
“เงียบคืออะไร หรือไม่อยากให้ใส่”
“ยะ…อยู่ในกระเป๋า”
“หยิบออกมา”
“…..” ดาวเหนือเลื่อนมือที่สั่นเทาควานหากล่องถุงยางอนามัยที่อยู่ในกระเป๋า หยิบมันออกมาแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม
เพียงแค่เหลือบไปตรงส่วนแข็งขืนก็รู้สึกจุกแน่นหายใจไม่ออก
“จะทำจริงเหรอ” ดาวเหนือหันมองไปทางแฟรงก์ที่นั่งอยู่ ฟรินกำลังจะทำเรื่องแบบนั้นทั้งๆ ที่มีคนอื่นอยู่ในห้องนี้ ไม่ได้มีกันแค่สองคน
“กำลังจะเอากับฉันแล้วมองคนอื่นทำไม”
เขาไม่ได้สนใจว่าเธอจะคิดยังไง ถ้าอยากได้ก็จะเอา ฝ่ามือหนาเลื่อนไปจับใบหน้าแสนหวานให้หันกลับมามองเขาเพียงคนเดียว
เขารู้จักนิสัยไอ้แฟรงก์ดีกว่าใคร ถ้ามันทนดูไม่ไหวเดี๋ยวก็ออกไปเอง
“อย่าทำได้ไหม เหนือกลัว”
“ทำใจสิ เพราะหลังจากนี้ฉันจะเอาเธอทุกวัน” ชุดเดรสสีชมพูอ่อนถูกถกให้ขึ้นมากองอยู่บนต้นขาขาวเนียน จนเผยให้เห็นกางเกงชั้นในที่เธอสวมใส่
“ฟริน…”
“ไม่ได้ถอด ไอ้แฟรงก์มันไม่เห็นของเธอหรอก”
“…..” ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เขาโน้มริมฝีปากลงมาจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ แล้วเช็ดน้ำตาออกให้
“คนที่จะได้เห็นของเธอมีแค่ฉันคนเดียว ส่วนคนอื่น…ให้มันรอชาติหน้าก็แล้วกัน!”
นิ้วเรียวเกี่ยวกระหวัดกางเกงชั้นในของหญิงสาวออกข้างเพื่อเปิดทาง จับแก่นกายจ่อเข้าที่ร่องแคบแสนหวาน
“ฟริน…”
“ฉันใส่ถุงแล้ว อย่ามางอแงไม่เข้าเรื่อง อ้าขาออก”
“…..” ดาวเหนือนอนนิ่งหุบขาเรียวเข้าหาเอวสอบไว้แน่น ใช้มือดันอกแกร่งให้ถอยห่าง เธอไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลยสักนิด
“ถ้าพูดไม่รู้เรื่องจะได้เอาสดแล้วปล่อยใน ต้องการแบบนั้นใช่มั้ย” คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธค่อยๆ แยกขาออกจากกันเพื่อให้ฟรินได้สอดใส่ตัวตนเข้ามา
“อย่าเกร็ง จะได้ไม่เจ็บ”
“ฮึก!ฟริน…เหนือเจ็บ!”
“ก็บอกแล้วว่าอย่าเกร็ง”
“ไอ้น้องเวร! มะ…มึงจะเอาแบบนี้จริงดิ” แฟรงก์รีบดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อทนอยู่ต่อไปไม่ไหว มือไม้สั่นเทาริมฝีปากแห้งผาก ไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบสายตามองภาพตรงหน้า
“ถ้าไม่อยากเห็นก็ออกไป หรือถ้าอยากดูก็อยู่เฉยๆ อย่าเสียงดัง”
ปัก! ร่างกายช่วงล่างของดาวเหนือสั่นเกร็งอย่างหนักเมื่อชายหนุ่มดันท่อนเอ็นเข้ามาจนสุดความยาวๆ ก่อนจะขยับช้าๆ เพื่อให้เธอปรับตัว
“เจ็บหรือเปล่า ทนไหวไหม”
“อื้อออ ฟะ…ฟรินพอแล้ว เหนือไม่ไหว”
“มึงมันโรคจิตอะ…ไอ้ฟริน! กูจะฟ้องแม่”
เสียงของแฟรงก์ดังแทรกขึ้นมา ทำเอาฟรินถึงกลับถอนหายใจด้วยความรำคาญ
“งั้นก็รีบไปฟ้องเลย”
แฟรงก์รีบเดินกระทืบเท้าออกจากห้องพร้อมปิดประตูเสียงดังใส่น้องชายด้วยความโมโห
“ไอ้แฟรงก์มันออกไปแล้ว จะขึ้นมาทำเองมั้ย”
“ฟรินทำเจ็บ”
“งั้นขึ้นมาทำเอง”
ร่างเล็กถูกจับพลิกตัวให้ขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนตามความต้องการของชายหนุ่ม
“ขยับเลยสิ ฉันอยากแตกใส่เธอจะแย่อยู่แล้ว”
ดาวเหนือวางมือลงบนอกแกร่งเพื่อทรงตัว ก้มลงมองใบหน้าคมคายของคนที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทแต่มาตอนนี้ความสัมพันธ์มันดันลึกซึ้งเกินกว่านั้น
“มองทำไม” ฟรินเลิกคิ้วถาม กระชากคอเสื้อของคนตัวเล็กให้โน้มลงมาหา
“จะให้เหนือเป็นอะไร แล้วจะให้อยู่ในฐานะไหนของฟริน”
“เป็นเพื่อนเหมือนเดิมดีมั้ย เพื่อนกันมันดี”
“ก็แล้วแต่ฟรินจะให้เป็น”
“งั้นก็มาเป็นเมีย”
“อืม…” แสงแดดสาดกระทบเข้ามาภายในห้องนอน ช่วยปลุกคนที่หลับอยู่ให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์” ดาวเหนือขยับพลิกตัวไปมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองเมื่อถูกหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก “สายมากแล้ว วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” “ให้ป๋าไปดูงานแทน วันนี้เลยมีเวลาว่างทั้งวัน” “ชนินทร์งอแงไหมคะ” หญิงสาวหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง เอนหลังพิงหัวเตียง มองดูลูกชายคนเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของสามี “อยู่กับป๊าเป็นเด็กดี ไม่งอแงเลยครับ” “ปะ…ป๊า~” ชนินทร์ในวัยสิบเดือนเริ่มส่งเสียงเจื้อยแจ้ว วางหน้าซบลงบนลาดไหล่ของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน “ว่าไงสุดหล่อ อ้อนป๊าทำไม” “ป๊า~” “อยากมีลูกอีกสักสิบคน” ไม่พูดเปล่า แต่ยังปรายสายตามองไปทางภรรยาด้วยสีหน้าจริงจัง “เพ้อเจ้อ” “ถ้าเธอไม่หนีไปทำหมัน ป่านนี้คงกำลังท้องลูกฉันอยู่” “ใจคอไม่คิดจะให้พักบ้างเลยหรือไง เหนือเป็นคนนะ ไม่ใช่แม่วัว” ดาวเหนือถอนหายใจลากยาวด้วยความท้อใจ เพราะวันๆ ฟรินเอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับเธอ ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี เข
“ทำไมที่คอของแม่มีรอยแดง” ดาวเหนือหยุดชะงัก รีบดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดลำคอ หลังจากได้ยินคำถามของลูกสาว “ป๊าทำเอง” ฟรินรีบออกรับแทน พลางไล่สายตามองปฏิกิริยาของภรรยา “ป๊ากับแม่ทะเลาะกันเหรอ บีบคอแม่ทำไม” “ป๊าไม่ได้บีบคอแม่ ป๊าแค่จุ๊บแรงๆ” “แล้วแม่เจ็บไหม” ลูกสาวคนโตหันมาถามผู้เป็นแม่อย่างไร้เดียงสา “จะ…เจ็บค่ะ” ดาวเหนือพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่สามีด้วยความไม่พอใจ “ทีหลังป๊าห้ามจุ๊บแม่แรงนะ ศุกร์ให้จุ๊บเบาๆ ก็พอ” “งั้นคราวหน้าป๊าจะจุ๊บเบาๆ” “ฟรินนั่งคุยกับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวเหนือจะเข้าครัวไปหยิบจานผลไม้มาให้” “อย่าไปนาน…คิดถึง” ดึงมือของหญิงสาวมาหอมซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวว่าเสพติด รู้ว่าคลั่งเธอมาก แต่ก็หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ “ปัญญาอ่อนฉิบหาย” แฟรงก์ที่นั่งเงียบอยู่นาน เบะปากมองคว่ำด้วยความรำคาญใจ สองผัวเมียคู่นี้มันยอมกันที่ไหน ไอ้แว่นมันคิดจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนสถานที่หรือผู้คน “สาธุ…กูขอให้เหนือมีผัวใหม่ในเร็วๆ นี้ จะได้หลุดพ้นจากคนประสาทอย่างมึง”
“นิ่งเฉยอยู่ทำไม หรืออยากใช้มากกว่าปาก?” ดาวเหนือคุกเข่าลงตรงหน้า เลื่อนสองมือเข้าไปถอดกางเกงของชายหนุ่มออกอย่างรู้งาน ดวงตาคู่สวยไหวสั่น มองความเป็นชายที่กำลังขยายตัว ถึงแม้จะเห็นอยู่แทบทุกวันแต่หัวใจยังคงเต้นแรงทุกครั้ง ปากบางครอบลงบนแก่นกายอย่างละเมียดละไม เรียวลิ้นอุ่นเลียวนไปทั่วบริเวณส่วนปลาย ก่อนจะออกแรงดูดเบาๆ สัมผัสได้ถึงน้ำสีใสที่ไหลซึมเปียกแฉะไปทั่วริมฝีปาก ฟรินก้มลงมองการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา ท่าทางไม่ประสีประสาแต่เขากลับมองว่ามันน่าหลงไหลจนโงหัวไม่ขึ้น “แค่เห็นหน้าเหนือก็เหมือนจะแตก” “อึก…” ใบหน้าแสนหวานเบ้เบี้ยว เมื่อแก่นกายขยายใหญ่คับริมฝีปากจนเธอเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างนึกเอ็นดู ภาพที่เธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด มือสากเลื่อนเข้าไปจับศีรษะของหญิงสาวไว้มั่น ก่อนจะอัดกระแทกความเป็นชายเข้าออกในโพรงปากเล็กตามจังหวะที่ต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก “อยากให้แตกใส่ตรงไหน” “แล้วแต่ฟรินจะทำ”
“ชนินทร์น่ารักจังเลย หนูขอจับน้องได้มั้ยคะ” ดาวศุกร์เกาะขอบเตียงเขย่งปลายเท้าขึ้นมองน้องชายด้วยความตื่นเต้น “ได้ค่ะ จับน้องเบาๆ นะคะ” “ศุกร์รักน้องค่ะแม่” ดาวศุกร์เผยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อมองเห็นน้องชายตัวจิ๋ว “เป็นพี่น้องต้องรักกันนะคะ” “ถ้าศุกร์โต เดี๋ยวศุกร์จะเป็นคนเลี้ยงน้องแทนแม่กับป๊าเอง” เพราะเห็นว่าป๊าทำงานหนักเลยอยากแบ่งเบาภาระช่วยดูแลแม่กับน้อง “ลูกสาวของแม่คนนี้เก่งที่สุดเลยค่ะ” “ป๊าแฟรงก์เคยสอน บอกว่าถ้าศุกร์เป็นเด็กดีจะมีแต่คนรักเรา” เด็กน้อยยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถ้าดื้อมากๆ จะโดนป๊าแฟรงก์ดึงหู “ใช่แล้วค่ะ ถ้าหนูเป็นเด็กดี ทุกคนจะรักหนู” “ศุกร์สัญญาเลยว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ป๊ากับแม่จะได้รักศุกร์มากๆ” โชคดีที่ดาวศุกร์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย อาจจะซุกซนไปบ้างตามวัยแต่มีจิตใจดี ชอบสงสารและช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นประจำ “…..” “เอาอีกดิไอ้แว่น” แฟรงก์สะกิดน้องชายเบาๆ เพื่อให้หันมองลูกทั้งสามคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน “อะไร?”
“ทำไมวันนี้คนสวยตื่นเช้า ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดคนตัวเล็กไว้แน่นจากทางด้าน โน้มริมฝีปากพรมจูบที่ลำคอขาวเบาๆ ด้วยความหวงแหน วันนี้ดาวเหนือตื่นเช้ากำลังยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ริมระเบียงห้องของบ้านพัก “อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ” “สวยมาก” “ใช่ค่ะ สวยมากเลย” “ไม่ได้หมายถึงพระอาทิตย์ แต่ฉันหมายถึงเธอ” ปลายนิ้วเรียวลูบไล้พวงแก้มอมชมพูอย่างอ่อนโยน “ตื่นมาก็อ้อนเมียแต่เช้าเลยนะคะ” เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มของสามีเบาๆ “อยากทำมากว่าอ้อนอีก” “…..” ใบหน้าแสนหวานเห่อร้อนด้วยความเขินอาย ขยับถอยหนีแต่ฟริน ยังคงเดินตามไม่ห่างไปไหน “อยากย้ายมาอยู่ที่นี่มั้ย เธอจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน” “เหนือชอบที่นี่ แต่ฟรินเองก็ยังมีธุรกิจและลูกน้องที่ต้องดูแล เอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” “ขอแค่บอกมาคำเดียว เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” อะไรที่เป็นความสุขของลูกกับเมียเขายินดีทำให้แบบไม่มีข้อแม้ “คงต้องถามลูกๆ ก่อนว่าอยากมาอยู่ที่นี่ไหม เหนือแล้วแต่ลูก” “ส่วนฉั
“กินผักเยอะๆ หลานแฟรงก์จะได้แข็งแรง” แฟรงก์ยื่นจานผักและผลไม้ให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดาวเหนือท้องแก่ใกล้คลอดจำเป็นต้องกินแต่ของที่มีประโยชน์ “เหนือว่าคนนี้ต้องตัวโตมากแน่เลย” คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มบางๆ อย่างมีความสุข ทุกคนในครอบครัวล้วนแต่เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ “ตัวโตก็ดีแล้ว จะได้ดูแลปกป้องพี่สาวได้” “ศุกร์ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาปกป้องหรอก” ดาวศุกร์พูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเอง “ตัวแค่นี้อย่าทำซ่าส์นะศุกร์” “ก็ป๊าฟรินเป็นคนสอนหนูเองว่าให้ลูกเข้มแข็ง” “สภาพอย่างไอ้แว่นเนี่ยนะจะมาเข้มแข็ง ตอนโดนเมียทิ้งร้องไห้จะเป็นจะตาย” แฟรงก์หรี่สายตามองหน้าน้องชายอย่างเอือมๆ “ป๊าต้องไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า อดหลับอดนอน จนจะเป็นบ้าตามมันไปอีกคน” “กูอยู่ของกูดีๆ ไอ้แฟรงก์ อย่ามาลามปาม” คนที่ถูกกล่าวหา เกิดอาการร้อนตัวรีบพูดแทรกขึ้น เขาอุตส่าห์นั่งเงียบๆ แต่ก็ก็ยังมิวายโดนพูดจากระแทกแดกดัน “กูพูดความจริงทั้งนั้น มึงรับไม่ได้เหรอ” “แล้วเมียของป๊าเ