Share

จะรักแม้จะร้าย
จะรักแม้จะร้าย
Author: จันทร์ส่องแสง

ช่วยคนผิด

last update Last Updated: 2025-04-30 13:50:52

ร่างสูงของใครบางคนทรุดกายลงเบื้องหน้าหวังซูเหยา อาภรณ์สีดำเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดไหลนอง ซูเหยาถลาเข้าจับชีพจร วางฟืนในมือลงข้างลำตัวทั้งลากทั้งดึงร่างใหญ่ให้ไปที่ร่มไม้ เสียงฝีเท้าม้าควบวิ่งวนวุ่นวายไปหมด

“ค้นให้ทั่ว”เสียงคำรามจากร่างใหญ่ของบางคนตะโกนก้อง ทหารหายนายต่างแยกย้ายกันค้นหาซูเหยาลากร่างสูงเข้าไปหลบในร่มไม้ยกศีรษะให้นอนหนุนตัก รอจนกระทั่งหทารเสื้อเกราะพวกนั้นกลับไป จึงเดินออกไปตัดไม้มาทำแพไม้เพื่อจะลาก คนเจ็บ เพราะร่างเล็กของซุเหยาคงไม่อาจแบกเขาขึ้นบ่าได้ ลากร่างใหญ่อย่างทุลักทุเล ไปยังแม่น้ำกว้างใหญ่ ดึงอาภรณ์บริเวณ ไหล่หนาทั้งสองข้างให้ขึ้นไปบนเรือหยิบฟื้นวางในลำเรือก่อนจะใช้ไม้ค้ำถ่อดันเรือด้วยความชำนาญกลับไปยังเรือนแพกลางน้ำ

ร่างสูงนอนเหยียดยาวซูเหยาพิศมองบหน้าหล่อเหลา คนผู้นี้เป็นใครกันเหตุใด ทหารต้องตามล่าเขาด้วย ใบหน้าหล่อกระสับกระส่ายไปมาด้วยพิษบาดแผล ซูเหยาเร่งมือให้ถึงเรือนแพโดยเร็ว

“ท่านแม่”หวังเจี้ยนหยา โผล่หน้าออกมาจากเรือนแพกลางน้ำ ชะโงกมองเมื่อเห็นว่าซูเหยานำคนผู้หนึ่งมาด้วยในสภาพไร้สติก็รีบรุดไปช่วยดึงเรือมาผูกไว้กับเรือนแพ

“คนผู้นี้เป็นใครกัน”ซูเหยาส่ายหน้าไปมา สองคนแม่ลูกช่วยกันลากซีซวนขึ้นไปบนเรือนแพ เจี้ยนยาตรวจจับชีพจร

“ทำความสะอาดบาดแผลก่อนข้าจะไปบดยาสมานแผล”

“ท่านแม่ข้า”

“จะเขินอายไปไยเขามิได้มีสติเสียหน่อยเร่งช่วยเขาจึงดี โอกาสรอดชีวิตมีน้อยขืนเจ้ายังชักช้า”ซูเหยาเอื้อมมือถอดอาภรณ์ออกช้าๆ เนื้อหนังมังสาที่ยังอุ่นๆ กับเนื้อแม่นที่อกผายเต้มไปด้วยมัดกล้ามไม่เคยแตะตัวบุรุษมาก่อนจสาวสั่นไหว หน้าแดงด้วยความเขินอาย เจี้ยนหยา นำยาที่บดละเอียดโปะลงไปที่บาดแผล จากคมกระบี่ที่อกข้างซ้ายเฉียดหัวใจไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด

“ไม่โดนจุดสำคัญ เจ้าพบเขาที่ไหน”

วังหลวง

“ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”ร่างสูง สง่าทว่าใบหน้าเต็มไปด้วยความยโสของซีซาน ที่ก่อนหน้านั้นรั้งตำแหน่งซินอ๋องนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรด้วยท่าทีองอาจ

องครักษ์ข้างกายกระซิบข้างหูเบาๆ

“บัดซบ ส่งคนค้นหาให้ทั่ว แม้พบแต่เพียงซากศพก็ต้องนำกลับมาให้ข้าดู”องครักษ์ข้างกายประสานมือจากไป ซีซาน กำหมัดแน่น

“จะรอดไปได้กี่นำกัน ช่างอึดเสียจริงทั้งต้องคมกระบี่ทั้งตกหน้าผาสูงยังจะรอดได้อีกหรือหากเป็นเช่นนั้นข้าคงต้องฆ่าเจ้าเองกับมือ ซีซวน”

แสงแดดเช้าส่องผ่านหน้าต่างเรือนแพไอเย็นลอยผ่านเข้าไปนห้อง ซีซวนยกมือขึ้นกอดอกทั้งๆ ที่ยังหลับตา ซูเหยา ละมือจากมือที่กำลังค้นข้าวต้มกลิ่นหอมฉุยดึงผ้าห่มตั้งใจห่มให้ซีซวน ร่างใหญ่ลืมตาตื่นคว้าข้อมือของซูเหยา ให้ล้มลงบนอกกว้าง พลิกร่างเล็กให้ลงไปนอนใต้ร่างเขาใช้ร่างสูงใหญ่ทับไว้ทั้งตัว ด้วยระแวงในตัวของซูเหยา

“เจ้าเป็นใครกัน”ส่งเสียงลอดไรฟัน จ้องมองดวงตางาม ตาไม่กะพริบ

ซูเหยายกมือดันอกกว้าง

“โอ๊ย”พลิกร่างลงบนแท่นนอนไม้ไผ่เงยหน้ามองซูเหยาสายตาดุดัน

“มองข้าแบบนี้ ได้อย่างไรกัน”ซูเหยาย่นจมูกใบหน้าสวย มีแววตาหยิ่งทะนง ซีซวนยกมือกุมบาดแผลที่อกข้างซ้ายด้วยความเจ็บปวด ไม่อาจลุกจากแท่นนอน

“ เจ้าทำร้ายข้า”

“เฮ้อ ..ข้าช่วยท่าน”มองดูรอบๆ ที่นี่มีแต่น้ำกับเรือนแพ คิ้วดกขมวดเข้าหากัน ยกมือขึ้นกุมศีรษะนอนหงายเหยียดยาว

“ปวดปวดเหลือเกิน”ซูเหยาถลาเข้าจับมือของซีซวน เจี้ยนหยาวิ่งเข้ามาในห้อง

ดึงห่อยาก่อนจะยัดยาเม็ดลงในปากของซีซวน

จับชีพจรของซีซวน ก่อนจะดูบาดคลำบาดแผลที่ศีรษะ

“แย่แล้วไม่มีบาดแผล”

ไท่านแม่ท่านหมายความว่าอย่างไร ไปเคี่ยวยานี่ น้ำสามส่วนเคี่ยวให้เหลือเพียงส่วนเดียวข้ากำลังคิดว่า คนผู้นี้มีอาการปวดศีรษะ เพราะมีโลหิตพิษในนั้น”

“เหตุใดถึงมีโลหิตพิษ”

“คงตกจากที่สูงแต่ทว่าไร้บาดแผลโลหิตจึง ไหลอยู่ในศีรษะของเขาทำให้เกิดอาการปวดศีรษะทิ้งไว้นานเข้าอาจถึงตาย ยานี่ช่วยขับโลหิตพิษได้” ซูเหยาคว้าห่อยา วิ่งเข้าไปในครัว

วังหลวง

“หากเจ้าเปลี่ยนใจยอมเป็นของข้าเสีย ข้าย่อมยกย่องเจ้า แต่ตำแหน่งฮองเฮาคงต้องให้กับ เซียงเหนียงเจ้าเป็นสนมเอกหรือว่ากุ้ยเฟยที่ข้าแวะเวียนมาทุกค่ำคืนจะดีไหม ร้องไปก็เท่านั้น ซีซวนหาชีวิตไม่แล้ว บัลลังก์บัดนี้เป็นของข้าเจ้าแม้ไม่ได้เป็นฮองเฮาแต่ก็ได้เคียงข้างข้า” อิงฝานปล่อยหยาดน้ำตาไหลริน

“ข้ายอมตาย หากฝ่าบาท ไม่กลับมาข้าก็พร้อมยอมตาย”

“ยังเรียกเขาว่าฝ่าบาทได้อีกหรือในตอนนี้ข้าคือฮ่องเต้ของที่นี่เขาก็แค่โจรกบฏ ที่หนีตายหรืออาจตายไปแล้วก็ได้ในตอนนี้เพียงแต่ยังไม่มีใครพบศพก็เท่านั้น”

“เขาเป็นฮ่องเต้และยังคงเป็นฮ่องเต้"

“ฮ่องเต้ที่คนล้วนกร่นด่าสาปแช่งให้ตายอย่างนั้นหรือ ราษฎรแซ่ซ้องเมื่อข้า นั่งบัลลังก์”

“กร่นด่าแต่ตำแหน่งฮ่องเต้ก็ได้มาโดยชอบธรรม ท่านกับเขาไม่ต่างกัน เขาแม้จะเลวร้ายเพียงใดก็ไม่เคยฆ่าแกงใครผิดกับท่านที่แย่งชิงฆ่าแกงแม้กระทั่งพี่ชายตัวเอง”

“555ข้าจะแสดงให้เห็นว่า ข้าเป็นฮ่องเต้ที่ดีกว่าเขาเพียงใด”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จะรักแม้จะร้าย   อย่าร้องไห้ซูเหยา

    “อย่าร้องไห้ซูเหยาแม่จะช่วยเจ้าไม่ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ยอม”“ท่านแม่เขาลืมข้าแล้วใช่ไหม” ถามซ้ำๆ ดวงตาเหม่อลอยเศร้าหมอง“หากเขารักเจ้าจริง จะต้องจำเจ้าได้อย่างแน่นอน” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ไม่รู้สึกมั่นใจในคำพูดของตัวเองหลายวันต่อมา“ใต้เท้า เว่ย” เจี้ยนหยาประสานมือตรงหน้า“อ่า ท่านหมอเจี้ยนหยาท่านนั่นเองไม่ได้พบกันเสียนานลมอะไรถึงหอบเอาท่านหมอเทวดามาถึงนี่”“ใต้เท้า หากไม่มีเรื่องรบกวนท่านคงไม่อาจพบหน้าข้าเดิม ข้าตั้งใจเร้นกายห่างหายจากวังหลวง แต่มาวันนี้มีบางเรื่องรบกวนท่าน”“คราวนั้นหากไม่ได้ ท่านหมอเจี้ยนหยา บุตรชายของข้าเป่ยเปยคง ไม่อาจมีชีวิตรอด คราวนี้ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟขอให้ท่านหมอเอ่ยปากเว่ยกงฉียินดีแบ่งเบา” เจี้ยนหยายิ้มบางๆเจี้ยนหยาจากไป พร้อมกับความสมหวังใต้เท้าเว่ยรับปากมั่นเหมาะ“ท่านพ่อรับน้องบุญธรรมเช่นนั้นหรือ ข้าไม่เห็นว่าจะจำเป็น” เว่ยเป่ยเปยก้าวออกมาจากด้านหลังของห้องแอบฟังสิ่งที่เจี้ยนหยากับบิดาพูดคุยกันได้ยินในตอนท้ายของความประสงค์“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องขอคำปรึกษาจากคนไม่เอาไหนเช่นเจ้าเป่ยเปย”“เช่นนั้นข้าก็ไม่รับนางในเมื่อข้าไม่เห็นด้วย”“ต้องดีต่อนางในเมื่อน

  • จะรักแม้จะร้าย   ตอนที่5เราจะมาพบกันใหม่

    งานเฉลิมฉลองจัดขึ้นหลายวันผ่านไปราษฎรล้วนมีสุขถ้วนหน้าเจี้ยนหยาเก็บ กระจาดปลาที่ขายจนหมด ก่อนจะแวะไปที่ร้านขายไก่“ป้าเจี้ยน วันนี้ที่หน้าประตูวังเวลาเย็นมีการแจกจ่ายอาหารที่อร่อยระดับเดียวกับเครื่องเสวย แล้วยังมีการโปรยเหรียญทองกับเหรียญเงินอย่างละแสนตำลึง ข้าเห็นว่าป้าเจี้ยน เป็นคนกันเองนะถึงบอก ข้านี้จะรีบขายรีบปิดร้านไปกันทั้งบ้าน”“งานอะไรหรือเถ้าแก่ตง”“ฝ่าบาท กลับมานั่งบัลลังก์หลังจากที่ถูกพวกกบฏ ลอบสังหารบัดนี้ ทวงบัลลังก์คืนได้แล้วอีกอย่างว่ากันว่าเป็นข่าวดีที่สุดฮองเฮาทรงพระครรภ์ ฝ่าบาทจึงดีใจจัดงานเฉลิมฉลอง แล้วยังงดภาษีอีกตั้งสามปีงานนี้เพราะพระบารมีจริงๆ เดิมถูกทำการกบฏมีเสียงร่ำลือว่าฝ่าบาทสิ้นพระชนม์มาครั้งนี้นับว่าเป็นข่าวดีถึงสามต่อ555อย่าลืมไปนะป้าเจี้ยน” เจี้ยนหยาพยักหน้าน้อยๆ คิดถึงซูเหยาที่ไม่ได้กินของดีดีนานแล้วหากได้ลิ้มรสอาหารดีดีเทียบเท่าเครื่องเสวยคงดีไม่น้อยอยู่บนเรือนแพกินแต่ปลาเช้าข้าวต้มปลาเย็นก็ปลาแห้ง จ่ายเงินซื้อไก่แล้วรีบไปที่เรือที่จอดไว้ตั้งใจไปรับซูเหยา ให้มางานเฉลิมฉลองเพื่อซูเหยาจะได้มีรอยยิ้มบ้างหลายวันมานี้ซูบผอมจนน่าใจหายแม้จะซื้อยาบำรุงครรภ์ไ

  • จะรักแม้จะร้าย   ท้อง2

    ซูเหยาขยับกายลุกขึ้นจากแท่นนอนยากเย็นเจ็บระบมไปทั่วตัวโดยเฉพาะจุดนั้น รอยหยดเลือดยังเปรอะอยู่ที่แท่นนอนไม้ไผ่ อมยิ้ม เมื่อคิดถึงบทรักหวานละมุนเมื่อคืน เขินอายกับเสียงกรีดร้องของตัวเองยามที่ซีซวนเร่งจังหวะกระแทกกระทั้น สวมใส่อาภรณ์เดินออกจากห้อง ไม่พบแม้เงาของซีซวน“ท่านแม่ ท่านพี่ข้าวต้มปลา”“เขาไปแล้ว”“ไม่จริง ไม่จริงเขาไม่มทางทิ้งข้าไป”ซูเหยาวิ่งเข้าไปในห้อง มองสำรวจจนไปทั่ว สิ่งที่พบคือป้ายหยก ลวดลายสวยงามที่เคยเห็นซีซวนแขวนไว้ข้างเอวเก็บมันขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา น้ำตาไหลรินสะอื้นไห้อย่างหนักเจี้ยนหยา เขามาสวมกอดลูกสาว“ท่านแม่เขาทิ้งข้าไปแล้ว”"ร้องออกมาเสียให้พอซูเหยาต่อไปจะได้ไม่ต้องร้องอีก”“ท่านแม่ซูเหยา...ซูเหยา เป็นของเขาแล้ว”มือใหญ่ลูบหัวให้เบาๆ“สักวันเขาจะกลับมา เจ้ารักเขามิใช่หรือก็ถูกแล้วที่จะเป็นของเขา”ซูเหยาซบหน้าลงบนอกมารดาสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวดในหัวใจวังหลวงอิงฝานในอาภรณ์บางเบา นั่งอยู่บนตักของซีซวน ที่กอดรัดไม่ห่าง“คิดถึงเจ้าที่สุด….”อิงฝานยิ้ม“ฝ่าบาท กลับมาครั้งนี้ได้เวลาคัดตัวนางในพอดีปีนี้อิงฝานตั้งใจคัดนางในที่งดงาม ไว้คอยปรนนิบัติฝ่าบาทเยอะหน่อย”กดร่า

  • จะรักแม้จะร้าย   ท้อง

    เสียงปลาน้อยกระโดดเล่นน้ำจ๋อมแจ๋ม ซีซวนดึงอ้อมแขนออกช้าๆจุมพิตที่แก้วเนียน แผ่วเบา เหลือบตามองหยดเลือดที่เปรอะเปื้อนบนแท่นนอนไม้ไผ่ เผลอยิ้ม“แล้วข้าจะกลับมาซูเหยา”ลุกขึ้นแต่งกายอย่างเร่งรีบ ไม่อยากจากไปยามที่ซูเหยาตื่นลืมตาเขาคงไม่อาจ จากซูเหยาได้ในเมื่อตอนนี้ใจเขาอยู่ที่นางเสียหมดแล้ว จากลาไม่ต้องเอ่ยคำลา เพราะสัญญาว่าจะกลับมาอีกหน ปลดป้ายหยกที่ห้อยข้างเอวลงวางในมือของซูเหยา ก้มลงจุมพิตหน้าผากอีกครั้ง“พี่ชายข้าวต้มปลา”เสียงซูเหยาละเมอแผ่วเบา หันหลังจากไปไม่หันหลังกลับมามองพาเรือล่องลอยออกจากเรือนแพไป ฟ้าเริ่มสางเมื่อเรือมาถึงฝั่งพอดี ผูกเรือไว้ที่เคยผูกไว้กับซูเหยา“พี่ชายข้าวต้มปลา”เสียงซูเหยาลอยมาตามลมซีซวนยิ้มเศร้าๆ แค่เพียงห่างกันไม่ถึงชั่วยามเขายังคิดถึงซูเหยาเพียงนี้ก้าวเท้าขึ้นไปบนฝั่ง ตงฟางชิง ก้มลงประสานมือตรงหน้า“ฝ่าบาท”ซีซวนเบิกตากว้าง ใบหน้าคุ้นเคยของตงฟางชิง“เจ้าเป็นใคร”“ฝ่าบาท ตงฟางชิง องครักษ์เสื้อแพร”“เจ้าเรียกข้าว่าฝ่าบาท”"ฝ่าบาทก็คือฝ่าบาทไม่มีทางเป็นอื่น”ซีซวนเงยหน้าขึ้นช้าๆ อาการปวดหัวรุมเร้าทว่าภาพความทรงจำในหัวแล่นเข้ามาเป็นสาย“ซินอ๋อง สมควรตายอย่างยิ่

  • จะรักแม้จะร้าย   ไม่อาจห้ามใจ2

    “ข้าส่งข่าวบอกท่านพ่อตงฟางชิงท่านเองก็ระวังตัวด้วย”“ฮองเฮาโปรดวางพระทัยข้าน้อยเร้นกายในค่ำคืนนี้ตั้งใจพบฝ่าบาทโดยเร็ว”ประสานมือจากไปเรือนแพ ซูเหยานั่งเหม่อมองจันทราที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้าซีซวนทรุดกายลงข้างๆ“พี่ชายข้าวต้มปลา ท่านคิดว่าข้าจะคิดถึงท่านไหมหากท่านจากไป”“ข้าไม่อาจรู้ใจเจ้า รอให้อาวุโสกลับมาข้าจึงจะลองขออาวุโสให้เจ้าตามไปด้วย จะดีไหม”คิดถึงท่าทีดีใจของซูเหยาเมื่อรู้ว่าเขารอเพียงคำอนุญาตจากเจี้ยนหยา“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว อยากอยู่กับท่านแม่ท่านแม่ชรามากแล้วหากจากไปเกรงว่าท่านแม่คงลำบากไม่น้อย ข้ามมีท่านแม่เพียงคนเดียวหากข้าไป ท่านแม่ไปขายปลาที่ตลาดกลับมืดค่ำใครกันจะทำกับข้าวไว้รอ”ซีซวนยิ้มบางๆ“เจ้าคงคิดถึงข้าแค่เพียงไม่นานแล้วก็ลืมเลือนไป”“แล้วท่านจะคิดถึงข้าไหม”“ข้าคิดถึงข้าวต้มปลาของเจ้าแต่เดิมข้าไม่เคยลิ้มรส... เนื้อปลา”“ท่านก็แวะเวียนกลับมาเยี่ยมเราข้ากับท่านแม่ยินดีต้อนรับเสมอ”“เจ้าไม่อยากไปจากที่นี่แล้วหรือ”“อยากไปแต่ ข้าคิดว่าคงทำให้ท่านพี่ข้าวต้มปลาอึดอัดใจในเมื่อท่านไม่อยากให้ข้าไปด้วย”จะบอกได้อย่างไรว่าเขา ไม่เคยรังเกียจซูเหยาแต่เพราะเขาคิดว่า เขาไม่อาจทำร้ายซูเหยา

  • จะรักแม้จะร้าย   ไม่อาจห้ามใจ

    “คุณชาย ที่นี่ไม่ได้สะดวกสบายอีกทั้งยังไปมาลำบาก หากคนที่ตามหาท่าน ต้องการตามตัวเห็นทีจะหาไม่พบ เหมาะแก่การเร้นกายรอให้พวกที่ไล่ล่า เลิกสนใจเสียก่อนจึงดีไม่น้อย”“อาวุโสไม่กลัวว่าข้าเป็นคนไม่ดีหรือไร”“ดีหรือไม่ข้าเจี้ยนหยาหาสนใจไม่ทุกวันนี้เราสองคนแม่ลูกก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครโลกภายนอกวุ่นวายวกวน ผู้คนล้วนสวมหน้ากากเข้าหากัน หากว่าท่าน ในตอนนี้ แม้แต่ชื่อตัวยังจำไม่ได้ มิสู้เร้นกายให้หายดีแล้วค่อยจากไป”“ข้า ไม่อยากรบกวนอาวุโสกับซูเหยาการกินอยู่ที่นี่ลำบากท่านทั้งสองยังต้องคอย ทำเผื่อข้า”เจี้ยนหยายิ้ม“ซูเหยาตั้งแต่เกิดก็อยู่ในเรือนแพตลอดมา แทบจะไม่เคยข้องแวะกลับใครนางจึงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนข้างนอก”“อาวุโส ข้าตั้งจว่าหากบาดแผลหายดีจะกลับไปบนฝั่งเพื่อไปรื้อฟื้นความจำของตัวเอง”“ข้ากับซุเหยาคงเหงาไม่น้อย คุณชายอยู่ที่นี่เรือนแพจึงมีชีวิตชีวา”ซีซวนรู้สึกใจหายไม่น้อยแต่หากอยู่ที่นี่นานไปเกรงว่า เขาอาจเผลอทำลายซูเหยาโดยไม่รู้ตัว สาวน้อยสดใสเช่นซูเหยา มีบางอย่างที่ซีซวนแม้จะไร้ความทรงจำแต่เขากลับรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะกับเด็กสาวผู้บริสุทธิ์คนนี้แม้แต่น้อย แต่จะเป็นด้วยอะไรซีซวนไม่อาจทราบได้

  • จะรักแม้จะร้าย   ความทรงจำ

    ร่างสูงสะดุ้งตื่นในตอนบ่ายคล้อยหันมองรอบกายข้าวต้มเย็นชืดบนโต๊ะไม้ไผ่ ร่างเล็กของซูเหยาฟุบหน้าลงข้างๆ“อ๋อ พี่ชายท่านฟื้นแล้ว”“เจ้า”“ซูเหยาไปอุ่นข้าวต้มให้ใหม่กินเสียหน่อยคงหิวแย่แล้ว” สายตาหวาดระแวงยังไม่หายไปเพียงครู่เดียวข้าวต้มควันฉุยก็ถูกยกเข้ามา“ข้าวต้มปลา ข้าตกปลาข้างๆ แพเมื่อตอนเช้า แล่แล้วต้มข้าวต้มที่นี่ปลาอุดมสมบูรณ์ขาดแต่ฟืนที่ต้องพายเรือขึ้นบกไปเก็บมาเหมือนที่เมื่อวานข้าเจอพี่ชายตอนกำลังเก็บฟืน”ซีซวนจ้องมองริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มขยับขึ้นลง ใบหน้าของใครบางคนซ้อนทับ ริมฝีปากสีแดงสด ร่างอ้อนแอ้นท่าทีอ่อนหวานริมฝีปากสีแดงถูกเขาบดเบียด“อิงฝาน”เปล่งเสียงเบาๆ ซูเหยายิ้ม“ข้าซูเหยา อ๋อท่านแม่บอกว่าความทรงจำของท่านจะหายไปชั่วขณะแต่อีกไม่นานจะดีขึ้นแค่หมั่นกินยาที่ท่านแม่เจียดให้ไม่นานท่านแม่ของข้าเก่งที่สุดแต่เดิมเคยเป็นหมอหญิงในวังหลวงเชียวนะ แต่ตอนนี้ท่านแม่ปลดระวางพาข้าเร้นกายในเรือนแพ แสนสงบ”ซูเหยาเจื้อยแจ้วไม่สนใจว่าซีซวนจะฟังหรือไม่ตักข้าวตัมปลาขึ้นเป่าไปด้วยพูดไปด้วยคนไปด้วยจนข้าวต้มอุ่นๆ ก็ตักจ่อที่ริมฝีปากให้ซีซวน“รสชาติดีที่สุด”ซีซวนได้กลิ่นปลาที่เขาไ่เคยกินมาก่อนด้

  • จะรักแม้จะร้าย   ช่วยคนผิด

    ร่างสูงของใครบางคนทรุดกายลงเบื้องหน้าหวังซูเหยา อาภรณ์สีดำเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดไหลนอง ซูเหยาถลาเข้าจับชีพจร วางฟืนในมือลงข้างลำตัวทั้งลากทั้งดึงร่างใหญ่ให้ไปที่ร่มไม้ เสียงฝีเท้าม้าควบวิ่งวนวุ่นวายไปหมด“ค้นให้ทั่ว”เสียงคำรามจากร่างใหญ่ของบางคนตะโกนก้อง ทหารหายนายต่างแยกย้ายกันค้นหาซูเหยาลากร่างสูงเข้าไปหลบในร่มไม้ยกศีรษะให้นอนหนุนตัก รอจนกระทั่งหทารเสื้อเกราะพวกนั้นกลับไป จึงเดินออกไปตัดไม้มาทำแพไม้เพื่อจะลาก คนเจ็บ เพราะร่างเล็กของซุเหยาคงไม่อาจแบกเขาขึ้นบ่าได้ ลากร่างใหญ่อย่างทุลักทุเล ไปยังแม่น้ำกว้างใหญ่ ดึงอาภรณ์บริเวณ ไหล่หนาทั้งสองข้างให้ขึ้นไปบนเรือหยิบฟื้นวางในลำเรือก่อนจะใช้ไม้ค้ำถ่อดันเรือด้วยความชำนาญกลับไปยังเรือนแพกลางน้ำร่างสูงนอนเหยียดยาวซูเหยาพิศมองบหน้าหล่อเหลา คนผู้นี้เป็นใครกันเหตุใด ทหารต้องตามล่าเขาด้วย ใบหน้าหล่อกระสับกระส่ายไปมาด้วยพิษบาดแผล ซูเหยาเร่งมือให้ถึงเรือนแพโดยเร็ว“ท่านแม่”หวังเจี้ยนหยา โผล่หน้าออกมาจากเรือนแพกลางน้ำ ชะโงกมองเมื่อเห็นว่าซูเหยานำคนผู้หนึ่งมาด้วยในสภาพไร้สติก็รีบรุดไปช่วยดึงเรือมาผูกไว้กับเรือนแพ“คนผู้นี้เป็นใครกัน”ซูเหยาส่ายหน้าไป

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status