Share

ตอนที่ 19 เลือดเย็น

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-06 00:09:15

 งานเฉลิมฉลองนี้ มิใช่เพื่อใครอื่นแต่เพื่อ เซี่ยเฟิงจวิ้น บุตรชายคนโตแห่งตระกูลเซี่ยชายหนุ่มผู้ได้รับการกล่าวขานว่าเกิดมาพร้อมพรสวรรค์เหนือสามัญอัจฉริยะที่โลกฝึกตนต่างจับตามองตั้งแต่ยังเยาว์วัยในยามที่เขาก้าวสู่วัย 19 ปีทั่วทั้งลานกว้างของตระกูลล้วนเต็มไปด้วยคำยกยอ

“สมแล้วที่เป็นบุตรของเซี่ยเหวินเทียน!”“รูปโฉมสง่างาม พรสวรรค์เฉียบคม หาใครเทียบเคียงได้ยากยิ่ง!” ชายหนุ่มผู้นี้ยิ้มรับถ้อยคำเหล่านั้นด้วยสีหน้าสุขุมและมั่นใจยามเขาหัวเราะ เสียงหัวใจของสตรีทั้งงานก็แทบหยุดเต้นยามเขายกจอก สุราหอมก็คล้ายจะขับเคลื่อนพลังวิญญาณรอบตัวผู้เป็นบิดา เซี่ยเหวินเทียน ยืนอยู่เบื้องหน้าบุตรชายใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจถึงขีดสุดในฐานะผู้นำตระกูลผู้แข็งแกร่งเขาไม่ต้องเอ่ยคำใด… แต่เพียงยืนเฉย ๆ ก็ราวกับเป็นศูนย์กลางของฟ้าและดิน

ข้างกายเขาคือ เซี่ยนเยวี่ยหลาน ฮูหยินใหญ่ ผู้เปี่ยมด้วยความงามและบารมีนางคือสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับสิทธิ์ในการยืนเคียงข้างผู้นำตระกูลทั้งที่จริงแล้วข้างกายเขานั้นมีผู้หญิงมากมาย

"เซี่ยนเยวี่ยหลาน เจ้าช่วยทำหน้าดีๆ หน่อยได้ไหม ช่วยรักษาหน้าข้าหน่อย" เสียงกระซิบของ เซี่ยเหวินเทียน ดังเบา ๆ ข้างหูนาง แม้ริมฝีปากของเขายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม แต่สายตากลับเฉียบคมดั่งคมดาบที่ใช้กรีดคำตำหนิลงบนหัวใจของนางตั้งแต่งานเริ่มขึ้น เขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของนางแสดงออกอย่างฝืนฝืนแม้นางจะพยายามยิ้มให้สมบทบาทขอ มารดาผู้ภาคภูมิใจแต่ในทุกครั้งที่เสียงยกยอหลั่งไหลมายังบุตรชายของนางหัวใจของนางกลับยิ่งแน่นตื้อยิ่งเสียงหัวเราะดังขึ้นมากเท่าไหร่เงาอดีต ก็ยิ่งกระซิบสะท้อนกลับมาในจิตใจของนางชัดเจนเท่านั้น

ยี่สิบปีก่อน...นางให้กำเนิดทารกน้อยเพศหญิงใบหน้าของเด็กคนนั้นงดงาม อ่อนโยน และแววตาใสกระจ่างดุจน้ำค้างยามรุ่งแต่ก่อนที่นางจะได้อุ้มลูกนานกว่าสองวันทารกน้อยผู้นั้นกลับถูกตราหน้าว่า ไร้พรสวรรค์เซี่ยเหวินเทียนเอ่ยคำนั้นกับนางด้วยสีหน้าเฉยชาหากไม่อาจรักษาหน้าของตระกูล ก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อ

นางผู้เป็นแม่จำต้องตัดใจ ทอดทิ้งเลือดเนื้อในอกเพียงเพื่อรักษาความโปรดปรานจากชายคนรักเพียงเพื่อเกียรติของตระกูลที่เขาหวงแหนยิ่งกว่าชีวิตของใครนาง…ไม่ได้แม้แต่จะตั้งชื่อให้ลูกสาวของตนด้วยซ้ำ

ปีถัดมา นางให้กำเนิด เซี่ยเฟิงจวิ้น ชายหนุ่มรูปงามผู้เปี่ยมพรสวรรค์ความภาคภูมิใจสูงสุดของเหวินเทียน และกลายเป็นโล่กำบังอดีตที่น่าอัปยศของตระกูลแต่โชคชะตากลับโหดร้ายกว่านั้นปีต่อมา เมื่อนางคลอดบุตรอีกครั้งทารกผู้นั้นกลับถูกกำจัด ด้วยน้ำมือพ่อของเขาเอง... เพราะเขาก็ไร้พรสวรรค์เช่นกัน

ครั้งแล้วครั้งเล่า…เด็กน้อยผู้ไม่สมบูรณ์แบบสำหรับตระกูล ถูกลบเลือนราวไม่มีตัวตนนับสิบชีวิตบางคนยังไม่ทันได้ร้องไห้ครั้งแรกก็ถูกตัดสินว่าควรตายเพื่อไม่ให้เป็นรอยด่างในภาพลักษณ์ของตระกูลเซี่ยบัดนี้... มีลูกเพียง 5 คนที่ยืนอยู่เคียงข้างเซี่ยเหวินเทียนแต่ละคนเกิดจากสตรีต่างมารดาแต่ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน “พรสวรรค์อันน่าตื่นตะลึง”พวกเขาคือหมากที่ชายผู้นั้นภาคภูมิใจและในขณะเดียวกัน... ก็เป็นรอยมีดที่กรีดลงบนหัวใจของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่าเซี่ยนเยวี่ยหลานยืนนิ่งใบหน้าสง่างามยังคงแย้มยิ้มบาง ๆ แต่ในดวงตาของนาง… คือมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่าไร้ชีวิต“หากเจ้าไม่พอใจก็จงดับลมหายใจของข้าซะ” น้ำเสียงของ เซี่ยนเยวี่ยหลาน เอ่ยออกมาอย่างเยือกเย็นและเฉียบขาดไร้ซึ่งความสั่นไหว…ไร้ความหวาดกลัวแต่แท้จริงแล้ว คำพูดนั้นไม่ได้เป็นเพียงการประชดประชันหากแต่เป็นประโยคที่เปี่ยมด้วยความสิ้นหวังและหมดสิ้นศรัทธา เซี่ยเหวินเทียน หันขวับมามองนาง ใบหน้าของเขายังคงรักษารอยยิ้มไว้แต่ในแววตากลับแผดเงาแห่งความขุ่นเคืองที่กำลังปะทุอยู่ภายใน

“เจ้า... เจ้านี่มันช่างน่าชังนัก หึ!” เสียงของเขาแม้จะเบา แต่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่สั่นสะเทือนอยู่ภายในอกแต่เพราะในยามนี้ แขกเหรื่อมากมายจากทั่วหล้าเบียดเสียดอยู่รอบกายเขาจึงไม่กล้าแม้แต่จะแสดงออกอย่างอัปยศ

บริเวณหนึ่งในมุมมืดของงานเลี้ยง ใต้เงาเสาศิลาและม่านผ้าสีเงินที่พัดไหวตามสายลมยามค่ำหญิงสาวผู้หนึ่งยืนเงียบ... แววตาของนางเย็นชาและแน่นิ่งไป๋เสวี่ยหรง นางจ้องมองฉากตรงหน้าโดยไม่เอ่ยคำแววตาคู่งามของนางไร้ซึ่งแววสะท้อนใด ๆ ใบหน้าเรียบเฉย ราวกับเทพีแห่งน้ำแข็งที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจากความเงียบงันนางมองชายหญิงผู้ให้กำเนิดตนเองหนึ่งคือผู้นำตระกูล ผู้มีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม…แต่มือเปื้อนเลือดอีกหนึ่งคือหญิงที่เคยอุ้มท้องนางไว้…แต่กลับทอดทิ้งนางเพื่อศักดิ์ศรีบาดแผลในอดีต...ไม่ต้องเปิดออกก็ยังคงเจ็บ

ฮูหยินใหญ่ เซี่ยนเยวี่ยหลานหญิงงามผู้เป็นหน้าเป็นตาของตระกูล...ลุกเดินออกไปจากงาน โดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองแผ่นหลังของนางที่ห่างไกลออกไปนั้น สง่างามและเงียบงันแต่สำหรับเซี่ยเหวินเทียนแล้วมันคือฉากแห่งความอัปยศที่ไม่ควรปรากฏในงานเลี้ยงระดับนี้

“ฮูหยิน! กลับมา” เขาเผลอตัวจะตะโกนเรียกนางตามสัญชาตญาณแต่เมื่อสังเกตเห็นสายตาของแขกนับร้อยจ้องมองอยู่รอบข้างเขาก็กลืนคำพูดนั้นลงไปแทบจะทันทีริมฝีปากที่ฝืนยิ้มใบหน้าที่ถูกปั้นขึ้นด้วยทักษะการแสดงขั้นสูงสุดเขาหัวเราะเบา ๆ พร้อมหันไปกล่าวกับแขกผู้มีเกียรติที่ยืนอยู่ใกล้ตัว

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า... ช่วงนี้ฮูหยินใหญ่ของข้าดูเหมือนจะไม่ค่อยสบายนัก”“นางอาจต้องพักผ่อนมากขึ้น ข้าคงต้องขออภัยแทนนางด้วยจริง ๆ” น้ำเสียงของเขานั้นอ่อนโยนและเป็นมิตร จนแขกหลายคนพยักหน้าเข้าใจทว่า... หากมีผู้ใดได้ยินเสียงในใจของเขาในยามนี้พวกเขาจะได้ยินเพียงแค่คำรามของเปลวเพลิงแห่งความขุ่นเคืองเนื้อตัวของเซี่ยเหวินเทียน... กำลังสั่นเทาไม่ใช่เพราะความอ่อนแอแต่เป็นเพราะความโกรธที่ถูกตอกย้ำกลางงานเลี้ยงต่อหน้าสายตาของบุคคลสำคัญทั่วทั้งเมืองหลวงเขาเค้นยิ้มต่อไป...แต่ภายในนั้นกำลังปะทุและสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิตไม่ใช่ “ความล้มเหลว” แต่คือ “การเสียหน้า”

ใต้แสงจันทร์ที่ทอดผ่านผิวน้ำอันเงียบสงบของทะเลสาบในเขตหลังจวน สายลมยามราตรีพัดแผ่วพาเสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นจังหวะเบา ๆ ทว่าไม่อาจกลบเสียงสะอื้นที่สั่นไหวอยู่ภายในเงามืดนั้นได้เลยฮูหยินใหญ่ เซี่ยนเยวี่ยหลานอดีตสาวงามแห่งยุคผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดั่งอัญมณีล้ำค่าในหมู่สตรีทั้งแผ่นดินในค่ำคืนนี้... กลับกลายเป็นเพียงเงาร่างของหญิงคนหนึ่งที่สวมมงกุฎแห่งศักดิ์ศรีด้วยหัวใจที่แตกร้าวร่างของนางยืนสั่นเทาอยู่ริมทะเลสาบเสียงสะอื้นขาดเป็นห้วงหยาดน้ำตาไหลอาบลงบนแก้มงามที่เคยเชิดสูงอย่างหาญกล้าบัดนี้ช่างดูบอบบาง… เปราะบางจนแทบจะพังทลายได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

“ลูกแม่… แม่ขอโทษ...”“แม่ขอโทษ...ที่เคยเลือกรักคนผิด ขอโทษ...ที่ละทิ้งเจ้า...”

นางยกมือขึ้นปิดหน้า ราวกับไม่กล้าจะมองแม้แต่เงาสะท้อนของตนเองในผืนน้ำเพราะสิ่งที่สะท้อนกลับมา ไม่ใช่หญิงงามผู้สูงศักดิ์แต่เป็นแม่ผู้ทอดทิ้งบุตรของตน…ด้วยน้ำมือของความกลัวและศักดิ์ศรีในยามที่จิตใจถูกกรีดลึกด้วยความสำนึกเสียงหนึ่ง…เสียงที่เย็นเยียบประหนึ่งน้ำแข็งพันปีดังขึ้นจากด้านหลังของนาง

“ท่านมีหัวใจกับเขาด้วยอย่างงั้นเหรอ?” เสียงนั้นนิ่ง… เยือกเย็น… และกรีดแทงดุจมีดที่ไม่ต้องเปื้อนเลือดก็ทำให้คนฟังขาดใจได้ เซี่ยนเยวี่ยหลานสะดุ้งเฮือกนางรีบเช็ดคราบน้ำตาอย่างลวก ๆ หันหลังกลับมาด้วยความตื่นตระหนกแววตาที่เคยเฉียบคมและสงบนิ่ง บัดนี้อาบไปด้วยความสับสนและตกใจสิ่งที่นางเห็น…คือหญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างอรชร ผิวพรรณขาวซีดเยือกเย็นดุจหยกน้ำแข็งเรือนผมดำสนิทปลิวไหวใบหน้าถูกปกปิดด้วยหน้ากากสีเงินที่แวววาวราวกับจันทรานางไม่เคยเห็นสาวน้อยผู้นี้มาก่อนแต่เหตุใด…

เพียงแค่สบตากันผ่านช่องหน้ากากนั้นหัวใจของนางกลับสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ราวกับอะไรบางอย่างที่ลึกสุดในจิตใต้สำนึก… กำลังกระซิบเรียก

“เจ้าเป็นใคร...” เซี่ยนเยวี่ยหลานถามออกมาอย่างแผ่วเบา แม้น้ำเสียงจะสั่น แต่ก็เปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดจากความรู้สึกบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 91 ครอบครัวพร้อมหน้า (จบ)

    ในช่วงเวลาที่ ไป๋เสวี่ยหรง พำนักอยู่ในสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง นางมิได้เพียงมาเพื่อพักผ่อนหรือชำระความแค้นเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสรังสรรค์สิ่งล้ำค่าไว้ให้สำนักแห่งนี้ตำราทักษะวิชาเยือกแข็งเล่มใหม่ที่นางบรรจงเขียนด้วยมือของนางเองทักษะที่ถูกจารึกลงในตำรานั้นมีความลึกซึ้งอย่างหาใดเปรียบได้ มันมิใช่เพียงศาสตร์แห่งการต่อสู้ แต่ยังเป็นผลรวมของประสบการณ์ ความเจ็บปวด และสัจธรรมที่นางสะสมมาตลอด ย่อมเป็นสิ่งที่เจ้าสำนักคนก่อนอย่าง ฉินเยว่หาน มิอาจเทียบชั้นได้แม้เพียงเศษเสี้ยว"สำหรับสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็งแห่งนี้ ข้าจะเป็นผู้วางรากฐาน... แต่ปล่อยให้มันเติบโตด้วยพลังของพวกเจ้าเอง" ไป๋เสวี่ยหรงกล่าวอย่างแผ่วเบา ขณะส่งมอบตำราให้กับ จิ่วเยว่ซิน ศิษย์ผู้ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด"จิ่วเยว่ซิน... ต่อไปนี้เจ้าจงดูแลสำนักของข้าให้ดี" น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยากยิ่งในโลกแห่งยุทธ์"ท่านอาจารย์... ตัวท่านจะไปแล้วจริงๆ เหรอ" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยอาลัย แม้เวลาที่รู้จักกันจะไม่นาน แต่ไป๋เสวี่ยหรงคือผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของนาง จากหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสับสน สู่ผู้ครอบครอง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 90 ตำนานของสองเพื่อนรัก

    ใต้ท้องฟ้าสีเทาเงิน ผืนหิมะที่ปกคลุมผาแห่งการสิ้นสุดยังคงหล่นโปรยราวกับร่วมไว้อาลัยให้กับจุดจบของตำนานหนึ่ง... และมิตรภาพที่ไม่มีวันหวนกลับไป๋เสวี่ยหรงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่ยังคงล่องลอย ร่างบางของนางไม่ขยับเขยื้อน ราวกับกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งอีกหนึ่งชิ้นในสถานที่แห่งนี้ สายตาที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้าช่างว่างเปล่า แต่ภายในเบื้องลึกของแววตานั้นคือกระแสความรู้สึกมากมายที่ถาโถมย้อนกลับมาทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยาดน้ำตา ทุกคำสัตย์ที่เคยให้กันในวัยเยาว์"ข้าไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบลงเช่นนี้เลย... เพื่อนรักของข้า"เสียงของนางเบาราวสายลม ละมุนราวบทกลอนส่งท้าย ดั่งคำอำลาที่ไม่มีผู้รับฟังแม้ศัตรูจะสิ้นสูญ แม้การล้างแค้นจะสัมฤทธิ์ แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะ หากมีเพียงความว่างเปล่าอันแหลมคมทิ่มแทงอยู่ในอกลึก เพียงลมหายใจเดียวต่อมา ไป๋เสวี่ยหรงก็ปิดเปลือกตาลงอย่างแผ่วเบา เสี้ยวความทรงจำของฉินเยว่หานในหัวใจของนางค่อย ๆ เลือนลางลง ราวกับว่าไม่เคยมีสตรีนางนั้นอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน ไม่เคยมีเสียงหัวเราะร่วมกัน ไม่เคยมีมือที่เคยจับไว้ในยามทุกข์เมื่อดวงตางามคู่นั้นลืมขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่เ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 89 ชำระแค้น

    ในยามนี้ ทั่วทั้งสำนักเงียบงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน...เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง ต่างยืนตัวแข็งทื่อลมหายใจสะดุด ใบหน้าซีดเผือด มือไม้เย็นเฉียบไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า...มันเหนือความเข้าใจและเกินกว่าจินตนาการ นางเซียนเยือกแข็งเจ้าสำนักผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสวรรค์ของพวกเขาบัดนี้กลับมีผู้กล้าสตรีนิรนามผู้มีใบหน้าอ่อนวัย ยืนหยัดต่อกรกับนางอย่างไม่หวั่นไหวและไม่ใช่แค่ท้าทาย... แต่กลับสามารถต้านรับแรงกดดันของเจ้าสำนักได้อย่างไม่ขาดตก"นางผู้นั้นเป็นใคร?""เหตุใดพลังของนางถึง...ไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้?"เสียงกระซิบของเหล่าศิษย์เริ่มดังขึ้นประปรายด้วยความตื่นตระหนกแม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงบางคนก็เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นกลางหน้าผาก ทั้งที่อากาศยังเย็นยะเยือกรัศมีพลังเยือกแข็งของหญิงสาวปริศนาแผ่กระจายออกไปอย่างมั่นคงเยียบเย็น... ลึกซึ้ง... แน่นิ่งดั่งมหาสมุทรใต้ธารน้ำแข็งหากพลังของฉินเยว่หานคือห่าหิมะที่โหมกระหน่ำพลังของหญิงสาวผู้นั้น...กลับคล้ายหิมะที่หลับใหลมานับพันปี รอเพียงปริบตาเดียวก็พร้อมแช่แข็งโลกทั้งใบศิษย์ตาต่ำพวกเขามองไ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 88 ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก

    ภายใต้ใบหน้าอันงดงามดุจนางเซียนของฉินเยว่หาน ซึ่งมักจะสงบนิ่งไม่ไหวติงต่อสิ่งใด ในยามนี้กลับฉายแววตื่นตะลึงอย่างปิดไม่มิดไม่ใช่เพราะพลังอันมหาศาลของหญิงสาวเบื้องหน้า แต่เป็นเพราะคลื่นพลังนั้นช่างคุ้นเคย… คุ้นจนเกินจะหลอกตัวเองได้"เป็นไปไม่ได้... มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"นางพึมพำซ้ำไปมา ราวกับพยายามสลัดความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้หลุดออกจากจิตใจ หญิงสาวปริศนา ผู้มีใบหน้าเยาว์วัยราวเด็กสาวเพิ่งแตกเนื้อสาวกลับยืนประจันหน้ากับนางอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นคมดั่งกระบี่น้ำแข็ง จ้องลึกเข้ามาในหัวใจของผู้เคยเป็นเพื่อนรัก"เป็นอย่างไรบ้าง ฉินเยว่หาน... เจ้าดูแก่ขึ้นมากเลยนะ"เสียงหวานนุ่มดังขึ้นราวกับสายลม คำทักทายธรรมดา กลับกลายเป็นคมมีดกรีดลงกลางใจของฉินเยว่หานอย่างแผ่วเบาแต่รุนแรง ใบหน้าเยือกเย็นของนางเริ่มสั่นไหว มือขาวกำแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือคลื่นพลังลมปราณที่แผ่ออกมา ไม่ผิดแน่…เป็นพลังของ หลานเสวี่ยอิง ผู้ที่นางเคยคิดว่าได้ส่งลงนรกไปแล้วด้วยมือของตนเองสองเท้าที่เคยมั่นคงของฉินเยว่หาน บัดนี้กลับเหมือนเหยียบอยู่บนผืนหิมะบางที่พร้อมจะถล่มลงทุกเมื่อสายตาของนางจ้องลึกเข้าไปในดวงหน้าของหญิง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 87 อดีตเพื่อนรักของข้า

    ทุกท่วงท่า ทุกการเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินล้วนแล้วเฉียบคมไร้ปรานี พลังลมปราณที่แผ่ออกมาแต่ละระลอกนั้นแฝงไว้ด้วยเจตนาแห่งการสังหารอย่างชัดเจน การโจมตีทุกครั้งมิใช่เพียงเพื่อทดสอบฝีมือ หากแต่เป็นการประลองเพื่อปลิดชีพโดยแท้ หากฉินเยว่หานพลั้งเผลอแม้เพียงครึ่งก้าว ก็อาจต้องสูญสิ้นชีวิตยิ่งเวลาผ่านไป รูม่านตาของฉินเยว่หานก็ค่อย ๆ ขยายกว้างขึ้น แววตาที่เคยสงบนิ่งเริ่มสะท้อนแววหวั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ การเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินเริ่มทับซ้อนกับภาพจำบางอย่างในอดีต ภาพของสตรีผู้หนึ่ง... สตรีที่นางพยายามลบเลือนจากห้วงความคิดมานานหลายสิบปีหลานเสวี่ยอิงนามนั้นแม้จะถูกกลบฝังในก้นบึ้งของสำนึก แต่มันก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องมนต์สะกด ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดบังความรู้สึกคุ้นเคยนี้ได้อีกต่อไปแต่ก่อนที่ฉินเยว่หานจะถลำลึกไปในห้วงคิด ทักษะของจิ่วเยว่ซินก็พลันจู่โจมเข้ามาอีกระลอก ความคุ้นชินในเคล็ดวิชาเยือกแข็งที่นางเคยสอนกลับถูกแก้ทางอย่างแนบเนียนทีละชั้น ทักษะที่นางเคยภาคภูมิใจกำลังถูกลบล้างด้วยปลายนิ้วของศิษย์สาวผู้เป็นความภาคภูมิใจของนางเอง“นี่ข้า... กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยศิษย์ของตนเองอย่างนั้นหรือ?”

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 86 นางคิดลอบสังหารฆ่าเหรอ

    ใต้แสงสลัวของตำหนักน้ำแข็ง ดวงตาของจิ่วเยว่ซินฉายแววอ่อนโยนเช่นเคย รอยยิ้มยังคงงดงาม ทว่าภายในนั้นคือความเยียบเย็นที่แม้หิมะพันปียังมิอาจเทียบเคียงได้ นางยืนอยู่เบื้องหน้าอาจารย์ผู้เลี้ยงดูและหล่อหลอมตนมาแต่เล็กผู้หญิงที่นางเคยบูชาเทียบเท่าฟ้าดิน และในเวลาเดียวกันคือผู้ที่ล้างผลาญครอบครัวของนางทั้งตระกูลนางรู้ดีว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่แสดงออกจะต้องไร้ที่ติทุกกระเบียดนิ้ว เพราะสายตาของฉินเยว่หานนั้นแหลมคมเกินกว่าที่ใครจะตบตาได้โดยง่าย แม้จะอ่อนโยนแต่ก็ซ่อนพิษลึก ราวกับกลีบเหมยบนผืนน้ำแข็ง หากเพียงเผลอสัมผัสอาจถูกหนาวสะท้านถึงวิญญาณ"จิ่วเยว่ซิน ข้ารู้สึกชอบแววตาของเจ้าในตอนนี้ยิ่งนัก"เสียงของฉินเยว่หานดังขึ้น เงียบงัน ทว่าเจือด้วยความพึงพอใจความพึงพอใจของผู้ที่คิดว่าตนสามารถหล่อหลอมชีวิตผู้อื่นตามอำเภอใจได้เสมอคำชมที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นนั้น กลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางหัวใจของจิ่วเยว่ซิน ช่างน่าขันยิ่งนัก… แม้แต่แววตาที่ผ่านความเกลียดชังและการทรยศมาแล้ว ยังถูกหล่อนชมด้วยรอยยิ้มหญิงสาวสูดลมหายใจแผ่วเบา ก่อนกล่าวเสียงนุ่ม"เจ้าค่ะอาจารย์"คำพูดของนางยังคงสุภาพและสงบ ราวกับไม่มีอะไรเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status