Share

ตอนที่ 18 ผู้ให้กำเนิด

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-06 00:08:56

 ก่อนที่วันแห่งการประมูลจะมาถึงช่วงเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ไปกับการวางกลยุทธ์ ชั่งน้ำหนักทรัพย์สิน หรือจัดเตรียมสมบัติล้ำค่าเพื่อช่วงชิงสิ่งของในตำนานไป๋เสวี่ยหรง กลับเลือกใช้เวลานี้กับบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า...นางกำลังขุดรากถอนโคน "อดีต"

ณ ห้องพักชั้นบนสุดของโรงเตี้ยมหรูหญิงสาวผู้มีรูปลักษณ์งดงามเกินมนุษย์นั่งอยู่หน้าโต๊ะเตี้ยรอบตัวนางเต็มไปด้วยแผ่นไม้จารึก ม้วนหนังสือ และสมุดบัญชีการค้าจากยุคเก่าสายตาของนางสงบนิ่งแต่ลึกในแววตานั้นเต็มไปด้วยเพลิงแค้นที่เงียบงันเย็นเยือก...ล้ำลึก...และพร้อมจะกัดกินทุกสิ่ง "ตระกูลเซี่ย" ชื่อที่ผู้คนทั้งแคว้นต่างยกย่องคือหนึ่งในตระกูลสูงศักดิ์ ผู้มีอำนาจควบคุมทั้งเศรษฐกิจ อำนาจการปกครอง และเครือข่ายอาคมโบราณภายนอก พวกเขาเปรียบได้กับเสาหลักของโลกแต่สำหรับนาง... พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตที่ต่ำตมที่สุด

เพียงเพราะไร้ปราณ...พวกเขากลับเลือกทิ้งทารกน้อยไว้กลางหิมะ ให้พายุกลืนกินดั่งเศษผงไร้ค่า มิใช่แค่เพิกเฉย แต่เป็น คำสั่งที่เย็นชาไร้หัวใจจากสายเลือดของตัวเอง ไม่ใช่เพราะตระกูลไม่รู้ว่าทารกคือใครไม่ใช่เพราะพวกเขาพลาดแต่เพราะ กลัวเสียชื่อเสียงกลัวว่าลูกหลานคนแรกของตระกูลจะกลายเป็น ตราบาปของความไร้พรสวรรค์และพวกเขา… เลือกจะ "ฝังตราบาปนั้น" ด้วยมือของตัวเอง

เวลาผ่านไปยี่สิบปีบัดนี้ หญิงสาวที่พวกเขาเคยละทิ้ง...กลับกำลังนั่งอ่านโครงสร้างภายในของตระกูลอย่างเงียบเชียบ

ยิ่งนางได้ศึกษาลึกลงไป...ยิ่งนางได้เห็นโครงสร้างที่ซับซ้อน ไป๋เสวี่ยหรง ก็ยิ่ง…ยิ้มแย้ม

ไม่ใช่รอยยิ้มของความภาคภูมิใจในสายเลือด ไม่ใช่รอยยิ้มของความซาบซึ้งในต้นกำเนิดอันสูงส่งแต่คือรอยยิ้มที่เรียบเฉียบ เย็นชา… และเต็มไปด้วยความสุขอันบิดเบี้ยว “ช่างเป็นโครงสร้างที่สวยงามนัก…แต่ก็น่าเสียดาย… เพราะมันควร ‘ถูกพังครืน’ ด้วยมือของข้า” ตระกูลที่รักศักดิ์ศรีจนเหนือความเป็นคนกล้าทิ้งสายเลือดของตนเองเพื่อรักษาหน้าตา ที่ภายนอกสวมใส่ไว้อย่างประณีตพวกเขาน่ะหรือ...คือชนชั้นสูง?

นางไม่ได้แค้นเพียงเพราะถูกทอดทิ้ง แต่สิ่งที่นางต้องการทำ… คือ ทำลายหลักคิดของพวกเขาทำให้โลกได้เห็นว่าเกียรติที่สร้างบนรากฐานของการเหยียบย่ำสายเลือดตนเอง… มันคือ ของปลอม ยิ่งนางเข้าใจตระกูลเซี่ยมากขึ้นนางยิ่งไม่อยากอ้างชื่อของพวกเขานางไม่รู้สึกภาคภูมิใจแม้แต่น้อยหากย้อนเวลากลับไปได้…นางก็ยังยินดีที่จะถูกทิ้งแต่ในชาติใหม่นี้นางจะเป็นผู้เลือก… ว่าใครจะได้อยู่ และใครจะต้องถูกกวาดทิ้ง

“จงรักษาหน้าตาไว้ให้ดี ตระกูลเซี่ย…เพราะอีกไม่นานข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องถอด หน้ากาก ด้วยตัวเอง”

ใต้เงามืดของค่ำคืน ท่ามกลางแสงดาวที่โปรยปรายเต็มท้องฟ้าร่างของหญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์เหินลอยกลางอากาศอย่างเงียบงันคลื่นพลังเยือกเย็นแผ่ซ่านจาง ๆ รอบตัวนางราวม่านหมอกน้ำแข็งไป๋เสวี่ยหรงแฝงกายในเงาของหมู่ดาวใบหน้าถูกปิดบังด้วยหน้ากากเงินที่ดูสง่างามแต่ไร้อารมณ์ในยามนี้นางมิใช่เด็กสาวแห่งหมู่บ้านจิ่วอันอีกต่อไปแต่คือตัวตนที่สูงส่งดุจเซียนในเงามืด ผู้แบกอดีตที่ยังไม่ถูกสะสาง

ตรงหน้าของนาง… คือภาพที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในความฝันจวนตระกูลเซี่ย หลังคาซ้อนเป็นชั้น สูงตระหง่านจนเกือบแตะขอบฟ้าแนวกำแพงหินแกะสลักยันต์โบราณล้อมรอบทั้งหุบเขาลานฝึกตนกระจายตัวเป็นสิบเขต ป้อมเวรยามกระจายทั่วทุกจุดวิหารบรรพชนตั้งตระหง่านอยู่ใจกลาง พร้อมเปลวไฟนิรันดร์ที่ไม่เคยดับมานับร้อยปีมันคือความยิ่งใหญ่… ที่มองดูแล้วทำให้ผู้คนต้องก้มหน้าโดยไม่รู้ตัว

"ที่นี่เอง...สถานที่ที่เคยเลือกว่า ข้า…ไม่คู่ควรแม้แต่จะหายใจ ต้องหยาบช้าถึงขั้นไหนกัน? ถึงจะยอมทิ้งสายเลือดขอตัวเอง เพื่อรักษาหน้าตา" แม้จะผ่านมานาน…แต่ภาพในคืนวันนั้นยังแจ่มชัดในจิตของนางหิมะที่ปกคลุมทั่วผืนป่า ร่างทารกเล็กจ้อยในผ้าบาง ๆ ลมหายใจรวยริน ดวงตาที่เปิดไม่สุด…แต่กลับได้เห็น “เงา” ของคนที่หันหลังให้โดยไม่แม้แต่จะลังเล

ในขณะที่ไป๋เสวี่ยหรงกำลังลอยตัวอยู่เหนือยอดเขา มองลงไปยังคฤหาสน์ตระกูลเซี่ยอย่างเงียบงันดูเหมือนว่าโชคชะตาในคืนนี้จะลอบกระซิบคำเชื้อเชิญให้แก่นาง...เบื้องล่างนั้นมีแสงสีระยิบระยับจากตะเกียงนับร้อยลอยอยู่กลางลานกว้างเสียงดนตรีเบา ๆ แว่วลอยขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะชื่นมื่นเหล่าบุรุษหญิงสาวในชุดหรูหรา ผู้สูงศักดิ์ ผู้เยาว์วัยตลอดจนสาวใช้และคนรับใช้ ล้วนมารวมตัวกันภายใต้ราตรีแห่งการเฉลิมฉลอง

ตระกูลเซี่ยจัดงานเลี้ยงที่ลานกว้างโอกาสเช่นนี้ หาได้ยากยิ่งเพราะเป็นงานที่เปิดให้สมาชิกตระกูลทุกสายเลือด รวมถึงพันธมิตรและเหล่าผู้ติดตามได้เข้าร่วมภายในค่ำคืนนี้… ผู้คนของตระกูลเซี่ยจึงปรากฏตัว “พร้อมหน้าพร้อมตา”

“เป็นโอกาสดี…” ไป๋เสวี่ยหรงพึมพำกับตนเอง เสียงเบาดุจลมหายใจ “ข้าจะได้เห็น... ใบหน้าแท้จริงของพวกเขาเสียที”

นางคิดถึงคำพูดของ ไป๋จิงซูผู้ซึ่งเป็นสาวใช้ธรรมดาของตระกูลเซี่ย… ที่กลายเป็นแม่ของนางด้วยหัวใจอันอ่อนโยนเคยบอกกับนางด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและเศร้าสร้อยว่า “พ่อของนาง... คือผู้นำตระกูลเซี่ย” ในตอนนั้น ไป๋เสวี่ยหรงยังไม่ใส่ใจนักแต่คืนนี้…ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวนางจะใช้ดวงตาของตนเอง… เพื่อจดจำใบหน้าของเขาบุรุษที่เลือก “ชื่อเสียงของตระกูล” แทนเสียงร้องแรกเกิดของลูกตัวเอง

นางล่องกายลงอย่างแผ่วเบา ซ่อนตัวอยู่ในเงาของเสาหินดวงตาคมกริบภายใต้หน้ากากกวาดมองทั่วทั้งงานเลี้ยงลานกว้างกลางจวนในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยแสงไฟ ตะเกียงหลากสีลอยอยู่เหนืออากาศเสียงพิณแว่วดังขับกล่อมกับเสียงหัวเราะเจือกลิ่นสุราหอมอ่อนเหล่าผู้อาวุโส บุตรหลาน และแขกเหรื่อต่างร่วมงานเลี้ยงด้วยท่าทีเบิกบานและที่ศูนย์กลางของทุกสายตาคือบุรุษผู้หนึ่งที่โดดเด่นเกินใครเขายืนอยู่กลางกลุ่มชนราวกับเป็นเสาหลักของทุกสิ่งใบหน้าคมคาย ท่าทางมั่นคงดุจขุนเขาแววตาคมลึกที่แฝงไปด้วยอำนาจ ไม่ต้องเอ่ยวาจา ผู้คนก็พร้อมก้มหัวให้

“…นั่นสินะ… ชายผู้เป็นผู้นำตระกูลเซี่ย เซี่ยเหวินเทียน… ชายผู้เป็นพ่อของข้า” ไป๋เสวี่ยหรงมองดูเขาไม่มีความอาลัยไม่มีน้ำตามีเพียงความแน่ใจว่าผู้ชายผู้นี้ คือคนที่เคยสั่งให้เด็กทารกที่ไร้พลังปราณ ถูกทิ้งให้ตายในพายุหิมะ... ด้วยคำว่าเพื่อรักษาหน้าตระกูลแม้ระยะจะไกล แต่นางก็รับรู้ได้ทันทีถึงระดับพลังปราณอันลึกล้ำที่แผ่ออกมาจากร่างของเขาบารมีที่สะท้อนออกมาในทุกฝีก้าว นั่นคือผู้นำที่แท้จริง… แต่สำหรับนาง เขาคือ ชายที่สั่งทิ้งลูกแท้ ๆ ของตนกลางหิมะ และข้างกายของเขาคือหญิงสาววัยกลางคนผู้มีความงามเกินบรรยายนางดูราวกับบุปผาในฤดูเหมันต์ที่ไม่เคยโรยราผิวพรรณผุดผ่อง เครื่องแต่งกายหรูหราทว่ามีรสนิยมและที่สำคัญ… ใบหน้านั้นช่างละม้ายคล้ายคลึงกับไป๋เสวี่ยหรงจนน่าตกใจ

“ไม่ผิดแน่… เซี่ยนเยวี่ยหลานนางคือฮูหยินใหญ่… และก็คือแม่ผู้ให้กำเนิดของข้า” หญิงสาวผู้นั้นยิ้มพูดคุยกับแขกเหรื่อด้วยท่วงท่าของสตรีผู้สูงศักดิ์น้ำเสียงของนางนุ่มนวล รอยยิ้มอ่อนโยนผู้คนรอบข้างต่างชื่นชมในความงามและวางตนของนางแต่สำหรับไป๋เสวี่ยหรงไม่มีคำว่าอ่อนโยน ใด ๆ ตกถึงใจของนางเลยแม้แต่น้อย

“ไม่ว่าท่านรู้… หรือแค่ยอมเงียบ… มันก็ไม่ต่างกันสุดท้าย ท่านก็เลือกจะปล่อยให้ข้า… ตายไป โดยไม่เหลียวแล”

ยิ่งนางจ้องมองผู้เป็นพ่อ ผู้เป็นแม่ยิ่งได้เห็นท่าทีสูงศักดิ์ของพวกเขาที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและเกียรติยศภายในอกของนางกลับยิ่งปั่นป่วนด้วยไอเย็นที่เกินบรรยายนางไม่โกรธ…นางไม่เศร้า…นางแค่เฝ้ามองด้วยใจที่เย็นชาดุจขั้วโลก

"จงยิ้มให้เต็มที่เถอะ…""เพราะเมื่อฤดูแห่งการคืนสนองมาถึงข้าจะเป็นหิมะแรก ที่กลบฝังตระกูลของพวกเจ้าไปทั้งตระกูล"

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 91 ครอบครัวพร้อมหน้า (จบ)

    ในช่วงเวลาที่ ไป๋เสวี่ยหรง พำนักอยู่ในสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง นางมิได้เพียงมาเพื่อพักผ่อนหรือชำระความแค้นเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสรังสรรค์สิ่งล้ำค่าไว้ให้สำนักแห่งนี้ตำราทักษะวิชาเยือกแข็งเล่มใหม่ที่นางบรรจงเขียนด้วยมือของนางเองทักษะที่ถูกจารึกลงในตำรานั้นมีความลึกซึ้งอย่างหาใดเปรียบได้ มันมิใช่เพียงศาสตร์แห่งการต่อสู้ แต่ยังเป็นผลรวมของประสบการณ์ ความเจ็บปวด และสัจธรรมที่นางสะสมมาตลอด ย่อมเป็นสิ่งที่เจ้าสำนักคนก่อนอย่าง ฉินเยว่หาน มิอาจเทียบชั้นได้แม้เพียงเศษเสี้ยว"สำหรับสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็งแห่งนี้ ข้าจะเป็นผู้วางรากฐาน... แต่ปล่อยให้มันเติบโตด้วยพลังของพวกเจ้าเอง" ไป๋เสวี่ยหรงกล่าวอย่างแผ่วเบา ขณะส่งมอบตำราให้กับ จิ่วเยว่ซิน ศิษย์ผู้ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด"จิ่วเยว่ซิน... ต่อไปนี้เจ้าจงดูแลสำนักของข้าให้ดี" น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยากยิ่งในโลกแห่งยุทธ์"ท่านอาจารย์... ตัวท่านจะไปแล้วจริงๆ เหรอ" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยอาลัย แม้เวลาที่รู้จักกันจะไม่นาน แต่ไป๋เสวี่ยหรงคือผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของนาง จากหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสับสน สู่ผู้ครอบครอง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 90 ตำนานของสองเพื่อนรัก

    ใต้ท้องฟ้าสีเทาเงิน ผืนหิมะที่ปกคลุมผาแห่งการสิ้นสุดยังคงหล่นโปรยราวกับร่วมไว้อาลัยให้กับจุดจบของตำนานหนึ่ง... และมิตรภาพที่ไม่มีวันหวนกลับไป๋เสวี่ยหรงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่ยังคงล่องลอย ร่างบางของนางไม่ขยับเขยื้อน ราวกับกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งอีกหนึ่งชิ้นในสถานที่แห่งนี้ สายตาที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้าช่างว่างเปล่า แต่ภายในเบื้องลึกของแววตานั้นคือกระแสความรู้สึกมากมายที่ถาโถมย้อนกลับมาทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยาดน้ำตา ทุกคำสัตย์ที่เคยให้กันในวัยเยาว์"ข้าไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบลงเช่นนี้เลย... เพื่อนรักของข้า"เสียงของนางเบาราวสายลม ละมุนราวบทกลอนส่งท้าย ดั่งคำอำลาที่ไม่มีผู้รับฟังแม้ศัตรูจะสิ้นสูญ แม้การล้างแค้นจะสัมฤทธิ์ แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะ หากมีเพียงความว่างเปล่าอันแหลมคมทิ่มแทงอยู่ในอกลึก เพียงลมหายใจเดียวต่อมา ไป๋เสวี่ยหรงก็ปิดเปลือกตาลงอย่างแผ่วเบา เสี้ยวความทรงจำของฉินเยว่หานในหัวใจของนางค่อย ๆ เลือนลางลง ราวกับว่าไม่เคยมีสตรีนางนั้นอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน ไม่เคยมีเสียงหัวเราะร่วมกัน ไม่เคยมีมือที่เคยจับไว้ในยามทุกข์เมื่อดวงตางามคู่นั้นลืมขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่เ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 89 ชำระแค้น

    ในยามนี้ ทั่วทั้งสำนักเงียบงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน...เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง ต่างยืนตัวแข็งทื่อลมหายใจสะดุด ใบหน้าซีดเผือด มือไม้เย็นเฉียบไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า...มันเหนือความเข้าใจและเกินกว่าจินตนาการ นางเซียนเยือกแข็งเจ้าสำนักผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสวรรค์ของพวกเขาบัดนี้กลับมีผู้กล้าสตรีนิรนามผู้มีใบหน้าอ่อนวัย ยืนหยัดต่อกรกับนางอย่างไม่หวั่นไหวและไม่ใช่แค่ท้าทาย... แต่กลับสามารถต้านรับแรงกดดันของเจ้าสำนักได้อย่างไม่ขาดตก"นางผู้นั้นเป็นใคร?""เหตุใดพลังของนางถึง...ไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้?"เสียงกระซิบของเหล่าศิษย์เริ่มดังขึ้นประปรายด้วยความตื่นตระหนกแม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงบางคนก็เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นกลางหน้าผาก ทั้งที่อากาศยังเย็นยะเยือกรัศมีพลังเยือกแข็งของหญิงสาวปริศนาแผ่กระจายออกไปอย่างมั่นคงเยียบเย็น... ลึกซึ้ง... แน่นิ่งดั่งมหาสมุทรใต้ธารน้ำแข็งหากพลังของฉินเยว่หานคือห่าหิมะที่โหมกระหน่ำพลังของหญิงสาวผู้นั้น...กลับคล้ายหิมะที่หลับใหลมานับพันปี รอเพียงปริบตาเดียวก็พร้อมแช่แข็งโลกทั้งใบศิษย์ตาต่ำพวกเขามองไ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 88 ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก

    ภายใต้ใบหน้าอันงดงามดุจนางเซียนของฉินเยว่หาน ซึ่งมักจะสงบนิ่งไม่ไหวติงต่อสิ่งใด ในยามนี้กลับฉายแววตื่นตะลึงอย่างปิดไม่มิดไม่ใช่เพราะพลังอันมหาศาลของหญิงสาวเบื้องหน้า แต่เป็นเพราะคลื่นพลังนั้นช่างคุ้นเคย… คุ้นจนเกินจะหลอกตัวเองได้"เป็นไปไม่ได้... มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"นางพึมพำซ้ำไปมา ราวกับพยายามสลัดความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้หลุดออกจากจิตใจ หญิงสาวปริศนา ผู้มีใบหน้าเยาว์วัยราวเด็กสาวเพิ่งแตกเนื้อสาวกลับยืนประจันหน้ากับนางอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นคมดั่งกระบี่น้ำแข็ง จ้องลึกเข้ามาในหัวใจของผู้เคยเป็นเพื่อนรัก"เป็นอย่างไรบ้าง ฉินเยว่หาน... เจ้าดูแก่ขึ้นมากเลยนะ"เสียงหวานนุ่มดังขึ้นราวกับสายลม คำทักทายธรรมดา กลับกลายเป็นคมมีดกรีดลงกลางใจของฉินเยว่หานอย่างแผ่วเบาแต่รุนแรง ใบหน้าเยือกเย็นของนางเริ่มสั่นไหว มือขาวกำแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือคลื่นพลังลมปราณที่แผ่ออกมา ไม่ผิดแน่…เป็นพลังของ หลานเสวี่ยอิง ผู้ที่นางเคยคิดว่าได้ส่งลงนรกไปแล้วด้วยมือของตนเองสองเท้าที่เคยมั่นคงของฉินเยว่หาน บัดนี้กลับเหมือนเหยียบอยู่บนผืนหิมะบางที่พร้อมจะถล่มลงทุกเมื่อสายตาของนางจ้องลึกเข้าไปในดวงหน้าของหญิง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 87 อดีตเพื่อนรักของข้า

    ทุกท่วงท่า ทุกการเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินล้วนแล้วเฉียบคมไร้ปรานี พลังลมปราณที่แผ่ออกมาแต่ละระลอกนั้นแฝงไว้ด้วยเจตนาแห่งการสังหารอย่างชัดเจน การโจมตีทุกครั้งมิใช่เพียงเพื่อทดสอบฝีมือ หากแต่เป็นการประลองเพื่อปลิดชีพโดยแท้ หากฉินเยว่หานพลั้งเผลอแม้เพียงครึ่งก้าว ก็อาจต้องสูญสิ้นชีวิตยิ่งเวลาผ่านไป รูม่านตาของฉินเยว่หานก็ค่อย ๆ ขยายกว้างขึ้น แววตาที่เคยสงบนิ่งเริ่มสะท้อนแววหวั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ การเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินเริ่มทับซ้อนกับภาพจำบางอย่างในอดีต ภาพของสตรีผู้หนึ่ง... สตรีที่นางพยายามลบเลือนจากห้วงความคิดมานานหลายสิบปีหลานเสวี่ยอิงนามนั้นแม้จะถูกกลบฝังในก้นบึ้งของสำนึก แต่มันก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องมนต์สะกด ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดบังความรู้สึกคุ้นเคยนี้ได้อีกต่อไปแต่ก่อนที่ฉินเยว่หานจะถลำลึกไปในห้วงคิด ทักษะของจิ่วเยว่ซินก็พลันจู่โจมเข้ามาอีกระลอก ความคุ้นชินในเคล็ดวิชาเยือกแข็งที่นางเคยสอนกลับถูกแก้ทางอย่างแนบเนียนทีละชั้น ทักษะที่นางเคยภาคภูมิใจกำลังถูกลบล้างด้วยปลายนิ้วของศิษย์สาวผู้เป็นความภาคภูมิใจของนางเอง“นี่ข้า... กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยศิษย์ของตนเองอย่างนั้นหรือ?”

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 86 นางคิดลอบสังหารฆ่าเหรอ

    ใต้แสงสลัวของตำหนักน้ำแข็ง ดวงตาของจิ่วเยว่ซินฉายแววอ่อนโยนเช่นเคย รอยยิ้มยังคงงดงาม ทว่าภายในนั้นคือความเยียบเย็นที่แม้หิมะพันปียังมิอาจเทียบเคียงได้ นางยืนอยู่เบื้องหน้าอาจารย์ผู้เลี้ยงดูและหล่อหลอมตนมาแต่เล็กผู้หญิงที่นางเคยบูชาเทียบเท่าฟ้าดิน และในเวลาเดียวกันคือผู้ที่ล้างผลาญครอบครัวของนางทั้งตระกูลนางรู้ดีว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่แสดงออกจะต้องไร้ที่ติทุกกระเบียดนิ้ว เพราะสายตาของฉินเยว่หานนั้นแหลมคมเกินกว่าที่ใครจะตบตาได้โดยง่าย แม้จะอ่อนโยนแต่ก็ซ่อนพิษลึก ราวกับกลีบเหมยบนผืนน้ำแข็ง หากเพียงเผลอสัมผัสอาจถูกหนาวสะท้านถึงวิญญาณ"จิ่วเยว่ซิน ข้ารู้สึกชอบแววตาของเจ้าในตอนนี้ยิ่งนัก"เสียงของฉินเยว่หานดังขึ้น เงียบงัน ทว่าเจือด้วยความพึงพอใจความพึงพอใจของผู้ที่คิดว่าตนสามารถหล่อหลอมชีวิตผู้อื่นตามอำเภอใจได้เสมอคำชมที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นนั้น กลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางหัวใจของจิ่วเยว่ซิน ช่างน่าขันยิ่งนัก… แม้แต่แววตาที่ผ่านความเกลียดชังและการทรยศมาแล้ว ยังถูกหล่อนชมด้วยรอยยิ้มหญิงสาวสูดลมหายใจแผ่วเบา ก่อนกล่าวเสียงนุ่ม"เจ้าค่ะอาจารย์"คำพูดของนางยังคงสุภาพและสงบ ราวกับไม่มีอะไรเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status