แชร์

จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน
จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน
ผู้แต่ง: เพลงมีนา

Chapter1. บทนำ

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-03 09:00:55

          “เจินเอ๋อร์... เจ้าเข้าใจข้าเถิดนะ ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ”

            หญิงสาวหลบสายตาเว้าวอนของชายหนุ่ม นางหลุบตาลงที่หลังมือของตนเอง มือใหญ่ที่เคยประคองให้ไออุ่นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น  กลับสร้างความเยียบเย็นที่หัวใจจนรู้สึกว่า  หัวใจของตนเองคงหยุดเต้นไปชั่วขณะ

            “ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร”  หญิงสาวพึมพำ             ดวงตาของนางแห้งผากแม้อยากหลั่งน้ำตาเพียงใดนางทำได้เพียงแค่อดทนทนรับฟังเรื่องปวดร้าวเหล่านี้

            “ข้ารักเจ้า แต่...ข้าจำเป็นต้องแต่งซินเอ๋อร์”    ชายหนุ่มพยายามอธิบาย “เจ้าอดทนรอข้าสักครึ่งปีเถิด แล้วข้าจะแต่งเจ้าเข้าบ้านเป็นภรรยารองของข้า”

            “ท่านพูดอะไรออกมา!” 

            หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้ากลั้นน้ำตาที่คลอเบ้า นางไม่ได้หวังว่าตนเองต้องได้ตำแหน่งภรรยาเอก นางรู้ว่าบุรุษแต่งภรรยาได้หลายคน แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยสัญญากับนางเป็นหมั่นเหมาะ จะแต่งนางเป็นภรรยาเดียว

            “เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้ารัก...แค่...แค่รอให้ข้าแก้ปัญหากับซินเอ๋อร์ให้เรียบร้อยก่อน”

            “ท่านอย่าพูดอะไรอีกเลย!ข้ารับเรื่องพวกนี้ไม่ได้แล้ว”

หญิงสาวอยากร้องไห้ นางปรารถนาเหลือเกินที่จะให้ความเศร้าหลั่งไหลออกมา สมองยังมึนงงกับหลากหลายเรื่องราวที่ทะลักเข้ามาจากปากชายหนุ่มผู้เป็นที่รักของนาง แต่ถ้อยคำของเขาทำให้นางต้องดึงมือตัวเองกลับแล้วยกมือขึ้นปิดหู

            ไม่ซิ! ไม่ใช่! ตอนนี้เขาไม่ใช่คนรักของนางอีกแล้ว    เขายังเป็นคนรักของใครอีกคนด้วย

ซ้ำร้าย... เขาคือคนที่นางกำลังจะแต่งงานด้วยแต่กลับไปทำหญิงผู้หนึ่งตั้งท้อง และผู้หญิงคนนั้นก็คือ“หลินชูซิน”  ญาติผู้น้องของนางเอง

            “เจินเอ๋อร์”         

“ติงกว่างอาน” 

นางเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงห่างเหินแล้วแกะมือของตนออกจากมือของเขา

 “นับจากนี้ เราจบกันแค่ตรงนี้เถิด” หญิงสาวยกมือปิดปากกลั้นสะอื้น “อย่าทำอะไรให้ข้ารู้สึกเกลียดท่านมากไปกว่านี้เลย”

“เจินเอ๋อร์”

หญิงสาวถอยห่างจากชายหนุ่มแล้วหมุนตัววิ่งออกมา          นางไม่ต้องการพบเขาอีก อย่างน้อยก็ในเวลานี้  เขาเป็นศิษย์คนโปรดของบิดา แต่เดิมฐานะการเงินของเขาไม่ดีนัก แต่ด้วยความที่เป็นคนฉลาดร่ำเรียนเขียนอ่านได้รวดเร็ว  ชายหนุ่มเป็นที่ชื่นชม  บิดาของนางทุ่มเทสนับสนุนให้เขาจนกระทั้งสอบเป็นบัณฑิต  เขาสัญญากับนางจะแต่งนางเป็นภรรยา แต่แล้ววันนี้เขากลับนัดพบนางเพื่อบอกว่า เขาต้องแต่งงานกับญาติผู้น้องของนางเอง เพราะหลินชูซินตั้งครรภ์อ่อนๆ แล้ว

ริมแม่น้ำที่เคยเดินเคียงข้าง ทิวทัศน์ที่เคยงดงาม ยามนี้กลับทำให้นางปวดใจแสนสาหัส น้ำตาที่เอ่อคลอทำให้เบื้องหน้าพร่าเลือน  ร่างบอบบางชนเขากับบุรุษร่างสูงใหญ่ ความแข็งแกร่งของเขาทำให้หญิงสาวถึงกับผงะจะล้มลง แต่สองมือของเขาประคองไหล่สองข้างไว้ได้ทัน

“เจินเอ๋อร์”         

หญิงสาวไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดของตัวเอง   นางหันกลับไปมองทางด้านหลังอย่างหวาดผวา และเหมือนชายหนุ่มแปลกหน้าจะรู้         เขาดึงหญิงสาวเข้ามากอดแนบชิดและเบี่ยงตัวหลบไปหลังต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นตระหง่าน

ด้วยความตกใจและต้องการหลบหน้าคนรักทำให้หญิงสาวยอมรับการช่วยเหลือ นางซุกตัวอยู่ในอกกว้าง เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอและกลิ่นอายบุรุษเพศที่ไม่คุ้นเคยกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกคลายความหวาดกลัวลง

“เขาไปแล้ว”   เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น “ชายผู้นั้น...ไปแล้ว”

หญิงสาวผละจากอกของเขาราวกับเพิ่งได้สติ  นางเงยหน้าจากแผงอกและหันไปมอง เห็นเพียงแผ่นหลังของชายคนรักเดินไปไกลแล้ว           

“ขอบ...ขอบคุณ”            

นางเอ่ยเบาๆ แล้วหมุนตัวจะเดินหลบไปอีกทาง แต่ร่างเล็กกลับถูกรั้งไว้ด้วยมือใหญ่ดึงข้อมือของนางไว้ก่อน  หญิงสาวมองเขาอย่างงุนงง แล้วเขาก็เฉลยในพริบตาถัดมาเมื่อเขาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาของหญิงสาว เพียงเสี้ยวเวลาอันแสนสั้น หยาดน้ำตาถูกลบเลือนไป  แม้ใบหน้าอีกฝ่ายเคร่งขรึมแต่หญิงสาวก็ได้เห็นดวงตาสีนิลจ้องมองด้วยแววตาเจือความอ่อนโยน ทว่าในความอ่อนโยนนั้นคล้ายมีความโกรธแค้นฉาบทับที่แววตา

หญิงสาวผละออกห่างแล้วรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว            

...

            หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆก่อนจะลืมตาตื่นอย่างเต็มตา  นางยกมือขึ้นเช็ดรอยชื้นที่ขอบตาก่อนเหลียวมองการเคลื่อนไหวรอบข้าง   ขณะที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวด้านนอกรถม้าทำให้รู้ว่าตนเองเผลอหลับไปอีกแล้ว  แม้จะหลับกลางวัน นางยังฝันถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อสามเดือนก่อน

หลินอวี้เจิน ในวัยสิบเจ็ดปี นางเป็นบุตรสาวของหลินยี่ห้าน เจ้าของสำนักศึกษาเล็กๆ แห่งหนึ่ง มารดาของนางตายจากไปตั้งแต่นางอายุไม่ถึงสิบขวบ แต่กระนั้นบิดาก็มิได้แต่งภรรยาใหม่  บิดาทุ่มเทให้กับสำนักศึกษาของตนและเลี้ยงดูนางตามลำพัง นางจึงชื่นชอบการอ่านเขียน แต่งโคลงกลอนหรือวาดภาพเป็นอย่างมาก  แต่กระนั้นที่นางชื่นชอบกลับเป็นเรื่องการทำบัญชี  ตระกูลหลินแต่เดิมเป็นเพียงชาวนาที่ผันตัวเองมาทำการค้าขาย แต่มาประสบความสำเร็จที่รุ่นของหลินเหิงอี้-พี่ชายคนโตของหลินยี่ห้าน

แม้หลินเหิงอี้ประสบความสำเร็จในการค้า แต่ชีวิตคู่กับตรงข้าม เขาสูญเสียทั้งภรรยาและลูกที่ยังอยู่ในครรภ์จากอุบัติเหตุในขณะที่หลินเหิงอี้เดินทางไปติดต่อเจรจาการค้า   กว่าเขาจะกลับมาถึงบ้าน ภรรยาก็จากไปนานนับเดือนแล้ว  เรื่องนี้สะเทือนใจหลินเหิงอี้เป็นอย่างยิ่ง เขาไม่แต่งงานใหม่อีก กิจการในเมืองจู้หยางส่วนใหญ่ให้ หลินยี่จื่อ-น้องชายคนรองดูแล  ส่วนหลินยี่ห้านนั้นไม่ถนัดทำการค้า เขาแยกตัวมาเปิดสำนักศึกษาเล็กๆ คนที่มาเรียนเป็นครอบครัวชนชั้นกลางที่พอมีกำลังใจการจ่ายค่าเล่าเรียน เพียงเพราะหวังให้ลูกได้มีโอกาสที่ดีขึ้น

ตระกูลหลินคงมีเพียงหลินยี่จื่อที่ครอบครัวไม่ประสบเคราะห์กรรม เขามีภรรยาเอกที่ค่อนข้างปากร้ายไปสักหน่อยแต่ให้กำเนิดบุตรสาวงดงามชื่อ หลินซูซิน และเขายังมีภรรยารองที่มีบุตรชายให้ด้วยชื่อหลินลี่เฉีย ซ้ำยังมีอนุอยู่ในบ้านอีกสองคน

หลินเหิงอี้ไม่ชอบอยู่บ้านนัก  ชอบติดต่อซื้อขายสินค้าด้วยตนเอง  บิดามารดาแก่เฒ่าจึงมีหลินยี่จื่อ-น้องชายคนรองดูแลแทน กิจการร้านค้าส่วนใหญ่หลินยี่จื่อดูแล ยกเว้นร้านขายผ้าที่หลินเหิงอี้ให้หลินอวี้เจินผู้เป็นหลานสาวมาช่วยดูเรื่องบัญชี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 54 จบ

    ค่ำคืนก่อนที่กัวจื่อหรานจะนำไข่มุกน้ำตาจันทรามาถอนพิษร้ายให้หลินอวี้เจิน เขาได้พูดสู่ขอหลินอวี้เจินเป็นภรรยาและสัญญาว่าจะมีนางเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเขา แน่นอนว่าบุรุษด้วยกันย่อมมองออกว่า กัวจื่อหรานจริงใจกับหลินอวี้เจินมากเพียงใด ชีวิตของนางแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งโชคชะตา ทั้งสองยินยอมให้กัวจื่อหรานแต่งงานกับหลินอวี้เจิน กัวจื่อหรานจึงสวมชุดสีแดงเข้าไปพร้อมไข่มุกน้ำตาจันทรา แต่หลังจากที่กัวจื่อหรานปิดบานประตูลง ไม่นาน เสียงที่รอดผ่านบานประตูก็ทำเอาคนที่ยืนเฝ้าด้านนอกทำสีหน้าไม่ถูก เป็นจางหยวนที่ขับไล่บ่าวรับใช้ออกไปจนหมด และเชิญให้บุรุษสกุลหลินพักผ่อนในห้องรับรองก่อน ได้ยินเสียงแว่วครวญหวานจากในห้อง ผู้เป็นพ่อก็แอบร้อนใจ แม้รู้ว่าอีกฝ่ายทำเพื่อกำจัดพิษร้ายแรง แต่ก็เกรงว่าบุตรสาวที่รักปานแก้วตาดวงใจจะบอบช้ำไปเสียก่อน เป็นเหตุผลที่ทำให้พ่อตาอย่างหลินยี่ห้านมีสีหน้ามึนตึงทุกครั้งที่คิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น หนึ่งเดือนให้หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ก็คืองานมงคลอันยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองตันหยาง เล่าลือกันว่าเพราะนางสามารถรักษาอาการป่วยของกัวอี้เซียวได้ แม้การแ

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 53.  รู้สึกเป็นหนึ่งเดียว

    เมื่อได้กอดเขาแล้ว นางกลับรู้สึกว่าตนเองได้ครอบครองช่วงเวลาอันแสนอัศจรรย์ นุ่มนวลและเร่าร้อนราวกับจะหลอมละลายคนสองคนให้เป็นหนึ่งเดียวนางรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับเขาเขารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับนาง “เจ็บหรือไม่” เขากระซิบถามให้ช่องทางคับแน่นและฉ่ำร้อนของนางปรับตัวรับกับแก่นกายที่แข็งแกร่งของเขา“ไม่...ไม่เจ็บแล้ว” นางตอบด้วยท่าทีเขินอาย ร่างกายเหมือนหิวกระหายในสิ่งที่นางไม่รู้จัก“ท่าน...ช่วย...ได้หรือไม่ ...”แต่เขาชื่นชอบความซื่อตรงของนาง นางไม่เคยปิดบังความรู้สึกตนเอง ตั้งแต่พบกันครั้งแรก นางเป็นอย่างนี้เสมอมา และเมื่ออยู่ร่วมเตียง นางไม่ปกปิดอารมณ์ของตน ซึ่งปลุกเร้าความปรารถนาให้แผดเผาเขาจนต้องทำตามความต้องการของนางและเป็นความต้องการเดียวของเขาเช่นนั้นนางอ้อนวอนอย่างไม่รู้ว่าสิ่งที่ร้องขอนั้นคือสิ่งใด นางต้องการเขา ต้องการมากกว่านี้ นางบดเบียดเรือนร่างเข้าหา เชื้อเชิญให้เขาดื่มกินนางอีกครั้ง เขาขยับสะโพกช้าๆ ทว่าลึกล้ำ ดอกไม้งามเย้ายวนจนเขาไม่อาจฝืนกลั้น ความเสียวซ่านระลอกแล้วระลอกเล่าทำให้เขาใช้สองมือจับเอวคอดกิ่วไว้มั่นแล้วเริ่มแรงควบทะยาน ความซ่านเสียวทำให้หญิงสาวไปแตะข

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 52 เจ้าไม่อยากได้ข้าเป็นสามีหรือไร

    นางงุนงง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมให้สมองของนางคิดเรื่องอื่นใด เขาขมเม้มริมฝีปากของนางอีกครั้ง เรียกร้องและเว้าวอนจนนางครางในลำคอ คราแรกนางผลักไสเขาแต่เพราะร่างกายของเขาใหญ่โตเกินไป มือนางนั้นก็ไร้เรี่ยวแรง หรือเพราะแผ่นอกกำยำนั้นเย้ายวนนาง ฝ่ามือของนางอ้อยอิ่งอยู่ที่สาบเสื้อของเขา ดวงตาของเขาที่จ้องมองนางนั้นแสนร้อนแรงจนนางต้องหลับตาลง และโดยไม่รู้ตัวนิ้วมือของเขาบีบกรามของนางเบาๆ เพื่อให้นางเปิดปากแล้ว ‘บางสิ่ง’ ก็เข้ามาในโพลงปากของนาง นางลืมตาขึ้นอย่างตกใจแต่เขาไม่ยอมให้นางดื้อดึง ปลายลิ้นอุกอาจดุนดัน ‘บางสิ่ง’ ให้อยู่บนลิ้นของนาง‘บางสิ่ง’ นั้นเป็นทรงกลม ให้ความรู้สึกอุ่นและเรียบลื่นหรือนี่จะเป็น‘ไข่มุกน้ำตาจันทรา’เมื่อรู้ว่านางกำลัง ‘อม’ ไข่มุกล้ำค่าของตระกูลกัวอยู่ นางขยับตัวขัดขืน นางไม่รู้ว่าเขาได้ ‘สิ่งนี้’ กลับคืนมาได้อย่างไร แต่เขาไม่ควรนำมาใช้กับนาง นางมิใช่สะใภ้เอกสกุลกัว นางไม่ได้เป็นภรรยาของเขาภรรยา…แววตาของนางที่จ้องมองเขานั้นทึมทือและสับสน ฝ่ามือของเขาเลื่อนผ่านเรือนร่างอรชรของหญิงสาว เขาไม่เคยเห็นนางสวมเสื้อผ้าสีสันสดใสเลยสักครั้งครา นางเหมาะกับสีแดงเช่นนี้นัก

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 51 ลงอาญาใด

    “พี่ใหญ่ ท่านใช้สิ่งนี้รักษาแม่นางหลินเถิด ที่นางตั้งเงื่อนไขให้พี่ใหญ่แต่งนางเป็นภรรยาก็เพื่อนำไข่มุกจากข้าไปมอบให้ท่าน บีบบังคับทั้งข้าและพี่ใหญ่ สตรีร้ายกาจเช่นนี้ใครได้นางเป็นภรรยาชีวิตต้องพบกับคามหายนะเป็นแน่” “เจ้า! เจ้าเด็กปัญญาอ่อน!” “พูดได้ดี พูดได้ดี” ปี่จื้อหัวเราะออกมา “สตรีร้ายกาจเช่นนี้ใครได้ไปก็พบแต่หายนะ!” “ทำเป็นปากดี เจ้าคิดว่าตนเองจะรอดรึ!” เฉียนอิ๋นอิ๋นกรีดร้องเมื่อจางหยวนสั่งคนมาลากนางออกไป “ข้าไม่มีอะไรให้เป็นกังวลอีกแล้ว เชิญใต้เท้ากัวลงอาญาข้าได้” กัวจื่อหรานที่ตกตะลึงที่ได้ไข่มุกน้ำจันทรากลับคืนมาสู่มือเพิ่งได้สติ เขามองนายทหารหนุ่มแล้วแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “ลงอาญาใดรึ นายกองจง” กัวจื่อหรานกำไข่มุกน้ำตาจันทราแน่นแล้วรีบหมุนตัวเดินออกไป ไม่สนใจสีหน้าประหลาดใจของปี่จื้อ หลันเอ๋อร์บีบไหล่ของกัวอี้เซียวแล้วหันไปส่งยิ้มเล็กน้อยให้ปี่จื่อ ประคองกัวอี้เซียวเดินออกมา ด้านนอกมีหลินเหิงอี้รอด้วยใจกระวนกระวาย เมื่อเห็นนางออกมาอย่างปลอดภัยก็ยิ้มโล่งอก นับจากนี

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 50. คงได้ยินหมดแล้ว

    “อี้เซียว อย่าไปฟังนางนะ” เฉียนอิ๋นอิ๋นได้สติรีบปรับน้ำเสียงพูดจาหว่านล้อมเด็กหนุ่มตรงหน้า “เจ้ามีข้าเป็นญาติเพียงคนเดียว ไม่มีผู้ใดรักเจ้าเท่าข้าอีกแล้ว” กัวอี้เซียวกลอกตาไปมา คนเหล่านี้แย่งกันพูดจนเขาฟังไม่รู้เรื่องแล้วยกมือขึ้นปิดหู ไม่ต้องการได้ยินเสียงใครอีก พลันเขานึกรอยยิ้มจริงใจของหลินอวี้เจิน นางใส่ใจเขา เล่นเป็นเพื่อนเขา ไม่เคยดูแคลนเขาในสภาพนี้ และไม่คิดเปิดโปงเรื่องของเขาใช่! เขารู้ความลับของตนเองดียิ่ง“พอแล้ว!”กัวอี้เซียวตวาดเสียงดัง น้ำเสียงแข็งกร้าวสั่นเล็กน้อย แต่มิใช่น้ำเสียงของเด็กหนุ่มอ่อนแอที่มีสติของเด็กเจ็ดขวบอีกแล้วท่าทางของเขาทำให้คนทั้งหมดตื่นตะลึงไร้ถ้อยคำ มีเพียงความเงียบงันในห้องคุมขังอันหนาวเหน็บ!“พอเสียที!” เด็กหนุ่มจ้องมองเฉียนอิ๋นอิ๋น “เลิกใช้ข้าเป็นเครื่องมือของเจ้าเสียที!”“อี้เซียว” หญิงสาวละลำละลัก เหตุใดเขาไม่เป็นเด็กปัญญาอ่อนแล้ว ยามนี้สายตาของเขาดุดันจนแทบจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ “ข้าทำเพื่อเจ้า เจ้าอย่าลืมซิ ว่าข้าคือญาติคนเดียวของเจ้า”“ญาติ! เจ้ายังกล้าใช้คำนี้อีกเรอะ!” กัวอี้เซียวตัวสั่นด้วยความโกรธ “สำหรับเจ้า ข้าก็คือเด็กปัญญาอ่อน

  • จันทราพร่างพราว เหมันต์หวนคืน   Chapter 49.  แค่รู้สึกผิด

    “หากท่านแค่รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น...ไม่จำเป็น หากท่านแค่ต้องการรับผิดชอบเรื่องที่ผ่านมา...ไม่จำเป็น หากท่านเพียงสงสารเห็นใจข้า...ไม่จำเป็น ท่านไม่จำเป็นต้องแต่งข้าเป็นภรรยาเพื่อชดเชยความผิดใด เรื่องที่ผ่านมาล้วนมีเหตุผลในตัวเอง ข้าและท่านลุงใหญ่มิได้ขโมยไข่มุกน้ำตาจันทราไป ขอเพียงท่านเชื่อใจเรื่องนี้ข้าก็ยินดีมากแล้ว” สิ้นถ้อยคำของนางแล้ว กลับกลายเป็นเขาที่พูดไม่ออก คล้ายมีบางสิ่งจุกอยู่ในอก เขาต้องพูดออกไป พูดความจริงใจต่อนาง แต่คนอย่างเขาผู้ถูกเลี้ยงดูให้เป็นประมุขสกุลกัว เขาคือกัวจื่อหรานที่ก้มหัวให้ใครไม่เป็น ไม่เคยแพ้พ่ายแต่ยามนี้....เขากลายเป็นคนโง่งมที่สุดในใต้หล้าแล้ว “หากท่านต้องการทำเพื่อข้า ข้าอยากขอร้องท่านเรื่องเดียว” “เรื่องใด” “ข้าขอให้ท่านดูแลกัวอี้เซียวเช่นนี้ตลอดไป” “เขาเป็นน้องชายข้า แม้เป็นน้องชายต่างบิดา เป็นลูกอนุ แต่เขาก็เป็นคนสกุลกัว” หญิงสาวส่ายหน้าไปมา ทำให้อีกฝ่ายขมวดคิ้ว นางเผลอหัวเราะเบาๆ ยื่นมือออกจากผ้าห่มไปคลึงหัวคิ้วของเขาพลางเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “ขอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status