"หนูพิมหายตัวไปอย่างนั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน พวกมึงทำงานกันยังไงถึงได้ปล่อยให้หนูพิมหายตัวไป ไสหัวออกไปตามกันให้เจอ ไม่งั้นกูจะจับยิงแม่งให้เรียงตัวเลยคอยดู ไป!"
เสียงเอะอะโวยวายที่ดังลั่นออกมาจากห้องรับแขก พร้อมกับเหล่าลูกสมุนที่ต่างพากันวิ่งออกมาป่าราบนั้นทำเอา อรอุษา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายหญิงของบ้านนั้นจำต้องเดินออกจากครัวมาดูว่าภายในบ้านนั้นเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งได้เห็นว่าผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนั้นกำลังอยู่ในอารมณ์เดือนดาล ข้าวของเครื่องใช้ถูกกวาดทิ้งเทลงพื้นจนแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี เธอจึงได้ประจักษ์ว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องโมโหขนสดนั้นเกิดมาจากเรื่องใด
ตลอดสองเดือนมานี้เธอเอาแต่นอนร้องไห้ทุกวัน เพราะคำสัญญาที่ ชยุต ชายผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเคยให้ไว้ตั้งแต่ตอนที่ไปนั่งขอร้องเธอต่อหน้าบิดามารดาว่าให้เธอยอมย้ายมาอยู่ด้วยกันนั้นได้เปลี่ยนไป
ตลอดระยะเวลาสามสิบปีที่อยู่ด้วยกันมา ถึงแม้จะรับรู้เสมอว่าชยุตนั้นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยพา ใคร เข้ามาเหยียบย่ำหัวใจเธอถึงในบ้าน หากจะมีก็มีอยู่ที่ข้างนอก ซึ่งนั่นเธอเองก็พอที่จะรับได้ จนกระทั่งเมื่อสองเดือนก่อนที่เขานั้นพาเด็กสาวคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน แถมยังใช้ข้ออ้างในการโกหกเธออย่างหน้าด้านๆเพื่อที่จะได้พาเด็กสาวคนนั้นเข้ามาอยู่ร่วมชายคาโดยบอกกับเธอว่าเด็กคนนั้น คือ ลูกสาว
ใครจะเชื่อก็เชื่อ หากใครเชื่อก็คงจะบ้า เพราะตอนที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันใหม่ๆ ชยุตบอกกับเธอว่าเขามีปัญหาด้านสุขภาพ จึงทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ แล้วอยู่ดีๆก็มีลูกสาวโผล่มาแบบนี้จะให้เธอเชื่อลงได้ยังไง ไม่นึกเลยว่าแก่จนอายุปูนนี้เเล้วเขาจะยังตัดกิเลสไม่ลง นี่ถึงขนาดว่าไปพาเอาเด็กสาวเข้ามาอยู่เลี้ยงดู แล้วยังจะมีหน้ามาหลอกเธอว่าเป็นเด็กคนนั้นเป็นลูกสาวอีก ไม่คิดเลยว่าชยุตจะทำกับเธอได้ลงในวัยที่ใกล้จะเจ็ดสิบกว่า ส่วนคำว่ารักที่เขาพร่ำบอกนั้นมันก็เป็นแค่เพียงลมปากของผู้ชายเจ้าชู้คนหนึ่งเท่านั้น เสียแรงที่..รัก
ตลอดระยะเวลาสามสิบปีที่ได้อยู่ร่วมชายคา หากจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกรักเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เรื่องการให้เกียรติและความดูแลเอาใจใส่ของเขานั้นมันทำให้เธอแอบเผลอเปิดใจให้ผู้ชายคนที่เธอไม่เคยคิดที่จะมีใจให้ได้เข้ามาครองใจตัวเองอย่างช้าๆ
อรอุษานึกย้อนไปถึงเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนที่ชยุตคอยเฝ้าเพียรพยายามตามจีบ แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดที่จะมีใจ หากแต่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นคู่ค้าธุรกิจของเขาต่างหากที่เธอรักและยอมมอบหัวใจให้ จนกระทั่งได้ตัดสินใจใช้ชีวิตแต่งงานและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนนั่นก็คือ ฉัตรา
ชีวิตครอบครัวเธอก็ดูเหมือนว่าจะมีความสุขดี หากแต่ว่าสิบกว่าปีหลังจากนั้นมา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีก็ดันมาด่วนจากไปด้วยโรคประจำตัว ทำให้ธุรกิจของครอบครัวที่เคยรุ่งเรืองนั้นต้องติดขัดเสียจนแทบหมดสิ้นทุกอย่าง สงสารก็แต่ ฉัตรา บุตรชายคนเดียวที่กำลังเติบโตและต้องกินต้องใช้
พอไม่นานเมื้อชยุตได้ข่าวก็รีบเสนอตัวที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยที่ข้อเสนอก็คือว่าเขาจะขอเป็นคนเข้ามาช่วยเหลือกิจการของครอบครัวเธอเอง ขอเพียงให้เธอรับข้อเสนอด้วยการยอมไปอยู่ด้วยกันกับเขาเท่านั้น แล้วภาระทุกสิ่งอย่างเขาจะยินดีช่วยรับผิดชอบ
ตอนนั้นด้วยความเวิ้งว้างไร้ซึ่งเสาหลัก จึงทำให้เธอจำเป็นและจำใจต้องจับมือเขาเอาไว้แม้ว่าใจจะไม่ได้อยาก เหตุก็เพราะว่ารู้อยู่แล้วว่า ชยุต นั้นเจ้าชู้มากเพียงใด แต่ก็เพราะด้วยคำสัญญาที่เขามอบให้ จึงทำให้เธอตัดสินใจตอบรับไมตรี
'ผมขอสัญญาต่อหน้าคุณพ่อและคุณแม่ของคุณ ว่าถ้าหากคุณยอมที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับผม ผมจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นมาเทียบเคียงคุณได้ และจะไม่มีทางยอมปล่อยให้ใครต้องมาทำให้คุณเสียใจโดยเด็ดขาด ผมอยากดูแลคุณและลูก ไปอยู่กับผมเถอะนะอุษา'
พอจากนั้นมาเธอก็ยอมย้ายมาอยู่กับเขาแลกกับการที่เขายังคงช่วยประครองธุรกิจของอดีตสามีเอาไว้ โดยที่เธอปล่อยให้ฉัตราเติบโตขึ้นมากับผู้เป็นตาและยาย ซึ่งนั่นเป็นความต้องการของฉัตราเองด้วยที่ไม่ได้อยากย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ส่วนที่เหลือเธอเองก็คอยส่งเสียค่าเลี้ยงดูและค่าเล่าเรียนมาให้อยู่มิได้ขาด
อยู่กันเพียงไม่นานอาการออกลายเจ้าชู้ก็มีให้เห็นแทบจะรายวัน ความเจ้าชู้ของเขาที่ได้รับรู้มามีให้เห็นทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่ตอนนั้นเธอเองก็ยังนิ่งเฉย เพราะถือว่ายังไงเสียชยุตก็ยังไม่ได้ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ จนในที่สุดวันหนึ่งชยุตก็ยอมมาสารภาพกับเธอว่าที่ทำแบบนั้นเป็นเพราะต้องการที่จะประชดเธอ ประชดที่เธอไม่เคยเปิดใจให้เขาสักที เขาถามเธอว่าจะต้องรอถึงเมื่อไหร่เธอถึงจะยอมเปิดใจ หากแต่ตอนนั้นเธอเองก็ไม่สามารถตอบได้
พอไม่ได้ตอบและทำเป็นเฉยเสีย ชยุตก็ยิ่งทำกับเธอหนักมากยิ่งขึ้น เขาทำแบบนั้นกับเธอซ้ำๆเป็นเวลายี่สิบเกือบสามสิบปี ชีวิตเขามีผู้หญิงมากหน้าหลายตาผ่านไปผ่านมาจนไม่สามารถจำหน้าได้ก็จริง หากแต่เขาก็ยังคงรักษาคำมั่นสัญญาเอาไว้ได้ว่าจะไม่พาผู้หญิงคนไหนเข้ามาอยู่บ้านร่วมชายคาบ้าน และสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่ทำให้เธอยังคงอยู่ตรงนี้
จนกระทั่งเมื่อสองเดือนก่อนที่เขาพาเด็กสาวที่ชื่อ พริมา เข้ามาและแนะนำกับเธอว่าเด็กคนนี้ คือ ลูกสาว วันนั้นเองที่เธอรู้สึกได้ว่าชยุตไม่ได้เห็นค่าของเธออีกต่อไป จากที่คิดว่าไม่เคยแคร์ตอนที่เขามีคนอื่น พอเอาเข้าจริงๆ ก็กลายเป็นว่าต้องแอบหลบเข้าไปซ่อนน้ำตา แอบนอนร้องไห้อยู่คนเดียวทุกวัน บอกใครก็ไม่ได้ น่าจะมีก็เพียงแค่ ขนุน เด็กสาวที่อยู่ด้วยกันมา คนที่มีชื่อและรูปร่างหน้าตาไปในทิศทางเดียวกันเท่านั้นที่เธอพอที่จะปรับทุกด้วยได้
'ฉัตรปล่อยให้แม่ได้อยู่ที่นี่กับลุงชยุตต่อเถอะ ไหนๆก็อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้แล้ว แม่ก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่เห็นหน้าเขาไปได้อีกนานสักแค่ไหน สามสิบปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีผู้หญิงมากมายไม่เคยซ้ำหน้า แต่อย่างน้อยเขาก็ยังรักษาสัญญาได้ว่าจะไม่พาผู้หญิงหน้าไหนเข้าบ้านมาให้แม่ต้องปวดใจ'คำพูดของมารดาในวันที่เขาเข้าไปรับและบอกกับเธอว่าจะมาพาเธออกไปจากที่นี่นั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัว ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามารดาจะไม่เคยเลี้ยงดู แต่เขาก็รู้เสมอว่าการที่มารดาจำต้องยอมอดทนอยู่กินกับนายชยุตนั้นแลกมากับอะไร เงินทองทุกบาทล้วนแลกมาจากการที่มารดาต้องทนเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายความรู้สึกจากผู้ชายคนนั้น และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่เขาพยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อที่จะได้มีทุกอย่าง เพื่อที่จะได้สามารถช่วยให้มารดาได้หลุดพ้นออกมา หากแต่ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันอาจจะใช้เวลานานเกินไป เพราะในวันที่เขานั้นมีมากพอ แต่มารดากลับยังเลือกที่จะอยู่ที่นั่นต่อเพราะไม่กล้าปล่อยตาแก่นั่นทิ้งไว้ ที่ผ่านมาเขาอาจจะยอมทนทำเป็นหลับหูหลับตาไม่ยื่นมือตีนเข้าไปยุ่งได้ แต่คราวนี้ถึงขนาดว่าพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเหยียบย่ำศักด
"หาบเข้าไปอย่ามัวแต่ทำเป็นอิดออดสำออย ฉันไม่ใช่ไอ้แก่ชยุตนะที่จะมาหลงเสน่ห์เมตตาเธอ รีบตักขึ้นมาไวๆได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องลงไปตาม!"เสียงตะโกนลงมาจากบนโขดหินดังแว่วเข้ามาในหูแว้ดๆ หลายวันมาแล้วที่เธอถูกชายแปลกหน้าคนนี้จับมาขังเอาไว้ที่บนเกาะไหนสักแห่ง มองไปรอบตัวก็มีเพียงท้องทะเลกว้างใหญ่ พอหันหลังไปก็มีเพียงแค่กระท่อมเกือบร้างข้างหลังที่เอาไว้ใช้หลับนอนพริมาหลับหูหลับตาหย่อนเชือกที่ผูกกับถังน้ำลงไปในบ่อที่มีอยู่ข้างหน้าผาเพื่อตักน้ำขึ้นมาตามคำสั่งของคนที่นั่งจุดบุหรี่สูบและคอยจับตามองเธอมาจากบนโขดหินข้างบนแล้วก็พยายามชั่งใจ จะเอายังไงดี โดดลงไปตอนนี้เลยดีไหม ตราบใดที่ยังมีแรงเธอก็จะขอว่ายน้ำไปให้ไกลจนกว่าจะเจอเรือของชาวประมงสักลำแล้วค่อยขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่ อย่างมากก็แค่ตาย ดีกว่าต้องมาทนอยู่ที่นี่โดยที่ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าต่อไปเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ยิ่งสองสามวันมานี้ผู้ชายคนนี้พยายามที่จะทรมานเธอสารพัด ทั้งสั่งให้ออกมาดายหญ้ารอบกระท่อมบ้างตั้งแต่เช้ายันบ่าย ขนกรวดหินทรายจากอีกที่ไปกองอีกที่ ขุดหลุมดินปลูกต้นไม้ ตักน้ำจากบ่อที่ขุดเอาไว้ใส่โอ่ง รดน้ำแปลงผัก กวาดใบไม้ และอ
"ฉันจะเป็นอะไรกับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ บอกแล้วไงว่าให้แก้ผ้าออก หรือว่าต้องให้ฉันเป็นคนไปถอดให้เอง ถอด!"เสียงตะคอกยังคงดังขึ้นเสมอต้นเสมอปลาย นี่ถ้าจะว่าไปเธอกับนายคนนี้ก็ตะโกนคุยกันมาน่าจะเป็นเกือบยี่สิบนาทีได้ หลังจากที่บอกให้เธอนั้นถอดเสื้อผ้าออกให้หมด คนที่สั่งก็จัดการถอดเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มของตัวเองออกมาบิดน้ำด้วย เหลือไว้แค่เพียงกางเกงยีนต์ขายาวสีดำขาดเข่าที่เจ้าตัวสวมอยู่ตัดกับเข็มขัดหนังเส้นสีน้ำตาลเข้มดูเท่ ยิ่งทั้งเนื้อตัวนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างกับพวกนายแบบห้องเสื้อด้วยแล้ว ทำเอาพริมาถึงกับตัวชาด้วยความตะลึงไปได้เหมือนกัน"มองอะไร อย่าบอกนะว่าพอเห็นหุ่นฉันแล้วก็เกิดอาการ คัน ขึ้นมา ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องบอกว่าเสียใจด้วย เพราะว่าฉันไม่สามารถ เกา ให้เธอหายคันได้ อย่างที่บอกว่าฉันขยะแขยงเธอ ที่ผ่านมาเธอคงจะต้องทนกล้ำกลืนฝืนทนให้ไอ้แก่นั่นปู้ย่ำปู้ยีเพื่อแลกกับเศษเงินทองข้าวของเครื่องใช้สินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เธอดันเลือกแบบนั้นเอง""นายชื่ออะไร"นายหัวฉัตราถึงกับคิ้วกระตุก เมื่อดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพึ่งจะพูดไปนั้นมันคงจะลอยผ่านเข้าหูซ้ายและทะลุออกทางหูขวา ทั้งที่เขาพูดอ
ในที่สุดเธอก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง พริมาค่อยๆขยับเดินโขยกเขยกเท้าเปล่าหิ้วถังใส่น้ำที่พึ่งจะตักขึ้นมาจากบ่อมาเติมใส่ตุ่มข้างหน้าจนเต็ม แล้วจากนั้นจึงได้โยนถังทิ้ง ทันทีที่เสร็จงาน เชือกเส้นยาวที่ถูกนำมาผูกมัดเอาไว้ที่ขาเพื่อกันเธอหนีก็กระตุก ที่บนระเบียงหน้ากระท่อมยังมีแคร่ไม้ไผ่อีกตัววางไว้ บนนั้นมีผู้ที่ถือปลายเชือกที่ผูกล่ามเธอนอนเอกเขนกยกขาไขว่ห้างมองมาพร้อมด้วยเสียงตะโกนที่แข็งกระด้างดังขึ้นอีกครั้ง"เสร็จแล้วก็กลับขึ้นมา จะมัวมายืนแอ่นหน้าแอ่นหลังโชว์หุ่นล่อหน้าล่อตาใคร แถวนี้ไม่มีใครตาต่ำเหมือนไอ้แก่นั่นหรอกนะ เก็บนมเหี่ยวๆกับก้นแฟบๆของเธอไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเดี๋ยวนี้"เพราะว่าต้องยกน้ำมาเติมในตุ่มตั้งสี่ห้ารอบกว่าจะเต็ม แถมยังต้องเดินเท้าเปล่าเหยียบย่ำหินก้อนเล็กๆที่มีอยู่เกลื่อนบนพื้นทั่วไปมา ทำเอาทั้งแขนและเอวนั้นตึงไปหมด พอตอนที่โยนถังตักน้ำทิ้งก็แค่อยากยืนบิดเนื้อบิดตัวนิดหน่อย สะบัดแขนไปมาเพื่อไล่ความเมื่อย แต่ก็ดันมาถูกบลูลี่รูปร่างจากคนจิตใจต่ำช้า ทำเอาความภาคภูมิใจในรูปร่างตัวเองที่เคยมีมาตลอดนั้นถึงกับเป๋สามสิบสี่ ยี่สิบสอง สามสิบห้า เอาจริงๆสัดส่วนรูปร่างที่เธอมีนั้นก็ไม
หลังจากผูกร่างขาวโพลนที่มีเพียงแค่ชุดชั้นในตัวบางปกปิดร่างกายไว้กับเสา แถมเจ้าของมันก็ยังคงแหกปากส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆออกมาจนเเสบแก้วหูได้สำเร็จ ฉัตราก็ถึงกับต้องยืนถอยหลังกลับมามองแล้วคิดตรึกตรองอะไรบางอย่าง ก็แค่เด็กเสี่ยคนหนึ่ง ทำไมเขาถึงจะทำไม่ได้ ปกติเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรอยู่แล้ว กว่าจะมาถึงขนาดนี้ กว่าจะได้เป็น นายหัวฉัตรา เจ้าของเกาะเหมือนมุก ชีวิตที่ผ่านมาเขาก็ใช้มาจนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ บรรดาน้องๆหนูๆที่เลี้ยงดูเอาไว้หรือไม่ก็พวกอีหนูเด็กเอ็น ไหนจะสุกี้หม้อรวมที่พวกลูกน้องคนสนิทชอบชวนไปก็เคยผ่านมา กับคราวนี้ที่ต้องจัดการอีหนูของพ่อเลี้ยงตัวเองให้สิ้นฤทธิ์เสีย หลับหูหลับตาทำไป มันก็คงจะเหมือนกับไปใช้บริการเหมือนครั้งก่อนๆแค่นั้นแหละ ลองดูสิว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ขึ้นชื่อว่าผ่านมือเขามาแล้วเหมือนกัน ไอ้แก่ชยุตยังจะอยากเลี้ยงเด็กนี่ไว้ในกรงทองเทียบเคียงกับมารดาของเขาอยู่หรือเปล่า"ทีแรกก็ว่าจะไม่ แต่พอดีว่าช่วงนี้ฉันเองก็ของขาดมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันก็น่าจะลองดูหน่อยว่าเธอมีดีอะไรนักไอ้แก่นั่นถึงขนาดได้ยอมผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้ มานี่!""ไม่นะ กรี๊ด"พอพูดจบพริมาก็ถู
หลังจากที่ตกลงจนได้ข้อสรุปที่ตรงกัน เรียวขางามทั้งสองข้างก็ค่อยแยกอ้าออกจากกันและตั้งฉากขึ้นจนเผยให้เห็นกุหลาบงามที่แสนอวบอูมและเนียนกริบ ปราศจากเส้นขนปกคลุม กลีบดอกของมันทุกดอกนั้นมีสีชมพูสดน่ามอง ที่จุดกึ่งกลางเกสรยังคงมีน้ำหวานปริ่มฉัตรายืนมองภาพนั้นด้วยความตะลึงงัน ภายในใจก็อดยอมรับไม่ได้ว่าภาพเบื้องหน้านั้นช่างปลุกปั่นความหื่นกระหายทางกามรมณ์ของเขาให้ตื่นกระเจิง ทั้งที่พยายามพูดกล่อมตัวเองมาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้สกปรก แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้เขากลับทำเหมือนลืมเลือนมันไป ตั้งแต่เติบโตเป็นหนุ่มมา ชีวิตของเขานั้นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนมาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด หากแต่ความงดงามตรงหน้านั้นกลับทำให้เขาดั่งถูกเป่าใส่ด้วยมนต์สะกด นาทีนั้นเขาไม่แม้แต่ที่จะอยากรอช้า คนตัวใหญ่รีบพาตัวเองเข้าไปนั่งแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเรียวขางามนั่นแล้วจ้องมองไปยังจุดศูนย์กลางจุดเดียวที่กำลังดึงดูดสายตาเขาเอาไว้ฝ่ามือใหญ่ยกเอื้อมหมายจะลูบสัมผัส แต่อยู่ๆสะโพกงามก็ขยับถอยหนีจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเจ้าของมันด้วยความหงุดหงิด"เอ้า นี่เธอจะขยับหนีทำไม""ก็ฉันเห็นว่านายกำลังจะจับ..มัน""แล้วไง จับไม่ได้?
พริมายังคงปล่อยให้ขั้นตอนในการพิสูจน์เหล่านั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จากทีแรกที่เจ็บแสนเจ็บ เวลานี้กลับกลายเป็นความหฤหรรษ์หรรษาเข้ามาแทนที่ เสียงครางระงมผลัดเปลี่ยนกันดังขึ้นอย่างเป็นช่วงจังหวะ บวกกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อนั้นดังลั่นสนั่นกระท่อม"อ๊ะ อ๊า ฉันเสียวจะตายอยู่แล้ว เมื่อไหร่นายถึงจะพิสูจน์เสร็จซักที""ก็จนกว่าฉันจะแน่ใจไงว่าที่ผ่านมา เธอเคย หรือ ยังไม่เคย""แต่นี่นายก็พิสูจน์มาจนจะเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วนะ ยังไม่แน่ใจอีกเหรอไอ้คนบ้า""แน่ใจแล้ว แต่แค่ ยังไม่เสร็จ""ไม่เสร็จก็เรื่องของนาย ออกไปจากตัวฉันได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน""เห็นแก่ตัวไม่เบาเลยนี่ อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอเสร็จไปแล้วตั้งกี่รอบ หันหลังมา"จากนั้นพริมาก็ถูกจับให้ก้มคลานสี่ขาหันหลัง โดยที่มือยังคงมีเชือกเส้นยาวผูกเอาไว้อย่างเดิม ก่อนที่สองเรียวขาจะถูกจับถ่างให้เปิดอ้ากว้างขึ้น แล้วดอกไม้งามก็ถูกสัดส่วนที่เป็นส่วนหัวหยักบานนั้นกดแทรกเข้ามาอีกรวดเดียวจนเสียวสะท้าน "อ๊า""ซี้ด แอ่นก้นขึ้นอีกนิดสิ ฉันจะได้จับเธอกระแทกถนัดๆหน่อย"พอเธอนิ่งเฉยไม่ยอมทำตาม แขนทั้งสองข้างก็ถูกจับแกะออกจากด้านหน้าแล้วเอามาผูกไว้ที่ด้านหล
"นายหัวครับ คนของเราได้รับรายงานมาว่าไอ้ชยุตมันให้คนของมันตามสืบแล้วไปได้ข้อมูลมาว่ามีคนของเราอยู่ในละแวกแถวนั้นในวันนั้นด้วยครับ มันก็เลยน่าจะเกิดสงสัยอะไรบางอย่าง ก็เลยทำเป็นขอนัดมาว่าคุณอุษาแม่ของนายอยากมาเยี่ยม""เมื่อไหร่""พรุ่งนี้ครับ คนของเรารายงานมาว่ามันจะเตรียมขนลูกน้องมาเต็มลำเรือสปีดโบ๊ทห้าคันเลยครับ คงกะว่าจะมาค้นเกาะ""อื้ม ก็ให้มันมา""เอ่อ แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะครับนายหัว ผมกลัวว่ามันจะแอบให้พวกลูกน้องแอบค้นหาทั่วทั้งเกาะ ยิ่งด้านหลังเกาะที่กระท่อมตั้งอยู่ ถ้าพวกมันแอบขึ้นมาทางนั้นก็โป๊ะเซะเลยนะครับนาย""เดี๋ยวเอาไว้ฉันจัดการเอง""ครับนายหัว"หลังจากนั่งร้องไห้มาสักพักอย่างไร้สติ พริมาก็พึ่งจะกลับมามีสติก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิบากคันเดิมวิ่งกลับเข้ามา ด้วยความตกใจจึงได้รีบวิ่งพาตัวเองเข้าห้องน้ำมาอย่างไว ก่อนจะยกขันตักน้ำเทราดลงไปบนตัว เสียงแกะโซ่ล่ามและเปิดประตูเหยียบย่ำเข้ามาดังเอี๊ยดอ๊าด ก่อนที่ประตูไม้ไผ่หน้าห้องน้ำจะถูกเปิดออกและมีเรือนร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าหน้าประตูมองเข้ามา"ฉันกลับไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังอาบไม่เสร็จ""ก็เนื้อตัวฉันมันสกปรกมาก ก็เลยต้องอาบนา
พริมาถึงกับต้องแอ่นกระดกกายขึ้นและหลุดเสียงครางออกมาทันทีที่ปลายลิ้นร้อนสัมผัส โดยที่มันถูกกวาดลากขึ้นมาจากข้างล่างผ่านรอยแยกที่มีความเฉอะแฉะของหมู่มวลน้ำหวานที่เอ่อล้นทะลัก เพียงปลายลิ้นร้ายนั่นสัมผัสแตะขยี้ตุ่มเกสรกลางกาย มือขาวๆกับเล็บยาวๆนั้นก็จิกลงบนเส้นผมของผู้หวังดีทันที"อ๊า นาย""เสียวดีใช่ไหม"พริมารีบพยักหน้ารับแบบรัวๆจนผู้หวังดีได้ใจ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเสียวซ่านด้วยความทรมานแต่มีความสุข ใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ยิ่งมุดก้มลงไปใช้ลิ้นปาดเลียซ้ำ ทำเอาสะโพกงามที่คอยส่ายร่อนด้วยความซ่านเสียวนั้นต้องบิดหนี หากแต่ก็ถูกผู้หวังดีจับเอาไว้"ปลาตัวนั้นมันน่าจะว่ายเข้าไปลึกมากๆ เห็นทีว่าฉันคงต้องได้ใช้อะไรที่มันยาวกว่าลิ้นสอดควานเข้าไปหาตัวปลา เธออยากให้ฉันช่วยไหม""ช่วยฉัน นายช่วยฉันด้วย"พอบอกให้ช่วย เรียวขางามก็ยิ่งแบะอ้าออกกว้างขึ้น เผยให้เห็นกุหลาบงามสีชมพูสดที่ทั้งเต่งตูมและแสนเกลี้ยงเกลา ผู้หวังดีใช้นิ้วโป้งมือบีบขยี้ที่กลางปุ่มเกสรอีกสักน้อยแล้วจึงก้มลงไปดูดเลียอีกที จากนั้นจึงได้เงยหน้าขึ้นกลับขึ้นมาและถอยออกไปยืนขึ้นเพื่อถอดกางเกงบ็อกเซอร์ออกจนเห็นท่อนเอ็นสวยเต็มไปด้วยเส้นเลือด
ร่างสองร่างเนื้อตัวบดเบียดแนบชิดเข้าหากัน มือของทั้งสองฝ่ายต่างเกาะกิ่งไม้เอาไว้กันคนละข้าง ส่วนข้างที่เหลือพริมาเลือกที่จะวางเอาไว้บนไหล่แกร่งนั่น ส่วนของคนเจ้าเล่ห์นั้นก็กำลังบีบคลึงลงมาบนที่โนมเนื้อของเต้าเธอ"อื้อ นี่นายเมาแล้วใช่ไหม ถึงได้คิดจะลวนลามฉันอีกแบบนี้"พอคนเจ้าเล่ห์ผละริมฝีปากออก พริมาก็เอ่ยปากถาม แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆที่ตัวเธอเองยอมปล่อยกายใจให้ผู้ชายแปลกหน้าได้กอดจูบตามอำเภอใจ แต่ลึกๆตัวเองก็แอบยอมรับไม่ได้ว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นและชอบมัน คนเจ้าเล่ห์จ้องมองเธอนิ่งและเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเธอดื้อๆ สองใบหน้าต่างเคล้าคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง สายตาคมที่ฝ่ายนั้นใช้มองมาบวกกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดขึ้นมาจากริมฝีปากช่วยปลุกปั่นความต้องการบางอย่างภายในใจเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนคละเจือไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ที่เป่ารดมาตรงหน้า สร้างความรู้สึกร้อนวูบวาบทั่วทั้งร่างกาย "ว่าไง นายคิดที่จะลวนลามฉันอีกหรือเปล่า"พริมาถามย้ำอีกครั้งราวกับต้องการจะตื้อ แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังอยากแกล้ง แต่ตัวเธอเองก็ต้องการคำตอบจึงได้ถามจี้"แล้วเธอ อยากให้ฉันทำไหมล่ะ""อ๊ะ"พอพูดจบ มือข้างที่บีบขย้ำเต้านมของเ
"โห สวยจัง"พอเดินเข้ามาถึงพริมาก็ตกตะลึงกับสิ่งของตกแต่งที่อยู่ภายในอย่างลืมตัว คนตัวเล็กเดินเข้าไปสำรวจอย่างช้าๆ ภายในนั้นถูกเจาะให้เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก มีเตียงนอนขาวสะอาดตั้งอยู่กึ่งกลางพอดี "ทำได้ยังไง ทำไมถึงได้มีเตียงนอนมาอยู่ในนี้ได้""ใช้ ฮอ ยกขึ้นมา"คนตัวใหญ่ตอบเธอมาหน้าตาเฉยอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่มือกำลังจุดเทียนที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะ แล้วจากนั้นขวดไวน์แดงก็ถูกหยิบออกมาจากที่ไหนสักแห่งตอนที่พริมากำลังชื่นชมบรรยากาศรอบๆ ถ้านั่งมองจากบนเตียงนอนหันหน้ามองออกไป วิวทิวทัศน์ข้างหน้าก็คือภาพท้องฟ้าสีส้มอร่ามงามตา เพราะว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน มันช่างงดงามและโรแมนติกกว่าทุกที่ที่เธอเคยได้เห็น"จะดื่มด้วยไหม"แก้วไวน์ถูกยื่นเข้ามาตรงหน้า แล้วพริมาก็ยื่นมือมารับมันไปกระดกดื่มรวดเดียวหมด สมองของเธอกำลังใช้ความคิดว่าตกลงแล้วผู้ชายคนที่จับตัวเธอมานี้คือใคร ทำไมถึงได้ดูมีอำนาจสั่งการให้คนไปจับตัวเธอมาได้ แถมดูที่ๆเขามาเธอมาตอนนี้สิ หากว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมาจะมีปัญญามาทำอะไรแบบนี้ได้"ตกลงว่านายเป็นใคร"คนตัวเล็กนั่งถือแก้วไวน์ไขว่ห้างอยู่บนเตียง ในขณะที่คนตัวใหญ่กำลังยืนมองวิ
"นายหัวครับ คนของเราได้รับรายงานมาว่าไอ้ชยุตมันให้คนของมันตามสืบแล้วไปได้ข้อมูลมาว่ามีคนของเราอยู่ในละแวกแถวนั้นในวันนั้นด้วยครับ มันก็เลยน่าจะเกิดสงสัยอะไรบางอย่าง ก็เลยทำเป็นขอนัดมาว่าคุณอุษาแม่ของนายอยากมาเยี่ยม""เมื่อไหร่""พรุ่งนี้ครับ คนของเรารายงานมาว่ามันจะเตรียมขนลูกน้องมาเต็มลำเรือสปีดโบ๊ทห้าคันเลยครับ คงกะว่าจะมาค้นเกาะ""อื้ม ก็ให้มันมา""เอ่อ แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะครับนายหัว ผมกลัวว่ามันจะแอบให้พวกลูกน้องแอบค้นหาทั่วทั้งเกาะ ยิ่งด้านหลังเกาะที่กระท่อมตั้งอยู่ ถ้าพวกมันแอบขึ้นมาทางนั้นก็โป๊ะเซะเลยนะครับนาย""เดี๋ยวเอาไว้ฉันจัดการเอง""ครับนายหัว"หลังจากนั่งร้องไห้มาสักพักอย่างไร้สติ พริมาก็พึ่งจะกลับมามีสติก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิบากคันเดิมวิ่งกลับเข้ามา ด้วยความตกใจจึงได้รีบวิ่งพาตัวเองเข้าห้องน้ำมาอย่างไว ก่อนจะยกขันตักน้ำเทราดลงไปบนตัว เสียงแกะโซ่ล่ามและเปิดประตูเหยียบย่ำเข้ามาดังเอี๊ยดอ๊าด ก่อนที่ประตูไม้ไผ่หน้าห้องน้ำจะถูกเปิดออกและมีเรือนร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าหน้าประตูมองเข้ามา"ฉันกลับไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังอาบไม่เสร็จ""ก็เนื้อตัวฉันมันสกปรกมาก ก็เลยต้องอาบนา
พริมายังคงปล่อยให้ขั้นตอนในการพิสูจน์เหล่านั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จากทีแรกที่เจ็บแสนเจ็บ เวลานี้กลับกลายเป็นความหฤหรรษ์หรรษาเข้ามาแทนที่ เสียงครางระงมผลัดเปลี่ยนกันดังขึ้นอย่างเป็นช่วงจังหวะ บวกกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อนั้นดังลั่นสนั่นกระท่อม"อ๊ะ อ๊า ฉันเสียวจะตายอยู่แล้ว เมื่อไหร่นายถึงจะพิสูจน์เสร็จซักที""ก็จนกว่าฉันจะแน่ใจไงว่าที่ผ่านมา เธอเคย หรือ ยังไม่เคย""แต่นี่นายก็พิสูจน์มาจนจะเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วนะ ยังไม่แน่ใจอีกเหรอไอ้คนบ้า""แน่ใจแล้ว แต่แค่ ยังไม่เสร็จ""ไม่เสร็จก็เรื่องของนาย ออกไปจากตัวฉันได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน""เห็นแก่ตัวไม่เบาเลยนี่ อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอเสร็จไปแล้วตั้งกี่รอบ หันหลังมา"จากนั้นพริมาก็ถูกจับให้ก้มคลานสี่ขาหันหลัง โดยที่มือยังคงมีเชือกเส้นยาวผูกเอาไว้อย่างเดิม ก่อนที่สองเรียวขาจะถูกจับถ่างให้เปิดอ้ากว้างขึ้น แล้วดอกไม้งามก็ถูกสัดส่วนที่เป็นส่วนหัวหยักบานนั้นกดแทรกเข้ามาอีกรวดเดียวจนเสียวสะท้าน "อ๊า""ซี้ด แอ่นก้นขึ้นอีกนิดสิ ฉันจะได้จับเธอกระแทกถนัดๆหน่อย"พอเธอนิ่งเฉยไม่ยอมทำตาม แขนทั้งสองข้างก็ถูกจับแกะออกจากด้านหน้าแล้วเอามาผูกไว้ที่ด้านหล
หลังจากที่ตกลงจนได้ข้อสรุปที่ตรงกัน เรียวขางามทั้งสองข้างก็ค่อยแยกอ้าออกจากกันและตั้งฉากขึ้นจนเผยให้เห็นกุหลาบงามที่แสนอวบอูมและเนียนกริบ ปราศจากเส้นขนปกคลุม กลีบดอกของมันทุกดอกนั้นมีสีชมพูสดน่ามอง ที่จุดกึ่งกลางเกสรยังคงมีน้ำหวานปริ่มฉัตรายืนมองภาพนั้นด้วยความตะลึงงัน ภายในใจก็อดยอมรับไม่ได้ว่าภาพเบื้องหน้านั้นช่างปลุกปั่นความหื่นกระหายทางกามรมณ์ของเขาให้ตื่นกระเจิง ทั้งที่พยายามพูดกล่อมตัวเองมาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้สกปรก แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้เขากลับทำเหมือนลืมเลือนมันไป ตั้งแต่เติบโตเป็นหนุ่มมา ชีวิตของเขานั้นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนมาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด หากแต่ความงดงามตรงหน้านั้นกลับทำให้เขาดั่งถูกเป่าใส่ด้วยมนต์สะกด นาทีนั้นเขาไม่แม้แต่ที่จะอยากรอช้า คนตัวใหญ่รีบพาตัวเองเข้าไปนั่งแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเรียวขางามนั่นแล้วจ้องมองไปยังจุดศูนย์กลางจุดเดียวที่กำลังดึงดูดสายตาเขาเอาไว้ฝ่ามือใหญ่ยกเอื้อมหมายจะลูบสัมผัส แต่อยู่ๆสะโพกงามก็ขยับถอยหนีจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเจ้าของมันด้วยความหงุดหงิด"เอ้า นี่เธอจะขยับหนีทำไม""ก็ฉันเห็นว่านายกำลังจะจับ..มัน""แล้วไง จับไม่ได้?
หลังจากผูกร่างขาวโพลนที่มีเพียงแค่ชุดชั้นในตัวบางปกปิดร่างกายไว้กับเสา แถมเจ้าของมันก็ยังคงแหกปากส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆออกมาจนเเสบแก้วหูได้สำเร็จ ฉัตราก็ถึงกับต้องยืนถอยหลังกลับมามองแล้วคิดตรึกตรองอะไรบางอย่าง ก็แค่เด็กเสี่ยคนหนึ่ง ทำไมเขาถึงจะทำไม่ได้ ปกติเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรอยู่แล้ว กว่าจะมาถึงขนาดนี้ กว่าจะได้เป็น นายหัวฉัตรา เจ้าของเกาะเหมือนมุก ชีวิตที่ผ่านมาเขาก็ใช้มาจนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ บรรดาน้องๆหนูๆที่เลี้ยงดูเอาไว้หรือไม่ก็พวกอีหนูเด็กเอ็น ไหนจะสุกี้หม้อรวมที่พวกลูกน้องคนสนิทชอบชวนไปก็เคยผ่านมา กับคราวนี้ที่ต้องจัดการอีหนูของพ่อเลี้ยงตัวเองให้สิ้นฤทธิ์เสีย หลับหูหลับตาทำไป มันก็คงจะเหมือนกับไปใช้บริการเหมือนครั้งก่อนๆแค่นั้นแหละ ลองดูสิว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ขึ้นชื่อว่าผ่านมือเขามาแล้วเหมือนกัน ไอ้แก่ชยุตยังจะอยากเลี้ยงเด็กนี่ไว้ในกรงทองเทียบเคียงกับมารดาของเขาอยู่หรือเปล่า"ทีแรกก็ว่าจะไม่ แต่พอดีว่าช่วงนี้ฉันเองก็ของขาดมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันก็น่าจะลองดูหน่อยว่าเธอมีดีอะไรนักไอ้แก่นั่นถึงขนาดได้ยอมผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้ มานี่!""ไม่นะ กรี๊ด"พอพูดจบพริมาก็ถู
ในที่สุดเธอก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง พริมาค่อยๆขยับเดินโขยกเขยกเท้าเปล่าหิ้วถังใส่น้ำที่พึ่งจะตักขึ้นมาจากบ่อมาเติมใส่ตุ่มข้างหน้าจนเต็ม แล้วจากนั้นจึงได้โยนถังทิ้ง ทันทีที่เสร็จงาน เชือกเส้นยาวที่ถูกนำมาผูกมัดเอาไว้ที่ขาเพื่อกันเธอหนีก็กระตุก ที่บนระเบียงหน้ากระท่อมยังมีแคร่ไม้ไผ่อีกตัววางไว้ บนนั้นมีผู้ที่ถือปลายเชือกที่ผูกล่ามเธอนอนเอกเขนกยกขาไขว่ห้างมองมาพร้อมด้วยเสียงตะโกนที่แข็งกระด้างดังขึ้นอีกครั้ง"เสร็จแล้วก็กลับขึ้นมา จะมัวมายืนแอ่นหน้าแอ่นหลังโชว์หุ่นล่อหน้าล่อตาใคร แถวนี้ไม่มีใครตาต่ำเหมือนไอ้แก่นั่นหรอกนะ เก็บนมเหี่ยวๆกับก้นแฟบๆของเธอไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเดี๋ยวนี้"เพราะว่าต้องยกน้ำมาเติมในตุ่มตั้งสี่ห้ารอบกว่าจะเต็ม แถมยังต้องเดินเท้าเปล่าเหยียบย่ำหินก้อนเล็กๆที่มีอยู่เกลื่อนบนพื้นทั่วไปมา ทำเอาทั้งแขนและเอวนั้นตึงไปหมด พอตอนที่โยนถังตักน้ำทิ้งก็แค่อยากยืนบิดเนื้อบิดตัวนิดหน่อย สะบัดแขนไปมาเพื่อไล่ความเมื่อย แต่ก็ดันมาถูกบลูลี่รูปร่างจากคนจิตใจต่ำช้า ทำเอาความภาคภูมิใจในรูปร่างตัวเองที่เคยมีมาตลอดนั้นถึงกับเป๋สามสิบสี่ ยี่สิบสอง สามสิบห้า เอาจริงๆสัดส่วนรูปร่างที่เธอมีนั้นก็ไม
"ฉันจะเป็นอะไรกับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ บอกแล้วไงว่าให้แก้ผ้าออก หรือว่าต้องให้ฉันเป็นคนไปถอดให้เอง ถอด!"เสียงตะคอกยังคงดังขึ้นเสมอต้นเสมอปลาย นี่ถ้าจะว่าไปเธอกับนายคนนี้ก็ตะโกนคุยกันมาน่าจะเป็นเกือบยี่สิบนาทีได้ หลังจากที่บอกให้เธอนั้นถอดเสื้อผ้าออกให้หมด คนที่สั่งก็จัดการถอดเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มของตัวเองออกมาบิดน้ำด้วย เหลือไว้แค่เพียงกางเกงยีนต์ขายาวสีดำขาดเข่าที่เจ้าตัวสวมอยู่ตัดกับเข็มขัดหนังเส้นสีน้ำตาลเข้มดูเท่ ยิ่งทั้งเนื้อตัวนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างกับพวกนายแบบห้องเสื้อด้วยแล้ว ทำเอาพริมาถึงกับตัวชาด้วยความตะลึงไปได้เหมือนกัน"มองอะไร อย่าบอกนะว่าพอเห็นหุ่นฉันแล้วก็เกิดอาการ คัน ขึ้นมา ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องบอกว่าเสียใจด้วย เพราะว่าฉันไม่สามารถ เกา ให้เธอหายคันได้ อย่างที่บอกว่าฉันขยะแขยงเธอ ที่ผ่านมาเธอคงจะต้องทนกล้ำกลืนฝืนทนให้ไอ้แก่นั่นปู้ย่ำปู้ยีเพื่อแลกกับเศษเงินทองข้าวของเครื่องใช้สินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เธอดันเลือกแบบนั้นเอง""นายชื่ออะไร"นายหัวฉัตราถึงกับคิ้วกระตุก เมื่อดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพึ่งจะพูดไปนั้นมันคงจะลอยผ่านเข้าหูซ้ายและทะลุออกทางหูขวา ทั้งที่เขาพูดอ