ฉัตราไปแล้วและบอกให้เธอรอเขากลับมา หากว่าเคลียร์ธุระเสร็จลงเมื่อไหร่ เขาสัญญาว่าจะรีบกลับมาหาเธอและพาเธอกลับเข้าไปอยู่บ้านเขาด้วยกัน
พริมาไม่รู้ว่าความจริงแล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ เหตุผลที่แน่ชัดในการจับตัวเธอมาก็ยังดูเหมือนว่าจะคลุมเครือ แต่สิ่งเดียวที่มันกระจ่างชัดเจนในใจ คือการที่หัวใจดวงน้อยๆของเธอมันเริ่มเปิดรับผู้ชายคนนี้เข้ามา ต่อให้เขาจะเป็นนายหัวฉัตรา หรือเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาที่ชื่อพี่ฉัตร เธอก็คิดดีแล้วว่าอยากจะไปอยู่กับเขา หัวใจของเธอมันยินยอมที่จะให้เขาเข้ามาอยู่ภายในแล้ว หากว่าทุกอย่างไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องโกหก หากว่าทุกคำพูดนั้นฉัตราหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ เธอก็พร้อมที่จะโบยบินจากอ้อมกอดบิดามาอยู่กับเขา ขอเพียงแค่เขามีความรู้สึกที่มันตรงกันกับเธอเท่านั้น
ก่อนไปฉัตราเดินออกไปเอาข้าวของเสื้อผ้าอาหารและน้ำดื่มที่เขาโทรบอกให้ลูกน้องเตรียมเอามาแขวนไว้ให้ที่ตรงทางเข้าข้างบันไดตั้งแต่เช้าเข้ามาให้เธอ พริมาหยิบกล่องอาหารออกมาวางไว้แล้วจึงค่อยๆจัดการมันอย่างไม่รีรอ ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นเธอเก็ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลยแม้เเต่น้อย ทั้งๆที่ฉัตราถามแล้วแท้ๆว่านอกจากไวน์แดงที่ดื่มเข้าไป เธออยากจะกินอะไรหรือเปล่า เขาจะได้สั่งให้ลูกน้องเอาเข้ามาให้ แต่ว่าเธอเองที่ปฏิเสธบอกว่าไม่หิว เพราะเอาแต่ลุ่มหลงมัวเมาในกามราคะ พอเธอบอกว่าไม่กิน ฉัตราเองก็ยืนกรานว่าจะไม่กินเหมือนกันกับเธอ หากแต่ว่ากลับหันมากินเธอแทน ทำเอาทั้งเธอและเขาต่างก็ต้องสูญเสียพลังงานทางร่างกายไปจนหมดสิ้นพร้อมๆกัน
ทันทีที่กลับพาวิบากคู่ใจกลับเข้ามาจอดที่บริเวณบันไดทางเข้าบ้าน ลูกน้องคนสนิทก็รีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับรายงานสถานการณ์ว่าเวลานี้แขกที่เขาไม่ได้อยากจะให้มาเยือนนั้นได้มาถึงแล้ว
ฉัตราพยักหน้ารับรู้ และสีหน้าไม่ได้มีความกังวลใดๆ ตราบใดที่พริมายังอยู่กับเขา ตราบนั้นคนที่มันนั่งรอเขาอยู่ภายในบ้านก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้ ในเมื่อเขาไม่ให้เสียอย่าง
"แม่ครับ ถ้าอยากเจอทำไมไม่บอกให้ผมไปหา ไม่เห็นว่าต้องลำบากนั่งเรือมาถึงที่นี่"
"ฉัตรลูก ลุงชยุตอยากจะมาตามหาตัวลูกสาวของเขาที่หายตัวไป คนของเขามีหลักฐานว่าวันที่หนูคนนั้นหายตัวไป มีคนเห็นลูกน้องของลูกป้วนเปี้ยนอยู่แถวที่นั่น ฉัตรบอกแม่มาตรงๆว่าตกลงฉัตรได้จับตัวหนูคนนั้นมาจริงหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ปล่อยเขามาเถอะนะลูก เพราะว่าหนูคนนั้นเขาเป็น..ลูกสาวลุงชยุตจริงๆ"
อรอุษาถามลูกเสียงสั่นหน้าเศร้า เพราะไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายมีเรื่องกัน พ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงคู่นี้เปรียบเสมือนดั่งน้ำมันกับเปลวไฟ อยู่ใกล้กันเมื่อไหร่ก็คอยแต่จะลุกพรึ่บ ซึ่งเธอไม่เคยชอบเลยที่เป็นแบบนั้น ยิ่งบรรยากาศในห้องตอนนี้ต่างก็เต็มไปด้วยลูกน้องของทั้งสองฝั่งที่ขนมาเผชิญหน้ากันด้วยการยกปืนเข้าใส่อีกฝ่าย
"นี่เขาบังคับแม่ให้มาพูดกับผมเหรอครับ แล้วหลักฐานล่ะ มีหลักฐานอะไรบ้างที่บอกได้ว่าลูกน้องผมเป็นคนจับตัวลูกสาวเขามา ต่อให้คนของผมจะไปอยู่แถวนั้นจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องถูกลูกน้องผมจับตัวไปนี่ครับ แบบนี้สามีแม่เจตนาที่จะปรักปรำผมและคนของผมหรือเปล่า"
ฉัตราพูดทุกคำโดยที่ไม่คิดจะหันหน้าไปมองชายสูงวัยที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงของตัวเองเลยสักคำ ส่วนฝ่ายนั้นเองก็สวมแว่นตาสีดำปิดปังใบหน้าเอาไว้ เพราะไม่อยากแสดงท่าทีใดๆให้อีกฝ่ายต้องขุ่นข้องหมองใจ ตราบใดที่เขายังไม่ได้ข่าวคราวของลูกสาว ก็จะขอนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวเสียดีกว่า เพราะถ้าเกิดขืนว่าตัวเองใจร้อนบุ่มบ่ามพูดอะไรให้ลูกเลี้ยงขัดหูขัดใจไปก็กลัวว่ามันจะไปกระทบถึงลูกสาว ทั้งๆที่ในใจนั้นอยากจะเดินไปตบกระบาลไอ้เด็กจอมโอหังนี่เสียหน่อย หรือไม่ก็สั่งให้ลูกน้องจัดการมันเสีย เพราะตั้งแต่ที่เขาและมันได้ชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงกัน เขายังไม่เคยได้เห็นว่ามันจะเคยให้ความเคารพเขาในฐานะผู้ใหญ่สักที จนกระทั่งทนนิ่งเงียบอีกต่อไปไม่ไหว
"คืนตัวลูกสาวฉันมา แล้วฉันจะไม่มายุ่งกับแก"
"หลักฐานล่ะ"
พอฉัตราหันขวับมาทางพ่อเลี้ยง เอกสารในมือชายสูงวัยก็ถูกลูกน้องคนสนิทของเขารับไปส่งต่อให้กับคนถาม สายตาคมไล่อ่านมันไปทุกๆตัวอักษรจนกระจ่าง พลันเกิดอาการไหวระริกปรีติในอก แต่ถูกซ่อนไว้ไม่ให้ใครได้เห็น
"นี่คือผลตรวจดีเอ็นเอว่าหนูพิมเป็นลูกสาวของฉันจริงๆ ไม่ใช่เมียนงเมียน้อยอะไรอย่างที่แกกล่าวหา ฉันรู้ว่าต้องเป็นแกแน่ๆที่ให้คนมาจับตัวหนูพิมไปเพราะคิดว่าหนูพิมเป็นเมียน้อยฉัน มันไม่ผิดหรอกที่แกรักแม่และอยากจะทำเพื่อแม่ของแก แต่ลูกสาวฉันไม่รู้เรื่องด้วย เพราะฉะนั้นปล่อยตัวลูกสาวฉันมา"
"ฉัตรลูก แม่ขอบคุณลูกมากๆที่หวังดีกับแม่ แต่เป็นแม่เองที่เข้าใจผิดคิดว่าหนูพิมเป็นผู้หญิงของคุณลุง นี่ขนุนคงจะโทรมารายงานให้โหน่งรู้ แล้วโหน่งก็เอามาบอกกับลูก ทำให้ลูกเข้าใจผิดใช่ไหมลูก คืนตัวหนูพิมให้กับคุณลุงเสียเถอะนะฉัตร ถือว่าแม่ขอร้อง"
อรอุษาเข้ามากอดตัวลูกชายหน้าเศร้าและพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ดูเหมือนว่าเหตุผลที่ฉัตรานั้นยังไม่ยอมที่จะส่งตัวพริมาคืนให้กับบิดาเธอไปง่ายๆนั้นเกิดจากการที่เขาเริ่มรู้สึกว่าอยากจะหยุดรั้งเวลาเอาไว้อีกสักหน่อย อยากจะดึงยื้อทุกอย่างเอาไว้ให้นานกว่านี้
"ภายในอาทิตย์หน้า พริมาถึงจะถูกส่งตัวกลับไปที่บ้าน อย่างปลอดภัย"
"นี่แก แกหมายความว่าแกจับตัวหนูพิมลูกสาวของฉันไปจริงๆใช่ไหมไอ้ฉัตร แกรีบปล่อยตัวหนูพิมกลับมาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้เด็กเวร นี่แกเอาตัวลูกสาวฉันไปซ่อนไว้ที่ไหน เฮ้ย พวกแก ออกไปตามหาลูกสาวของฉัน ค้นให้มันทั่วทั้งเกาะ!"
คนเป็นพ่อทันทีที่ได้รู้ชัดแล้วว่าคนที่มันบังอาจกล้ามาแหมเอาตัวลูกสาวตัวเองไปก็ถึงกับเดือด ชายสูงวัยสั่งให้ลูกน้องตัวเองเร่งการค้นหาเสียจนเสียงดังลั่น ก่อนจะถูกผู้ที่เป็นเจ้าของเกาะหยุดการกระทำเหล่านั้นเอาไว้
"หยุด! ใครกล้าค้น กูยิงไอ้แก่นี่"
ปืนพกถูกควักออกมาจากเอว ก่อนจะพุ่งเล็งไปยังผู้สั่งการแน่วแน่ ส่วนอรอุษาพอเห็นว่าเหตุการณ์ดูจะยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ก็ยิ่งตกใจหน้าซีดตัวสั่น
"ว้ายลูก ฉัตรวางปืนลงก่อนอย่าทำแบบนี้"
พริมายังคงนิ่งเงียบไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรใดๆในขณะที่ฉัตราจูงมือเธอเดินเข้ามาในบ้านและก่อนจะพาเดินเข้าในในห้องส่วนตัวซึ่งเป็นห้องนอนตัวเอง จากนั้นทันทีที่บานประตูถูกปิดลง เสียงลูกบิดหน้าประตูก็ถูกกดล็อก แล้วคนตัวใหญ่ก็ยกสองมือขึ้นมาจับใบหน้าเธอประครองเข้าหา แล้วจึงจัดการประกบริมฝีปากลงมาทันทีทั้งที่ฉัตรากำลังจูบเธออย่างหนักหน่วง หากแต่พริมากลับยังคงยืนนิ่งเฉยไร้ซึ่งการตอบสนอง ในขณะที่เขาจัดการเปิดปากแล้วส่งลิ้นร้ายของตัวเขาเองเข้าไปรุกรานภายในปาก หากแต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้พริมาคล้อยตามได้ ส่วนคนที่กำลังคลั่งจูบเธออยู่ พอเห็นว่าเธอยังคงนิ่งก็เริ่มเอะใจ "พิม เป็นอะไรหรือเปล่า""พี่ฉัตร คือว่าพิม.."จะให้เธอตอบออกมาได้ยังไงว่าที่เธอนิ่งไปเป็นเพราะว่ามีเรื่องค้างคาใจอยู่ แน่นอนว่าสายตาของผู้หญิงด้วยกันมอง มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าสายตาของผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่มองเธอและฉัตรานั้นมองมาด้วยสายตาแบบไหน พริมาไม่ได้อยากเก็บความสงสัยที่มันกำลังรบกวนจิตใจตัวเองเอาไว้แบบนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและฉัตรานั้น เขาให้อภิสิทธิ์เธอในการแสดงถึงความหึงหวงเขาได้เพียงใด"
หลังจากทุกอย่างเคลียร์ได้ ฉัตราก็พ่นลมหายใจออกจากปากมาเสียจนเฮือกใหญ่เมื่อทุกคนกลับไปกันหมดแล้วด้วยข้อตกลงและการขอร้องของอรอุษาที่ว่า ภายในอาทิตย์หน้าเขาจะต้องพาตัวพริมากลับไปส่งคืนให้ชยุตตามที่ตกลงไว้อย่างไม่มีข้อแม้ แถมก่อนไปชายสูงวัยก็ยังย้ำนักย้ำหนาว่าเขาห้ามแตะต้องหรือทำอะไรพริมาเด็ดขาด แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อยิ่งกว่าแตะต้องเขาก็ทำมาแล้วอาการหนักอกพากันกระหน่ำเข้ามาจนเเน่น ฉัตรายอมรับกับตัวเองว่านับจากวันนี้ไม่ว่าตอนนี้หรือว่าตอนไหนเขาก็ไม่อยากให้พริมาห่างกายเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาเริ่มเสพติดการมีเธออยู่ใกล้ๆ นอกจากเรื่องเซ็กส์ที่เข้ากันได้อย่างไม่มีที่ติแล้ว หัวใจของเขายังพะวงหาเธออยู่แทบจะทุกเวลา แล้วถ้าหากว่าอาทิตย์หน้าเขาจะต้องพาตัวเธอกลับไปคืนดังเดิม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องหาข้ออ้างอะไรมาเพื่อที่จะได้ดึงรั้งเธอเอาไว้ เขาอยากจะให้เธออยู่กับเขาที่นี่ และเขาคิดว่าเธอเองก็คงจะอยากอยู่กับเขาเช่นกัน พอคิดได้ก็เดินแทบวิ่งออกจากบ้านตรงไปหามอเตอร์ไซค์วิบากคู่ใจ ก่อนจะขับมันออกไปยังที่ที่มีเธออยู่"พี่ฉัตรกลับมาแล้ว พิมคิดถึงพี่จัง"พอเพียงแค่เขาโผล่หน้า คนที่ทำให้เขารี
ฉัตราไปแล้วและบอกให้เธอรอเขากลับมา หากว่าเคลียร์ธุระเสร็จลงเมื่อไหร่ เขาสัญญาว่าจะรีบกลับมาหาเธอและพาเธอกลับเข้าไปอยู่บ้านเขาด้วยกันพริมาไม่รู้ว่าความจริงแล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ เหตุผลที่แน่ชัดในการจับตัวเธอมาก็ยังดูเหมือนว่าจะคลุมเครือ แต่สิ่งเดียวที่มันกระจ่างชัดเจนในใจ คือการที่หัวใจดวงน้อยๆของเธอมันเริ่มเปิดรับผู้ชายคนนี้เข้ามา ต่อให้เขาจะเป็นนายหัวฉัตรา หรือเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาที่ชื่อพี่ฉัตร เธอก็คิดดีแล้วว่าอยากจะไปอยู่กับเขา หัวใจของเธอมันยินยอมที่จะให้เขาเข้ามาอยู่ภายในแล้ว หากว่าทุกอย่างไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องโกหก หากว่าทุกคำพูดนั้นฉัตราหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ เธอก็พร้อมที่จะโบยบินจากอ้อมกอดบิดามาอยู่กับเขา ขอเพียงแค่เขามีความรู้สึกที่มันตรงกันกับเธอเท่านั้นก่อนไปฉัตราเดินออกไปเอาข้าวของเสื้อผ้าอาหารและน้ำดื่มที่เขาโทรบอกให้ลูกน้องเตรียมเอามาแขวนไว้ให้ที่ตรงทางเข้าข้างบันไดตั้งแต่เช้าเข้ามาให้เธอ พริมาหยิบกล่องอาหารออกมาวางไว้แล้วจึงค่อยๆจัดการมันอย่างไม่รีรอ ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นเธอเก็ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลยแม้เเต่น้อย ทั้งๆที่ฉัตราถามแล้วแท้ๆว่านอกจากไวน์แดง
"ขอแตกใส่ปากพิมได้ไหม พี่อยากให้พิมกลืนน้ำพี่"เสียงแหบซ่ากระซิบแผ่วมาอยู่ข้างริมใบหู ทั้งที่มือก็ยังบีบนมของเธอไปด้วย หากแต่สะโพกและจังหวะการขยับซอยนั้นกลับผ่อนปรนลง"ถึงพี่ไม่ขอ พิมก็อยากทำแบบนั้นอยู่แล้ว พิมอยากลองชิมรสชาติพี่ฉัตรค่ะ เอามาสิคะ"หลังจากที่ฉัตราถอดถอนแก่นกายออกจากด้านหลัง พริมาก็นั่งคุกเข่าลงไปบนพื้นและหันหน้าอ้าปากรอ พอทันทีที่ฉัตรารูดส่งแก่นกายเข้าไป ริมฝีปากที่แดงบวมเจ่อจากการถูกจูบก็รีบดูดดึงและเลียตั้งแต่ส่วนหัว"อ้า พิม เสียวมาก พี่เสียวมากๆเลย"เสียงแหบทุ้มต่ำครางกระหึ่มออกมาไม่ขาดสาย ในขณะที่ท่อนลำกายถูกสาวน้อยแสนเซ็กซี่ทั้งดูดทั้งเลีย พริมาเลียมันตั้งแต่ส่วนหัวหยักบานนั้นช้าๆ แล้วอมรูดเข้าไปจนถึงโคน ลิ้นเล็กขยับเขี่ยรัวแล้วแหย่ละเลงรูตรงส่วนปลาย ส่วนมือข้างที่ว่างก็หยอกล้อกับเจ้าลูกบอลแฝดสลับกับเลีย พริมาทั้งดูดถี่บ้างช้าบ้าง สลับแรงและสลับเบา จนคนที่ยืนตัวเกร็งซี๊ดปากเงยหน้าหลับตาขึ้นฟ้านั้นต้องละมือที่ท้าวระเบียงด้านหลังเอาไว้ แล้วหันมาจับศรีษะทุยงามของเธอโยกเข้าโยกออกแล้วเด้งสะโพกสวนแทน"พิม ไหนบอกว่าบริสุทธิ์ไม่เคยมีแฟนมาก่อนไง แล้วที่ดูดเก่งขนาดนี้จะให้
"ขอร้องเถอะ นะ..นายช่วยหยุดก่อน ฉันเสียวจนแทบจะจับเอาไว้ไม่ไหวแล้ว"พริมาร้องขอเสียงอ่อนเมื่อเห็นว่าคนข้างล่างนั้นยังเมามัวกับการดูดกินกลีบดอกไม้งามของเธอ ฤทธิ์ของมันนั้นช่างเหลือร้ายเจ้าลิ้นแกร่งนั่น ยามใดที่เจ้าของมันกระดกสอดเข้าไปภายใน ยามนั้นเธอเองก็แทบเสร็จสม"พอก็ได้ งั้นเธอก็รีบปีนขึ้นไปไวๆ เพราะว่าตอนนี้ฉันแข็งอีกแล้ว"ทันทีที่ปีนกลับขึ้นมาถึงข้างบนได้ คนตัวใหญ่ก็รีบจัดการอุ้มเธอไปวางทิ้งลงบนเตียง จังหวะนี้ไม่ต้องมีใครรอช้า เพราะว่าความคั่งค้างของไฟสวาทจากข้างล่างเมื่อสักครู่ของต่างฝ่ายต่างก็ลุกโชน พอถูกอุ้มลงมาวางบนเตียงพริมาก็รีบอ้าขาออกอย่างรู้หน้าที่ แล้วสิ่งที่เฝ้ารอคอยก็มุดแทรกเข้ามา"อ่า เสียวชิบ""อ๊า ชอบจังเวลาที่นายใส่มันเข้ามา""งั้นเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะแช่มันเอาไว้ในตัวเธอทั้งคืนเลยดีไหม เงี่ยนอีกเมื่อไหร่ก็แค่ขยับ""นะ..นายอยากจะทำแบบนั้นจริงๆเหรอ หมายความว่าคืนนี้นายจะค้างที่นี่กับฉันใช่ไหม"สาวน้อยตาปรือด้วยความเสียว หากแต่ยังถามออกไปด้วยความสงสัย ส่วนคนที่เหมือนจะพูดแกล้งไปก็ได้แต่ยิ้มออกมาเพราะความไร้เดียงสาของเธอ'หลงเด็ก นี่มันใช่อาการหลงเด็กหรือเปล่าวะ เกิดมาอา
"ไหนบอกว่ายังไม่เคย ทำไมถึงได้โยกขี่ฉันคล่องเชียว""อ๊ะๆ ฉันจำในหนังมา พึ่งได้ลองทำก็ตอนนี้ มันเสียวจังเลย""เด็กน้อยใจแตก โดนเอาแค่ทีสองทีก็ติดใจใหญ่""นายทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ คราวนี้จะรับผิดชอบยังไง ถ้าเกิดว่าวันๆหนึ่งเกิดนายพาฉันไปส่งคุณป๋า แล้วถ้าเกิดว่าฉัน..คิดถึงนายขึ้นมา จะทำยังไง""แล้วใครบอกเธอกันล่ะว่าฉันจะเอาเธอกลับไปส่งคืนให้ไอ้แก่นั่น บอกแล้วไงว่าถ้าฉันพิสูจน์ได้ว่าเธอไม่บริสุทธิ์ เธอก็ต้องอยู่ที่นี่กับฉันต่อไป"พริมาหยุดโยกขยับถามกลับออกไปเสียงเบา น้ำเสียงเจือความน้อยใจปนเศร้า จนคนที่มองมาเองก็ใจเสียตามไปด้วย หากแต่ก็จำเป็นต้องทำปากแข็งใจแข็งเอาไว้"หมายความว่า จนถึงตอนนี้นายก็ยังไม่เชื่ออีกเหรอว่าฉันยังไม่เคยมีอะไรกับใคร"'ถ้าขืนว่าฉันบอกกับเธอไปว่าฉันรู้ตั้งแต่วินาทีแรกแล้วว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ มันก็จะไม่มีข้ออ้างที่ให้ฉันได้ใช้ดึงรั้งเธอให้อยู่ที่นี่ต่อ'"แล้วไง ที่เธอพยายามบอกฉันอยู่นี่ว่าเธอยังบริสุทธิ์ ก็เพราะหวังว่าจะให้ฉันปล่อยตัวเธอกลับไปอย่างนั้นเหรอ""เปล่าหรอก ฉันก็แค่อยากบอกว่านายคือผู้ชายคนแรกที่ได้ทำอะไรแบบนี้กับฉันต่างหาก"ราวกับทักสิ่งรอบตัวหยุดหมุนเม
พริมาถึงกับต้องแอ่นกระดกกายขึ้นและหลุดเสียงครางออกมาทันทีที่ปลายลิ้นร้อนสัมผัส โดยที่มันถูกกวาดลากขึ้นมาจากข้างล่างผ่านรอยแยกที่มีความเฉอะแฉะของหมู่มวลน้ำหวานที่เอ่อล้นทะลัก เพียงปลายลิ้นร้ายนั่นสัมผัสแตะขยี้ตุ่มเกสรกลางกาย มือขาวๆกับเล็บยาวๆนั้นก็จิกลงบนเส้นผมของผู้หวังดีทันที"อ๊า นาย""เสียวดีใช่ไหม"พริมารีบพยักหน้ารับแบบรัวๆจนผู้หวังดีได้ใจ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเสียวซ่านด้วยความทรมานแต่มีความสุข ใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ยิ่งมุดก้มลงไปใช้ลิ้นปาดเลียซ้ำ ทำเอาสะโพกงามที่คอยส่ายร่อนด้วยความซ่านเสียวนั้นต้องบิดหนี หากแต่ก็ถูกผู้หวังดีจับเอาไว้"ปลาตัวนั้นมันน่าจะว่ายเข้าไปลึกมากๆ เห็นทีว่าฉันคงต้องได้ใช้อะไรที่มันยาวกว่าลิ้นสอดควานเข้าไปหาตัวปลา เธออยากให้ฉันช่วยไหม""ช่วยฉัน นายช่วยฉันด้วย"พอบอกให้ช่วย เรียวขางามก็ยิ่งแบะอ้าออกกว้างขึ้น เผยให้เห็นกุหลาบงามสีชมพูสดที่ทั้งเต่งตูมและแสนเกลี้ยงเกลา ผู้หวังดีใช้นิ้วโป้งมือบีบขยี้ที่กลางปุ่มเกสรอีกสักน้อยแล้วจึงก้มลงไปดูดเลียอีกที จากนั้นจึงได้เงยหน้าขึ้นกลับขึ้นมาและถอยออกไปยืนขึ้นเพื่อถอดกางเกงบ็อกเซอร์ออกจนเห็นท่อนเอ็นสวยเต็มไปด้วยเส้นเลือด
ร่างสองร่างเนื้อตัวบดเบียดแนบชิดเข้าหากัน มือของทั้งสองฝ่ายต่างเกาะกิ่งไม้เอาไว้กันคนละข้าง ส่วนข้างที่เหลือพริมาเลือกที่จะวางเอาไว้บนไหล่แกร่งนั่น ส่วนของคนเจ้าเล่ห์นั้นก็กำลังบีบคลึงลงมาบนที่โนมเนื้อของเต้าเธอ"อื้อ นี่นายเมาแล้วใช่ไหม ถึงได้คิดจะลวนลามฉันอีกแบบนี้"พอคนเจ้าเล่ห์ผละริมฝีปากออก พริมาก็เอ่ยปากถาม แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆที่ตัวเธอเองยอมปล่อยกายใจให้ผู้ชายแปลกหน้าได้กอดจูบตามอำเภอใจ แต่ลึกๆตัวเองก็แอบยอมรับไม่ได้ว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นและชอบมัน คนเจ้าเล่ห์จ้องมองเธอนิ่งและเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเธอดื้อๆ สองใบหน้าต่างเคล้าคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง สายตาคมที่ฝ่ายนั้นใช้มองมาบวกกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดขึ้นมาจากริมฝีปากช่วยปลุกปั่นความต้องการบางอย่างภายในใจเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนคละเจือไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ที่เป่ารดมาตรงหน้า สร้างความรู้สึกร้อนวูบวาบทั่วทั้งร่างกาย "ว่าไง นายคิดที่จะลวนลามฉันอีกหรือเปล่า"พริมาถามย้ำอีกครั้งราวกับต้องการจะตื้อ แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังอยากแกล้ง แต่ตัวเธอเองก็ต้องการคำตอบจึงได้ถามจี้"แล้วเธอ อยากให้ฉันทำไหมล่ะ""อ๊ะ"พอพูดจบ มือข้างที่บีบขย้ำเต้านมของเ
"โห สวยจัง"พอเดินเข้ามาถึงพริมาก็ตกตะลึงกับสิ่งของตกแต่งที่อยู่ภายในอย่างลืมตัว คนตัวเล็กเดินเข้าไปสำรวจอย่างช้าๆ ภายในนั้นถูกเจาะให้เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก มีเตียงนอนขาวสะอาดตั้งอยู่กึ่งกลางพอดี "ทำได้ยังไง ทำไมถึงได้มีเตียงนอนมาอยู่ในนี้ได้""ใช้ ฮอ ยกขึ้นมา"คนตัวใหญ่ตอบเธอมาหน้าตาเฉยอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่มือกำลังจุดเทียนที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะ แล้วจากนั้นขวดไวน์แดงก็ถูกหยิบออกมาจากที่ไหนสักแห่งตอนที่พริมากำลังชื่นชมบรรยากาศรอบๆ ถ้านั่งมองจากบนเตียงนอนหันหน้ามองออกไป วิวทิวทัศน์ข้างหน้าก็คือภาพท้องฟ้าสีส้มอร่ามงามตา เพราะว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน มันช่างงดงามและโรแมนติกกว่าทุกที่ที่เธอเคยได้เห็น"จะดื่มด้วยไหม"แก้วไวน์ถูกยื่นเข้ามาตรงหน้า แล้วพริมาก็ยื่นมือมารับมันไปกระดกดื่มรวดเดียวหมด สมองของเธอกำลังใช้ความคิดว่าตกลงแล้วผู้ชายคนที่จับตัวเธอมานี้คือใคร ทำไมถึงได้ดูมีอำนาจสั่งการให้คนไปจับตัวเธอมาได้ แถมดูที่ๆเขามาเธอมาตอนนี้สิ หากว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมาจะมีปัญญามาทำอะไรแบบนี้ได้"ตกลงว่านายเป็นใคร"คนตัวเล็กนั่งถือแก้วไวน์ไขว่ห้างอยู่บนเตียง ในขณะที่คนตัวใหญ่กำลังยืนมองวิ