'ฉัตรปล่อยให้แม่ได้อยู่ที่นี่กับลุงชยุตต่อเถอะ ไหนๆก็อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้แล้ว แม่ก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่เห็นหน้าเขาไปได้อีกนานสักแค่ไหน สามสิบปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีผู้หญิงมากมายไม่เคยซ้ำหน้า แต่อย่างน้อยเขาก็ยังรักษาสัญญาได้ว่าจะไม่พาผู้หญิงหน้าไหนเข้าบ้านมาให้แม่ต้องปวดใจ'
คำพูดของมารดาในวันที่เขาเข้าไปรับและบอกกับเธอว่าจะมาพาเธออกไปจากที่นี่นั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัว ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามารดาจะไม่เคยเลี้ยงดู แต่เขาก็รู้เสมอว่าการที่มารดาจำต้องยอมอดทนอยู่กินกับนายชยุตนั้นแลกมากับอะไร
เงินทองทุกบาทล้วนแลกมาจากการที่มารดาต้องทนเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายความรู้สึกจากผู้ชายคนนั้น และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่เขาพยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อที่จะได้มีทุกอย่าง เพื่อที่จะได้สามารถช่วยให้มารดาได้หลุดพ้นออกมา หากแต่ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันอาจจะใช้เวลานานเกินไป เพราะในวันที่เขานั้นมีมากพอ แต่มารดากลับยังเลือกที่จะอยู่ที่นั่นต่อเพราะไม่กล้าปล่อยตาแก่นั่นทิ้งไว้
ที่ผ่านมาเขาอาจจะยอมทนทำเป็นหลับหูหลับตาไม่ยื่นมือตีนเข้าไปยุ่งได้ แต่คราวนี้ถึงขนาดว่าพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมารดาเขาถึงในบ้าน มีหรือที่เขาจะยอมยืนดูอยู่เฉยๆ นายหัวฉัตรา แห่งเกาะเหมือนมุก ในวันนี้มีทั้งเงินทองและอำนาจ แค่การที่เขาต้องการจะปกป้องความรู้สึกของมารดา มีหรือเรื่องแค่นี้ที่เขาจะทำไม่ได้
'นายหัวครับ นายชยุตมันพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน ขนุนหลานผมมันโทรมาบอกผมเมื่อเช้าว่าคุณอุษาร้องไห้ทุกวันเลยครับ'
พอได้ข่าวว่ามารดานั้นถูกทำร้ายจิตใจจากชายผู้นั้น ความโกรธเกลียดก็แล่นตรงเข้าหน้าอก หลายครั้งหลายคราผ่านมา ที่เขาถูกมารดาขอร้องให้นิ่งเฉยเสียเขาก็พอจะยอมมันได้ แต่คราวนี้มันคงไม่มีทางที่เขาจะทนดูอยู่เงียบๆ แม้ว่ามารดาจะไม่ได้เคยเอ่ยปากขอ แต่ด้วยความที่เขาเป็นลูก จึงได้รีบสั่งการส่งลูกน้องไปตามสืบดู และมันก็เป็นจริงอย่างที่ได้รับรู้ว่า ในบ้านหลังนั้น ตาแก่ชยุตนั่นได้พาเด็กสาวเข้าไปอยู่ร่วมชายคาด้วยจริง
รูปถ่ายเป็นจำนวนสิบๆใบที่อยู่ในมือถูกฉีกขย้ำจนไม่มีชิ้นดี ภาพของชายแก่ที่อายุย่างเข้าไปเจ็ดสิบปีกับเด็กสาวอายุรุ่นราวน่าจะสักยี่สิบต้นๆเดินกอดกันกระหนุงกระหนิงตามห้างสรรพสินค้าว่อนเมือง พอได้เห็นรูปเหล่านั้นก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าสองคนนั้นมีสถานะใด
'อีหนูเด็กเสี่ย' ในที่สุดเขาก็ให้ลูกน้องไปแอบตามจับตัวมาได้ ดูเหมือนว่าไอ้ชยุตมันคงจะหลงเด็กนี่มาก ถึงขนาดว่าให้พวกบอดี้การ์ดเดินตามกันเป็นพรวนประกบ แต่ดูเหมือนว่าเด็กนี่คงจะโชคร้ายไปหน่อย เพราะดันมาถูกลูกน้องของเขาแอบจับตัวมาได้เสียก่อน
จากนั้นก็นำตัวขึ้นเรือมาส่งที่เกาะเหมือนมุกตามคำบัญชา และเขานี่แหละที่จะเป็นคนลงทัณฑ์ผู้หญิงที่คิดหวังสบายอยากรวยทางลัด โดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าที่ตรงนั้นมันมีคนอื่นยืนเป็นเจ้าของอยู่หรือเปล่า
"หน้าตาก็สะสวย แต่ดันไม่มีสมอง ยอมขายตัวขายศักดิ์ศรี ยอมเป็นอีหนูให้ไอ้เสี่ยแก่ๆเลี้ยง เพื่อที่จะได้มีตังค์ใช้ ค่านิยมผู้หญิงสมัยนี้มันช่างน่าสมเพชจริงๆเลยว่ะ"
"พูดบ้าอะไรของแก อีนงอีหนูที่ไหนฉันไม่รู้เรื่อง แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้คนชั่ว คนสารเลว ฉันจะกลับบ้านไปหาคุณป๋า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะปล่อยฉัน!"
"โธ่โว้ยเงียบ! บอกให้เงียบ! ทำไม หรือว่าคิดถึงผัวแก่เสียจนตัวสั่น แต่บอกไว้ก่อนว่าต่อให้เธอแหกปากร้องคอแทบแตกไอ้แก่นั่นก็ไม่มีวันหาเธอเจอหรอก"
"ผัวก่งผัวแก่บ้าบออะไรของแก แล้วนี่แกจับฉันมาขังเอาไว้ที่ไหน แล้วทำไมคุณป๋าถึงจะหาฉันไม่เจอด้วย แกรู้หรือเปล่าว่าคุณป๋าฉันน่ะทั้งกว้างขวางและมีอำนาจมาก คอยดูเถอะ ถ้าคุณป๋าตามหาฉันเจอ แกไม่มีทางรอดแน่!"
พริมาเหลืออดกับชายแปลกหน้าตรงหน้าจนเลือดพลุ่งพล่าน ขอร้องก็แล้ว อ้อนวอนก็แล้ว แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอนั้นพยายามต่อรองเจรจาเลย นาทีนี้ต่อให้ถูกเอามีดมาจ่อที่คอ เธอก็จะขอด่าทอให้มันสาสมกับในสิ่งที่ถูกกระทำ
"คิดจริงๆเหรอว่าไอ้แกนั่นจะตามมาช่วยเธอได้ ระหว่างฉันกับมัน เรามาลองดูกันไหมล่ะว่าอำนาจที่เธอพูดถึงนั้นใครจะมีมากกว่ากัน ถุ้ย!"
"กรี๊ด ไอ้คนสถุล แกมันทุเรศ งั้นถ้าอยากจับฉันโดยที่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าแกจับฉันมาทำไมล่ะก็ ช่วยจับฉันมัดไว้ให้แน่นๆเลยนะ ถ้าวันไหนแกปล่อยให้ฉันหนีรอดไปได้แล้วล่ะก็ฉันจะเอาตำรวจมาลากคอแก อื้อ ปล่อย ฉันเจ็บนะ!"
หลังจากที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้พร่ำเพ้อต่อปากต่อคำอยู่เสียนานจนแสบแก้วหู นายหัวฉัตราก็ทนฟังต่อไปไม่ไหว เรือนร่างสูงใหญ่เดินย่างสามขุมเข้าไปหาแล้วจัดการบีบปากเล็กและสองแก้มนวลนั่นไว้อย่างแรงจนเจ้าของมันร้องออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตวาดดังๆข้างหูจนต้องเอี้ยวตัวหนี
"หุบปากน่ารำคาญของเธอลงเดี๋ยวนี้ ถ้ายังอยากเก็บปากเอาไว้กินข้าว บอกไว้ก่อนว่าฉันน่ะมันคนขี้หงุดหงิดง่าย ขืนเธอโวยวายแว้ดๆจนแสบแก้วหูแบบนี้อีกล่ะก็ ฉันอาจจะทำอะไรบ้าๆขึ้นมาก็ได้"
"นี่ แก นี่แกจะทำอะไร แกจะข่มขืนฉันเหรอ"
"ข่มขืน? มั่นใจตัวเองเกินไปหรือเปล่า เห็นหน้าหนวดเครารุงรังแบบนี้แต่ฉันก็เลือก ทั้งเน่าทั้งเละแบบเธอต่อให้แบฟรีฉันก็กระเดือกไม่ลง อยากจะอ้วกโว้ยรู้เอาไว้ด้วย!"
"กรี๊ด ไอ้บ้า ไอ้คนทุเรศ! เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มาฉันยังไม่เคยเจอผู้ชายปากหมาแบบแกมาก่อนเลย"
"งั้นต่อจากนี้เธอก็เตรียมใจเอาไว้ได้เลย เพราะมันยังมีให้ฟังอีกเยอะสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ"
"อ๊าๆ พี่ฉัตรขา อ๊า แรงอีกค่ะ เอาพิมแรงๆ"เสียงพริมาครางกระเส่าออกมาจนแทบไม่ได้ศัพท์ เมื่อเวลานี้แก่นกายของฉัตรากำลังขยับซอยเข้าออกจากร่องหลืบกลางกายของเธออย่างร้อนแรง สามชั่วโมงมาแล้วที่เพลิงพิศวาสนี้ยังคงดำเนินต่อไม่หยุด หลังจากที่เคลียร์จบปัญหากับว่าที่พ่อตาจบได้ อรอุษาก็บอกให้พริมาและฉัตราพากันขึ้นไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าหลังจากเดินทางมาถึงเหนื่อยๆ แต่พอพริมาพาคุณว่าที่สามีก้าวผ่านเข้าประตูห้องนอนเธอมาเท่านั้น ฉัตราก็กดล็อกประตูแล้วอุ้มเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน "พี่ฉัตร ทำอะไรคะ""แม่พี่บอกให้เราไปอาบน้ำไง นี่พี่ก็กำลังจะพาพิมเข้าไปอาบน้ำ""แล้วทำไมถึงจะต้องอุ้มพิมไปด้วยล่ะคะ พิมเดินเองได้ค่ะ ห้องน้ำอยู่ตรงแค่นี้เอง""ก็ตอนนี้พ่อพิมอนุญาตให้เราแต่งงานกันแล้ว พี่ก็เลยกะ..ว่าจะลองพาพิมทดลองเข้าหอกันหน่อย""อีกแล้วเหรอคะ""อีกแล้ว? คืออะไร นี่อย่าบอกนะว่าพิมเบื่อพี่แล้ว""ใครว่าล่ะคะ พิมก็แค่กลัวว่าถ้าให้พี่ฉัตรบ่อยเกินไป แล้วพี่ฉัตรต่างหากที่จะเป็นคนเบื่อพิม""งั้นลองมาดูกันนะว่านานแค่ไหนกว่าวันนั้นจะมาถึง เผลอๆพี่ว่า ต่อให้พี่เอาพิมวันละสามรอบ พิมก็คงก็รอจนแก่หงำเหงือก รอจนเอ็นพี่ไร้สมรร
ชยุตนั่งทรุดตัวลงกับโซฟาแล้วยกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ ภาพของกมลา หญิงสาวที่หลงรักเขามาตั้งแต่สมัยหนุ่มนั่งทรุดตัวลงร้องไห้กับพื้นในวันที่ได้รับรู้ความจริงว่าที่เขาแต่งงานกับเธอก็เพียงเพราะว่าหวังในทรัพย์สมบัติ เพื่อเอาไปช่วยคนรักเก่า หาได้มีใจรักเธอไม่ นับตั้งแต่วันนั้นกมลาที่เคยสดใสก็เอาแต่กักขังตัวเองไว้อยู่ในห้องนอน กมลาพาลเกลียดพริมา ลูกสาวตัวน้อยที่เกิดมาเป็นสักขีพยานในความโง่เขลาของเธอ วันๆเอาแต่เก็บตัวเองร้องไห้ คนในที่สุดเธอก็จากไป ทิ้งบาดแผลและความรู้สึกผิดไว้ติดอยู่ในใจเขาจนถึงทุกวันนี้'พี่ชยุต ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ กมลาก็จะไม่มีวันยกโทษให้อภัยพี่ พี่หลอกกมลา หวังเอาทรัพย์สมบัติของกมลาไปช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่น กมลาไม่มีทางยอมเด็ดขาด สมบัติของกมลาจะต้องเป็นของพริมาลูกสาวกมลาเท่านั้น ห้ามพี่มีลูกกับใครใหม่แล้วเอาสมบัติของกมลาไปเสวยสุขกับมัน รับปากกมลาสิถ้าพี่รู้สึกผิดจริงๆ'คำพูดสุดท้ายยังดังกึกก้องอยู่ในหัวแทบทุกจะประโยค ความรู้สึกผิดกัดกินในใจอยู่ชั่วทุกคืนวัน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าถึงแม้เขาจะรักอรอุษาเพียงใด แต่เขาก็รับปากกมลาเอาไว้ก่อนตาย ว่าจะมีพริมาป็นลูกแค่คนเดีย
ในที่สุดวันที่ฉัตราไม่อยากให้ถึงก็มาถึงจนได้ เรือสปีดโบ๊ทที่เขาเป็นคนขับพาตัวเองและคนตัวเล็กกลับเข้ามายังฝั่งเพียงแค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีได้ถูกจอดไว้ที่ท่าเรือส่วนตัวของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลานั้นแสดงออกถึงความเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพาพริมาก้าวขึ้นฝั่งมาบนบก แถมยังถอนหายใจออกมาเสียจนเสียงดัง ทำเอาพริมาถึงกับต้องคอยจับมือของคนตัวใหญ่มากุมเอาไว้และพูดให้กำลังใจไม่ห่าง"พี่ฉัตร พิมเป็นกำลังใจให้นะคะ"แล้วจากนั้นประตูรถตู้คันหรูสีดำก็ถูกเปิดออกเพื่อให้เธอและเขาขึ้นไปนั่ง ระหว่างนั้นทั้งสองคนยังคงนั่งกอดกันเอาไว้ตลอด ที่วันนี้ฉัตราเลือกที่จะให้ลูกน้องเป็นคนขับรถมาก็เป็นเพราะว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงที่จะจับพวกมาลัยขับมาเลยต่างหาก ไม่รู้จริงๆว่าสถานการณ์ที่จะต้องเจอจะเป็นยังไง การที่ต้องเขาไปพูดคุยกับผู้ชายสารเลว คนที่ทำให้แม่ของเขาเสียใจมาเป็นเวลายี่สิบสามสิบปี เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้เปลี่ยนจากสถานะพ่อเลี้ยงมาเป็นพ่อตานั้นมันทำใจง่ายเสียที่ไหน ความโกรธเกลียดแค้นที่สั่งสมมา แต่ไม่สามารถทำอะไรตาแก่นั่นได้เนื่องจากว่าถูกมารดาขอร้องนั่นก็ยังพอที่จะยอมทน แต่เวลานี้กลับกลายเป็นว่าตัวเองต้องมากลายเป็
"คิดเหรอว่านายหัวจะเอาเธอจริงๆ ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งหลายปี เห็นนายหัวเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในเสียอีก อย่าสำคัญตัวผิดแล้วก็หวังอะไรลมๆแล้งๆเข้าล่ะ ฉันขอเตือน"จังหวะที่เดินยกจานที่ทานเสร็จแล้วเข้ามาช่วยเก็บในอ่างในครัว แล้วฉัตราเองก็ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก พริมาก็ได้เผชิญหน้าเข้ากับผู้หวังดีแบบเต็มๆ ฝ่ายนั้นยืนกอดอกพิงตัวเองกับตู้เย็น แล้วยืนมองมาที่เธอด้วยสายตาสุดเหยียด หากแต่พริมาก็ไม่ได้นึกแยแส แล้วตอบกลับผู้หวังดีไปแบบเจ็บๆ"งั้นฉันก็คงต้องขอขอบใจเธอมากเลยนะที่อุตส่าห์เสียสละเวลามาเตือนฉัน เพราะว่าถึงแม้ว่าพี่ฉัตรจะไม่เอาฉันจริงๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ลองกินแล้วว่าผู้ชายคนนี้แซ่บมากแค่ไหน ว่าเเต่เธอเถอะ อุตส่าห์เฝ้าพี่ฉัตรมาตั้งหลายปี เคยได้ลองดูบ้างสักทีหรือเปล่า หรือว่าให้พี่ฉัตรลองแล้ว แต่ว่าเธอมันไม่อร่อย เขาก็เลยต้องคอยเปลี่ยนรสชาติบ่อยๆจนได้มาเจอฉัน""อีบ้า อย่ามามั่นหน้ามากไปหน่อยเลย วันไหนถูกนายหัวถีบหัวส่งขึ้นมาฉันจะหัวเราะเยาะแกให้ดังไปสามบ้านแปดบ้าน""งั้นก็ค่อยรอเอาไว้ให้วันนั้นมันมาถึงก่อนก็แล้วกัน แต่ว่าวันนี้เขายังหลงฉันหัวปักหัวปำอยู่น่ะ ยังไงจานนี
พอกินเธอเสร็จ ฉัตราก็พาเธอเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นเขาทิ้งรอยจ้ำสีแดงไว้ตามจุดต่างๆบนร่างกายเสียจนทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งบริเวณกลีบบอบบางตรงกลางลำตัว ถึงว่าตอนที่ฉัตรามุดก้มลงไปเขาดูดมันเสียแรง ส่วนเธอเองก็เอาแต่มัวร้องครางเพราะความเสียวจนไม่ลืมหูลืมตาราวกับว่าส่งเสริมให้เขาทำมัน เป็นไงล่ะทีนี้ จะเดินออกไปกินข้าวยังไงทันทีที่บานประตูเปิดออก ที่หน้าห้องนั้นกลับมีหญิงสาวคนเดิมยืนแอบจิกตามองเธอด้วยสายตาที่ดูก็รู้ว่าต้องการจะประกาศศักดิ์ดา ก็เอาสิ ในเมื่อฉัตรายังคงกำมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซึ่งนั่นก็จะต้องรู้แล้วว่าระหว่างเธอกับแม่ลิ้นจี่นั่น ฉัตราจะเลือกที่จะหนุนหลังใคร"นายหัวขา ป้าตาให้ลิ้นจี่มาตามนายหัวไปทานข้าวเย็นค่ะ""อื้มขอบใจ วันนี้มีอะไรกินบ้าง""ก็เยอะเลยค่ะนายหัว มีแต่ของโปรดนายหัวเผ็ดๆทั้งนั้น ลิ้นจี่รู้ว่านายชอบอาหารรสจัด ก็เลยเตรียมพวกของหวานเอาไว้ให้ด้วย ไปดูสิคะ"หญิงสาวคนนั้นยังคงพูดไปยิ้มไป สายตาและท่าทางแสดงออกเต็มๆว่าต้องการทำให้คนตรงหน้าหลงใหลได้ปลื้มไปกับท่าทีนั้นของเธอ จนพริมาเห็นแล้วก็เกิดของขึ้นเผลอกัดฟันและจิกเล็บเสียแรงลงไปบนฝ่ามือใหญ่อย่า
พริมายังคงนิ่งเงียบไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรใดๆในขณะที่ฉัตราจูงมือเธอเดินเข้ามาในบ้านและก่อนจะพาเดินเข้าในในห้องส่วนตัวซึ่งเป็นห้องนอนตัวเอง จากนั้นทันทีที่บานประตูถูกปิดลง เสียงลูกบิดหน้าประตูก็ถูกกดล็อก แล้วคนตัวใหญ่ก็ยกสองมือขึ้นมาจับใบหน้าเธอประครองเข้าหา แล้วจึงจัดการประกบริมฝีปากลงมาทันทีทั้งที่ฉัตรากำลังจูบเธออย่างหนักหน่วง หากแต่พริมากลับยังคงยืนนิ่งเฉยไร้ซึ่งการตอบสนอง ในขณะที่เขาจัดการเปิดปากแล้วส่งลิ้นร้ายของตัวเขาเองเข้าไปรุกรานภายในปาก หากแต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้พริมาคล้อยตามได้ ส่วนคนที่กำลังคลั่งจูบเธออยู่ พอเห็นว่าเธอยังคงนิ่งก็เริ่มเอะใจ "พิม เป็นอะไรหรือเปล่า""พี่ฉัตร คือว่าพิม.."จะให้เธอตอบออกมาได้ยังไงว่าที่เธอนิ่งไปเป็นเพราะว่ามีเรื่องค้างคาใจอยู่ แน่นอนว่าสายตาของผู้หญิงด้วยกันมอง มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าสายตาของผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่มองเธอและฉัตรานั้นมองมาด้วยสายตาแบบไหน พริมาไม่ได้อยากเก็บความสงสัยที่มันกำลังรบกวนจิตใจตัวเองเอาไว้แบบนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและฉัตรานั้น เขาให้อภิสิทธิ์เธอในการแสดงถึงความหึงหวงเขาได้เพียงใด"