แชร์

บทที่ 1 ปานประดับ

ผู้เขียน: DILEMMA 28
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-21 14:10:43

ปานประดับเป็นเพียงหญิงสาวหาเช้ากินค่ำคนหนึ่งในเมืองหลวงแห่งนี้ ชีวิตของเธอลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด ไม่เคยได้สัมผัสกับคำว่าสบาย เพราะทำงานคนเดียวพร้อมกับดูแลแม่ที่ป่วยหนักติดเตียงมาหลายปี แม้ว่าจะอยากทำงานประจำมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึก หนึ่ง…เพราะเธอต้องคอยดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียง สอง…คงไม่มีงานประจำใจดีที่ไหนให้เธอลากะทันหัน แม้อายุจะล่วงเลยมาจนถึง 22 ปี ความใฝ่ฝันที่จะทำงานประจำเป็นหลักแหล่งก็ค่อย ๆ มอดดับไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเธอยังรู้ตัวเองดีว่าไม่มีคุณสมบัตินั้น เพราะเธอจบเพียงม.ปลาย

เธอเติบโตมาจากก้นครัวของเจ้าของโต๊ะจีนแห่งหนึ่ง ช่วยแม่หั่นผักมาตั้งแต่เด็ก แม่ของเธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พยายามเลี้ยงเด็กหญิงคนหนึ่งให้เติบโตมาอย่างดี แม้จะไม่มีกำลังทรัพย์มาก แต่ก็ไม่เคยต้องทนท้องกิ่วเพราะความหิวโหย การเติบโตมาจากก้นครัวอย่างน้อยสองแม่ลูกก็มีข้าวกิน

เฮียป.โต๊ะจีนก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ จาก 30 โต๊ะขยายเป็น 50-200 โต๊ะในปัจจุบัน แม้ว่างานจะหนักแต่ก็ประทังชีวิตในแต่ละวันไปได้ ปานประดับชอบชีวิตตอนปิดเทอมมากที่สุดเพราะได้ค่าจ้างตั้งวันละ 50 บาท เด็กประถมไม่รู้ความทำงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็นกลับได้ค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด

แต่สำหรับปานประดับหากได้ทำ 10 วันเธอก็จะมีเงินมากถึง 500 บาท ปิดเทอมตั้งเกือบ 2 เดือน อย่างน้อยเธอก็มีเงินหลักพัน ค่าเทอม ๆ นี้เธอสามารถจ่ายได้เอง รวมถึงค่าอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ อีกอย่างลูกเฮียป.เองก็อายุไล่เลี่ยกันกับเธอ เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่สาวอีกคนของปานประดับ รองเท้า กระโปรงแม้จะผ่านการใช้งานแต่เพราะผ่านการซักและดูแลอย่างดีจึงยังพอใช้งานไปได้อีกหลายปี

ปานประดับเติบโตมากับก้นครัวจวบจนจบม.6 แม่ของเธอก็ล้มป่วยติดเตียง ตอนนั้นปานประดับในวัย 18 ปีเหมือนถูกแช่แข็ง อีกทั้งแม่ของเธอไม่ยอมไปหาหมอตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะกลัวว่าการเจ็บป่วยของตัวเองจะทำให้ลูกสาวเป็นห่วง และกลัวว่าเงินจะหมดไปกับการรักษา ทำได้เพียงซื้อยาจากร้านขายยาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น พอนานวันเข้ายาพวกนั้นก็ไม่สามารถบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้อีกต่อไปจนอาการทรุดหนักมากขึ้นจนถึงขั้นเป็นลมหมดสติไประหว่างการทำงาน ในตอนนั้นแม่ของเธอจึงจำใจเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

และแล้วสิ่งที่ปานประดับหวาดกลัวมาตลอดก็เป็นจริง…

แม้จะมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคแต่ก็ต้องมีค่าเดินทาง แม่ของเธอทำงานหนักหลายปีเพื่อเลี้ยงลูกสาวอย่างเธอเพียงลำพัง แม้ว่าอยากจะร้องไห้มากแค่ไหน แต่ปานประดับก็ไม่กล้าร้องออกมา

และกลัวเหลือเกินว่าไม้ใหญ่ต้นนี้ที่คอยให้ร่มเงากำลังจะโรยราและไม่มีวันหวนกลับ

เงินที่เคยเก็บสะสมไว้วาดฝันว่าจะเข้ามหาลัยรัฐสักแห่งถูกพับเก็บลงไปใส่ลิ้นชักปิดตาย ปานประดับรักเรียนแต่ทว่าเหมือนจังหวะชีวิตไม่เป็นใจ หากเธอเอาแต่ร่ำเรียนแล้วใครจะหาเงิน ใครจะดูแลแม่ ต่อให้ได้ทุนการศึกษาแต่ก็คงไม่สามารถเผื่อแผ่ไปถึงแม่ของเธอได้ เพราะสถานการณ์บังคับเลยผลักให้เด็กสาวต้องกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัว ดีที่ธุรกิจโต๊ะจีนยังพอไปได้แม้จะซบเซาไม่ได้อู้ฟู่เหมือนอย่างสมัยที่เธอเป็นเด็ก ช่วงที่เงียบก็ไปรับจ้างเสิร์ฟตามร้านอาหาร คลับ บาร์ แล้วแต่สถานการณ์จะพาไป ปานประดับไม่เกี่ยงงาน ล้างจานค่อนวัน 300 บาทเธอก็ทำมาแล้ว แต่ที่เธอชอบทำร้านอาหารหรือโต๊ะจีนเพราะมีข้าวให้กินหนึ่งมื้อ รวมไปถึงบางวันสามารถห่อกลับได้ด้วย แม้จะเป็นของเหลือก็ตาม

ชีวิตของปานประดับทำงานหัวหมุนแบบนี้อยู่ 3 ปีจวบจนร่างกายเริ่มแตกสาว โครงหน้าสรีระแม้ไม่แต่งแต้มเครื่องสำอางก็ยังคงน่ามอง ปานประดับไม่ใช่คนแต่งตัว ตามร้านอาหารพอจะมีคนรู้จักอยู่บ้าง ใครขาด ใครลา ปานประดับก็จะเป็นตัวสำรอง เพราะเธอไม่ได้ทำประจำเป็นหลักแหล่ง กลางวันออกบูธไปกับคาราวานสินค้าผลิตภัณฑ์นั่นนี่ กลางคืนถ้าว่างก็จะไปรับจ้างเสิร์ฟตามคลับบาร์บ้าง แต่เพราะเสียงดังและไม่พ้นการถูกแตะเนื้อต้องตัว ได้อย่างเสียอย่างแต่กลับเป็นงานที่ได้เงินมากที่สุด แม้ว่าเจ้าของร้านจะเอ่ยปากให้เธอทำประจำอยู่ที่นี่อย่างเนือง ๆ อยู่ก็ตาม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]   บทที่ 42 ตอนพิเศษ ปานประดับ x จิรัติกร 3

    “แล้วเราขอพี่หรือยัง” จินส่ายหน้า“แต่จินเป็นน้อง” จิรภีมม์แฝดน้องว่าพลางชี้นิ้วชี้เข้าหาตัว สามขวบแต่ช่างเจรจาและไม่ยอมเสียเปรียบใครหน้าไหนทั้งนั้น นายท่านจริญนั่งยอง ๆ พลางจ้องเข้าไปในดวงตาเด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงปกติ“จินเราเป็นน้องก็จริง แต่พี่เขาไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องยอมเราตลอดเวลาเพราะว่าเราเป็นน้องหรอกนะ” นายท่านจริญว่าพลางชี้นิ้วไปยังจินตะ“ถ้าอยากเล่นก็ต้องขอพี่เขาก่อน ถ้าพี่เขาไม่อนุญาตเราต้องรอ เข้าใจไหมครับเด็กดีของปู่” จิรภีมม์กอดอกพลางหันหลังให้ นายท่านจริญถอนหายใจพลางจับตัวเด็กน้อยให้หันหน้ามาประจันกันเหมือนเดิม“ขอโทษพี่เขา”“ไม่ จินไม่ผิด”“ไม่ผิดก็ไม่ต้องเล่น จนกว่าเราจะสำนึกค่อยไปเล่นกับพี่เขา” นายท่านจริญหันไปสั่งบรรพต “พาเด็กทั้งสองคนไปเล่นฝั่งโน้นก่อนไป”“ครับ” บรรพตรับคำ ก่อนจะพาเด็กทั้งสองไปเล่นอีกทาง“ถ้าจินว่าจินไม่ผิดก็ยืนอยู่กับปู่ที่นี่แหละ ปู่มีเวลาให้จินสำนึกผิดอีกนาน” นายท่านจริญว่าพลางยืนถือไม้เท้ายืนขึ้น รอให้หลานน้อยมีท่าทีสงบ พอได้ยินเสียงพี่ ๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานก็อยากจะไปเล่นด้วยบ้าง จิรภีมม์ยืนอยู่อย่างนั้นสักครู่ก่อนจะจับขากางเกงคุณปู่เขย่ายิก

  • จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]   บทที่ 42 ตอนพิเศษ ปานประดับ x จิรัติกร 2

    “ขอบคุณนะครับคุณปู่”“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”“แล้วแกจะมีข้ออ้างอะไรอีก อายุอานามเท่าไหร่แล้วเพิ่งจะมีลูกคนเดียว”“มีน้อยแต่โตมาอย่างมีคุณภาพ” เจอคำตอบนี้ไปจริญถึงกับจุกไปไม่ถูก ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเฉไฉ“ระบบกงสียังอยู่ ใครมีลูกเล็กเด็กแดงฉันจะส่งเสียจนกว่าจะเรียนจนพอใจ” ก่อนจะเชิดหน้า“ข้าวของเครื่องใช้ก็เบิกกับบริษัท รวมทั้งค่าใช้จ่ายรายเดือน รวมถึงพี่เลี้ยงพอใจหรือยัง?”“อ่า…ผมขอคิดดูก่อนละกันครับ” นายท่านจริญกัดฟันกรอด จิรัติกรเคาะหน้าปัดนาฬิกาบอกความนัย“อาทิตย์ละวัน ตามนี้นะครับ”“แก!”“ก็ต้องดูพฤติกรรมคุณปู่ประกอบว่าพูดจริงทำจริงหรือเปล่า อาจจะเพิ่มเป็นสองถึงสามวัน พาไปกินข้าวที่ห้างได้บ้างอะไรบ้าง”“บรรพต! จัดการให้เรียบร้อยและเร็วที่สุด”“ได้ครับ!”คล้อยหลังปานประดับที่เดินกอดแขนสามีเอ่ยถามพลางทำสีหน้าเห็นใจ“ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ตาแก่นั่นต้องโดนซะบ้าง เธอก็เห็นผลลัพธ์ในการเลี้ยงลูกของเขาแล้วนี่”“จะว่าไปก็น่าเศร้านะคะ ท่านเลยตั้งความหวังไว้กับจินตะเอาไว้มากเลยทีเดียว” ปานประดับลูบหัวลูกน้อยด้วยความเห็นใจ“แล้วใครใช้ให้เลี้ยงลูกหลานแบบนั้นล่ะ” จิรัติกรตอบ

  • จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]   บทที่ 42 ตอนพิเศษ ปานประดับ x จิรัติกร 1

    “คุณจะไม่ลงไปเจอหน่อยเหรอคะ”“ไม่ล่ะ…ชั่วโมงเดียว”“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” ปานประดับอุ้มลูกน้อยแนบอกโดยมีบอดีการ์ดเดินตามเป็นพรวน ลงไปหาคุณปู่ด้านล่าง นายท่านจริญที่ดูแก่ชราแต่ยังคงเหลือมาดท่านเจ้าสัว ยังคงความน่าเกรงขามแม้จะนั่งรอที่ห้องรับแขกด้านล่าง แต่สีหน้าเก็บซ่อนความกระวนกระวายไม่มิดชะเง้อมองหาหลานน้อยไม่วางตา“เดี๋ยวก็มาครับ” บรรพตที่ตามมารับใช้เอ่ยเตือน “นั่นไงครับ มาแล้ว”“ไหน ๆ”“สวัสดีค่ะ” ปานประดับยกมือไหว้พร้อมกับอุ้มจินตะที่หันหน้าออก“ขอฉันอุ้มหน่อย” ปานประดับให้อุ้มแต่โดยดีเพราะสงสารคนแก่ตรงหน้า ว่ากันว่าปู่ย่าสมัยที่เป็นพ่อแม่มักจะเข้มงวดกับลูก แต่กับหลานจะสปอยนั้นเป็นความจริง นายท่านจริญอุ้มจินตะโยกไปมาอย่างมีความสุขก่อนจะโบกมือน้อย ๆ บรรพตที่ถือหูกระเป๋าพลาสติกสีดำดูมีน้ำหนักเลื่อนมาทางปานประดับ“อะไรคะ”“ของรับขวัญหลาน” นายท่านจริญพูดโดยไม่เงยหน้ามามองปานประดับ พูดอ้อมแอ้มในคอ“ฉันเตรียมไว้นานแล้ว”“ขอบคุณค่ะ”“ของหลานไม่ใช่ของเธอ”“ดิฉันทราบค่ะ ไหน ๆ ก็มาแล้วไปเล่นกันที่สวนด้านหลังดีไหมคะ อากาศเย็นกำลังดี”“เธอนำไปสิ”“ได้ค่ะ”สักพักก็มีเสียงโวยวายเมื่อนายท่านจริญ

  • จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]   บทที่ 42 ตอนพิเศษ ปานประดับ x จิรัติกร

    “ไอ้จิเมื่อไหร่แกจะเอาหลานมาให้ฉันอุ้ม” จิรัติกรยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะทำงานไม่สนใจเสียงก่นด่าของนายท่านจริญที่ดังลอดออกมาตามสาย แม้ว่าการให้กำเนิดทายาทของผู้บริหารยักษ์ใหญ่ JK1 GROUP ไม่ได้เป็นความลับแต่ก็ไม่เคยปรากฏบนสื่อที่ไหนมาก่อน อีกทั้งปานประดับเองก็อยากจะให้ลูกชายเติบโตมาอย่างอิสระ ไม่มีพันธะกับ JK1 GROUP ที่ต้องแบกภาระเอาไว้บนบ่าตั้งแต่ลืมตาดูโลกเพราะคำว่าทายาท เธอยากให้โอกาสลูกชายได้เลือกทางเดินเอง และเด็กชายจินตะเองก็ไม่เคยพบเจอญาติฝั่งเอกาฤกษ์ยกเว้นฝั่งแม่อย่างอารยาที่มาหา ช่วยเลี้ยงหลานอาทิตย์ละสามสี่วัน“นายท่านจริญมีหลานตั้งแต่เมื่อไหร่”“แก แกอยากเห็นฉันอกแตกตายใช่ไหม”“ก็แล้วแต่จะคิดครับ”“ฉันเป็นพ่อแก”“แล้ว?”“เมื่อไหร่แกจะยกโทษให้ฉัน”“แล้วต้องยกโทษให้ด้วยเหรอครับ”“ฉันสูญเสียลูกเต้าไปตั้งหลายคน ฉัน…ไม่อยากเสียแกไปอีกคน มีทางไหนที่พอจะให้ฉันแก้ไข แกบอกมาฉันจะทำ”“ขอคิดดูก่อนละกันนะครับ” จิรัติกรกดวางสายพร้อมกับเมินสายเรียกเข้าที่สั่นครืดคราดต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนต้องกดปิดสั่นแล้ววางไว้ในลิ้นชัก ปานประดับที่อุ้มลูกน้อยวัยหกเดือนที่กำลังฝึกน

  • จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]   บทที่ 41 ตอนพิเศษ ชัญญ่า x เชาวน์ชลิต 6

    “ไม่เคยได้ยินหรือคะ รักใครให้ดื่มนม นี่แหละค่ามัดจำของญ่า” เชาวน์ชลิตได้แต่เลยตามเลย เพราะเขาเองก็ยอมที่จะให้ชัญญ่ามัดมือชกในวิธีการของเธอเอง เอวบางเริ่มบดเบียดแนบชิดส่วนล่าง กระโปรงบางของชุดนอนที่เป็นปราการสุดท้ายปกปิดของสงวน ชัญญ่าเองก็ขุดหลุมรอเหยื่อเข้ามาติดกับอย่างแยบยลเช่นกัน พี่น้องคู่นี่แสบพอ ๆ กัน“ญ่า” เชาวน์ชลิตครางเสียงกระเส่าเมื่อกางเกงชุดนอนถูกถอดออกพร้อมกับส่วนชื้นแฉะที่ถูไถขึ้นลงหยอกล้อกับความเป็นชายให้ค่อย ๆ ผงาด“เป็นของญ่า แล้วญ่าจะไม่ทำให้พี่เชาวน์เสียใจ” คำนี้เขาเองต้องเป็นฝ่ายพูดไม่ใช่เหรอไง เชาวน์ชลิตที่กำลังจะอ้าปากแย้งริมฝีปากบางก็งับลงมาดูดดึงอย่างมันเขี้ยวเสียก่อน สายตาและท่าทางของชัญญ่าในตอนนี้เหมือนนางแมวยั่วสวาท ไม่เหลือเค้าชัญญ่าที่ขี้อายก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย“ญ่า เดี๋ยวจะเจ็บเอา” เมื่ออีกฝ่ายพยายามใช้ความเปียกปอนของเธอถูไถกับหัวบากนั้นช้า ๆ เหมือนจะเข้าแต่ก็ไม่เข้า เชาวน์ชลิตได้แต่ข่มความอึดอัดเอาไว้ไม่อยากจะกระแทกสวนขึ้นไปแรง ๆ เขาอยากจะทะนุถนอมคนตรงหน้าให้เหมาะสมกับที่ชัญญ่าคอยดูแลเขาเสมอมา ชัญญ่าก้มลงไปจูบตรงซอกคอไล่ลงมายังหน้าอกขาวที่เหมือนจะซูบผอมล

  • จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]   บทที่ 41 ตอนพิเศษ ชัญญ่า x เชาวน์ชลิต 5

    “ขอบคุณนะคะ” เชาวน์ชลิตที่หลังจากฟังคำตัดสินก็โล่งใจและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และความกะล่อนก็เริ่มมีให้เห็น“ญ่ารับคำขอบคุณไว้ก็ได้ค่ะ แต่ว่าพี่เชาวน์ต้องกลับไปนอนที่ห้องตัวเอง”“นี่คอนโดพี่”“งั้นญ่ากลับเอง” เรื่องอะไรเธอจะยอมให้เขากินฟรี แม้ว่าเธออยากจะกินเขาจนตัวสั่น ทำทีสงวนตัวเล็กน้อยแต่พองามย่อมเรียกคะแนนความน่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นเป็นกองข้อมือขาวถูกจับไว้หลวม ๆ พร้อมกับวางทาบไว้ที่หน้าอกซ้าย“พี่เพิ่งผ่านเหตุการณ์หน้าเสียวหน้าขวานมา ญ่านอนเป็นเพื่อนพี่ได้หรือเปล่า”“อ้อนวอนหรือคะ”“ใช่”“แล้วให้ญ่านอนในฐานะอะไร”“แล้วญ่าอยากได้ฐานะอะไรล่ะ” ชัญญ่าทำสีหน้าครุ่นคิด“ขอคิดดูก่อนละกัน”“อย่าคิดนานพี่แก่แล้ว”“เหอ ๆ ญ่าไม่ใช่ของตายนะคะ”“พี่ไม่เคยเห็นญ่าเป็นของตาย เพียงแต่เมื่อก่อน…” เชาวน์ชลิตหลุบตา“เราอายุห่างกันมากขนาดนั้น” ชัญญ่ายักไหล่“ก็จริง…อีกอย่างเด็กหนุ่มมหาลัยกับเด็กสาวม.ต้นก็ยังไง ๆ อยู่”“ไม่ใช่แค่นั้นหรอก อีกอย่างเรามีศักดิ์เป็นน้องไอ้จิด้วย เอาน้องเพื่อนเป็นแฟนก็ยังไงอยู่ ตอนนั้นพี่เองไม่มีความคิดจะหยุดที่ใคร”“เหรอคะ…ตอนนี้ล่ะ”“พี่ว่าตอนนี้ถูกที่ถูกเวลา และพี่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status