หลังจากที่กล่อมที่รักให้นอนหลับไปแล้ว ทั้งคู่ได้พากันไปนั่งหารือเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เพิ่งได้มาใหม่
“ป้าคะ มันไม่เป็นไรจริง ๆ หรือที่จะไม่ติดต่อบอกเจ้าของที่ดินคนเดิมว่าเราเจอของมีค่าแบบนี้”
สายส่ายหน้าพร้อมค้อนขวับให้หนึ่งที “เธอนี่กังวลอะไรไม่เข้าท่า”
“ป้าเชื่อว่าเจ้าของเดิมคงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน หรือแม้แต่พ่อของเขาซึ่งเป็นเจ้าของคนก่อนก็ไม่น่าจะรู้ ถ้ารู้คงบอกลูกเขาไปนานแล้วว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ข้างใน ป้าซื้อที่ดินนี้มายี่สิบปีก็ไม่เห็นมีใครมาตามหาตู้นี้สักคน ป้าถือว่านี่เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่เราควรจะได้”
เมื่อเห็นท่าทีที่ยังสับสนของวรรณารี สายก็ยิ้ม ๆ และพูดต่อ “ป้าจะบอกอะไรให้นะวรรณ วิธีที่เราจะอยู่ในสังคมนี้อย่างมีความสุข นอกจากไม่ไปรังแกใครแล้ว ต้องไม่เป็นคนดีจนเกินงามด้วย อะไรที่เป็นสิทธิ์และโอกาสของเรา เราก็ควรฉกฉวยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นอาจต้องมานั่งเสียดายเหมือนชีวิตของป้า” สายนิ่งไปสักระยะแล้วจึงพูดต่อ “แต่อะไรที่ไม่ใช่ของเราก็ควรปล่อยมือไป อย่าพยายามยื้อให้เหนื่อย”
“อีกอย่าง โชคครั้งนี้ถ้าจิ๊ดริดไม่เป็นคนบอก เราทั้งคู่ก็ไม่มีทางรู้ จิ๊ดริดไม่เคยชักพาสิ่งร้าย ๆ เข้ามาหาเราเลยไม่ใช่หรือ ที่แกบอกเราครั้งนี้แสดงว่าพวกเราเหมาะที่จะรับทรัพย์สินพวกนี้มาไว้ในมือจริง ๆ หลานของฉันเป็นนางฟ้ามาเกิดนะอย่าลืมสิ”
ตอนนี้สายเชื่อสุดหัวใจว่าที่รักคือนางฟ้าที่เกิดมาเพื่อช่วยแม่ เธอนึกย้อนถึงตอนที่ช่วยวรรณารีขึ้นจากน้ำในวันนั้น สายยังคงแปลกใจไม่หายเพราะตนเองไม่เคยมีโอกาสได้ไปแถวนั้นเลยสักครั้ง ไม่รู้มีอะไรดลใจที่ทำให้สายเปลี่ยนเส้นทางไปหาของเก่าแถวริมบึงจนเจอวรรณารี
แล้วอีกหลายเหตุการณ์ระยะหลังที่ที่รักช่วยแม่ของเธอในหลาย ๆ ทาง ทั้งให้เจอเงินในใบแจ้งหนี้ จูงมือแม่เดินไปเจอทองแดงถุงใหญ่หลายถุงที่หมกอยู่ข้างทางจนวรรณารีนำไปขายได้เงินหลักหมื่น ทำให้สายยิ่งปักใจว่าเธอคือนางฟ้าตัวจริง
แววตาวรรณารีอ่อนโยนขึ้นทันตาเมื่อนึกถึงลูก
“วรรณเข้าใจแล้วค่ะ ป้าอยากทำจะอะไรกับทรัพย์สินพวกนี้ แล้วจะให้วรรณช่วยอะไรก็บอกได้เลยนะคะ วรรณยินดีช่วยเต็มที่”
“เธอสัญญาแล้วนะ” สายยิ้มใส่ตาวรรณารี
“ถ้าอย่างนั้น ทองแท่งทั้งหมดฉันยกให้เธอ”
“ไม่เอาค่ะป้า” วรรณารีปฏิเสธเสียงหลง
“ไหนเธอสัญญาแล้วไงว่าจะตามใจฉัน”
วรรณารีเงียบกริบ
“ทองแท่งอยู่กับฉันก็ไม่มีประโยชน์หรอก คนแก่ที่มีโลงวางรออยู่หน้าประตูแบบฉันจะเก็บทรัพย์สินอะไรอีกเยอะแยะ ลำพังที่ดิน บ้าน และคอนโดที่ซื้อทิ้งไว้ตอนนี้ก็แทบจำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตรงไหนบ้าง สู้เอาให้เธอไว้เป็นทุนสำรองจะไม่ดีกว่าหรือ เธออายุยังน้อย แล้วอย่าลืมว่าหลานฉันก็เพิ่งจะย่างสามขวบ แกยังต้องใช้ชีวิตอีกยาวไกล มีทุนไว้เลี้ยงดูอุ้มชูให้แกมีชีวิตที่ดีที่สุดก็น่าจะคุ้มแล้วสำหรับทองคำพวกนี้”
“ส่วนเครื่องประดับทั้งหมดฉันยกให้จิ๊ดริด” สายยิ้มไปถึงหัวใจเมื่อพูดถึงหลาน “แกชอบของสวย ๆ งาม ๆ เอาไว้ให้แกแต่งตัวเมื่อโตขึ้น”
“ส่วนทองคำแผ่นพวกนี้...” สายหยิบทองคำแผ่นขึ้นมาพิจารณาใกล้ ๆ “ฉันรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก เก็บไว้ที่ฉันก่อน จะเอาไปดูว่าพอจะขายได้ที่ไหน หากขายได้แล้วเรามาแบ่งกันคนละครึ่ง”
ในวันต่อมา พวกเธอได้กลับไปยังบ้านไม้ซุงหลังนั้นอีกครั้งเพื่อจุดธูปเทียนบอกกล่าวและขออนุญาตเจ้าของเดิมเพื่อขนย้ายทรัพย์สินและนำไปใช้ประโยชน์ ทำให้วรรณารีรู้สึกสบายใจและมีความกล้าที่จะจัดการทรัพย์สินในมือมากขึ้น
ทางด้านสายนั้นได้นำแผ่นทองที่ดูเหมือนจะคุ้นตาเป็นอย่างมากมาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแล้วได้ความว่าทองเหล่านี้เป็นทองแผ่นโบราณที่พ่อค้าชาวต่างชาตินำมาใช้แทนเงินเพื่อจ่ายค่าสินค้าในช่วงสองร้อยกว่าปีก่อน
ทองเหล่านี้เป็นทอง 99.99 ทั้งหมด แล้วที่สำคัญ ทางประเทศต้นกำเนิดได้ประกาศรับซื้อคืนในราคาสูงถึงห้าเท่าของราคาทองในตลาดเพราะถือเป็นวัตถุโบราณล้ำค่า เพื่อจะนำไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์เป็นสมบัติชาติต่อไป
เมื่อรู้ที่มาที่ไป สายก็ไม่รอช้าที่จะติดต่อไปยังสถานทูตของประเทศนั้น ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นานในการพิสูจน์แผ่นทองทั้งหมด ทางประเทศต้นทางได้ขอรับซื้อคืนตีเป็นเงินสูงถึงสองร้อยล้านบาท ที่จริงสายต้องการเก็บแผ่นทองไว้เป็นที่ระลึกส่วนหนึ่ง แต่เมื่อนึกถึงใจเจ้าของ พวกเขาคงอยากได้กลับไปทั้งหมด ก็คล้ายประเทศเรายามเมื่อเห็นวัตถุโบราณตกไปอยู่ในมือของต่างชาติ เรายังต้องการให้กลับคืนมาเป็นสมบัติชาติ ฉันใดก็ฉันนั้น สายจึงตัดสินใจขายไปทั้งหมด
เมื่อมีเงินหนึ่งร้อยล้านบาทในมือ วรรณารีก็ไม่วิตกเรื่องขยายร้านอีกต่อไป เพราะไม่อยากให้เป็นที่จับตาของคนทั่วไปเรื่องที่เธอร่ำรวยผิดปกติ เธอจึงเลือกปล่อยข่าวว่าร้านที่ขยายเพิ่มนี้เป็นเงินกู้จากธนาคาร แม้แต่รถที่ใช้ขับอยู่เธอยังเลือกใช้รถมือสองแทน
“ป้าคะ สนใจขยายบ้านเพิ่มไหม วรรณจะทำให้” เมื่อหมดเรื่องยุ่งในร้านแล้ว วรรณารีหันมาปรึกษาสายเรื่องบ้านทันที
“วรรณคิดว่าบ้านนี้คับแคบไปแล้วหรือ”
“ไม่ค่ะป้า ลำพังเราสามคนอยู่บ้านนี้ยังกว้างไปเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าป้าอยากได้บ้านที่กว้างขึ้น สะดวกสบายขึ้น วรรณจะสร้างให้”
สายยิ้ม “ขอบใจนะ แต่ป้าว่าเราอยู่กับแบบเดิมแบบนี้ก็ดีแล้ว ใหญ่ไปก็โหรงเหรง แล้วจะเป็นเป้าสายตา เธอเองก็ทำแบบนี้ที่ร้านเหมือนกันไม่ใช่หรือ”
วรรณารียิ้ม
“เราทำตัวต่ำ ๆ เข้าไว้ดีกว่า ยิ่งต่ำมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นจุดสนใจน้อย จะได้ไม่อันตราย”
แต่ถึงจะพยายามทำตัวต่ำแค่ไหนก็ไม่วายเป็นที่จับตามองอย่างตื่นตะลึงอยู่ดี โดยเฉพาะสายตาที่พุ่งตรงมายังสาย ใครเลยจะคิดว่ายายแก่บ้าที่ไม่มีแม้แต่ที่อยู่ วัน ๆ เอาแต่เดินท่อก ๆ หาเก็บขยะอยู่ข้างทางจะกลายเป็นเจ้าของที่ดินนับสิบไร่ ไม่เท่านั้น เธอยังบ้าพอที่จะยกให้วรรณารีไปฟรี ๆ อีกตั้งหกไร่ ตอนนี้บรรดาชาวบ้านละแวกนี้ต่างพากันนั่งเจ็บใจตัวเองที่ไม่พยายามทำดีกับสายตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นอาจได้ที่ดินฟรี ๆ สักไร่ ครึ่งไร่ก็เป็นไปได้
เมื่อไปถึงที่ดินดังกล่าวก็เป็นอย่างที่พีรายุคาดไว้ พื้นที่แถบนี้เป็นบริเวณที่พัฒนาต่อได้ยากเพราะเป็นแถบสวนและไร่ของชาวบ้าน รวมถึงเป็นเขตที่นิยมค้าขายของเก่ากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน มีร้านค้าของเก่าอยู่ถึงสิบกว่าร้านบริเวณนี้ คงจะหานักธุรกิจเข้ามาพัฒนาที่ดินแถบนี้ให้เจริญได้ยากแต่ถึงกระนั้น พีรายุก็ตกลงที่จะซื้อไว้เพราะจินดาราอยากได้นักหนา โดยจะนัดโอนกันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า“จิ๊ดริดของเก่า” พีรายุพึมพำออกมาอย่างต้องมนต์สะกด“ชื่อแปลกจัง ดูตล๊กตลก ว่าไหมคะพี” จินดาราเบะปากให้กับร้านรับซื้อของเก่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างทางระหว่างนั่งรถกลับจากดูที่ดินพีรายุยังคงนิ่งเงียบ เขามองดูป้ายร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเหม่อลอย“วรรณ” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเสียงเบา“คุณว่าอะไรนะคะ” จินดาราเอียงหน้ามาถาม“วรรณ!” พีรายุตะโกนเสียงดังลั่นรถก่อนหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทางอย่างกะทันหัน และพยายามเปิดประตูรถเพื่อจะเดินข้ามไปอีกฝั่งให้ได้“คุณจะทำอะไรคะ!” จินดาราพยายามยื้อแขนชายหนุ่มเอาไว้ไม่ให้เขาเปิดประตูออกไปได้ ขณะที่สีหน้าของเธอเผยถ
ที่อาคารสำนักงานของบริษัทเทพสถิต บริษัทจัดหาวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นอาคารสูงสิบชั้น มีพนักงานกว่าสามร้อยคน แต่ส่วนมากกลับทำงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย แววตาแทบจะหาความสุขไม่ได้ แม้บริษัทนี้จะดูก้าวหน้ายิ่งกว่ารุ่นพ่อของเจ้าของบริษัท รวมถึงสวัสดิการและเงินเดือนที่สูงกว่าที่ทำงานอื่นก็ตาม“นี่เธอ คุณจินดาราอยากกินเค้กมะพร้าวของร้านมิวกี้ เธอไปซื้อมาหน่อย” ชยากร ผู้ช่วยฝ่ายจัดซื้อของบริษัทเดินมาเคาะนิ้วที่โต๊ะประชาสัมพันธ์และสั่งพนักงานประชาสัมพันธ์ที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าบริษัทเสียงแข็ง“แม่บ้านก็มี ไปให้พวกเธอซื้อสิคะ” ชไมพร หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“พวกแม่บ้านทั้งเล็บทั้งมือดำปี๋ จะให้ไปหยิบของกินของคุณจินได้ยังไง พวกเธอนั่นแหละออกไป ร้านอยู่เลยจากนี่แค่สองป้ายรถเมล์เอง ไม่ทันเหนื่อยหรอก”“มันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรานะคะ เรายังมีงานที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อนเลิกงาน” ชไมพรยังคงเสียงแข็งชยากรหรี่ตามองเธอ “เธอก็รู้ใช่ไหมว่าคุณจินดาราเป็นใคร แล้วคุณพีรายุรักเธอมากแค่ไหน พวกเธออยากถูกไล่ออกจากงานก่อนสี่โมงเย็น
หลังจากที่กล่อมที่รักให้นอนหลับไปแล้ว ทั้งคู่ได้พากันไปนั่งหารือเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เพิ่งได้มาใหม่“ป้าคะ มันไม่เป็นไรจริง ๆ หรือที่จะไม่ติดต่อบอกเจ้าของที่ดินคนเดิมว่าเราเจอของมีค่าแบบนี้”สายส่ายหน้าพร้อมค้อนขวับให้หนึ่งที “เธอนี่กังวลอะไรไม่เข้าท่า”“ป้าเชื่อว่าเจ้าของเดิมคงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน หรือแม้แต่พ่อของเขาซึ่งเป็นเจ้าของคนก่อนก็ไม่น่าจะรู้ ถ้ารู้คงบอกลูกเขาไปนานแล้วว่ามีสมบัติซ่อนอยู่ข้างใน ป้าซื้อที่ดินนี้มายี่สิบปีก็ไม่เห็นมีใครมาตามหาตู้นี้สักคน ป้าถือว่านี่เป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่เราควรจะได้”เมื่อเห็นท่าทีที่ยังสับสนของวรรณารี สายก็ยิ้ม ๆ และพูดต่อ “ป้าจะบอกอะไรให้นะวรรณ วิธีที่เราจะอยู่ในสังคมนี้อย่างมีความสุข นอกจากไม่ไปรังแกใครแล้ว ต้องไม่เป็นคนดีจนเกินงามด้วย อะไรที่เป็นสิทธิ์และโอกาสของเรา เราก็ควรฉกฉวยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นอาจต้องมานั่งเสียดายเหมือนชีวิตของป้า” สายนิ่งไปสักระยะแล้วจึงพูดต่อ “แต่อะไรที่ไม่ใช่ของเราก็ควรปล่อยมือไป อย่าพยายามยื้อให้เหนื่อย”“อีกอย่าง โชคครั้งนี้ถ้าจิ๊ดริดไม่เป็นคนบอก เราทั้งคู่ก็ไม
หลังจากวรรณารีง้างฝากล่องลึกลับนี้ขึ้นมา หญิงสาวก็เบิกตากว้างกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า หัวใจเต้นแรงราวกับจะกระโดดออกมานอกร่าง มือและเท้าเย็นเฉียบเหมือนกับไปแช่น้ำแข็งมานานนับชั่วโมงตอนนี้แสงประกายสีทองจากสิ่งของภายในกล่องได้ทำให้ดวงตาเธอพร่ามัวจนต้องกะพริบถี่ ๆ เพื่อหวังจะเห็นภาพตรงหน้าให้ชัดขึ้นทองแท่งจำนวนมากวางเรียงกันในกล่องแบบเต็มพื้นที่!หญิงสาวใช้มืออันสั่นระริกลากผ่านทองแท่งเหล่านั้นอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่านี่จะเป็นเพียงความฝัน หากเธอสัมผัสแรงไปกลัวว่าจะต้องตื่นจากความฝันอันแสนดีนี้เสียก่อนวรรณารีเหลียวมองไปรอบตัวอย่างระแวดระวังก่อนจะรีบปิดฝากล่องลงตามเดิมและกดปุ่มกลม ๆ เล็ก ๆ นี้อีกครั้ง ฝากล่องได้เลื่อนเข้าหากันจนปิดสนิทกลายสภาพเป็นชั้นหนังสือธรรมดาทั่วไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่ากล่องปิดสนิทดีแล้วเธอก็รีบเข้าไปในตัวบ้านและวิ่งตรงไปยังห้องนอนของสายทันทีหลังจากนั้นไม่นาน วรรณารีก็เดินนำออกมาหน้าตาตื่น ตามด้วยสายที่มีสีหน้าแบบเดียวกัน และปิดท้ายด้วยเด็กน้อยร่างอ้วนที่วิ่งตามมาห่าง ๆ ด้วยขาอันสั้นของเธอ
วรรณารีและสายรอจนกระแต พี่เลี้ยงของที่รักกลับไปพักผ่อนยังบ้านพักคนงานที่สร้างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนจึงพากันมายืนเมียง ๆ มอง ๆ รอบตู้ไม้อย่างสนอกสนใจแต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนตู้ไม้ก็คือตู้ไม้ ไม่เห็นมีอะไรพิเศษตรงจุดไหน เป็นเพียงตู้ไม้ที่มีชั้นสำหรับวางหนังสือทั้งสามชั้นหนากว่าตู้ปกติทั่วไปเท่านั้น คาดว่าที่ทำให้หนาก็เพื่อรองรับหนังสือซึ่งมีน้ำหนักมากนั่นเอง“ตู้ใบนี้ดีจริงหรือลูก” วรรณารีอดถามออกมาไม่ได้ที่รักพยักหน้าแรง ๆ ติดกันหลายทีจนไขมันตรงแก้มกลม ๆ สั่นกระเพื่อมไปมา มือวรรณารีคันยุบยิบอยากจะบีบแก้มนุ่ม ๆ นั้นใจแทบขาดแต่ก็ต้องยั้งใจเอาไว้วรรณารีและสายพากันเดินวนดูอีกสองรอบก็เหมือนจะไร้ผล“ป้าว่าเรื่องดีที่จิ๊ดริดบอกอาจจะไม่เกิดขึ้นทันทีก็ได้ กลับเข้าบ้านกันดีกว่ายุงเริ่มชุมแล้ว”วรรณารีพยักหน้าเห็นด้วย เธอให้สายพาที่รักเข้าไปก่อน ส่วนตัวเองจะขอทำความสะอาดคราบฝุ่นให้หมดเพราะรู้สึกไม่สบายใจกลัวจะมีแมลงมีพิษหลงเหลืออยู่จนทำอันตรายต่อคนในบ้านได้ใช้เวลาเพียงสิบนาทีก็เช็ดทำความสะอาดภายนอกจนเอี่ยมอ่อง แล้วความสวยง
สำหรับที่ดินที่ได้มาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ วรรณารีตั้งใจจะทำเช่นเดิมคือนำที่ดินไปจำนองกับทางธนาคารเพื่อเอาเงินก้อนมาลงทุน แต่ไม่ทันได้ไปติดต่อธนาคารก็มีเรื่องมหัศจรรย์พันลึกเกิดขึ้นในชีวิตวรรณารีเสียก่อน“ป้าโทรหาบริษัทปรับปรุงสวนทำไมคะ” เมื่อได้ยินสายโทรคุยกับบริษัทปรับปรุงสวน วรรณารีจึงถามด้วยความแปลกใจเพราะตามปกติสายเป็นคนเก็บตัวไม่ชอบติดต่อหรือพบใครง่าย ๆ“ฉันก็อยากปรับปรุงที่ดินอีกสี่ไร่ของฉันบ้างสิ ฉันจะปรับปรุงให้เป็นที่วิ่งเล่นของจิ๊ดริด”“ป้าคะ อย่าเปลืองเงินเลยค่ะ” วรรณารีบอกด้วยสีหน้าเป็นทุกข์“ก็นี่มันเงินฉัน ที่ดินฉัน เธอจะมาห้ามอะไร” สายมองตาขวาง“แต่วรรณเกรงใจ”“แล้วมาขัดขวางความสุขของฉันแบบนี้ไม่คิดจะเกรงใจบ้างหรือไง?”“ป้าคะ...” วรรณารีเอ่ยเสียงอ่อยสายถอนหายใจยาว “คิดเสียว่าเห็นแก่ความสุขของคนที่เพิ่งเคยมีครอบครัวและเคยมีหลานแบบฉันเถอะนะแม่วรรณ อย่าห้ามอะไรฉันเลย เงินทองฉันมันท่วมบัญชีไปหมดแล้ว สวรรค์เลยเมตตาให้ฉันได้ใช้ก่อนตาย”“ป้ายังไม่แก่เลยนะคะ”“แต่กำลังจะแก่มากขึ้นถ้าเจอคนขัดคอบ่