“ยิ้มไร” เซย์ยืนพิงขอบผนังถามคนที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมาจากห้องนอน หย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้พร้อมกับตวัดขายาวๆ ขึ้นไขว้ห้าง
“กูยิ้มเหรอ ไม่เห็นรู้ตัว” “สัด!” ก็เห็นอยู่ว่ามันยิ้ม ยังมีหน้ามาทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มทั้งที่มุมปากของมันยกขึ้นมากกว่าเดิม “คนอื่นๆ ไปไหนกันวะ” “สั่งของ” “จำเป็นต้องไปเองด้วยเหรอ เขามีบริการส่งถึงที่อยู่แล้วปะวะ” “แล้วมึงคิดว่าไง” “คนส่งของสวย?” “ก็นิสัยเหมือนมึง” เซย์ตอบกลับเบาๆ พร้อมกับนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง ถึงฉลามจะกำลังด่าว่าเขากวนตีนก็ช่าง มันเสือกกวนตีนก่อนเอง “เซย์…” คนถูกเรียกไม่ตอบรับ แต่ยื่นบุหรี่ให้คนข้างๆ เพราะเข้าใจว่ามันขอ แต่พอไม่เห็นว่ามันยื่นมือออกมารับตาคมกริบจึงตวัดไปมอง “อะไรของมึง เรียกกูเพราะจะขอบุหรี่ไม่ใช่เหรอ” “กูมีแล้ว” “แล้วเรียกทำไม” “มีถุงไหม” “ถุง? มึงจะถือไปเก็บเปลือกหอย” “เปลือกหอยเหี้ยไรของมึงสัด เอาไว้ยัดกล้วยกูเนี่ย!” เสียงเกรี้ยวกราดส่งผลให้เซย์หลุดขำ น่าแปลกที่คนอย่างมันไม่พกถุงยางติดตัว “หน้าอย่างมึงเดี๋ยวนี้ไม่พกถุง?” “หมด” “เมื่อคืนมึงเอาไปกี่ยก อย่าเวอร์สัด!” รู้ว่ามึงเก่ง แต่เอาไปกี่ทีพูดมาดีๆ “กูซื้อมากล่องเดียว” “อมพระวัดไหนถึงคิดว่ากูจะเชื่อมึง” “สภาพ มึงจะซักกูทำไมหนักหนาวะ แค่เอามาก็จบแล้วไหม” “ไม่อ่ะ” “ไม่ให้?” “ไม่มี” “มึงอย่ามา” “โทษทีนะ เอาสดมันฟินกว่า หรือมึงไม่เคยลอง?” “ลองเหี้ยไรก่อน ถ้ายังไม่อยากให้เมียมึงป่องมึงหยุด” “ป่องก็เมียกู กูรับผิดชอบของกูเอง เอาตัวให้รอด คืนนี้ไม่มีถุง มึงอดครับ” เซย์ดันตัวลุกเมื่อจีน่ากำลังมองมาทางเขา ได้ยินเสียงสบถหยาบตามหลัง แต่ก็ช่างหัวมัน ใครอยากให้มันพลาดพกถุงยางแค่กล่องเดียว ทำเหมือนรู้มาก่อนว่าเด็กมันจะไม่ยอมให้เอา เลยไม่ยืนอกพกมา “เป็นไรอ่ะ โดนฉลามด่ามา?” “สภาพมันเห็นแล้วสงสาร ปล่อยมันไป” เซย์ดันแผ่นหลังของคนรักให้ขยับไปที่เก่า หมาตัวไหนอยากบ้าก็ปล่อยให้มันบ้าต่อไป “พวกนั้นไปสั่งอะไรอ่ะ” “ไปสั่งเบียร์เพิ่มมั้ง” “เพิ่มอะไรเท่าที่สั่งมามันก็เยอะแล้ว เห็นนะว่าพวกมันส่งสายตาให้ผู้หญิงน่ะ” “ก็พวกมันเหงา ไม่เหมือนเราสองคนที่ได้นอนกอดกัน” ไม่ใช่แค่จีน่าที่ชะงัก แต่ของขวัญและขนมที่ช่วยกันย่างหมึกบนเตาก็ก้มหน้า อมยิ้มไปตามๆ กัน “เซย์” “แค่อธิบาย” “ใครให้พูด” “ก็เธอไม่สงสารเพื่อน พวกมึงหิว” “รู้ดี ตอบแทนกันได้ดี เมื่อก่อนตอนนายหิวเคยหากินแบบนี้เหมือนกันไหม” “หึงอีกและ” “ไม่หึงเลยเซย์ ที่พูดเนี่ยไม่หึงเลย” “เสียใจเป็นเหมือนกันนะจี นี่ผัว” ทั้งของขวัญและขนมอมยิ้มก่อนจะหันหน้าออกไปคนละทาง เป็นของขวัญที่ชวนน้องเล็กสุดไปหาอย่างอื่นทำในระยะที่ห่างออกไป “คู่นั้นน่ารักไม่ไหว เขินแทนพี่จีเลย” “จริงค่ะ น่ารักมากเลย พี่ๆ เขาคบกันนานเลยใช่ไหมคะ” “แอบรักกันมานานเลยค่ะ” ของขวัญยิ้มกว้าง หลายเรื่องที่ประทับใจจนเต็มใจมากๆ ที่จะเล่าถึงแต่สิ่งที่ดีๆ “คู่นี้ฮาร์ดคอร์สุดๆ ปากแข็งมาก แต่ก็รักกันมากเช่นกัน พี่จีน่ารัก พี่เซย์ก็รักเดียวใจเดียวค่ะ ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย” “ดีจัง แล้วพี่ขวัญกับพี่องศาล่ะ” ขนมเอียงคอมองคนที่อายุมากกว่า อมยิ้มน้อยๆ ในยามที่เห็นว่าอีกคนเหมือนจะเขินเธอ “ก็ดีค่ะ พี่รักเค้า~” “ควรใช้คำว่าเรารักกันนะคะ พี่องศาก็ดูรักพี่ขวัญสุดๆ ไปเลย ดูแลดีมาก~” “สังเกตเหรอ” “มีบ้าง แต่น่ารักจริงๆ น้า~” ของขวัญยิ้ม อดไม่ได้ที่แตะมือบีบแก้มของคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว “แล้วเราล่ะ คิดยังไงกับพี่ฉลาม เขาเอาใจเก่งมากเลยใช่ไหม” คนถูกถามกระพริบตาถี่ๆ หัวใจเต้นโครมครามเมื่อถูกย้อนกลับมาถามเรื่องของตัวเอง “ขนมเป็นคนแรกที่พี่ฉลามพาเข้าแก๊งเลยน้า~ คบกันอยู่ใช่ไหม” “แค่คุยกันเอง~” “ไม่เชื่อ ปากแข็ง” ของขวัญหรี่ตามอง ทำคนถูกจ้องหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ “เหมือนคนอื่นๆ เลยค่ะ ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้น” คำตอบทำของขวัญชะงัก น้องถ่อมตัวเกินไปไหม ยอมรับสถานะตัวเองหรือความจริงแล้วมันคืออะไร “พี่เชียร์น้า พี่ฉลามแพ้ผู้หญิงน่ารัก” “แบบนั้นก็เยอะแยะเลย~” ขนมพูดไปยิ้มไป ไม่ได้ซีเรียสหรือคิดมากกับอะไรทั้งนั้น ไม่ได้คาดหวัง เข้าใจและรู้สถานะตัวเองดี เธอบอกเขาเองว่าอยากแยกย้ายตอนไหนให้บอก เขาไปตามทางของเขา เธอกลับไปตามทางของเธอ ก็แค่จัดการกับความรู้สึกของตัวเอง โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูสั่นสะเทือนเบาๆ ในกระเป๋ากางเกงในตอนที่กลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง ขนมปล่อยให้มันสั่นและดับไป กระทั่งเสียงการแจ้งเตือนดังขึ้นมาแทน Janie : ขนม! อยู่ไหน? พ่อมาตามหา Janie : ทำไมแกไม่รับสายอ่ะ ไม่เอาแบบนี้นะ เป็นห่วงมาก Muk : พวกแก เกิดอะไรขึ้น! Janie : พ่อขนมมาตามที่คอนโด บอกว่าพยายามติดต่อแกแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ @Kanom Muk : ทะเลาะกับพ่อเหรอ มีอะไรคุยกับพวกเราได้นะ Janie : เออ ฉันเป็นห่วงแกนะเว้ย @Kanom Kanom : ไม่ได้เป็นไร พรุ่งนี้กลับ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง Janie : พ่อดูเป็นห่วงมากเลย ถ้าไม่ได้ทะเลาะกันโทรกลับหาพ่อหน่อยนะ ขนมดับหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกับเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ คำว่าห่วงนี้มีความจริงกี่เปอร์เซ็นต์กัน ถ้ารักจริงต้องปิดบังกันมานานถึงขนาดนี้ไหม ลูกอย่างเธอมารู้ความจริงในตอนนี้ยังรับแทบไม่ไหว แล้วแม่เธอรู้เรื่องนี้ไหม ที่อาการป่วยไม่ดีขึ้นเลยเป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่า เพราะอะไรถึงทำแบบนี้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาก่อน ถ้ารักกันมากแล้วพ่อดึงแม่เข้าไปในชีวิตทำไม เห็นแก่ตัว รักแต่ตัวเอง ไม่มีคำไหนเหมาะเท่าคำนี้อีกเลย! “อ๊ะ!” ความเย็นจากกระป๋องเครื่องดื่มแตะลงบนแก้มเนียนจนคนที่กำลังเหม่อหลุดจากภวังค์ “เป็นอะไร” “เปล่า~” ส่ายหน้าเบาๆ และยิ้มให้ “เหม่อไป~” ฉลามลากเสียงตาม เสียงเธอเวลาฟังมันดูอ้อนมาก เวลาเขาพูดบ้างเธอรู้สึกแบบไหนกันนะ “เพื่อนถามหา” “แล้วบอกเพื่อนว่าไง” “บอกว่าตอนนี้อยู่กับผู้ชาย” “…” “ผู้ชายหล่อด้วย แต่สาวเยอะไป~” “ไม่เห็นจะมี” คนตอบพูดเสียงเบา ก็จะไม่ให้พยายามเบายังไงไหว อยู่ดีๆ ก็มีหมาตัวไหนก็ไม่รู้มาหรี่เสียงเพลงลง “เอาอะไรมาไม่มี กูเห็น” แล้วก็มีคนเสือกแบบหน้าด้านๆ “เบียร์หมดใช่ไหม มึงรีบแดกต่อไป” โยนเบียร์กระป๋องใหม่ให้คนเสือก ลีโอรับทัน ส่วนคนอื่นๆ นั่งขำ “ทุกคนรู้ มีอยู่คนเดียวแหละที่ไม่ยอมรับ” “อย่าไปอยู่ใกล้มัน ไอ้ลีโอมันชอบล้างสมอง เธอก็น่าจะโดน” “ไม่หรอก พี่ลีโอน่ารัก~” “พวกมึง น้องยิ้มให้กูด้วยว่ะ” “หมาตัวไหนปิดเพลงกูวะ!” คนเกรี้ยวกราดลุกพรวดพราด ไม่ทันได้คำตอบ เพราะคนที่ถูกด่าว่าเป็นหมาก็โผล่หน้าออกมาจากแผ่นหลังกว้าง “พี่ฉลาม ขวัญเอง~” “ฉิบหาย” ลีโอแทรกขึ้นให้อย่างรู้งาน ส่วนคนที่อ้าปากค้างเพราะไม่ได้ตั้งใจจะว่าก็ถูกคำด่าสาดใส่หน้าทันทีเช่นกัน “นั่นเมียกูไม่ใช่หมา มึงนั่นแหละหมา” องศาออกโรงปกป้องคนรัก ทุกคนยิ้มกว้างแม้กระทั่งของขวัญ มันก็จะมีคนเพียงคนเดียวที่อยู่ไม่สุข รีบขอโทษขอโพยคนรักของเพื่อนออกมาเป็นพัลวัน ————————— แก็งนี้เขารักกันดีนะคะ 55555555วันต่อมา “คอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ คนกลางโสดไหม~” ไข่มุกอ่านคอมเมนต์ก่อนจะกระแทกไหล่เข้ากับสาวฮอตที่มีหนุ่มๆ ตามขายขนมจีบทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์ แค่มีภาพสวยๆ โพสต์ลงสักภาพ การเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียของขนมก็วิ่งละลิ่ว ทั้งไลก์ คอมเมนต์ แชร์ แม้กระทั่งช่องแช็ตก็ไม่ว่างเลยเช่นกัน “โสดไง โสดสนิท พร้อมคุยพร้อมคบใครพร้อมจบเข้ามาเลย” เจนแซวยิ้มๆ แค่เห็นเพื่อนกลับมาสดใสและสวยเหมือนเดิมก็สบายใจแล้ว“ว่าไป~” “คนนี้หล่อมาก รับไปคุยเล่นๆ ไหมคะ” ไข่มุกอวดโปรไฟล์ผู้ชายในโทรศัพท์ ใบหน้าของคนถูกถามผุดรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะส่ายหน้าทันที “ไม่เอา” “ไม่หล่อเหรอ? นี่คัดคนให้เลยนะ” “ไม่เอา ไม่อยากคุยกับใคร~” ขนมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เพื่อนพร้อมกับหันมาโฟกัสที่โทรศัพท์ของตัวเองพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ พิมพ์ไปยิ้มไปจนคนที่กำลังสงสัยมองหน้ากัน“คุยกับใครอ่ะ” “พี่ฉลาม” “หืม? จะควงแกไปอวดเพื่อนอีกแล้วเหรอ” “ไม่ๆ ก็คุยปกติ” เจนมองไปที่ไข่มุก คิ้วสวยเลิกขึ้นเสมือนกำลังส่งสัญญาณให้กัน“คุยปกตินี่คือ?” เจนถามต่อพร้อมชะโงกหน้าไปมอง“ดะ เดี๋ยว คิดถึง! เขาบอกคิดถึงแกด้วยเหรอ” ตากลมสวยเสมองไปทางเพื่อน ยิ้มแห้
“อื้ออ~” กายหนาพุ่งเข้ามาประชิดร่างบอบบาง อีกทั้งออกแรงรั้งเอวคอด ริมฝีปากหยักได้รูปตะโบมดูดดุนลงบนเรียวปากเอิบอิ่มทันทีที่ประตูห้องชุดถูกเปิดจากคนด้านในรสแอลกอฮอล์ยังติดที่ปลายลิ้น สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นบุหรี่ที่ตีกันรวนจากร่างกายของคนตัวโต ฝ่ามือทั้งสองข้างยกขึ้นมาประคองสองแก้ม ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทิ้งสายตามองใบหน้าสวยสดของคนในวงแขนแทน“คิดถึงจัง” “ลงทุนมาก~ แค่อยากมาเห็นหน้า?”“ทำมากกว่านั้นได้ไหมล่ะ?” ฉลามสบตานัยน์ตาสวยแกมเศร้า ก็หงุดหงิดแหละที่เห็นเธอตาแดง ร้องไห้โคตรบ่อย มันจะอะไรนักหนา รักมันมากมั้งอาลัยอาวรณ์สุดๆ ไปเลย หรือชอบมากที่ต้องเป็นของเล่นของผู้ชาย“เข้ามานั่งด้านในก่อนไหม” “อยู่ตรงไหนก็ได้ แค่ได้มาอยู่ใกล้ๆ ก็พอ” ขนมอมยิ้มก่อนจะเปิดทางให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมาไม้ไหน ก็ยังงงอยู่ว่าจากที่แค่เล่นละครตบตาใครต่อใครทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้เขาเป็นคนแบบไหน นอกจากจะเสน่ห์แรงในสายตาของคนทั่วไป ลีลาบนเตียงร้อนแรงจนเคยทำเธอหลงมัวเมาไปชั่วขณะ เขาเป็นคนแบบไหนอีก ชอบเอาชนะมากเลยเหรอ ถ้าแพ้แล้วอายเพื่อนนั่นคือรับไม่ได้เลยใช่ไหม “ตอนที่โทรหาทำอะไรอยู
เหมือนทุกๆ ครั้งที่ทุกคนชอบมารวมตัวกันที่คอนโดของฉลาม วันนี้ก็เหมือนกัน เบียร์ในตู้อัดแน่นไม่เคยขาด ส่วนกับแกล้มไม่ได้อะไรมาก มีก็กินถ้าไม่มีก็เอาอันที่ง่ายที่สุดที่พอจะหาได้ในห้องนั่นแหละ “ขอยืมห้องนะ จะไปนอนดูซีรีย์” จีน่าบอกพร้อมกับกอดไอแพดแนบอก เกือบจะไปอยู่แล้วถ้าไอ้เซย์ไม่ดึงมือจนตัวของจีน่าลอยกลับมาที่เก่า แล้วก็ต้องมาทนเห็นภาพที่พวกมันจุ๊บกัน หอมกัน ทำเหมือนคิดถึงที่ต้องห่างกันทั้งที่อยู่ด้วยกันทุกวัน“มึงสองตัวนี่หนักเหมือนกันนะ ก่อนมาห้องกูเนี่ยพวกมึงก็อยู่ด้วยกันไหม ทีหลังล้วงกันให้เสร็จอย่ามาล้วงที่ห้องกูครับ”“กูรักเมียกู” เซย์ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ส่วนเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ทำให้เสือบางตัวกลายเป็นแมวเชื่องๆ ได้ก็หันมามองแรงใส่ทันที“อย่าให้ถึงทีตัวเองนะฉลาม” “ไม่มีวันนั้น” คนตอบกลับคว้ากระป๋องแอลกอฮอล์มาเปิดจากนั้นก็กระดกดื่มต่อหน้าคนที่กำลังมอง“เห็นๆ กันอยู่ว่าแกพาสาวมาให้เพื่อนรู้จัก ยังจะมาปากหนัก”“ก็ไม่ได้จริงจัง” “เอาความจริงมาพูด ขอร้อง อย่ามาปากดี” เซย์มองแรงใส่คนที่บอกไม่จริงจัง อย่าให้พูดว่าสภาพมันหนักแค่ไหน เรื่องผู้หญิงสำหรับฉลามมันไม่ใช่เรื่อง
“บ้า เกินไปไหม” ไข่มุกอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเพื่อนกลับมาเล่าความจริงที่เจอให้ฟังหลังจากที่หายไปสองวันเต็ม “ถามพ่อก่อนไหม คุยกับพ่อก่อน” เจนน้ำตาคลอ ฝ่ามือกุมมือของขนมเอาไว้จนแน่น ว่าแล้วทำไมขนมหายไปเลย ปกติเพื่อนเธอไม่ใช่คนแบบนั้น ขนมไม่มีวันทำให้ใครเป็นห่วง ไม่เคยหายไปเงียบๆ แบบนี้ถ้าไม่มีเหตุผลจริงๆ “คุยแล้ว คำขอโทษมันตอบแทนทุกอย่างแล้ว ถ้าพ่อไม่มีเมียอีกคนพ่อจะขอโทษทำไม” “เมียใหม่พ่อแกตอแหลว่ะขนม ทำเป็นโทรกลับทั้งที่แกไม่ได้โทรหา อยากแสดงตัวมากกว่า” คนที่อารมณ์ร้อนมากที่สุดพาลโกรธแทนเพื่อน ผู้หญิงของพ่ออยากแสดงตัว ในขณะที่คนเป็นพ่อก็ปิดบังลูกมาโดยตลอด เข้าใจความรู้สึกเพื่อนเลย“อยากแสดงตัวเดี๋ยวจะปล่อยให้แสดงแบบเต็มที่” “แกคิดจะทำอะไรต่อไป” ไข่มุกเดินมาจับบ่า มืออีกข้างลูบเบาๆ เป็นเชิงปลอบ“แกยังมีพวกฉันสองคนนะขนม เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะช่วยกันทุกเรื่อง อย่าทำอะไรคนเดียวโอเคไหม” “ขอบใจน้า~ พวกแกเนี่ยทำฉันซึ้งจนร้องไห้เนี่ย” หลังมือขาวผ่องยกขึ้นเช็ดน้ำตา รู้ว่ากำลังทำให้ทุกคนเป็นห่วงกันหมดเลย เจนสวมกอดร่างบางของเพื่อนเอาไว้แน่น ที่ผ่านมาขนมมีแค่คุณพ่อที่เป็นทุกอย่าง เพื่อนเ
เป็นผู้ชาย ไม่ซีเรียสกับเรื่องแบบนั้นกันเลยใช่ไหม ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีใคร หรือตัวเองจะมีใครอยู่ถ้ายังพอใจคนอื่นก็จะมีได้อีก ความรู้สึกไม่ต่างกัน ประมาณนั้นใช่ไหม?ขนมจัดการกับตัวเองและจัดการกับหลายความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นเงียบๆ จนกระทั่งเดินทางกลับ ตั้งแต่วันที่รู้เรื่องพ่อในวันนั้น เธอเปิดโทรศัพท์เป็นบางเวลา ทันทีที่มือถือพร้อมใช้งานมักจะมีข้อความของพ่อทุกครั้งคำขอโทษอีกกี่ร้อยพันครั้งบอกเลยว่ามันไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาจริงๆ ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนั้น คุณพ่อที่แสนดี คนที่เป็นทุกอย่างของลูก วันที่เธอพร้อมเดี๋ยวได้เจอกัน“อื้อ~” เสียงท้วงในลำคอดังขึ้นพร้อมกับมือที่ดึงมือหนาออกจากแก้ม คนขับรถขมวดคิ้วยุ่ง เหมือนเขาคุยกับเธอแต่เธอไม่ได้สนใจฟัง“บีบแก้มอีกแล้ว ช้ำหมด~”“ก็เหม่อไป เรียกตั้งหลายรอบ” “ขอโทษค่ะ คิดอะไรเพลินๆ มีอะไรไหม” “หิวน้ำ” “ได้ๆ” ขนมหันไปหยิบขวดน้ำ แต่จำต้องชะงักแล้วมองหาขวดใหม่ “มันไม่มีขวดใหม่แล้วอ่ะ พี่จอดซื้อได้ไหม”“แล้วขวดที่อยู่ในมือ?”“หนูกินไปแล้ว”“ไม่ถือ” ตากลมสบตากับคนบอกเล็กน้อย แต่ก็ยอมพยักหน้าส่งๆ เปิดขวดน้ำแล้วจ่อที่ริมฝีปากตามใจเขาเลย “สรุปเพื่อนพี่สงสั
ร่างบอบบางดันตัวลุก ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างดันกับเตียงเมื่ออยู่ๆ ร่างสูงก็รูดตัวลงต่ำ ขาเรียวถูกดันให้แยกออกจากกันก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดมองที่ตรงนั้น ก้อนเนื้อของอกทางด้านซ้ายพลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เผลอกลั้นหายใจในยามที่ใบหน้าคมคายซุกเข้ากับใจกลางความเป็นสาว ปากของเขา ลิ้นของเขา สมองมันขาวโพลนเมื่ออีกคนปรนเปรอช่วงล่าง ลิ้นเปียกชื้นแตะที่เนินสามเหลี่ยมอวบนูน ขบเม้มเบาๆ ก่อนจะลากปลายลิ้นลงต่ำ สะกิดจุดอ่อนไหวจนคนถูกปรนเปรอดิ้นพล่าน ความผ่อนคลายและความอึดอัดตีกันรวนจนใบหน้าสวยเชิดขึ้น เสียงครางหวิวหลุดออกมาอย่างไม่รู้ตัวฉลามยกยิ้มอย่างพอใจ ใช้ลิ้นแตะสะกิดจุดอ่อนของผู้หญิง จากนั้นก็ลงลิ้นลึกขึ้น ลากเข้ากับร่องคับแคบแล้วกระดกลิ้นเร็วขึ้น ลืมไปว่าจะไม่ทำแบบนี้ให้ใครเด็ดขาด ไม่ปรนเปรอใคร ไม่อะไรทั้งนั้น น้ำแตกแล้วแยกทาง ไม่ผูกพัน ไม่หลงใหล ลืมไปว่าการทำแบบนี้มันเท่ากับการเอาใจไปลงเล่น จะรู้สึกอะไรต่อจากนี้ไม่รู้ รู้แค่ว่าอยากให้เธอหลงกู คลั่งรัก เลิกกับมันแล้วหันมาสนใจเขาเหมือนผู้หญิงทุกคน “มะ ไม่ไหว อ๊าส์!” ขนมสอดมือเข้าไปรั้งใบหน้าคมให้ละออกมาจากตรงนั้น ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงซ่าน เลือด