แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: มู่เหลียนชิง
รอยยิ้มนั้นทำให้ฟู่เฉินรู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาด มักรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกำลังจะหลุดลอยไปจากมือของเขาจริง ๆ

“อาเฉิน เธอตกลงที่จะหย่าแล้ว เธอเซ็นชื่อแล้วจริง ๆ”

สวีจือหรูอ่านข้อตกลงการหย่าในมือ ก่อนจะพูดด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเรียกสติฟู่เฉินกลับมา

ฟู่เฉินแปลกใจเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่านี่เป็นเพียงกลอุบายของเธอเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเธอจะเซ็นชื่อแล้วจริง ๆ?

เขารีบคว้าข้อตกลงการหย่ามาดู แต่กลับรู้สึกว่าลายเซ็นที่ตวัดเหมือนนกและมังกรเหินฟ้านั้น ช่างบาดตาเหลือเกิน

เธอยอมปล่อยมือไปง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอ?

“ฟู่เฉิน แกนี่มันเป็นคนใจร้ายที่สุดในโลกจริง ๆ”

“รีบโอนเงินห้าสิบล้านมาให้ฉันเร็วที่สุด”

หนิงไห่เทามองดูหญิงร้ายชายชั่วกอดกันแล้วรู้สึกขยะแขยงอย่างที่สุด เขาหัวเราะเยาะแล้วสาวเท้าเดินจากไป

เห็นได้ชัดว่านี่คือผลลัพธ์ที่เขาตั้งตารอคอยมานาน แต่ไม่รู้ทำไม ฟู่เฉินกลับรู้สึกว่างเปล่าเล็กน้อย ในใจของเขากลับมีความโกรธที่ไม่สามารถอธิบายได้

“ดีใจจังเลย อาเฉิน คุณเป็นอิสระแล้ว ในที่สุดคุณก็เป็นอิสระแล้ว ในที่สุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” สวีจือหรูกอดฟู่เฉินพลางร้องด้วยความดีใจ

เธอดีใจจริง ๆ ดีใจจากใจจริง หลังจากนี้ก็ไม่ต้องถูกใครชี้หน้าด่าว่าเป็นเมียน้อยอีกแล้ว

“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลก่อน” ฟู่เฉินไม่ได้ดีใจอย่างที่คิดไว้ กลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ได้

เธอจะจากไปจริง ๆ แต่เขากลับไม่ค่อยอยากให้เธอจากไปเลย?

ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ฟู่เฉินรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงระบายอารมณ์ใส่สวีจือหรูไปซะเลย เขาอุ้มเธอในอุ้มท่าเจ้าสาวแล้วเดินออกไป

สวีจือหรูเข้าใจฟู่เฉินเป็นอย่างดี ดังนั้นเธอจึงสามารถตัดสินอารมณ์ของเขาตอนนี้ได้จากสีหน้าและการกระทำของเขา เธอรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าฟู่เฉินมีอารมณ์ที่ซับซ้อน แต่กลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย

“อาเฉิน คุณไม่ดีใจเหรอ?”

“ดีใจ”

ฟู่เฉินกอดเธอ พร่ำบอกว่าดีใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่รู้ว่าพูดให้ใครฟังกันแน่

ตอนกลางคืน น้อยนักที่ฟู่เฉินจะกลับบ้านเอง แต่พอเปิดประตู เขากลับพบว่าภายในบ้านทั้งหลังว่างเปล่า

ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบกลับบ้าน แต่หนิงหนานเสว่ก็จะจัดบ้านให้สะอาดเรียบร้อย แถมยังวางดอกไม้สดไว้ในบ้านอีกด้วย บอกว่าแบบนี้จะทำให้บ้านอบอุ่นขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ช่างโง่จริง ๆ บ้านจะอบอุ่นหรือไม่ไม่ได้เกี่ยวกับดอกไม้สดเลย แต่มีความรักต่างหากถึงจะอบอุ่น

“ป้าจาง คนไปไหนแล้ว?”

เมื่อฟู่เฉินเข้ามาแล้วไม่เห็นหนิงหนานเสว่ก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

“คุณผู้หญิงไปแล้วค่ะ เธอบอกว่าของของเธอเก็บเรียบร้อยแล้ว และเอาไปหมดแล้ว จะไม่รบกวนคุณผู้ชาย”

ป้าจางพูดอย่างระมัดระวัง เธออายุมากแล้ว และก็เข้าใจดีว่าคุณผู้ชายไม่ชอบคุณผู้หญิง แต่คุณผู้หญิงกลับจริงใจกับคุณผู้ชายมาก

“สุยสุยล่ะ?”

ฟู่เฉินถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง

“คุณหนูก็ไม่อยู่บ้านค่ะ ของของคุณหนูก็เก็บเรียบร้อยและเอาไปหมดแล้วค่ะ”

ป้าจางรายงานตามความจริงอีกครั้ง

แต่ความจริงเช่นนี้ กลับทำให้สีหน้าของฟู่เฉินยิ่งเคร่งขรึม

เขาหัวเราะเยาะ “เธอนี่ก็รวดเร็วดีนะ รีบร้อนขนาดนั้นเลย?”

ในข้อตกลงการหย่าระบุไว้อย่างชัดเจนว่า สิทธิ์ในการดูแลฟู่สุยสุยเป็นของหนิงหนานเสว่ เพราะอย่างไรแล้วเขาก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น และก็ไม่ชอบลูกที่ผู้หญิงคนนั้นให้กำเนิด

แต่ตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้พาลูกจากไปแล้วจริง ๆ เขากลับรู้สึกว่าในบ้านมีบางอย่างแปลกไป

เขายังจำได้ว่า ตอนที่สุยสุยเพิ่งเกิด ในบ้านมีของเพิ่มขึ้นมาเยอะแยะเต็มไปหมด จากบ้านที่สะอาดเรียบร้อยกลับกลายเป็นบ้านที่ระเกะระกะ ตอนนั้นเขายังไม่ชิน และรู้สึกรังเกียจด้วยซ้ำ

ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ เหมือนลูกแมว ทำไมต้องใช้ของมากมายขนาดนั้น?

แต่ตอนนี้ เมื่อของเหล่านั้นถูกเก็บและนำออกไปทั้งหมด ฟู่เฉินกลับรู้สึกว่าทั้งบ้านว่างเปล่า และถึงกับรู้สึกว่าหัวใจของเขาก็ว่างเปล่าเช่นกัน

เขาไม่เชื่อว่าเธอจะยอมจากไปง่าย ๆ อย่างนี้ ต้องเป็นกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับแน่ ๆ ต้องเป็นแผนการอะไรบางอย่างอีกแล้วแน่ ๆ

ฟู่เฉินดึงเนคไทออก แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พยายามอย่างสุดกำลังที่จะหาเบาะแสว่านี่เป็นแผนการ

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน ในบ้านหลังนี้ ในห้องห้องนี้ เขาก็ไม่พบร่องรอยของหนิงหนานเสว่อีกต่อไป แม้แต่ร่องรอยของสุยสุยก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนข้าวของของสุยสุยกระจัดกระจายอยู่ทั่วบ้าน ทำไมตอนนี้ไม่มีอะไรเลย?

ทันใดนั้น เขาพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขารีบผลักประตูหนังสือแล้วมองไปที่ตู้หนังสือ

ตอนสุยสุยอายุสองขวบ มีครั้งหนึ่งเธอเคยแอบเข้ามา แล้วขีดรอยหลายรอยไว้บนตู้

ตู้หนังสือตัวนี้ยังเป็นตู้ที่สวีจือหรูเลือกด้วยตัวเองตอนเขาและเธอเพิ่งรู้จักกันใหม่ ๆ ดังนั้นเขาจึงทะนุถนอมมันมาตลอด ปีนั้นเขายังเคยโมโหใส่สุยสุยเพราะรอยขีดนี้

ตอนนี้เขายังจำท่าทางที่สุยสุยตัวน้อยร้องไห้โฮพลางถือมีดแกะสลักในมือได้

แต่ตอนนี้ แม้แต่รอยขีดข่วนนั้นก็หายไปแล้ว?

บนนั้นมีร่องรอยการซ่อมแซมอย่างชัดเจน ฝีมือการซ่อมแซมนั้นยอดเยี่ยมมาก ถ้าไม่สังเกตดี ๆ จะไม่เห็นเลยว่าเคยเสียหายมาก่อน

เธอใส่ใจทุกรายละเอียดขนาดนั้นจริงเหรอ?

ฟู่เฉินเดินวนรอบบ้าน แต่ก็ไม่พบอะไรเลย ราวกับว่าทั้งสองคนนั้นไม่เคยปรากฏตัวที่นี่

ในเวลานี้ ในที่สุดฟู่เฉินก็มั่นใจแล้วว่าหนิงหนานเสว่จากไปจริง ๆ

นี่ควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทุกคน แต่ไม่รู้ทำไม หัวใจของฟู่เฉินกลับรู้สึกโกรธอย่างประหลาด

เขาออกแรงดึงเนคไทที่คอออก แล้วโยนลงพื้นอย่างแรง

“ป้าจาง เธอได้บอกไหมว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?”

ฟู่เฉินถามป้าจางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ป้าจางเช็ดมืออย่างเก้ ๆ กัง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “คุณผู้หญิงบอกว่า ไม่กลับมาแล้วค่ะ”

ไม่กลับมาแล้ว? เธอจะไม่กลับมาแล้วจริงเหรอ?

เป็นผู้หญิงที่เลือดเย็นจริง ๆ!

ฟู่เฉินกัดฟัน “แล้วสุยสุยล่ะ?”

“ฉันไม่เห็นคุณหนูค่ะ” ป้าจางพูดตามความจริง เธอมองดูโทรศัพท์ “เวลานี้ คุณหนูน่าจะอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลค่ะ”

ทันใดนั้น ฟู่เฉินก็นึกขึ้นได้ว่าครั้งก่อนเขาสัญญากับสุยสุยว่าจะไปรับเธอที่โรงเรียนอนุบาล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเพราะมีธุระก่อน

ครั้งนี้ต้องชดเชยให้ อย่างน้อยเด็กก็บริสุทธิ์

ฟู่เฉินตาเป็นประกาย ในที่สุดเขาก็นึกเหตุผลที่สมเหตุสมผลมากที่จะโทรหาหนิงหนานเสว่ได้

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดเบอร์ที่น่ารังเกียจ แต่คุ้นเคยนั้น

“ขออภัย หมายเลขที่คุณเครือข่ายกำลังเรียกไม่ว่าง”

เขาโทรติอต่อกันไปหลายสาย แต่แล้วล้วนตอบแบบนี้ ฟู่เฉินเริ่มหงุดหงิด “เธอกำลังโทรหาใครกันแน่?”

ป้าจางที่อยู่ข้าง ๆ มองเห็นได้อย่างชัดเจน เธอพูดหยั่งเชิงว่า “คุณผู้ชายคะ โดยทั่วไปแล้ว ถ้าขึ้นข้อความแบบนี้ หมายถึงถูกบล็อกแล้วนะคะ”

เขาถูกเธอบล็อกแล้วเหรอ?

เป็นไปได้ยังไง? เธอจะบล็อกเขาได้ยังไง?

ฟู่เฉินหัวเราะเยาะ “ครั้งนี้ เธอเล่นใหญ่จริง ๆ เลยนะ”

ป้าจางส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง ถอนหายใจแล้วหันหลังเดินเข้าครัว เธอเป็นผู้หญิง และก็อาบน้ำร้อนมาก่อน เธอมองออกอย่างชัดเจนว่าครั้งนี้ คุณผู้หญิงใจสลายจริง ๆ ไม่ได้เล่นตัวด้วยซ้ำ

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของฟู่เฉินก็ดังขึ้น เขาเลิกคิ้วมองป้าจาง “ดูสิ ยังไงเธอก็ต้องโทรมาใช่ไหมล่ะ?”

แต่ทันทีที่รับสาย เสียงที่ดังขึ้นมากลับเป็นเสียงที่ทั้งเย็นชาและสุภาพ “สวัสดีครับ ใช่ผู้ปกครองของฟู่สุยสุยรึเปล่าครับ? ที่นี่คือโรงประกอบพิธีฌาปนกิจ...”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 213

    เขาคิดว่าตนเองได้โจมตีหนิงหนานเสว่อย่างหนักแล้ว ทว่าในสายตาของหนิงหนานเสว่ การข่มขู่แบบนี้เป็นเรื่องที่น่าขำสิ้นดี บางครั้งเธอถึงกับเริ่มอยากรู้เสียแล้วว่าวงจรประสาทของฟู่เฉินเป็นอย่างไรกันแน่? เมื่อก่อน หนิงหนานเสว่คิดมาตลอดว่าตนเองเป็นพวกคลั่งรัก แต่ตอนนี้พอมาคิดดูอย่างละเอียดแล้ว อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่า คนที่คลั่งรักจริง ๆ ดูเหมือนจะเป็นฟู่เฉินมากกว่าตอนนี้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมากมายขนาดนี้แล้ว เขายังจะมาโยนความผิดทั้งหมดว่าเพราะเธอรักเขาแต่ไม่ได้ครอบครอง? โคตรน่าไม่อายหนิงหนานเสว่ส่ายหน้ายิ้มอย่างดูถูก จากนั้นก็นอนลงทันที และเริ่มต้นการพักฟื้นอย่างสงบสุขบนรถ สวีจือหรูมองดูฟู่เฉินอย่างระมัดระวังพลางเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “อาเฉิน ตอนนี้ควรทำยังไงดีคะ?”“แค่เงินนิดหน่อยเท่านั้น ถ้าเธอต้องการก็ให้เธอไปซะก็สิ้นเรื่อง” ฟู่เฉินแค่นเสียงอย่างไม่ใส่ใจแม้แต่น้อยถึงยังไงฟู่ซื่อกรุ๊ปก็ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีมูลค่าห้าหมื่นล้าน แค่หกร้อยล้านกว่า ๆ ไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกเขายังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ก็แค่เป็นการเปลี่ยนจากมือซ้ายไปมือขวาเท่านั้นเอง ถ้าย้ายอ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 212

    ฟู่เฉินดึงสวีจือหรูที่อยู่บนพื้นขึ้นมาโดยทันที และมองตรงไปยังหนิงหนานเสว่ “เธอแน่ใจนะว่าเธอต้องการยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อเป็นศัตรูกับฉันน่ะ?”“ฉันแค่กำลังเป็นการเป็นงานอยู่เท่านั้นเอง ฉันจัดการเรื่องต่าง ๆ ตามกฎของคุณ นี่ก็ไม่ได้เหรอคะ?” หนิงหนานเสว่ยักไหล่ด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “ฟู่เฉิน อย่าพูดถึงเรื่องอื่นกับฉันเลยค่ะ สิ่งที่ไม่จำเป็นจะต้องพูดที่สุดระหว่างพวกเราก็คือความรู้สึก” “หนิงหนานเสว่ เธอเชื่อไหมว่าฉันจะขุดฟู่สุยสุยขึ้นมา? บดกระดูกแล้วโปรยทิ้งซะ” ทันใดนั้นฟู่เฉินก็ยิ้มอย่างโหดร้ายเขาจ้องมองหนิงหนานเสว่อยู่แบบนี้ เธอใส่ใจนังเด็กสารเลวนั่นที่สุดไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ลองดู! หนิงหนานเสว่ได้รู้ซึ้งถึงความเลือดเย็นของฟู่เฉินมานานแล้ว เธอรู้ว่าหากตอนนี้ตัวเองแสดงความอ่อนแอออกมาละก็ เช่นนั้นก็จะพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์“ตอนที่สุยสุยมีชีวิตอยู่ คุณก็ไม่ได้ให้ความสำคัญของเธออยู่แล้ว นับประสาอะไรกับตอนตายไปแล้ว? ทำไมฉันต้องไม่เชื่อด้วย?”“คุณอยากบดกระดูกแล้วโปรยทิ้งก็แล้วแต่เลย ตอนนี้มันสมัยไหนกันแล้ว คนตายไปแล้วก็คือตายไปแล้ว ใครจะไปใส่ใจเรื่องแบบนี้กัน?”หนิงหนานเสว่หัวเราะ หัวเราะด้วยเสียง

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 211

    เมื่อแม่ฟู่ได้ยินคำพูดนี้ก็ราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกอะไรใหญ่โตอย่างไรอย่างนั้น จึงหัวเราะออกมาในทันที “โชคดีที่แกยังรู้ว่านี่คือพ่อของแก!”“พอแล้ว ตอนนี้ผมจะไปจัดการเรื่องบ้าน”ฟู่เฉินไม่อยากฟังอีกต่อไปแล้ว เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีวันหนึ่งที่คำว่ายุ่งจนหัวหมุนสี่คำนี้ จะสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะฟู่เฉินเอียงศีรษะมองสวีจือหรูที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น เขารู้สึกผิดและจนใจไปชั่วขณะ “ไม่เป็นไรนะ?”“ไม่เป็นไรค่ะ ที่จริงแม่ฟู่ก็ไม่ได้พูดผิดอะไร เป็นฉันที่ไม่ดีเอง ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันค่ะ”“อาเฉิน ฉันอยากคืนคุณให้กับคุณหนิงมากจริง ๆ นะคะ แต่จะให้ทำยังไง ฉันทำไม่ได้จริง ๆ ฉันรักคุณค่ะ ฉันไม่มีคุณไม่ได้ ถ้าฉันไม่มีคุณ ฉันอาจตายก็ได้ค่ะ!”สวีจือหรูดึงแขนเสื้อของฟู่เฉินเอาไว้แน่นอยู่แบบนั้น นัยน์ตามีความอยากครอบครองและหวังพึ่งพาจนแทบเสียสติแต่ทว่าสิ่งที่ฟู่เฉินชอบที่สุดก็คือการหวังพึ่งพาและความอยากครอบครองที่ผิดปกติแบบนี้ เพราะว่ามีเพียงแบบนี้เท่านั้น ฟู่เฉินถึงจะสามารถมั่นใจได้ว่าตนเองถูกรัก และเป็นที่ต้องการเขาหยิกแก้มของสวีจือหรู พลางยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณจะไม่สูญเสียผมไปหรอก เด็กโง่ ”

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 210

    “ป้าใจเย็นก่อนค่ะ”สวีจือหรูกอดเอวแม่ฟู่ไว้แน่น ในที่สุดก็ดึงคนทั้งสองแยกกันได้สักที“เธอไปให้พ้น!”แม่ฟู่ผลักสวีจือหรูออกทันที แล้วพูดอย่างดุร้ายว่า “เธออย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะนังจิ้งจอกอย่างเธอที่ให้ท่าลูกชายฉัน! ครอบครัวดี ๆ ของฉัน ถูกเธอทำให้กลายเป็นสภาพไหนแล้ว ตอนนี้เธอโผล่มาทำตัวเป็นคนดี ถุย! หน้าไม่อาย!”“โวยวายอะไร?”ฟู่เฉินก้าวมาข้างหน้า ขวางอยู่ตรงกลางของทุกคนลุงตำรวจจัดเสื้อผ้าบนร่างตนเองเล็กน้อย แล้วมองฟู่เฉินด้วยสายตาเย็นชา “คุณก็คือผู้จัดการใหญ่ของฟู่ซื่อกรุ๊ปสินะ? ยังไงก็นับว่าเป็นคนมีหน้ามีตา ทำไมคนในครอบครัวถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้? ตอนนี้มีคนแจ้งความว่าพวกคุณบุกรุกและยึดครองเคหสถานของผู้อื่น ให้เวลาพวกคุณหนึ่งสัปดาห์ ต้องย้ายออก ไม่งั้นเราก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมาย”อะไรนะ?ฟู่เฉินถึงขั้นนึกว่าตนฟังผิดไป ที่นี่คือคฤหาสน์เก่าตระกูลฟู่ เขาเติบโตที่นี่มาตั้งแต่เด็ก แล้วจะบุกรุกและยึดครองเคหสถานของผู้อื่นได้อย่างไร?“คุณตำรวจเข้าใจผิดหรือเปล่า ที่นี่บ้านผมนะครับ”คิ้วของฟู่เฉินขมวดเข้าหากันแน่น ใครกำลังเล่นแผลง ๆ อยู่กันแน่?มองท่าทางไม่เห็นโรงศพไม่หลั่ง

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 209

    “งั้นก็เอาคืนไปเลย!”เจียงเหยียนเชินหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ค่อย ๆ เช็ดน้ำตาให้หนิงหนานเสว่จนหมดสะอาด มองเธออย่างอบอุ่น “ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ”เผชิญหน้ากับแววตาอบอุ่นของเขา หนิงหนานเสว่สับสนไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่นานก็ใจเย็นลง เธอพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ พวกเราไปเอาคืนกัน! พวกเขาสมควรตายให้หมด!”“นี่สิถึงจะเป็นหนิงหนานเสว่ที่ฉันรู้จัก เธอไม่เคยเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอเลย พวกเขาเอาชนะเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ” เจียงเหยียนเชินลูบศีรษะเธอเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ให้กำลังใจเธอ และยอมรับในตัวเธอความดีที่แทรกซึมอย่างไร้สุ้มเสียงเช่นนี้ ทำให้หนิงหนานเสว่ใจเย็นและสงบนิ่งลงทั้งคน เธอแบกรับเจตนาร้ายที่ไม่ควรมีมามากเกินไปแล้วจริง ๆ แต่โลกนี้ไม่ได้เลวร้าย อย่างน้อยก็ยังมีคนที่ดีกับเธอ ถนอมเธอ“รุ่นพี่ เรากลับกันเถอะค่ะ”“ได้”พอหนิงหนานเสว่ขยับเขยื้อนเช่นนี้ บาดแผลด้านหลังก็หนักขึ้นไม่น้อย ตอนที่กลับมาถึงโรงพยาบาล หมอทำแผลไปพลาง บ่นไปพลาง “ถ้าคุณเอาแต่เป็นแบบนี้ แผ่นหลังนี่ก็คงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว คุณเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ทำไมถึงไม่รักร่างกายตัวเองขนาดนี้?”“ฉันรับรองว่าจะเชื่อฟังแน่นอน

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 208

    หลายปีนี้ หนิงหนานเสว่คิดซ้ำ ๆ แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ตกว่าตอนนั้นทำไมเธอถึงตื่นขึ้นบนเตียงของฟู่เฉิน และคิดไม่ตกด้วยว่าตนกับฟู่เฉินมีสุยสุยอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวได้อย่างไรหลายปีนี้ ฟู่เฉินรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงเลวเหลี่ยมจัดคนหนึ่งเพราะเรื่องนี้มาตลอด จึงพาลเกลียดสุยสุยไปด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะเขา เป็นเพราะลุงแท้ ๆ ของเธอ!“ลุงทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง? ทำไมลุงต้องทำแบบนี้กับฉัน!”“ฉันเป็นหลานแท้ ๆ ของลุงนะ! ฉันเป็นหลานสาวลุงไง!”หนิงหนานเสว่โกรธจนตาเหลือก น้ำตาไหลออกมาทั้งอย่างนี้ มือสองข้างยึดแน่นอยู่บนกระจก เธอคิดไม่ตกเลย!ความลำบากที่เธอกับสุยสุยได้รับตั้งหลายปี มันคืออะไรกันแน่!“ฉันก็หวังดีกับแกทั้งนั้นแหละ! ถ้าแกไม่รีบหาคนดี ๆ แล้วแต่งงานด้วยตอนที่ยังสาว แกจะทำอะไรได้อีก!”“เสว่เอ๋อร์ ฉันเป็นลุงแก ฉันจะทำร้ายแกได้ยังไง! ฟู่เฉินไม่ดีตรงไหน ทำไมแกถึงเอาใจเขาให้ดี ๆ ไม่ได้ล่ะ!”ตอนนี้หนิงไห่เทาก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ แล้ว อย่างไรตอนนี้เขาก็ถูกขังอยู่ข้างใน สิ่งที่ควรพูดและไม่ควรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว!เห็นเขาที่ดูไม่สำนึกผิดเลยสักนิดเดียว หนิงหนานเสว่จึงหมดหวังกับคนผู้นี้โดยสิ้นเชิงแล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status