แม่สวีได้ยินดังนั้นก็สาวเท้าเข้าไปตบหน้าเธออย่างแรงไปฉาดหนึ่ง“ฉันว่าแล้วว่าทำไมพวกแกถึงไม่มีลูกกันมาหลายปี ที่แท้ก็เป็นเพราะแกไม่อยากมี แกนี่มันไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ!”แม่สวีกัดฟันมองเธอราวกับว่านี่ไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง แต่เป็นศัตรูคู่อาฆาต“ถ้าหากว่าระหว่างพวกแกมีลูกด้วยกันสักคน ต่อให้พวกแกจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วมันจะเป็นยังไงไปได้อีกเล่า อย่างน้อยพวกแกก็ยังมีสายใยผูกพันของตัวเอง ชีวิตนี้ของแกก็ไม่ต้องลำบากแล้ว แล้วน้องชายของแกอีก ก็ยิ่งไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย เป็นพี่สาวประสาอะไร ทำไมถึงได้เห็นแก่ตัวแบบนี้!”“น้องชาย น้องชาย! แม่ก็รู้แต่เรื่องน้องชาย หลายปีมานี้แม่เคยสนใจความเป็นความตายของหนูบ้างไหม? แม่ไม่เคยสนใจเลยว่าหนูจะอยู่หรือจะตาย ไม่เคยสนใจว่าชีวิตของหนูจะยากลำบากแค่ไหน แม่รู้แต่เรื่องน้องชาย รู้แต่เรื่องลูกชายของตัวเอง หรือว่ามีแค่น้องชายที่เป็นลูกของแม่ หนูไม่ใช่เหรอ?”สวีจือหรูหมดความอดทนโดยสิ้นเชิงและกรีดร้องออกมา เริ่มเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองสวีจ้าวเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันไม่หยุด ก็รู้สึกจนใจอยู่พักหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นว่า “แม่ครับ หลายปีมานี้พี่สาวก็ลำบากมากแล้วนะคร
ประธานฟู่ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือโปรเจกต์ของเยว่หวนกรุ๊ป ตอนนี้แผนกเทคนิคขาดผู้นำ ควรทำยังไงดีครับ? เลขาเฉินเปลี่ยนเรื่องทันทีเวลานี้เรื่องส่วนตัวของพวกเขาคือเรื่องที่สำคัญน้อยที่สุด เรื่องที่สำคัญมากที่สุดคือเรื่องของบริษัท“แผนกเทคนิคไม่มีทางแตกแยก หานเฟิงจะจัดการงานนี้เอง”“หนิงหนานเสว่ไม่สงบเสงี่ยมจริง ๆ ขนาดอยู่โรงพยาบาลยังไม่ลืมอ่อยผู้ชาย!”ฟู่เฉินพูดไปพูดมา อารมณ์กรุ่นโกรธก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้งเห็นเขามีท่าทางแบบนี้ เลขาเฉินก็เข้าใจแจ่มแจ้ง คนที่สูญเสียไปแล้วไม่มีทางช่วยกลับมาได้อีก!เขายิ้มแล้วหมุนกายเดินออกมา ไม่อยากอยู่ตรงนี้ รองรับความโกรธที่ไม่มีเหตุผลอีกต่อไป“สั่งข้าวกล่องที่ดีที่สุดให้เธอทุกวัน อย่าทำเหมือนตระกูลฟู่ของเราไม่มีข้าวให้เธอกิน!ฟู่เฉินส่งเสียงหึอย่างเย็นชา และสั่งการออกมาเลขาเฉินรู้ดีว่าที่ฟู่เฉินทำแบบนี้ก็เพราะความรักศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายกำลังก่อกวนเท่านั้นทว่าเขาไม่ได้พูดอะไรอีก กลับไปหาอาหารเดลิเวอรีที่แพงที่สุดจากหลาย ๆ ร้าน และเริ่มสั่งออเดอร์ทันทีอีกด้านหนึ่ง ในที่สุดสวีจ้าวก็ฟื้นขึ้นมา วินาทีที่ลืมตาก็รู้สึกตื่นตระหนกอย่างยิ่
เจียงเหยียนเชินมองท่าทางที่เข้าอกเข้าใจและมีเหตุผลของเธอ แรกเริ่มเขารู้สึกโมโห จากนั้นก็รู้สึกเห็นใจเขาจำได้ว่าสมัยเรียนหนิงหนานเสว่เป็นอย่างไร จึงรู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะเหตุใด ต้องเป็นเพราะหลายปีมานี้เธอถูกฟู่เฉินทรมานจนสูญเสียความโดดเด่นที่ตัวเองเคยมีไปเจียงเหยียนเชินข่มกลั้นความหวาดกลัวที่มีต่อเตี๋ยนเตี่ยน ก้าวเข้ามากอดหนิงหนานเสว่เอาไว้ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “เธอไม่ต้องประนีประนอม อยากทำอะไรก็ทำ”หนิงหนานเสว่รู้สึกงงงวย ทั้งรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งในใจอย่างบอกไม่ถูก เธอตบไหล่เจียงเหยียนเชินเบา ๆ “ฉันรู้ ฉันเขียนเค้าโครงวิธีแก้ปัญหาไว้แล้ว รุ่นพี่กลับไปก็จะเห็น”“เสว่เอ๋อร์ สิ่งที่เธออยากบอกฉันมีแค่นี้เหรอ?” เขามองหนิงหนานเสว่อย่างน้อยใจ “ตอนนี้สิ่งที่เธอจะพูดกับฉันก็มีแต่เรื่องงานเท่านั้นใช่ไหม?”เห็นเขามีท่าทางน้อยอกน้อยใจ หนิงหนานเสว่ก็เข้าใจความหมายของเขาอันที่จริง ตั้งแต่วินาทีที่ได้เจอเขาอีกครั้ง หนิงหนานเสว่ก็รู้ว่าตลอดหลายปีมานี้ ในใจเธอมีที่สำหรับเขาอยู่เสมอ ทว่าต่อให้เป็นแบบนี้แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของฟู่เฉินและยังเป็นแม่ของสุยสุย พวกเขาคลาดกันไปนานแ
“เตี๋ยนเตี่ยน โถ ลูกรักของแม่ แม่คิดถึงแกมากเลย!”เตี๋ยนเตี่ยนเห็นหนิงหนานเสว่ก็ดีใจสุด ๆ รีบถูไถออดอ้อนข้างกายเธอทันที พร้อมส่งเสียงเมี๊ยว ๆ ไม่หยุดเจียงเหยียนเชินยืนอยู่ไกล ๆ เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยกับพวกเขา มองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาน่าสงสาร “เธอยังจะกินซี่โครงอีกไหม?”หนิงหนานเสว่ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าเจียงเหยียนเชินกลัวสัตว์ เธอกอดเตี๋ยนเตี่ยนพลางยิ้มให้เจียงเหยียนเชิน “รุ่นพี่ เข้ามาลูบได้นะคะ เตี๋ยนเตี่ยนเชื่องมากจริง ๆ”แค่ดูก็รู้ว่าหลายวันมานี้ป้าจางเลี้ยงดูเตี๋ยนเตี่ยนเป็นอย่างดี ตอนที่เพิ่งเอากลับมายังขยุ้มเป็นก้อนอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นแมวตัวอ้วนกลมที่มีขนเงางามลื่นมือแล้วเจียงเหยียนเชินพยายามรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับเตี๋ยนเตี่ยนให้มากที่สุด จากนั้นวางกล่องข้าวไว้ตรงข้ามหนิงหนานเสว่ สูดลมหายใจเข้าอย่างจนใจ “ฉันกลัวเจ้าตัวนี้จริง ๆ นะ”“งั้นก็ได้” หนิงหนานเสว่หลุบตาลงด้วยความผิดหวังเล็กน้อย พลางลูบหัวเตี๋ยนเตี่ยน จากนั้นจึงหยิบแฟลชไดร์ฟที่ทำเสร็จแล้วส่งให้เจียงเหยียนเชิน “บักที่รุ่นพี่บอก ฉันแก้ไขให้แล้ว แต่ว่าฉันเจอปัญหาที่ใหญ่กว่า รุ่นพี่ แผนของพวกคุณถือได้ว่าสม
นี่มันเวลาไหนแล้ว เรื่องแต่งงานใหญ่แค่ไหนก็คงสู้เรื่องนี้ไม่ได้มั้ง?เห็นท่าทางเขาหมดอาลัยตายอยาก เจียงเหยียนเชินก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจก่อนพูดว่า “เรื่องนี้นายวางใจเถอะ ฉันรู้ดีน่า ฉันจะบอกนายให้นะว่าฉันได้มอบหมายเรื่องนี้ให้หนิงหนานเสว่แล้ว คาดว่าเย็นนี้ตอนฉันไปส่งข้าวก็คงมีข่าวดี”อะไรนะ?พอได้ยินแบบนี้ สวีชิวยิ่งรู้สึกไม่สบายไปทั้งคน เขามองเจียงเหยียนเชินอย่างไม่อยากเชื่อ “ประธานเจียง นายรู้ไหมว่านายกำลังทำอะไรอยู่? พวกเราและฟู่ซื่อกรุ๊ปเป็นคู่แข่งกันนะ! นายทำแบบนี้เหมือนตั้งใจเปิดเผยความลับของบริษัท! นายเชื่อไหมว่าฉันจะจับนายซะ!”เห็นเขาเอาเรื่องเอาราวใหญ่โตแบบนี้ เจียงเหยียนเชินก็หัวเราะออกมาเสียงดังแล้วพูดว่า“เรื่องนี้นายไม่ต้องห่วง เธอไม่มีทางทรยศพวกเรา พวกเรากับฟู่ซื่อกรุ๊ปเป็นคู่แข่งกัน แต่ว่าพวกเรากับหนิงหนานเสว่เป็นพาร์ตเนอร์กัน เหตุผลนี้นายน่าจะเข้าใจ ““เหล่าสวี ฉันรู้ว่านายอยากเรียกร้องความยุติธรรมแทนฉัน และก็รู้ว่านายไม่ชอบหนิงหนานเสว่ แต่ว่านายปฏิเสธไม่ได้ว่าความสามารถทางเทคนิคของเธอนั้นยอดเยี่ยมที่สุด นายไม่ควรปล่อยให้อคติมากระทบกับงาน กระทบกับความคืบหน้าของโปรเจก
“สวีจือหรูหาว่าผมเป็นหมา ฟู่เฉินไม่สนใจ แถมยังจะตบผมด้วย” เลขาเฉินยิ่งพูดยิ่งรู้สึกน้อยใจ!อย่างน้อยเขาก็จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ติดตามฟู่เฉินมาหลายปี แต่ต้องทนโดนดูถูกแบบนี้ แล้วยังไม่ได้รับความยุติธรรมอีก!นี่มันเรื่องอะไรกัน! ลูกจ้างก็เป็นคนนะ และก็มีอารมณ์โกรธเหมือนกัน!อะไรนะ?พอหนิงหนานเสว่ได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมาก เพราะไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้?ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้?ตอนนี้ฟู่เฉินเสียสติไปแล้วเพราะสวีจือหรู แม้แต่สมองก็ใช้การไม่ได้แล้ว ถึงปล่อยให้เขาดูถูกคนใกล้ตัวที่สนิทที่สุดของตัวเองตามอำเภอใจ?สมองของคนคนนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ มีปัญหาแน่นอน!“คุณวางใจเถอะ แค้นนี้ฉันจำไว้แล้ว วันหน้าฉันจะช่วยคุณเอาคืนแน่นอน”“ตอนนี้ฉันต้องการข้อมูลสำคัญของบริษัทในช่วงห้าปีที่ผ่านมา หาให้ได้ไหมคะ?”ในเมื่อทั้งสองคนตกลงร่วมมือกันแล้ว เช่นนั้นหนิงหนานเสว่ย่อมไม่จำเป็นต้องเกรงใจพาร์ตเนอร์ของตัวเองอีกเลขาเฉินพยักหน้าทันที “หาได้ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย พรุ่งนี้ตอนเย็นผมจะเอาให้คุณ”พูดจบเขาก็ลุกขึ้นมองหนิงหนานเสว่ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “การ