Share

บทที่ 4

Author: มู่เหลียนชิง
เห็นได้ชัดว่าโพสต์นี้ลืมบล็อคเธอ

แววตาของเธอลึกซึ้ง ไม่มีแม้แต่ระลอกคลื่น

สร้อยคอเพชรที่ส่งไปเมื่อวาน วันนี้ก็มือของสวีจือหรูแล้ว ประสิทธิภาพสูงจนน่าทึ่งจริง ๆ

แต่ก็จริง เพราะสวีจือหรูคือคนที่ฟู่เฉินให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

หนิงหนานเสว่หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เธอกำลังจะปิดโทรศัพท์

ก็มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นว่า

[หนานเสว่ อีกสิบวันผมจะกลับประเทศแล้วนะ]

รูปโปรไฟล์สีดำ

ตัวย่อคือ jyc

บุคคลนี้ติดอยู่ในรายชื่อติดต่อของเธอมาเป็นเวลานานแล้ว

นับ ๆ ดูแล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกันมาหกปีแล้ว

ลมหายใจของหนิงหนานเสว่หนักอึ้ง แต่ไม่พูดอะไรสักคำ

ตอนเวลาสี่โมงยี่สิบ ฟู่เฉินเพิ่งจะปลีกตัวจากการประชุมที่หนักหน่วง จนกระทั่งเลขาจางเตือน เขาถึงจำเรื่องที่จะไปรับฟู่สุยสุยได้

ครั้นแล้วก็เขาจึงนั่งรถตู้ธุรกิจแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนอนุบาล

ฟู่เฉินนวดขมับที่เหนื่อยล้าพลางเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำเล็กน้อย “เร็วหน่อย”

คนขับได้ยินดังนั้นก็ตอบรับเสียงเบา “ครับ”

ฟู่เฉินตั้งใจว่าจะไปรับลูกมาแล้วส่งให้หนิงหนานเสว่ จากนั้นค่อยไปบ้านของสวีจือหรู

และในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของฟู่เฉินก็ทำลายความเงียบ หน้าจอปรากฏชื่อ ‘สวีจือหรู’ ขึ้นอย่างชัดเจน

ฟู่เฉินกระพริบตาเบา ๆ ก่อนกดรับสาย

เสียงสั่นเครือของสวีจือหรูดังจากปลายสาย น้ำเสียงนั้นปนไปด้วยเสียงสะอื้น “ฟู่เฉิน หนั่วหมี่แย่แล้ว ตอนนี้มันมีฟองออกปาก หมอบอกว่ามันเป็นโรคชราหนักมาก คราวนี้มีโอกาสสูงมากที่จะไม่รอด...”

หนั่วหมี่เป็นสุนัขที่สวีจือหรูเลี้ยงไว้ เป็นของขวัญวันเกิดที่ฟู่เฉินเคยให้เธอ

ในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนแยกจากกัน หนั่วหมี่อยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดเวลา ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าของเธอ

สำหรับสวีจือหรู สุนัขตัวนี้ก็เหมือนลูกของพวกเขา

แววตาของฟู่เฉินหม่นหมองลงเล็กน้อย เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจเย็นว่า “ไม่ต้องกลัว อีกเดี๋ยวผมจะไป”

“ไม่... คุณต้องรีบมา” เสียงของสวีจือหรูเริ่มสั่น เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังร้องไห้ “ฉันกลัวมันจะไม่รอด...”

พูดถึงตรงนี้เธอก็เกือบจะพังทลาย

แววตาของฟู่เฉินจดจ่อเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของสวีจือหรู ในหัวของเขาก็ผุดภาพดวงตาที่คาดหวังคู่นั้นอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับเสียงที่เธอบอกว่าอยากให้เขามารับเธอ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ

สุดท้าย ความห่วงใยที่มีต่อสวีจือหรูก็มีมากกว่าฟู่สุยสุย

สวีจือหรูขาดเขาไม่ได้

“ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางสาย ฟู่เฉินก็สั่งคนขับว่า “กลับรถ ไปโรงพยาบาลสัตว์ซาง”

คนขับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบรับ “ได้ครับ ท่านประธานฟู่”

ฟู่เฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเลขาจาง บอกให้เขาไปรับฟู่สุยสุยแทน

จากนั้นวางโทรศัพท์ลง แล้วมองไปที่เค้กสตรอว์เบอร์รีชิ้นเล็กที่เลขาจางเตรียมไว้เป็นพิเศษด้วยสายตาที่หมองหม่นมาก เขาหลับตาลง ไม่อยากจะมองอีก

...

ฟู่สุยสุยมองดูท้องฟ้าที่เริ่มมีฝนตกปรอย ๆ ลมหนาวที่เย็นถึงกระดูกพัดเข้ามาหาเธอไม่หยุด ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอซีดขาวด้วยความหนาว เด็ก ๆ ในห้องเดียวกันกับเธอก็ถูกรับกลับไปหมดแล้ว

แม้แต่เด็กผู้หญิงคนสุดท้ายที่เดินออกไปก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัยว่า “สุยสุย เธอบอกว่าวันนี้พ่อเธอจะมารับไม่ใช่เหรอ...”

ในขณะนั้นเอง เด็กผู้ชายอีกคนก็หัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “เธอมันคนโกหก พ่อที่ไหนกัน เธอหลอกก็เชื่อ!”

ดวงตาของฟู่สุยสุยเปลี่ยนเป็นไม่มั่นใจ หน้าอกเล็ก ๆ ก็รู้สึกแน่นขึ้นมา

แต่เธอพูดปฏิเสธไม่ได้ เพราะเธอไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอมีพ่อจริง ๆ...

เพราะพ่อคนอื่นจะมาร่วมงานเลี้ยงผู้ปกครอง มาร่วมงานประชุมผู้ปกครอง แต่พ่อของเธอไม่เคยปรากฏตัวเลยสักครั้ง

พูดประโยคนั้นจบ พ่อของเด็กผู้ชายก็ตบหัวเขาเบา ๆ “พูดอะไรไร้สาระ? ขอโทษนะครับคุณครู”

พูดจบ พ่อของเด็กผู้ชายก็ดึงเขาไป

ส่วนคุณครูโน้มตัวลงถามว่า “สุยสุย วันนี้พ่อหนูไม่มารับเหรอจ๊ะ?”

ฟู่สุยสุยอยากจะบอกว่าวันนี้พ่อจะมารับเธอ แต่บางทีเธออาจจะทำให้พ่อลำบากใจ เธอไม่ควรจะรบกวนพ่อ...

ฟู่สุยสุยยิ้มจาง ๆ “คุณครูคะ คุณแม่มารับค่ะ”

“งั้นก็ดี ครูจะลองโทรหาคุณแม่หนูนะ” คุณครูเอ่ยอย่างอ่อนโยน

ฟู่สุยสุยกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจไว้ แล้วพูดว่า “รบกวนคุณครูด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

ตอนหนิงหนานเสว่ได้รับโทรศัพท์และรีบไปโรงเรียนอนุบาล ฝนก็กำลังตกหนักพอดี ลมหนาวจัด และฝนที่ตกกระหน่ำ ทำให้เธอแทบลืมตาไม่ขึ้น

เมื่อเธอมาถึงอย่างเหนื่อยหอบก็เห็นฟู่สุยสุยตัวเล็กจิ๋วหดตัวอยู่ในมุมหนึ่ง หนาวจนสั่นไปทั้งตัว

วินาทีนั้น หนิงหนานเสว่รู้สึกเหมือนหัวใจถูกกรีดด้วยมีดอย่างแรง จนเลือดไหลกระฉูด

น้ำเสียงที่สุยสุยพูดอย่างมีความสุขว่าวันนี้พ่อจะมารับดูเหมือนยังคงก้องอยู่ในหู

หนิงหนานเสว่รู้สึกเลือดลมขึ้นหน้าในชั่วพริบตา และรสคาวหวานก็พุ่งขึ้นมาถึงลำคอ

เธอเช็ดน้ำตาที่หางตาแล้วเชิดรอยยิ้มขึ้นมา “สุยสุย—”

ฟู่สุยสุยเงยหน้าเล็ก ๆ ขึ้น วินาทีที่เห็นหนิงหนานเสว่ ความน้อยใจ ความน่าสงสารทั้งหมดที่มีก็กลายเป็นเสียงเรียกอันแผ่วเบา “คุณแม่คะ”

เด็กน้อยตัวแค่นี้ เธอไม่พูดอะไรเลย และไม่บ่นสักคำ

เพียงเรียกแม่อย่างว่าง่าย

หนิงหนานเสว่รู้สึกเสียใจชั่วขณะหนึ่ง ถ้าตอนนั้นเธอไม่ยืนกรานที่จะอยู่กับฟู่เฉิน บางทีสุยสุยอาจจะเกิดมาในครอบครัวที่รักเธอ มีพ่อที่รักเธอ และแม่ที่ห่วงใยเธอ

เธอเดินเข้าไปกอดฟู่สุยสุย “แม่มาแล้วนะ แม่จะพาหนูกลับบ้าน ไม่ร้องนะลูกรัก”

ฟู่สุยสุยพยักหน้า น้ำตาไหลลงมาอย่างเงียบ ๆ

จากนั้นหนิงหนานเสว่ก็พาลูกกลับบ้าน

ร่างกายของฟู่สุยสุยอ่อนแอมาก พอถึงบ้านก็มีไข้สูงทันที

หนิงหนานเสว่สัมผัสใบหน้าเล็ก ๆ ที่ร้อนจัดของเธอ หัวใจเจ็บปวดจนชาไปหมด

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหนิงหนานเสว่ก็ดังขึ้น

คนที่โทรมาคือเลขาจาง

หนิงหนานเสว่คลุมผ้าห่มให้ฟู่สุยสุยดีแล้วก็เดินออกจากห้อง

ทันทีที่รับสาย เสียงขอโทษของเลขาจางก็ดังมาจากปลายสาย “ขอโทษนะครับคุณหนิง วันนี้ท่านประธานฟู่มีธุระด่วนกะทันหัน เลยให้ผมไปรับคุณสุยสุย แต่ผมมัวยุ่งอยู่กับการจัดการเอกสาร เลยไม่ทันได้ดูข้อความ เมื่อกี้ผมเพิ่งมาถึงโรงเรียนอนุบาล ได้ยินว่าคุณรับคุณหนูกลับไปแล้ว...”

หนิงหนานเสว่ไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ สายตาของเธอเย็นชาจนน่ากลัว “เขาไปไหน?”

น้ำเสียงที่สงบอย่างยิ่งนั้นแฝงด้วยความเย็นชาเล็กน้อย

ทางฝั่งเลขาจางชะงักไปชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด

หนิงหนานเสว่เอ่ยเสียงเรียบว่า “เลขาจาง ฉันคิดว่า ฉันในฐานะภรรยาของท่านประธานฟู่ซื่อกรุ๊ป ฉันมีสิทธิ์ที่จะถามว่าสามีของฉันไปไหน”

ในที่สุดเลขาจางก็เม้มปาก “สุนัขของคุณสวีป่วยครับ เธอร้องไห้ขอให้ท่านประธานไปดู ดังนั้นท่านประธานก็เลย...”

ดวงตาของหนิงหนานเสว่ไม่มีระลอกคลื่นใด ๆ

ลูกของเธอยังเทียบกับสุนัขของสวีจือหรูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

น่าตลกอะไรขนาดนี้!

รสคาวหวานพุ่งขึ้นมาถึงลำคอของหนิงหนานเสว่

“คุณแม่คะ…”

เมื่อหนิงหนานเสว่หันกลับมาก็เห็นฟู่สุยสุยเดินโซซัดโซเซออกมาจากห้อง ใบหน้าซีดเซียวเล็ก ๆ ฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณแม่คะ คุณแม่อย่าโกรธคุณพ่อเลยนะคะ...”

“หนูรู้ว่าคุณพ่อไม่ได้ตั้งใจ”

“คุณพ่อมีธุระต้องทำเยอะแยะ หนูรู้ค่ะ!”

วินาทีนั้น สำหรับหนิงหนานเสว่แล้ว มันไม่ต่างอะไรกับฟ้าถล่มแผ่นดินทลายเลย

ฟู่สุยสุยไอหนัก ๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นเดินเข้าไปกอดหนิงหนานเสว่ “คุณแม่คะ หนูอยากให้คุณแม่มีความสุขค่ะ”

ทันใดนั้น หนิงหนานเสว่พลันเจ็บจมูกอย่างมาก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 415

    หนิงหนานเสว่กลับมาถึงบ้าน เจียงเหยียนเชินเตรียมอาหารเย็นมากมายไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น หารือแผนการในขั้นต่อไปการยื่นขอสินเชื่อธนาคารของฟู่ซื่อกรุ๊ปถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เหตุผลก็คือสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ปน่าเป็นห่วง มีความเสี่ยงสูงเกินไปภายในห้องทำงานท่านประธาน ฟู่เฉินโยนเอกสารลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด เกิดเสียงทึบออกมาเขานวดหว่างคิ้ว พยายามคลายความเหนื่อยล้าหลายวันมานี้ แต่กลับพบว่าทุกอย่างไร้ประโยชน์สวีจือหรูยกนมร้อนเดินเข้ามา แธอสวมชุดนอนสีชมพูอ่อน ดูอ่อนโยนและเป็นกันเอง“อาเฉิน อย่าเหนื่อยเกินไปเลยค่ะ ดื่มนมแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ” เสียงของเธออ่อนโยน แฝงไปด้วยความเจ็บปวดใจฟู่เฉินรับนมมา แล้วดื่มไปอึกหนึ่ง ความอุ่นของนมเหมือนจะคลายความหงุดหงิดภายในใจของเขาได้เล็กน้อย“จือหรู ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทย่ำแย่มาก ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี” เขาถอนหายใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไร้กำลังสวีจือหรูเดินไปที่ด้านหลังของฟู่เฉิน แล้วนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา การเคลื่อนไหวของเธอนุ่มนวลและเอาใจใส่“อาเฉิน ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 414

    สวีจ้าวคิดจะฉกฉวยผลประโยชน์ตอนที่ผู้อื่นโชคร้าย ทว่าตอนนี้เพื่อบริษัทแล้ว เขาจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของสวีจ้าว“ฉันจะพิจารณาดู” ฟู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อสวีจ้าวเห็นดังนั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่พึงใจฟู่เฉินเดินมาถึงทางตันแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องยอมรับเงื่อนไขของเขาอีกด้านหนึ่ง หนิงหนานเสว่เริ่มแอบสืบสวนสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ป เธอพบจุดบางอย่างที่น่าสงสัย เงินทุนของฟู่ซื่อกรุ๊ปเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โครงการจำนวนมากมีการรายงานผลกำไรที่เป็นเท็จวิกฤตของฟู่ซื่อกรุ๊ปร้ายแรงยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกอย่างมาก“รุ่นพี่ ฉันตรวจพบบางอย่างที่น่าสนใจค่ะ” หนิงหนานเสว่นำผลการตรวจสอบส่งให้กับเจียงเหยียนเชิน“ทางฉันก็จะรวบรวมข้อมูลภายในบางส่วนของฟู่ซื่อกรุ๊ปไว้ด้วยเหมือนกัน สถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีนักจริง ๆ” เจียงเหยียนเชินตอบกลับ“อืม ถึงเวลาแล้วค่ะ” สายตาของหนิงหนานเสว่ฉายแววเย็นเยือก เธอจะไม่ปล่อยฟู่เฉินไปอย่างแน่นอนภายในโรงพยาบาล สวีจือหรูยังคงเล่นบทสะใภ้ยอดกตัญญูต่อหน้าแม่ฟู่อยู่ทุกวันเธอจะมาส่งอาหารที่เตรียมมาอย่างพิถีพิถันให้กับแม่ฟู่ และย

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 413

    หลังจากฟู่เฉินใช้ยาไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากฟู่ซื่อกรุ๊ปห้องทำงานท่านประธานของฟู่ซื่อกรุ๊ป เอกสารที่กองอยู่เป็นภูเขากระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะทำงานที่กว้างขวาง ฟู่เฉินขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเขานวดขมับที่ปวดตึง พยายามทำให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้าง ทว่าช่วงนี้สถานการณ์ของบริษัททำให้เขายากที่จะผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงอยู่ ๆ แม่ฟู่ก็ล้มป่วย บวกกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทเผชิญกับวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน“ประธานฟู่ คุณดื่มกาแฟสักแก้วเถอะค่ะ” สวีจือหรูยกกาแฟร้อนที่มีควันกรุ่น ๆ เดินเข้ามา รอยยิ้มอันอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “คุณยุ่งมาทั้งเช้าแล้ว พักผ่อนสักครู่เถอะนะ”ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้น พลางมองใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรู ความอบอุ่นพวยพุ่งขึ้นมาในใจเขารับกาแฟ แล้วดื่มไปหนึ่งอึก กาแฟที่มีรสขมเจือไปด้วยความอบอุ่น“จือหรู ขอบคุณนะ” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความซาบซึ้งและเหนื่อยล้า“คุณกับฉันยังจะเกรงใจอะไรกันคะ” สวีจือหรูเดินไปที่ข้างกายของฟู่เฉิน พลางนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา “ทางคุณป้าฉันจะดูแลให้ดีที

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 412

    “คุณหมอ แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?” ฟู่เฉินรีบก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวถาม“การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากครับ ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายแล้ว” หมอกล่าว “แต่ว่าผู้ป่วยอายุมากแล้ว ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ต้องการนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอีกสักระยะ”เมื่อฟู่เฉินได้ยินคำพูดของหมอ ในที่สุดก็คลายความวิตกกังวลลงเขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก รู้สึกหมดแรงไปหมดทั้งร่าง“ขอบคุณครับหมอ ขอบคุณพวกคุณ” ฟู่เฉินพูดด้วยความซาบซึ้ง“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำครับ” หมอกล่าว “ญาติสามารถเข้าไปดูผู้ป่วยได้แล้ว แต่ว่าอยากรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยนะครับ”ฟู่เฉินพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยแม่ฟู่นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ สีหน้าซีดขาว บนศีรษะมีผ้าก๊อซหนา ๆ พันอยู่ฟู่เฉินมองดูท่าทางที่อ่อนแอของแม่ฟู่ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตนเอง“แม่ ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ผมไม่ควรยั่วโมโหแม่” ฟู่เฉินกุมมือของแม่ฟู่เอาไว้ พลางกล่าวอย่างแผ่วเบา “แม่จะต้องหายเร็ว ๆ นะครับ ต่อไปผมจะไม่ทำให้แม่โกรธอีกแล้ว”เหมือนแม่ฟู่จะได้ยินคำพูดของฟู่เฉิน น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาไม่กี่วันต่อมา ฟู่เฉินเฝ้าอยู่ภายในโรงพยาบาล

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 411

    หลังจางวางโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรูก็มลายหายไป เข้ามาแทนที่ด้วยใบหน้าอันชั่วร้ายเธอมองดูโทรศัพท์มือถือในมือ พลางพึมพำกับตัวเองว่า “ยัยแก่ คอยดูไว้เถอะ พอฉันจัดการลูกชายของแกเสร็จแล้ว คนต่อไปก็คือแก!”และฟู่เฉินในตอนนี้ กำลังนั่นอยู่ภายในห้องทำงาน คิ้วขมวดมุ่นในเวลานี้เอง หน้าจอมือถือของฟู่เฉินก็สว่างขึ้น ข่าวบันเทิงฉบับหนึ่งเข้ามาสู่สายตาของเขา ความสัมพันธ์ของเจียงเหยียนเชินกับหนิงหนานเสว่ถูกเปิดเผย ทั้งสองคนไปเที่ยวด้วยกันอย่างหวานชื่น คาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้เมื่อฟู่เฉินมองเห็นท่าทางที่สนิทสนมของหนิงหนานเสว่กับเจียงเหยียนเชินในข่าวนี้ ความหงุดหงิดที่ไม่รู้สาเหตุก็พวยพุ่งขึ้นมาในใจเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วต่อสายหาหนิงหนานเสว่ ทว่าปลายสายกลับมีเสียงอัตโนมัติที่เย็นชาแว่วดังออกมา “ขออภัย สายที่ท่านเรียกยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”ฟู่เฉินโยนโทรศัพท์ไปด้านข้างอย่างหงุดหงิด เขาเพียงแค่รู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเท่านั้น ราวกับว่ามีไฟกองหนึ่งกำลังเผาไหม้ในโรงพยาบาล แม่ฟู่นอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมา ยากที่จะหลับลงภายในสมองของเธอปรากฏภาพของหนิงหนานเสว่กับเจ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 410

    ฟู่เฉินเห็นท่าทางอ่อนโยนของสวีจือหรูนั้น ความเหน็ดเหนื่อยในใจก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเขาโอบสวีจือหรูเข้ามาในอ้อมกอดเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ผมไม่เหนื่อย มีคุณอยู่ ผมก็ไม่เหนื่อยแล้ว”ทั้งสองคนพลอดรักกันอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นฟู่เฉินก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ใครกัน?” ฟู่เฉินถามขึ้น“อาเฉิน ฉันเอง” เสียงของแม่ฟู่ดังมาจากนอกประตู “แกเปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”ฟู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูทันทีที่แม่ฟู่ก้าวเข้ามา ก็เห็นฟู่เฉินกับสวีจือหรูในท่าทีที่สนิทสนมกัน ความโกรธในใจก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหายใจไม่ทั่วท้อง หน้าอกของแม่ฟู่พลันหายใจติดขัด และเป็นลมล้มลงไปแม่ฟู่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง อาการของเธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยอย่างที่สุดแม้ในใจของสวีจือหรูจะไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็จำต้องฝืนใจคอยดูแลแม่ฟู่ อย่างไรเสีย ต่อหน้าฟู่เฉิน เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ความอ่อนโยนและเอาใจใส่ของตัวเองไว้“ป้าคะ วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า?” สวีจือหรูถือชามโจ๊กชามหนึ่ง เดินมานั่งข้างเตียงผู้ป่วย เอ่ยถามเบา ๆ บนใบหน้าของเธอมีรอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status