Share

บทที่ 3

Author: มู่เหลียนชิง
ทันใดนั้น สุยสุยพลันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เพราะคุณแม่ชอบคุณพ่อมากยังไงล่ะคะ คุณพ่อไม่ชอบสุยสุยไม่เป็นไร แต่ชอบคุณแม่มากกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ?”

“ต่อไปนี้คุณพ่อดีกับคุณแม่ให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ...”

เสียงของเธอเบามาก ๆ ดวงตากลมโตคมเข้มมองไปยังฟู่เฉิน

แววตาของฟู่เฉินสั่นไหวเล็กน้อย

เป็นไปตามคาด

เขารู้อยู่แล้วว่าจุดประสงค์ของหนิงหนานเสว่ไม่ได้บริสุทธิ์ เพื่อลูกอย่างเดียว

“แม่เป็นคนสอนให้หนูพูดแบบนี้เหรอ?” ฟู่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา และแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน

“เปล่าค่ะ” ฟู่สุยสุยรีบส่ายหน้า

ฟู่เฉินย่อมไม่เชื่อแน่นอน ดวงตาของเขาเย็นชาลงเล็กน้อย

ฟู่สุยสุยรู้สึกว่าดูเหมือนคำพูดของเธอจะทำให้พ่อไม่พอใจ แต่เธอรู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอก็เหมือนกับเจ้าหญิงเงือกที่มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว ถึงแม้ว่าแม่จะบอกว่าอาการป่วยของเธอหายดีแล้ว แต่ความเป็นจริงเธอสามารถรับรู้ได้ว่าอาการป่วยของเธอร้ายแรงมาก ๆ

แต่เธอก็หวังว่าถ้าวันหนึ่งเธอกลายเป็นฟองแล้วกลับคืนสู่ท้องทะเล

ถ้าอย่างนั้น เธอก็หวังจะมีใครสักคนรักแม่ของเธอ

ฟู่สุยสุยลุกขึ้นยืน ย่ำเท้าบนพรมที่นุ่มสบายไปยังชั้นหนังสือเล็ก ๆ แล้วหยิบสมุดบันทึกเล่มหนึ่งออกมา “คุณพ่อคะ คุณแม่ชอบคุณพ่อมากจริง ๆ ค่ะ คุณพ่อลองดูข้างในได้นะ~”

ฟู่เฉินอึ้งไปชั่วขณะ จ้องมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของฟู่สุยสุย

เขารับสมุดบันทึกที่ห่อด้วยหนังวัวมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเก่ามากแล้ว

“คุณพ่อต้องดูให้ได้นะคะ” ฟู่สุยสุยยิ้มหวาน

แน่นอนว่าฟู่เฉินรู้ว่าหนิงหนานเสว่ชอบเขา ไม่ต้องให้คนอื่นบอก เขาก็เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเปิดสมุดบันทึกเล่มนั้นดูเลย แต่ก็ตอบว่า “อืม” คำหนึ่งอย่างขอไปที

เมื่อหนิงหนานเสว่ชงนมเสร็จกลับมา ฟู่สุยสุยก็เข้านอนอย่างว่าง่าย

หนิงหนานเสว่พาฟู่เฉินออกจากห้องนอนอย่างระมัดระวัง

พอปิดประตูและเดินห่างออกไปไกล หนิงหนานเสว่ถึงพูดว่า “พรุ่งนี้เช้าคุณไปส่งสุยสุยที่โรงเรียนด้วยตัวเอง คุณไม่ต้องนอนที่ห้องรับแขกหรอก ฉันจะนอนเอง”

เมื่อฟู่เฉินได้ยินดังนั้นก็เผลอแสยะยิ้มโดยไม่รู้ตัว “ทำไมเหรอ อยากจะฉวยโอกาสแอบปีนขึ้นเตียงผมตอนกลางคืนอีกแล้วเหรอ?”

คำดูถูกเหยียดหยามที่บาดหูนั้น ทำให้หนิงหนานเสว่หน้าซีดเผือดในทันที

หนิงหนานเสว่นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

ตอนที่เธอเพิ่งแต่งงานกับเขาใหม่ ๆ

เธอก็เคยทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นจริง ๆ

แม้ว่าคุณปู่จะสั่งให้เธอทำเช่นนั้น แต่เธอเองก็มีส่วนรู้เห็น

หลายปีมานี้เธอก็ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้แล้ว

หนิงหนานเสว่เม้มปาก “สบายใจได้ มันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

สายตาของฟู่เฉินเย็นชาลง “ขอให้เป็นอย่างนั้น”

หนิงหนานเสว่รู้ว่าเขาไม่เชื่อ และเธอก็ไม่มีหน้าที่ต้องอธิบายอะไร ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาได้จางหายไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่รักเขาแล้ว

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของฟู่เฉินก็ดังขึ้น เมื่อหนิงหนานเสว่เห็นชื่อ ‘จือหรู’ ปรากฏบนหน้าจอ

จึงเบือนหน้าหนีอย่างรู้ความ และได้ยินเสียงที่ทั้งทุ้มต่ำ ดึงดูด และนุ่มนวลของฟู่เฉินดังขึ้นด้านหลัง “หรูหรู...”

“อืม คืนนี้ไม่ไปแล้ว”

“พักผ่อนเยอะ ๆ นะ”

หัวใจของหนิงหนานเสว่สงบราวกับน้ำนิ่ง

....

เช้าวันรุ่งขึ้น หนิงหนานเสว่ทำหน้าที่จัดเสื้อผ้าให้สุยสุย

ส่วนฟู่เฉินยืนมองอยู่ข้าง ๆ

หนิงหนานเสว่ลุกขึ้นแล้วยื่นกระติกน้ำและกระเป๋านักเรียนให้ฟู่เฉินอย่างเป็นธรรมชาติ

ฟู่เฉินมองกระติกน้ำและกระเป๋านักเรียนสีชมพูแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เลขาจางที่อยู่ข้าง ๆ กำลังจะรับเอา แต่หนิงหนานเสว่ขัดจังหวะเสียก่อน “ฟู่เฉิน ถือไว้”

ฟู่เฉินมีแววตาซับซ้อนมากขึ้นเล็กน้อย แต่แล้วก็รับไว้

เลขาจางมองท่านประธานฟู่ผู้เย็นชาและเคร่งขรึมมาแต่ไหนแต่ไรถือของสีชมพูสดใสสองอย่างนี้ รู้สึกช่างเหมือนคุณพ่อมือใหม่อย่างไงอย่างงั้น และอดหัวเราะไม่ได้ชั่วขณะหนึ่ง

ส่วนสุยสุยเห็นภาพนี้แล้วก็รู้สึกมีความสุขมาก

เมื่อก่อนเธอได้เห็นพ่อแค่ในทีวี

วันนี้แม่อยู่ พ่อก็อยู่ด้วย...

เธอมีความสุขจริง ๆ

หนิงหนานเสว่จูบหน้าผากของสุยสุย “ตั้งใจกินข้าว ตั้งใจเรียนนะ” จากนั้นหันไปพูดกับฟู่เฉินว่า “ฝากคุณดูแลสุยสุยด้วย”

ฟู่เฉินพยักหน้า “เลขาจาง ติดต่อผู้ถือหุ้นใหญ่ อีกครึ่งชั่วโมงมาประชุมที่ฟู่ซื่อกรุ๊ป”

เลขาจางกลับมารับบทบาทในหน้าที่อีกครั้ง “ได้ครับ” เขาพูดไปพลางวิ่งเหยาะ ๆ ไปเปิดประตูรถให้ฟู่สุยสุย

จากนั้นสองพ่อลูกก็เดินตามกันขึ้นรถ

หนิงหนานเสว่มองตามทั้งสองคนจากไป

ภายในรถตกอยู่ความเงียบงันไปชั่วขณะ สองพ่อลูกไม่เคยได้อยู่ด้วยกันมาก่อน แม้แต่เลขาจางที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

แต่สิ่งที่ฟู่เฉินไม่รู้ก็คือ สำหรับสุยสุยในตอนนี้ การได้อยู่กับพ่อของตัวเองก็เป็นเรื่องที่มีความสุขอย่างยิ่ง

เธอเริ่มตั้งตารอคอยวันพรุ่งนี้ วันมะรืน

และอีกมากมาย...

เธอรู้สึกว่าตัวเองโลภไปหน่อยแล้ว

จู่ ๆ สายตาที่คาดหวังของฟู่สุยสุยก็หันไปมองฟู่เฉิน

ฟู่เฉินเงยหน้ามองเธอ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเป็นธรรมชาติว่า “มีอะไรเหรอ?”

ฟู่สุยสุยไอเบา ๆ ก่อนเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาที่แฝงด้วยความคาดหวังว่า “คุณพ่อคะ วันนี้เลิกเรียน คุณพ่อจะมารับหนูได้ไหมคะ? ถ้าคุณพ่อยุ่งก็ไม่เป็นไรค่ะ...”

พูดไปเสียงของฟู่สุยสุยก็ยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ

เพราะเธอไม่มั่นใจ

แววตาของฟู่เฉินลึกซึ้งขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่อยู่ด้วยกันเมื่อวาน เขาก็พบว่าเขาไม่ถึงกับเกลียดเด็กคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาสัญญากับหนิงหนานเสว่แล้วว่าจะใช้เวลาอยู่เธอในฐานะพ่อ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไปรับเธอสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

“หนูเลิกเรียนกี่โมง?”

น้ำเสียงของฟู่สุยสุยเปลี่ยนเป็นร่าเริงทันที เอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายว่า “สี่โมงครึ่งค่ะ”

“อืม” ฟู่เฉินตอบ

ฟู่สุยสุยรู้สึกเหมือนตัวเองนอนอยู่ในกองนุ่นนุ่ม ๆ ถ้าช่วงเวลานี้เป็นความฝัน งั้นเธอก็ไม่อยากตื่น

เธอยิ้มหวานทันที

ดวงตาของฟู่เฉินผุดรอยยิ้มจาง ๆ แต่แววตากลับซับซ้อนขึ้นมาก เด็กใสซื่อ ถ้าไม่ใช่ลูกของหนิงหนานเสว่ บางทีเขาอาจจะชอบเธอมากก็ได้

ฟู่สุยสุยถูกส่งมาถึงโรงเรียนอนุบาล พอถึงห้องเรียนก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความเสียงไปหาแม่ผ่านสมาร์ทวอทช์

“คุณแม่คะ หนูจะบอกว่าวันนี้คุณพ่อบอกว่าจะมารับหนูด้วยค่ะ!” น้ำเสียงที่น่ารักเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และจงใจพูดเสียงดังจนเด็กคนอื่นที่อยู่ข้าง ๆ ต่างหันมามองเธอ

“ฟู่สุยสุย วันนี้พ่อเธอจะมารับเธอเหรอ?” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้

ฟู่สุยสุยทำเสียงฮึฮึสองครั้ง “แน่นอน”

“ดีจังเลย~” เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ดีใจกับเธอด้วย เพราะคนในห้องเรียนบอกว่าฟู่สุยสุยไม่มีพ่อ เป็นเด็กนอกคอก

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าเธอไม่มีพ่ออีกแล้ว

และในใจของฟู่สุยสุยเองก็กำลังตั้งตารอเวลาเลิกเรียนอย่างใจจดใจจ่อ

...

ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของหนิงหนานเสว่เพิ่งเปิดฟังข้อความเสียง “คุณแม่คะ หนูจะบอกว่าวันนี้คุณพ่อบอกว่าจะมารับหนูด้วยค่ะ!”

แววตาของเธออ่อนโยนลงในทันทีอย่างอดไม่ได้ มุมปากก็เผลอยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่หัวใจกลับเจ็บปวดลึก ๆ

ในช่วงเวลาสุดท้าย เธอต้องพยายามทำให้สุยสุยมีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตราบใดที่สุยสุยมีความสุข เธอก็พร้อมที่จะทำทุกสิ่งอย่าง

เธอส่งข้อความเสียงกลับไปเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้นวันนี้แม่ก็จะไม่ไปรับหนูนะ สุยสุยสู้ ๆ”

หนิงหนานเสว่เปิดดูหน้าไทม์ไลน์ และโพสต์แรกที่เด้งขึ้นมาคือโพสต์ของเลขาจาง ภาพประกอบเป็นรูปต่างหูเพชรสีชมพูคู่หนึ่ง พร้อมข้อความบรรยายว่า ของประมูลที่ท่านประธานกำชับไว้เป็นพิเศษ! วันนี้เป็นอีกวันที่อิจฉาคุณสวี! เศรษฐีบนโลกนี้มีตั้งมากมาย ทำไมถึงไม่เป็นฉันบ้างล่ะ! T_T
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 415

    หนิงหนานเสว่กลับมาถึงบ้าน เจียงเหยียนเชินเตรียมอาหารเย็นมากมายไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น หารือแผนการในขั้นต่อไปการยื่นขอสินเชื่อธนาคารของฟู่ซื่อกรุ๊ปถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เหตุผลก็คือสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ปน่าเป็นห่วง มีความเสี่ยงสูงเกินไปภายในห้องทำงานท่านประธาน ฟู่เฉินโยนเอกสารลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด เกิดเสียงทึบออกมาเขานวดหว่างคิ้ว พยายามคลายความเหนื่อยล้าหลายวันมานี้ แต่กลับพบว่าทุกอย่างไร้ประโยชน์สวีจือหรูยกนมร้อนเดินเข้ามา แธอสวมชุดนอนสีชมพูอ่อน ดูอ่อนโยนและเป็นกันเอง“อาเฉิน อย่าเหนื่อยเกินไปเลยค่ะ ดื่มนมแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ” เสียงของเธออ่อนโยน แฝงไปด้วยความเจ็บปวดใจฟู่เฉินรับนมมา แล้วดื่มไปอึกหนึ่ง ความอุ่นของนมเหมือนจะคลายความหงุดหงิดภายในใจของเขาได้เล็กน้อย“จือหรู ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทย่ำแย่มาก ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี” เขาถอนหายใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไร้กำลังสวีจือหรูเดินไปที่ด้านหลังของฟู่เฉิน แล้วนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา การเคลื่อนไหวของเธอนุ่มนวลและเอาใจใส่“อาเฉิน ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 414

    สวีจ้าวคิดจะฉกฉวยผลประโยชน์ตอนที่ผู้อื่นโชคร้าย ทว่าตอนนี้เพื่อบริษัทแล้ว เขาจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอของสวีจ้าว“ฉันจะพิจารณาดู” ฟู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความหงุดหงิดเมื่อสวีจ้าวเห็นดังนั้น ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มที่พึงใจฟู่เฉินเดินมาถึงทางตันแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องยอมรับเงื่อนไขของเขาอีกด้านหนึ่ง หนิงหนานเสว่เริ่มแอบสืบสวนสถานการณ์ทางการเงินของฟู่ซื่อกรุ๊ป เธอพบจุดบางอย่างที่น่าสงสัย เงินทุนของฟู่ซื่อกรุ๊ปเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โครงการจำนวนมากมีการรายงานผลกำไรที่เป็นเท็จวิกฤตของฟู่ซื่อกรุ๊ปร้ายแรงยิ่งกว่าที่เห็นภายนอกอย่างมาก“รุ่นพี่ ฉันตรวจพบบางอย่างที่น่าสนใจค่ะ” หนิงหนานเสว่นำผลการตรวจสอบส่งให้กับเจียงเหยียนเชิน“ทางฉันก็จะรวบรวมข้อมูลภายในบางส่วนของฟู่ซื่อกรุ๊ปไว้ด้วยเหมือนกัน สถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีนักจริง ๆ” เจียงเหยียนเชินตอบกลับ“อืม ถึงเวลาแล้วค่ะ” สายตาของหนิงหนานเสว่ฉายแววเย็นเยือก เธอจะไม่ปล่อยฟู่เฉินไปอย่างแน่นอนภายในโรงพยาบาล สวีจือหรูยังคงเล่นบทสะใภ้ยอดกตัญญูต่อหน้าแม่ฟู่อยู่ทุกวันเธอจะมาส่งอาหารที่เตรียมมาอย่างพิถีพิถันให้กับแม่ฟู่ และย

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 413

    หลังจากฟู่เฉินใช้ยาไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากฟู่ซื่อกรุ๊ปห้องทำงานท่านประธานของฟู่ซื่อกรุ๊ป เอกสารที่กองอยู่เป็นภูเขากระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะทำงานที่กว้างขวาง ฟู่เฉินขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเขานวดขมับที่ปวดตึง พยายามทำให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้าง ทว่าช่วงนี้สถานการณ์ของบริษัททำให้เขายากที่จะผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงอยู่ ๆ แม่ฟู่ก็ล้มป่วย บวกกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทเผชิญกับวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน“ประธานฟู่ คุณดื่มกาแฟสักแก้วเถอะค่ะ” สวีจือหรูยกกาแฟร้อนที่มีควันกรุ่น ๆ เดินเข้ามา รอยยิ้มอันอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล “คุณยุ่งมาทั้งเช้าแล้ว พักผ่อนสักครู่เถอะนะ”ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้น พลางมองใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรู ความอบอุ่นพวยพุ่งขึ้นมาในใจเขารับกาแฟ แล้วดื่มไปหนึ่งอึก กาแฟที่มีรสขมเจือไปด้วยความอบอุ่น“จือหรู ขอบคุณนะ” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความซาบซึ้งและเหนื่อยล้า“คุณกับฉันยังจะเกรงใจอะไรกันคะ” สวีจือหรูเดินไปที่ข้างกายของฟู่เฉิน พลางนวดไหล่ให้เขาอย่างแผ่วเบา “ทางคุณป้าฉันจะดูแลให้ดีที

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 412

    “คุณหมอ แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?” ฟู่เฉินรีบก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าวถาม“การผ่าตัดประสบความสำเร็จมากครับ ผู้ป่วยพ้นขีดอันตรายแล้ว” หมอกล่าว “แต่ว่าผู้ป่วยอายุมากแล้ว ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ต้องการนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการอีกสักระยะ”เมื่อฟู่เฉินได้ยินคำพูดของหมอ ในที่สุดก็คลายความวิตกกังวลลงเขาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก รู้สึกหมดแรงไปหมดทั้งร่าง“ขอบคุณครับหมอ ขอบคุณพวกคุณ” ฟู่เฉินพูดด้วยความซาบซึ้ง“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรทำครับ” หมอกล่าว “ญาติสามารถเข้าไปดูผู้ป่วยได้แล้ว แต่ว่าอยากรบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยนะครับ”ฟู่เฉินพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยแม่ฟู่นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ สีหน้าซีดขาว บนศีรษะมีผ้าก๊อซหนา ๆ พันอยู่ฟู่เฉินมองดูท่าทางที่อ่อนแอของแม่ฟู่ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตนเอง“แม่ ผมขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ผมไม่ควรยั่วโมโหแม่” ฟู่เฉินกุมมือของแม่ฟู่เอาไว้ พลางกล่าวอย่างแผ่วเบา “แม่จะต้องหายเร็ว ๆ นะครับ ต่อไปผมจะไม่ทำให้แม่โกรธอีกแล้ว”เหมือนแม่ฟู่จะได้ยินคำพูดของฟู่เฉิน น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาไม่กี่วันต่อมา ฟู่เฉินเฝ้าอยู่ภายในโรงพยาบาล

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 411

    หลังจางวางโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าที่อ่อนโยนของสวีจือหรูก็มลายหายไป เข้ามาแทนที่ด้วยใบหน้าอันชั่วร้ายเธอมองดูโทรศัพท์มือถือในมือ พลางพึมพำกับตัวเองว่า “ยัยแก่ คอยดูไว้เถอะ พอฉันจัดการลูกชายของแกเสร็จแล้ว คนต่อไปก็คือแก!”และฟู่เฉินในตอนนี้ กำลังนั่นอยู่ภายในห้องทำงาน คิ้วขมวดมุ่นในเวลานี้เอง หน้าจอมือถือของฟู่เฉินก็สว่างขึ้น ข่าวบันเทิงฉบับหนึ่งเข้ามาสู่สายตาของเขา ความสัมพันธ์ของเจียงเหยียนเชินกับหนิงหนานเสว่ถูกเปิดเผย ทั้งสองคนไปเที่ยวด้วยกันอย่างหวานชื่น คาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้เมื่อฟู่เฉินมองเห็นท่าทางที่สนิทสนมของหนิงหนานเสว่กับเจียงเหยียนเชินในข่าวนี้ ความหงุดหงิดที่ไม่รู้สาเหตุก็พวยพุ่งขึ้นมาในใจเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วต่อสายหาหนิงหนานเสว่ ทว่าปลายสายกลับมีเสียงอัตโนมัติที่เย็นชาแว่วดังออกมา “ขออภัย สายที่ท่านเรียกยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”ฟู่เฉินโยนโทรศัพท์ไปด้านข้างอย่างหงุดหงิด เขาเพียงแค่รู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเท่านั้น ราวกับว่ามีไฟกองหนึ่งกำลังเผาไหม้ในโรงพยาบาล แม่ฟู่นอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมา ยากที่จะหลับลงภายในสมองของเธอปรากฏภาพของหนิงหนานเสว่กับเจ

  • ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว   บทที่ 410

    ฟู่เฉินเห็นท่าทางอ่อนโยนของสวีจือหรูนั้น ความเหน็ดเหนื่อยในใจก็หายไปเป็นปลิดทิ้งเขาโอบสวีจือหรูเข้ามาในอ้อมกอดเบา ๆ แล้วเอ่ยว่า “ผมไม่เหนื่อย มีคุณอยู่ ผมก็ไม่เหนื่อยแล้ว”ทั้งสองคนพลอดรักกันอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นฟู่เฉินก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น“ใครกัน?” ฟู่เฉินถามขึ้น“อาเฉิน ฉันเอง” เสียงของแม่ฟู่ดังมาจากนอกประตู “แกเปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”ฟู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูทันทีที่แม่ฟู่ก้าวเข้ามา ก็เห็นฟู่เฉินกับสวีจือหรูในท่าทีที่สนิทสนมกัน ความโกรธในใจก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหายใจไม่ทั่วท้อง หน้าอกของแม่ฟู่พลันหายใจติดขัด และเป็นลมล้มลงไปแม่ฟู่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง อาการของเธอเดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ ซ้ำไปซ้ำมา ทำให้ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยอย่างที่สุดแม้ในใจของสวีจือหรูจะไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็จำต้องฝืนใจคอยดูแลแม่ฟู่ อย่างไรเสีย ต่อหน้าฟู่เฉิน เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ความอ่อนโยนและเอาใจใส่ของตัวเองไว้“ป้าคะ วันนี้รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า?” สวีจือหรูถือชามโจ๊กชามหนึ่ง เดินมานั่งข้างเตียงผู้ป่วย เอ่ยถามเบา ๆ บนใบหน้าของเธอมีรอย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status