สมาคมการค้าก่อตั้งขึ้น เพียงเพราะต้องการ?นั่นต้องใช้ความแข็งแกร่งและความมั่งคั่งมหาศาลสมาคมการค้าจะต้องมีบุคคลที่ทรงพลังอย่างน้อยหนึ่งคนจากอาณาจักรจักรวาล มานั่งตำแหน่ง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการถูกกองกำลังอื่นจับตามองไม่อย่างนั้น ไม่ว่าจะมีความมั่งคั่งมากเพียงใด ก็จะตกของคนอื่น“เทพธิดาเย่ งั้นเรามาทำข้อตกลงกันเถอะ หลังจากงานเลี้ยงที่มหาดวงดาวเสร็จสิ้น เราจะไปที่ศูนย์กลางที่พลุกพล่านที่สุดของกาแล็กซีทางช้างเผือก เรื่องการเงินฉันจะจัดการเอง ส่วนคุณจัดการเรื่องการสนับสนุน เราสามารถจัดตั้งสมาคมธุรกิจเพื่อความสนุกสนาน และฉันจะไม่ขอให้คุณหาเงินมากมาย ฉันแค่คิดว่าสมาคมการค้านั้นฟังดูน่าสนใจ" หลินตงกล่าว“โอเค! เนื่องจากท่านหลินพูดเช่นนั้น ก็ไม่มีเหตุผลใดที่ชิงหวู่จะไม่ไปกับคุณ แต่ถ้าเราเสียเงินในภายหลัง อย่าโทษฉัน" เย่ชิงหวู่ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อทั้งสองกำลังสนทนากันอย่างมีความสุข“ปัง!!!”ประตูลานถูกเตะเปิดออกนายน้อยสามโหลวเดินเข้ามา ด้วยท่าทางหาเรื่องหลินตงมองนายน้อยสามโหลวด้วยสายตาไม่เป็นมิตรคนนี้มีเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า?“ฉันไม่ทราบว่านายน้อยสามมาทำอะไรที่นี่?" เย่ชิงหวู่ถาม
“ก่อนที่ฉันจะบอกเงื่อนไข ฉันต้องถามคุณก่อน คุณต้องตอบอย่างตรงไปตรงมา ก่อนที่ฉันจะบอกเงื่อนไขได้”“เชิญพูดมาได้!!!”“ตอนนี้คุณยังบริสุทธิ์อยู่ไหม?”เรื่องนี้……เย่ชิงหวู่ไม่ได้ตอบทันที แต่เหลือบมองหลินตงข้างๆ เธอ และพบว่าเขายังคงมีท่าทีสงบ“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าชิงหวู่ผู้นี้จะพบปะกับผู้ชายหลายคน รวมถึงคนที่คอยจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด แต่ชิงหวู่ก็ยังบริสุทธิ์มาโดยตลอด และไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับใครเลย โดยธรรมชาติแล้ว ฉันบริสุทธิ์ และแม้แต่จูบแรกของฉันก็ถูกเก็บเอาไว้จนถึงตอนนี้ รอคอยผู้ชายที่ครอบครองหัวใจของฉันอย่างแท้จริง เพื่อที่ฉันจะมอบกายให้เขาและใช้ชีวิตกับเขาไปตลอดชีวิต” เย่ชิงหวู่ตอบอย่างหนักแน่นคำพูดเหล่านี้ไม่ใช่แค่ให้นายน้อยสามโหลวได้ยินเท่านั้นคำพูดเหล่านี้ยังมีไว้สำหรับหลินตงด้วยเพราะในใจของเธอ หลินตงคือผู้ชายที่เธอกำลังรอคอยเมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงหวู่ หลินตงก็หันศีรษะด้วยความประหลาดใจและมองไปที่เธอโดยไม่คาดคิด หลังจากที่เย่ชิงหวู่พูดจบ เธอก็หันศีรษะไปมองหลินตงทั้งสองมองหน้ากันสายตาของเทพธิดาเย่?ค่อนข้างคุ้นเคย!เคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?
“ขออภัย นายน้อยสาม ฉันไม่สามารถตกลงตามเงื่อนไขนี้ได้ ฉันบอกไปแล้วว่าฉันต้องการยกให้กับคนที่ฉันรอคอย แต่คุณไม่ใช่ ดังนั้นโปรดเปลี่ยนเงื่อนไขด้วย!” เย่ชิงหวู่ปฏิเสธ“วันนี้มันเกินการควบคุมของเธอแล้ว! เย่ชิงหวู่ ฉันแนะนำให้เธอตอบตกลงอย่างเชื่อฟัง! ยอมนอบน้อมเพื่อที่ฉันจะได้อ่อนโยนกับเธอสักนิด มิฉะนั้น อย่าโทษฉันที่ไม่แสดงความเมตตาในภายหลัง” นายน้อยสามโหลวกล่าวด้วยรอยยิ้มลามก“นายน้อยสาม โปรดแสดงเคารพบ้าง ชิงหวู่จะไม่ตกลงกับคุณ ดังนั้นเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว” เย่ชิงหวู่ตอบด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองและสวยงามในขณะนี้ปรากฏว่าเธอตัดสินเขาผิดจริงๆ มาก่อนเธอไม่คาดคิดว่านายน้อยสามโหลวจะพูดจาโผงผางเช่นนั้น เขาเป็นเพียงคนเลวทรามต่ำช้า“โอ้? อย่างนั้นเหรอ? เย่ชิงหวู่ หลินตงคือผู้ชายที่เธอรอคอยใช่ไหม? เมื่อฉันหักแขนขาเขาและให้เขาเห็นว่าเธอโดนฉันย่ำยีเธอยังไง ฉันจะดูว่าเธอจะละอายใจไหม”“คุณ... ไร้ยางอาย... " เย่ชิงหวู่ชี้ไปที่นายน้อยสามโหลวและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"เดี๋ยวจะมีคนไร้ยางอายกว่านี้"หลังจากนายน้อยสามโหลวพูดจบ เขาก็เมินเย่ชิงหวู่และมองหลินตงต่อไปโดยพูด: "ไอ้หนู แกหักแขนหักขาตัวเองห
ตั้งแต่วินาทีที่นายน้อยสามโหลวเข้ามาในประตู ก็ได้เมินหลินตงอย่างสิ้นเชิงและไม่เห็นหัวเขาเลยสักนิด!ราวกับว่าหลินตงเป็นเหมือนปลาบนเขียง ปล่อยให้เขาถูกเชือดตามใจชอบและหลินตงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดโดยไม่พูดอะไรเลยเขาต้องการดูว่านายน้อยสามโหลวต้องการทำอะไรกันแน่เรื่องนี้มาถึงจุดนี้แล้วในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วนายน้อยสามโหลวกับย่ชิงหวู่มาถึงจุดที่กู่ไม่กลับแล้ว นายน้อยสามโหลวตั้งใจที่จะกำจัดหลินตง และชิงเย่ชิงหวู่มาเป็นของตัวเองหลินตงรู้สึกไร้หนทางอย่างมากการช่วยใครก็ตามบนท้องถนนก็อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้เช่นกันตอนนี้ประดังประเดเรื่องของตระกูลเฟิงยังไม่ได้รับการแก้ไข ยังต้องมาจัดการเรื่องตระกูลโหลวด้วยและตระกูลโหลวก็ทรงพลังกว่าตระกูลเฟิงมาก พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลโหลวก็อยู่ในอันดับที่สองในกลุ่มแปดตระกูลใหญ่ เหนือกว่าตระกูลเฟิงที่มีอันดับต่ำกว่าหลายขุมแต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่สมารถอยู่เฉยได้จริงๆเย่ชิงหวู่เป็นส่วนสำคัญของแผนการใช้เงินที่จะเกิดขึ้นของหลินตงไม่ควรมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในขณะนี้และด้วยการที่โห
ทำให้เขารู้สึกเหมือนกองเนื้อเน่าที่ไม่อาจออกแรงได้ทั่วร่างกายความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย และนายน้อยสามโหลวก็เปิดปากอยากจะส่งเสียงออกมาแต่เนื่องจากคอของเขาถูกบีบแน่นเขาจึงทำได้เพียงแค่ส่งเสียง "อา อา..." เท่านั้นเพียงแค่จากท่าทางบนใบหน้าของนายน้อยสามโหลว ก็เห็นได้ว่าตอนนี้เขาน่าจะเจ็บปวดมากนายน้อยสามโหลวไม่มีท่าทีต่อต้านและมือของเขาห้อยลงอย่างอ่อนแรง ไม่สามารถดิ้นรนได้ เขาทำได้เพียงแค่เบิกตากว้างและจ้องไปที่ใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆ เท่านั้นรัศมีที่แผ่ออกมาในตอนแรกและอยู่ในระดับจ้าวจักรวาลช่วงต้นก็หยุดลงอย่างกะทันหันในทันทีลานบ้านที่สั่นสะเทือนก็สงบลงเมื่อกี้เหมือนมีพายุโหมกระหน่ำ และจู่ๆ ก็ท้องฟ้าก็กลับมาสดใสอีกครั้งเธอมองไปรอบๆ ด้วยความสับสนภาพตรงหน้าของเธอทำให้เธอตกใจจนแทบสิ้นสติเห็นหลินตงจับคอของนายน้อยสามโหลวด้วยมือข้างเดียว และยกเขาขึ้นอย่างง่ายดายมือของโหลวซานห้อยลงมา ร่างกายของเขาอ่อนปวกเปียกไปหมด โดยมีเพียงมือของหลินตงคอยพยุงไว้ในขณะนั้น เล่ยชางชิง ซึ่งกำลังเฝ้าดูจากระยะไกล ก็ตกตะลึงเช่นกันทันทีที่นายน้อยสามโหลวบุกเข้าไปในลานบ้านของหลินตง เขา
“ปล่อยนายน้อยสามโหลว ฉันจะเหลือให้ศพของแกครบสามสิบสอง” ลุงฟู่พูดในขณะนั้น เขากำลังอยู่ในอาการโกรธที่ไม่อาจควบคุมได้ได้ติดตามนายน้อยสามโหลวมาหลายปีแล้วแน่นอนว่าต้องการช่วยให้นายน้อยสามโหลวกลายเป็นหัวหน้าตระกูลโหลวด้วยวิธีนี้ สถานะและอิทธิพลของลุงฟู่จะยกระดับขึ้นสูงตอนนี้ การกระทำของหลินตงได้ทำลายความหวังนั้นลงความพยายามทั้งหมดสูญเปล่าสิ่งนี้จะทำให้เขาไม่โกรธในใจได้อย่างไร?หลินตงโยนเขาทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจ“ปัง!!!”นายน้อยสามโหลวหล่นลงกับพื้น“ฟู่... ลุงฟู่ ช่วย... ช่วยฉันด้วย! ฆ่า... ฆ่าหลินตง" นายน้อยสามโหลวกล่าวด้วยความเจ็บปวดในฐานะผู้ทรงพลังระดับจ้าวจักรวาลนายน้อยสามโหลวสามารถเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองได้อย่างชัดเจนยกเว้นอวัยวะสำคัญบางส่วนทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลายโดยหลินตงหากไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น คงไปสวัสดียมบาลแล้วในฐานะทายาทโดยตรงของตระกูลโหลวไม่สามารถยอมรับที่ตนจะกลายเป็นคนพิการได้นายน้อยสามโหลวรู้ดีเกี่ยวกับตระกูลโหลวการพิการหมายถึงการตัดหางปล่อยวัด“แกต้องการล้างแค้นให้เขาหรืเปล่า?" หลินตงมองไปที่ชายชราและถาม“แกรู้ไหมว่าคนบนพื้นดินเป็นใคร?" ลุ
ก่อนจะพิการ นายน้อยสามอาจมีใจสู้ต่อ แต่เขากลับทำไม่ได้ยิ่งกว่านั้น นายน้อยสามก็พิการไปแล้วความหวังทั้งหมดของเขาก็พังทลายไปพร้อมๆ กันลุงฟู่ยังต้องคำนึงถึงลูกหลานของเขาด้วย ไม่ควรไปขัดใจเล่ยชางชิงมากเกินไป“น้องหลิน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ โปรดไว้หน้าให้เล่ยผู้นี้บ้างเถอะ" เล่ยชางชิงปลอบใจลุงฟู่และหันไปมองหลินตงแล้วพูด“อย่า!!! ฉันไม่มีพี่อย่างนาย ฉันเป็นคนเรียบง่าย ใครก็ตามที่อยากฆ่าฉัน ฉันจะฆ่าเขา ใครก็ตามที่กล้าคุกคามครอบครัวของฉัน ฉันจะทำลายครอบครัวของพวกเขาทั้งหมด" หลินตงพูดอย่างไม่แยแสเขาสังเกตเห็นแล้วว่าเล่ยชางชิงกำลังดูละครจากระยะไกลหลินตงไม่มีความประทับใจที่ดีต่อคนคนนี้เลยเล่ยชางชิงขมวดคิ้ว กำลังจะเรียกพ่อของเขา เรย์มอนด์ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยอันอ่อนแอขัดจังหวะพวกเขา“ฮ่า….ฮ่าๆ... ฮ่าๆ... หลินตง เย่ชิงหวู่ แกคิดว่าพวกแกชนะแล้วเหรอ แกคิดผิดแล้ว ทุกคนในที่นี้จะต้องตาย และไม่มีใครหนีรอดได้ ดังนั้น... จงสนุกกับช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะมาถึงนี้! รู้สึกถึงความกลัวที่กำลังมาถึง ฮ่าๆ..." นายน้อยสามโหลวนอนลงบนพื้นแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบานี่เป็นครั้งที่สองที่หลินตงได
“ฮ่าๆ... ไร้ประโยชน์! ทุกคนจะต้องตาย และไม่มีใครสามารถหลบหนีได้ เศษซากอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายร้อยปีแล้ว ตอนนี้ที่พวกมันปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน จะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่แน่นอน พวกมันเกลียดอาณาจักรอย่างถึงที่สุด และครั้งนี้พวกมันต้องเตรียมพร้อมมาด้วย แม้แต่องครักษ์เกราะจักรพรรดิที่คอยปกป้ององค์หญิงอย่างลับๆ ก็ถูกทำลายล้างได้อย่างง่ายดาย พวกแกยังอยากต่อต้านเศษซากอาณาจักรสวรรค์อยู่ไหม ฝันไปเถอะ! ฮ่าๆ... ฉันรอพวกแกอยู่ เรามาตายไปด้วยกันเมื่อถึงเวลาเถอะ!“ นายน้อยสามโหลวนอนลงบนพื้นอย่างอ่อนแรงและหัวเราะเสียงดัง”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลินตงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักเขารู้เรื่ององครักษ์เกราะจักรพรรดิเป็นผู้เสียสละที่ได้รับการฝึกฝนจากจักรพรรดิของอาณาจักรกาแล็กซีปกป้องบุคคลสำคัญของราชวงศ์อย่างลับๆ โดยเฉพาะพลังการต่อสู้ของทีมองครักษ์เกราะจักรพรรดิควรเทียบเท่ากับปรมาจารย์ห้วงจักรวาลครึ่งขั้นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเศษซากอาณาจักรสวรรค์สามารถฆ่าทีมองครักษ์เกราะจักรพรรดิได้ และพลังการต่อสู้ของพวกเขาสามารถไปถึงอย่างน้อยช่วงต้นของระดับปรมาจารย์ห้วงจักรวาล หรืออาจอยู่ในช่วงก
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน