เซี่ยมู่ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว และในขณะนี้ หลังจากเปิดเผยตัวตนของเจ้าหญิงของเธอแล้ว รัศมีทั้งหมดของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงท่าป๋าตู๊ซานเดินตามหลังเธออย่างเคารพในใจของเขาสับสนมากเมื่อสักครู่นี้เองที่กำลังจะลงมือทำอะไรบางอย่างท่าป๋าตู๊ซานรู้สึกถึงรัศมีเย็นชาที่รั้งตัวเขาไว้อย่างชัดเจนแม้ว่าพลังของเขาจะอยู่ในจุดสูงสุดของระดับปรมาจารย์ห้วงจักรวาล เขาจึงรู้สึกว่าไม่สามารถเอาชนะคนคนนี้ได้พละกำลังในการต่อสู้ของบุคคลนี้ช่างน่าทึ่ง โดยไปถึงอย่างน้อยระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลครึ่งขั้นสิ่งนี้ยังส่งผลไปสู่ความตั้งใจเดิมของท่าป๋าตู๊ซานที่จะสังหารด้วยดาบเดียว ซึ่งสุดท้ายแล้วส่งผลให้เขาเพียงตัดแขนของอีกฝ่ายขาดเพราะเขาต้องการป้องกันไม่ให้บุคคลนี้ลอบโจมตีอย่างไรก็ตาม รัศมีนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากที่ตั่วป๋าทูซานตัดแขนของไต้สี่ขาดไม่ว่าเขาจะค้นหาอย่างไรเขาก็ไม่พบร่องรอยใดๆในขณะนี้ ยานอวกาศอันหรูหราก็ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคนบนยานอวกาศที่ดูเหมือนพระราชวัง มีตัวอักษร "เซี่ย" สีทองแวววาวสลักอยู่ผู้คนหลายร้อยคนรีบลงมาจากยานอวกาศคุกเข่าข้างเดียวอย่างเรียบร้อยต่อหน้าเซี่ยม
ไต้สี่กล่าวประโยคนี้เป็นระยะๆ จากนั้นก็สิ้นลมหายใจไปคนที่ลงมือสังหารเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉู่หมาบ้า กัปตันทีมนักล่าหมาบ้าเขาใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการโจมตีนั้นเมื่อสักครู่ โดยไม่ลังเลใดๆ เพียงแค่ต้องการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และไม่ให้ไไต้สี่มีโอกาสได้พูดเมื่อมองไปที่ไต้สี่ที่ตายด้วยน้ำมือของตัวเองฉู่หมาบ้าเองก็เก็บความโกรธไว้ในใจโดยที่ไม่ที่ระบายไต้สี่เป็นน้องชายร่วมสาบานของเขาเมื่อกว่า 300 ปีก่อน พวกเขาทั้งสี่คนได้จัดทีมนักล่าหมาบ้าและก่อตั้งพันธมิตร โดยไต้สี่เป็นน้องคนสุดท้องภายใต้การนำของคนทั้งสี่คนทีมนักล่าหมาบ้าได้เติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจนมีขนาดใหญ่ขึ้นในปัจจุบัน กลายเป็นทีมล่าที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของอาณาจักรและอีกสองคนได้เสียชีวิตไปแล้วในการต่อสู้ระหว่างนั้นตอนนี้เหลือเพียงฉู่หมาบ้าและไต้สี่เท่านั้นอย่างไรก็ตาม วันนี้เขาต้องลงมือและฆ่าน้องชายของเขาด้วยตัวเองสิ่งนี้จะทำให้เขาไม่โกรธในใจได้อย่างไรแต่ความโกรธก็คือความโกรธฉู่หมาบ้าไม่มีทางทำอะไรได้แม้ว่าเขาจะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว แต่เขาก็สั่งไต้สี่ไม่ให้ลงมือล่วงหน้าและประเมินสถานการณ์เสียก่
เมื่อคำพูดของเซี่ยมู่สะท้อนก้องไปทั่วความว่างเปล่าความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาบริเวณในที่สุดเฟยเหลาต้าก็ก้าวออกมาและกล่าว: "องค์หญิง โปรดเรียกคุณชายหลินมาที่นี่ ไม่ว่าเขาจะขออะไร พวกเราจะทำให้เต็มที่เพื่อตอบสนองคำขอเหล่านั้น""ใช่ๆ! กัปตันเฟยพูดถูก ไม่ว่าคุณชายหลินจะต้องการอะไร เราก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองคำขอเหล่านั้น" ฉู่หมาบ้ารีบกล่าวเสริมตอนนี้ไม่มีท่าทีของัปตันฉู่ผู้หยิ่งผยองอีกต่อไปเมื่อเผชิญหน้ากับองค์หญิงสิบเก้า เขาทำได้แค่เป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และทีมนักล่าหมาบ้าอยู่ในการจับตาขององค์ญิงสิบเก้าไปแล้ว พวกเขาต้องหาทางได้รับการอภัยโทษจากเธอหากพวกเขาไม่สามารถได้รับการอภัยจากเธอ อนาคตของพวกเขาทีมนักล่าหมาบ้าในอาณาเขตจักพรรดิคงมืดมนขณะนี้ หลินตงก็เดินมาพร้อมกับเย่ชิงหวู่ด้วยเขารู้ว่าถึงเวลาที่เขาต้องดำเนินการเมื่อได้ยินเซี่ยมู่พูดถึงตัวเอง"คุณชายหลิน! ฉันจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว หากต้องการอะไรอีก ก็พูดออกมาได้เลย พวกเขาจะตอบสนองความต้องการของคุณทั้งหมด ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ละเว้นพวกเขา" เซี่ยมู่รักษาท่าทางจริงจังของเธอและพูดเบาๆน้ำเสียงที่เธอพูด
ผลที่ตามมาคือเธอต้องเผชิญกับอันตรายภายนอกและได้รับการช่วยเหลือจากหลินตงทำไมหลินตงจึงพบกับองค์หญิงสิบเก้าที่แอบหนีออกจากดวงดาวจักรพรรดิในขณะที่กาแล็กซีทางช้างเผือกนั้นใหญ่โตมาก และด้วยเหตุนี้ เธอจึงชื่นชอบเขาอย่างมากสิ่งนี้ทำให้ผู้ชายนับไม่ถ้วนอิจฉาและริษยาหลินตงคิดสักครู่นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีนักล่าค่าหัวเหล่านี้หลายคนกล้าเสี่ยงออกไปข้างนอกและควรรวบรวมสิ่งของแปลกๆ และมีค่าในระดับที่แตกต่างกันหากพวกเขานำสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดออกมาและซื้อทีละชิ้นอย่างลับๆ ในราคาสูงในขณะเดียวกัน เขาก็บอกพวกเขาว่าอย่าบอกราคาที่แน่นอน มิฉะนั้น องค์หญิงจะสืบหาในภายหลังและคายสิ่งที่เขาได้รับออกมานักล่าค่าหัวเหล่านี้ได้รับประโยชน์มหาศาลและจะปิดปากเงียบอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจะไม่เปิดเผยตัวเองดังนั้น ตัวเองจะใช้เงินเป็นจำนวนมากและได้รับแต้มศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆบางทีเขาอาจทะวงระดับปัจจุบันและไปถึงระดับปรมาจารย์มหาจักรวาลได้โดยตรงเมื่อถึงเวลานั้น เขาอาจถือเป็นบุคคลสำคัญในกาแล็กซีทางช้างเผือกก็ได้เมื่อปัญหาท่านผู้เฒ่าของตระกูลเฟิงได้รับการแก้ไข วิกฤตบนโลกก็จะคลี่คลายได้อย่างง่
เรื่องนี้ได้รับการแก้ไขโดยพื้นฐานแล้วเซี่ยมู่รู้ว่าถึงเวลาต้องแยกทางกันแล้วเธอต้องการให้หลินตงกลับไปดวงดาวจักรพรรดิด้วยจริงๆน่าเสียดายที่หลินตงเพิ่งกลับมาและยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาต้องทำ ดังนั้นเธอจึงเห็นแก่ตัวไม่ได้"คุณชายหลิน เมื่อทำธุระของคุณเสร็จแล้ว คุณต้องมาที่ดวงดาวจักรพรรดิเพื่อพบฉัน" เซี่ยมู่กล่าวด้วยความลังเลในดวงตาขณะที่เธอมองไปที่หลินตง"เอาล่ะ! องค์หญิงอย่ากังวลไปเลย! ฉันจะไปแน่ๆ" หลินตงสัญญาอย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเซี่ยมู่ เขาก็ตัดสินใจในใจอย่างลับๆ แล้วเขาไม่มีทางไปดวงดาวจักรพรรดิเด็ดขาดองค์หญิงเซี่ยมู่สนใจเขาอย่างชัดเจนการไปดวงดาวจักรพรรดิไม่เหมือนกับเดินเข้าไปในถ้ำเสือหรอกเหรอ?แม้จะได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงสิบเก้า แต่ในสายตาของคนอื่น ถือเป็นโชคลาภที่สั่งสมมาหลายชั่วอายุคนอย่างแน่นอนน่าเสียดายที่หลินตงไม่ต้องการเขายังไม่ได้คิดจัดการเรื่องสวนหลังบ้านของตัวเองเลย!องค์หญิงสิบเก้า เขาไม่สามารถยั่วยุได้ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดปัญหากับตัวเองเท่านั้น"งั้นฉันไปก่อนนะ ลาก่อน คุณชายหลิน ลาก่อน พี่....เทพธิดาเริงรำ ฉันจะรอพวกคุณอยู่ที่ดวงด
แต่ทุกคนกลับจำหลินตงได้เป็นอย่างดีหากพบเจอในอนาคต จงเคารพเขาเอาไว้จากทัศนคติขององค์หญิงสิบเก้าที่มีต่อหลินตง มีแนวโน้มสูงมากที่เขาจะกลายเป็นราชบุตรเขยขององค์จักรพรรดิท้ายที่สุดแล้ว ด้วยการสนับสนุนของจักรพรรดิต่อองค์หญิงสิบเก้า ตราบใดที่องค์หญิงยังยืนกรานในสิ่งใด จักรพรรดิก็จะไม่ขัดข้องหลังจากดูนักล่าค่าหัวจากไปอย่างช้าๆ หลินตงก็พูดกับเย่ชิงหวู่ที่อยู่ข้างหลังเขา: "เทพธิดาเย่ เราไปกันเถอะ""ได้ นายท่านหลิน"พวกเขาทั้งสองกลับไปที่ยานศักดิ์สิทธิ์แปดเหลี่ยมด้วยกันมุ่งหน้าไปยังดวงดาวสีน้ำเงินของอาณาเขตจักรพรรดิ............ดวงดาวสีน้ำเงินเป็นดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคภายนอกของอาณาเขตจักรพรรดิคล้ายกับสถานการณ์บนโลกควบคุมร่วมกันโดยกองกำลังขนาดเล็กหลายสิบกลุ่มตระกูลเย่ที่เย่ชิงหวู่อาศัยอยู่เป็นหนึ่งในนั้นอย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในสิบอันดับแรกของดวงดาวสีน้ำเงินได้พวกเขาสามารถครอบครองพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่อุดมสมบูรณ์เกินไปมีเพียงการที่เย่ชิงหวู่ทำได้ดีภายนอกและได้พบกับผู้มีอำนาจบางคนในช่วงหลายปีที่ผ่านม
"น้องสอง เรื่องที่ได้รับมอบหมายให้จัดการเป็นอย่างไรบ้าง? นายรู้หรือยังว่าใครคือคนที่จะมาโจมตีตระกูลเย่ของฉัน? "เย่หงทู่มองไปที่น้องชายของเขา เย่หงเว่ย และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก"พี่ใหญ่ ตามข้อมูลที่ฉันรวบรวมได้เมื่อวานนี้ น่าจะเป็นตระกูลเกอที่โจมตีตระกูลเย่ของเราในครั้งนี้" เย่หงเว่ยยืนขึ้นและพูดอะไรนะ???ตระกูลเกอ???คำพูดของเย่หงเว่ยทำให้เกิดความประหลาดใจในเหล่าสมาชิกหลักของตระกูลเย่ที่อยู่ที่นั่นทุกคนสูดลมหายใจเข้าตระกูลเกอเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของดวงดาวสีน้ำเงิน พวกเขามีความแข็งแกร่ง พวกเขาจะกดดันตระกูลเย่ได้ยังไง?แม้ว่าตระกูลเย่จะค่อยๆ เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วยความช่วยเหลือของเย่ชิงหวู่ แต่พวกเขาก็ยังห่างไกลจากตระกูลเกอ!ฃยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเย่ยังคงวางตัวให้ต่ำต้อยอยู่เสมอ ไม่เคยทำให้ตระกูลใดขุ่นเคืองมันไม่มีความบาดหมางระหว่างพวกเขาเลยตระกูลเกอไม่มีเหตุผลที่จะโจมตีตระกูลเย่ในเวลาเดียวกัน ตระกูลเย่ก็ตกใจและสับสนเล็กน้อย"นายแน่ใจได้ไหมว่าเป็นตระกูลเกอ? "เย่หงทู่ลุกขึ้นและถามอย่างจริงจังในขณะนี้ ในใจเขาก็ตกใจเช่นกันถ้าเป็นตระกูลเกอ
ตามคำกล่าวที่ว่า หากคุณเดินไปตามแม่น้ำบ่อยๆ รองเท้าของคุณจะไม่เปียกได้อย่างไรรับมือกับนายท่านพวกนี้อยู่บ่อยๆหากมีคนคิดไม่ซื่อแล้วเสียความบริสุทธิ์ไปการหาผู้สนับสนุนอื่นคงเป็นเรื่องยากอย่างไรก็ตาม เย่ชิงหวู่ไม่เคยพบคนที่เหมาะสมเลย"พี่ใหญ่! ไม่ว่าชิงหวู่จะแก้ไขวิกฤตตระกูลได้หรือไม่ เราก็ควรบอกเธอเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ตราบใดที่เธอทำดีที่สุดแล้ว เราจะไม่ตำหนิเธอ หากเป็นไปไม่ได้จริงๆ ตระกูลเย่ของเราสามารถละทิ้งทุกอย่างตอนนี้และกลับไปยังบ้านบรรพบุรุษได้ การใช้ชีวิตในชนบทแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน" เย่หงเว่ยกล่าว"ใช่แล้ว! พี่ใหญ่ เราไม่ควรปิดบังเรื่องนี้จากชิงหวู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอกลับมาและเห็นว่าตระกูลถูกทำลายและโทษพวกเขาล่ะ? แม้ว่าตระกูลเกอจะทรงพลัง แต่พวกเขาก็ครอบครองแค่ดวงดาวสีน้ำเงินเท่านั้น ชิงหวู่อยู่เผชิญความโกลาหลในอาณาเขตจักรพรรดิมาหลายปีแล้ว บางทีเรื่องนี้อาจจะคลี่คลายได้" เย่หงเฉิงก็ทำพูดตามเช่นกัน"เฮ้อ... ฉันรู้ว่าพวกนายหมายถึงอะไร แต่... พวกนายทุกคนรู้จักชิงหวู่ ถ้าเธอรู้เข้า เธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยตระกูลอย่างแน่นอน และบางทีอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ขัดกับเจตจำนง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน