เจียงเฉิงจ้าวซวนขับปอร์เช่911กลับไปที่เจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลหลังเลิกงานเมื่อมาถึงประตูของเจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนล จู่ ๆ ก็ถูกใครบางคนหยุดไว้จ้าวซวนมองอย่างละเอียดนี่ไม่ใช่พ่อแม่และจ้าวหยางน้องชายเหรอ? อีกสามคนคือใคร?พวกเขามาที่นี่ได้ยังไง?จ้าวซวนรีบลงจากรถอย่างรวดเร็ว"พ่อ แม่ จ้าวหยาง พวกคุณมาที่นี่ได้ยังไง?""ฮึ่ม! ถ้าเราไม่มา เราจะรู้ได้ยังไงว่าเธอมีรถยนต์หรูหราและคฤหาสน์ในเมืองใหญ่ แต่เราทำงานหนักอยู่ที่บ้าน" หลี่ชุนอิงแม่ของจ้าวซวนกล่าว"แม่ มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด รถคันนี้เป็นของเจ้านายฉัน!" จ้าวซวนอธิบาย"เจ้านายของเธอ? เธอขับรถของเจ้านายของเธอทุกวันเลยเหรอ? ทำไมเขาไม่ให้คนอื่นขับ?""แม่ พวกเราไปหาที่คุยกันดีไหม? พวกคุณมีที่พักไหม? ฉันจะพาพวกคุณไปเปิดห้องที่โรงแรม!""ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะอยู่ที่นี่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ น้องชายของเธอเฝ้าดูเธอมาหลายวันแล้ว เธออาศัยอยู่ในนี้ทุกวัน!" หลี่ชุนอิงชี้ไปที่เจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลแล้วพูด"แม่ บ้านหลังนี้เป็นของเจ้านายฉัน ฉันพาพวกคุณเข้าไปไม่ได้!""ไม่เชื่อ! เจ้านายที่ไหน! ฉันคิดว่าเขาเป
"อะไรนะ! เธออยากถูกตีอีกเหรอ?" จ้าวเที่ยจู้พูดเสียงดัง"ถึงพ่อจะตีฉันจนตาย ฉันก็จะไม่ออกแม้แต่บาทเดียว""เธอ...เธอนังตัวดีนี่ เธออยากให้ฉันโมโหตายเหรอ? ฉันบอกเธอไว้ก่อน เธอต้องออกเงินนี้" จ้าวเที่ยจู้ชี้ไปที่ จ้าวซวนและสาปแช่งจ้าวซวนก็ร้องไห้ด้วยความโกรธและพูดเสียงดังว่า "พวกคุณเข้าข้างเขาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเป็นลูกชาย มีของอร่อย ๆ อะไรให้เขากิน เงินที่ฉันเข้ามหาวิทยาลัยฉันก็รับจ้างทํางานเอง พวกคุณเคยออกสักบาทไหม?""เขาจะเข้ามหาวิทยาลัย ที่บ้านไม่มีเงิน โอเค ฉันไปยืมให้! จากนั้นฉันใช้อย่างประหยัดค่อย ๆ จ่ายคืน พวกคุณรู้ไหมว่าช่วงเวลานั้นฉันใช้ชีวิตยังไง? ฉันไปทํางานเป็นลมเพราะขาดสารอาหาร!""หลังจากนั้นงานของฉันค่อย ๆ ดีขึ้น นอกจากเก็บค่าครองชีพไว้บ้างก็ส่งกลับบ้านให้พวกคุณทุกเดือนแล้ว พวกคุณจะเอาอะไรอีก?""แล้วนายไอ้สารเลว นายไปเรียนมหาวิทยาลัยเรียนเป็นหมาเหรอ? ไม่รู้สึกขอบคุณอะไรเลยก็ไม่ว่า ตอนนี้นายอ้าปากก็มาขอเงินห้าล้าน นายคิดว่าฉันคืออะไร? เครื่องกดเงินสดเหรอ? ตอนนี้ฉันขอบอกอย่างชัดเจนว่าฉันจะไม่ให้เงินนายเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"จ้าวซวนอัดอั้นไว้นานมากเพียงเพราะเธอเป็
เมื่อหลินตงมาถึงเจียงเฉิงท้องฟ้าก็มืดแล้วถ้าไม่ใช่การเดินทางที่ล่าช้า ก็น่าจะมาถึงเร็วกว่านี้เขาลากร่างที่เหนื่อยล้าของเขากลับไปที่เจียงหนานแมนชั่นอินเตอร์เนชั่นแนลแล้วก็เปิดประตูหลินตงเห็นดวงตาจ้าวซวนแดงเล็กน้อยและกำลังจะออกไป"หืม? พี่ซวน พี่เป็นอะไรไป? จะออกไปข้างนอกเหรอ?"จากนั้นเขาก็เห็นคนสองสามคนอยู่ข้างหลังจ้าวซวน"พวกเขาคือ?"หัวใจจ้าวซวนตึงเครียดเมื่อเธอเห็นหลินตงหลินตงไม่ได้กลับบ้านในวันแรงงานเหรอ? ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้? แถมยังกลับมาในเวลานี้อีก"ประธานหลิน ฉันขอโทษค่ะ พวกเขาเป็นครอบครัวของฉัน พวกเขามาหาฉันจากบ้านเกิด ดังนั้นฉันจึงพาพวกเขามาพักผ่อน ฉันจะพาพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้ค่ะ" จ้าวซวนพูดอย่างกังวลเธอกลัวว่าหลินตงจะไม่ชอบ นี่คือบ้านมูลค่าสี่ร้อยล้าน ถ้าปล่อยให้ใครสักคนเข้ามาในขณะที่เขาไม่อยู่ คงจะรู้สึกอึดอัดใจอย่างแน่นอน"แล้วพวกคุณจะไปไหนดึกขนาดนี้? ที่นี่มีห้องเยอะไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าจะไม่พออยู่!" หลินตงถามอันที่จริงเป็นจ้าวซวนที่กำลังคิดมากบ้าน! เดิมทีก็เป็นที่ให้คนอยู่อาศัยชั้นล่างมีหลายห้องซึ่งเพียงพอสำหรับที่จะพักอยู่หลินตงไม่คิดว่ามันจะเป็นอ
ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเจียงเฉิงหลินตงและจ้าวซวนกำลังนั่งอยู่ริมแม่น้ำจ้าวซวนเล่าให้หลินตงฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของเธอในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาหลินตงฟังอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร"ประธานหลิน ฉันโง่มากใช่ไหม? พวกเขาต้องการอะไร ฉันก็ให้หมด! ไม่มี ฉันก็ไปยืม แล้วค่อย ๆ คืนเอง" จ้าวซวนถามหลังจากพูดจบ"พี่ซวน คุณไม่ได้โง่ คุณแค่ใจดีเกินไป! ยิ่งคุณให้มากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาควรได้" หลินตงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ"อาจจะใช่! แต่ฉันตัดสินใจแล้ว ยี่สิบก่อนฉันมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเขา แต่ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า ฉันหวังว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง!""พี่ซวน พรุ่งนี้เชิญลุงและป้ามาทานข้าวด้วยกันที่โรงแรมเถอะ! มาไกลขนาดนี้ ผมควรดูแลหน่อย ถ้าพี่ซวนคุณต้องการเงิน ไปเอาที่ฝ่ายบัญชีได้เลย ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอะไร ผมก็จะสนับสนุนคุณ!" หลินตงกล่าว"ขอบคุณค่ะ ประธานหลิน!" จ้าวซวนร้องไห้และโน้มตัวเข้าไปในอ้อมอกหลินตงเดิมทีเธอคิดว่าหลินตงจะดูถูกเธอเพราะเธอมีครอบครัวเช่นนี้ แต่เธอไม่คิดว่าหลินตงไม่รังเกียจเธอเลยโดนไม่รู้ว่า พ่อแม่ของหลินตงไม่อยู่ตั้งแต่เด็กแล้ว ชีวิตที่บ้านอาสา
เช้าวันรุ่งขึ้นห้องทำงานท่านประธานโรงแรมโกลเด้นลิฟ"พี่ซวน ผมเตรียมจะตั้งบริษัทการลงทุนแห่งหนึ่ง ชื่อตงไหลอินเตอร์เนชั่นแนล แต่ผมไม่มีเวลา ดังนั้นผมจึงต้องการคนที่ไว้ใจได้ช่วยสร้างทีมให้ผม ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมได้!""ประธานหลิน ฉันเกรงว่าจะไม่ดี!" จ้าวซวนตอบอย่างลังเลเธออยากไป แต่เธอกลัวว่าเธอไม่มีความสามารถเพียงพอและจะทำให้เรื่องสำคัญของหลินตงล่าช้า"พี่ซวน คุณมีความสามารถ คุณไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่โรงแรมเล็ก ๆ แห่งนี้ คุณควรออกไปข้างนอกและเห็นโลกภายนอก""ถ้าอย่างนั้น…ให้ฉันลองดู!""ไปทำมันอย่างกล้าหาญ! การสนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดที่ฉันสามารถให้คุณได้คือทรัพยากรทางการเงินที่ไม่จำกัด ตราบใดที่คุณคิดว่ามีคนสามารถทำได้ เราจะรับสมัคร หากคนอื่นเสนอหนึ่งล้านเราจะเสนอห้าล้านหรือสิบล้าน ตราบใดที่เป็นคนมีสามารถ เราก็ไม่กลัวที่จะใช้เงิน""เอาล่ะ! ฉันควรออกเดินทางเมื่อไหร่?""ยิ่งเร็วได้ยิ่งดี!""งั้นฉันจะไปพรุ่งนี้!""ได้ เรียกลุงและลุงมา พวกเรากินข้าวกับพวกเขากันเถอะ!"หลังจากผ่านเรื่องเมื่อคืน หลินตงรู้สึกว่าจ้าวซวนเปลี่ยนไปเธอเคยเป็นคนมองโลกในแง่ดีและร่าเริงตอนนี้เธอกำลังกลายเป็น
จ้าวซวนหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งและพยายามสงบความโกรธในใจ"งั้นก็ได้! นายก็เริ่มจากพนักงานระดับต่ำสุด""พี่! ผมไม่อยากเป็นพนักงานเสิร์ฟ พี่จัดงานดูแลคนให้ผม จัดงานดูแลเงินให้เหมียวเหมียว เพื่อป้องกันไม่ให้พี่เขยมีเงินออกไปหาคนนอกบ้าน ทุกการเคลื่อนไหวของเขาผมสัญญาว่าจะรายงานให้พี่ทราบตามความจริง แม่เป็นคนบอกให้เราสองคนช่วยพี่ดูแล!" จ้าวหยางพูดอย่างกล้าหาญจ้าวซวนโกรธจนหัวเราะดูแลคน? จัดการเงิน?ช่วยตัวเองดูแล?นี่จะพยายามปอกลอกหลินตง!ยังคิดว่าต่อไปโรงแรมนี้จะแซ่จ้าวแล้วใช่ไหม?น่าเสียดายที่พวกเขาสามารถคิดได้"อยากดูแลเงินเหรอ? นายรู้ไหมว่าที่นี่ค่าใข้จ่ายเดือนละเท่าไหร่? นายรู้ไหมว่าอาหารมื้อนี้พวกนายกินไปเท่าไหร่แล้ว? ฉันจะบอกพวกนายว่า อาหารมื้อนี้พวกนายกินไปล้านหนึ่ง ที่นี่ค่าใช้จ่ายละเกือบพันล้าน พวกนายคิดว่าสามารถจัดการได้ไหม?"จ้าวซวนเพิ่งพูดจบทุกคนก็หยุดกินเขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองเธอด้วยสายตาตกใจมื้อเดียวกินไปล้านหนึ่ง?นี่มันเกินจริงเกินไป!"พี่สาว พี่บอกว่า...มื้อนี้เรากินไปเท่าไหร่นะ?" จ้าวหยางกลืนอาหารและถามด้วยเสียงต่ำ"พวกนายกินไปทั้งหมดล้านหนึ่งสำหรับมื้อน
หลังจากหลายคนทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกจากห้องส่วนตัวและพนักงานก็พาไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน"พี่เขย! พี่สาวของผมอยู่ที่ไหน?" จ้าวหยางถาม"อย่า! อย่าเรียกฉันว่าพี่เขยเลย! ฉันบอกคุณแล้ว พี่ซวนและฉันเป็นเพียงเจ้านายลูกน้อง! ฉันไม่เคยทำอะไรที่ล้ำเส้นและฉันยังเป็นนักศึกษาวิทยาลัย! ฉันจะเป็นพี่เขยคุณได้ยังไง!" หลินตงกล่าวหลายคนมองหน้ากันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตอนกินข้าวอยู่เรียกก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้วเหรอ?"เอ่อ...ประธานหลินตง พี่สาวของผมอยู่ที่ไหน?" จ้าวหยางถามอีกครั้ง"พี่สาวของคุณไปแล้ว คุณควรกลับบ้านหลังจากกินข้าวเสร็จ!" หลินตงตอบ"ไปแล้วแล้ว? งั้นเราไปหาเธอกันเถอะ!""ผมบอกว่าไปแล้ว ฉันไม่ได้หมายถึงไปจากโรงแรม แต่ไปจากเจียงเฉิง นี่คือจดหมายลาออกของพี่ซวน พวกคุณอ่านเอง!"หลังจากที่หลินตงพูดจบ เขาก็ยื่นกระดาษหน้าหนึ่งให้กับจ้าวหยางลาออกเหรอ?หลายคนตกใจและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ!จ้าวหยางรับไปและเห็นว่าเป็นจดหมายลาออกที่เขียนโดยจ้าวซวน"เถ้าแก่หลิน ทำไมพี่สาวฉันถึงลาออกเหรอครับ?""จะพูดยังไงดี! พี่ซวนรู้สึกว่าถ้าทำงานที่นี่ คุณจะคอยรบกวนเธอต่อไป และเธอก
พ่อแม่ของเฟิ๋งเหมียวดึงเฟิ๋งเหมียวเตรียมจะออกไปพวกเขาไม่อยากอยู่กับจ้าวเที่ยจู้ที่เป็นบ้า ถึงตอนนั้นถูกจับเข้าไปจริง ๆ จะทําอย่างไร?"เหมียวเหมียว!" จ้าวหยางตะโกนเรียกเฟิ๋งเหมียวหันของเธอและมองดูจ้าวหยางอย่างน่าสงสาร"จะมองไอ้ไร้ประโยชน์นั่นทำอะไรอีก? แต่เดิมโอกาสดีขนาดนี้ กลับบังคับให้จ้าวซวนจากไป ตอนนี้เป็นไง ไม่ได้กินอะไรเลย อาศัยความสามารถของเขาเมื่อไหร่ถึงจะซื้อบ้านได้? ซื้อรถได้? ไป รีบกลับไปกับฉัน ต่อไปห้ามไปมาหาสู่กับเขา แม่แนะนำให้ดีกว่านี้" แม่เฟิ๋งเหมียวพูดใส่จ้าวหยางอย่างรุนแรงจ้าวหยางรู้สึกเหมือนได้ตกลงมาจากสวรรค์สู่นรกในทันทีและในเวลานี้จ้าวเที่ยจู้กับหลี่ชุนยิงก็โกรธมาก ความโกรธก็โจมตีหัวใจ!หากจ้าวซวนเปลี่ยนข้อมูลติดต่อจริง ๆ พวกเขาจะหาได้ที่ไหน?นอกจากนี้จ้าวซวนยังส่งเงินทุก ๆ เดือนตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาเคยชินและไม่ได้ทํางานมานานแล้วครอบครัวเป็นที่อิจฉาของทุกคนในหมู่บ้าน เลี้ยงลูกสาวดี มีเงินใช้โดยไม่ต้องทำงานจะเกิดอะไรขึ้นหากแหล่งที่มาถูกตัดออกกะทันหัน?เราจะย้อนเวลากลับไปวันเก่า ๆ ที่ต้องออกไปข้างนอกแต่เช้ากลับดึกและทำงานหนักหรือเปล่า?คนในหมู่บ
"พี่เฉิน ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน ไปสู้กันเถอะ"หลังจากหลินตงพูดจบ เขาก็แปลงร่างกายาทองคำอมตะอีกครั้ง!แม้ว่าเฉินจิงจื่อหานจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของหลินตงหมายถึงอะไรแต่เมื่อเห็นว่าหลินตงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อีกครั้งเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากอารยธรรมระดับสูง จะแพ้คนอย่างหลินตงที่มาจากอารยธรรมระดับต่ำกว่าได้อย่างไร?ให้ได้รู้ซะบ้าง วิชาลับของสำนักดาวสวรรค์น่ากลัวขนาดไหนทั้งสองแสดงกายาทองคำอมตะออกมาทีละคน พร้อมที่จะต่อสู้ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาท่ามกลางอสูรยักษ์สีทองหลายสิบตัว"โจมตี!!!"ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีทองทั้งหมดก็ปลดปล่อยความเร็วสูงสุดและพุ่งเข้าหาหลินตงและเฉินจิงจื่อหานในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตรียมท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเช่นกันตั้งใจที่จะทำร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าหลินตงและสหายในการโจมตีครั้งแรกนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้พวกเขาตอบโต้กันปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนลงมือพร้อมกันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ?ยุนซีกับสาวๆ ที่กำลังดูอยู่ ต่างก็ใจเต้นรัวเธอกลัวว่า
เฉินจิงจื่อหานอาจยังคงนึกถึงภาพที่อสูรดาราเหล่านี้คุกเข่า และขอความเมตตาหลังจากที่ป้าหงของเขาลงมือ!แต่ความจริงก็คือคนที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ต้องตำหนิหลินตงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไป๋หลี่เหยียนหงจะใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อควบคุมตัวเองแ ละไม่สามารถลงมือได้อย่างไร?แต่ว่าหลินตงเองก็บริสุทธิ์เช่นกันการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของเขากับไป๋หลี่เหยียนหง เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิงใครทำให้ร่างเสน่ห์ของไป๋หลี่เหยียนหงน่าดึงดูดเกินไปล่ะ?ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาถูกดึงดูดเข้าหาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้หลินตงก็เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกเช่นกัน ว่าพลังจิตวิญญาณก็สามารถเป็นเช่นนี้ได้?นั่นทำลายความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมองดูอสูรยักษ์สีทองเกือบสามสิบตัวเคลื่อนเข้ามาใกล้เฉินจิงจื่อหานยังคงเฉยเมยในความคิดของเขาใครหนุนหลังเขาอยู่?นั่นคือไป๋หลี่เหยียนหง!!!ผู้นำของเจ็ดเซียนแห่งนิกายแก้วเจ็ดแสงรุ่นก่อนราชันย์อมตะแห่งอาณาจักรนิรันดรนิกายแก้วเจ็ดแสงจะมีเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้เจ็ดคนซึ่งเป็นตัวแทนด้วยเจ็ดสี ได้แก่ แดง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ