แค่หมั้นกัน เขาก็สุดจะทน ไม่มีทางที่เขาจะแต่งงานกับคนอย่างลูกพีช ตอนเด็กน่ารักมากมาย เป็นน้องสาวที่เขารักและหลงมาก เขาไม่เคยลืม แต่พอโตเป็นสาวขึ้นมา ความแสบของเธอมากขึ้นทุกวัน มากจนทำให้เขามองเธอเป็นนางมารร้าย ร้ายจนเขาไม่อาจจินตนาการได้อีกแล้ว จากเหตุการณ์ที่เขาโดนวางยานอนหลับแล้วคนที่กอดก่ายทั้งคืนคือลูกพีช
อะไรคงไม่เลวร้ายมาถึงขั้นหมั้นหมายถ้าเธอยอมเปิดปากพูดกับพ่อแม่ของเขา แต่เธอเลือกไม่พูดและเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
สุดท้ายเพื่อไม่ให้ทั้งสองครอบครัวบาดหมางกันหรือมองหน้ากันไม่ติด เขาจึงต้องหมั้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเธอ แค่หมั้นกันมาสามปีนี่ก็เกินพอแล้ว
นี่อะไร เธอจะแต่งงานกับเขาเนี่ยนะ ฝันไปเถอะ ถ้าต้องแต่งงานกับผู้หญิงอย่างลูกพีช เขายอมตายดีกว่า
สี่เดือนผ่านไป
งานแต่งงานที่ไม่เต็มใจของเจ้าบ่าวถูกจัดขึ้นภายในบ้านของอดีตนางร้ายคนดังอย่างพิซซี่ ลูกพีชคือลูกสาวคนโตของนางร้ายสายฝอกับเชฟไนท์ ซึ่งพ่วงตำแหน่งหมอฟันที่เคยน่าฟันสุดมาด้วย
พิซซี่มองภาพลูกพีชในชุดไทยสวยงามจนคนเป็นแม่ต้องร้องไห้ออกมาหลายต่อหลายครั้งเพราะความดีใจ
คงมีแต่เจ้าบ่าวเท่านั้นที่หน้าตาถึงจะยิ้ม แต่ในใจกำลังร้อนรุ่ม นี่เขายอมแต่งงานได้อย่างไรกัน จำได้ว่าก่อนหน้านั้นเขายังบอกว่าจะถอนหมั้นกับเธอ จากที่จะถอนหมั้นก็ไม่ได้ถอน จนตอนนี้กลับกลายเป็นงานแต่งงานระหว่างเขากับยายลูกพีชไปเสียแล้ว
เรื่องมันผิดพลาดตั้งแต่ตอนไหนกัน ทำไมอยู่ดี ๆ เขากับเธอมาอยู่ในงานแต่งงานได้ล่ะ
เขาไม่มีทางยอมแต่งงานกับนางมารร้ายอย่างลูกพีชแน่
“สวมแหวนให้น้องสิภูมิ”
คำพูดของคุณย่าทำให้ภูมิสะดุ้ง นี่ไม่ใช่ความฝัน มือของลูกพีชเย็นเฉียบในตอนที่เขาจับมือเธอเพื่อสวมแหวน ความเย็นของมือคงมาจากความตื่นเต้น ไม่ใช่แค่เธอที่ตื่นเต้น เขาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
ถึงจะไม่เต็มใจแต่งงาน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวันนี้เจ้าสาวของเขาสวยมาก สวยจนเขาไม่อาจละสายตา
แต่ความสวยของเธอเหมือนดอกกุหลาบสีแดงที่เต็มไปด้วยหนามอาบยาพิษ นางมารร้ายอย่างเธอไม่คู่ควรกับพระเอกอย่างเขา
เรื่องราวในนิยายทั่วไปต้องจบลงที่นางเอกกับพระเอกแต่งงานกัน แต่เขากับเธอ นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เขาไม่มีทางอยู่กับเธอตลอดไป ทันทีที่เธอคลอด ทุกคนจะได้รู้ความจริง
‘ความจริงที่ว่าเด็กในท้องเธอไม่ใช่ลูกเขา’
จะเป็นลูกเขาไปได้อย่างไรกัน เขากับเธอไม่เคยมีอะไรกัน แล้วนางมารร้ายอย่างเธอไปท้องกับใครมา แล้วทำไมต้องให้ผู้ชายอย่างเขามารับผิดชอบในสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อ
นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า ‘เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกไปแขวนคอ’
“ลูกพีช สวมแหวนให้พี่สิ” พิซซี่กระซิบบอกลูกสาว ลูกพีชจับมืออุ่น ๆ ของผู้ชายที่เธอรักมาตลอดตั้งแต่จำความได้ ผู้ชายที่กางแขนปกป้องเธอตั้งแต่เธอตัวเท่าลูกหมา
เขาคือผู้ชายคนเดียวที่เธออยากอยู่ด้วยตลอดชีวิต
แหวนทองคำขาวบนนิ้วนางข้างซ้ายของภูมิให้ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกในตอนนี้ มันเหมือนปลอกรัดคอจนเขาหายใจไม่ออก เป็นดั่งคีมเหล็กที่กำลังบีบหัวใจเขา
เธอก้มลงกราบตักเขาอย่างที่เจ้าสาวทำกับเจ้าบ่าว มือเขาวางบนศีรษะเธอและลูบอย่างเบามือ เขาสาบานได้เลยว่าเขาไม่อยากทำอย่างนี้เลยสักนิด ไม่เลยสักนิด แต่เขาก็ทำ ทำไปเพราะร่างกายโง่ ๆ ของเขาที่มักควบคุมไม่ได้เมื่ออยู่กับลูกพีช
อยู่กับเธอเขามักจะทำอะไรโดยไม่คิด ยิ่งน้ำตาของเธอเขายิ่งแพ้ แพ้ราบคาบตั้งแต่จำความได้
“ฝากน้องด้วยนะภูมิ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน” นั่นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ประตูห้องหอจะปิดลง
ใครก็ได้บอกเขาทีว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝัน เขากำลังฝันไป มันคือความฝันใช่ไหม ความฝัน ถ้าเขาหลับตาลงและลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างที่เป็นอยู่จะหายไปใช่ไหม
ในเมื่อพระเอกกับนางเอกแต่งงานกันแล้ว เรื่องก็ต้องจบลงเพียงเท่านี้ใช่ไหม ไม่ได้สิ เขาเป็นพระเอกของเรื่องไม่ผิด แต่ยายลูกพีชต้องไม่ใช่นางเอก เธอมันตัวร้ายชัด ๆ ตัวร้ายระดับลาสต์บอสเลยแหละ ฆ่ากี่ครั้งก็ยังไม่ตาย
“พี่ภูมิ อาบน้ำไหมคะ เดี๋ยวลูกพีชอาบให้”
“ไม่ต้องยุ่งกับพี่ ลูกพีช ขอร้องละ ต่างคนต่างอยู่ พี่ไม่มีทางสงสารเธออีกแล้ว” ภูมิกัดฟันพูด เพราะน้ำตาของเธอไง เพราะความสงสารที่เขามีให้ไม่จบไม่สิ้นไง ทำให้เขาต้องมานั่งอยู่ตรงนี้
ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะยอมใจอ่อนกับผู้หญิงอย่างลูกพีช
พอเข้าห้องนอนเท่านั้นแหละ จากคุณพ่อภูมิผู้รักลูกก็แปลงร่างเป็นผัวรักที่หิวโซทันที “ใจเย็น ๆ อย่าดูดแรง เดี๋ยวน้ำนมกลับมาอีก” เพราะฉันเพิ่งให้ลูกหย่านม ถ้าถูกกระตุ้นด้วยการดูด น้ำนมก็จะกลับมาอีก แต่ดูแล้วคนหื่นอย่างพี่ภูมิน่าจะไม่ฟัง “หวาน” ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดและน้ำนมก็พุ่งออกมาตอนที่เขาดูดแรง ๆ หน้าอกหน้าใจของฉันตั้งแต่ให้นมลูกยิ่งใหญ่โตกว่าเดิม และสามีสุดหื่นจะชอบมาก “พี่ภูมิอย่ากัด” นอกจากดูดแรง ๆ แล้วเขายังกัดหน้าอกของฉันด้วย น่าตีจริง ๆ ที่บอกว่าจะได้มานอนพักผ่อน จริง ๆ แล้วฉันกับเขาคงไม่ได้พักผ่อนหรอก “นมก็หวาน นี่ก็หวาน” ‘นี่’ ที่เขาหมายถึงทำฉันหน้าร้อนหนักกว่าเดิม เขาใช้มือเกลี่ยให้รอยแยกที่ปิดอยู่แยกออกจากกัน นิ้วมือยาวลูบไล้ให้ฉ่ำแฉะอย่างที่ชอบทำ ทั้งยังส่งสายตามายั่วยวนฉันให้สั่นระริกเพราะความอยาก “อยากไหม” นอกจากนี้เขายังหยอกฉันไม่หยุดด้วยคำพูดแสนวาบหวาม แสงแดดนอกห้องถูกปิดกั้นด้วยผ้าม่านสีทึบ แต่ฉันก็ยังรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลากลางวัน กิจกรรมเร่าร้อนกำลังจะเกิดขึ้นในเวลากลางวัน ในบ้านของพ่อแม่สามี ฉันนี่เป็นลูกสะใภ้อย่างไรกั
“คนสวยของแม่อร่อยไหมคะ” ทันทีที่มาถึง ลูกพีชก็ทักทายลูกสาวด้วยคำพูดที่ลูกสาวผมยิ้มแก้มปริ “หย่อยค่ะ สวย” นอกจากจะบอกว่าอร่อยแล้ว ลูกสาวของผมเธอยังชมแม่กลับด้วยการวางมือน้อยบนข้างแก้มของแม่ ทั้งยังชมว่าสวย คนเป็นแม่ก็ยิ้มอย่างดีใจ เพราะคำชมของลูกนี่แหละ “แม่สวยเนอะ พีพี” ผมเองก็อยากชมเหมือนกัน นอกจากถามลูกแล้ว ผมยังยิ้มไม่หยุด เพราะเธอสวยจริง ๆ ในความรู้สึกของผม “ปากหวานตลอดคุณพ่อ” ลูกพีชเอื้อมมือมาลูบแก้มผมอย่างเอาใจ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข ได้เห็นสองสาวยิ้ม ผมก็ต้องยิ้มตามแล้ว เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าความสุขของคนเราหาง่ายยิ่งกว่าอะไร “วันนี้ เราไปค้างที่บ้านคุณปู่คุณย่านะคะลูก” “เย้ ๆ ย่าย่า ปู่ปู่” ลูกผมเรียกปู่ย่าชัดกว่าเรียกพ่อเสียอีก ทำให้ทั้งปู่ทั้งย่าหลงหลานหนักกว่าใครเพียงไม่นานจากห้างสรรพสินค้า พวกเราก็เดินทางมาถึงบ้านของพ่อกับแม่ คนเห่อหลานทั้งคู่ยืนยิ้มอยู่อย่างนั้น หลงหลานแหละ ใคร ๆ ดูก็รู้ “มาแล้วพีพีของปู่” พ่อภาสรีบเปิดประตูรับหลานอุ้มลงจากคาร์ซีตอย่างอารมณ์ดี โดยที่แม่เบลหรือเมียรักของพ่
“ป้อจ๋า ป้อจ๋า” น้องพีพีวัยเกือบสองขวบเรียกผมอย่างอารมณ์ดี วันนี้เราสองคนแอบมาเดตกันเพราะคุณแม่ไปนวดตัวทำสปา ผมเลยรับหน้าที่ดูแลลูกสาวที่หน้าเหมือนผมยิ่งกว่าแกะ ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนผม ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเหมือนได้ขนาดนี้ ต้องเรียกว่าระดับความเหมือนของพีพีคือสำเนาถูกต้อง และนี่ก็เป็นเรื่องที่ลูกพีชงอนผมเป็นประจำว่าทำไมลูกเหมือนผม ไม่เหมือนเธอเลย “พีพีกินไรครับลูก” พีพีอยู่ในวัยกำลังพูด ถึงจะพูดไม่ชัดเป็นบางคำ ผมจะไม่ดุลูกเรื่องพูดไม่ชัด แต่จะพูดชัดกับลูกตั้งแต่เล็ก ให้เขาเข้าใจคำพูดที่ถูกต้อง “ติม” เด็กกับไอศกรีมเป็นอะไรที่หนีกันไม่พ้นไม่ว่ายุคไหน “กินถ้วยเดียวนะครับ แม่ดุ” “แม่ดุ” อ๋า...พอคำนี้พูดชัดเลย ดีนะที่พีชไม่ได้ยิน ไม่งั้นผมโดนดุอีกแน่ โทษฐานสอนลูกพูดตามคำไม่ดี “พีพี ไม่ว่าแม่นะคะ” “ไม่ว่า ไม่ว่า” ฉลาดไหมล่ะครับลูกผม พูดตามทุกคำ อย่างว่าแหละ เด็กวัยนี้ชอบพูดตามเรา “เอารสอะไรครับลูก” ผมกางเมนูของไอศกรีมให้เจ้าหญิงตัวกลมของผมดู แก้มของเธอยุ้ยและแดง คงเพราะผมนี่แหละชอบหอมแก้มลูกบ่อย ตอนพีชเด็ก ๆ ก็แก้มแดง
“รู้ แต่เพราะพี่ภูมิตามใจไง เลยดื้อได้” “รู้ดีตลอด” “อืม ก็รู้นั่นแหละ เพราะพี่ภูมิอะตามใจ” ฉันบึนปากให้คนขี้สปอยล์ พี่ภูมิขยับมานั่งซ้อนหลังและหอมซอกคอของฉัน “คนมันรัก ไม่ให้สปอยล์เมียแล้วจะสปอยล์ใคร” พอเจอคำออดอ้อนนี้เข้า ฉันที่ตั้งท่าจะบ่นเขากลับไปไม่เป็นเพราะความเขิน ใครใช้ให้ขี้อ้อนขนาดนี้กันเนี่ย “ปากหวานตลอด” “รู้ดี เพราะชิมบ่อยใช่ไหม” คำพูดเขาทำฉันหน้าร้อนผ่าว ถึงพวกเราจะจูบกันบ่อย แต่พอได้ยินคำพูดเขาแบบนี้ก็ทำฉันเขินจนไปไม่เป็น ให้มันได้อย่างนี้สิ แก้ผ้าต่อหน้าเขามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่กลับไม่เขินเท่านี้เลย “พี่ภูมิ อย่ากวน” เขารั้งฉันมาแนบชิด หลังฉันพิงกับอกกว้าง เครื่องปั๊มนมยังทำงานของมันอย่างต่อเนื่อง “เมื่อไหร่จะครบเดือน” “ก็อีกยี่สิบแปดวันไงคะ” ฉันตอบกวน ๆ เพราะรู้ว่าที่เขาถามคือหมายถึงอะไร “ตอนแรกพี่ว่าจะมีลูกเยอะ ๆ แต่พอเห็นพีชท้อง พี่เหนื่อยแทนเลย ตอนนี้ไม่อยากมีลูกเพิ่มแล้ว เป็นห่วงพีช” “ท้องหน้าปรึกษาหมอไหม ให้หมอทำแฝดเลยดีกว่า” พอบอกว่าปรึกษาหมอเท่านั้นแหละ คนฟังทำหน้
“คนอะไรขี้อิจฉาเนอะ” ว่าแล้วฉันก็กระแซะเข้าใกล้พี่ภูมิ มองหน้าพี่สองแฝดอย่างหมั่นไส้ในความขี้แกล้ง “พอกันพวกมึงสองคนผัวเมีย” พี่หมอธาร์โวยวาย เห็นไหม นอกจากขี้อิจฉายังพูดไม่เพราะอีก นิสัยไม่ดี สงสารลูกเมียพี่แกในอนาคตเลย แต่ฉันว่าคนอย่างพี่หมอธาร์คงไม่มีวาสนามีลูกมีเมียหรอก แต่ก็ดีแล้ว บุญของเด็กฉันมองหน้าเด็กน้อยตัวเล็กที่เพิ่งคลอดได้สองวัน เด็กอะไรเนี่ยเหมือนพ่อมาก ถึงใคร ๆ จะบอกว่าลูกสาวเหมือนพ่อจะดี แต่ว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีบางส่วนเหมือนฉันบ้างสิ ไม่ใช่เหมือนแค่จิมิ อุ้มท้องมาตั้งหลายเดือน หน้าตาไม่เหมือนแม่เลยสักนิด “หลานย่าน่ารักมาก น้องพีพี พิซซี่ดูสิ หน้าเหมือนภูมิตอนเด็กเลย” คุณย่ากับคุณยายรับหลานไปจากอกฉันแล้ว ทันทีที่ลูกคลอด ปรอทความเป็นย่าเป็นยายของท่านทั้งสองก็พุ่งทะลุฟ้าทันที เห่อหลานของจริง นั่น ๆ แม้แต่คุณป้าศิตาก็ยังมาเห่อกับเขาอีกคน เข้าใจแหละว่าท่านยังไม่มีหลานเป็นของตัวเองและกำลังเห่ออยากได้หลาน แต่พี่หมอแฝดน่ะเหรอจะยอมมีหลานให้ท่านง่าย ๆ “น่ารักมากเลย เหมือนภูมิตอนเด็กเลยเนอะ ขออุ้มหน่อยเบล” ป้าศิตาขออุ้มหลานคนแรกในกลุ่
เสียงครางกระเส่าของเขาทำฉันฉ่ำชื้นเพราะความกระสันอยาก เขาใช้มือเกี่ยวผมให้ทัดข้างใบหู เสียงครางกับเสียงสบถของเขาดังไม่หยุด หลายต่อหลายครั้งเขากระเด้าเอวเข้าหาริมฝีปากบางของฉัน “อา...โคตรดี” เสียงชมไม่ขาดปาก ฉันเองก็เป็นพวกบ้ายอ เมื่อเขาชม ฉันยิ่งอยากทำเต็มที่ให้เขาได้มีความสุข อยากให้เขาปลดปล่อยในโพรงปากของฉัน ให้ฉันได้ดูดกลืนตัวตนของเขาอย่างที่เขาชอบทำกับฉัน ขนขาเขาลุกชันด้วยความเสียวซ่าน ฉันเองก็เสียวไม่ต่างจากเขา ความเร็วจากริมฝีปากนิ่ม รูดขึ้นลง ๆ ตามจังหวะที่เขาชอบและเป็นจังหวะที่ฉันทำได้ดี ยิ่งเขาครางต่ำทุรนทุราย ฉันยิ่งอยากทรมานเขายิ่งกว่าเดิม แรงดูดและจังหวะขึ้นลงที่เพิ่มความถี่มากขึ้นทำให้หัวใจเขาทนไม่ไหว มือหนาล็อกศีรษะฉันไว้แน่น จากนั้นเขาก็เป็นคนเร่งจังหวะและกำลังจะปลดปล่อย “พีช อา...ปล่อย” เขาร้องเรียกให้ฉันปล่อยปากตัวเองออกจากความแข็งขืน บอกแล้วไงว่าฉันมันดื้อ มีเหรอที่ฉันจะยอมปล่อย สุดท้ายจังหวะกระตุกเกร็ง เขาก็อยู่ในโพรงปากนุ่มที่เขาชื่นชอบ ฉันกลืนทุกหยาดหยดที่เขาปลดปล่อย รสชาติไม่ได้แย่ กลิ่นอาจจะคาวบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้