Mag-log inเธอไม่สนใจว่าโจวซือเหย่เข้ามาในห้องได้ยังไง อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าเขาถูกเจียงเจียงปฏิเสธแน่ ๆสมน้ำหน้า!หลังจากโจวซือเหย่ออกไป เจียงซู่ก็นอนไม่หลับอีก ดวงตาของเธอเบิกกว้างเหมือนกระดิ่ง เธอพลิกตัวลงจากเตียง แล้วไปเคาะประตูห้องข้าง ๆไต้ซานเหอที่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็สะดุ้งตื่นแล้วลุกจากเตียงไปรีบเปิดประตูออกมาอย่างรวดเร็ว“มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ฝันร้ายเหรอ…”ไต้ซานเหอเดินเท้าเปล่าออกมา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เมื่อเห็นความห่วงใยบนใบหน้าของเธอ เจียงซู่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา“ฉันนอนพอแล้ว ฉันอยากกลับ”ไต้ซานเหอ: “ตอนนี้เหรอ?”เจียงซู่พยักหน้า ตอบ “อืม”เธอไม่อยากเห็นหน้าโจวซือเหย่อีกในตอนนี้ไต้ซานเหอก็ไม่ลังเล “ได้เลย ฉันจะซื้อตั๋วเครื่องบินเดี๋ยวนี้แหละ”พวกเธอไม่มีสัมภาระอะไร แค่ใส่เสื้อผ้าก็ไปได้เลย“แล้วเว่ยชิงหางล่ะ?” ไต้ซานเหอกล่าว “จะปลุกเขาไหม?”เจียงซู่ห้ามเธอไว้ “ดึกมากแล้ว อย่าปลุกเลย ให้เขานอนไปเถอะ แกส่งข้อความบอกรุ่นพี่ว่าพวกเราออกไปกันก่อนก็พอ”ไต้ซานเหอก็ไม่มีความเห็นต่างพวกเธอขึ้นเครื่องบินออกจากเขตเอ้าเวลาตีสามวันรุ่งขึ้น เว่ยชิงหางตื่นขึ้นมา และเต
เธอไม่ยอมรับ และไม่อยากยอมรับหัวใจคนเราเป็นเนื้อเป็นหนัง การทำผิดพลาดไม่สามารถถูกลบล้างได้ด้วยคำขอโทษเพียงคำเดียว“ออกไป!”โจวซือเหย่พูดอย่างไม่รู้ตัวว่า “ผมอธิบายได้…”เขาคิดว่าพวกเขาคงต้องมีการโต้เถียงกัน แต่ไม่ได้คิดว่าเจียงซู่จะพูดตามน้ำ “ได้สิ ฉันให้โอกาสคุณอธิบาย”“ผม…”โจวซือเหย่เรียบเรียงคำพูด พยายามจะลบเลือนรอยร้าวอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทันใดนั้น เขาก็หาข้อแก้ตัวที่ดีกว่าไม่ได้บรรยากาศเงียบสงัดในฉับพลัน เจียงซู่จึงหาข้อแก้ตัวให้เขาแทน“คุณไม่รู้จะพูดอะไรใช่ไหม ได้ ฉันจะพูดแทนคุณเอง คุณกำลังจะบอกว่า หัวใจของเวิงอี๋ไม่ดี ร่างกายทนไม่ได้ คุณคิดว่ามีเรื่องเร่งด่วนกว่า ฉันทนได้ ฉันรอได้ ให้คุณไปช่วยเธอก่อน แล้วค่อยกลับมาช่วยฉัน”“แล้วคุณเคยคิดไหมว่า ถ้าพวกเขาฆ่าตัวประกันระหว่างทาง ฉันจะมีโอกาสรออีกไหม?”โจวซือเหย่จุกแน่นในลำคอ พูดออกมาอย่างยากลำบาก “ไม่หรอก”คำพูดนี้ไม่รู้ว่าเขาพูดกับเจียงซู่ หรือพูดกับตัวเองเจียงซู่แสยะยิ้มอย่างอ่อนแรง ทว่ากลับเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “ที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้ ไม่ใช่เพราะฉันรอคุณ แต่เป็นเพราะฉันดวงแข็งต่างหาก!”ในใจของเธอรู้สึกอ
เจียงซู่ซบไหล่ไต้ซานเหอ ไม่ได้สนใจเลยว่าโจวซือเหย่ขับรถตามมาเพราะเธอเหนื่อยมากเนื่องจากดึกมากแล้ว พวกเขาจึงวางแผนว่าจะเดินทางในวันรุ่งขึ้นพวกเขาเปิดห้องพักสองห้องที่โรงแรม เว่ยชิงหางหนึ่งห้อง ส่วนเจียงซู่พักอยู่กับไต้ซานเหอรถของโจวซือเหย่ขับตามมาจนถึงโรงแรมหลู่เหยียนมองสามคนที่เดินเข้าไป แล้วถามว่า “บอสครับ ตอนนี้เราจะไปไหนต่อดีครับ?”ทว่ายังไม่ทันขาดคำ โจวซือเหย่ก็เปิดประตูรถแล้วลงไปแล้วหลู่เหยียนเห็นดังนั้นก็รีบตามไปโจวซือเหย่เปิดห้องตรงข้ามกับห้องของเจียงซู่ และเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะนั่นเป็นสิทธิ์ของเขา“ผมอยู่ห้องตรงข้ามคุณ มีอะไรเรียกหาผมได้ตลอดเวลา” โจวซือเหย่พูดกับเจียงซู่เจียงซู่ดูเหมือนไม่ได้ยินอะไร ไม่ตอบอะไรสักคำแต่ไต้ซานเหอถึงกับกรอกตามองบนความรักจอมปลอม!ทันทีที่เข้าห้อง ไต้ซานเหอก็เริ่มยิงคำพูดใส่ “เขายังเสแสร้งได้อีก!”เจียงซู่ไม่กลับอยากพูดถึงเรื่องของโจวซือเหย่ เธอเหนื่อยมากแล้ว “ซานซาน ฉันอยากพักผ่อน”ไต้ซานเหอรู้สึกสงสารจับใจ “ถ้างั้นแกก็ไปพักผ่อนเถอะ”จะไม่เหนื่อยได้ยังไง เพิ่งผ่านความเป็นความตายมาหมาด ๆ การที่เธอยังยืนหยัดอยู่ได้ก็เพราะ
ซึ่งเป็นเสียงของโจวซือเหย่เมื่อเทียบกับลุคสุดเนี้ยบแบบคนมีระดับในชีวิตประจำวัน ตอนนี้เขาที่เพิ่งขึ้นมาจากทะเลอาจพูดได้ว่าดูน่าเวทนา เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ผมเปียกชื้น ก้าวเดินก็รีบร้อนและโซซัดโซเซบนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลที่ปิดไม่มิด เมื่อเห็นเจียงซู่ที่ปลอดภัยดี เขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างเต็มตาโจวซือเหย่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือออกไปจะดึงร่างนั้นเข้ามากอด ทว่าทันใดนั้นพลันมีแขนข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านข้าง ฟาดเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างแรงเสียงการเสียดสีของกล้ามเนื้อชัดเจนมาก ภายใต้แรงเฉื่อย โจวซือเหย่เซถอยหลังไป หลู่เหยียนที่ตามมาทีหลังรีบประคองเจ้านายไว้ได้ทันโจวซือเหย่ยืนมั่น มองเว่ยชิงหางที่ยืนขวางอยู่ข้างหน้าเจียงซู่ด้วยสีหน้าเข้มขรึม ราวกับแม่ไก่ปกป้องลูกไก่ไต้ซานเหอก็มีท่าทีเช่นเดียวกัน ในใจลึก ๆ ของเธอรู้สึกเยาะเย้ย เสแสร้งทำเป็นรักลึกซึ้งหลังจากจบเรื่องแล้วมันมีประโยชน์อะไรกัน?เว่ยชิงหางเอ่ยเยาะเย้ย “คุณโจวไปสนใจน้องสาวผู้แสนดีของคุณเถอะ ส่วนซู่ซู่ ก็ไม่รบกวนคุณต้องมาใส่ใจให้เสียเวลาหรอกครับ”พูดจบ เว่ยชิงหางก็โอบไหล่เจียงซู่และพาเธอออกจากสถานีตำรวจ
“แกว่าอะไรนะ?!”ความกดอากาศรอบตัวโจวซือเหย่ต่ำมาก ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นเฉินตงได้ถูกทรมานก่อนถูกลากมาที่นี่แล้ว พอถูกทำร้ายจนยอมจำนน ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรอีก“เธอโดดทะเลไปแล้ว”ร่างของโจวซือเหย่โซเซเล็กน้อยเฉินตงปฏิเสธความรับผิดชอบ “ฉันบอกแล้วว่าจะปล่อยเธอเมื่อถึงเขตเอ้า แต่เธอกลับโดดทะเลไปเอง”โจวซือเหย่: “ทำไมแกถึงไม่ช่วยเธอ?”คำถามนี้ทำให้ทุกคนถึงกับใบ้กินให้โจรช่วยเหยื่อ ตรรกะนี้ไม่ถูกต้องหรือเปล่า?ขนาดสามีอย่างเขายังเลือกช่วยชู้รักและทอดทิ้งภรรยาตัวเอง แล้วยังจะให้โจรอย่างพวกเขาช่วยอีก? นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกหรอกเหรอ?ความเงียบของโจวซือเหย่คือความรู้สึกผิดที่ไม่สิ้นสุด เขาต่างหากคือคนที่ควรจะช่วยเธอมากที่สุด แต่เขากลับทำอะไรลงไป?เรือของโจวซือเหย่เริ่มค้นหาในพื้นที่ที่เฉินตงบอก เขาลงไปดำน้ำหาคนด้วยตัวเอง การกระทำของพวกเขานั้นไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทรเลย ท้องทะเลกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ การจะหาคนเพียงคนเดียวนั้นยากแสนยากเป็นต้องเห็นตัว ตายต้องเห็นศพ ตราบใดที่ยังหาคนไม่พบ โจวซือเหย่ก็ไม่เชื่อว่าเจียงซู่ตายแล้ว!หลู่เหยียนมองโจวซือเหย่ที่ดำผุดดำว่ายในทะเลม
พอทุกคนเห็นดังนั้นหน้าก็ถอดสีทันที“ลูกพี่ ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?”ผู้เป็นหัวหน้ามองไปที่เจียงซู่ที่กำลังลอยคออยู่กลางทะเล แววตาดำมืดลง “รีบไปเร็วเข้า!”คนของโจวซือเหย่น่าจะตามมาแล้ว เขาไม่มีเวลาเหลือเฟือที่จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่เธอรนหาที่ตายเอง อย่ามาโทษเขา!เจียงซู่หายไปจากน่านน้ำแห่งนี้พร้อมกับเรือประมงเจียงซู่ว่ายน้ำเก่ง ทว่าแรงอึดไม่พอ เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองว่ายไปนานแค่ไหน เมื่อเหม่อมองไปยังท้องทะเลที่กว้างใหญ่สุดสายตา เธอก็ค่อย ๆ หมดแรงหลังจากสำลักน้ำทะเลไปหลายอึก เจียงซู่ก็เริ่มรู้สึกสิ้นหวัง ท้องฟ้าในวันฝนตกถูกปกคลุมไปด้วยเมฆต่ำมาก ความรู้สึกขาดอากาศหายใจค่อย ๆ กลืนกินเธอไม่นาน เจียงซู่ก็หมดสติไป...“มีรายงานว่าเฉินตงกับพวกเข้าไปในเขตเอ้าแล้ว แต่ไม่มีผู้หญิงอยู่กับพวกเขาด้วยครับ”คนของโจวซือเหย่เข้ามารายงานเมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของโจวซือเหย่ก็จมดิ่งลงทันที “จับพวกเขาซะ แล้วถามให้ชัดเจนว่าคนอยู่ที่ไหน!”“ครับ”“เตรียมเครื่องบิน ส่งเวิงอี๋กลับไป”“ครับ”ทันทีที่สั่งการเสร็จ เวิงอี๋ก็ตื่นขึ้นมา“พี่ซือเหย่ พี่ซือเหย่อยู่ไหนคะ?”โจวซือเหย่หายใจเข้าลึก ๆ แล้วห







