공유

บทที่ 3

작가: คุณชายสายฝน
โจวซือเหย่เดินทางกลับบ้านพร้อมกับสร้อยคอที่เลขาหลู่เลือกซื้อมาให้ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเจียงซู่ไม่อยู่ และเพิ่งนึกถึงเรื่องที่เธอออกไปทำงานนอกสถานที่

โดยปกติแล้วเจียงซู่ออกไปทำงานนอกสถานที่อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว เขาเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเป็นพิเศษ และวันนั้นเขาก็ทานอาหารมื้อค่ำคนเดียวในห้องอาหาร

เมื่อเขาทานเสร็จ เขารอให้คนเอาผ้าเช็ดมือมาให้ด้วยความเคยชิน แต่เมื่อนึกได้ว่าเจียงซู่ไม่อยู่ เขาจึงต้องเช็ดมือด้วยตัวเอง

โจวซือเหย่ถามขึ้น “เธอได้บอกไหมว่าจะกลับมาเมื่อไหร่? ”

แม่บ้านเฉินตอบกลับว่า “คุณผู้หญิงไม่ได้บอกค่ะ”

เมื่อก่อนเวลาเจียงซู่ออกไปทำงานนอกสถานที่เขาจะบอกกำหนดการเดินทางให้เขาเสมอ แต่ครั้งนี้กลับไม่บอก โจวซือเหย่จึงขมวดคิ้วขึ้นด้วยความไม่พอใจ

ส่วนเจียงซู่ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดก็นั่งทานอาหารมื้อค่ำเพียงคนเดียวเช่นกัน เธอเก็บกวาดขยะในบ้านก่อนจะไปล้างหน้าแปรงฟันและเข้านอน

เตียงใหม่ สถานที่ใหม่ แต่กลับไม่ได้ทำให้เจียงซู่รู้สึกแปลกที่แปลกทางเลยสักนิด เธอสามารถนอนได้อย่างสบาย

เช้าวันถัดมา

ในช่วงเช้าเจียงซู่ไม่ได้ไปทำงาน แต่เธอตั้งใจไปเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาล

คุณย่าเป็นโรคหายากชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องใช้ยาราคาแพงเพื่อประคองอาการไว้ทุกวัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามว่า โรคของคนรวย

เมื่อเห็นเจียงซู่ คุณย่าก็ดีใจยกใหญ่ จากนั้นก็ถามด้วยความเป็นห่วงขึ้นมาว่า “ทำไมผอมลง? ตระกูลโจวเขาไม่ดีกับหนูเหรอ? ”

เจียงซู่ยิ้มอ่อนก่อนจะตอบคุณย่าว่า “เปล่าค่ะ แม่สามีและคนอื่น ๆ ดีกับหนูมาก”

คุณย่าอี้พูดต่อว่า “มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็อย่าเก็บไว้คนเดียว เล่าให้ย่าฟังได้นะ”

เธอรู้จักหลานสาวตัวเองดีว่าชอบเก็บความทุกข์ไว้ในใจคนเดียว

แต่กลับเป็นครอบครัวตระกูลเจียงเองที่ทำไม่ดีกับเด็กคนนี้

เรื่องการแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้โจวซือเหย่ความจริงแล้วเธอไม่เต็มใจเลยไม่แต่น้อย แต่เธอรู้ดีว่าหากพูดคัดค้านไปก็ไม่มีใครฟังเธออยู่ดี

โชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีติดขัด เธอจึงไม่ต้องได้ชื่อว่าเป็นหญิงหม้าย

เจียงซู่ตอบกลับคุณย่าว่า “คุณย่าคะ หนูสบายดีค่ะ”

ตอนนั้นที่เธอแต่งงานกับโจวซือเหย่ความจริงเธอก็ไม่ได้ลำบากใจอะไรมากนัก เพราะเธอรู้ดีว่านั้นเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา

และในตอนนี้ที่เธอตัดสินใจหย่า ตัวเธอเองก็รู้สึกเหมือนกับตอนนั้น ไม่ได้รู้สึกลำบากใจและทุกอย่างเป็นความสมัครใจของเธอเอง

เธอยังไม่ทันได้ออกจากโรงพยาบาล ก็ได้รับการติดต่อจากโจวซือเหย่ ซึ่งเธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายโทรมาด้วยเหตุใด ดูจากเวลาแล้ว ไต้ซานเหอน่าจะส่งเอกสารหย่าไปถึงมือเขาพอดี

ทันทีที่รับสาย โจวซือเหย่ก็ถามโจมตีเธอ “คุณอยู่ไหน?! ”

เจียงซู่ไม่สนใจคำถามของอีกฝ่ายและตอบกลับไปว่า “คุณเซ็นเอกสารแล้วใช่ไหม? ”

“คุณจะพอได้หรือยัง? ”

โจวซือเหย่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เจียงซู่ “ตอนนี้ไปสำนักเขตก็น่าจะจัดการเรื่องหย่าได้เรียบร้อยพอดี”

เมื่อจบประโยค เธอรู้สึกได้ถึงเสียงลมหายใจอันหนักอึ้งจากปลายสาย แม้จะอยู่คนละที่ แต่เธอรับรู้ได้ถึงความโกรธของเขาได้อย่างชัดเจน

เจียงซู่นะเจียงซู่ เธอชักจะเก่งเกินไปแล้วนะที่กล้าทำให้โจวซือเหย่โกรธเป็นฝืนเป็นไฟได้ขนาดนี้

แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ความโกรธที่เอ่อล้มในสายก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง โจวซือเหย่ยังคงถามคำถามเดิมว่า “ตอนนี้คุณอยู่ไหน? ”

เจียงซู่อยากให้การหย่าร้างครั้งนี้สำเร็จลุล่วง จึงไม่อยากทำตัวยั่วโมโหเขาอีกและบอกที่อยู่ไปในที่สุด

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถของโจวซือเหย่มาจอดอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล

เจียงซู่เปิดประตูขึ้นรถไป

ทันทีที่อีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว โจวซือเหย่จึงถามขึ้นว่า “ช่วงนี้คุณย่าเป็นไงบ้าง? ”

เจียงซู่พูดขึ้นว่า “เวิงอี๋เอาโซ่มาล็อคขาคุณไว้หรือไง? ”

เป็นคำพูดที่กำลังจิกกัดว่า ขึ้นไปเยี่ยมคุณย่าด้วยตัวเองไม่เป็นหรือไง?

โจวซือเหย่มองเธอด้วยสายตาเคร่งขรึมก่อนจะเริ่มปริปากไต่สวนเธอทันที

“เมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา? ทำไมไม่กลับบ้าน? ”

เขาได้รู้ความจริงแล้วว่าเธอไม่ได้ออกไปทำงานนอกสถานที่จริง ๆ

การกระทำของเขามันแสดงถึงความไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ที่ตัวเองจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แต่คนอื่นกลับทำอะไรไม่ได้เลยแม่แต่นิด เขาคงลืมไปแล้วว่าตัวเองไม่ได้กลับบ้านบ่อยแค่ไหน

เจียงซู่พูดขึ้นว่า “ฉันไม่เหมือนคุณหรอกนะ ฉันมีคุณธรรมมากพอ ใบหย่ายังไม่มาถึงมือ ฉันไม่นอกใจคุณหรอก”

เมื่อได้ยินคำพูดที่แฝงไปด้วยความประชดประชัน โจวซือเหย่จึงโต้กลับไปว่า “เพียงแค่คุณเชื่อฟัง ตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวก็ไม่มีใครสามารถมาแทนที่คุณได้”

คำพูดนั้นของเขากำลังหมายความว่า เขาจะให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยตัวเขาก็ไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นไปเรื่อย ๆ เช่นกัน แบบนี้สินะ?

แต่เธอไม่อยากเป็นภรรยาผู้ซื่อสัตย์มองดูสามีตัวเองไปมีคนอื่นอีกแล้ว

“คืนนี้กลับไปนอนบ้าน”

เมื่อเขาพูดเสร็จก็ไม่รอให้อีกคนได้มีโอกาสปฏิเสธ โจวซือเหย่พูดต่อขึ้นมาทันทีว่า “แม่ให้พวกเรากลับไปกินข้าวที่บ้าน”

เมื่อเธอได้ยินดังนั้นจึงเงียบลง ไม่ต่อปากต่อคำอีก เพราะก่อนที่จะได้ใบหย่า เธอไม่อยากให้เรื่องไปถึงหูแม่สามี จะได้ไม่เพิ่มความยุ่งยาก

บริเวณทางทิศเหนือของเมือง ณ คฤหาสน์ตระกูลโจว

ตระกูลโจวเป็นตระกูลเก่าแก่ของเมืองเป่ยเชิงที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐจีนมาจนถึงปัจจุบันนี้ อำนาจของตระกูลเหลือล้นฟ้า

โจวซือเหย่เป็นลูกชายของบ้านใหญ่ นอกจากนี้ยังแบ่งแยกย่อยเป็นบ้านสอง บ้านสาม และญาติพี่น้องห่าง ๆ อีกมากมาย

ในปัจจุบัน ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจของตระกูลโจวคือ คุณปู่ของโจวซือเหย่ นามว่า โจวซื่อสง

ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านใหญ่

พ่อของโจวซือเหย่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อห้าปีก่อนจากอุบัติเหตุเดียวกันกับเขา ตอนนี้ในบ้านใหญ่จึงเหลือแค่เขาที่เป็นผู้ชายคนเดียว นอกนั้นเป็นผู้หญิงหมด

ด้วยเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้เธอในฐานะผู้ที่ช่วยเขาดึงเขาออกมาจากความตาย แม่สามีจึงให้ ‘ความสำคัญ’ เธอเป็นอย่างมาก

สำคัญถึงขนาดที่ว่าพอเธอเข้าไปในบ้านก้าวแรก ก็ได้ยาบำรุงครรภ์มาหนึ่งถ้วยทันที

เวินเหยาฉินเอ่ยขึ้นมาว่า “นี่เป็นยาที่แม่ให้คนไปหามาจากฮ่องกง เขาบอกว่าดื่มแล้วเตรียมตัวมีลูกชายได้เลย”

“รีบดื่มตอนยังอุ่น ๆ นะ”

และในชั่วขณะ แม่บ้านก็ยื่นถ้วยยามาให้ กลิ่นฉุนของยาก็แทบจะทำให้เธอหยุดหายใจ

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องดื่มยาอะไรแบบนี้

ตั้งแต่คืนแรกที่พวกเขาเริ่มนอนด้วยกัน เวินเหยาฉินก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้อุ้มหลานชายทันที

เวลาผ่านไปสี่ปีครึ่งแห่งการตั้งหน้าตั้งตารอคอย หากไม่ใช่ดวงชะตาที่แข็งแกร่งของเธอ บางทีเธออาจจะถูกเขี่ยทิ้งไปตั้งแต่ปีแรกที่ไม่มีลูกแล้วก็ได้

ในช่วงสี่ปีครึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้มีเพียงแค่เวินเหยาฉินที่รออยู่คนเดียว แม้แต่เจียงซู่เองก็หวังว่าจะได้อุ้มครรภ์ลูกที่เกิดจากเธอกับโจวซือเหย่เช่นกัน

เธอคิดว่ากาลเวลาจะพิสูจน์คน และหากมีลูกด้วยกัน ข้อผูกมัดของพวกเขาก็จะมากยิ่งขึ้น

แต่เธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพบว่า กาลเวลาพิสูจน์คน มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกในความสัมพันธ์เลย

คนจะไม่ชอบ ต่อให้ทำอย่างไรมันก็คือไม่ชอบ

และในตอนนี้ เจียงซู่ไม่คิดอยากมีลูกที่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว

เจียงซู่หันตัวหลบ หลีกเลี่ยงถ้วยยาด้วยท่าทางปฏิเสธ ก่อนจะหันไปมองโจวซือเหย่ เพื่อต้องการสื่อเป็นนัยยะให้เขาช่วยปฏิเสธแทนเธอ

แต่โจวซือเหย่กำลังถอดเสื้อโค้ชอยู่พอดี จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเธอกำลังขอความช่วยเหลือ

เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงหันกลับมาและพูดตอบกลับว่า “แม่คะ พอดีหนูกำลังทานยาแก้หวัดอยู่ ทานยาตัวอื่นไม่ได้ค่ะ”

ได้ยินดังนั้น เวินเหยาฉินขมวดคิ้วจนเป็นปม และถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า “ทำไมเป็นหวัดอีกแล้วล่ะ? แม่ว่าที่เธอท้องไม่ติดสักที คงเป็นเพราะร่างกายเธอไม่แข็งแรงแน่เลย”

“พวกเธอกลับมาอยู่ที่บ้านเถอะ เดี๋ยวแม่ให้ป้าอู๋ทำอาหารบำรุงให้อย่างดีเลย จะได้บำรุงร่างกายให้พร้อมกับการมีลูกเสียก่อน เธอก็อายุยี่สิบแปดแล้ว ถ้ายังปล่อยไว้อยู่อย่างนี้เดี๋ยวจะเข้าข่ายภาวะตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก”

ขณะที่พูด สายตาของเวินเหยาฉินก็เพ่งเล็งไปที่โจวซืออเหย่ ซึ่งเขาตอบกลับว่า “ผมไม่มีปัญหาครับ”

เจียงซู่ “...”

เขาจะมาเล่นบทลูกแสนกตัญญูอะไรตอนนี้?

จะได้หย่ากันอยู่แล้ว ทำไมเธอต้องกลับมาอยู่บ้านที่ราวกับเป็นนรกเพื่อเพิ่มความลำบากใจให้ตัวเองด้วย? หรือชีวิตในตอนนี้มันยังทุกข์ไม่พออีกเหรอ ถึงยังต้องคอยเติมไฟหาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้?
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 90

    เจียงซู่ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาสองพ่อลูกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่คุณย่า...เธอโบกมือให้คนมาช่วยขนกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ให้อีกคนเจียงเจียเหวินเชิดคอด้วยท่าทางภาคภูมิใจพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องรับรองโจวซือเหย่กลับมาถึงบ้านในเวลาอาหารเย็น และเมื่อเขาเข้ามาในบ้าน ก็สังเกตเห็นเจียงเจียเหวินทันที“พี่เขย”เจียงเจียเหวินฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเข้าไปหา “พี่กลับมาแล้วเหรอคะ? ฉันกับพี่เจียงกำลังจะทานอาหารเย็นพอดี แต่ฉันก็บอกพี่เจียงแล้วนะคะว่าให้รอพี่ก่อน แต่พี่เจียงก็บอกว่าไม่ต้องรอ แถมยังบอกว่าพี่จะไม่กลับมากินข้าวที่บ้านอีก”“ดูสิ เหมือนว่าพี่สาวเธอจะเดาผิดนะ เธอดูไม่สนใจอะไรเลย ไม่รอ ละไม่โทรถามด้วย”ระหว่างที่พูด เจียงเจียเหวินเดินไปหาอีกคนเพื่อรับเสื้อโค้ทที่โจวซือเหย่ถอดออก“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เมื่อพูดจบ เธอก็แย่งเสื้อโค้ทมาจากมือป้าเฉินป้าเฉิน “...”ป้าเฉินไม่เคยเห็นใครชอบแย่งงานทำขนาดนี้มาก่อนเจียงเจียเหวิน “ป้าเฉินคะ ไปหยิบตะเกียบกับชามเพิ่มอีกหนึ่งชุดให้พี่เขยหน่อยค่ะ”“พี่เขย นั่งตรงนี้นะคะ”เมื่อถึงโต๊ะอาหาร เจียงเจียเหวินดึงเก้าอี้ให้โจวซือเหย่ตำแหน่งที่เขานั่งคือฝั่งตรง

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 89

    ในยามกลางคืนที่มืดดำสนิท ในห้องนอนที่เงียบสงดมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้น โจวซือเหย่พยายามปลุกเจียงซู่ที่มีท่าทางที่ไม่ปกติให้ตื่นเมื่อเจียงซู่ตื่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดเผือดหลังจากหลงอยู่ในห้วงของความฝันโจวซือเหย่ “ฝันร้ายเหรอ?”ใช่ เธอเพิ่งตื่นจากฝันร้ายจริง ๆ เธอฝันถึงอุบัติเหตุรถยนต์อีกแล้วเธออยากจะมองข้ามมัน อยากจะลืมมันไปให้พ้น ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตามมาหลอกหลอนเธอเหมือนเงาที่ตามติด ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น เจียงซู่จำไม่ได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่เธอบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่เธอยังคงฝันร้ายเช่นนี้อยู่อย่างควบคุมไม่ได้เจียงซู่สูดอากาศหายใจเข้าลึก ๆ และหลับตาลง พร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่จนลำคอขยับอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นคาวเลือดที่อบอวลราวกับว่ายังคงวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูก โจมตีเข้ากับระบบการรับกลิ่นของเธออย่างไม่หยุดยั้ง จนทำลายสัมผัสทั้งห้าของเธอจากการที่เขาได้ยินคำพูดละเมอตอนเธอตอนอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ทำให้โจวซือเหย่รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรอยู่ แววตาของเขาฉายแววความสงสารจึงเอ่ยขึ้นมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 88

    เมื่อคุณหญิงย่าเห็นเจียงซู่ที่กลับมาพร้อมกับขาที่บาดเจ็บ จึงมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสารจับใจ และหันไปตำหนิโจวซือเหย่ทันทีว่า “ทำไมไม่บอกย่าว่าเมียแกบาดเจ็บ? ถ้าย่ารู้ ย่าจะไม่ให้มาหรือไง แกดูแลเมียแกเป็นไหมเนี่ย?”โจวซือเหย่รับบททำตัวเป็นหลานชายผู้แสนดี “คุณย่าสอนถูกแล้วครับ เป็นความผิดของผมเอง”เจียงซู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณย่าคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ อาเหย่ดูแลหนูดีค่ะ”หากต้องพูดถึงการหย่าร้าง คนในตระกูลโจวทั้งหมดที่เธอรู้สึกเสียดายมากที่สุดก็คงเป็นคุณย่าโจวด้วยความรักและความเอ็นดูอย่างแท้จริงที่คุณย่ามีให้แก่หลานสะใภ้ที่ถูกซื้อมาคนนี้ จึงทำให้เธอยอมให้ความร่วมมือกับโจวซือเหย่เล่นละครเพื่อเอาใจคุณหญิงย่าเหวินเหยาฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเจียงซู่ที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำไมถึงบาดเจ็บอีกแล้ว? สรุปร่างกายของเธอไหวไหมเนี่ย?เมื่อเห็นว่าเจียงซู่ผอมลง คุณหญิงย่าจึงสั่งให้ทางห้องครัวทำอาหารบำรุงมาให้เธอทานเยอะ ๆ และตกเย็นเมื่อถึงเวลากลับ ก็ยังจัดเตรียมอาหารเสริมมากมายใส่ขึ้นรถให้อีกด้วยคุณหญิงย่า “ถ้ากินหมดแล้วก็บอกย่านะ เดี๋ยวย่าส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 87

    เจียงซู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็เป็นผู้หญิงวัยผู้ใหญ่นี่นะเธอหยิบของขวัญออกมาจากกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไว้ให้สำหรับไต้ซานเหอไต้ซานเหอหิ้วกระเป๋าลิมิเต็ดอิดิชั่นที่อีกคนให้ขึ้นมาอย่างพออกพอใจ พลางพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่ซื้อมาหลาย ๆ ใบล่ะ? ทางที่ดีนะ ซื้อจนโจวซือเหย่ล้มละลายไปเลย! ถ้าแกไม่รีบใช้เงิน ถึงตอนนั้นก็จะตกไปเป็นของคนต่ำสถุน อย่างเวิงอี๋ละนะ”เธอประเมินความสามารถในการซื้อของตัวเองสูงเกินไป และประเมินสินทรัพย์ของโจวซือเหย่ต่ำไปเช่นกัน แค่กระเป๋าไม่กี่ใบ จะทำให้เขาล้มละลายได้อย่างไงกัน“ฉันหิวแล้ว”เมื่อมนุษย์ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย และเกิดความต้องการต่าง ๆ ได้ง่าย ความอยากอาหารก็เป็นหนึ่งในความต้องการนั้นเช่นกันเธอเป็นคนติดรสชาติอาหารจีนมาก อาหารต่างประเทศเธอไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ทั้งร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บประกอบกับสภาพอากาศรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย การเดินทางครั้งนี้ จึงทำให้เจียงซู่ผอมลง น้ำหนักหายไปหลายกิโลกรัมฝีมือการทำอาหารของไต้ซานเหอไม่เลวเลย เธอทำแต่อาหารที่เจียงซู่ชอบแต่ทว่า เธอยังไม่ทันได้อ้าปากลิ้มรสอาหารที่อยู่ตรงหน้าสักคำเดียว โจ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 86

    “พี่เจียงคะ เดี๋ยวฉันช่วยเข็นพี่เข้าไปพักผ่อนข้างในนะคะ ฉันจะบอกพี่ให้ ว่าที่นี่หรูหรามาก ข้าวของเครื่องใช้ครบครัน ถ้าพี่ต้องการอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันช่วย...”เวิงอี๋แสดงท่าทีราวกับเป็นเจ้าของเครื่องบินเจียงซู่ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้อีกคนหยุดพูด พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตามีปัญหาหรือไง?”เวิงอี๋ได้ยินดังนั้นจึงชะงักขึ้นมาทันที และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่งงงวยว่า “หมายความว่าไงคะ?”เจียงซู่พูดตอบกลับ “ดูไม่ออกเหรอว่าฉันไม่ชอบเธอ”เธอกำลังรำคาญอยู่ เวิงอี๋ดูไม่ออกได้อย่างไร?“พี่เจียง...”เวิงอี๋เบะปาก ทำท่าตะกุกตะกักเหมือนกำลังถูกรังแก และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจในตอนนั้น โจวซือเหย่จึงพูดเข้าข้างเวิงอี๋ว่า “เธอก็แค่อยากดูแลคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย”เจียงซู่มองเขาที่กำลังเข้าข้างอีกคนด้วยแววตาเยาะเย้ย ไม่รู้ว่าเขาไม่เห็นความคิดแอบแฝงของเวิงอี๋จริง ๆ? หรือแค่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นกันแน่?เธอต้องการความช่วยเหลือจากเวิงอี๋เหรอ?ถึงแม้เธอจะตายและเอาศพไปทิ้งกลางป่า ก็คงไม่ถึงคราวที่ชู้ต้องมาเอาศพให้หรอก เว้นก็เสียแต่ พวกเขารู้สึกว่าเธอตา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 85

    “ผมรู้”เขารู้เรื่องทั้งหมด เลขาหลู่เป็นคนบอกเขาเองทั้งหมดแล้วโจวซือเหย่ตอนแรกเห็นว่าเจียงซู่ไม่เป็นอะไร จริง ๆ แล้วเขาดีใจด้วยซ้ำ ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรมากแต่ว่าหลังจากรู้เรื่องที่เธอประสบอุบัติเหตุรถชน เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใบหน้าของเจียงซู่ไม่ได้ดีขึ้นเพราะเรื่องนี้ ในทางกลับกันยิ่งเปลี่ยนเป็นแย่ลงกว่าเดิม เพราะความสงสารที่เขาแสดงออกมาในเวลานี้ สำหรับเธอแล้วทั้งหมดนี้มันคือการถูกเยาะเย้ยมิตรภาพที่มาช้ามันดูไร้ค่ายิ่งกว่าหญ้าอีกโจวซือเหย่พูดขึ้น “ครั้งนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”“ความบังเอิญที่มากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าความบังเอิญ เหตุผลเดียวกัน เรื่องอุบัติเหตุก็เช่นกัน” เจียงซู่ยกมุมปากขึ้นด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ระหว่างฉันกับเวิงอี๋ คุณจะเลือกใคร จริง ๆ แล้วในใจคุณรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าคุณเลือกใคร”ตอนนี้เขาก็แค่ทำตัวเป็นเหมือนขงเบ้งหลังเกิดเหตุ เพื่อที่จะรักษาศักดิ์ศรีตัวเองเอาไว้แววตาของเจียงซู่สิ้นหวัง เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงการอ้อนวอนขอร้อง “เป็นสามีภรรยากันมาก็ห้าปี เห็น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status