แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: คุณชายสายฝน
โจวซือเหย่เดินทางกลับบ้านพร้อมกับสร้อยคอที่เลขาหลู่เลือกซื้อมาให้ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเจียงซู่ไม่อยู่ และเพิ่งนึกถึงเรื่องที่เธอออกไปทำงานนอกสถานที่

โดยปกติแล้วเจียงซู่ออกไปทำงานนอกสถานที่อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว เขาเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเป็นพิเศษ และวันนั้นเขาก็ทานอาหารมื้อค่ำคนเดียวในห้องอาหาร

เมื่อเขาทานเสร็จ เขารอให้คนเอาผ้าเช็ดมือมาให้ด้วยความเคยชิน แต่เมื่อนึกได้ว่าเจียงซู่ไม่อยู่ เขาจึงต้องเช็ดมือด้วยตัวเอง

โจวซือเหย่ถามขึ้น “เธอได้บอกไหมว่าจะกลับมาเมื่อไหร่? ”

แม่บ้านเฉินตอบกลับว่า “คุณผู้หญิงไม่ได้บอกค่ะ”

เมื่อก่อนเวลาเจียงซู่ออกไปทำงานนอกสถานที่เขาจะบอกกำหนดการเดินทางให้เขาเสมอ แต่ครั้งนี้กลับไม่บอก โจวซือเหย่จึงขมวดคิ้วขึ้นด้วยความไม่พอใจ

ส่วนเจียงซู่ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดก็นั่งทานอาหารมื้อค่ำเพียงคนเดียวเช่นกัน เธอเก็บกวาดขยะในบ้านก่อนจะไปล้างหน้าแปรงฟันและเข้านอน

เตียงใหม่ สถานที่ใหม่ แต่กลับไม่ได้ทำให้เจียงซู่รู้สึกแปลกที่แปลกทางเลยสักนิด เธอสามารถนอนได้อย่างสบาย

เช้าวันถัดมา

ในช่วงเช้าเจียงซู่ไม่ได้ไปทำงาน แต่เธอตั้งใจไปเยี่ยมคุณย่าที่โรงพยาบาล

คุณย่าเป็นโรคหายากชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ต้องใช้ยาราคาแพงเพื่อประคองอาการไว้ทุกวัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามว่า โรคของคนรวย

เมื่อเห็นเจียงซู่ คุณย่าก็ดีใจยกใหญ่ จากนั้นก็ถามด้วยความเป็นห่วงขึ้นมาว่า “ทำไมผอมลง? ตระกูลโจวเขาไม่ดีกับหนูเหรอ? ”

เจียงซู่ยิ้มอ่อนก่อนจะตอบคุณย่าว่า “เปล่าค่ะ แม่สามีและคนอื่น ๆ ดีกับหนูมาก”

คุณย่าอี้พูดต่อว่า “มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็อย่าเก็บไว้คนเดียว เล่าให้ย่าฟังได้นะ”

เธอรู้จักหลานสาวตัวเองดีว่าชอบเก็บความทุกข์ไว้ในใจคนเดียว

แต่กลับเป็นครอบครัวตระกูลเจียงเองที่ทำไม่ดีกับเด็กคนนี้

เรื่องการแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้โจวซือเหย่ความจริงแล้วเธอไม่เต็มใจเลยไม่แต่น้อย แต่เธอรู้ดีว่าหากพูดคัดค้านไปก็ไม่มีใครฟังเธออยู่ดี

โชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีติดขัด เธอจึงไม่ต้องได้ชื่อว่าเป็นหญิงหม้าย

เจียงซู่ตอบกลับคุณย่าว่า “คุณย่าคะ หนูสบายดีค่ะ”

ตอนนั้นที่เธอแต่งงานกับโจวซือเหย่ความจริงเธอก็ไม่ได้ลำบากใจอะไรมากนัก เพราะเธอรู้ดีว่านั้นเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้แต่งงานกับเขา

และในตอนนี้ที่เธอตัดสินใจหย่า ตัวเธอเองก็รู้สึกเหมือนกับตอนนั้น ไม่ได้รู้สึกลำบากใจและทุกอย่างเป็นความสมัครใจของเธอเอง

เธอยังไม่ทันได้ออกจากโรงพยาบาล ก็ได้รับการติดต่อจากโจวซือเหย่ ซึ่งเธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายโทรมาด้วยเหตุใด ดูจากเวลาแล้ว ไต้ซานเหอน่าจะส่งเอกสารหย่าไปถึงมือเขาพอดี

ทันทีที่รับสาย โจวซือเหย่ก็ถามโจมตีเธอ “คุณอยู่ไหน?! ”

เจียงซู่ไม่สนใจคำถามของอีกฝ่ายและตอบกลับไปว่า “คุณเซ็นเอกสารแล้วใช่ไหม? ”

“คุณจะพอได้หรือยัง? ”

โจวซือเหย่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เจียงซู่ “ตอนนี้ไปสำนักเขตก็น่าจะจัดการเรื่องหย่าได้เรียบร้อยพอดี”

เมื่อจบประโยค เธอรู้สึกได้ถึงเสียงลมหายใจอันหนักอึ้งจากปลายสาย แม้จะอยู่คนละที่ แต่เธอรับรู้ได้ถึงความโกรธของเขาได้อย่างชัดเจน

เจียงซู่นะเจียงซู่ เธอชักจะเก่งเกินไปแล้วนะที่กล้าทำให้โจวซือเหย่โกรธเป็นฝืนเป็นไฟได้ขนาดนี้

แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ความโกรธที่เอ่อล้มในสายก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง โจวซือเหย่ยังคงถามคำถามเดิมว่า “ตอนนี้คุณอยู่ไหน? ”

เจียงซู่อยากให้การหย่าร้างครั้งนี้สำเร็จลุล่วง จึงไม่อยากทำตัวยั่วโมโหเขาอีกและบอกที่อยู่ไปในที่สุด

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถของโจวซือเหย่มาจอดอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล

เจียงซู่เปิดประตูขึ้นรถไป

ทันทีที่อีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว โจวซือเหย่จึงถามขึ้นว่า “ช่วงนี้คุณย่าเป็นไงบ้าง? ”

เจียงซู่พูดขึ้นว่า “เวิงอี๋เอาโซ่มาล็อคขาคุณไว้หรือไง? ”

เป็นคำพูดที่กำลังจิกกัดว่า ขึ้นไปเยี่ยมคุณย่าด้วยตัวเองไม่เป็นหรือไง?

โจวซือเหย่มองเธอด้วยสายตาเคร่งขรึมก่อนจะเริ่มปริปากไต่สวนเธอทันที

“เมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา? ทำไมไม่กลับบ้าน? ”

เขาได้รู้ความจริงแล้วว่าเธอไม่ได้ออกไปทำงานนอกสถานที่จริง ๆ

การกระทำของเขามันแสดงถึงความไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ที่ตัวเองจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ แต่คนอื่นกลับทำอะไรไม่ได้เลยแม่แต่นิด เขาคงลืมไปแล้วว่าตัวเองไม่ได้กลับบ้านบ่อยแค่ไหน

เจียงซู่พูดขึ้นว่า “ฉันไม่เหมือนคุณหรอกนะ ฉันมีคุณธรรมมากพอ ใบหย่ายังไม่มาถึงมือ ฉันไม่นอกใจคุณหรอก”

เมื่อได้ยินคำพูดที่แฝงไปด้วยความประชดประชัน โจวซือเหย่จึงโต้กลับไปว่า “เพียงแค่คุณเชื่อฟัง ตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวก็ไม่มีใครสามารถมาแทนที่คุณได้”

คำพูดนั้นของเขากำลังหมายความว่า เขาจะให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยตัวเขาก็ไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นไปเรื่อย ๆ เช่นกัน แบบนี้สินะ?

แต่เธอไม่อยากเป็นภรรยาผู้ซื่อสัตย์มองดูสามีตัวเองไปมีคนอื่นอีกแล้ว

“คืนนี้กลับไปนอนบ้าน”

เมื่อเขาพูดเสร็จก็ไม่รอให้อีกคนได้มีโอกาสปฏิเสธ โจวซือเหย่พูดต่อขึ้นมาทันทีว่า “แม่ให้พวกเรากลับไปกินข้าวที่บ้าน”

เมื่อเธอได้ยินดังนั้นจึงเงียบลง ไม่ต่อปากต่อคำอีก เพราะก่อนที่จะได้ใบหย่า เธอไม่อยากให้เรื่องไปถึงหูแม่สามี จะได้ไม่เพิ่มความยุ่งยาก

บริเวณทางทิศเหนือของเมือง ณ คฤหาสน์ตระกูลโจว

ตระกูลโจวเป็นตระกูลเก่าแก่ของเมืองเป่ยเชิงที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐจีนมาจนถึงปัจจุบันนี้ อำนาจของตระกูลเหลือล้นฟ้า

โจวซือเหย่เป็นลูกชายของบ้านใหญ่ นอกจากนี้ยังแบ่งแยกย่อยเป็นบ้านสอง บ้านสาม และญาติพี่น้องห่าง ๆ อีกมากมาย

ในปัจจุบัน ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจของตระกูลโจวคือ คุณปู่ของโจวซือเหย่ นามว่า โจวซื่อสง

ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านใหญ่

พ่อของโจวซือเหย่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อห้าปีก่อนจากอุบัติเหตุเดียวกันกับเขา ตอนนี้ในบ้านใหญ่จึงเหลือแค่เขาที่เป็นผู้ชายคนเดียว นอกนั้นเป็นผู้หญิงหมด

ด้วยเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้เธอในฐานะผู้ที่ช่วยเขาดึงเขาออกมาจากความตาย แม่สามีจึงให้ ‘ความสำคัญ’ เธอเป็นอย่างมาก

สำคัญถึงขนาดที่ว่าพอเธอเข้าไปในบ้านก้าวแรก ก็ได้ยาบำรุงครรภ์มาหนึ่งถ้วยทันที

เวินเหยาฉินเอ่ยขึ้นมาว่า “นี่เป็นยาที่แม่ให้คนไปหามาจากฮ่องกง เขาบอกว่าดื่มแล้วเตรียมตัวมีลูกชายได้เลย”

“รีบดื่มตอนยังอุ่น ๆ นะ”

และในชั่วขณะ แม่บ้านก็ยื่นถ้วยยามาให้ กลิ่นฉุนของยาก็แทบจะทำให้เธอหยุดหายใจ

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องดื่มยาอะไรแบบนี้

ตั้งแต่คืนแรกที่พวกเขาเริ่มนอนด้วยกัน เวินเหยาฉินก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้อุ้มหลานชายทันที

เวลาผ่านไปสี่ปีครึ่งแห่งการตั้งหน้าตั้งตารอคอย หากไม่ใช่ดวงชะตาที่แข็งแกร่งของเธอ บางทีเธออาจจะถูกเขี่ยทิ้งไปตั้งแต่ปีแรกที่ไม่มีลูกแล้วก็ได้

ในช่วงสี่ปีครึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้มีเพียงแค่เวินเหยาฉินที่รออยู่คนเดียว แม้แต่เจียงซู่เองก็หวังว่าจะได้อุ้มครรภ์ลูกที่เกิดจากเธอกับโจวซือเหย่เช่นกัน

เธอคิดว่ากาลเวลาจะพิสูจน์คน และหากมีลูกด้วยกัน ข้อผูกมัดของพวกเขาก็จะมากยิ่งขึ้น

แต่เธอก็ต้องผิดหวัง เมื่อพบว่า กาลเวลาพิสูจน์คน มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกในความสัมพันธ์เลย

คนจะไม่ชอบ ต่อให้ทำอย่างไรมันก็คือไม่ชอบ

และในตอนนี้ เจียงซู่ไม่คิดอยากมีลูกที่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว

เจียงซู่หันตัวหลบ หลีกเลี่ยงถ้วยยาด้วยท่าทางปฏิเสธ ก่อนจะหันไปมองโจวซือเหย่ เพื่อต้องการสื่อเป็นนัยยะให้เขาช่วยปฏิเสธแทนเธอ

แต่โจวซือเหย่กำลังถอดเสื้อโค้ชอยู่พอดี จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเธอกำลังขอความช่วยเหลือ

เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงหันกลับมาและพูดตอบกลับว่า “แม่คะ พอดีหนูกำลังทานยาแก้หวัดอยู่ ทานยาตัวอื่นไม่ได้ค่ะ”

ได้ยินดังนั้น เวินเหยาฉินขมวดคิ้วจนเป็นปม และถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า “ทำไมเป็นหวัดอีกแล้วล่ะ? แม่ว่าที่เธอท้องไม่ติดสักที คงเป็นเพราะร่างกายเธอไม่แข็งแรงแน่เลย”

“พวกเธอกลับมาอยู่ที่บ้านเถอะ เดี๋ยวแม่ให้ป้าอู๋ทำอาหารบำรุงให้อย่างดีเลย จะได้บำรุงร่างกายให้พร้อมกับการมีลูกเสียก่อน เธอก็อายุยี่สิบแปดแล้ว ถ้ายังปล่อยไว้อยู่อย่างนี้เดี๋ยวจะเข้าข่ายภาวะตั้งครรภ์เมื่ออายุมาก”

ขณะที่พูด สายตาของเวินเหยาฉินก็เพ่งเล็งไปที่โจวซืออเหย่ ซึ่งเขาตอบกลับว่า “ผมไม่มีปัญหาครับ”

เจียงซู่ “...”

เขาจะมาเล่นบทลูกแสนกตัญญูอะไรตอนนี้?

จะได้หย่ากันอยู่แล้ว ทำไมเธอต้องกลับมาอยู่บ้านที่ราวกับเป็นนรกเพื่อเพิ่มความลำบากใจให้ตัวเองด้วย? หรือชีวิตในตอนนี้มันยังทุกข์ไม่พออีกเหรอ ถึงยังต้องคอยเติมไฟหาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 128

    หลังจากออกจากกั่งรุ่ย เจียงซู่ก็รีบตรงกลับไปโรงพยาบาลทันทีคุณย่ายังไม่ฟื้น เธอก็ไม่สบายใจส่วนทางโจวซือเหย่นั้น หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้า เขาก็เปิดดูโทรศัพท์ แต่เจียงซู่ไม่ได้ติดต่อมาสีตาคมมืดมิด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลเจียงเท่าไหร่เวิงอี๋เห็นโจวซือเหย่เหม่อลอยจึงอดไม่ได้ตะโกนว่า “พี่ซือเหย่…”เมื่อได้ยินเสียง โจวซือเหย่ถึงมีสติกลับมา ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”เวิงอี๋กัดริมฝีปาก: “ฉันบอกว่าคุณหมอเหมี่ยวให้ฉันไปรับผลตรวจค่ะ”สายตาของโจวซือเหย่กวาดมองไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อน”เวิงอี๋พูดอย่างเกรงใจ่วา “จริง ๆ ฉันไปเองได้ค่ะ”โจวซือเหย่พูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะไปขับรถ”เมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสำคัญ ดวงตาของเวิงอี๋ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่โรงพยาบาลเจียงซู่จ้องมองคุณย่าอี้ที่ยังคงหมดสติอยู่ด้วยความหนักใจ เพราะคุณหมอบอกว่าการหมดสติครั้งนี้เป็นเหมือนการซ้ำเติมร่างกายที่อ่อนแอของคุณย่าให้แย่ลงไปอีกหลังจากออกมาจากห้องตรวจของหมอ เจียงซู่ก็ขาอ่อนแรง เซถลาเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่คว้ากำแพงไว้ได้ทันในเวลานั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงของโ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 127

    “คุณย่า—”เจียงซงหวาเห็นดังนั้นก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่แม่เจียงกลับรั้งเขาไว้ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี แค่มองตากันก็เข้าใจความหมายของกันและกันเจียงซู่พูดอย่างร้อนรน “พ่อคะ รีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”ระหว่างผลประโยชน์กับความกตัญญู เจียงซงหวาเลือกอย่างแรก“หาทางให้โจวซือเหย่หยุดให้ได้”“พ่อ!”เจียงซู่มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?ความน่าเกลียดของมนุษย์ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจียงซงหวาเจียงซู่กัดฟันกรามแน่น พูดว่า “ได้ หนูสัญญา!”หลังจากการนำตัวคุณย่าอี้ส่งโรงพยาบาล ท่านก็ได้รับการช่วยชีวิต แต่จะฟื้นเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองเจียงซงหวาเร่งเร้า “ย่าของแกไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้แกไปขอร้องโจวซือเหย่ซะ”เจียงซู่ไม่ได้ลุกขึ้น “รอคุณย่าฟื้นก่อนค่ะ”เจียงซงหวาพูดว่า “ฉันให้เวลาแกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไม่ว่าจะฟื้นหรือไม่ก็ตาม แกต้องไปขอร้องโจวซือเหย่ให้ได้”เขาทิ้งท้ายคำพูดแล้วทำท่าทางราวกับรังเกียจความอัปมงคล ไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเจียงซู่กุมมือที่เหี่ยวย่นของคุณย่าไว้ ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 126

    กิ๊กของเจียงเจียเหวินกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนในตระกูลเจียงอยู่ในห้องวีไอพีเท่านั้นเสียงสะอื้นของเจียงเจียเหวินและเสียงหายใจหอบถี่ของเจียงซงหวาทำให้ความกดอากาศในห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็งเมื่อละครตลกที่ไร้สาระนี้จบลง เจียงซู่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้วเธอประคองคุณย่าเพื่อจะเดินออกไป ทว่าเธอเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เจียงซงหวาก็เรียกไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้!”เจียงซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “มีอะไรอีกไหมคะ?”เจียงซงหวาใช้อำนาจความเป็นพ่อสั่งว่า “เรื่องนี้แกจะจัดการยังไง?”เจียงซู่: “พ่อคะ พ่อถามผิดคนแล้วล่ะ”ตั้งแต่เกิดขึ้นเรื่องจนกระทั่งจบลง เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิดใบหน้าแก่ ๆ ของเจียงซงหวาดูไม่สู้ดีนัก “แกหมายความว่ายังไง? ตอนนี้โจวซือเหย่ยังคงเล่นงานตระกูลเจียงอยู่ แกคิดจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนในตระกูลเจียงอยู่ไหม? อย่าลืมนะ ถ้าไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!”“อะไรกันเนี่ย นังลูกอกตัญญู”เจียงซู่: “ก่อนห้าขวบ แม่หนูเป็นคนเลี้ยงหนูค่ะ หลังห้าขวบ คุณย่าเป็นคนเลี้ยงหนูจนโต”เจียงซงหวา: “ถ้าไม่มีเงินของฉัน พวกเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงแก?!”เจียงซู่: “

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 125

    เจียงซงหวาพูดเสียงหนัก “ลูกในท้องเหวินเหวิน เป็นลูกของนายแน่นอน!”“ผมไม่ได้แตะต้องลูกสาวคุณแม้แต่ปลายก้อย” โจวซือเหย่กล่าวเย้ยหยัน “ลูกสาวคุณมีความสามารถแบบนั้นจริง แต่ตระกูลโจวเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกให้คนอื่น”กล่าวจบ นอกจากโจวซือเหย่ ทุกคนต่างมีหน้าแตกต่างกันไป แม้แต่เจียงซู่เองยังเบิกตากว้างเขาหมายความว่ายังไง?เธอเห็นพวกเขานอนด้วยกันกับตาแท้ ๆ...เจียงซงหวาโกรธจัดทันที “นายไม่คิดจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?”โจวซือเหย่: “ไม่ใช่ลูกผม ทำไมผมจะรับ?”จังหวะนั้นเอง ผู้ชายที่โจวซือเหย่ให้คนพาเข้ามาก็เปิดปากพูด “เจียงเจียเหวิน ทำไมเธอถึงให้ลูกของฉัน เรียกคนอื่นว่าพ่อล่ะ?! เธอทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างเหรอ?”แม่เจียงถลึงตาพลางตะคอกใส่เขา “พูดเพ้อเจ้ออะไร? ถ้ายังใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”ผู้ชายคนนั้นสวนกลับทันควัน “ผมพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ก็ถามลูกสาวคุณดูก็รู้เอง! ผมกับเธอไม่รู้ว่านอนด้วยกันมากี่ครั้งแล้ว คืนนั้นที่โจวซือเหย่เมามาก ไม่ได้แตะเธอเลยด้วยซ้ำ เธออยากแสดงให้สมจริงและให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตั้งท้อง คืนนั้นเธอยังจงใจมาหาผม คืนนั้น เราเอากันตลอดทั้งคืน”“เจียงเ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 124

    โจวซือเหย่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับกำลังคุยกันว่า คืนนี้จะกินอะไรดีเจียงเจียเหวินกลับไม่ใจเย็นแบบนั้น ถึงกับหัวใจสั่นวูบเมื่อโดนสายตาเย็นเฉียบของเขามองมา เธอกลืนน้ำลายที่ไม่มีอยู่จริง จู่ ๆ ดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้น “พี่เขย ถึงเรื่องนี้จะผิดต่อพี่เค้า แต่พี่จะปฏิเสธลูกของตัวเองไม่ได้นะ พี่พูดแบบนี้ พี่กำลังอยากบีบให้พวกเราสองแม่ลูกไปตายนะคะ”แม่เจียงเห็นลูกสาวช้ำใจก็รู้สึกสงสาร “ซือเหย่ เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับหน่อยสิ จะได้แล้วทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะ!”เจียงเจียเหวินกัดฟันแน่น “ถ้าพี่จะไม่ยอมรับ ฉันก็จะพาลูกไปตายด้วย!”พูดจบ เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแม่เจียงเห็นดังนั้นก็รีบคว้าไว้ทันที “เหวินเหวิน! คนดีของแม่ ลูกพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรคือตายไม่ตาย? ถ้าลูกตาย แล้วแม่กับพ่อจะอยู่ยังไง? ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นะ!”สองแม่ลูกร้องไห้ฟูมฟาย ทำตัวราวกับกำลังแสดงละครโศกนาฏกรรมแม่เจียงกอดเจียงเจียเหวินแน่น แล้วหันไปจ้องโจวซือเหย่ “ถ้านายไม่ยอมรับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณท่านโจว! นี่เป็นเหลนคนแรกของท่านนะ! ฉันไม่เชื่อว่าคนใจดีแบบท่าน จะปล่อยให้นายบีบลูกสาวฉันไปตาย!”เจียงซงหวาขัดภรรยาได้จังหวะเหมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 123

    แม่เจียงรีบเสริมทันที “ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มันอกตัญญู โตมาก็เลี้ยงไม่เชื่อง ตอนนั้นคุณควรทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แถมยังเสียเงินมากมายไปกับมันเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักนิด!”ทั้งครอบครัวเป็นใจเดียวกัน ต่างรุมประณามเจียงซูไม่เว้นคำเจียงซงหวาถึงกับไปหาความช่วยเหลือจากภายนอกพอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เจียงซู่ถึงรู้ว่าพวกเขาลากเรื่องทั้งหมดไปกดดันผู้ใหญ่ท่านแล้วที่โรงพยาบาลคุณย่าอี้จับมือเธอไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร “ลำบากหนูมากแล้ว”พอได้ยินประโยคนั้น จมูกของเจียงซู่ก็แอบร้อนผ่าวขึ้นมา ตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสนใจความรู้สึกของเธอจริง ๆโจวซือเหย่มองว่าเธอคิดร้ายตระกูลเจียงคิดว่าเธอไม่สำนึกบุณคุณแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอต่างหากที่เจ็บหนักที่สุดในเรื่องนี้คุณย่าอี้ถอนหายใจ “เป็นความผิดของย่าเอง ที่สอนพ่อของหนูไม่ดี”ความจริงคุณย่าอี้เป็นคนมีการศึกษา สมัยสาว ๆ เป็นถึงครูสอนหนังสือ ในยุคสมัยของท่าน ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะได้เรียนหนังสือคนมีการศึกษา แต่กลับเลี้ยงลูกชายออกมาเป็นพวกเห็นแก่ได้แต่งงานครั้งแรกเป็น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status