Home / LGBTQ+ / ชตรีญา / จำปา (2)

Share

จำปา (2)

last update Last Updated: 2025-10-17 07:56:18

‘สองฝั่งคลอง’… ‘มาลัยสามชาย’ … ‘ทวิภพ’ 

‘กรงกรรม’ … ‘ฤกษ์สังหาร’ … ‘บ้านทรายทอง’ 

รายนามบนสันหนังสือที่นรีเลื่อนสายตาผ่านนั้น มีแต่ชื่อโด่งดังคุ้นหู ที่บางเรื่องก็เคยดูเป็นละครโทรทัศน์รีรันซ้ำซากจนคุ้นตาแทบทั้งหมด หล่อนเถียงในประเด็นที่ว่า นี่คือหนังสือหายากทรงคุณค่า และหล่อนก็ไม่เกี่ยงนักหรอกที่ต้องอ่านนิยายละครโทรทัศน์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เรื่องเล่าในเล่มเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องราวแปลกใหม่ น่าสนใจเพียงพอจะดึงความสนใจของหล่อนได้

 ‘สาปภูษา’ … ‘กำไลมาศ’ … ‘กาหลมหรทึก’

‘เกิดแต่ตม’ … ‘หลงเงาจันทร์’ … ‘รากนครา’

หากต้องเลือกเล่มใดไปอ่านเฉพาะชั้นวางนี้ นรีก็ไม่ติดขัดใจ เพราะอย่างน้อยการได้มีอะไรให้อ่านเล่นฆ่าเวลาย่อมดีกว่านั่งชมนกชมไม้จนแทบจะเริ่มเสวนาธรรมกับผีเสื้อในสวนอยู่หลายขุม แต่ควรจะเริ่มหยิบเล่มไหนไปก่อน ในส่วนนี้นรีก็ยังคิดไม่ตก กระทั่งไล่สายตามาจนสุดชั้นวางและพบเข้ากับช่วงกลางลำตัวของคุณเจ้านายที่มายืนพิงไหล่กับชั้นวางนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ หล่อนก็สะดุ้งไปหนึ่งรอบก่อนยืดตัวกลับยืนตรงเดี๋ยวนั้น

“ถ้ายังไม่รู้จะอ่านอะไร… ลองเล่มนี้มั้ยคะ” คุณเจ้านายว่าเช่นนั้น ก่อนยื่นหนังสือเล่มหนึ่งมาให้หล่อน ประมาณด้วยสายตาเห็นว่าความยาวราวๆ สองร้อยกว่าหน้า ระบุบนปกภาพวาดดอกจำปีเคียงดอกจำปาว่า ‘หอมลมกลิ่นรัก’ พร้อมปรากฎลายเซ็นใต้ชื่อนั้นเป็นนามปากกาแสนคุ้นใจ

‘คุณข้าหลวงนิรนาม’

นรีรับหนังสือเล่มนั้นมาด้วยใจเริ่มระริก ลึกๆ ทั้งนึกรู้และคาดหวัง ว่าจะได้ละเลียดเรื่องราวในเล่มที่หอมหวานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ‘กลิ่นรัญจวนในครัวใจ’ ดูท่า หล่อนจะปักใจเป็นแฟนวรรณกรรมของนามประพันธ์นี้แบบไม่คิดจะถอนตัวไปเสียแล้ว

รอยยิ้มพึงใจของนรีฉายชัดจนดารัณเผยยิ้มเอ็นดูออกมาแทบจะพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะหันหลังไปด้วยท่าทีว่ากำลังกลับไปที่โต๊ะเขียนงานสักทีแล้ว แต่ก็ชะงักเล็กน้อยอย่างคนที่เพิ่งนึกอะไรได้และหันกลับมาบอกนรีว่า

“ตืนที่โต๊ะนะคะ”

“ค่ะ”

นรีรับคำอย่างว่าง่ายเช่นเคย ก่อนยกหนังสือเล่มใหม่แนบอก เดินออกมาจากห้องคุณเจ้านาย ทรุกลงนั่งเก้าอี้ไม้สักประจำตำแหน่ง แน่นอนว่าหล่อนห้ามใจให้ตนเองไม่เปิดอ่านเรื่องราวที่เรียบเรียงไว้อย่างประณีตนั่นแทบไม่ได้ หล่อนสำรวจทุกตัวอักษรจากปกหน้า พลิกไปปกหลัง แง้มอ่านคำนิยม ตลอดจนบทนำ อุ่นเครื่องให้ใจฟูฟ่องพร้อมพาตนเองเปิดประตูเข้าสู่มิติแห่งบทประพันธ์

‘ว่ากันว่า ในรั้ววังหลวงสมัยกรุงเก่า มีสตรีสองนางผู้ต่างเป็นดังเงาของดอกไม้แห่งฤดูร้อน ถูกเล่าขานไม่รู้เสื่อมคลาย

นางหนึ่งมีนามว่า จำปี งามละมุนดั่งกลีบขาวหอมกรุ่นของดอกจำปี นางอ่อนหวาน อ่อนโยน เป็นที่ชื่นใจของผู้พบเห็น อีกนางมีนามว่า จำปา งามคมเข้ม ร้อนแรงไม่ต่างจากกลีบดอกจำปาสีทอง นางเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เร้นลึกที่ยากห้ามใจ’ …

แล้วค่ำคืนนั้นก็จบลงที่นรีอ่านเนื้อความในเล่ม หอมลมกลิ่นรัก ไปมากหนึ่งส่วนสี่ของทั้งหมด ภายในชั่วโมงเดียว หลังได้รับหนังสือเล่มนั้นมา และตอกตรึงไว้กับหน้ากระดาษไปอีกกว่าครึ่งชั่วโมงหลังกลับเข้าห้องตนเองในช่วงตีสองเกือบตีสาม

…‘กลีบจำปีขาวถูกโปรยลงบนแผ่นหลังนวลเนียน กลีบจำปาทองโปรยทับบนอกอิ่มที่สะท้านสะเทือน ทุกสัมผัสเป็นดังเพลิงที่ทั้งลุกโชนและอ่อนหวาน แฝงไว้ด้วยความเสน่หาที่ไม่มีวันบรรยายได้จนสิ้น

ทุกค่ำคืนที่ได้พบกันนั้น คือบทกวีแห่งสวาทที่จารึกด้วยกลิ่นไม้หอมและเสียงครางสั่นเครือ ทุกครั้งที่ร่างทั้งสองแนบชิดจนกลายเป็นหนึ่ง คือทุกครั้งที่ดอกจำปี–จำปา เบ่งบานพร้อมกันในสวนต้องห้าม

นรียกหนังสือขึ้นแนบอก เม้มริมฝีปากเล็กน้อย รู้สึกร้อนนิดหน่อย โชคดีที่คุณทิพย์กำลังงีบหลับท่ามกลางบรรยากาศสวนดอกไม้ที่ครึ้มชื้นอย่างทุกวัน นรีจึงมั่นใจได้ว่าไม่มีใครได้เห็นสีหน้าของหล่อนที่นึกจินตนาการตามคำเขียนแล้วขวยเขินขึ้นมาฉับพลัน นี่เป็นอีกหนึ่งพลังของตัวอักษรที่จู่โจมจิตใจนักอ่าน นอกเหนือไปจากการตรึงสติให้ติดพันจนวางเล่มไม่ลงแทบตลอดทั้งคืน

“เข้าบ้านกันเถอะ” เสียงคุณทิพย์เอ่ยขึ้น พาให้นรีรู้สึกตัวจากภวังค์บทประพันธ์ได้อย่างเต็มสติ หล่อนประคองคุณทิพย์เข้าบ้านอย่างระมัดระวัง และย้อนกลับมาเก็บหนังสือและถอดกาน้ำชาโดยจงใจเลี่ยง ไม่มองขึ้นไปที่หน้าต่างตึกฝั่งตะวันตก หล่อนรังสรรค์เมนูแสนธรรมดาในเย็นวันนั้น โดยจิตใจยังคำนึงถึงบทรักในเล่ม หอมลมกลิ่นรัก

ทุกสัมผัสเหมือนกลีบจำปีร่วง ทุกจูบเหมือนกลีบจำปาแนบลงบนผิวเนื้อ ละเมียดละไมแต่แฝงเพลิงร้อนซ่อนอยู่ไม่สิ้น ร่างสองร่างเกยทับกลมกลืน ลมหายใจผสานดั่งควันหอมกำยานที่หมุนวนในห้องมนต์ ม่านรักโปรยคลุมจนโลกภายนอกเลือนหายไป มีเพียงความวาบหวามรัญจวนที่ร้อยรัดหัวใจให้เต้นระรัว

หล่อนสะบัดศีรษะเบาๆ คล้ายว่าเป็นการช่วยสลัดความคิดรุ่มร้อนให้พ้นไปจากใจได้ พยายามลงสติไปกับส่วนผสมของน้ำพริกกะปิให้อยู่ในครกหินครบเครื่องดีแล้ว ณ ขณะนั้น ใจหล่อนเริ่มผุดความสงสัย ว่าเหตุใดคุณเจ้านายจึงเลือกแนะเล่มนี้ให้หล่อนได้อ่าน จะเป็นเพราะต้องการให้หล่อนได้ลิ้มลองวัจนอันลึกร้อนแสนรัญจวน ที่บรรยายการลงรักแนบแน่นยิ่งกว่าเล่มก่อน หรือจะเป็นเพียงเพราะหล่อนเอ่ยปากว่าชอบงานเขียนของนักประพันธ์นามปากกานี้จึงหยิบเอาเล่มอื่นมาให้อ่านก็เท่านั้น

ความฟุ้งซ่านพาให้นรีกังวลในจุดประสงค์ของคุณเจ้านายก็จริง แต่มนตราแห่งงานประพันธ์ก็ยังคงตรึงหล่อนไว้กับคำพรรณนามากมายระหว่างจำปากับจำปี แม้กระทั่งตอนดึกที่หล่อนมานั่งประจำที่ตรงเก้าอี้ไม้สัก หล่อนก็สามารถก้มหน้าก้มตาอ่านจนหลุดเข้าไปในโลกคำประพันธ์ และหลงลืมความประหวั่นเพียงเล็กน้อยที่มีต่อคุณเจ้านาย ผู้นั่งหันหลังต่อหน้าหล่อนอยู่ที่โต๊ะเขียนงานเช่นทุกคืน

‘ในรั้วในวัง การส่งสารลับนั้นมากหลายพิธีการ ครั้งหนึ่งจำปารู้มาว่า องค์สตรีสูงศักดิ์ทรงให้ข้าหลวงคนสนิทลองส่งดอกจำปาแก่พราหมณ์หนุ่ม เพื่อแทนใจ หมายว่า ต้องการใกล้ชิดกับพราหมณ์ผู้นั้น จำปาจึ่งทราบความหมายอีกนัยของนามตน ว่า งดงามร้อนแรงไร้ต้านทานได้’

นรีอ่านทวนความตรงนี้อยู่สามสี่หน จนแอบคิดขึ้นมาว่า การเลือกหนังสือเพื่อสื่อความนัย จะคล้ายกันกับ ดอกไม้แทนใจ สื่อความต้องการใกล้ชิด ดังที่บทประพันธ์ว่าไว้หรือไม่

หล่อนละสายตาจากหน้ากระดาษ พับหนังสือปิดไว้ชั่วครู่ พักสายตาด้วยการมองผ่านหน้าต่างบานที่ใกล้ที่สุดออกไปนอกเรือน ลมเอื่อยพัดลอดเข้าช่องหน้าต่างมาพอให้รู้สึกสบายตัว หล่อนผละสายตากลับมา ลอบมองคุณเจ้านายเล็กน้อย ก่อนทิ้งสายตาลงจับที่ปกหนังสือในมือ เพ่งพิศภาพดอกจำปีและจำปาอีกครั้ง

‘ดอกจำปา’

‘ให้ดอกจำปา… สื่อว่าต้องการใกล้ชิด’

ความคิดนั้นพุ่งปะทะจิตใจนรีในชั่ววูบหนึ่ง ก่อนหล่อนจะขับไล่ข้อความนั้นออกจากสมอง ด้วยการพึมพำบอกตนเองว่า

“เพ้อเจ้อนรี”

หล่อนอ่าน หอมลมกลิ่นรัก จบเล่มตั้งแต่คืนนั้นเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไม่กล้าเอ่ยคำใดออกไป จึงเก็บเอาหนังสือเล่มนั้นไปนอนกอดอีกหนึ่งคืน พลางครุ่นคิดหนักหน่วงว่าจะคืนหนังสือเล่มนี้อย่างไรให้เป็นปกติ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชตรีญา   กาหลง

    การถูกจู่โจมด้วยสถานการณ์ที่ นรีโดนจับได้ว่า ตกหลุมรักคุณเจ้านาย พาให้หล่อนหลงลืมแทบทุกสิ่งรอบกาย ลืมแม้กระทั่งความสงสัยมากมายซึ่งบังเกิดมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ใต้ชายคาเรือนนี้ จิตใจวนเวียนอยู่แต่กับการเรียบเรียงคำพูด ว่าควรเจรจาอย่างไรกับคุณเจ้านายในโอกาสต่อไป หล่อนควรถามว่าอะไรบ้างเพื่อความชัดเจนในความสัมพันธ์ และเพื่อให้ทราบแนวทางในการอยู่ร่วมกันหลังจากนี้ หล่อนลืมสังเกตไปเลยด้วยซ้ำว่า ณ ขณะนี้ คุณเจ้านายของหล่อนลับกายหายไปจากห้องโดยไม่ได้ผ่านออกทางประตูไม้ลายโบตั๋น หล่อนไม่ทันรู้สึกตัวเลยว่า เธอหายเงียบไปพักหนึ่งแล้วนรียืนนิ่งเอนตัวพิงขอบโต๊ะเขียนงานอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ทีเดียว กว่าจะได้ยินเสียงฝีเท้า ตามด้วยเสียงบานพับประตูขยับไหว หล่อนหันมองตามทิศต้นเสียงทันที ครานี้ค่อนข้างชัดเจน ว่า เสียงเหล่านั้นดังมาจากมุมหนึ่งของห้อง ตรงข้างหน้าต่างฝั่งหลังเรือน นรีเพ่งมองไปในทิศนั้นอย่างจดจ่อ ทว่ายังไม่กล้าสืบเท้าก้าวไปสำรวจสิ่งใด แต่การปรากฎตัวในสายตาหล่อนอีกหนของคุณเจ้านาย แน่นอนแล้วว่า เธอเดินมาจากมุมห้องฝั่งนั้นจริงๆ“ว่าไงคะ ตั้งสติได้ถึงไหนแล้ว” คุณเจ้านายเอ่ยถามเมื่อเดินกลับเข้ามาใกล

  • ชตรีญา   ทิวา (2)

    วันถัดมา นรีได้ติดตามคุณทิพย์ไปโรงพยาบาลเพื่อพบหมอธนา โดยมีกานต์สิรีขับรถมารับถึงหน้าเรือนตั้งแต่ก่อนแปดโมงเช้า หล่อนได้เข้าไปยืนรอคุณทิพย์ในห้องหมอธนา จึงรับรู้อาการโรคที่รุมเร้าคุณทิพย์อยู่ แม้หมอธนาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาตรงๆ ไม่ได้แจกแจงความเป็นไปให้หล่อนฟัง แต่การซักถามระหว่างหมอกับคนไข้ก็ปรากฎเค้าลางข้อมูลหลายประการที่นรีพอจะคาดเดาได้ ว่าคุณทิพย์อาจเป็นทั้งเบาหวานและความดันสูง ตลอดจนโรคหัวใจบางประเภทและมีอาการทางจิตใจบางชนิด ขณะที่ภายนอกคุณทิพย์ดูปกติดี ในระดับที่ดูจะแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกันด้วยซ้ำเมื่อตรวจเสร็จหมอธนาเดินออกมาส่งทุกคนที่โถงทางเดิน พลางอธิบายเรื่องอาหารและการพักผ่อนที่เหมาะสมสำหรับคุณทิพย์ให้กานต์สิรีกับนรีรับทราบไว้ เพื่อให้ช่วยกันปรับพฤติกรรมของคุณทิพย์ให้รับกับอาการภายในร่างกายที่เริ่มเสื่อมถอยลง ก่อนจะขอตัวกลับไปตรวจคนไข้ ตอนนั้นเองที่กานต์สิรี หันมาบอกกับนรีว่า คุณทิพย์ต้องเข้ารับการบำบัดกับแพทย์อีกท่านเป็นการส่วนตัว ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง ให้นรีกลับบ้านไปก่อน เพื่อจัดการเตรียมอาหารเที่ยงและมื้อค่ำให้กับคุณเจ้านายที่กำลังปั่นต้นฉบับอย่างแข็งขันแทบจะทั้งว

  • ชตรีญา   ทิวา (1)

    หลายวันผันผ่านเรื่อยไป ต่อจากเล่ม ‘ควันรักปักใจ’ หนังสือทุกเล่มที่คุณเจ้านายเลือกให้นรี ก็ดูเหมือนจะยิ่งความยาวสั้นลง ราวกับว่าเธอต้องการให้หล่อนกลับเข้าไปคืนหนังสือถึงโต๊ะในเร็ววันยิ่งขึ้น เพราะนรีมักจะอ่านทุกเล่มนั้น จบภายในสองวัน และได้อ่านงานประพันธ์ของคุณข้าหลวงนิรนามจนครบทุกปกอย่างรวดเร็วหนำซ้ำ จากกลางดึกคืนนั้นที่นรีได้สัมผัสผิวเนื้อคุณเจ้านาย การนวดคลึงกายเพื่อผ่อนคลายก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ประจำของหล่อน ซึ่งเธอมักร้องขอต่อหล่อนแทบทุกค่ำคืน บ้างก็ด้วยท่าทีเมื่อยขบ บ้างก็ด้วยสายตาเว้าวอน หลังการทุ่มเขียนบางสิ่งลงหน้ากระดาษอยางยาวนาน ไม่ก็หลังจากนั่งกดแป้นพิมพ์อักษรนับชั่วโมง การณ์จึงกลับกลายเป็นว่า แทบไม่มีคืนใดเลยที่นรีจะไม่ได้ก้าวผ่านบานประตูลายโบตั๋นคู่นั้นคืนนี้ก็เช่นกัน หล่อนก้าวล่วงเข้าอาณาเขตห้องส่วนตัวของคุณเจ้านายเมื่อตอนเที่ยงคืนเศษ และลงมือบีบนวดกดคลึงทั้งบ่าไหล่ของเธอมาได้เกือบสิบนาที หล่อนอดไม่ได้ที่จะไม่ทิ้งสายตาไปจับความตัวอักษรมากมายบนโต๊ะเขียนงานตรงหน้า หล่อนลอบมองมาหลายหน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะพลาด เปิดเนื้อความบนแผ่นกระดาษให้เผยต่อสายตาหล่อน ดังตอนนี้

  • ชตรีญา   พุดจีบ (2)

    นรีปลีกตัวออกจากห้องคุณเจ้านายมาได้ราวๆ เที่ยงคืน หล่อนกลับออกมานั่งประจำที่หน้าห้องนั้น บนเก้าอี้ไม้สักตัวเดิม และเริ่มพลิกหน้าบทประพันธ์ รินคำเข้าสมาธิ‘ฤดูแล้วฤดูเล่าผ่านไป ความเงียบระหว่างพวกนางกลับอัดแน่นด้วยพันธะที่มิอาจเรียบเรียงเป็นถ้อยคำ ลมหายใจแผ่วเบาและนิ้วที่เผลอแตะปลายกันบนขวดน้ำอบแค่ชั่วครู่ ก็มากพอจะทำให้หัวใจเต้นเกินควบคุม’หล่อนลอบมองคุณเจ้านายสลับกับมองเนื้อความบนหน้ากระดาษหนังสือในมือจนถึงตีสองเศษๆ คุณเจ้านายก็หรี่แสงในห้อง เป็นสัญญาณว่าเธอกำลังจะเข้านอน นรีจึงปิดคั่นหนังสือด้วยเส้นริบบิ้นผ้า แล้วลุกไปปิดบานประตูลายโบตั๋นเช่นทุกคืน ก่อนจะกอดเล่มหนังสือ เดินฝ่าความมืดกลับไปที่ฝั่งตะวันออก และเมื่อกลับถึงห้องนอนของตน หล่อนก็ได้มองเล่มนิยาย ‘ควันรักปักใจ’ อย่างเหม่อลอย ด้วยจิตใจที่ยังวุ่นวนอยู่กับคำสองคำนั้นกำลังดังก้องในความคิดหล่อนจนตกภวังค์เหม่อ‘...เราชอบ…’‘งั้นเหรอ’สมาธิในการอ่านหนังสือของหล่อนถูกสั่นคลอนพอสมควรทีเดียว ทั้งที่คราวนี้เป็นเพียงนวนิยายความยาวร้อยกว่าหน้า ก็ดูเหมือนว่าหล่อนจะอ่านวนไปมา ดูท่าจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อที่จะอ่านให้จบ ‘ร้อยกว่าหน้

  • ชตรีญา   พุดจีบ (1)

    “แปลว่ารักได้ ไม่ติดเหรอคะ” คุณเจ้านายเอ่ยถาม แน่นอนว่าเธอได้รับเพียงแววตาเกือบจะงุนงงของนรีตอบกลับไป เธอจึงได้ขยายความถามนั้น“หมายถึง นรีเอง ก็รักผู้หญิงได้ ใช่มั้ยคะ”“...”นรีกระพริบตาปริบๆ ทั้งเงียบไปครู่หนึ่ง ทำเอาคนรอฟังคำ นิ่งเงียบตามกันไปด้วย แต่เธอยังคงวางสายตาจับไว้ที่หล่อน ไม่ละไปโดยง่าย กระทั่งได้คำตอบ“คิด ว่ารักได้นะคะ” นรีตอบเสียงแผ่ว“ท่าทางไม่แน่ใจ” คุณเจ้านายกล่าวเช่นนั้น แล้วผินมองไปทางอื่น ในท่าทีใช้ความคิด เป็นจังหวะให้นรีได้รับอิสระเล็กน้อยจากการรอดพ้นสายตาเธอ แต่ยังไม่พ้นไปจากสนทนา“ที่ผ่านมา ยังไม่เคยตกหลุมรักผู้หญิงเลยสักคน… เหรอคะ” คุณเจ้านายปรายตากลับมามองนรีในท้ายประโยค พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ที่นรีมองทันเพียงชั่วครู่ก็รู้สึกใจเต้น พาลให้หล่อนนิ่งจนลืมตอบความ พยายามเลี่ยงหลบสายตาเธอสุดฤทธิ์ ขณะที่คุณเจ้านายวางมือลงค้ำยันกับโต๊ะเขียนงาน และโน้มตัวเข้าใกล้นรีมากขึ้น พลางกระซิบสรุป“เงียบแบบนี้ เราจะเหมาว่าเธอเคยตกหลุมรักใครสักคน ที่เป็นผู้หญิงนะคะ”นรีหันกลับไปมองคุณเจ้านายในระยะประชิดมากกว่าที่เคย หล่อนนึกเรียบเรียงคำโต้ตอบที่ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่า จะเอ่ยปฏิเสธห

  • ชตรีญา   พุดซ้อน (2)

    คืนนั้น คุณเจ้านายไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนงานเมื่อหล่อนไปถึงหน้าห้อง พอตัดสินใจไปชะเง้อมองที่ใกล้ๆ บานประตู สอดส่องสายตาจนทั่วก็ยังไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงไหนในห้อง นรีถอยจากประตูลายโบตั๋นมาเกาะขอบหน้าต่างโถงทางเดินที่มักเปิดไว้เสมอเพียงบานเดียวเพื่อรับลมในทุกคืน หล่อนคาดว่า คุณเจ้านายอาจลงไปเก็บดอกไม้กลางคืนเช่นเดียวกับตอนที่ลงไปเก็บดอกสเลเตก็เป็นได้ ทว่า เพ่งมองสวนดอกไม้สักเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววร่างเงาเธอ“ดูอะไรอยู่เหรอ” เสียงคุณเจ้านายดังมาจากด้านหลัง พาหล่อนสะดุ้งใจหาย แต่ก็รีบเก็บอาการนั้นให้สงบลงโดยเร็วก่อนตอบกลับเธอไปว่า“เปล่าค่ะ” พลางเดินกลับไปที่เก้าอี้ไม้สน คุณเจ้านายพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะเขียนงาน เธอหยุดยืนอยู่ข้างเก้าอี้ รวบรวมเอกสารสองสามชุดให้เป็นกองเดียวกัน จัดเก็บเข้าแฟ้ม นำแฟ้มไปสอดไว้บนชั้นวางข้างโต๊ะฝั่งมุมห้อง ครั้นพอเดินย้อนกลับมาที่เก้าอี้อีกหน และเห็นว่านรียืนละล้าละลังอยู่หน้าห้อง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status