จ้าวจิ้งเทียนเดินกลับมาที่ตำหนักด้วยใบหน้าที่เฉยชา เขาเก็บอาการที่กรุ่นด้วยโทสะเมื่อครู่ไว้ก่อนจะปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แม้กระทั่งตอนที่ผ่านเหล่าขุนนางจอมปลอมนั้นเขาก็ยังต้องแสร้งยิ้มออกมา
"องค์รัชทายาท จ้าวฮวงโหวเสด็จพ่ะย่ะค่ะ"
"รีบทูลเชิญเสด็จแม่เข้ามาเร็วเข้า"
จ้าวจิ้งเทียนรีบเข้าไปหาจ้าวฮวงโหวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"เสด็จแม่มีอันใดจะรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ ถึงได้เสด็จมาด้วยองค์เอง"
จ้าวฮวงโหวมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย
"เมื่อครู่ในท้องพระโรงเหล่าขุนนางยื่นฎีกาให้ปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาท เจ้ารู้หรือไม่?"
"จิ้นหมิง!"
"เสด็จแม่โปรดวางพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ลูกมิได้เก็บคำพูดเหล่านั้นมาใส่ใจพ่ะย่ะค่ะ"
จ้าวฮวงโหวเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็วางใจลงและเผยรอยยิ้มออกมา นางมองดูพระโอรสด้วยความรักใคร่ แต่ไหนแต่ไรพระโอรสของนางคนนี้ก็มีนิสัยเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวไม่น้อย
"วันพรุ่งลูกจะออกนอกวังไปตรวจราชกิจแทนเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ"
"อีกสองวันแม่ว่าจะจัดงานจิบชาชมสวน และจะส่งเทียบเชิญให้เจินเซียงเข้าวังหลวง เจ้าเห็นว่าเป็นเช่นไร?"
"แล้วแต่ท่านแม่เห็นสมควรพ่ะย่ะค่ะ"
จ้าวฮวงโหวพยักหน้าด้วยความพอใจ นางหมายมั่นให้เจินเซียงลูกสาวเจ้ากรมกลาโหมคนนี้เป็นคู่หมายกับจ้าวจิ้งเทียน เจินเซียงเป็นหลานสาวฝั่งมารดาของพระนาง
จ้าวจิ้งเทียนเองก็เคยพบเจอเจินเซียงมาบ้าง นางรูปงามและเป็นหญิงงามเพียบพร้อม แต่ในใจของเขาก็ไม่ได้เสน่หาหรือชอบพอญาติผู้น้องคนนี้ในทางชู้สาว
แต่เพราะเป็นความต้องการของเสด็จแม่ เขาจึงไม่อยากทำให้กลายเป็นเรื่องวุ่นวาย อย่างไรเสียเขาก็ต้องแต่งงานกับสตรีในจวนใดจวนหนึ่งอยู่ดี
จวนตระกูลหลิว
หลิวลี่เซียนที่กำลังเบื่อหน่ายกับการอุดอู้อยู่แต่ในจวน วนอยู่กับการปักผ้า จิบชาช่างน่าหงุดหงิดใจนัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนนางคงออกไปห้างสรรพสินค้า รึไม่ก็คิดค้นสูตรเครื่องสำอางตัวใหม่เป็นแน่!
หลิวลี่เซียนเดินเข้าไปด้านในก่อนจะพบกับฮูหยินลี่หยาง และชายวัยกลางคนหน้าตาสุขุมดูน่าเกรงขาม
"ลี่เซียนฟื้นแล้วหรือ มาหาพ่อเร็วเข้า"
หลิวลี่เซียนที่เพิ่งได้สติกลับมา มองไปที่เสนาบดีหลิวเทียนเฉิง ก่อนจะสังเกตเห็นหลิวลี่ซือน้องสาวของนางกำลังยกน้ำชาเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หลิวลี่เซียนเดินเข้าไปใกล้หลิวเทียนเฉิง เขาเอื้อมมือมาลูบผมของนางด้วยความเอ็นดู นางยิ้มตอบเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหลิวลี่ซือที่มีสีหน้าไม่ค่อยชอบใจ แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น หลิวลี่ซือก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม
"พรุ่งนี้พ่อจะพาพวกเจ้าเข้าวังหลวง"
"จริงหรือเจ้าคะ!!"
หลิวลี่ซือเอ่ยด้วยใบหน้าตื่นเต้นต่างจากหลิวลี่เซียนที่ไม่แสดงอาการใดๆ อยากจะเข้าไปทำไมกัน ความวุ่นวายรออยู่ละสิไม่ว่า
นางชอบอ่านนิยายจีนโบราณสมัยที่ยังมีชีวิตในโลกปัจจุบัน ทำให้นางพอจะรู้มาบ้างว่าในวังหลวงนั้นแก่งแย่งชิงดีกันมากมายเพียงใด
"ฮองเฮาจะจัดงานจิบน้ำชาพร้อมทั้งประกาศงานอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาท รวมทั้งต้องการหาพระชายาให้องค์ชายจ้าวเฟยหรงด้วย จึงมีรับสั่งให้ลูกสาวขุนนางชั้นสูงเข้าเฝ้า"
หลิวลี่เซียนสังเกตเห็นหลิวลี่ซือมีแววตาเปล่งประกายด้วยความดีใจไม่น้อย
อีกด้านหนึ่งของหลิวลี่ซือ นางตื่นเต้นเป็นอย่างมากนางต้องการได้พบกับองค์ชายจ้าวเฟยหรง ใครบ้างจะไม่อยากเป็นพระชายาเอกขององค์ชายรูปงาม หึ! คุณหนูเจินเซียงช่างโง่เขลานัก เลือกแต่งงานกับองค์รัชทายาทหน้าปีศาจผู้นั้น
"วันนี้พวกเจ้าก็รีบไปหาซื้อของเตรียมตัวเข้าวังเถิด"
"เจ้าค่ะ"
หลังจากที่แยกย้ายออกมาหลิวลี่ซือก็เดินเข้ามาหาหลิวลี่เซียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ท่านพี่ น้องจะไปเลือกซื้อเครื่องประดับที่หอเป่าชิง ร้านเครื่องประดับหยกงาม ท่านพี่จะไปร้านเดียวกับน้องรึไม่เจ้าคะ"
"อืม ไปสิ"
เพียงไม่นานรถม้าก็เคลื่อนมาจอดที่ตลาดกลางเมือง หลิวลี่เซียนยื่นมือไปจับมือของไป๋หลางก่อนจะมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น
ไม่เลวเลยแฮะ!
ระหว่างที่หลิวลี่เซียนเดินไปเรื่อยๆ ก็หันไปมองหลิวลี่ซือที่เดินตามอยู่ด้านหลัง นางกระซิบไปที่ข้างหูไป๋หลาง
"ไป๋หลาง คุณหนูเจินเซียงนี่หน้าตาเป็นยังไงเหรอ?"
ไป๋หลางมองหน้าหลิวลี่เซียนด้วยความมึนงงเล็กน้อย
"คุณหนูจำคุณหนูเจินเซียงมิได้รึเจ้าคะ นางเป็นสหายสนิทของคุณหนูนะเจ้าคะ"
สหายสนิท? อ้อ เพื่อนสนิท
"คุณหนูเจินเซียงช่างมีวาสนานัก อีกไม่นานก็จะได้เป็นว่าที่จ้าวฮวงโหวองค์ถัดไป ช่างมีวาสนายิ่งนัก"
หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ก่อนจะมาหยุดยืนที่ร้านเครื่องประดับชื่อว่าหอเป่าชิง
นางเดินเข้าไปเลือกสินค้ากับหลิวลี่ซือ นางเลือกชุดหยกชิ้นงามมาสองสามอัน ส่วนหลิวลี่ซือเลือกหยกสีเขียวมรกตมาสองอัน
หลิวลี่เซียนมองไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปสะดุดตากับไข่มุกสีนวลกระจ่างใสที่อยู่ในหีบสองเม็ด
ไข่มุกสุยโหว!!!
หลิวลี่เซียนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ใครก็คงคิดไม่ถึงว่าไข่มุกชนิดนี้เป็นราชินีของความงามโดยแท้
นางต้องได้มันมา!
"ไข่มุกนี้เท่าไร?"
"แม่นาง ไข่มุกสองเม็ดนี้มีคนจองแล้วขอรับ"
ใครกันนะมาชิงตัดหน้านาง!!!
"ท่านพี่อยากได้ไปทำไมรึเจ้าคะ ไม่เห็นว่าจะสวยงามอันใดเลย"
หลิวลี่ซือมองหลิวลี่เซียนด้วยสายตาดูแคลน เด็กคนนี้คิดว่านางรสนิยมต่ำรึไง หล่อนสิยะรสนิยมต่ำ นี่มันของดีเชียวนะ ว่าแต่ใครกันนะมาชิงซื้อตัดหน้าข้า!!!
หลิวลี่ซือยิ้มเชิดๆ ก่อนจะบอกกับหลิวลี่เซียนว่านางจะไปเดินดูของอีกด้านหนึ่ง อีกครึ่งชั่วยามให้ไปเจอกันที่รถม้า หลิวลี่เซียนพยักหน้ารับเล็กน้อย
"เถ้าแก่ ข้ามารับไข่มุกสุยโหวที่จองไว้"
"ได้แล้วขอรับ ทั้งหมดห้าร้อยตำลึง"
หลิวลี่เซียนหันไปมองตามเสียงที่มาของบุคคลที่ชิงตัดหน้าซื้อไข่มุกของนางไป ก่อนจะพบกับชายหนุ่มรูปร่างกำยำผิวขาวสูง ใบหน้าปิดบังด้วยผ้าคลุมครึ่งหน้า แต่รัศมีและออร่าความหล่อของเขาช่างเจิดจ้านัก
ชายหนุ่มตรงหน้ามองมาที่หลิวลี่เซียนด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะรับกล่องไข่มุกและเดินจากไป หลิวลี่เซียนไม่รอช้ารีบวิ่งไปดักหน้าชายผู้นั้นทันที
"ไข่มุกของท่าน ข้าขอซื้อต่อหนึ่งพันตำลึง!!!"
หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว
ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง
รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้
หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา
จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ
หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน