ตอนที่ 18 ได้ตามใจ “อ่ะ...ท่านพี่พรุ่งนี้ท่านต้องไปทำงานนะ”“ก็ถูกต้องแล้ว...พรุ่งนี้ไม่ใช่ตอนนี้เสียหน่อย...คืนนี้ข้าอยู่กับเจ้าทั้งคืน”เสียงประตูปิดลงพร้อมกับเสียงหยอกเย้าของคนทั้งสอง สักพักก็กลายเป็นเสียงครางกระเส่าของหญิงสาว“ท่านพี่เบา ๆ หน่อยผู้อื่นอาจจะยังไม่นอน”“มิใช่...ก่อนหน้าเจ้าบอกให
ตอนที่ 19 ล้วนเป็นแผน หวังชิงหว่านลืมตาขึ้นมาไม่เห็นเซียวอี้หยางอยู่ข้างกาย พลันจำได้ว่าอีกฝ่ายจะต้องไปทำงานจึงลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมแล้วเดินไปยังห้องหนังสือ เห็นชายหนุ่มกำลังอ่านเอกสารบางอย่าง เซียวอี้หยางได้ยินฝีเท้ากำลังเดินเข้าจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างอ่อนโยนกล่าว “เหตุใดถึงได
เซียวอี้หยางเบิกตากว้างด้วยความยินดี ครั้งนี้เขาได้มีโอกาสได้สร้างผลงานแล้วรีบกล่าว “ข้าน้อยมิกล้า...ขอบคุณท่านพ่อตาที่ให้โอกาสขอรับ” หวังลู่หานผงกศีรษะเล็กน้อยกล่าว “ในเมื่อเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ย่อมต้องส่งเสริมกัน...หว่านเอ๋อร์...นางเป็นอย่างไรบ้าง...” พอนึกถึงภรรยาแววตา
ตอนที่ 20 แค่นึกสนุก หากหวังชิงหว่านรับรู้ความคิดของแม่สามีคงจะอยากบอก ไม่มีใครมีเวลามาใส่ใจผู้อื่นขนาดนั้น ทุกคนล้วนต้องทำมาหากิน ทว่าคนที่ใช้ชีวิตมาครึ่งทางแล้วหากจะอธิบายให้เปลี่ยนความคิดอาจจะเสียเวลาเปล่าประโยชน์ หวังชิงหว่านเดินออกห่างมากจากลู่อันกับลี่อินก็เอ่ยขึ้น
หวังชิงหว่านเอียงคอเล็กน้อยกล่าว “งั้นก็ไปกันเถอะ” “อืม” เซียวอี้หยางรับคำพร้อมกับจูงมือฮูหยินของตนเองเดินออกไป บนระเบียงหอโรงน้ำชาอี้กง ยังมีกลุ่มคนหนึ่งจับจ้องมองหวังชิงหว่านกับสามีเช่นกัน “ตายจริง!! นั่นไม่ใช่น้องเจ็ดของเจ้าหรือ” สตรีในชุดอาภรณ์เขียวผ้าไหมหรูหราผู้หนึ่งเ
ตอนที่ 21 ต่างซ่อนเร้น ไอน้ำล่องลอยอยู่บนอากาศ เงาร่างหญิงงามนอนอยู่อ่างน้ำดูเลือนลางแฝงความเย้ายวน พลันก็มีเงาดำสายหนึ่งปรากฏขึ้น “เรียนนายหญิง วันนี้คุณหนูยังคงไปจับปลาเช่นเคยหลังจากนั้นนางยังไปช่วยเด็กสกุลเซียวขายที่ตลาด” หญิงงามในอ่างลืมตาขึ้นมาพลางยิ้มที่มุมปา
ตอนที่ 22 เอาคืน มู่ชิงกับมู่หลิงถูกจ้างให้มาคุ้มครองความปลอดภัยเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ พวกนางหาได้เกี่ยวข้องไม่ หวังชิงหว่านจะทำสิ่งใดพวกนางล้วนไม่คิดจะเอ่ยปากทักท้วงหรือติติง สิ่งที่ต้องเอ่ยก็เอ่ยไปหมดแล้ว บริเวณลานกว้างหน้าบ้านสกุลเซียว หวังชิงหว่านนั่งคู่กับเก
ตอนที่ 23 ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวเรือนบุปผา ในราตรีที่ไร้จันทร์ แสงของหมู่ดาวพราวพร่างระยิบระยับ สายเงาดำสายหนึ่งวูบไหวเคลื่อนผ่านเข้าไปในเรือนบุปผา มันหยุดยืนนิ่งเมื่อเห็นในเรือนกำลังนั่งฝึกกำลังภายใจ ผ่านไปหนึ่งจอกชา เจ้าของเรือนก็ลืมตาขึ้น กล่าว “มีสิ่งใด?”
“งดงามยิ่งนัก” จางซูอินพูดขึ้น “ในทุกปี…ฤดูหนาวเราจะมาที่นี่ดีหรือไม่” “ฮืม…” จางซูอินซบลงอกของชายหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนคลาย แสดงความรักความสุขล้นออกมา เฉิงอ๋องโอบกอดหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนก่อนใบหน้าก้มลงไป จางซูอินปิดเปลือกตาลง เคลิบเคลิ้มไปกับจูบอันอ่อนโยนของชา
เมื่อม่านราตรีโรยตัวลงมา เฉิงอ๋องก็ยังอดใจไม่ไหวไปเยือนห้องพักของจางซูอิน เมื่อบ่าวไพร่ปิดประตูออกจากห้อง เขาจึงปรากฏกาย แม้เฉิงอ๋องจะมาอย่างไร้สุ่มเสียงแต่คล้ายจางซูอินจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว นางชำเลืองมองชายหนุ่ม ใบหน้าระบายยิ้มบาง ๆ “ข้าเพียงอยากเจอหน้าเจ้าก่อนนอน” เ
หญิงสาวปรายตามองดูในตะกร้าจึงพูดขึ้น “ข้าซื้อทั้งหมดนี่ ท่านคิดราคามาได้เลย” พ่อค้าเห็นจางซูอินรับทั้งหมดก็ยิ้มหน้าบานดีใจ แต่สักพักใบหน้าชายหนุ่มกลับจืดขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนู ปลาพวกนี้รสชาติทานลำบากอยู่บ้าง ท่านจะลองซื้อไปทำทานดูสักตัวสองตัวก่อนดีหรือไม่” จาง
ผู้ที่ตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้มากกว่าผู้ใดก็คือ เฉิงอ๋องเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเว่ย หลังจากนี้ทุกวันคืนเขาจะได้อยู่ร่วมกับซูซู เขาสั่งให้จงถังจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง จนเมื่อถึงออกเดินทาง รถม้าหรูหราคันใหญ่มาจอดรอรับจางซูอินหน้าสกุลจางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่
ตอนที่ 50 โกรธเป็นโง่ โมโหเป็นบ้า หลังราชโองการออกมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง บรรยาศครื้นเครงต่างจากตำหนักบูรพาที่แม้กระทั่งเงาของก้อนเฆมก็ดูอึ้มครึมมากกว่าปกติ พระชายาเสิ่นจือ บีบผ้าในมือปิดจนเป็นเกลียวนางกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผล องค์รัชทายาทไม่ได้รับราชโ
หลังจากมื้อเที่ยงต้าเหยาก็เข้าวังทันที เมื่อไปถึงนางก็ไปคารวะพระสนมลู่ผินก่อน “พระมารดา ข้าคิดถึงท่านจังเลย” พระสนมลู่ลูบศรีษะต้าเหยาเบา ๆ พลางเอ่ยถามไถ่ เห็นสีหน้าแววตาของต้าเหยาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ก็วางใจอย่างอบอุ่น หลังจากพูดคุยกัน ต้าเหยาก็บอกเล่าว่านางจะมา
ยามเช้าในต้นฤดูหนาวแสงแดดยังคงเจิดจ้า ฤดูการเปลี่ยนแปลงผู้คนก็ต้องการปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต เสียงพูดคุยหัวเราะดังแว่วมาจากในครัว จางซูอินเอียงหูฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกล้างหน้าล้างตา เมื่อคืนเฉิงอ๋องอ้อยอิ่งอยู่ห้องนางไม่ยามจากไปทำให้นางนอนไม่เต็มอิ่มเท่าไรนัก หญิงสาวเลือกช
จางซูอินล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์เมื่อเดินออกมาจากฉากกั้นก็เห็นร่างสูงโปรงอันคุ้นเคยนั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชาด้วยท่าทางสบาย “ท่าน..เหตุใดมาอยู่ที่นี่” เฉิงอ๋องยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน เขาลุกขึ้นพลางเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ห่อหุ้มกายของหญิงสาวพร้อมอธิบายอย่างใจเย็น “เจ้าเคยขอให้ข้าพาไป
สวี่ซื่อจัดการให้สาวใช้ไปตั้งแผงขายขนมส่วนตนเองก็ยังคงไปทำงานที่ร้านลู่เหยาเช่นเดิม จางซูอินก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือให้แม้กระทั่งแสดงความคิดเห็น นางเพียงเฝ้ามองและคอยสนับสนุนเพียงเท่านั้น อากาศเริ่มเย็น หิมะเริ่มโปรยปราย จางเจินก็ถึงคราวยามออกเรือน แม้สกุลจางจะเป็นเพียงชาว