Share

บทที่ 5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-17 12:55:18

เส้นทางขึ้นเขาย่อมไม่ใช่เส้นทางที่เดินได้อย่างเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินนำหน้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินเคียงข้างไป ส่วนเด็กทั้งสองเดินรั้งท้าย พวกเขามองดูฝีเท้าจังหวะก้าวเดินของพี่สะใภ้ต่างก็ส่งสายตาคำถาม ลี่อินเอนตัวกระซิบ

“พี่สะใภ้ดูจะเหมือนไม่ใช่คนขึ้นเขาครั้งแรก”

ลู่อินพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสิ ดูจะคล่องแคล่วยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”

การเดินเขาไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหวังชิงหว่าน แต่ด้วยร่างกายอันบอบบางตอนนี้ทำให้นางเริ่มปวดเมื่อย แขนขาเริ่มไร้เรี่ยวแรง เซียวอี้หยางหันมาเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายก็พูดขึ้น

“อดทนอีกนิด...ป่าข้างหน้าก็จะเป็นที่ตัดฟืนแล้ว”

สีหน้าของเด็กสาวแดงกร่ำ หันยิ้มตอบ “เจ้าค่ะ”

ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าบอกว่านางกำลังอดทนอย่างหนัก เด็กทั้งสองมองส่งสายตา พลางคิดว่าพวกเขาคงคิดมากเกินไป

เห็นหวังชิงหว่านพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายทำให้เซียวอี้หยางรู้สึกชื่นชอบฮูหยินตัวเองขึ้นมากว่าเดิมหลายส่วน เดินมาไม่นานก็ถึงจุดตัดไม้ เซียวอี้หยางวางตระกร้าด้านหลังลงจากนั้นก็จัดแจงหาที่นั่งพักสำหรับวันนี้

หวังชิงหว่านไม่ฝืนร่างกายของตัวเอง ทันทีที่เซียวอี้หยางบอกให้นางนั่งพัก นางก็แทบจะทิ้งตัวล้มลง แต่กลัวเสียหน้าจึงค่อย ๆ นั่งลงนางนวดขาพลางมองดูเด็กทั้งสองเริ่มช่วยกันตัดฝืน พวกเขาดูพวกเขาเริ่มวางตะกร้าลงแล้วตัดฟืน

ลี่อินเด็กสาวตัวน้อยดูจะไม่เชี่ยวชาญเท่าพี่ชายทั้งสอง แต่สีหน้ากลับจริงจังไม่ถือโอกาสเกียจคร้าน ชิงหว่านพักหายเหนื่อยได้สักพักก็เดินไปหาลี่อินแล้วพูดขึ้น

“ข้าอยากจะลองตัดดู”

ลี่อินหันมามองพี่สะใภ้ นางนึกว่าพี่สะใภ้จะแค่อยากมาลองดูอะไรสนุกๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีใจอยากช่วย

“เอามีดมาสิ...” ลี่อินกำมีดแน่นขึ้น แต่ก็ยังยื่นมันออกไป

“พี่สะใภ้ระวังด้วย” ชิงหว่านยิ้มจากนั้นก็ก้าวขาวางท่าทางแล้วเอามีดฟันลงไป ฉึก! ฉึก!

แม้แรงจะมีน้อยแต่จังหวะการฟันนับว่าถูกต้อง ลี่อินจับตามองพี่สะใภ้ด้วยความรู้สึกสับสน ผ่านไปสักพักเซียวอี้หยางหันไปมองภรรยาของตนเองไม่เห็นนางนั่งอยู่ที่เดิมก็เบนสายตามองเห็นนางกำลังตัดฟืนช่วยลี่อินก็คลี่ยิ้มเอ่ย

“ชิงหว่านอย่าได้หักเหิม...จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ”

ลี่อินขมวดคิ้ว รู้สึกว่าพี่ชายกล่าวไม่ถูกต้องลู่อันหันมองเห็นในตะกร้าของน้องสาวมีจำนวนฟืนมากกว่าพลางมองพี่สะใภ้ที่กำลังตัดฟืนอย่างแข็งขันก็ยิ่งสับสน ถึงแม้พี่สะใภ้จะเป็นบุตรของอนุแต่นางก็เป็นคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดี ชีวิตประจำวันทั่วไปย่อมไม่ต้องลำบาก

แต่ทักษะใช้มีดที่ชำชองเช่นนี้?

หรือจริงแล้วตั้งแต่ข่าวลือก็ล้วนเป็นเท็จ

“ตะกร้าของเจ้าจะเต็มแล้ว” เสียงใสๆ ของชิงหว่านเอ่ยพูดกับลี่อินดังขึ้นดึงสติของลู่อันกลับมา เขามองตะกร้าตัวเองอีกครั้งรู้สึกขัดเขินที่ตัวเองมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อย

ผ่านไปสักพักเซียวอี้หยางเดินมากลับมานั่งพักแล้วเอ่ยเรียก “น้องหญิง เจ้าก็มาพักเถอะ”

สายตาชายหนุ่มไปสะดุดตาจำนวนฟืนที่กำลังเต็มตะกร้าของลี่อินก็เบิกตามองด้วยความตกใจ เมื่อก่อนเขาถือว่าตัวเองเป็นบัณฑิตเรื่องการใช้แรงงานย่อมด้อยกว่าพวกน้อง ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ครั้งนี้เหมือนว่าเขาจะด้อยกว่าภรรยา..ชายหนุ่มจนคำพูดไปชั่วขณะ

ชิงหว่านมองดูตะกร้าใกล้จะเต็มแล้วจึงยื่นมีดคืนลี่อินแล้วเดินมาหาเซียวอี้หยางที่ยังเหม่อลอยอยู่

“คิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”

เซียวอี้หยางพลันได้สติ รีบเอ่ยตอบ “น้องหญิงใช้มีดได้คล่องยิ่งนัก”

ดูจากสายตาของทุกคน แค่ใช้มีดคล่อง เดินเขาได้ ก็นับว่าผิดแปลกโชคดีที่นางไม่เอาสาวใช้มาด้วยทำให้สร้างเรื่องเอาตัวรอดไปได้ “อยู่เรือนว่าง ๆ ข้าไม่มีอะไรทำก็ได้หัดใช้อยู่บ้าง”

คำตอบของชิงหว่านทำให้อี้หยางคิดไปอีกเรื่อง คาดว่าชีวิตในจวนตระกูลใหญ่ในฐานะบุตรสาวอนุ ย่อมไม่สบายทุกเรื่อง แววตาที่ชายหนุ่มทอดมองหญิงสาวเต็มไปด้วยความเห็นใจกล่าว

“พวกเราออกมาสายตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เจ้าหิวหรือยัง” พูดเสร็จชายหนุ่มก็หันไปเรียกน้องสาว

“ลี่อิน นำหมั่นโถวมาให้พี่สะใภ้”

ลี่อินได้ยินก็รีบเดินเข้ามา แล้วนั่งข้างสัมภาระคลี่ผ้าออกมาจากนั้นก็ยื่นหมั่นโถวสีขาวก้อนหนึ่งออกมาพูดขึ้น

“พวกข้าไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะมาด้วย เลยไม่ได้เตรียมอาหารอย่างอื่นมาด้วย” สีหน้าของเด็กสาวเกรงว่าพี่สะใภ้จะพอใจอาหารของชาวบ้าน ชิงหว่านยิ้มในเมื่อเข้าป่ามาแล้วจะเกรงว่าไม่มีอาหารได้อย่างไร

“ไม่เป็นไร ข้ากินเท่านี้ก็พอ...ทว่าท่านพี่...ที่นี่ไม่มีชาวบ้านขึ้นเขาไปหาสัตว์ป่าหรือ”

“มี...แต่ต้องเข้าในป่าลึกพวกข้าเองก็ไม่เคยเข้าไป เพราะอันตรายจนเกินไป”

ชิงหว่านพยักหน้าภายนอกใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในใจวางแผนหลายส่วนยิ้มกรุ่น ที่นี่ต้องมีสัตว์ป่าอย่างแน่นอน น่าสนใจ นางรู้สึกคันไม้คันมือ มองไปลำธารแล้วพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้น..พวกเราไปหาปลาในลำธารนั้นกันดีหรือไม่เจ้าคะ”

เซียวอี้หยางยิ้มแห้งไม่กล้าตอบ

ลี่อินก็พูดขึ้น “พวกข้าจับปลาไม่เป็น”

ชิงหว่านยิ้มพูดต่อ “ข้าอยากจะลองดู” จับปลาในน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เซียวอี้หยางไม่กล้าขัดอีกฝ่ายจึงพูดขึ้น

“ตามใจเจ้า...แต่อย่าให้ตัวเองเปียก ตอนนี้ใกล้หน้าหนาวจะเจ็บป่วยได้” ชิงหว่านยื่นหมั่นโถว่คืนลี่อินจากนั้นก็หยิบมีดลุกขึ้นไปตัดไม้ทำหอกปลายแหลม นางจัดการได้ของพอเหมาะมือแล้วก็เดินไปยังลำธารมองหาโขดหินที่พอเหมาะเดินขึ้นไปยืนแล้วใช้สายตากวาดมองโดยรอบ

ลู่อันวางมือจากการตัดฟืนมายืนดูชิงหว่านแล้วหันไปถามอี้หยาง “พี่ชาย พี่สะใภ้จะจับปลาได้หรือไม่ขอรับ”

เซียวอี้หยางส่ายหน้าแววตาสับสน “ข้าก็ไม่แน่ใจ”

หวังชิงหว่านยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แววตาเฉียดคมจ้องมองลงไปในน้ำอย่างมีสมาธิ ทันทีที่เห็นเป้าหมายนางปักไม้แหลมลงไป เมื่อดึงกลับขึ้นมาเห็นปลาดิ้นในปลายไม้นางก็คลี่ยิ้มงดงาม

“ได้แล้ว!! ข้าจับปลาได้แล้ว” นางดึงปลาออกจากไม้นั้นก็ขว้างขึ้นไปบนฝั่งแล้วพูดต่อ

“ลี่อินก่อไฟ มื้อเที่ยงนี้เราจะกินปลาเผากัน” ไม่รอให้ชิงหว่านพูดเสร็จ ลู่อันก็รีบวิ่งไปเตรียมก่อไฟแล้ว

เสียงร้องยินดีของลี่อินฉุดให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนไม้ตรงต้นลำธารห่างออกไปในจุดน้ำตก จ้องมองบางอย่าง

“จางเคอ เจ้ามองอะไร” เกาเวินมาถึงก็เอ่ยถามพลางชำเลืองมองตาม เห็นดุรณีเยาว์วัยผู้หนึ่งในชุดบุรุษดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับ

เกาเวินคลี่ยิ้มแววตาพราว “นับว่าเป็นสตรีน้อยที่งดงามไม่น้อย...นั่นไม่ใช่ว่ากำลังเล่นจับปลาหรอกนะ ท่าทางดูจริงจังไม่น้อย” เอ่ยเสร็จก็ต้องเบิกตากว้างเพราะในปลายแหลมหอกของนางมีปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งดิ้นอยู่ แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงเด็กชายผู้หนึ่งตะโกนด้วยเสียงยินดี

“พี่สะใภ้สุดยอดเลยขอรับ....”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 141

    “งดงามยิ่งนัก” จางซูอินพูดขึ้น “ในทุกปี…ฤดูหนาวเราจะมาที่นี่ดีหรือไม่” “ฮืม…” จางซูอินซบลงอกของชายหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนคลาย แสดงความรักความสุขล้นออกมา เฉิงอ๋องโอบกอดหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนก่อนใบหน้าก้มลงไป จางซูอินปิดเปลือกตาลง เคลิบเคลิ้มไปกับจูบอันอ่อนโยนของชา

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 140

    เมื่อม่านราตรีโรยตัวลงมา เฉิงอ๋องก็ยังอดใจไม่ไหวไปเยือนห้องพักของจางซูอิน เมื่อบ่าวไพร่ปิดประตูออกจากห้อง เขาจึงปรากฏกาย แม้เฉิงอ๋องจะมาอย่างไร้สุ่มเสียงแต่คล้ายจางซูอินจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว นางชำเลืองมองชายหนุ่ม ใบหน้าระบายยิ้มบาง ๆ “ข้าเพียงอยากเจอหน้าเจ้าก่อนนอน” เ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 139

    หญิงสาวปรายตามองดูในตะกร้าจึงพูดขึ้น “ข้าซื้อทั้งหมดนี่ ท่านคิดราคามาได้เลย” พ่อค้าเห็นจางซูอินรับทั้งหมดก็ยิ้มหน้าบานดีใจ แต่สักพักใบหน้าชายหนุ่มกลับจืดขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนู ปลาพวกนี้รสชาติทานลำบากอยู่บ้าง ท่านจะลองซื้อไปทำทานดูสักตัวสองตัวก่อนดีหรือไม่” จาง

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 138

    ผู้ที่ตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้มากกว่าผู้ใดก็คือ เฉิงอ๋องเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเว่ย หลังจากนี้ทุกวันคืนเขาจะได้อยู่ร่วมกับซูซู เขาสั่งให้จงถังจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง จนเมื่อถึงออกเดินทาง รถม้าหรูหราคันใหญ่มาจอดรอรับจางซูอินหน้าสกุลจางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 137

    ตอนที่ 50 โกรธเป็นโง่ โมโหเป็นบ้า หลังราชโองการออกมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง บรรยาศครื้นเครงต่างจากตำหนักบูรพาที่แม้กระทั่งเงาของก้อนเฆมก็ดูอึ้มครึมมากกว่าปกติ พระชายาเสิ่นจือ บีบผ้าในมือปิดจนเป็นเกลียวนางกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผล องค์รัชทายาทไม่ได้รับราชโ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 136

    หลังจากมื้อเที่ยงต้าเหยาก็เข้าวังทันที เมื่อไปถึงนางก็ไปคารวะพระสนมลู่ผินก่อน “พระมารดา ข้าคิดถึงท่านจังเลย” พระสนมลู่ลูบศรีษะต้าเหยาเบา ๆ พลางเอ่ยถามไถ่ เห็นสีหน้าแววตาของต้าเหยาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ก็วางใจอย่างอบอุ่น หลังจากพูดคุยกัน ต้าเหยาก็บอกเล่าว่านางจะมา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status