Share

บทที่ 5

last update Huling Na-update: 2025-02-17 12:55:18

เส้นทางขึ้นเขาย่อมไม่ใช่เส้นทางที่เดินได้อย่างเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินนำหน้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินเคียงข้างไป ส่วนเด็กทั้งสองเดินรั้งท้าย พวกเขามองดูฝีเท้าจังหวะก้าวเดินของพี่สะใภ้ต่างก็ส่งสายตาคำถาม ลี่อินเอนตัวกระซิบ

“พี่สะใภ้ดูจะเหมือนไม่ใช่คนขึ้นเขาครั้งแรก”

ลู่อินพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสิ ดูจะคล่องแคล่วยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”

การเดินเขาไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหวังชิงหว่าน แต่ด้วยร่างกายอันบอบบางตอนนี้ทำให้นางเริ่มปวดเมื่อย แขนขาเริ่มไร้เรี่ยวแรง เซียวอี้หยางหันมาเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายก็พูดขึ้น

“อดทนอีกนิด...ป่าข้างหน้าก็จะเป็นที่ตัดฟืนแล้ว”

สีหน้าของเด็กสาวแดงกร่ำ หันยิ้มตอบ “เจ้าค่ะ”

ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าบอกว่านางกำลังอดทนอย่างหนัก เด็กทั้งสองมองส่งสายตา พลางคิดว่าพวกเขาคงคิดมากเกินไป

เห็นหวังชิงหว่านพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายทำให้เซียวอี้หยางรู้สึกชื่นชอบฮูหยินตัวเองขึ้นมากว่าเดิมหลายส่วน เดินมาไม่นานก็ถึงจุดตัดไม้ เซียวอี้หยางวางตระกร้าด้านหลังลงจากนั้นก็จัดแจงหาที่นั่งพักสำหรับวันนี้

หวังชิงหว่านไม่ฝืนร่างกายของตัวเอง ทันทีที่เซียวอี้หยางบอกให้นางนั่งพัก นางก็แทบจะทิ้งตัวล้มลง แต่กลัวเสียหน้าจึงค่อย ๆ นั่งลงนางนวดขาพลางมองดูเด็กทั้งสองเริ่มช่วยกันตัดฝืน พวกเขาดูพวกเขาเริ่มวางตะกร้าลงแล้วตัดฟืน

ลี่อินเด็กสาวตัวน้อยดูจะไม่เชี่ยวชาญเท่าพี่ชายทั้งสอง แต่สีหน้ากลับจริงจังไม่ถือโอกาสเกียจคร้าน ชิงหว่านพักหายเหนื่อยได้สักพักก็เดินไปหาลี่อินแล้วพูดขึ้น

“ข้าอยากจะลองตัดดู”

ลี่อินหันมามองพี่สะใภ้ นางนึกว่าพี่สะใภ้จะแค่อยากมาลองดูอะไรสนุกๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีใจอยากช่วย

“เอามีดมาสิ...” ลี่อินกำมีดแน่นขึ้น แต่ก็ยังยื่นมันออกไป

“พี่สะใภ้ระวังด้วย” ชิงหว่านยิ้มจากนั้นก็ก้าวขาวางท่าทางแล้วเอามีดฟันลงไป ฉึก! ฉึก!

แม้แรงจะมีน้อยแต่จังหวะการฟันนับว่าถูกต้อง ลี่อินจับตามองพี่สะใภ้ด้วยความรู้สึกสับสน ผ่านไปสักพักเซียวอี้หยางหันไปมองภรรยาของตนเองไม่เห็นนางนั่งอยู่ที่เดิมก็เบนสายตามองเห็นนางกำลังตัดฟืนช่วยลี่อินก็คลี่ยิ้มเอ่ย

“ชิงหว่านอย่าได้หักเหิม...จนตัวเองได้รับบาดเจ็บ”

ลี่อินขมวดคิ้ว รู้สึกว่าพี่ชายกล่าวไม่ถูกต้องลู่อันหันมองเห็นในตะกร้าของน้องสาวมีจำนวนฟืนมากกว่าพลางมองพี่สะใภ้ที่กำลังตัดฟืนอย่างแข็งขันก็ยิ่งสับสน ถึงแม้พี่สะใภ้จะเป็นบุตรของอนุแต่นางก็เป็นคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดี ชีวิตประจำวันทั่วไปย่อมไม่ต้องลำบาก

แต่ทักษะใช้มีดที่ชำชองเช่นนี้?

หรือจริงแล้วตั้งแต่ข่าวลือก็ล้วนเป็นเท็จ

“ตะกร้าของเจ้าจะเต็มแล้ว” เสียงใสๆ ของชิงหว่านเอ่ยพูดกับลี่อินดังขึ้นดึงสติของลู่อันกลับมา เขามองตะกร้าตัวเองอีกครั้งรู้สึกขัดเขินที่ตัวเองมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อย

ผ่านไปสักพักเซียวอี้หยางเดินมากลับมานั่งพักแล้วเอ่ยเรียก “น้องหญิง เจ้าก็มาพักเถอะ”

สายตาชายหนุ่มไปสะดุดตาจำนวนฟืนที่กำลังเต็มตะกร้าของลี่อินก็เบิกตามองด้วยความตกใจ เมื่อก่อนเขาถือว่าตัวเองเป็นบัณฑิตเรื่องการใช้แรงงานย่อมด้อยกว่าพวกน้อง ๆ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ครั้งนี้เหมือนว่าเขาจะด้อยกว่าภรรยา..ชายหนุ่มจนคำพูดไปชั่วขณะ

ชิงหว่านมองดูตะกร้าใกล้จะเต็มแล้วจึงยื่นมีดคืนลี่อินแล้วเดินมาหาเซียวอี้หยางที่ยังเหม่อลอยอยู่

“คิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”

เซียวอี้หยางพลันได้สติ รีบเอ่ยตอบ “น้องหญิงใช้มีดได้คล่องยิ่งนัก”

ดูจากสายตาของทุกคน แค่ใช้มีดคล่อง เดินเขาได้ ก็นับว่าผิดแปลกโชคดีที่นางไม่เอาสาวใช้มาด้วยทำให้สร้างเรื่องเอาตัวรอดไปได้ “อยู่เรือนว่าง ๆ ข้าไม่มีอะไรทำก็ได้หัดใช้อยู่บ้าง”

คำตอบของชิงหว่านทำให้อี้หยางคิดไปอีกเรื่อง คาดว่าชีวิตในจวนตระกูลใหญ่ในฐานะบุตรสาวอนุ ย่อมไม่สบายทุกเรื่อง แววตาที่ชายหนุ่มทอดมองหญิงสาวเต็มไปด้วยความเห็นใจกล่าว

“พวกเราออกมาสายตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เจ้าหิวหรือยัง” พูดเสร็จชายหนุ่มก็หันไปเรียกน้องสาว

“ลี่อิน นำหมั่นโถวมาให้พี่สะใภ้”

ลี่อินได้ยินก็รีบเดินเข้ามา แล้วนั่งข้างสัมภาระคลี่ผ้าออกมาจากนั้นก็ยื่นหมั่นโถวสีขาวก้อนหนึ่งออกมาพูดขึ้น

“พวกข้าไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะมาด้วย เลยไม่ได้เตรียมอาหารอย่างอื่นมาด้วย” สีหน้าของเด็กสาวเกรงว่าพี่สะใภ้จะพอใจอาหารของชาวบ้าน ชิงหว่านยิ้มในเมื่อเข้าป่ามาแล้วจะเกรงว่าไม่มีอาหารได้อย่างไร

“ไม่เป็นไร ข้ากินเท่านี้ก็พอ...ทว่าท่านพี่...ที่นี่ไม่มีชาวบ้านขึ้นเขาไปหาสัตว์ป่าหรือ”

“มี...แต่ต้องเข้าในป่าลึกพวกข้าเองก็ไม่เคยเข้าไป เพราะอันตรายจนเกินไป”

ชิงหว่านพยักหน้าภายนอกใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ภายในใจวางแผนหลายส่วนยิ้มกรุ่น ที่นี่ต้องมีสัตว์ป่าอย่างแน่นอน น่าสนใจ นางรู้สึกคันไม้คันมือ มองไปลำธารแล้วพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้น..พวกเราไปหาปลาในลำธารนั้นกันดีหรือไม่เจ้าคะ”

เซียวอี้หยางยิ้มแห้งไม่กล้าตอบ

ลี่อินก็พูดขึ้น “พวกข้าจับปลาไม่เป็น”

ชิงหว่านยิ้มพูดต่อ “ข้าอยากจะลองดู” จับปลาในน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เซียวอี้หยางไม่กล้าขัดอีกฝ่ายจึงพูดขึ้น

“ตามใจเจ้า...แต่อย่าให้ตัวเองเปียก ตอนนี้ใกล้หน้าหนาวจะเจ็บป่วยได้” ชิงหว่านยื่นหมั่นโถว่คืนลี่อินจากนั้นก็หยิบมีดลุกขึ้นไปตัดไม้ทำหอกปลายแหลม นางจัดการได้ของพอเหมาะมือแล้วก็เดินไปยังลำธารมองหาโขดหินที่พอเหมาะเดินขึ้นไปยืนแล้วใช้สายตากวาดมองโดยรอบ

ลู่อันวางมือจากการตัดฟืนมายืนดูชิงหว่านแล้วหันไปถามอี้หยาง “พี่ชาย พี่สะใภ้จะจับปลาได้หรือไม่ขอรับ”

เซียวอี้หยางส่ายหน้าแววตาสับสน “ข้าก็ไม่แน่ใจ”

หวังชิงหว่านยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แววตาเฉียดคมจ้องมองลงไปในน้ำอย่างมีสมาธิ ทันทีที่เห็นเป้าหมายนางปักไม้แหลมลงไป เมื่อดึงกลับขึ้นมาเห็นปลาดิ้นในปลายไม้นางก็คลี่ยิ้มงดงาม

“ได้แล้ว!! ข้าจับปลาได้แล้ว” นางดึงปลาออกจากไม้นั้นก็ขว้างขึ้นไปบนฝั่งแล้วพูดต่อ

“ลี่อินก่อไฟ มื้อเที่ยงนี้เราจะกินปลาเผากัน” ไม่รอให้ชิงหว่านพูดเสร็จ ลู่อันก็รีบวิ่งไปเตรียมก่อไฟแล้ว

เสียงร้องยินดีของลี่อินฉุดให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนไม้ตรงต้นลำธารห่างออกไปในจุดน้ำตก จ้องมองบางอย่าง

“จางเคอ เจ้ามองอะไร” เกาเวินมาถึงก็เอ่ยถามพลางชำเลืองมองตาม เห็นดุรณีเยาว์วัยผู้หนึ่งในชุดบุรุษดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับ

เกาเวินคลี่ยิ้มแววตาพราว “นับว่าเป็นสตรีน้อยที่งดงามไม่น้อย...นั่นไม่ใช่ว่ากำลังเล่นจับปลาหรอกนะ ท่าทางดูจริงจังไม่น้อย” เอ่ยเสร็จก็ต้องเบิกตากว้างเพราะในปลายแหลมหอกของนางมีปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งดิ้นอยู่ แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงเด็กชายผู้หนึ่งตะโกนด้วยเสียงยินดี

“พี่สะใภ้สุดยอดเลยขอรับ....”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 6

    “นะ...นางแต่งงานแล้ว..หรือว่า” เกาเวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก จางเคอหันมามองสหายขมวดคิ้วเล็กน้อยที่สหายไม่รู้เรื่องราว “นางคือคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดีหวัง”เกาเวินเบิกตากว้างอ้าปากค้างก่อนจะเอ่ย “นับว่านางงามสมควรรำลือ... มิน่าคุณชายรองกัวฉู่เหอจึงได้หลงใหล แต่เพราะนางเป็นบุตรสาวอนุจึงยังไม่ตบแ

    Huling Na-update : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 7

    ในเรือนสกุลเซียวมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าที่อยู่ในเรือน ส่วนบิดาและมารดายังไม่กลับจากทำนา ทั้งลี่อิน ลู่อันและเซียวอี้หยางก็มีหน้าที่ของตนเอง เหลือเพียงหวังชิงหว่านที่นั่งพักเอื่อยเฉื่อยอยู่ในที่นั่งหน้าเรือน นางเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางคิดในใจ “สวรรค์ตอนนี้ข้าเริ่มจับปลาขายแล้วนะ...จากนี้ก็คงจะเป็นปลูก

    Huling Na-update : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 8

    ลี่อินลากรถลากตามหลังหวังชิงหว่านที่คล้ายกำลังมองหาบางอย่าง นางจึงเอ่ยถาม “พวกเราจะไปไหนต่อหรือเปล่าเจ้าคะ” “ข้าจำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไปดูร้านผ้าตรงหน้าเถอะ” เอ่ยเสร็จนางก็เดินนำหน้าไปร้านแพรพรรณ หลงจู้เห็นคนเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับ แต่ก็ต้องชะงักในความงามของหวังชิ

    Huling Na-update : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 9

    คนในสกุลเซียวจะรีบทานข้าวเย็นและเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อจะได้ตื่นเช้าไปทำนาแตกต่างจากเซียวอี้หยางที่บางวันจะมีสังสรรค์ข้างนอก บางคืนก็จะอ่านหนังสือจนดึก พวกเขาเลยแยกสำรับมาที่เรือนเซียวอี้หยางต่างหากและเซียวฮูหยินก็ไม่เคยจะลืมแยกอาหารดีๆ ไว้สำหรับลูกชายเป็นพิเศษ เรือนหลักสกุลเซียว ในมื้อ

    Huling Na-update : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 10

    ใบหน้าอี้หยางยังคงประดับรอยยิ้มกล่าว “เมื่อก่อน...ท่านแม่ก็ทำขนมหาบเร่ขาย ล้วนเป็นเงินก้อนนั้นที่ส่งข้าเล่าเรียนจนสอบได้เป็นขุนนาง จึงได้หยุดขายไป”หวังชิงหว่านพยักหน้าเข้าใจบางอย่างแล้วเอ่ยถาม “แล้วทำไมถึงได้หยุดขายเล่า” “ท่านแม่อ้างว่าสุขภาพไม่ดีแล้ว”หวังชิงหว่าน กะพริบตานัยน์ตากระจ่างวูบไห

    Huling Na-update : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 11

    หวังชิงหว่านนึกว่าเซียวอี้หยางจะหมดแรง ใกล้รุ่งเขาได้สติก็เสียบดันเข้ามาจากข้างหลัง ความใหญ่และยังเข้ามากระทันหันทำให้นางกระตุ้นเฮือกร้องอ๊ะขึ้น ความเสียวซ่าแล่นปราดขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มไม่สนใจอันใด เขาเริ่มขยับบดเบียดส่วนนั้นก็เปียกแฉะอย่างเร็วเอวของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นดุดัน ความซาบซ่านทำให้หวังช

    Huling Na-update : 2025-02-22
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 12

    ตอนที่ 12 เป็นข้าที่ผิด เซียวฮูหยินเห็นอี้หยางยกถ้วยออกมาล้างก็เอ่ยขึ้น “แม่สั่งให้ลี่อินกับลู่อันไปรอพวกเจ้าที่เนินเขาแล้ว” เซียวอี้หยางก้มกล่าวขอบคุณอย่างเขินอายพูดขึ้น “ข้าจะพาชิงหว่านไปซื้อทาสสักสองคน ท่านแม่มีสิ่งใดจะกำชับหรือไม่” “ซื้อทาส?” เซียวฮูหยินเอ่ยเสีย

    Huling Na-update : 2025-02-26
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 13

    ตอนที่ 13 ไม่เคยโชคดีสักครั้ง ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว หวังชิงหว่านเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางส่งสายตาขุ่นเคืองมาเซียวอี้หยาง ทว่าชายหนุ่มหาได้สำนึกผิดกล่าว “เจ้าไม่ต้องร้อนใจ ลี่อินกับลู่อัน รู้ว่าพวกเราไปทำธุระ” หวังชิงหว่านดึงสายตากลับ จะกล่าวโทษอีกฝ่ายทั้งหมดไม่ได้ ความจริงนางคว

    Huling Na-update : 2025-02-26

Pinakabagong kabanata

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 141

    “งดงามยิ่งนัก” จางซูอินพูดขึ้น “ในทุกปี…ฤดูหนาวเราจะมาที่นี่ดีหรือไม่” “ฮืม…” จางซูอินซบลงอกของชายหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนคลาย แสดงความรักความสุขล้นออกมา เฉิงอ๋องโอบกอดหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนก่อนใบหน้าก้มลงไป จางซูอินปิดเปลือกตาลง เคลิบเคลิ้มไปกับจูบอันอ่อนโยนของชา

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 140

    เมื่อม่านราตรีโรยตัวลงมา เฉิงอ๋องก็ยังอดใจไม่ไหวไปเยือนห้องพักของจางซูอิน เมื่อบ่าวไพร่ปิดประตูออกจากห้อง เขาจึงปรากฏกาย แม้เฉิงอ๋องจะมาอย่างไร้สุ่มเสียงแต่คล้ายจางซูอินจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว นางชำเลืองมองชายหนุ่ม ใบหน้าระบายยิ้มบาง ๆ “ข้าเพียงอยากเจอหน้าเจ้าก่อนนอน” เ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 139

    หญิงสาวปรายตามองดูในตะกร้าจึงพูดขึ้น “ข้าซื้อทั้งหมดนี่ ท่านคิดราคามาได้เลย” พ่อค้าเห็นจางซูอินรับทั้งหมดก็ยิ้มหน้าบานดีใจ แต่สักพักใบหน้าชายหนุ่มกลับจืดขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนู ปลาพวกนี้รสชาติทานลำบากอยู่บ้าง ท่านจะลองซื้อไปทำทานดูสักตัวสองตัวก่อนดีหรือไม่” จาง

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 138

    ผู้ที่ตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้มากกว่าผู้ใดก็คือ เฉิงอ๋องเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเว่ย หลังจากนี้ทุกวันคืนเขาจะได้อยู่ร่วมกับซูซู เขาสั่งให้จงถังจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง จนเมื่อถึงออกเดินทาง รถม้าหรูหราคันใหญ่มาจอดรอรับจางซูอินหน้าสกุลจางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 137

    ตอนที่ 50 โกรธเป็นโง่ โมโหเป็นบ้า หลังราชโองการออกมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง บรรยาศครื้นเครงต่างจากตำหนักบูรพาที่แม้กระทั่งเงาของก้อนเฆมก็ดูอึ้มครึมมากกว่าปกติ พระชายาเสิ่นจือ บีบผ้าในมือปิดจนเป็นเกลียวนางกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผล องค์รัชทายาทไม่ได้รับราชโ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 136

    หลังจากมื้อเที่ยงต้าเหยาก็เข้าวังทันที เมื่อไปถึงนางก็ไปคารวะพระสนมลู่ผินก่อน “พระมารดา ข้าคิดถึงท่านจังเลย” พระสนมลู่ลูบศรีษะต้าเหยาเบา ๆ พลางเอ่ยถามไถ่ เห็นสีหน้าแววตาของต้าเหยาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ก็วางใจอย่างอบอุ่น หลังจากพูดคุยกัน ต้าเหยาก็บอกเล่าว่านางจะมา

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 135

    ยามเช้าในต้นฤดูหนาวแสงแดดยังคงเจิดจ้า ฤดูการเปลี่ยนแปลงผู้คนก็ต้องการปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต เสียงพูดคุยหัวเราะดังแว่วมาจากในครัว จางซูอินเอียงหูฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกล้างหน้าล้างตา เมื่อคืนเฉิงอ๋องอ้อยอิ่งอยู่ห้องนางไม่ยามจากไปทำให้นางนอนไม่เต็มอิ่มเท่าไรนัก หญิงสาวเลือกช

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 134

    จางซูอินล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์เมื่อเดินออกมาจากฉากกั้นก็เห็นร่างสูงโปรงอันคุ้นเคยนั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชาด้วยท่าทางสบาย “ท่าน..เหตุใดมาอยู่ที่นี่” เฉิงอ๋องยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน เขาลุกขึ้นพลางเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ห่อหุ้มกายของหญิงสาวพร้อมอธิบายอย่างใจเย็น “เจ้าเคยขอให้ข้าพาไป

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 133

    สวี่ซื่อจัดการให้สาวใช้ไปตั้งแผงขายขนมส่วนตนเองก็ยังคงไปทำงานที่ร้านลู่เหยาเช่นเดิม จางซูอินก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือให้แม้กระทั่งแสดงความคิดเห็น นางเพียงเฝ้ามองและคอยสนับสนุนเพียงเท่านั้น อากาศเริ่มเย็น หิมะเริ่มโปรยปราย จางเจินก็ถึงคราวยามออกเรือน แม้สกุลจางจะเป็นเพียงชาว

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status