Share

บทที่ 3.1 ปกป้องขาทองคำ

last update Last Updated: 2025-07-05 22:02:20

“คุณหนู ดึกแล้วท่านยังไม่เข้านอนอีกหรือเจ้าคะ”

“ท่านแม่หลับหรือยัง”

“หลังจากจุดธูปหอมที่คุณหนูมอบให้ ไม่ถึงหนึ่งเค่อฮูหยินก็หลับแล้วเจ้าค่ะ”

เมิ่งหว่านชิงพยักหน้ารับคำรายงานของอวี้หรุน ธูปหอมที่นางให้คนจุดนั้นมีฤทธิ์ช่วยให้ผ่อนคลาย ท่านแม่ของนางหลายวันมานี้พบเจอเรื่องราวมามาก หากไม่ให้นอนพักผ่อนดีๆ เกรงว่าอาจจะล้มป่วยได้

เมื่อคิดถึงมารดาเมิ่งหว่านชิงก็อดที่จะรู้สึกกังวลใจในเรื่องความใจอ่อน มีเมตตา และขาดความเด็ดขาดของมารดาไม่ได้ แน่นอนว่านิสัยเช่นนี้ของมารดาเป็นคุณสมบัติแบบอย่างสตรีที่ดีงามของต้าเซี่ย เพียงแต่กับคนต่ำช้าเหล่านี้ ความใจดี มีเมตตาของมารดานับเป็นจุดอ่อนร้ายแรงที่พวกเขานำมาเล่นงานในภายหลัง

ในโลกที่แสนโหดร้ายใบนี้ มีเพียงผู้ที่รู้จักโต้กลับอย่างเสมอภาคกันเท่านั้น จึงจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้

หากแต่เวลานี้เรื่องของมารดายังสามารถรั้งรอได้ แต่เรื่องของรุ่ยอ๋องนั้นรั้งรอไม่ได้แล้ว

“อวี้หรุนเจ้าเอาเงินนี้ไป แล้วพรุ่งนี้ก็ออกจากจวนไป...”

“บ่าวไม่ไปเจ้าค่ะ คุณหนูบ่าวรู้ดีว่าท่านกังวลเรื่องใด แต่ว่านับจากที่บ่าวสาบานต่อแม่ทัพเมิ่งว่าจะรับใช้ฮูหยินกับคุณหนู ชีวิตนี้ของบ่าวก็อุทิศให้พวกท่านแล้ว แต่หากวันนี้ท่านไม่ต้องการบ่าว เช่นนั้นบ่าวก็จะขอ...”

อวี้หรุนดึงมีดสั้นออกมาจากอกเสื้อง้างแขนขึ้นสูง ทว่ายังไม่ทันขยับกดมีดลงบนอกตามความตั้งใจ ถ้วยชาตรงหน้าของเมิ่งหว่านชิงก็ถูกนิ้วเล็กดีดด้วยพลังปราณภายในมากระทบกับข้อมือของสาวใช้จนมีดในมือหลุดร่วง

ดวงตาของอวี้หรุนเบิกกว้างแรกเริ่มนางตื่นตกใจที่ถูกคุณหนูน้อยขับไล่ตนออกจากจวน ทว่าตอนนี้กลับตื่นตระหนกกับฝีมือของคุณหนูน้อยมากกว่า

"คุณหนูท่าน..."

ความสงสัยของอวี้หรุนติดอยู่ที่ลำคอไม่กล้าถามออกมาโดยตรง 

“ที่ข้าจะให้เจ้าออกจากจวนก็เพื่อไปทำเรื่องสำคัญ”

“ทำเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ขับไล่ออกจวนหรือเจ้าคะ”

เมิ่งหว่านชิงถอนหายใจยาว นิสัยมุทะลุ ขาดความรอบคอบของอวี้หรุนนี้นับว่าเป็นปัญหาสำคัญของสาวใช้ตรงหน้าที่จะต้องเร่งแก้ไข มิฉะนั้นแล้วเกรงว่าชะตาเลวร้ายในภายหน้าของอีกฝ่ายคงยากจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข

“ไร้สาระรีบลุกขึ้น แล้วมานี่"

อวี้หรุนลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงไปหาคุณหนูน้อยของตน เมื่อนางมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเมิ่งหว่านชิงก็ยื่นซองจดหมายฉบับหนึ่งให้กับอีกฝ่าย

"จดหมายนี่หาคนที่ไว้ใจได้ส่งมอบให้ท่านอาเซี่ยด้วยตนเอง”

ท่านอาเซี่ย หรือ เซี่ยหลิงโจว ก็คือรองแม่ทัพคนสนิทของเมิ่งชิงหยวน หากกล่าวว่าตระกูลเมิ่งเป็นแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาเก้ารุ่น ตระกูลเซี่ยก็คือขุนพลคู่ใจตระกูลเมิ่งมาเก้ารุ่นเช่นกัน ความสัมพันธ์เหนียวแน่น ความผูกพันแน่นแฟ้น 

ดังนั้นในอดีตแม้เมิ่งหว่านชิงจะเป็นตัวแทนของเกาอู๋ฮั่นออกรบ เซี่ยหลิงโจวก็ยังคงยินดีเป็นขุนพลเคียงบ่าเคียงไหล่สู้ศึกเคียงข้างนางจนตัวตาย

แน่นอนว่าในชาติภพนี้เมิ่งหว่านชิงย่อมไม่ยอมให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดซ้ำรอยอีกครั้ง

“คุณหนู นี่ท่านกำลังจะทำอะไรหรือเจ้าคะ”

“ข้าสั่งให้ไปทำก็ไปทำอย่าถามให้มากความ”

ไม่ใช่ว่านางไม่อยากบอกอวี้หรุน เพียงแต่เรื่องที่นางย้อนเวลามาจากอนาคตเหล่านี้จะบอกออกมาได้อย่างไร ร่างเล็กลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหยุดที่ริมหน้าต่างทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์เปล่งประกายแสง

ครั้งนี้หวังว่าสวรรค์จะเมตตาให้ข้ารักษาขาทองคำเพียงหนึ่งเดียวเอาไว้ได้

..................................................

เช้าวันต่อมาเสวี่ยชิงเยี่ยนที่นอนหลับสนิทมาตลอดคืนรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน ทว่ายังไม่ทันได้จัดการธุระยามเช้า บุตรสาวตัวน้อยก็เดินเข้ามานั่งบนเตียงทิ้งตัวลงหนุนตักพร้อมกับกอดเอวบาง

“ออดอ้อนเช่นนี้ สร้างเรื่องอันใดไว้อีกเล่า”

ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่บุตรีสร้างเรื่อง เพื่อไม่ให้ถูกผู้เป็นบิดาลงโทษก็มักจะมาออดอ้อนนางเช่นนี้ คิดถึงเรื่องราวในวันวานอันแสนอบอุ่นสองดวงตาของเสวี่ยชิงเยี่ยนก็ร้อนผ่าว หวนคะนึงหาสามีที่จากไป

ท่านพี่หากวันนี้ท่านยังอยู่ พวกเราสองแม่ลูกคงไม่ถูกผู้อื่นดูแคลน รังแกเช่นนี้

เมิ่งหว่านชิงเห็นแววตาของมารดาแฝงไปด้วยความเศร้า ก็ขยับตัวกระชับอ้อมแขนให้แน่นมากขึ้น ก่อนจะเอ่ยปากออดอ้อน

“ยังคงเป็นท่านแม่ของข้า ที่รู้ใจข้าที่สุด”

เสวี่ยชิงเยี่ยนเห็นท่าทางออดอ้อนของบุตรี ก็หลงลืมความเศร้าไปชั่วขณะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตื่นตกใจเมื่อคนบนตักบอกเหตุผลที่มาออดอ้อนตนตั้งแต่เช้าเช่นนี้

"ลูกมาชวนท่านแม่ไปพบพี่ชายรุ่ยอ๋องเจ้าค่ะ"

เรื่องที่เมิ่งหว่านชิงตกน้ำแล้วได้พบกับรุ่ยอ๋องนั้นถูกสาวใช้ทั้งจวนเสวี่ยตั้งวงนินทาไปทั่ว ดังนั้นแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้มาบอกเล่าเหตุการณ์ให้นางฟัง เสวี่ยชิงเยี่ยนก็รู้เรื่องราวอย่างชัดเจนราวกับนางยืนดูอยู่ในเหตุการณ์

“ชิงเอ๋อร์เจ้าเติบโตที่ชายแดนย่อมไม่รู้ว่า วังรุ๋ยอ๋องเป็นสถานที่พระราชทานพิเศษ เว้นเพียงฮ่องเต้มีราชโองการ ผู้อื่นหากไม่มีเทียบเชิญไม่อาจเข้าไปได้”

“แต่ข้าไม่ต้องใช้เทียบเชิญก็เข้าได้เจ้าค่ะ”

พูดจบคนบนตักก็ชูป้ายประจำตัวของรุ่ยอ๋องขึ้น ทำเอาดวงตาของผู้เป็นมารดาเบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ

“ชิงเอ๋อร์เหตุใดเจ้าจึงมีป้ายประจำตัวพระองค์ของรุ่ยอ๋อง”

“แน่นอนว่าเป็นท่านอ๋องประทานให้เจ้าค่ะ”

หัวใจของเสวี่ยชิงเยี่ยนสั่นสะท้าน ป้ายประจำตัวของเชื้อพระวงศ์ชายนั้นล้ำค่ามาก ดังนั้นผู้เดียวที่สามารถครอบครองได้ก็คือ พระชายาเอกส่วนพระองค์

หรือว่ารุ่ยอ๋องกำลังหมายตาบุตรีของนางเป็นพระชายาเอกในอนาคต

...............................................

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 5.2 โต้กลับแผนร้าย

    “ข้าอยากให้ท่านลุงซ่งช่วยตรวจสอบผงกำยานนี้ที ว่าทำจากสิ่งใดบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”ซ่งเว่ยหรานเปิดผ้าเช็ดหน้าในมือออก ทว่าเพียงได้กลิ่นบางๆ คิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันแน่น เดิมทีคิดว่าอาการของเด็กสาวเป็นเพียงการกลั่นแกล้งกันเล็กน้อยของสตรีหลังบ้าน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการวางแผนฆ่าอย่างร้ายกาจและแยบยล“นี่เป็นพิษสามราตรีปลิดวิญญาณ ผู้ที่ถูกพิษหากรักษาไม่ทัน ในสามราตรีก็จะหมดลมหายใจลง ทั้งยังไร้กลิ่น ไร้อาการ จึงยากจะตรวจสอบเจอ คุณหนูคนที่ลงมือช่างโหดเหี้ยมนัก ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ท่านเพิ่ม”หลังจากได้ฟังคำอธิบายถึงสิ่งที่ผสมอยู่ในกำยาน เมิ่งหว่านชิงก็ขบกราม กำมือแน่น ด้วยความคับแค้นใจ ไม่คิดว่าชาตินี้จ้าวซูซินจะใช้วิธีการที่โหดร้ายมากกว่าเดิม หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกพลับนิ่มเหมือนในอดีต อีกฝ่ายจึงใช้ยาแรงหมายเอาชีวิตในคราเดียวเช่นนี้“ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ท่านหาต

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 6.2 เยือนจวนกู้

    ใช้เวลาเพียงสองเค่อมู่ชิงก็กระตุกบังเหียนบังคับรถม้าให้หยุดลง เสวี่ยชิงเยี่ยนค่อยๆ ก้าวลงด้วยความระมัดระวัง แต่เพราะรถม้าของรุ่ยอ๋องซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์มีความสูงกว่ารถม้าปกติของชนชั้นสามัญ จึงทำให้เวลาที่นางก้าวขาลงเพื่อเหยียบพื้นเกิดเสียการทรงตัว โชคดีที่มู่ชิงเป็นองครักษ์มือเท้าว่องไวจึงเข้ารับคนได้ทัน ทำให้เสวี่ยชิงเยี่ยนไม่ล้มลงกับพื้นจนเสียกิริยากลายเป็นที่ขบขันของผู้อื่นเพียงแต่ความใกล้ชิดอันบริสุทธิ์นี้กลับกลายเป็นเรื่องให้ผู้คนรอบตัวติฉินนินทาพวกเขาแทน"ขอบคุณท่านมู่""ข้าน้อยเสียมารยาท ขอฮูหยินโปรดอภัย""ท่านช่วยท่านแม่ของข้า จะเป็นการเสียมารยาทได้เช่นไร อีกอย่างท่านเป็นคนของวังรุ่ยอ๋อง หากมีใครกล้าตำหนินินทาว่าท่านไร้มารยาท นั่นก็เท่ากับตำหนิรุ่ยอ๋องด้วย"เพราะเห็นสายตาของผู้คนรอบข้างมองมาที่มารดาและองครักษ์มู่ชิงด้วยแววตาเย้ยหยันดูแคลน บางคนยังถึงขั้นซุบซิบนินทากันซึ่งหน้า เมิ่งหว่านชิงจึงจงใจเอ่ยเสียงดัง ราวกับกำลังประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่า หากมีผู้ใดกล้าพูดเรื่องนี้ก็เท่ากับกำลังลบหลู่รุ่ยอ๋อง อำนาจของขาทองคำนี้หากนางไม่นำมาใช้ก็จะสูญเปล่ากล่าวจบเมิ่งหว่านชิงก็กวาดสายตามอ

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 5.1 โต้กลับแผนร้าย

    บทที่ 5.1โต้กลับแผนร้ายหยางเทียนอี้มองกล่องไม้ตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วหนาด้วยความสงสัย เมื่อครู่ซางชุนคนสนิทของเขาบอกว่าสิ่งนี้เป็นของที่เด็กสาวตระกูลเมิ่งส่งมาให้ แน่นอนว่าหญิงสาวนางเดียวที่กล้าส่งของให้เขาโดยตรงเช่นนี้ย่อมเป็นเมิ่งหว่านชิง ดังนั้นในใจของเขาจึงมีความอยากรู้เป็นพิเศษ โดยไม่มีความหวาดระแวงเลยแม้แต่น้อยก็รีบเปิดกล่องไม้ออกดู"นี่คือรากบัวแดง!! ท่านอ๋องเช่นนี้พิษเหมันต์ของพระองค์ก็จะรักษาได้แล้ว เพียงแต่เหตุใดคุณหนูเมิ่งถึงได้ส่งรากบัวแดงมาให้ หรือว่านางจะรู้เรื่องที่พระองค์ถูกพิษ"รุ่ยอ๋องนึกถึงเมื่อคราวที่เขาถูกวางแผนลอบสังหารที่เขาหนิงซาน ในตอนนั้นซ่งเว่ยหรานเป็นคนรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ด้วยฝีมือการแพทย์ของอีกฝ่ายแน่นอนว่าต้องตรวจพบพิษที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา เพียงแต่ที่เขาคาดไม่ถึงก็คือเมิ่งหว่านชิงจะใส่ใจถึงขนาดตามหารากบัวแดงนี้มาให้เขา "พวกเราใช้เวลาตามหารากบัวแดงนี้มา สามปีก็ไม่พบแม้แต่เบาะแสเพียงเล็กน้อย ไม่คิดว่านางจะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ตามหาได้ ช่างเป็นสตรีที่ไม่อาจดูแคลนจริงๆ"หยางเทียนอี้เอ่ยชมเชยความสามารถของเด็กสาวพรางยกมุมปากขึ้

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน    บทที่ 4.4 ล้วนเป็นแผนร้ายของผู้อื่น

    “ใครมันบังอาจมาก่อกวนที่ร้านผ้าซือโฉว เด็กๆ ไปจับตัวมา หากไม่ยินยอมมาดีๆ ก็ลากมา!”เสียงของชายวัยกลางคนที่เดินออกมาจากร้านผ้าซือโฉวตะโกนสั่งการ พริบตาชายฉกรรจ์ร่วมสิบคนก็กรูกันเข้ามาล้อมเมิ่งหว่านชิง ริมฝีปากบางยกขึ้น ความจริงแล้วด้วยกำลังคนเพียงเท่านี้นางสามารถจัดการได้ไม่ยากเย็น แต่ในเวลานี้ตัวนางเป็นเพียงเด็กหญิงยังไม่ได้ปักปิ่น ทำตัวโดดเด่นเกินไปคงไม่ดีนัก ดังนั้นจึงใช้ไม้ตายหยิบป้ายประจำตัวของรุ่ยอ๋องออกมา“ใครกล้าแตะต้องข้าก็ลองดู!!”ผู้ดูแลเห็นป้ายในมือเด็กหญิงก็ย่อตัวลงคุกเข่า ท่าทางเปลี่ยนจากดำเป็นขาวในทันที“เป็นพวกข้าน้อยมีตาแต่ไร้แวว ล่วงเกินคุณหนูกับนายหญิงแล้ว”เมิ่งหว่านชิงมองดูแล้วเหยียดยิ้มดูแคลน ยามมีอำนาจทุกสิ่งก็คล้ายง่ายดายไปหมด ชนิดที่ไม่ต้องเปลืองแรงเป่าฝุ่นกันเลยทีเดียว“วันนี้คนของท่านทำให้ข้ากับท่านแม่แล้วก็คนติดตามของพวกเราตกใจมาก ตอนนี้จะเลือกผ้าสักคนละชิ้นสองชิ้นก็ยังยากจะตัดสินใจ”“คุณหนูไม่ต้องกังวล ข้าจะให้คนคัดเลือกผ้าที่ดีที่สุดมาให้พวกท่านดู ถูกใจผืนไหนก็รับไปได้เลย ไม่ต้องจ่านเงินสักอีแปะเดียวขอรับ”“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากพี่ชายรุ่ยอ๋องรู้เข้าคง

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน    บทที่ 4.3 ล้วนเป็นแผนร้ายของผู้อื่น

    ทางด้านจ้าวซูซินหลังจากเชิญหมอมาแล้วรู้ว่าเสวี่ยซูเหวินถูกพิษชนิดเดียวกับที่ตนเองใส่ในขนมของเมิ่งหว่านชิงก็ขบกรามแน่น ทว่าจะไปกล่าวโทษคนถึงเรือนก็ไม่อาจจะทำได้“ชัดเจนว่าเป็นท่านอากับน้องสาวที่วางยาข้า ทำไมท่านแม่กับท่านพ่อยังไม่จัดการพวกมันให้ข้า”“หุบปาก!”จ้าวซูซินหันไปตวาดลูกชายที่โวยวายทั้งที่ร่างกายยังอิดโรย ก่อนจะขบกรามเอ่ยด้วยสีหน้าคับแค้นใจ“หากไม่เพราะท่านรองพิธีการกู้แจ้งชัดเจนว่าต้องการเสวี่ยชิงเยี่ยนไปเป็นอนุภรรยาข้ามีหรือจะยอมทนมาหลายเดือนเช่นนี้”“แต่ข้าไม่ทน! หากครั้งนี้ท่านไม่จัดการแก้แค้นน้องสาวปีศาจนั่นให้ข้า ข้าไปจัดการเอง”จ้าวซูซินเห็นท่าทางอาละวาดไม่ยอมถอยของลูกชายก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด สุดท้ายก็แสร้งจำใจรับปากเพื่อให้อีกฝ่ายสงบ ไม่มาสร้างเรื่องจนแผนของนางพัง

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน    บทที่ 4.2 ล้วนเป็นแผนร้ายของผู้อื่น

    "หากเป็นเช่นที่ท่านป้าสะใภ้บอกอย่างนั้นข้าก็ต้องเป็นหลานยายของท่านป้าใช่หรือไม่"จ้าวซูซินถูกเด็กสาวยอกย้อนกลับก็โมโหจนเกือบเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่ แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้จากตระกูลกู้และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับสองแม่ลูกคู่นี้ ใบหน้าที่บึ้งตึงก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างสดใสและอ่อนโยน"ชิงเอ๋อร์เป็นเด็กช่างเจรจายิ่งนัก แต่เอาเถิดวันนี้ข้ามาหาเจ้า ก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะมาแจ้ง"พูดจบจ้าวซูซินก็ยื่นเทียบเชิญไปร่วมงานปักปิ่นของคุณหนูตระกูลกู้ให้แก่เสวี่ยชิงเยี่ยน หัวใจของเมิ่งหว่านชิงพลันสั่นสะท้านนึกย้อนไปถึงวันวานในอดีตหลังจากที่เสวี่ยเกาเยี่ยนและจ้าวซูซินหลอกเอาสมบัติเดิมของเสวี่ยชิงเยี่ยนไปจนหมดแล้ว ก็มอบเทียบเชิญกล่าวชวนมารดาของนางไปงานปักปิ่นของคุณหนูตระกูลกู้ ในตอนนั้นเมิ่งหว่านชิงอยู่ดีๆ ก็ล้มป่วยจนไม่สามารถติดตามมารดาไปร่วมงานได้ ไม่คาดคิดว่าในวันต่อมาก็ได้รับข่าวว่ามารดาจะแต่งไปเป็นอนุของกู้เฉินโม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status