Share

บทที่ 2.4 ทวงคืนสถานะ

last update Huling Na-update: 2025-07-04 22:01:36

“มารดาเจ้ารังแกมารดาข้าโดยไร้เหตุผล ทำไมข้าจะพูดไม่ได้”

เมิ่งหว่านชิงกล่าวยังไม่ทันจบประโยค เสวี่ยซูเหวินที่ใจเต็มไปด้วยโทสะก็พูดแทรกขึ้นมา เสวี่ยชิงเยี่ยนเห็นว่าเรื่องราวกำลังจะบานปลายจึงคิดจะอธิบายชี้แจงให้กับหลานชายเข้าใจ ทว่ากลับถูกเมิ่งหว่านชิงแตะแขน ส่งสายตาห้ามปรามเสียก่อน

“ท่านป้าไม่เคารพผู้อาวุโส นับว่าทำผิดกฎบ้าน ลงโทษให้คุกเข่าที่หอบรรพชนสามวัน สวดมนต์สร้างกุศลด้วยการกินข้าววันละมื้อ เพื่อสำนึกผิด! ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกฏของบ้านที่ท่านลุงใหญ่บอกเอง เหตุใดพี่ชายจึงได้กล่าวว่านี่เป็นการรังแกกันเล่า”

“หุบปาก! ก็แค่ลูกของทหารชายแดนไร้ค่าที่ตายไปแล้ว กล้าดีอย่างไรมาพูดกับข้าแบบนี้”

ได้ยินชายหนุ่มตรงหน้าพูดจาลบหลู่บิดาสีหน้านิ่งสงบของเมิ่งหว่านชิงก็เปลี่ยนเป็นขึงขังจริงจัง สายตาดุดัน เอ่ยเสียงแข็งกร้าวในทันที

“ทหารชายแดนไร้ค่า อย่างนั้นหรือ”

น้ำเสียงเยือกเย็นที่เด็กสาวเอ่ยออกมาคล้ายมีพลังบางอย่างทำให้เสวี่ยซูเหวินที่เป็นชายหนุ่มวัยเพียงสิบหกปีรู้สึกหวาดกลัวอย่างไร้เหตุผล

“ชะ... ใช่แล้วจะทำไม หรือว่าเจ้ากล้า...”

โครม! เสวี่ยซูเหวินพูดไม่ทันจบ เท้าเล็กของเมิ่งหว่านชิงก็กระแทกเข้าที่กลางอกของเขาจนร่างสูงโปร่งหงายหลัง ไม่ทันตั้งตัวกระบี่ในมือของอวี้หรุนก็ถูกเมิ่งหว่านชิงดึงออกมาจ่อที่ลำคอของเขาอย่างคล่องแคล่วรวดเร็วจนแม้แต่องครักษ์ลับที่รุ่ยอ๋องส่งมาสังเกตการก็ยังมองไม่ทัน

"ข้ากล้าหรือเปล่า พี่ชายท่านอยากลองดูหรือไม่"

คงจะมีกดลงบนลำคอแกร่ง เสวี่ยซูเหวินหวาดกลัวจนตัวสั่นสะท้านใบหน้าซีดเผือด

“จะ... เจ้า... จะทำอะไร ข้าคือพี่ชายของเจ้า คือคุณชายใหญ่ตระกูลเสวี่ยนะ!”

“คุณชายใหญ่ตระกูลเสวี่ยแล้วอย่างไร วันนี้ข้าเมิ่งหว่านชิงอยากฆ่าเจ้าก็จะฆ่า!!!”

“หยุดนะ!”

เสวี่ยเกาเยี่ยนที่เพิ่งมาถึงร้องห้ามเสียงดังลั่น ก่อนจะรีบเข้ามาประคองบุตรชายลุกขึ้นดึงตัวให้ออกห่างจากเด็กสาวตระกูลเมิ่ง 

เสวี่ยซูเหวินที่กลัวจนปัสสาวะราดรีบโอบกอดบิดา พร้อมกับหมุนตัวไปหลบด้านหลัง ร่ำไห้หวาดกลัวราวกับเป็นเด็กชายสามขวบที่ยังไม่หย่านมมารดา

“ท่านพ่อ นางจะฆ่าข้า ท่านต้องไล่นางออกไปนะ”

เสวี่ยชิงเยี่ยนได้ยินอีกฝ่ายจะไล่ลูกสาวของตนออกจากจวนก็ลุกขึ้นมาจับแขนบุตรีดึงรั้งให้นางไปยืนอยู่ด้านหลัง ก่อนจะประจันหน้ากับพี่ชายต่างมารดาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“หากพี่ใหญ่จะไล่ชิงเอ๋อร์ออกจากจวน เช่นนั้นก็มอบหนังสือขับออกจากตระกูลมาให้ข้า ”

แม้จะรู้สึกผิดต่อบิดามารดาผู้ล่วงลับ แต่ถ้าจะต้องทนเห็นบุตรสาวถูกผู้อื่นรังแกเช่นนี้ เสวี่ยชิงเยี่ยนก็ยินยอมแบกรับคำประนามขาดความกตัญญู เป็นสตรีไร้คุณธรรม

"เสวี่ยชิงเยี่ยน เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ!"

"ข้าย่อมรู้ว่าท่านกล้า เจียงซินเตรียมหมึกพู่กันและกระดาษมาให้นายท่านเสวี่ย"

เสวี่ยนชิงเยี่ยนไม่ใช่คนโง่เขลา ก่อนหน้านี้ถูกคำว่าญาติพี่น้องบังตาจึงได้มองไม่เห็นความต่ำช้าของพี่ชายต่างมารดาและภรรยาของเขา เขา ทว่าตอนนี้การกระทำของอีกฝ่ายชัดเจนแล้วว่าไร้ซึ่งไมตรี ขอเพียงวันนี้เขามอบหนังสือขับไล่ออกจากตระกูลให้นาง นางก็จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตที่จวนเมิ่งได้อย่างถูกต้อง

"พี่ชายเชิญ..."

เสวี่ยเกาเยี่ยนกำมือแน่น มองหมึก พู่กัน และกระดาษตรงหน้าด้วยความคับแค้นใจ แน่นอนว่าตัวเขาอยากตัดขาดจากน้องสาวตรงหน้าผู้นี้ใจแทบขาด หากแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของภรรยาก็ได้แต่อดกลั้นเอาไว้

รองเจ้ากรมพิธีกู้หลงใหลเสวี่ยชิงเยี่ยนมาตั้งแต่แรกรุ่น หากสามารถส่งนางไปเป็นอนุ เขาต้องช่วยท่านในการคัดเลือกเลื่อนขั้นขุนนางครั้งหน้าแน่นอน

“จะอย่างไงเจ้าก็เป็นน้องสาวของข้า ข้าจะทำเรื่องเลวร้ายอย่างการขับไล่เจ้าออกไปจากตระกูลได้อย่างไร เอาเป็นว่าเรื่องในวันนี้ข้าจะไม่ถือสาหาความ ต่อไปอย่าได้สร้างปัญหาอีกก็พอแล้ว"

เมิ่งหว่านชิงเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นแง่แสร้งทำเป็นพี่ชายแสนดี เห็นใจน้องสาวไม่ยอมมอบหนังสือขับไล่ออกจากตระกูลให้ ก็คับแค้นใจจนกำหนดแน่น 

พี่ชายที่แสนดีอันใดกัน ล้วนเป็นงูพิษจิตใจต่ำทราม! ที่ไม่ยอมมอบหนังสือขับออกจากตระกูลให้มารดาของนางก็เพราะหมายใจใช้สถานะของพี่ชายส่งน้องสาวในจวนแต่งออกไปเป็นอนุของตระกูลกู้อย่างถูกต้องเสียมากกว่า

"พี่ชายไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ไม่โทษท่าน ขอเพียงท่านยอมมอบหนังสือขับออกจากตระกูลให้ข้า นับจากนี้พวกเราสองพี่น้องก็จะถือว่าตัดขาดจากกันอย่างสิ้นเชิง เป็นตายไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก!!"

เมื่อเห็นว่าเสวี่ยนชิงเยี่ยนไม่ใช่ลูกพลับนิ่มที่เขาจะควบคุมได้เหมือนในอดีต เสวี่ยเกาเยี่ยนก็กลืนความโมโหทั้งหมดลงท้องก่อนจะเสแสร้งตีหน้าซื่อ เดินเข้าไปจับมือทั้งสองข้างของน้องสาวแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"เยี่ยนเอ๋อร์ เหตุใดยังทำตัวเป็นน้องน้อยเอาแต่ใจของข้าเหมือนในอดีตเช่นนี้อยู่เล่า เอาเถิดวันนี้เป็นอาเหวินที่ไม่รู้ความ ข้าจะพาเขาไปอบรมให้ดีเองดีหรือไม่”

ถูกพี่ชายกล่าวถึงเรื่องราวในวัยเด็ก ภาพครอบครัวที่อบอุ่นในวันวานได้ย้อนเข้ามาในความทรงจำทำให้หัวใจของเสวี่ยนชิงเยี่ยนสั่นไหวและอ่อนลงในทันที

เสวี่ยเกาเยี่ยนเห็นท่าทีของน้องสาวเปลี่ยนไปก็รีบหันไปแสร้งตวาดลูกชาย แล้วลากเขาออกมาจากเรือน

“ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงได้!...”

“หุบปาก กลับเรือนเดี๋ยวนี้”

น้ำเสียงดุดันตวาดลูกชายที่ไม่รู้ความของตน หากแต่สายตายังคงลอบมองน้องสาวต่างมารดาในเรือนด้วยความคับแค้นใจ เสวี่ยชิงเยี่ยน ตอนนี้ข้ายังเล่นงานเจ้าไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าจะจัดการเจ้าไม่ได้

....................................

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wilaiporn Dangbuddee
สนุกค่ะ มาอัพอีกน้าาา
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 5.2 โต้กลับแผนร้าย

    “ข้าอยากให้ท่านลุงซ่งช่วยตรวจสอบผงกำยานนี้ที ว่าทำจากสิ่งใดบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”ซ่งเว่ยหรานเปิดผ้าเช็ดหน้าในมือออก ทว่าเพียงได้กลิ่นบางๆ คิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันแน่น เดิมทีคิดว่าอาการของเด็กสาวเป็นเพียงการกลั่นแกล้งกันเล็กน้อยของสตรีหลังบ้าน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการวางแผนฆ่าอย่างร้ายกาจและแยบยล“นี่เป็นพิษสามราตรีปลิดวิญญาณ ผู้ที่ถูกพิษหากรักษาไม่ทัน ในสามราตรีก็จะหมดลมหายใจลง ทั้งยังไร้กลิ่น ไร้อาการ จึงยากจะตรวจสอบเจอ คุณหนูคนที่ลงมือช่างโหดเหี้ยมนัก ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้ท่านเพิ่ม”หลังจากได้ฟังคำอธิบายถึงสิ่งที่ผสมอยู่ในกำยาน เมิ่งหว่านชิงก็ขบกราม กำมือแน่น ด้วยความคับแค้นใจ ไม่คิดว่าชาตินี้จ้าวซูซินจะใช้วิธีการที่โหดร้ายมากกว่าเดิม หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกพลับนิ่มเหมือนในอดีต อีกฝ่ายจึงใช้ยาแรงหมายเอาชีวิตในคราเดียวเช่นนี้“ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ท่านหาต

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 6.2 เยือนจวนกู้

    ใช้เวลาเพียงสองเค่อมู่ชิงก็กระตุกบังเหียนบังคับรถม้าให้หยุดลง เสวี่ยชิงเยี่ยนค่อยๆ ก้าวลงด้วยความระมัดระวัง แต่เพราะรถม้าของรุ่ยอ๋องซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์มีความสูงกว่ารถม้าปกติของชนชั้นสามัญ จึงทำให้เวลาที่นางก้าวขาลงเพื่อเหยียบพื้นเกิดเสียการทรงตัว โชคดีที่มู่ชิงเป็นองครักษ์มือเท้าว่องไวจึงเข้ารับคนได้ทัน ทำให้เสวี่ยชิงเยี่ยนไม่ล้มลงกับพื้นจนเสียกิริยากลายเป็นที่ขบขันของผู้อื่นเพียงแต่ความใกล้ชิดอันบริสุทธิ์นี้กลับกลายเป็นเรื่องให้ผู้คนรอบตัวติฉินนินทาพวกเขาแทน"ขอบคุณท่านมู่""ข้าน้อยเสียมารยาท ขอฮูหยินโปรดอภัย""ท่านช่วยท่านแม่ของข้า จะเป็นการเสียมารยาทได้เช่นไร อีกอย่างท่านเป็นคนของวังรุ่ยอ๋อง หากมีใครกล้าตำหนินินทาว่าท่านไร้มารยาท นั่นก็เท่ากับตำหนิรุ่ยอ๋องด้วย"เพราะเห็นสายตาของผู้คนรอบข้างมองมาที่มารดาและองครักษ์มู่ชิงด้วยแววตาเย้ยหยันดูแคลน บางคนยังถึงขั้นซุบซิบนินทากันซึ่งหน้า เมิ่งหว่านชิงจึงจงใจเอ่ยเสียงดัง ราวกับกำลังประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่า หากมีผู้ใดกล้าพูดเรื่องนี้ก็เท่ากับกำลังลบหลู่รุ่ยอ๋อง อำนาจของขาทองคำนี้หากนางไม่นำมาใช้ก็จะสูญเปล่ากล่าวจบเมิ่งหว่านชิงก็กวาดสายตามอ

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 5.1 โต้กลับแผนร้าย

    บทที่ 5.1โต้กลับแผนร้ายหยางเทียนอี้มองกล่องไม้ตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วหนาด้วยความสงสัย เมื่อครู่ซางชุนคนสนิทของเขาบอกว่าสิ่งนี้เป็นของที่เด็กสาวตระกูลเมิ่งส่งมาให้ แน่นอนว่าหญิงสาวนางเดียวที่กล้าส่งของให้เขาโดยตรงเช่นนี้ย่อมเป็นเมิ่งหว่านชิง ดังนั้นในใจของเขาจึงมีความอยากรู้เป็นพิเศษ โดยไม่มีความหวาดระแวงเลยแม้แต่น้อยก็รีบเปิดกล่องไม้ออกดู"นี่คือรากบัวแดง!! ท่านอ๋องเช่นนี้พิษเหมันต์ของพระองค์ก็จะรักษาได้แล้ว เพียงแต่เหตุใดคุณหนูเมิ่งถึงได้ส่งรากบัวแดงมาให้ หรือว่านางจะรู้เรื่องที่พระองค์ถูกพิษ"รุ่ยอ๋องนึกถึงเมื่อคราวที่เขาถูกวางแผนลอบสังหารที่เขาหนิงซาน ในตอนนั้นซ่งเว่ยหรานเป็นคนรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ด้วยฝีมือการแพทย์ของอีกฝ่ายแน่นอนว่าต้องตรวจพบพิษที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา เพียงแต่ที่เขาคาดไม่ถึงก็คือเมิ่งหว่านชิงจะใส่ใจถึงขนาดตามหารากบัวแดงนี้มาให้เขา "พวกเราใช้เวลาตามหารากบัวแดงนี้มา สามปีก็ไม่พบแม้แต่เบาะแสเพียงเล็กน้อย ไม่คิดว่านางจะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ตามหาได้ ช่างเป็นสตรีที่ไม่อาจดูแคลนจริงๆ"หยางเทียนอี้เอ่ยชมเชยความสามารถของเด็กสาวพรางยกมุมปากขึ้

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน    บทที่ 4.4 ล้วนเป็นแผนร้ายของผู้อื่น

    “ใครมันบังอาจมาก่อกวนที่ร้านผ้าซือโฉว เด็กๆ ไปจับตัวมา หากไม่ยินยอมมาดีๆ ก็ลากมา!”เสียงของชายวัยกลางคนที่เดินออกมาจากร้านผ้าซือโฉวตะโกนสั่งการ พริบตาชายฉกรรจ์ร่วมสิบคนก็กรูกันเข้ามาล้อมเมิ่งหว่านชิง ริมฝีปากบางยกขึ้น ความจริงแล้วด้วยกำลังคนเพียงเท่านี้นางสามารถจัดการได้ไม่ยากเย็น แต่ในเวลานี้ตัวนางเป็นเพียงเด็กหญิงยังไม่ได้ปักปิ่น ทำตัวโดดเด่นเกินไปคงไม่ดีนัก ดังนั้นจึงใช้ไม้ตายหยิบป้ายประจำตัวของรุ่ยอ๋องออกมา“ใครกล้าแตะต้องข้าก็ลองดู!!”ผู้ดูแลเห็นป้ายในมือเด็กหญิงก็ย่อตัวลงคุกเข่า ท่าทางเปลี่ยนจากดำเป็นขาวในทันที“เป็นพวกข้าน้อยมีตาแต่ไร้แวว ล่วงเกินคุณหนูกับนายหญิงแล้ว”เมิ่งหว่านชิงมองดูแล้วเหยียดยิ้มดูแคลน ยามมีอำนาจทุกสิ่งก็คล้ายง่ายดายไปหมด ชนิดที่ไม่ต้องเปลืองแรงเป่าฝุ่นกันเลยทีเดียว“วันนี้คนของท่านทำให้ข้ากับท่านแม่แล้วก็คนติดตามของพวกเราตกใจมาก ตอนนี้จะเลือกผ้าสักคนละชิ้นสองชิ้นก็ยังยากจะตัดสินใจ”“คุณหนูไม่ต้องกังวล ข้าจะให้คนคัดเลือกผ้าที่ดีที่สุดมาให้พวกท่านดู ถูกใจผืนไหนก็รับไปได้เลย ไม่ต้องจ่านเงินสักอีแปะเดียวขอรับ”“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หากพี่ชายรุ่ยอ๋องรู้เข้าคง

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน    บทที่ 4.3 ล้วนเป็นแผนร้ายของผู้อื่น

    ทางด้านจ้าวซูซินหลังจากเชิญหมอมาแล้วรู้ว่าเสวี่ยซูเหวินถูกพิษชนิดเดียวกับที่ตนเองใส่ในขนมของเมิ่งหว่านชิงก็ขบกรามแน่น ทว่าจะไปกล่าวโทษคนถึงเรือนก็ไม่อาจจะทำได้“ชัดเจนว่าเป็นท่านอากับน้องสาวที่วางยาข้า ทำไมท่านแม่กับท่านพ่อยังไม่จัดการพวกมันให้ข้า”“หุบปาก!”จ้าวซูซินหันไปตวาดลูกชายที่โวยวายทั้งที่ร่างกายยังอิดโรย ก่อนจะขบกรามเอ่ยด้วยสีหน้าคับแค้นใจ“หากไม่เพราะท่านรองพิธีการกู้แจ้งชัดเจนว่าต้องการเสวี่ยชิงเยี่ยนไปเป็นอนุภรรยาข้ามีหรือจะยอมทนมาหลายเดือนเช่นนี้”“แต่ข้าไม่ทน! หากครั้งนี้ท่านไม่จัดการแก้แค้นน้องสาวปีศาจนั่นให้ข้า ข้าไปจัดการเอง”จ้าวซูซินเห็นท่าทางอาละวาดไม่ยอมถอยของลูกชายก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด สุดท้ายก็แสร้งจำใจรับปากเพื่อให้อีกฝ่ายสงบ ไม่มาสร้างเรื่องจนแผนของนางพัง

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน    บทที่ 4.2 ล้วนเป็นแผนร้ายของผู้อื่น

    "หากเป็นเช่นที่ท่านป้าสะใภ้บอกอย่างนั้นข้าก็ต้องเป็นหลานยายของท่านป้าใช่หรือไม่"จ้าวซูซินถูกเด็กสาวยอกย้อนกลับก็โมโหจนเกือบเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่ แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้จากตระกูลกู้และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับสองแม่ลูกคู่นี้ ใบหน้าที่บึ้งตึงก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างสดใสและอ่อนโยน"ชิงเอ๋อร์เป็นเด็กช่างเจรจายิ่งนัก แต่เอาเถิดวันนี้ข้ามาหาเจ้า ก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะมาแจ้ง"พูดจบจ้าวซูซินก็ยื่นเทียบเชิญไปร่วมงานปักปิ่นของคุณหนูตระกูลกู้ให้แก่เสวี่ยชิงเยี่ยน หัวใจของเมิ่งหว่านชิงพลันสั่นสะท้านนึกย้อนไปถึงวันวานในอดีตหลังจากที่เสวี่ยเกาเยี่ยนและจ้าวซูซินหลอกเอาสมบัติเดิมของเสวี่ยชิงเยี่ยนไปจนหมดแล้ว ก็มอบเทียบเชิญกล่าวชวนมารดาของนางไปงานปักปิ่นของคุณหนูตระกูลกู้ ในตอนนั้นเมิ่งหว่านชิงอยู่ดีๆ ก็ล้มป่วยจนไม่สามารถติดตามมารดาไปร่วมงานได้ ไม่คาดคิดว่าในวันต่อมาก็ได้รับข่าวว่ามารดาจะแต่งไปเป็นอนุของกู้เฉินโม่

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status